เมื่อมองดูใบหน้าที่แสดงอาการเหน็บแนมและแลดูน่าเกลียดของเขา นั้น แม้แต่นายท่านก็ไม่ได้หยุดเขาในครั้งนี้เย่เทียนหยู่ส่ายหัวและถอนหายใจ“อย่างไรก็ตาม ผมได้บอกความจริงกับพวกคุณไปแล้ว หากพวกคุณยังไม่เชื่ออีก ผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ”หลังจากพูดคำพูดเหล่านี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็หันหลังและจากไปนายท่านถอนหายใจ เขาลงทุน 50 ล้านให้เขาด้วยความตั้งใจดี แต่เขากลับพูดแบบนั้น ซึ่งมันทำร้ายจิตใจนายท่านมากจริงๆ“แล้วคุณปู่หลิน ห้าสิบล้านของคุณล่ะ” หลิวเจี๋ยถาม“เขาใจร้าย แต่ฉันก็ต้องเมตตากับเขา ฉันจะลงทุนในนามของเขาเลย” นายท่านถอนหายใจ ถึงยังไงเขาต้องตอบแทนบุญคุณแพทย์เซียนเฒ่าอยู่แล้ว เงินจำนวนนี้ถือซะว่าเป็นการตอบแทนก็แล้วกัน“คุณปู่หลินสุดยอดมากเลยครับ!”หลิวเจี๋ยชม“ตอนนี้มีทั้งหมด 450 ล้าน สุดท้ายก็เหลือเพียง 50 ล้าน ซูถิง คุณอยากลงทุนหรือเปล่า”ซูถิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะดีใจมาก แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีเงินไม่มากขนาดนั้น แต่ถ้าจะให้ยืมเงินมา ยังไงก็ต้องยืมเงินให้ครบ เมื่อเห็นเธอเงียบ หลินหว่านหรูก็พูดว่า“ถิงถิง ถ้าเงินไม่เพียงพอจริงๆ ฉันจะยืมเงินส่วนตัวของฉัน25ล้านให้
“ฉันขอให้คุณจงมีความสุขตลอดไปให้ได้นะ แต่ถ้าขาดทุนจนเงินหมดก็อย่าร้องไห้ก็แล้วกัน” เย่เทียนหยู่รู้สึกรำคาญอย่างเห็นได้ชัด“นั่นมันไม่เกี่ยวอะไรกับแก ฉันมีเงินมากมายและชอบถูกโกง ไม่เหมือนแก คนยากจนที่ไม่มีอะไรเลย แล้วก็ยังมาเกาะลูกสาวของฉันกินอยู่”เย่เทียนหยู่หัวเราะ และหยุดต่อปากต่อคำกับเธอ แล้วเดินออกไปทันที เขาอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆและเขาก็ได้พบกับซูถิงที่ยังอยู่ใกล้ๆบริเวณนี้เมื่อซูถิงเห็นเย่เทียนหยู่ เธอก็รีบเชคความเรียบร้อยของตัวเองทันที จากนั้นก้าวไปข้างหน้าและตะโกนด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์และอ่อนหวาน “เย่ เย่เทียนหยู่!”เธออยากเรียกเขาว่าพี่เย่นะ แต่กลัวว่ามันจะเร็วเกินไปเย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้นิสัยเปลี่ยนไปหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วเธอก็มีเสน่ห์มากเช่นนี้ และพูดอย่างใจเย็นว่า“มีอะไรเหรอ?”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ถึงพวกเขาจะไม่เชื่อคุณ แต่ฉันเชื่อคุณนะ”ซู่ถิงกล่าว“คุณเชื่อผมเหรอ?”เย่เทียนหยู่เพียงรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนที่เคยดูถูกเขามากที่สุดคือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างแน่นอน“ใช่ มีหลายครั้งนะ ถ้าไม่ได้คุณลงมือช่วยเหลือ หว่านหรูคงเกิดเรื่องแ
เย่เทียนหยู่ตกตะลึงไปชั่วขณะและเอ่ยถามว่า “คุณปู่เจียง ท่านคงจะไม่ให้ผมไปแข่งขันกับเขาใช่ไหมครับ?”“ไม่ใช่หรอก แต่แมนเทลทำเหมือนดูถูกอาณาจักรมังกรของเรามาโดยตลอด และฉันไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรในงานแสดงเปียโน แต่ถ้าเขาพูดอะไรที่ส่งผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของอาณาจักรมังกรของเราจริงๆ ฉันอยากให้แกจะสามารถสอนบทเรียนให้แก่เขาได้ ”เจียงเจี้ยนจวินไม่สนใจเรื่องอันดับในงานแสดงเปียโน แต่เขาแค่ไม่อยากให้อาณาจักรมังกรต้องอับอายขายหน้าเพราะแมนเทล“ผมเข้าใจแล้วครับ บอกเวลาและสถานที่มาด้วย แล้วผมจะไปที่นั่นในตอนเย็นครับ”เย่เทียนหยู่ก็ตอบรับเรื่องนี้“ได้ครับ”เจียงเจี้ยนจวินแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับเขาทันทีและกล่าวว่าผู้จัดงานจะเพิ่มชื่อของเขาลงในรายชื่อของแขกที่ได้รับเชิญและจะไปได้เลยในตอนเย็นหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว เจียงเจี้ยนจวินถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะถ้ามีเด็กคนนี้อยู่ในงานแสดงเปียโน ถ้าแมนเทลทำตัวดีๆก็แล้วไป ไม่เช่นนั้นแมนเทลจะเป็นฝ่ายที่ต้องเสียหาย และโชคดีที่เจียงเจี้ยนจวินพูดถึงเรื่องนี้ในวันนี้ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้อยู่ในเมืองเทียนไห่แล้วทักษะการเล่
ในปัจจุบันสำหรับคนที่มีรถ BBA ที่มีมูลค่าหลายแสนก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เพราะจะไม่สะดุดตาเกินไปและประสบการณ์การขับขี่ก็ดีมากด้วยแต่เย่เทียนหยู่ก็เดินเข้ามาข้างในและเดินดูรถวนไปรอบๆ หลายนาที แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาคุยกับเขาเลยที่สำคัญคือมีสาวสวยสี่คนที่สวมเสื้อเชิ้ตและกระโปรงสั้นนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ไม่ไกล เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเห็นเขาแล้ว แต่พวกเธอไม่ได้ลุกขึ้นไปทักทายอะไรกับเขาเลยเย่เทียนหยู่ได้แต่ส่ายหัวแล้วหันหลังกำลังจะจากไปแต่ในเวลานี้ ผู้หญิงร่างผอมเล็กน้อยที่มีใบหน้าสวยและตากลมโตเดินไปข้างหน้าของเขาอย่างรวดเร็วและถามอย่างประหม่า “สวัสดีค่ะ ท่านอยากจะซื้อรถไหมคะ?”“อืม”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและมองดูอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง รู้สึกถึงความคุ้นเคยที่อธิบายไม่ถูกเมื่อสาวๆ หลายคนเห็นฉากนี้แล้ว พวกเธอต่างก็หัวเราะ“เฮ้ อินางเฉินนี่ช่างทำงานหนักมากเลยนะ แต่ก็น่าเสียดายนะ ถึงแม้จะทำงานหนักมากแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์หรอกน่ะ”“ไร้สาระ ด้วยความสามารถแบบเธออ่ะนะ เธอสมควรที่จะขายรถสักคันไม่ได้ในช่วงเวลาครึ่งเดือนนี้แหละ”“ใช่ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าให้คนที่ไร้ประโยชน์อย่างมัน จะทำงานอยู่ที
พันเถาและคนอื่น ๆ ที่ได้ยินเช่นนั้นต่างก็ยืนตะลึงอยู่ตรงจุดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ได้นำบัตรธนาคารของเขาออกมาแล้ว และต้องการชำระเงินในทันทีพอพันเถาตื่นตัวได้ จึงรีบลุกขึ้นทันทีและเทน้ำหนึ่งแก้วให้เขา เธอก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดีคุณเย่ ฉันได้ยินว่าท่านต้องการซื้อ S680 เหรอคะ”“ใช่ครับ!”เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“รสนิยมของท่านดีจริงๆเลยนะคะ ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน รถคันนี้ก็แสดงถึงความมั่งคั่งและฐานะที่สู้ง”“แต่เสี่ยวเฉินมาทำงานที่นี่ไม่ถึงครึ่งเดือน และเธอยังไม่คุ้นเคยความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เลย สำหรับลูกค้าที่มีเกียรติอย่างท่าน ฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ฉันจะแนะนำให้ท่านด้วยตัวเองนะคะ”“ไม่ ผมแค่อยากให้คนนี้เป็นคนแนะนำให้ผมเองเท่านั้น”“แต่เธอคงแนะนำอะไรไม่ได้เลยนะคะ ที่สำคัญคือในฐานะผู้จัดการ ฉันมีสิทธิให้ส่วนลดอย่างมากมายแก่ลูกค้าได้ ฉันจะสามารถให้ราคาพิเศษที่สุดแก่ท่านได้นะคะ!”พันเถายื่นน้ำให้ในขณะที่เขาพูด และยังตั้งใจสัมผัสมือของเย่เทียนหยู่ด้วยเย่เทียนหยู่ยังไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงหยิบแก้วน้ำแล้วพูดอย่างใจเย็น “ไม
“คุณแน่ใจว่าจะทำแบบนี้จริงๆเหรอ? ถ้าเกิดผมออกไปแล้ว อีกเดี๋ยวถ้าคุณเชิญผมเข้ามาอีกครั้ง ผมจะไม่เข้ามานะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“ผมเชิญคุณเข้ามาอีกเหรอ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร!”“ถ้าคุณไม่ออกไป ฉันจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาลากคุณออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” พันเถาพูดเสริมขึ้นอีกด้วยแต่ประธานเกากลับตกใจเล็กน้อย เมื่อมองไปที่เย่เทียนหยู่ จึงเห็นบัตรในมือของเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทำไมมันถึงดูเหมือนเป็นแบล็กการ์ดมังกรดำที่เคยเห็นในรูปถ่าย แต่เขาก็ยังไม่เคยเจอของจริงเลยสักครั้ง“เดี๋ยวก่อน!”เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่หันหลังกลับและจะเดินออกไป ประธานเกาจึงพูดอย่างสุภาพ “ท่านครับ ผมขอดูบัตรในมือของท่านหน่อยได้ไหมครับ”ทุกคนเริ่มตกใจเล็กน้อยกับคำพูดที่เปลี่ยนไปของประธานเกา และเย่เทียนหยู่ก็โยนบัตรนั้นออกไปให้เขาซื่งทำให้ประธานเกาตกใจ และรีบตระครุบมันไว้ หลังจากพิจจารณามันอย่างระมัดระวัง มันช่างเหมือนกันเป๊ะเลย เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของเขาก็เริ่มซีดลง และเขารีบพูดขึ้นว่า “ท่านครับ กรุณารอสักครู่นะครับ!”ขณะที่เขาพูดเขาก็รีบจากไปอย่างรวดเร็วคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง และเริ่มสับสน
พันเถาเห็นว่าประธานเกาที่สามารถขอความเมตตาได้ทันทีที่เขาคุกเข่าลง ขนาดประธานเกาที่เป็นผู้ชาย และคนอย่างประธานเกาที่มีฐานะสูงก็ยังคุกเข่าลงได้เลยเธอจึงรีบคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เทียนหยู่ทันที “คุณเย่ ฉันก็สำนึกผิดแล้วค่ะ เป็นเพราะเมื่อกี้ฉันไม่รู้ความจริง ฉันกำลังมึนงง ฉันมันโง่เอง......”“รีบไสหัวไป!”เย่เทียนหยู่วาดขาเตะเธอออกไปจากตรงนั้น เขาขี้เกียจที่จะฟังเรื่องไร้สาระที่เสแสร้งของเธอต่อไปผู้หญิงคนอื่นๆ ต่างยืนหน้าซีดและนิ่งเงียบประธานเกาจึงพูดด้วยความโกรธ “พันเถา หยุดพูดได้แล้ว ทำไมไม่รีบไส่หัวออกไปเร็วๆล่ะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น พวกผู้หญิงทุกคนก็รีบทำตามคำสั่ง รวมทั้งพันเถาด้วย“เดี๋ยวก่อน สาวคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” เย่เทียนหยู่ชี้ไปที่เฉินเข่อซินเมื่อได้ยินดังนั้น ประธานเกาก็รีบพูดว่า “งั้นเฉินเข่อซิน เธออยู่ต่อเถอะ”“ตอนที่คนอื่นต่างว่าร้ายผม มีเพียงเฉินเข่อซินเท่านั้นที่ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อแนะนำรถให้ผม ผมจึงคิดว่าเธอเป็นคนดี”เมื่อประธานเกาได้ยินเช่นนี้ เขาเข้าใจทันที คนนี้อาจชอบเฉินเข่อซินก็ได้และพูดอย่างรวดเร็ว “เฉินเข่อซินเป็นคนดีมากจริงๆครับ ไม่เพียงแต่เธอสวยเท่านั
และทุกอย่างประธานเกาก็จะจัดการให้เขาอย่างรวดเร็วเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเย่เทียนหยู่ก็ออกไปจากที่นี่ เมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เขาก็ขับรถคันใหม่ไปยังจุดหมายปลายทางที่ได้รับจากคุณปู่เจียงเขาอดไม่ได้ที่จะแอบประหลาดใจเมื่อเห็นรถหรูจอดอยู่ในรอบบริเวณนี้ดูเหมือนว่าคนที่มาครั้งนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ดูเหมือนมันจะเป็นงานศิลปะชั้นสูงเลยทีเดียวเมื่อเขาเดินมาถึงประตู และเย่เทียนหยู่กำลังจะเข้าไปข้างใน แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนหยุดเขาไว้ตรงประตูนั้น“สวัสดีครับ กรุณาแสดงจดหมายเชิญของคุณให้ผมดูหน่อยนะครับ!”เย่เทียนหยู่ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็ไหนคุณปู่เจียงบอกว่าให้เขามาได้เลยไง เขาเลยถามว่า “ต้องมีจดหมายเชิญถึงจะเข้าไปดูคอนเสิร์ตได้หรือ”ในเวลานี้ มีผู้ชายและผู้หญิงจำนวนมากที่ใส่ชุดหรูหราเดินผ่านไป และพวกเขาก็ได้ยินคำพูดของเเย่เทียนหยู่ และดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“หนุ่มน้อย สถานที่บางแห่งไม่ใช่ใครจะเข้าก็เข้าได้นะ”พวกเขาหยิบจดหมายเชิญออกมาและเดินเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไรเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้ดูเย่อหยิ่งนัก เขาแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ครับ ทุกค
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั
ทันทีที่สี่ทุ่มมาถึง เย่เทียนหยู่ก็โพสต์วิดีโอทันทีโดยใช้บัญชีของหลินหว่านหรูส่วนนี้บันทึกกระบวนการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นตอนที่พวกเขากำลังรอลิฟต์จนถึงตอนที่เย่เทียนหยูทุบตีผู้คน รวมถึงบอดี้การ์ดด้วยทันทีที่วิดีโอตัวเต็มออกมา ทุกคนก็เริ่มโต้เถียงกันอย่างระมัดระวัง น่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีเสียง จึงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่แต่เห็นได้ชัดว่าปาร์คดาฮยอนเห็นผู้จัดการหลินก่อนและพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องตามมา แสดงให้เห็นว่า หลินหว่านหรูไม่ได้เริ่มเข้าหาปาร์คดาฮยอนก่อนแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนหยู่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแต่ว่าผู้จัดการต้องตกใจเมื่อเห็นวิดีโอฉบับเต็มและรีบไปพบปาร์คดาฮยอน เพื่อรายงาน เพราะตอนนั้นเขาทุ่มเงินทำลายกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนปาร์คดาฮยอนสะดุ้ง แต่เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นแค่วิดีโอ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ถึงจะมีวิดีโอที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่มีเสียง พิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”“ถึงยังไง การที่เขาทำร้ายผู้หญิงแล้วก็ใช้ความรุนแรงหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องผิดอยู่ดี”ปาร์คดาฮยอนกล่าวขณะอ่านความคิดเห็นด้านล่าง แม้ว่าหลายคนจ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ
เมื่อกลับมาที่ห้อง หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล: "เทียนหยู่นายเตรียมหลักฐานทั้งหมดแล้วจริงๆ เหรอ?""แน่นอน!"เย่เทียนหยู่ยืนยัน ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวให้เรื่องของหลินหว่านหรูมากหน่อย ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยก่อนแล้วเพราะเรื่องคราวนี้ อาจโปรโมตไปถึงเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป แต่ถึงเขาจะใจดีสุดๆ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนอย่างแม่ตระกูลหลินระเริงใจมากไปนักประเด็นเพราะนิสัยของแม่ตระกูลหลิน เวลาได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ไม่เคยรู้สึกขอบคุณ แต่เธออาจจะแว้งมาเยาะเย้ยหลินหว่านหรูไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลกับการปล่อยให้แม่หลินฉวยโอกาสพูดถึงแม่หลินถึงแม้จะเป็นวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง แต่มันก็ไปได้ไม่ดีนัก เพราะคนที่เป็นระดับลูกน้องของเธอไม่มีความประทับใจในตัวเธอเลยยิ่งไปกว่านั้น คือทันทีที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เธอก็เข้ามาชี้แนะอะไรมากมายราวกับตัวเองรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสามสิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใหม่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจะต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและลดรางวัลที่ไม่จำเป็นมากมาย ซึ่งก็คือการลดเงินเดือนของทุกคนแค่ลดค่าจ้างไม่สะดวกจริงๆ
“สมควรตายจริงๆ ถ้าแกด่าพ่อแม่ฉันยังพอทน แต่แกกล้าด่าพี่ดาฮยอนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง” หนึ่งในหมู่แฟนคลับพ่นประโยคไร้สมองที่ทำให้คนอื่นๆต้องตกตะลึงออกมา และเธอเป็นแค่เด็กสิบขวบเจ้าหน้าที่หวงกังวลมากจนเหงื่อไหลผุดออกมาบนหน้าผาก กองกำลังตำรวจของเขาเพียงลำพังไม่สามารถรักษาสถานการณ์ได้อีกต่อไป และทุกอย่างกำลังจะเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายเย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมาด้วยความโกรธ และเสียงนั่นก็ทำให้ฝูงชนตะลึงงันไปชั่วขณะ: “พวกคุณไม่เชื่อใช่มั้ย คืนนี้ผมจะปล่อยหลักฐานให้พวกคุณดู ให้พวกคุณได้ตาสว่างสักที” เขาพูดด้วยความโกรธทุกคนหยุดครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็มีคนพูดอย่างไม่มั่นใจ: "คุณต้องการนำหลักฐานประเภทใดมา ฉันคิดว่าคุณแค่อยากจะชะลอเวลาและหลบหนี"“หนีเหรอ คนโง่อย่างพวกคุณ คุ้มค่าให้ผมต้องหนีด้วยเหรอ?”เย่เทียนหยู่ดูถูกเหยียดหยาม และเสียงของเขาก็ดังพอจะเข้าถึงหูของทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็โมโหจนแทบคลั่งขึ้นมาทันที และอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆเจ้าหน้าที่หวงทำอะไรไม่ถูก หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแต่ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ปร
ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ทำจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนถ่ายทอดสดที่มาถึงสถานที่แล้วต่างก็พากันโพสต์วิดีโอ ส่วนคนที่มาไม่ได้ก็รีบพากันแชร์ในขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ มากมายแห่แหนกันเข้ามาทำข่าวอย่างบ้าคลั่งมีคนที่ได้รับชมวิดีโอก่อนหน้านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จำนวนคนที่ด่าเย่เทียนหยู่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องท่าทางเย่อหยิ่งและพฤติกรรมอำมหิตของเขาแฟนคลับสมองนิ่มของปาร์คดาฮยอนหลายคนตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นแบบนั้น พวกเธอภูมิใจกับพฤติกรรมอันทรงพลังในการปกป้องเจ้านายของพวกเขาผู้นำของอาณาจักรมังกรกลัวสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด คราวนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พวกเขายังคงกังวลว่าจะไม่สามารถลงโทษฆาตกรอย่างรุนแรงได้โดยไม่สังเกตว่าแกนนำ สภ. ปรากฏตัวแล้ว เจ้าหน้าที่หวงก็ตะโกนดังลั่น: "ทุกคนอย่ากังวล เราจะสอบสวนความจริงอย่างเคร่งครัดและจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบวินัยหลุดลอยไป"อย่างไรก็ตามทุกคนยังคงไม่พอใจและตะโกนลั่นและเรียกร้องให้จับฆาตกรทันทีและลงโทษอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่หวงเองก็ทำอะไรไม่ถูก ความจริงแล้ว ในความเห็นของเขา ไม่ว
เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น คนพวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ เป็นเรื่องยากมากที่ในอาณาจักรมังกรจะมีคนจำนวนมากจับกลุ่มประท้วงคราวนี้ เกรงว่าคงจะโกรธจริงเข้าแล้วความจริงทั้งหมดต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด!ต่อให้เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย เกรงว่าก็คงจะหาทางตรวจสอบจนละเอียดยิบคนโง่เหล่านี้ไม่ได้ช่วยเหลือปาร์คดาฮยอน ซึ่งพวกเขาต้องการ แต่กำลังพยายามทำร้ายปาร์คดาฮยอนไม่ว่าปาร์คดาฮยอนจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถต่อสู้กับพลังเช่นนี้ได้เป็นกรณีนี้จริง ๆ เรื่องนี้ได้รับการรายงานอย่างรวดเร็วไปยังผู้นำที่รับผิดชอบข้างต้น ซึ่งโกรธเคืองและขอให้ผู้คนดำเนินการทันทีต้องตรวจหาความจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใคร ล้วนต้องถูกโทษสถานหนักเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินคำพูดของหยางไฉ่อวิ๋นเธอก็ร้อนใจขึ้นมาทันที: “เทียนหยู่ฉันควรทำยังไงดี? นายหลบไปก่อนดีมั้ย ฉันจะรับหน้าให้เอง” เธอรีบเอ่ยปากถึงคนพวกนั้นจะด่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ถึงยังไง คนที่ทำร้ายร่างกายก็เป็นเทียนหยู่ก็ ไม่ใช่เธอเย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ผมจะจัดการเอง”หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกกังวลมากจ
เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นท่าทางแปลกๆของเธอจึงรีบถามว่า: “เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”เมื่อเผชิญกับคำถามของเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูก็ไม่คิดจะปิดบัง และบอกเธออย่างไม่เต็มใจ: “ฉันเกรงว่าตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มเทียนเฟิง คงจะ คงจะไม่ได้แล้วเหรอ...”“ทำไมเหรอ”เย่เทียนหยู่ถามหลินหว่านหรูพูดความจริงหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็เกิดแสงเย็นวูบวาบในดวงตาของเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ: “สมควรตาย!” คนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่เขาเข้าใจเหตุการณ์ในทันทีดูเหมือนว่าความเอาใจใส่จะนำไปสู่ความวุ่นวายเพราะกลัวจะทำร้ายทรัพย์สินของแม่และทำให้แม่ไม่มีความสุขไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาแปลกใจที่ หลินหว่านหรูไม่ได้เข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ และเธอก็ไม่เปิดเผยข่าวใด ๆ เกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับ เทียนเฟิงกรุ๊ปเว้นแต่จะเป็นเลขานุการของหยางไฉ่อวิ๋นแต่นั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจแล้วว่ารองประธานาธิบดีจางเฉียงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ถ้าอยากเข้ารับตำแหน่งใช่ไหม ผมอยากให้คุณเกษียณตรงๆ และอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิต“เทียนหยู่ฉัน
ตกลงใครกันแน่ที่เป็นหน้าม้าในขณะนั้นเอง มีคนมาเคาะประตู หลินหว่านหรูเปิดประตูและเห็นชายวัยสี่หรือห้าสิบคนหนึ่ง“สวัสดี คุณคือคุณหลินใช่ไหม”“ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ?”“ผมคือจางเฉียง รองผู้จัดการทั่วไปของเครือบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาหนานเจียง”“คุณนี่เอง เข้ามาคุยกันด้านในก่อน มาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” หลินหว่านหรูกล่าว“คือเรื่องนั้น…”จางเฉียงพูดด้วยท่าทีลำบากใจ: “ผู้จัดการหลิน คุณคงจะพอทราบเรื่องทุกอย่างบนโซเชียลแล้วใช่ไหม?” เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้“ฉันรู้ค่ะ” หลินหว่านหรูพยักหน้า สีหน้าของเธอไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก นอกจากจะรู้สึกผิดหวังต่อตัวเองแล้ว สิ่งที่เธอกังวลมากกว่าคือเทียนหยู่จะรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไงไม่ว่าเธอจะเก่งแค่ไหน ก็คงไม่สามารถต่อต้านการความเห็นของประชาชนได้ ถ้าหากทำให้ผู้คนโกรธแค้น ต่อให้เป็นเทียนหยู่ที่มีความสามารถมาก เขาก็อาจจะไม่รอดเหมือนกันท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินกว่าอำนาจของประชาชน“ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะขอพูดอย่างตรงไปตรงมา ผมเชื่อในความบริสุทธิ์ของคุณนะ แต่สถานการณ์ของคุณส่งผลกระทบต่อเทียนเฟิงกรุ๊ปอย่างมาก”จางเฉียงถอนหายใจ“อ