หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและตะโกนอย่างร้อนใจ “เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ!”คราวนี้เสียงของเธอออกจะดังเกินไปเล็กน้อยรวมกับที่เย่เทียนหยู่กำลังยืน ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันทีผู้ชมแต่ละคนต่างเริ่มพากันมองเย่เทียนหยู่ดูสงบและสงบ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่วยคุณระบายความโกรธ”“ช่วยฉันระบายความโกรธ?”“ใช่ พวกเขาไม่ได้ทำให้คุณโกรธมากเหรอ? ผมขึ้นไปตบหน้าพวกเขาเพื่อช่วยระบายความโกรธ”“อย่านะ นายอย่าเที่ยวไปชกใครมั่วซั่วสิ” เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินหว่านหรูก็เริ่มกังวล และอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างร้อนใจ ในความรู้สึกของเธอ เย่เทียนหยู่มีหัวรุนแรงเป็นพิเศษ เขาอาจจะโจมตีได้ทันทีถ้าหากเขาไม่เห็นด้วย ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่ได้จะไปชกใครนะครับ ผมจะเอาความสามารถไปสู้ต่างหาก!”“ไม่ต้องห่วง แค่รอดูการแสดงสนุก ๆ ก็พอ”หลังจากพูดคำจบ เย่เทียนหยู่ก็ไม่สนใจหลินหว่านหรูอีกต่อไป ก่อนจะเดินสบาย ๆ ขึ้นไปบนเวที“นาย นายมันบ้าไปแล้ว!”หลินหว่านหรูได้แต่ยืนตกตะลึงจนไม่ทันได้หยุดเขาไว้ฉากเบื้องหน้านี้ทำให้ทุกคนตกใ
ทุกคนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นี่เขายโสขนาดนั้นเลยเหรอ?แต่ในเวลานี้ ไม่มีใครตำหนิเย่เทียนหยู่ว่าหยาบคาย และถึงกับตะโกนว่า “ทำดีมาก!”แม้ทุกคนจะรู้สึกว่าเขาเล่นเปียโนได้ไม่ดีเท่ากับผู้เล่นคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการที่ทุกคนจะปรบมือให้กับความกล้าหาญของเขาประเด็นคือเขายังเด็กเกินไป จะยังไงก็ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้“แก แกนี่มันอวดดีจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าอาณาจักรมังกรซึ่งเป็นที่รู้จักในนามดินแดนแห่งมารยาทจะไม่มีมารยาทเลย” แมนเทลถูกผลักออกไปด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว“ความสุภาพมีไว้สำหรับผู้เป็นมิตร ไม่ใช่สำหรับคนน่าขยะแขยงแบบคุณที่ดูถูกอาณาจักรมังกรแค่เพราะตัวเองเก่งทักษะงอกง่อยนี่”เย่เทียนหยู่ไม่เผยสีหน้าโกรธแค้นออกมาเลย สีหน้าของเขาสงบ แต่คำพูดของเขาเฉียบคมมากทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกไป ทุกคนก็ตอบรับเสียงดังและปรบมือดังสนั่น แต่ไม่นานพวกเขาก็แอบทำอะไรไม่ถูก เพราะคำพูดนั้นไพเราะ แต่เขาจะเล่นเปียโนได้ยังไง?แมนเทลโกรธจัดและจ้องไปที่เย่เทียนหยู่อย่างดุเดือดรอให้เขาหลอกตัวเองต่อไปเพราะไม่สำคัญว่าคำพูดจะสวยงามแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังขึ้นอยู่กับความสามารถอยู่ดี
ในเวลานี้ ทั้งฮอลล์เงียบงัน ทุกคนยังคงดื่มด่ำกับดนตรีอันไพเราะไม่ได้สติในที่สุด คนแรกก็รู้สึกตัวและยกมือขึ้นทันทีและปรบมืออย่างดุเดือดพฤติกรรมของเขาเป็นนำพาทุกคนให้ตบมือไปเหมือนเอฟเฟกต์ผีเสื้อในที่สุดเสียงที่แข็งแกร่งที่สุดก็โพล่งออกมาสั่นสะเทือนทั้งฮอลล์!“ไพเราะมาก!”“ไพเราะมาก ๆ เลย!”“สมบูรณ์ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปกว่านี้อีกแล้ว!”“ฉันใช้ชีวิตน้องชายผมสาบานเลยว่านี่เป็นเพลงบรรเลงเปียโนที่ไพเราะและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาในชีวิต ไร้ที่ติ!”“เจ๋งมาก ๆ!”“นักเปียโนตะวันตกผู้ไร้ยางอาย ดูให้ดี ใครบอกว่าเราไม่มีนักเปียโนชั้นนำในอาณาจักรมังกร?”ในขณะนี้ ฉากนั้นถูกจุดติดไฟอย่างสมบูรณ์งานแสดงฮอลล์ที่แต่เดิมเงียบสงบก็กลายเป็นความมีชีวิตชีวาและคึกคักราวกับตลาดผักหลิวเจี๋ยตกตะลึงอันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเย่เทียนหยู่โง่มาก แต่กลับกลายเป็นว่าตัวตลกคือตัวเขาเองแม่งเอ๊ยเขานึกมาตลอดว่าเย่เทียนหยู่ไม่เข้าใจเรื่องเปียโนเลย แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเย่เทียนหยู่ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญด้านเปียโนเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกด้วย แถมเขาก็ยังได้ร
“มีคำกล่าวที่ว่าศิลปินมีขอบเขตของชนชาติ แต่ตัวศิลปะเอนั้นไร้ขอบเขต ไม่ว่าจะเป็นตะวันตกหรือตะวันออก แก่นแท้ของศิลปะก็ล้วนเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์”“เพราะอย่างนั้นคุณแมนเทล คำพูดที่ไม่เป็นมืออาชีพของคุณนั่นมันทำให้ผมประหลาดใจมาก เพราะมันดูถูกชื่อเสียงของคุณในฐานะปรมาจารย์เปียโนอันดับหนึ่งของโลก”เย่เทียนหยู่พูด“ฮึ่ม ไร้สาระ” ใบหน้าของแมนเทลเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาเมินเฉยต่อเขาและทำได้เพียงปฏิบัติต่อเขาตามอำเภอใจเท่านั้น“ช่างเถอะ ในเมื่อคุณอยากจะดับออกจากวงการ งั้นก็ขอเห็นเป็นดั่งปราถนา”ภายใต้การจ้องมองที่ประหลาดใจของทุกคน เย่เทียนหยู่นั่งลงข้างเปียโน จากนั้นยิ้มเล็กน้อยและพูดอย่างสงบ “บทเพลง “สิ้นหวัง” แด่มิสเตอร์แมนเทล”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกไป สถานที่จัดงานก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเพราะความสิ้นหวังเป็นเพลงที่โด่งดังของแมนเทล และยังเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เขาคิดว่าเขาสามารถเล่นได้เขายังบอกด้วยว่า ในอีกร้อยปีข้างหน้าเพลงนี้ก็ยังไม่มีใครเทียบชั้นกับเขาได้แมนเทลตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเยาะเย้ย เด็กคนนี้จะโกรธจนสับสนไปแล้วสินะ หาเพลงไหนมาเล่นไม่เล่นดันไปหาเพ
“ยอมแล้ว ผมยอมแล้ว!”“ยอมแล้วทั้งกายทั้งใจ!”แมนเทลพึมพำ เห็นได้ชัดว่าเขาเสียสติไปแล้วเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนบนโลกที่สามารถเล่นดนตรีได้อย่างน่าอัศจรรย์และสมบูรณ์แบบขนาดนี้และเขายังเป็นชาวอาณาจักรมังกรด้วยดูเหมือนว่าเพื่อนเก่าจะไม่ได้โกหกเขา อาณาจักรมังกรประเทโบราณที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ผู้คนและสิ่งต่าง ๆ ที่มีมนต์ขลังและเป็นตำนานมากมายได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่หลินหว่านหรูตื่นเต้นมาก เธอไม่เคยมีความประทับใจกับเย่เทียนหยู่มากเท่านี้มาก่อนแต่พอคิดได้ถึงตรงนี้ เธอก็คิดได้ว่าไอ้หมานี่ไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาเล่นเปียโนเป็น จนก่อนหน้านี้เธอใช้เปียโนมาเป็นตัวอย่างแบ่งแยกโลกของทั้งคู่ด้วยซ้ำไปบางทีเขาอาจจะแอบหัวเราะเยาะตัวเธอตอนกำลังพูดเรื่องนี้กับเขาอยู่ก็ได้ในทางตรงกันข้าม หลิวเจี๋ยเกือบจะกระอักเลือดอยู่แล้ว โดยเฉพาะตอน หลินหว่านหรูมองไปที่เย่เทียนหยู่อย่างตื่นเต้น ดวงตาของเธอไม่อาจเก็บแสงประกายเอาไว้ได้เลยไม่ จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ในเวลานี้ เย่เทียนหยู่เดินกลับมาและกระซิบ “หว่านหรู ผมจะกลับแล้ว คุณจะกลับด้วยกันไหมครับ?”เขาเห็นความตื่นเต้นข
“ไม่ครับ ผมซื้อเอง”“คุณซื้อมันมาเหรอ รถคันนี้ไม่ถูกเลยนะ”“ก็แพงอยู่นะครับ เดิมทีผมต้องการซื้อคันหนึ่งในราคาประมาณล้านห้าแสนบาท แต่เพราะผมเห็นผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งกำลังถูกรังแกผมก็เลยซื้อมันมาแบบรีบ ๆ ผมเลยจ่ายไปประมาณยี่สิบล้านบาท”“สาวน้อยคนนั้นก็สวยมากใช่ไหมล่ะ”“ใช่ ดวงตาคู่นั้นของเธอเหมือนพูดได้เลยล่ะ มันมีเสน่ห์มาก”“เหอะ ๆ ดีขนาดนั้น ทำไมไม่เอากลับบ้านล่ะ?”“ที่บ้านมีภรรยาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”“คุณรู้ด้วยเหรอว่ามีภรรยาแล้ว?”“เย่เทียนหยู่ ฉันจะบอกคุณให้นะ ต่อให้คุณอยากจะหาผู้หญิงน่ะ คุณก็ต้องรอหลังจากเดือนนี้ที่เราหย่ากันไปแล้ว” หลินหว่านหรูพูดด้วยความโกรธเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจเธอ เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ดีพอสำหรับเธอ แต่การได้อยู่กับเขาทำให้เธอรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างอธิบายไม่ถูก และเธอไม่ชอบให้เขาไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น“แค่หนึ่งเดือนเอง มันเร็วมาก ผมเตรียมตัวล่วงหน้าหน่อย ถึงตอนนั้นจะได้เริ่มต้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว”“ให้ตายเถอะ นายยังคิดจะเริ่มใหม่ทันทีอีกเหรอ เชื่อไหมว่าฉันจะตัดตอนนายก่อน!”หลินหว่านหรูโกรธมาก“อย่านะครับ ผมไม่เริ่มใหม่แล้ว!”เ
เย่เทียนหยู่ยักไหล่เงียบ ๆ เขาขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้า แล้วหันหลังกลับแล้วเดินจากไปเมื่อหลิวอวิ๋นซิ่วเห็นแบบนั้น เธอก็โกรธมากและต้องการหยุดเขาเอาไว้เพื่อดุด่าหลินหว่านหรูพูดอย่างร้อนใจ “แม่ หยุดกรีดร้องได้แล้ว เย่เทียนหยู่ซื้อมันมาด้วยเงินของเขาเองจริง ๆ ค่ะ ไม่ใช่จากหนู”“ไร้สาระ คนบ้านนอกที่ลงมาจากภูเขาแบบเขาจะหาเงินล้านมาได้ยังไง”“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เขาซื้อมันเอง” หลินหว่านหรูกล่าว“พอแล้ว ลูกคิดว่าแม่เป็นเด็กหรือไง ยังคิดมาหลอกแม่อีก?”“ตอนนี้ลูกกำลังคิดอะไรอยู่? ตอนแรกก็ไม่เต็มใจหย่า พอมาตอนนี้ยังให้เงินเขามากมาย หรือนี่ลูกมีความลับอะไรกับเขาเหรอ?”“ไม่มีหรอกค่ะ แม่คิดมากเกินไปแล้ว”“แบบนั้นก็ดีแล้ว เย่เทียนหยู่คนนี้ไร้ยางอายจริง ๆ เป็นผู้ชายแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้ก็ไม่รู้”“หว่านหรู อย่าโทษแม่ที่เตือนนะ ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์มาก เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษเหมือนนายน้อยหลิวคนที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์ ลูกต้องระวังตัวเอาไว้นะ”หลิวอวิ๋นซิ่วเตือน“อือ หนูจะระวังค่ะ”“ดีมาก ปกติลูกก็คุยกับนายน้อยหลิวให้มาก ๆ นะ คนดีอย่างนายน้อยหลิวที่ทั้งซื่อสัตย
ในตอนนั้นเอง เขาเหลือบมองนามบัตรของอีกฝ่ายและจำหมายเลขได้อย่างรวดเร็ว“สวัสดี!”“พี่ พี่เย่ ได้โปรดช่วยผมหน่อยได้ไหม” เสียงขอร้องดังมาจากอีกด้านหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนั้น เขายังได้ยินเสียงแผ่ว ๆ แทรกเข้ามาอีกด้วย“ฉันให้เวลาเธอเตรียมตัวหลายวัน แต่เธอก็ยังหาเงินห้าแสนบาทมาไม่ได้ กล้าดียังไงมาขอให้ฉันช่วยแม่ของเธอ”“ฉันขอบอกคุณตามตรง ว่าถ้าไม่เริ่มผ่าตัดภายในครึ่งชั่วโมงแม่ของเธอจะต้องตายอย่างแน่นอน”“ถ้าหาเงินไม่ได้จริง ๆ ให้แม่ของเธอออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด จะตายก็ไปตายข้างนอก อย่าให้คนมาหาว่าฝีมือการแพทย์ของเราไม่ได้เรื่อง”เย่เทียนหยู่รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและถามทันที “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“แม่ของฉันป่วยหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที แต่ฉันมีเงินไม่พอค่ะ ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถอะนะคะ ต่อไปฉันจะไปเป็นคนรับใช้คุณเองค่ะ”เฉินเข่อซินไม่มีทางเลือกนอกจากยืมทุกทางเท่าที่เธอทำได้ เธอไม่รู้จักคนรวยคนอื่นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเดียวที่ดูเหมือนจะช่วยเธอได้คือพี่เย่ เจ้าพ่อท้องถิ่นที่เธอเพิ่งพบในวันนี้“ไม่ต้องกังวล คุณอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ให้พวกเขาทำการผ่าตัดก่
“ครับ เจ้านาย!”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ หยางผั่วจวินก็กลับไม่โต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว เขาเพียงก้มตัวและโน้มศีรษะด้วยท่าทีเคารพเท่านั้น ก่อนจะถอยกลับไปฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อกี้ท่าทีของหยางผั่วจวินดูหยิ่งยโสอย่างมาก แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้เลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตำหนักหยู่ กลับแสดงท่าทีเคารพออกมาเสียอย่างนั้น ให้เกียรติมากถึงขั้นเรียกว่าเจ้านายเลยด้วยที่สำคัญเลยก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะทำเพราะความเต็มใจเสียด้วยซ้ำนี่จึงยิ่งทำให้ในใจของเจวี๋ยเทียนเกิดความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อลองนึกดูอีกที ต่อให้เจ้าตำหนักหยู่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงไม่มีทางแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า เขาจะเลื่อนขั้นถึงระดับเทพยดาแดนดินแล้วแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวัยแค่นี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ส่วนหยางผั่วจวิน เจ้าเด็กนั่นมีร่างกายที่แปลกประหลาด เขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงไม่อาจมองเขาเป็นแค่คนธรรมดาได้เพราะด้วยเหตุนี้ เจวี๋ยเทียนจึงคิดว่าเย่เทียนห
แต่สีหน้าของเจวี๋ยซินกลับเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงขั้นยอมสละทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแท้ ๆ แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยไม่มีกระทั่งบาดแผลเลยแม้แต่น้อย!เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกจากปาก ก่อนจะสลบไปในทันที“เจวี๋ยซิน!”เจวี๋ยเทียนตกใจมาก เขาจึงรีบตรวจสอบร่างกายของเขาโชคดี ที่มันเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอลงก็เท่านั้น ก่อนจะนำยาสองสามเม็ดให้เขากิน จากนั้นจึงเรียกให้ยอดฝีมือคนอื่นพาไปดูแลต่อเมื่อเห็นเจวี๋ยซินกำลังถูกยกลงไปจากสนาม แววตาของหยางผั่วจวินก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “เจวี๋ยเทียน เจวี๋ยซินถูกฉันจัดการจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว มันกลายเป็นสวะไปแล้ว งั้นแกก็รีบขึ้นมาแก้แค้นแทนเขาเถอะ มาจัดการฉันซะสิ?”“......”คนอื่น ๆ ต่างก็หมดคำจะพูด หยางผั่วจวินคนนี้ต้องการจะทำให้เจวี๋ยเทียนโกรธจนตายเลยรึไง อวดดีเกินไปแล้วพวกเขาคิดแค่ว่าหยางผั่วจวินกำลังตั้งใจจะดูถูกเจวี๋ยเทียน แต่จริง ๆ แล้วหยางผั่วจวินแค่ต้องการต่อสู้เท่านั้นทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจวี๋ยเทียน เพื่อดูว่าจะรับมือกับอีกฝ่ายอย่างไรหากเขาปฏิเสธ นั่นก็เท่ากับ
เจวี๋ยซินส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขากลับมามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ทำให้ท่าทีของเขาดูเหมือนคนบ้ายิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำสีหน้าของหยางผั่วจวินดูมืดลง เขารู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้ท่าไม้ตายแล้วหลังจากท่านี้ถูกปล่อยออกมา อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแน่นอนตัวเขาเองก็ทำการรวบรวมกำลังภายในของตนด้วยเช่นกัน ความน่าสะพรึงกลัวของชี่แท้ถูกหลอมรวมเอาไว้ที่หมัดทั้งสองข้างทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ดีที่สุดทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากทำการปล่อยท่านี้ออกไป ผลแพ้ชนะของทั้งสองก็จะปรากฏออกมาแล้วเป็นอย่างที่คิด เวลาหลังจากนั้นผ่านไปเพียงชั่วขณะ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงทันใดนั้น บรรยากาศรอบ ๆ ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นซ้อนกันเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบมีเพียงกระแสของกำลังภายในที่น่าทึ่งลอยเต็มไปหมดพื้นที่ทั้งหมดถูกฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพายุหมุนที่พัดผ่านไปมาทั้งสองคนติดอยู่ด้านในกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนผลกระทบที่เกิดจากพลังอันน
“สายเกินว่าที่แกจะเข้าไปขวางแล้วล่ะ”“ก็แล้วแต่แกจะคิด เสร็จรึยัง ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วเนี่ย” หยางผั่วจวินพูดด้วยความตื่นเต้น รู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าคือสาวงามที่หาใดเปรียบแทบอยากกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อผ้าออกจนเกลี้ยงเขาแทบรอไม่ไหวแล้วจริง ๆคนอื่น ๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยความงงงวย และหมดคำจะพูดไปโดยสิ้นเชิงบางครั้งพวกเขาก็อยากจะพูดออกไปว่า เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดแบบนี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ตอบคำถามทั้งหมดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาคิดผิด กระทั่งผิดจนไม่อาจให้อภัยได้เลยทีเดียวแต่คำพูดนี้ กลับทำให้เจวี๋ยซินโกรธจัดทันทีเห็นเพียงกำลังภายในของเจวี๋ยซินที่กำลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากลัว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ จ้องมองไปทางหยางผั่วจวินอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เจ้าหนู แกตายซะเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เจวี๋ยซินก็พุ่งตรงเข้าหาหยางผั่วจวินทันที พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวจนน่าตกใจ“เข้ามาเลย!”หยางผั่วจวินเองก็ตรงเข้าไปเผชิญหน้าโดยตรงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นพลังที่เพิ
เมื่อเห็นว่าหยางผั่วจวินไม่ได้รับบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แถมยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เจวี๋ยซินกลับแทบพังทลายอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอด จะให้ทนอับอายอยู่แบบนี้ได้อย่างไรเมื่อเจวี๋ยเทียนเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแย่แล้ว! สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ เกรงว่าเขาคงจะเปิดใช้เวทอาคมเป็นแน่ จะทำอย่างไรดีเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงแววตาแดงก่ำของเจวี๋ยซิน เขาบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เวรเอ้ย ฉันไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่!”ทันทีที่เขาพูดจบ มือขวาของเขาก็ยาเม็ดหนึ่งออดมา ก่อนจะกลืนมันลงไปทันทีสีหน้าเจวี๋ยเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีว่าเจวี๋ยซินคิดจะทำอะไรเขาต้องการที่จะหยุดยั้งเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันแม้แต่จะได้เอ่ยปาก เพราะนอกจากสิ่งนี้ ก็แทบจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้วทุกคนต่างพากันชะงักไปชั่วขณะ การที่เลือกกินยารักษาบาดแผลในเวลานี้ เกรงว่าคงจะไม่ช่วยอะไรมากนักแต่ในเวลาต่อมา เจวี๋ยซินก็ได้เริ่มทำการใช้วิชามารที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้อย่าง วิชามหาเวทสลายชีพจรทันที ผ่านไป
“เข้ามาเลย!”สีหน้าหยางผั่วจวินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็เริ่มด้วยเช่นกันในชั่วพริบตา ทั้งสองต่างก็นำพาพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ในเวลาอันสั้น ทั้งสองกลับมีการแลกกระบวนท่ากันไปแล้วกว่าสิบกระบวนท่าภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้มีการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงไปกับความตื่นตาตื่นใจทุกคนต่างจ้องมองการต่อสู้บนสนามโดยไม่ละสายตาหลัก ๆ แล้วการต่อสู้ของทั้งสองนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งมาก ทั้งชีวิตนี้ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกแล้วนอกจากนี้ พวกเขาต่างก็มีผู้สนับสนุนของตนเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันหลังจากการเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง หยางผั่วจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดอย่างมีความสุขออกไปว่า “สะใจ นี่สิ ถึงจะเรียกว่าการต่อสู้!”“คนเมื่อกี้ มารโลหิตอะไรนั่นก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้นแหละ!”“......”ทุกคนที่กำลังตั้งใจดูการต่อสู้ จู่ ๆ พูดแบบนี้ขึ้นมา เสียมารยาทเกินไปไหมถ้าบอกว่ามารโลหิตคือขยะ เช่นนั้นพวกเราล่ะ?สีหน้าเจวี๋ยซินดูเคร่งเครียด แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แทบจะใช
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กันทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนพวกเขาไม่มีเวลาให้ได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำในเวลาอันสั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ สถานการณ์ในสนามก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มารโลหิตถูกสังหารในทันทีไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าหยางผั่วจวินจะลงมือได้อย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ แถมยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอีกต่างหากบอกได้เลยว่า ในตอนนั้นมารโลหิตเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตนจะต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้ในใจของตู๋เปียนฝูและบรรพจารย์หวงเฉวียนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน พลังของพวกเขาต่างจากมารโลหิตก็จริง กระทั่งยังแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาบุกเข้าไป ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกโชคดีมากจริง ๆโดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เมื่อกี้เขาเองก็กำลังคิดที่จะลงมือเช่นกันถ้าหากเขาลงมือจริง ๆ ตอนนี้คนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็คงเป็นเขาไปแล้วปรมาจารย์ที่แท้จริง น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?พวกเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าระดับปรมาจารย์ที่ตนมีอยู่ตอนนี้จะเป็นของปลอมรึเปล่าเย
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจอย่างมากอึก!มารโลหิตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่หมัดเดียว อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี สภาพดูน่าอนาถมาก เห็นได้ชัดว่าภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้าใจก่อนว่า ความสามารถของเขาเองก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาในการบรรลุจะเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้วพูดตามตรง ความแข็งแกร่งของเขายังห่างจากหยางผั่วจวินอยู่มาก ซึ่งความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินตอนนี้ก็ได้ไปถึงคอขวดของระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว บวกกับร่างกายที่ไม่เหมือนใครของหยางผั่วจวินที่ทำการโจมตีอย่างฉับพลันนั่นอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสามารถรับกระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้ ช่างเป็นความเร็วที่น่าทึ่งจริง ๆ!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก!ทุกคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วเมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที!สามหาว!สามหาวเกินไปแล้ว!นี่มันสามหาวจนเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!เยว่เหลียนหานและคนจากสำนักดอกไม้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน จนเกือบคิดว่าตัวเองประสาทหลอนไปแล้วเสียอีก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหยางผั่วจวินคนนี้แข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่นี่มันก็บ้าเกินไปแล้ว คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะมีความสามารถมากขนาดนั้น ถึงคิดที่จะสู้กับปรมาจารย์ยอดฝีมือพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ คนอีกอย่าง แค่เจวี๋ยซินคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้แล้ว ยังไงซะ นั่นก็เป็นถึงคนที่มีฝีมือเทียบเท่ากับชิงหลงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มู่หรงอินเองก็ยังชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจเผยออกมาจากแววตาของเธอลูกน้องของลูกชายตนช่างอวดเก่งเสียจริง ไม่เห็นเจวี๋ยเทียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คิดจะลุยเดี่ยวเลยรึไงดวงตาของทูตใหญ่เบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจจูเก่อหลิวหลีกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องของคุณชาย ยอดเยี่ยมจริง ๆอย่าว่าแต่พวกเขาเลย เย่เทียนหยู่เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันเชี่ย!เจ้าเด็กนี่ เพื่อที่จะแย่งคู่ต่อสู้มาให้ได้ จำเป็นต้องขนาดนี้เ