พันเถาเห็นว่าประธานเกาที่สามารถขอความเมตตาได้ทันทีที่เขาคุกเข่าลง ขนาดประธานเกาที่เป็นผู้ชาย และคนอย่างประธานเกาที่มีฐานะสูงก็ยังคุกเข่าลงได้เลยเธอจึงรีบคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เทียนหยู่ทันที “คุณเย่ ฉันก็สำนึกผิดแล้วค่ะ เป็นเพราะเมื่อกี้ฉันไม่รู้ความจริง ฉันกำลังมึนงง ฉันมันโง่เอง......”“รีบไสหัวไป!”เย่เทียนหยู่วาดขาเตะเธอออกไปจากตรงนั้น เขาขี้เกียจที่จะฟังเรื่องไร้สาระที่เสแสร้งของเธอต่อไปผู้หญิงคนอื่นๆ ต่างยืนหน้าซีดและนิ่งเงียบประธานเกาจึงพูดด้วยความโกรธ “พันเถา หยุดพูดได้แล้ว ทำไมไม่รีบไส่หัวออกไปเร็วๆล่ะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น พวกผู้หญิงทุกคนก็รีบทำตามคำสั่ง รวมทั้งพันเถาด้วย“เดี๋ยวก่อน สาวคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” เย่เทียนหยู่ชี้ไปที่เฉินเข่อซินเมื่อได้ยินดังนั้น ประธานเกาก็รีบพูดว่า “งั้นเฉินเข่อซิน เธออยู่ต่อเถอะ”“ตอนที่คนอื่นต่างว่าร้ายผม มีเพียงเฉินเข่อซินเท่านั้นที่ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อแนะนำรถให้ผม ผมจึงคิดว่าเธอเป็นคนดี”เมื่อประธานเกาได้ยินเช่นนี้ เขาเข้าใจทันที คนนี้อาจชอบเฉินเข่อซินก็ได้และพูดอย่างรวดเร็ว “เฉินเข่อซินเป็นคนดีมากจริงๆครับ ไม่เพียงแต่เธอสวยเท่านั
และทุกอย่างประธานเกาก็จะจัดการให้เขาอย่างรวดเร็วเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเย่เทียนหยู่ก็ออกไปจากที่นี่ เมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เขาก็ขับรถคันใหม่ไปยังจุดหมายปลายทางที่ได้รับจากคุณปู่เจียงเขาอดไม่ได้ที่จะแอบประหลาดใจเมื่อเห็นรถหรูจอดอยู่ในรอบบริเวณนี้ดูเหมือนว่าคนที่มาครั้งนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ดูเหมือนมันจะเป็นงานศิลปะชั้นสูงเลยทีเดียวเมื่อเขาเดินมาถึงประตู และเย่เทียนหยู่กำลังจะเข้าไปข้างใน แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนหยุดเขาไว้ตรงประตูนั้น“สวัสดีครับ กรุณาแสดงจดหมายเชิญของคุณให้ผมดูหน่อยนะครับ!”เย่เทียนหยู่ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็ไหนคุณปู่เจียงบอกว่าให้เขามาได้เลยไง เขาเลยถามว่า “ต้องมีจดหมายเชิญถึงจะเข้าไปดูคอนเสิร์ตได้หรือ”ในเวลานี้ มีผู้ชายและผู้หญิงจำนวนมากที่ใส่ชุดหรูหราเดินผ่านไป และพวกเขาก็ได้ยินคำพูดของเเย่เทียนหยู่ และดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“หนุ่มน้อย สถานที่บางแห่งไม่ใช่ใครจะเข้าก็เข้าได้นะ”พวกเขาหยิบจดหมายเชิญออกมาและเดินเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไรเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้ดูเย่อหยิ่งนัก เขาแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ครับ ทุกค
“นาย!”“ฉันล่ะนับถือนายจริง ๆ เลย!”เมื่อได้ยินว่าเขาไม่มีจดหมายเชิญ หลินหว่านหรูก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไม่มีคำเชิญจะมาที่นี่ให้ขายหน้าคนอื่นเขาทำไม เธอคิดพร้อมกับควานหาบัตรเชิญด้วยความรียร้อน “พี่รปภ.คะ ฉันมีคำเชิญอยู่ค่ะ ฉันพาเขาเข้าไปด้วยได้ไหมคะ?”“ไม่ได้ บัตรเชิญหนึ่งใบต่อหนึ่งคนเท่านั้น” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่ายหน้า“นี้……”หลินหว่านหรูสังเกตเห็นว่าทุกคนรอบตัวเธอมองเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาเยาะเย้ย เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “นายน้อยหลิวเข้าไปก่อนเถอะค่ะ ไว้อีกพักฉันจะตามไป”“เย่เทียนหยู่ นายมากับฉัน!”เธอต้องพาเย่เทียนหยู่ออกไปก่อน“จะไปไหนครับ?” เย่เทียนหยู่ถามด้วยความงุนงง“นายคิดว่าไงล่ะ?”หลินหว่านหรูพูดอะไรไม่ออก เธอแค่อยากจะพาเขาออกมากจากตรงนั้นก่อน เขาไม่รู้เลยเหรอว่าตัวเองกำลังถูกคนอื่นบ่นอุบอิบใส่?“ผมไม่รู้นี่ครับ”“หยุดพูดไร้สาระแล้วมากับฉันซะ!”หลินหว่านหรูหงุดหงิดมากแต่แล้วในตอนนั้นเอง ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้ยินหลินหว่านหรูเรียกชื่อเขาว่าเย่เทียนหยู่ แรกเริ่มเดิมทีเขาไม่ทันได้ตอบสนอง แต่หลังจากที่เขาเริ่มคิดออกเขาก็รีบเข้าไปพูดด้วยทันที “
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโน้มตัวไปทางขวาพร้อมกับพูดว่า “น้องเย่ คิดไม่ถึงเลยนะว่านายจะเก่งขนาดนี้ ถึงได้ปะปนตัวเองเข้ามาในงานจนได้ แค่ไม่รู้ว่าคุณจะมีความรู้เรื่องเปียโนมากน้อยแค่ไหน แล้วฟังบรรเลงเปียโนออกหรือเปล่า?”“ก็ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยไปกว่าคุณแน่นอน” เย่เทียนหยู่มองออกว่าหลิวเจี๋ยกำลังหงุดหงิด จนแม้ต่อหน้าหลินหว่านหรูเขาก็ยังเริ่มแสดงกิริยาเสียดสีออกมาหลิวเจี๋ยรู้สึกอึดอัดใจมาก เพราะเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเปียโนจริง ๆ“อย่างนายน่ะเหรอ เลิกอวดดีได้แล้ว”“ไม่ได้อวดดี ก็ผมพอจะรู้อยู่บ้างจริง ๆ” เย่เทียนหยู่พูดพร้อมส่งยิ้ม“ถ้าอย่างนั้นขอผมทดสอบนายหน่อย”“งั้นก็อย่าดีกว่า เพราะผมไม่ชอบถูกคนอื่นทดสอบ” เย่เทียนหยู่ปฏิเสธทันทีหลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปที่เย่เทียนหยู่ นี่เขาคุยโวอีกแล้วเหรอแถมยังถูกมองออกว่าคุยโวแทบจะในทันทีเลยด้วยแต่ไม่รู้ว่าทำไม พอเธอได้อยู่กับเขา เธอกลับรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเสมอ รู้สึกเหมือนกับตัวเธอได้เป็นตัวของตัวเองอย่างอิสระต่างจากการได้อยู่กับหลิวเจี๋ย ที่เธอเป็นคนควบคุมตัวเอง แล้วยังรู้สึกกังวลนั่นนี่อยู่เสมอความรู้สึกแบบนั้น หลิวเจี๋ยเ
แม้ว่าหลิวเจี๋ยจะไม่เข้าใจเปียโน แต่เขาเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์โลกมากกว่า ดังนั้น เขาจึงมีความมั่นใจที่จะมุ่งเป้าตั้งคำถามจากการวิเคราะห์ของเขา การจะเป็นคนแรกที่ได้เข้าร่วมงานแสดงดังกล่าวและเป็นตัวแทนของอาณาจักรมังกร เขาจะต้องเป็นนักเปียโนที่เก่งเป็นพิเศษและต้องเล่นได้ดีมากหรือนี่เขาไม่เห็นทุกคนปรบมือเหรอ?“โง่เง่า!”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าและไม่ได้อธิบาย เพียงแต่พูดสองคำนี้ออกมามันหลิวเจี๋ยรู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษหลินหว่านหรูทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงดุ “เย่เทียนหยู่ อย่าพูดหยาบคายได้ไหม”“ช่างเถอะ เขาอาจจะแกล้งทำเป็นรู้วิธีเล่นเปียโนหลังจากที่ผมเปิดโปงเขาไปเมื่อกี้ ก็เลยใช้วิธียั่วยุเพื่อเบี่ยงเบนความอับอาย นี่ก็เป็นปฏิกิริยาทั่วไปของคนทั่วไป”หลิวเจี๋ยทำเป็นพูดดี แน่นอนว่าบางคนเป็นแบบนั้นจริง ที่ตัวเองทำเรื่องชั่วไว้ แต่อยากใช้ความโกรธและวิธีการอื่นเพื่อปกปิดปัญหาแต่หลินหว่านหรูฟังแล้วก็แอบตกตะลึง ก่อนที่เธอจะมองไปที่หลิวเจี๋ยอย่างสายตาว่างเปล่าเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดนั้นถูกต้อง ว่าเขาแค่แสร้งทำเป็นเข้าใจ“หว่านหรู อย่ามองผมแบบนั้นสิ แม้ว่าน้องเย่จะมุ่งเป้าชอบมุ่งเป
“ไม่เลย ไม่มีเลยสักคนเดียว!”“ดังนั้นในความคิดของผม บทดนเตรีบรรเลงเพลงเปียโนนี้ได้รับการสร้างสรรค์โดยพวกเรานักเปียโนชาวตะวันตก”“เพียงแต่ว่าผู้คนในอาณาจักรมังกรชอบมีหน้ามีตา ชอบคุยโวโอ้อวด ดังนั้น ก็เลยเปลี่ยนดนตรีของนักเปียโนตะวันตกของเราให้เป็นเพลงของพวกเขาเอง”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกมา ผู้ชมทั้งหมดก็ตกตะลึงทันที!ใครก็ตามที่รู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จะรู้ว่าเพลงนี้มาจากอาณาจักรมังกรโบราณ ถึงขั้นกับมีคำกล่าวว่าเป็นบทเพลงที่หาข้อพิสูจน์ได้ยากผู้คนมากมายจากอาณาจักรมังกรโกรธมาก ก่อนจะลุกขึ้นยืนและจ้องมองด้วยความไม่พอใจแม้แต่ความตื่นเต้นและความชอบของ หลินหว่านหรูในตอนแรกก็กลายเป็นความโกรธเธอเคยเห็นเขาในทีวีมาก่อน แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดคำที่น่าอับอายแบบนี้กับอาณาจักรมังกรตอนมาพบปะกันครั้งแรกเธอจะไม่มีวันชอบคนแบบนี้ ไม่ว่าความสามารถของเขาจะน่าทึ่งแค่ไหนก็ตามเย่เทียนหยู่แอบส่ายหน้า ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายควรได้รับบทเรียนจริง ๆ“ไอ้เวรนี่พูดจาไร้สาระ ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเพลงนี้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา”“ใช่ ต่อให้เขาจะเล่นได้ดีขนาดไหน แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธข
หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและตะโกนอย่างร้อนใจ “เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ!”คราวนี้เสียงของเธอออกจะดังเกินไปเล็กน้อยรวมกับที่เย่เทียนหยู่กำลังยืน ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันทีผู้ชมแต่ละคนต่างเริ่มพากันมองเย่เทียนหยู่ดูสงบและสงบ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่วยคุณระบายความโกรธ”“ช่วยฉันระบายความโกรธ?”“ใช่ พวกเขาไม่ได้ทำให้คุณโกรธมากเหรอ? ผมขึ้นไปตบหน้าพวกเขาเพื่อช่วยระบายความโกรธ”“อย่านะ นายอย่าเที่ยวไปชกใครมั่วซั่วสิ” เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินหว่านหรูก็เริ่มกังวล และอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างร้อนใจ ในความรู้สึกของเธอ เย่เทียนหยู่มีหัวรุนแรงเป็นพิเศษ เขาอาจจะโจมตีได้ทันทีถ้าหากเขาไม่เห็นด้วย ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่ได้จะไปชกใครนะครับ ผมจะเอาความสามารถไปสู้ต่างหาก!”“ไม่ต้องห่วง แค่รอดูการแสดงสนุก ๆ ก็พอ”หลังจากพูดคำจบ เย่เทียนหยู่ก็ไม่สนใจหลินหว่านหรูอีกต่อไป ก่อนจะเดินสบาย ๆ ขึ้นไปบนเวที“นาย นายมันบ้าไปแล้ว!”หลินหว่านหรูได้แต่ยืนตกตะลึงจนไม่ทันได้หยุดเขาไว้ฉากเบื้องหน้านี้ทำให้ทุกคนตกใ
ทุกคนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นี่เขายโสขนาดนั้นเลยเหรอ?แต่ในเวลานี้ ไม่มีใครตำหนิเย่เทียนหยู่ว่าหยาบคาย และถึงกับตะโกนว่า “ทำดีมาก!”แม้ทุกคนจะรู้สึกว่าเขาเล่นเปียโนได้ไม่ดีเท่ากับผู้เล่นคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการที่ทุกคนจะปรบมือให้กับความกล้าหาญของเขาประเด็นคือเขายังเด็กเกินไป จะยังไงก็ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้“แก แกนี่มันอวดดีจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าอาณาจักรมังกรซึ่งเป็นที่รู้จักในนามดินแดนแห่งมารยาทจะไม่มีมารยาทเลย” แมนเทลถูกผลักออกไปด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว“ความสุภาพมีไว้สำหรับผู้เป็นมิตร ไม่ใช่สำหรับคนน่าขยะแขยงแบบคุณที่ดูถูกอาณาจักรมังกรแค่เพราะตัวเองเก่งทักษะงอกง่อยนี่”เย่เทียนหยู่ไม่เผยสีหน้าโกรธแค้นออกมาเลย สีหน้าของเขาสงบ แต่คำพูดของเขาเฉียบคมมากทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกไป ทุกคนก็ตอบรับเสียงดังและปรบมือดังสนั่น แต่ไม่นานพวกเขาก็แอบทำอะไรไม่ถูก เพราะคำพูดนั้นไพเราะ แต่เขาจะเล่นเปียโนได้ยังไง?แมนเทลโกรธจัดและจ้องไปที่เย่เทียนหยู่อย่างดุเดือดรอให้เขาหลอกตัวเองต่อไปเพราะไม่สำคัญว่าคำพูดจะสวยงามแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังขึ้นอยู่กับความสามารถอยู่ดี
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั
ทันทีที่สี่ทุ่มมาถึง เย่เทียนหยู่ก็โพสต์วิดีโอทันทีโดยใช้บัญชีของหลินหว่านหรูส่วนนี้บันทึกกระบวนการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นตอนที่พวกเขากำลังรอลิฟต์จนถึงตอนที่เย่เทียนหยูทุบตีผู้คน รวมถึงบอดี้การ์ดด้วยทันทีที่วิดีโอตัวเต็มออกมา ทุกคนก็เริ่มโต้เถียงกันอย่างระมัดระวัง น่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีเสียง จึงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่แต่เห็นได้ชัดว่าปาร์คดาฮยอนเห็นผู้จัดการหลินก่อนและพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องตามมา แสดงให้เห็นว่า หลินหว่านหรูไม่ได้เริ่มเข้าหาปาร์คดาฮยอนก่อนแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนหยู่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแต่ว่าผู้จัดการต้องตกใจเมื่อเห็นวิดีโอฉบับเต็มและรีบไปพบปาร์คดาฮยอน เพื่อรายงาน เพราะตอนนั้นเขาทุ่มเงินทำลายกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนปาร์คดาฮยอนสะดุ้ง แต่เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นแค่วิดีโอ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ถึงจะมีวิดีโอที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่มีเสียง พิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”“ถึงยังไง การที่เขาทำร้ายผู้หญิงแล้วก็ใช้ความรุนแรงหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องผิดอยู่ดี”ปาร์คดาฮยอนกล่าวขณะอ่านความคิดเห็นด้านล่าง แม้ว่าหลายคนจ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ
เมื่อกลับมาที่ห้อง หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล: "เทียนหยู่นายเตรียมหลักฐานทั้งหมดแล้วจริงๆ เหรอ?""แน่นอน!"เย่เทียนหยู่ยืนยัน ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวให้เรื่องของหลินหว่านหรูมากหน่อย ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยก่อนแล้วเพราะเรื่องคราวนี้ อาจโปรโมตไปถึงเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป แต่ถึงเขาจะใจดีสุดๆ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนอย่างแม่ตระกูลหลินระเริงใจมากไปนักประเด็นเพราะนิสัยของแม่ตระกูลหลิน เวลาได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ไม่เคยรู้สึกขอบคุณ แต่เธออาจจะแว้งมาเยาะเย้ยหลินหว่านหรูไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลกับการปล่อยให้แม่หลินฉวยโอกาสพูดถึงแม่หลินถึงแม้จะเป็นวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง แต่มันก็ไปได้ไม่ดีนัก เพราะคนที่เป็นระดับลูกน้องของเธอไม่มีความประทับใจในตัวเธอเลยยิ่งไปกว่านั้น คือทันทีที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เธอก็เข้ามาชี้แนะอะไรมากมายราวกับตัวเองรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสามสิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใหม่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจะต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและลดรางวัลที่ไม่จำเป็นมากมาย ซึ่งก็คือการลดเงินเดือนของทุกคนแค่ลดค่าจ้างไม่สะดวกจริงๆ
“สมควรตายจริงๆ ถ้าแกด่าพ่อแม่ฉันยังพอทน แต่แกกล้าด่าพี่ดาฮยอนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง” หนึ่งในหมู่แฟนคลับพ่นประโยคไร้สมองที่ทำให้คนอื่นๆต้องตกตะลึงออกมา และเธอเป็นแค่เด็กสิบขวบเจ้าหน้าที่หวงกังวลมากจนเหงื่อไหลผุดออกมาบนหน้าผาก กองกำลังตำรวจของเขาเพียงลำพังไม่สามารถรักษาสถานการณ์ได้อีกต่อไป และทุกอย่างกำลังจะเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายเย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมาด้วยความโกรธ และเสียงนั่นก็ทำให้ฝูงชนตะลึงงันไปชั่วขณะ: “พวกคุณไม่เชื่อใช่มั้ย คืนนี้ผมจะปล่อยหลักฐานให้พวกคุณดู ให้พวกคุณได้ตาสว่างสักที” เขาพูดด้วยความโกรธทุกคนหยุดครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็มีคนพูดอย่างไม่มั่นใจ: "คุณต้องการนำหลักฐานประเภทใดมา ฉันคิดว่าคุณแค่อยากจะชะลอเวลาและหลบหนี"“หนีเหรอ คนโง่อย่างพวกคุณ คุ้มค่าให้ผมต้องหนีด้วยเหรอ?”เย่เทียนหยู่ดูถูกเหยียดหยาม และเสียงของเขาก็ดังพอจะเข้าถึงหูของทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็โมโหจนแทบคลั่งขึ้นมาทันที และอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆเจ้าหน้าที่หวงทำอะไรไม่ถูก หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแต่ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ปร
ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ทำจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนถ่ายทอดสดที่มาถึงสถานที่แล้วต่างก็พากันโพสต์วิดีโอ ส่วนคนที่มาไม่ได้ก็รีบพากันแชร์ในขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ มากมายแห่แหนกันเข้ามาทำข่าวอย่างบ้าคลั่งมีคนที่ได้รับชมวิดีโอก่อนหน้านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จำนวนคนที่ด่าเย่เทียนหยู่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องท่าทางเย่อหยิ่งและพฤติกรรมอำมหิตของเขาแฟนคลับสมองนิ่มของปาร์คดาฮยอนหลายคนตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นแบบนั้น พวกเธอภูมิใจกับพฤติกรรมอันทรงพลังในการปกป้องเจ้านายของพวกเขาผู้นำของอาณาจักรมังกรกลัวสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด คราวนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พวกเขายังคงกังวลว่าจะไม่สามารถลงโทษฆาตกรอย่างรุนแรงได้โดยไม่สังเกตว่าแกนนำ สภ. ปรากฏตัวแล้ว เจ้าหน้าที่หวงก็ตะโกนดังลั่น: "ทุกคนอย่ากังวล เราจะสอบสวนความจริงอย่างเคร่งครัดและจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบวินัยหลุดลอยไป"อย่างไรก็ตามทุกคนยังคงไม่พอใจและตะโกนลั่นและเรียกร้องให้จับฆาตกรทันทีและลงโทษอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่หวงเองก็ทำอะไรไม่ถูก ความจริงแล้ว ในความเห็นของเขา ไม่ว
เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น คนพวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ เป็นเรื่องยากมากที่ในอาณาจักรมังกรจะมีคนจำนวนมากจับกลุ่มประท้วงคราวนี้ เกรงว่าคงจะโกรธจริงเข้าแล้วความจริงทั้งหมดต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด!ต่อให้เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย เกรงว่าก็คงจะหาทางตรวจสอบจนละเอียดยิบคนโง่เหล่านี้ไม่ได้ช่วยเหลือปาร์คดาฮยอน ซึ่งพวกเขาต้องการ แต่กำลังพยายามทำร้ายปาร์คดาฮยอนไม่ว่าปาร์คดาฮยอนจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถต่อสู้กับพลังเช่นนี้ได้เป็นกรณีนี้จริง ๆ เรื่องนี้ได้รับการรายงานอย่างรวดเร็วไปยังผู้นำที่รับผิดชอบข้างต้น ซึ่งโกรธเคืองและขอให้ผู้คนดำเนินการทันทีต้องตรวจหาความจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใคร ล้วนต้องถูกโทษสถานหนักเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินคำพูดของหยางไฉ่อวิ๋นเธอก็ร้อนใจขึ้นมาทันที: “เทียนหยู่ฉันควรทำยังไงดี? นายหลบไปก่อนดีมั้ย ฉันจะรับหน้าให้เอง” เธอรีบเอ่ยปากถึงคนพวกนั้นจะด่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ถึงยังไง คนที่ทำร้ายร่างกายก็เป็นเทียนหยู่ก็ ไม่ใช่เธอเย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ผมจะจัดการเอง”หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกกังวลมากจ
เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นท่าทางแปลกๆของเธอจึงรีบถามว่า: “เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”เมื่อเผชิญกับคำถามของเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูก็ไม่คิดจะปิดบัง และบอกเธออย่างไม่เต็มใจ: “ฉันเกรงว่าตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มเทียนเฟิง คงจะ คงจะไม่ได้แล้วเหรอ...”“ทำไมเหรอ”เย่เทียนหยู่ถามหลินหว่านหรูพูดความจริงหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็เกิดแสงเย็นวูบวาบในดวงตาของเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ: “สมควรตาย!” คนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่เขาเข้าใจเหตุการณ์ในทันทีดูเหมือนว่าความเอาใจใส่จะนำไปสู่ความวุ่นวายเพราะกลัวจะทำร้ายทรัพย์สินของแม่และทำให้แม่ไม่มีความสุขไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาแปลกใจที่ หลินหว่านหรูไม่ได้เข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ และเธอก็ไม่เปิดเผยข่าวใด ๆ เกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับ เทียนเฟิงกรุ๊ปเว้นแต่จะเป็นเลขานุการของหยางไฉ่อวิ๋นแต่นั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจแล้วว่ารองประธานาธิบดีจางเฉียงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ถ้าอยากเข้ารับตำแหน่งใช่ไหม ผมอยากให้คุณเกษียณตรงๆ และอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิต“เทียนหยู่ฉัน
ตกลงใครกันแน่ที่เป็นหน้าม้าในขณะนั้นเอง มีคนมาเคาะประตู หลินหว่านหรูเปิดประตูและเห็นชายวัยสี่หรือห้าสิบคนหนึ่ง“สวัสดี คุณคือคุณหลินใช่ไหม”“ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ?”“ผมคือจางเฉียง รองผู้จัดการทั่วไปของเครือบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาหนานเจียง”“คุณนี่เอง เข้ามาคุยกันด้านในก่อน มาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” หลินหว่านหรูกล่าว“คือเรื่องนั้น…”จางเฉียงพูดด้วยท่าทีลำบากใจ: “ผู้จัดการหลิน คุณคงจะพอทราบเรื่องทุกอย่างบนโซเชียลแล้วใช่ไหม?” เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้“ฉันรู้ค่ะ” หลินหว่านหรูพยักหน้า สีหน้าของเธอไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก นอกจากจะรู้สึกผิดหวังต่อตัวเองแล้ว สิ่งที่เธอกังวลมากกว่าคือเทียนหยู่จะรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไงไม่ว่าเธอจะเก่งแค่ไหน ก็คงไม่สามารถต่อต้านการความเห็นของประชาชนได้ ถ้าหากทำให้ผู้คนโกรธแค้น ต่อให้เป็นเทียนหยู่ที่มีความสามารถมาก เขาก็อาจจะไม่รอดเหมือนกันท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีอำนาจใดยิ่งใหญ่เกินกว่าอำนาจของประชาชน“ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะขอพูดอย่างตรงไปตรงมา ผมเชื่อในความบริสุทธิ์ของคุณนะ แต่สถานการณ์ของคุณส่งผลกระทบต่อเทียนเฟิงกรุ๊ปอย่างมาก”จางเฉียงถอนหายใจ“อ