เย่เทียนหยู่ไม่เคยรู้ความคิดของซูถิงเลย และไม่รู้ด้วยว่าหลินหว่านหรูไปหารัฐมนตรีไช่ด้วยตัวเอง และได้ค้นพบเรื่องราวลึกลับมากมายบนตัวเขาได้รู้ว่าความจริงเขามีอำนาจและความสามารถมหาศาลหัวใจของขาก็รู้สึกอิ่มเอมเป็นอย่างมากคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะรักฝังใจนานขนาดนี้ ยังจำตอนที่ตัวเขาเป็นยาจกตอนนั้นได้อยู่เลย แล้วยังเก็บเขาไว้ในเสมอมาด้วยเห็นได้ชัดว่าซูถิงจงไม่คิดว่าคำพูดของเธอไม่เพียงแต่ไม่อาจทำลายภาพลักษณ์ของเย่เทียนหยู่ในใจของหลินหว่านหรูได้ แต่กลับทำให้หลินหว่านหรูยิ่งชอบเขาขึ้นไปอีกถึงขั้นไม่สนใจความไม่ไว้วางใจของหลินหว่านหรูอีกต่อไปหลังจากออกจากที่นี่แล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งหรือที่เฉินเข่อซินอาศัยอยู่ แต่ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนมู่ในตอนนี้อิทธิพลของตระกูลซาได้ถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง และอำนาจในมือของถานล่างได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นของเทียนมู่กรุ๊ปทั้งหมด รวมถึงฉีเฟยกรุ๊ปด้วยสำหรับเงินสองหนึ่งหมื่นล้านที่ได้รับคืนนั้น ทั้งหมดกลับเข้าฉีเฟยกรุ๊ปโดยไม่ได้มีข่าวออกมา และตกไปอยู่ในมือของถานล่างทั้งหมดเทียนมู่กรุ๊ปในปัจจุบันได้กลายเป็นบริ
“ขอแค่ยกระดับตัวเองได้ก็พอแล้วค่ะ” แววตาของหยางหยิ๋งมุ่งมั่นมาก“คุณมีความคิดที่ดี พยายามเข้า”เย่เทียนยู่ไม่ได้พูดอะไรมาก หันกลับมาแล้วพูดว่า: “ผั่วจวิน ไปกันเถอะ ผมจะช่วยคุณฝึกฝนชิงหลงเจวี่ยสามระดับกลาง”“ได้ครับ ขอบคุณคุณชายมาก!”หยางผั่วจวินพูดอย่างตื่นเต้นทั้งสองเข้าไปในสถานที่เฉพาะอย่างรวดเร็ว หลังจากอธิบายสั้น ๆ เขาก็ให้หยางปั่วจวินนั่งขัดสมาธิทันทีและเริ่มช่วยฝึกจิตในระดับที่สี่ถึงหกด้วยพรจากพลังอันทรงพลังและมหาศาลของเย่เทียนหยู่ ในที่สุดหยางผั่วจวินก็เชี่ยวชาญเทคนิคทางจิตทั้งสามระดับกลางได้ แม้ว่าตัวเขาจะเต็มไปด้วยเจ็บปวดก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปมามากกว่าสิบครั้งติดต่อกันโดยมีความช่วยเหลือของเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาสามารถรวบรวมและคุ้นเคยกับเส้นทางการฝึกฝนได้อย่างสมบูรณ์จากนั้น เย่เทียนหยู่ก็ค่อย ๆ เก็บกวาดภารกิจ พร้อมมีเหงื่อออกเล็กน้อยบนหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเขาใช้ความพยายามไปไม่น้อยการการฝึกฝนครั้งนี้ใช้เวลาเกือบทั้งบ่ายเย่เทียนหยู่ใช้r]y’อย่างมากในการฝึกฝนหยางผั่วจวิน เขาหวังที่จะสร้างสุดยอดปรมาจารย์ที่น่ากลัวอย่างยิ่งแล
“แน่นอน ภัตราคารเซียนเมามายน่ะไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไปหรอกนะ แค่มีเงินก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ วันนี้ผมจะพาคุณเข้าไปดู”ชายผู้มีกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยู่มองตามการจ้องมองของเฉินเข่อซิน และอดไม่ได้ที่จะมองตรงไปรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไม่สวยเท่าของเฉินเข่อซินแต่เธอก็หยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยพื้นฐานแล้วเธอมีรูปร่างที่ดีและมีเสน่ห์มาก“เฉินเข่อซิน?”“เป็นเธอจริง ๆ ด้วย เธอมาที่นี่เพื่อทานอาหารด้วยเหรอ?”อู๋หลิงดูตกใจใบหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่เธออยู่ในวิทยาลัย อู๋หลิงมักจะมีปัญหากับเธอเพราะผู้ชายที่เธอชอบตามจีบเธอ อู๋หลิงเลยรังแกเธอหลายครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจออู๋หลิงที่นี่วันนี้ อาจเป็นเพราะถูกรังแกมาตลอดจึงรู้สึกกลัวนิดหน่อยโดยไม่มีเหตุผล“ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ? ดูเหมือนไม่ได้มาเพื่อทานอาหารแต่มาหางานมากกว่าล่ะสิ?”“แต่สถานที่ระดับสูงแบบนี้คงไม่ต้องการคนจนไร้รสนิยมแบบเธอหรอกนะ” อู๋หลิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยูขมวดคิ้ว เขารู้สึกโกรธแทนเฉินเข่อซินเล็กน้อย แล้วเขาจะทนกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้ยังไง เขาพูดอย่างเย็นชา: “ใครบอกคุณว่าเรากำลังมองหางาน เรามาที่
อู๋หลิงพยักหน้าอันที่จริงเด็กหญิงทั้งสองสังเกตเห็นสถานการณ์ที่ด้านหน้าประตูแล้ว แต่มันอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย และไม่ใช่เรื่องของพวกเธอ แต่เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่มา พวกเขาก็พูดทันที: “ท่านคะ โปรดแสดงบัตรสมาชิกของท่านด้วยค่ะ!”ผู้ที่มาที่นี่เพื่อทานอาหารล้วนเป็นสมาชิกของภัตราคารเซียนเมามาย และอย่างน้อยก็ต้องมีเงินเก็บมากกว่าห้าล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นคนรวยธรรมดา ๆ จะไม่มาที่นี่เพื่อทานอาหารเย่เทียนหยู่หยิบแบล็กการ์ดมังกรดำออกมา เพราะเขาเห็นป้ายที่นี่ ซึ่งเป็นของหอการค้าหลงเถิงด้วย ร้านใดก็ตามที่อยู่ภายใต้หอการค้ามังกรสามารถใช้การ์ดมังกรดำได้เมื่อหญิงสาวเห็นการ์ดสีดำ เธอก็สะดุ้งเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ท่านคะ ท่านหยิบการ์ดมาผิดหรือเปล่าคะ?”พี่เหลียงที่อยู่ข้างหลังเขาหัวเราะเสียงดังและพูดประชด: “เจ้าหนู แกคิดว่านี่เป็นสถานที่ที่แกสามารถเข้าไปได้ด้วยบัตรช้อปปิ้งอย่างนั้นเหรอ?”“ฮ่าฮ่า ตลกชะมัดเลย!” อู๋หลิงก็หัวเราะออกมาเสียงดังเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ผู้หญิงสองคนจำการ์ดใบนี้ไม่ได้ ช่างลำบากจริง ๆ เลยนะแต่แล้วผู้หญิงอีกคนก็ลังเลและพูดว่า “เสี่ยวจวน เอาการ์ดให้ฉันดูหน่อย”ผู้หญิงชื่อเสี่ยวจวนร
ทันทีที่พนักงานได้ยินก็รีบเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับคุณชาย ที่นั่งด้านนอกนี้ของเราไม่มีการกำหนดที่นั่งนะครับ หรือเราจัดห้องวีไอพีให้ท่านแทนดีไหมครับ?”“ห้องวีไอพีอะไร ผมจะนั่งตรงนี้” พี่เหลียงพูดด้วยอารมณ์โหดเหี้ยม“แต่ท่านชายและท่านหญิงทางนั้นมาาที่นี่ก่อนนะครับ”“ไม่สำคัญว่าจะมาที่นี่ก่อนหรือไม่ วันนี้ผมจองที่นั่งไว้แล้ว ผมไม่เชื่อว่าผมที่เป็นสมาชิกระดับสามดาวจะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งด้วยซ้ำ!”การเป็นสมาชิกระดับสามดาวไม่ใช่จะได้มาด้วยการเติมเงินเท่านั้น แต่ยังมาจากการใช้จ่ายสะสมในจำนวนที่เพียงพออีกด้วยว“ผู้จัดการอยู่ไหน? โทรหาผู้จัดการซุนมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”ก่อนที่บริกรจะพูดได้ พี่เหลียงก็พูดด้วยท่าทางเอาแต่ใจอู๋หลิงที่อยู่ข้าง ๆ ยิ่งดูภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมองเฉินเข่อซินอย่างเหน็บแนมไม่ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน กล้าสู้กับฉัน วันนี้แกจะได้ขายหน้าแน่ผู้จัดการอยู่ใกล้ๆ เมื่อเขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ เขาก็มา เมื่อเห็นบุคคลนั้นเขาก็กลายเป็นคนรู้จัก เขารีบพูดว่า: “พี่เหลียง เกิดอะไรขึ้นครับถึงได้โกรธขนาดนี้? ““คุณว่าไงล่ะ?”“ผู้จัดการซุน เกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร ทำไมขยะพวก
“แล้วก็นั่งคนต้อนรัลที่ประตูด้วย เธอกับไอ้เด็กนี่ตั้งใจให้มันเข้ามา”พี่เหลียงกล่าวหลังจากฟังเรื่องนี้จบผู้จัดการซุนเชื่อคำพูดของพี่เหลียง และพูดอย่างเย็นชา: “ท่านครับ ถ้าคุณมีบัตรสมาชิกจริง ๆ โปรดเอามันออกไป ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าผมหยาบคาย”“เหอ ๆ คุณยังคิดจะหยาบคายกับผมด้วยเหรอ?”“ดูเหมือนว่า แบล็คการ์ดมังกรบ้าบอนี้จะใช้งานไม่ได้! ฉันจะโทรหา หยางต้าฝูในภายหลังและถามเขาว่าเขาหมายถึงอะไร”ขณะที่เย่เทียนหยู่พูด เขาก็โยนแบล็กการ์ดหลงเถิงใส่หน้าผู้จัดการซุน และจากนั้นมันก็ตกลงไปที่พื้นแบล็คการ์ดมังกรบ้าบอเหรอ?เรียกหยางต้าฟู่ด้วยชื่อเต็มเขาเหรอ?เด็กคนนี้บ้าไปแล้วจริง ๆ !ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับแบล็กการ์ดหลงเถิงและหยางต้าฝูต่างตกตะลึงหลินจื่อตงสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงอดีตของเย่เทียนหยู่คนคนนี้ เขากก็มักทำตัวหยิ่งผยองอยู่ตลอดเวลา คิดว่าตัวเองเก่งจนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงไม่สิ นั่นคือแบล็กการ์ดหลงเถิงใช่ไหม?เป็นไปไม่ได้!สีหน้าของผู้จัดการซุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าหยิ่งยโสขนาดนี้มีไม่มาก พวกเขาคงจะไม่ได้เป็นคนหใญ่คนโตจริง ๆ หรอกใช่ไหม“แบล็กการ์ดหลงเถิง?
จบเห่!มันเป็นแบล็กการ์ดมังกรดำหลงเถิงจริง ๆ !และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพิ่งเรียกหยางต้าฝูด้วยชื่อเต็มของเขา และดูเหมือนว่าจะไม่ได้เห็นหยางต้าฝูอยู่ในสายเลยด้วยซ้ำ ตัวตนของเขาต้องน่ากลัวอย่างยิ่งมือของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่น เขาเช็ดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผากแล้ววิ่งกลับมาอย่างรวดเร็วทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้จัดการซุน ไม่จริงน่า ดูเหมือนเขาจะต้องการตรวจสอบความถูกต้องของการ์ดจริง ๆหรือว่านี่คือแบล็กการ์ดหลงเถิงจริงๆเป็นไปไม่ได้!ใครก็ตามที่รู้จักแบล็กการ์ดหลงเถิงต่างก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้พี่เหลียงและอู๋หลิงยิ่งสับสนมากขึ้น พวกเขารู้สึกว่าผู้จัดการซุนกำลังทำให้เขาเสียเวลาไม่ต้องดู ก็รู้ว่าน่าจะเป็นบัตรปลอมแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าแบล็กการ์ดหลงเถิงคืออะไรและมันหมายถึงอะไรเมื่อมองไปที่ผู้จัดการซุนที่วิ่งกลับมา พี่เหลียงก็ตะคอกอย่างเย็นชา: “ผู้อาวุโสซุน ไม่ทราบเหรอว่าเป็นของปลอม? ผมบอกคุณแล้ว คุณ ... ““หุบปาก!”ผู้จัดการซุนตะโกนใส่พี่เหลียงอีกครั้ง ถ้าเขาไม่เห็นว่าอีกฝ่ายรวยและมักพาผู้หญิงไปใช้เงิน เขาคงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจคนคนนี้ขนาดนั้นตอนนี้เพราะความสุภาพ
นอกเสียจากว่า เขาไม่ได้วางหยางต้าฝูไว้ในสายตาเลยถ้าเป็นแบบนั้นละก็ หรือเย่เทียนหยู่จะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาเห็น?ถึงแม้ว่าหลินจื่อตงวัน ๆ จะไม่ทำอะไรเลยสักอย่างและเอาแต่สร้างปัญหาไปทั่ว แต่เขาก็ยังไม่โง่เขลาขนาดนั้นหลังจากที่ผู้จัดการซุนสอนบทเรียนให้กับพวกเขาทั้งสองแล้ว เขาก็กลับมาหาเย่เทียนหยู่ และทำตัวเป็นผู้น่าสงสารอีกครั้ง ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง: “ท่านครับ ผมขอโทษจริง ๆ สำหรับเรื่องวันนี้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย”“มองคุณแล้ว การ์ดเป็นของจริงใช่ไหมครับ?” เย่เทียนหยู่หยิบการ์ดขึ้นมาแล้วถามเบา ๆ“ใช่ แน่นอน มันเป็นการ์ดมังกรดำของแท้แน่นอน!”ผู้จัดการซุนพูดเสียงดังและยืนยันทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป สายตาของทุกคนก็ตกตะลึงดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้พูดจะเป็นเรื่องจริง“การ์ดใบนี้ยังมีผลอยู่หรือเปล่า?” เย่เทียนหยู่ถาม“มีผลครับ มันมีผลแน่นอนครับ!”ผู้จัดการซุนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยิ้มอย่างระมัดระวัง“ดีเลย มันจะได้ง่ายหน่อย ฉันจะได้ไม่ต้องโทรหาหยางต้าฟู่” เย่เทียนหยู่เห็นผู้คนมากมายเฝ้าดูอยู่รอบ ๆ และไม่อยากทำให้เรื่องแย่ลง“ได้ครับดีมากแลย ขอบคุณท่านชาย”“
ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป
“ช่างเถอะ เห็นแก่หน้าหว่านหรู ผมเองก็ไม่อยากจะเถียงกับคุณแล้วเหมือนกัน”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และกำลังจะกดโทรออกแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของโจวฉิงก็ดังขึ้น เธอก้มลงมองครู่หนึ่ง ก่อนที่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบพูดออกไปว่า “มะ หม่าต้านโทรมาค่ะ”“โอ้ พอดีเลย จะได้ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วย!”เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีเรียบเฉย“......”โจวฉิงจึงรีบกดรับสายอย่างช่วยไม่ได้ และเพื่อให้เย่เทียนหยู่ได้ยินเนื้อหาบทสนทนา เธอจึงกดเปิดลำโพงทันทีที่รับสาย พร้อมกับพูดด้วยความสุภาพออกไปว่า “ค่ะ ประธานหม่า!”แต่หม่าต้านกลับไม่สุภาพเลยแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงฮึดฮัดออกมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ประธานโจว คุณพิจารณาข้อเสนอที่เรามอบให้ไปถึงไหนแล้ว?”โจวฉิงเหลือบมองไปยังเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ประธานหม่าคะ ข้อเรียกร้องของคุณค่อนข้างที่จะเข้มงวดเกินไป พวกเราไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ค่ะ”“งั้นเหรอ หมายความว่าพวกคุณไม่ยินยอมสินะ?” หม่าต้านโกรธจัดโจวฉิงหันไปมองเย่เทียนหยู่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา แต่ก็ย
เมื่อเห็นว่าโจวฉิงเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดสักเท่าไหร่ หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยออกมาว่า “โจวฉิง แค่เงินไม่กี่หมื่นล้าน สำหรับเทียนหยู่แล้ว มันแทบไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำ!”“เอ่อ......”โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย ที่เธอพูดออกมาว่าหลายหมื่นล้านนั้น เดิมทีก็เป็นคำพูดที่เกินจริงอยู่แล้ว แน่นอน เกี่ยวกับการสร้างโรงงาน รวมถึงการซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เงินที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้กับค่าใช้จ่ายจำนวนหมื่นล้านมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเมื่อหลินหว่านหรูเห็นว่าโจวฉิงยังไม่ค่อยเชื่อ เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะเปิดข้อความให้ดู พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบออกไปว่า “ไม่งั้น คุณก็ลองดูสิ่งนี้ก่อนสิ”โจวฉิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอพยายามลองมองอย่างละเอียด ก่อนที่ต่อมาสีหน้าจะเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจ และถามออกไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นว่า “ห้าแสนล้านเหรอคะ?” ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นจำนวนเงินมหาศาลจนน่าตกใจมากขนาดนี้มาก่อน“นี่ เขาเป็นคนให้คุณเหรอคะ?”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พอเขาเห็นว่าฉันอยากจะลงทุนกับอุตสาหกรร
โจวฉิงรู้สึกสับสนนิดหน่อย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มาพูดเรื่องการร่วมมือได้ หรือว่าอีกฝ่ายจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ เพียงแต่รอดูว่าตนจะสามารถให้ผลประโยชน์อะไรได้บ้างก็เท่านั้นใช่ จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ แล้วคุณคิดว่าเราควรจะร่วมมือกันในรูปแบบไหนถึงจะดีคะ?”“ผมว่าคุณเป็นคนเสนอจะดีกว่านะครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโจวฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงขีดจำกัดที่พ่อเธอมี เธอจึงพูดออกไปว่า “หากเป็นไปได้ พวกเราก็หวังว่าจะได้รับเงินลงทุนประมาณสองพันห้าร้อยล้านค่ะ จากนั้นหุ้นให้พวกคุณถือหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า การบริหารและการดำเนินงานต่าง ๆ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของพวกเราค่ะ”ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างพิเศษเช่นนี้ อันที่จริงเธอเองก็ไม่กล้าที่จะหวังอะไรมากเหมือนกัน“สองพันห้าร้อนล้านมันน้อยเกินไป ทำให้น้ำกระเซ็นยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”“งั้นเอาอย่างนี้นะ พวกเราจะมอบเงินลงทุนให้คุณหนึ่งหมื่นล้าน แลกกับหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์! และต้องให้หลินหว่านหรูเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารด้วย คุณคิดว่าแบบนี้เป็นไงบ้าง?”หนึ่งหมื่นล้านงั้นเหรอ?โจวฉิงรู้สึกตกใจ นี
โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย นี่หลินหว่านหรูกำลังจะไปถามใครกันอย่างไรก็ตาม เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ทำได้เพียงรีบเดินตามไปเท่านั้น แม้เรื่องนี้จะเร่งด่วนมากก็ตาม แถมอีกฝ่ายยังกำหนดเวลาให้ถึงแค่ภายในวันนี้อีกต่างหาก ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ทานข้าวก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินเพียงสามนาทีเท่านั้น ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงด้านหน้าของห้องอาหารสุดหรูกันแล้วเห็นได้ชัดว่าราคาจะต้องแพงหูฉีกแน่นอน คนธรรมดาไม่มีทางมาทานข้าวในที่แบบนี้ได้ บรรยากาศด้านในเองก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสะอาดเรียบร้อยทั้งสะดวกสบายตามห้องอาหารส่วนตัวที่เย่เทียนหยู่บอกเอาไว้ หลินหว่านหรูจึงได้เดินเข้าไปในทันทีโจวฉิงเองก็เดินตามหลังไปติด ๆ ทันทีที่เดินเข้าไป เธอก็เห็นชายหนุ่มอายุราว ๆ ยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ด้านในรูปลักษณ์ของเขานั้น ทั้งหล่อและมีเสน่ห์อย่างมาก รูปร่างเองก็ได้มาตรฐาน แค่มองแวบแรก ก็รู้ได้เลยว่าเขาจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาว ๆ อย่างแน่นอนเขาคือใครกัน อย่าบอกนะว่าเขาคือแฟนของหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูช่างตาดีเสียจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถมากแค่ไหน คงไม่ได้เป็นแค่ผู้ชาย
และการที่มู่หรงอินทำดีกับตนแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเทียนหยู่ รักรังนกก็ต้องรักตัวนกด้วยเมื่อย้อนกลับมาดูตัวเอง ทำไมตนถึงไม่มีแม่แบบนี้บ้างกันนะพูดถึงความแตกต่าง ความแตกต่างระหว่างเธอกับเทียนหยู่ในตอนนี้มันก็คือความรู้สึกแตกต่างที่แม่ของเธอเคยมองเธอกับเย่เทียนหยู่มาก่อน แต่คุณป้ากลับไม่เคยดูถูกตัวเธอเลยสักครั้ง กระทั่งอาจจะดูแลเอาใจใส่เธอมากกว่าเสียด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงแม่ของตัวเอง ไม่รู้เลยว่าช่วงนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง อย่างจะโทรหาอยู่ลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังคงอดทนเอาไว้และต่อให้เธอจะไม่โทร แม่ของเธอก็ไม่คิดจะโทรหาเธออยู่ดีช่างเถอะ ทำไมจะต้องคิดมากขนาดนั้นด้วย อย่างน้อยก็ยังมีเทียนหยู่ที่ดีกับเธอ เมื่อนึกถึงเย่เทียนหยู่ ริมฝีปากหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเวลาล่วงเลยจนมาถึงเที่ยงวัน หลินหว่านหรูก็ได้รับสายของเย่เทียนหยู่ ไม่นานเธอก็รีบลงจากตึกเพื่อออกไปข้างนอกทันทีที่เธอเพิ่งจะเดินออกมา เธอก็เห็นโจวฉิงที่ดำลังเดินอย่างเร่งรีบอยู่ด้านนอกเข้าในทันทีโจวชิงสวมใส่ชุดเดรส ร่างกายของเธอเพรียวบาง ขาเรียวยาว แต่สีหน้าของเธอกลับดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ใ
หลังจากที่คำนั้นถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที หนึ่งในพนักงานถึงกับอดไม่ได้จนต้องร้องอุทานออกมาเสียงดัง“ประธานเย่คะ พวกเรารู้ดีค่ะ ว่าประธานหลินมีข้อขัดแย้งกับคุณ แต่ว่าประธานหลินเป็นคนดีมากเลยนะคะ เธอคือความหวังของบริษัท อย่างไล่เธอออกเลยได้ไหมคะ?”“ใช่ค่ะ ประธานเย่คะ ขอร้องล่ะค่ะ ให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะคะ”“ใช่แล้วครับ ประธานเย่ พวกเราต้องการประธานหลินครับ!”“ช่วยให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะครับ!”“......”เมื่อมีผู้นำ ก็ย่อมมีผู้ตาม ไม่นาน ทุกคนต่างก็พากันพูดขอร้องด้วยความตื่นเต้นเพื่อให้หลินหว่านหรูได้ทำงานที่บริษัทต่อ จะเห็นได้ว่า ในสายตาของพวกเขา หลินหว่านหรูทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากจริง ๆฉากแบบนี้ อย่าว่าแต่เย่ซานที่ได้รู้เรื่องอะไรยังรู้สึกอึ้งเลย แม้แต่หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกสับสนไปด้วยเช่นกันเธอคิดไม่ถึงเลยว่า นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่ทุกคนก็กลับให้การสนับสนุนเธอมากถึงขนาดนี้เย่ซานรู้สึกตกใจ ในเวลานี้เขาเองก็เพิ่งจะเข้าใจ ว่าหลินหว่านหรูยอดเยี่ยมกว่าที่ตนคิดเอาไว้มาก การที่ท่านประธานพูดแบบนั้น เกรงว่าไม่ใช
“ฉันเองก็ไม่รู้ เธออาจจะต้องพึ่งตัวของเธอเองแล้วล่ะ”เมื่ออดีตราชามังกรพูดมาถึงตรงนี้ เขาจึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกมาอีกว่า “เทียนหยู่ เรื่องของตระกูลเย่เธอเองก็น่าจะได้ยินมาบ้างแล้วใช่ไหม?”“อือ!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า“เธอคิดเอาไว้บ้างไหม ว่าจะจัดการยังไง?” อดีตราชามังกรถาม“อีกไม่นานผมจะเดินทางไปที่อาณาจักรมังกรแล้วครับ” นี่คือแผนที่เย่เทียนหยู่คิดเอาไว้ในใจ สำหรับอาจารย์แล้ว เขาเองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง“เธอนี่นะ จิตใจดีจนเกินไปจริง ๆ กะแล้วว่าจะต้องเลือกแบบนี้ แต่มีอีกเรื่องที่ฉันอาจจะต้องบอกเธอให้รู้เอาไว้ เกี่ยวกับเรื่องที่ตระกูลเย่ถูกกดขี่อยู่ตอนนี้ อันที่จริงเบื้องหลังมีผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งมาก ๆ ผู้หนึ่งคอยหนุนหลังอยู่น่ะสิ”“ใครเหรอครับ?”“ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่เขาก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพยาดาแดนดินที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว”“แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ หากเป็นเช่นนี้ ตระกูลเย่ก็แทบไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยน่ะสิครับ?”“นั่นเพราะยังไม่จำเป็นต้องให้เขาเป็นคนลงมือด้วยตัวเองน่ะสิ ถ้าหากเธอช่วยตระกูลเย่ เธอก็อาจจะเผลอไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตผู้นั้นเข้าก็ไ
เมื่อคืนเธอสามารถหลับได้อย่างสบายใจ หลักจากที่ตื่นเช้าขึ้นมา พอหลินหว่านหรูลงจากเตียง เธอก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขช่วงหลายวันมานี้ เธอไม่เคยรู้สึกสบายใจเท่ากับเมื่อคืนมาก่อนเลยรู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน ทำไมตัวเองถึงได้มีความสุขมากขนาดนี้ช่วงเวลาเก้าโมงเช้า หลินหว่านหรูปรากฏตัวที่บริษัทตามเวลาเข้างาน หลังจากที่เธอทบทวนมาทั้งคืน เธอก็เปลี่ยนการตัดสินใจของเธอ นี่ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะต้องจากเทียนเฟิงกรุ๊ปไปเพราะแบบนั้นมันก็เท่ากับเธอกำลังหนีปัญหาในช่วงเวลาที่สำคัญ หรือต่อให้เธอจะต้องจากไปจริง ๆ เธอก็ควรที่จะสร้างผลงานให้เป็นชิ้นเป็นอันเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงจะรู้สึกผิดต่อความรักความเอ็นดูที่มู่หรงอินมีต่อเธอเป็นแน่เมื่อเห็นหลินหว่านหรู ทุกคนต่างก็แสดงความเคารพต่อเธอด้วยความจริงใจแม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่การบริหารและการจัดการของหลินหว่านหรูก็ทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจมากจริง ๆประสิทธิภาพของบริษัทเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปัจจุบันผลทางสถิติอาจจะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่มันก็ทำให้ทุกคนสามารถ