ทันทีที่พนักงานได้ยินก็รีบเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับคุณชาย ที่นั่งด้านนอกนี้ของเราไม่มีการกำหนดที่นั่งนะครับ หรือเราจัดห้องวีไอพีให้ท่านแทนดีไหมครับ?”“ห้องวีไอพีอะไร ผมจะนั่งตรงนี้” พี่เหลียงพูดด้วยอารมณ์โหดเหี้ยม“แต่ท่านชายและท่านหญิงทางนั้นมาาที่นี่ก่อนนะครับ”“ไม่สำคัญว่าจะมาที่นี่ก่อนหรือไม่ วันนี้ผมจองที่นั่งไว้แล้ว ผมไม่เชื่อว่าผมที่เป็นสมาชิกระดับสามดาวจะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งด้วยซ้ำ!”การเป็นสมาชิกระดับสามดาวไม่ใช่จะได้มาด้วยการเติมเงินเท่านั้น แต่ยังมาจากการใช้จ่ายสะสมในจำนวนที่เพียงพออีกด้วยว“ผู้จัดการอยู่ไหน? โทรหาผู้จัดการซุนมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”ก่อนที่บริกรจะพูดได้ พี่เหลียงก็พูดด้วยท่าทางเอาแต่ใจอู๋หลิงที่อยู่ข้าง ๆ ยิ่งดูภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมองเฉินเข่อซินอย่างเหน็บแนมไม่ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน กล้าสู้กับฉัน วันนี้แกจะได้ขายหน้าแน่ผู้จัดการอยู่ใกล้ๆ เมื่อเขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ เขาก็มา เมื่อเห็นบุคคลนั้นเขาก็กลายเป็นคนรู้จัก เขารีบพูดว่า: “พี่เหลียง เกิดอะไรขึ้นครับถึงได้โกรธขนาดนี้? ““คุณว่าไงล่ะ?”“ผู้จัดการซุน เกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร ทำไมขยะพวก
“แล้วก็นั่งคนต้อนรัลที่ประตูด้วย เธอกับไอ้เด็กนี่ตั้งใจให้มันเข้ามา”พี่เหลียงกล่าวหลังจากฟังเรื่องนี้จบผู้จัดการซุนเชื่อคำพูดของพี่เหลียง และพูดอย่างเย็นชา: “ท่านครับ ถ้าคุณมีบัตรสมาชิกจริง ๆ โปรดเอามันออกไป ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าผมหยาบคาย”“เหอ ๆ คุณยังคิดจะหยาบคายกับผมด้วยเหรอ?”“ดูเหมือนว่า แบล็คการ์ดมังกรบ้าบอนี้จะใช้งานไม่ได้! ฉันจะโทรหา หยางต้าฝูในภายหลังและถามเขาว่าเขาหมายถึงอะไร”ขณะที่เย่เทียนหยู่พูด เขาก็โยนแบล็กการ์ดหลงเถิงใส่หน้าผู้จัดการซุน และจากนั้นมันก็ตกลงไปที่พื้นแบล็คการ์ดมังกรบ้าบอเหรอ?เรียกหยางต้าฟู่ด้วยชื่อเต็มเขาเหรอ?เด็กคนนี้บ้าไปแล้วจริง ๆ !ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับแบล็กการ์ดหลงเถิงและหยางต้าฝูต่างตกตะลึงหลินจื่อตงสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงอดีตของเย่เทียนหยู่คนคนนี้ เขากก็มักทำตัวหยิ่งผยองอยู่ตลอดเวลา คิดว่าตัวเองเก่งจนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงไม่สิ นั่นคือแบล็กการ์ดหลงเถิงใช่ไหม?เป็นไปไม่ได้!สีหน้าของผู้จัดการซุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าหยิ่งยโสขนาดนี้มีไม่มาก พวกเขาคงจะไม่ได้เป็นคนหใญ่คนโตจริง ๆ หรอกใช่ไหม“แบล็กการ์ดหลงเถิง?
จบเห่!มันเป็นแบล็กการ์ดมังกรดำหลงเถิงจริง ๆ !และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพิ่งเรียกหยางต้าฝูด้วยชื่อเต็มของเขา และดูเหมือนว่าจะไม่ได้เห็นหยางต้าฝูอยู่ในสายเลยด้วยซ้ำ ตัวตนของเขาต้องน่ากลัวอย่างยิ่งมือของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่น เขาเช็ดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผากแล้ววิ่งกลับมาอย่างรวดเร็วทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้จัดการซุน ไม่จริงน่า ดูเหมือนเขาจะต้องการตรวจสอบความถูกต้องของการ์ดจริง ๆหรือว่านี่คือแบล็กการ์ดหลงเถิงจริงๆเป็นไปไม่ได้!ใครก็ตามที่รู้จักแบล็กการ์ดหลงเถิงต่างก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้พี่เหลียงและอู๋หลิงยิ่งสับสนมากขึ้น พวกเขารู้สึกว่าผู้จัดการซุนกำลังทำให้เขาเสียเวลาไม่ต้องดู ก็รู้ว่าน่าจะเป็นบัตรปลอมแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าแบล็กการ์ดหลงเถิงคืออะไรและมันหมายถึงอะไรเมื่อมองไปที่ผู้จัดการซุนที่วิ่งกลับมา พี่เหลียงก็ตะคอกอย่างเย็นชา: “ผู้อาวุโสซุน ไม่ทราบเหรอว่าเป็นของปลอม? ผมบอกคุณแล้ว คุณ ... ““หุบปาก!”ผู้จัดการซุนตะโกนใส่พี่เหลียงอีกครั้ง ถ้าเขาไม่เห็นว่าอีกฝ่ายรวยและมักพาผู้หญิงไปใช้เงิน เขาคงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจคนคนนี้ขนาดนั้นตอนนี้เพราะความสุภาพ
นอกเสียจากว่า เขาไม่ได้วางหยางต้าฝูไว้ในสายตาเลยถ้าเป็นแบบนั้นละก็ หรือเย่เทียนหยู่จะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาเห็น?ถึงแม้ว่าหลินจื่อตงวัน ๆ จะไม่ทำอะไรเลยสักอย่างและเอาแต่สร้างปัญหาไปทั่ว แต่เขาก็ยังไม่โง่เขลาขนาดนั้นหลังจากที่ผู้จัดการซุนสอนบทเรียนให้กับพวกเขาทั้งสองแล้ว เขาก็กลับมาหาเย่เทียนหยู่ และทำตัวเป็นผู้น่าสงสารอีกครั้ง ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง: “ท่านครับ ผมขอโทษจริง ๆ สำหรับเรื่องวันนี้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย”“มองคุณแล้ว การ์ดเป็นของจริงใช่ไหมครับ?” เย่เทียนหยู่หยิบการ์ดขึ้นมาแล้วถามเบา ๆ“ใช่ แน่นอน มันเป็นการ์ดมังกรดำของแท้แน่นอน!”ผู้จัดการซุนพูดเสียงดังและยืนยันทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป สายตาของทุกคนก็ตกตะลึงดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้พูดจะเป็นเรื่องจริง“การ์ดใบนี้ยังมีผลอยู่หรือเปล่า?” เย่เทียนหยู่ถาม“มีผลครับ มันมีผลแน่นอนครับ!”ผู้จัดการซุนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยิ้มอย่างระมัดระวัง“ดีเลย มันจะได้ง่ายหน่อย ฉันจะได้ไม่ต้องโทรหาหยางต้าฟู่” เย่เทียนหยู่เห็นผู้คนมากมายเฝ้าดูอยู่รอบ ๆ และไม่อยากทำให้เรื่องแย่ลง“ได้ครับดีมากแลย ขอบคุณท่านชาย”“
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า หลินจื่อตงก็ตกใจสุดขีดซูเหวินฮวาก็มาด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีอำนาจอะไร แต่นายน้อยคนรองของตระกูลซูซึ่งมีบุคลิกดีและเก่งในเรื่องการกิน ดื่ม เที่นสสาวและเล่นการพนันต่างเป็นที่รู้จักกันดีถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ได้ตายอนาถแน่ถึงยังไงตระกูลซูเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลหลักในเมืองเทียนไห่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่ดีเท่าตระกูลหยาง แต่ช่องว่างก็ไม่ใหญ่อย่างแน่นอน เย่เทียนหยู่ ซึ่งพึ่งพาพลังอำนาจปลอม ๆ ของตระกูลหยาง จะต้องตายอย่างแน่นอนในเวลานี้ ใบหน้าของซูเหวินฮวาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พี่เหลียงพูด ยากจกสองคนแย่งที่นั่งเขา น่าจะหมายถึงคุณชาเย่และหญิงสาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ เขาสาวงามคนนี้ ซูเหวินฮวารู้ดี ว่าคุรชายเย่หวงแหนเธอมากครั้งล่าสุดที่คุณชายเย่ใช้เงินห้าร้อยล้านเพื่อซื้อวิลล่าให้เขา ประเด็นสำคัญคือเธอไม่ต้องการมัน แต่เขายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลอกให้เธอรับมันไว้พี่เหลียงคิดว่าซูเหวินฮวาจะสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาจึงภูมิใจมากยิ่งขึ้นและพูดว่า: “นายน้อยซู คนจนสองคนนี้ โดยเฉพาะผู้จัดการซุนคนนี้เป็นเพียง ...”เพียะ!ก่อนที่เขาจะพ
“คุณชายเย่ เป็นความผิดของผมเองครับ ผมมีตาหามีแววไม่ กล้าไปล่วงเกินท่าน”“ขออภัยคุณชายแย่ ขอร้องล่ะได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ ขอแค่ท่านยอมยกโทษให้ผม จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอมครับ”เขาพูดพร้อมกับตบหน้าตัวเองไม่หยุดอู๋หลิงที่มองเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเธอก็ย่ำแย่ลงไปอีก ตอนนี้เองที่เธอเข้าใจในที่สุดว่าอำนาจของชายหนุ่มตรงหน้าเหนือกว่าจินตนาการของเธอขนาดไหน“ยังเอาแต่ยืนอยู่อีก ยังไม่รีบคุกเข่าลงตบห้นาตัวเองซะ”เมื่อมองดูอู๋หลิงที่ยังเอาแต่ยืนบื้ออยู่ข้าง ๆ พี่เหลียงก็โกรธจัด ก่อนจะพูดด้วยความโมโหว่า “ฉันจะบอกแกให้นะว่าถ้าฉันเป็นอะไรไปแกก็ไปรอความตายได้เลย”อู๋หลิงตกใจกลัวในทันที ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนยวบ ก่อนจะรีบคุกเข่าลงก้มหัวสองสามทีแล้วตบตัวเองอย่างแรงตามพี่เหลียงเธอรู้ดีว่าพี่เหลียงคนนี้ยามลงมือก็รุนแรงไม่น้อยผู้คนต่างแอบพากันส่ายหน้า คนเราไม่อาจมองกันที่ภายนอกได้จริง ๆ คนที่เข้ามาในร้านอาหารได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาแน่เฉินเข่อซินเองก็แอบเหม่อไปพักหนึ่ง ถึงเธอจะรู้ว่านายน้อยคนรองตระกูลซูมีเงินมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีอำนาจข่มขู่มากขนาดนี้ ถึงกลับทำให้เขากลัวได้ขนาดนี้
หลังฟังประโยคนี้จบ สีหน้าของทั้งพี่เหลียงและอู๋หลิงถึงกับซีดเผือด พวกเขาก็พากันก้มหัวลงเสียงดัง “คุณหนูเฉิน เรารู้ว่าเราผิดไปแล้วจริง ๆ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสเราอีกสักครั้งเถอะนะ”“ขอร้องล่ะ เธอเป็นพระแม่ผู้ช่วยเหลือคนยากลำบากนะ”“คุณหนูเฉิน เห็นแก่ที่เราเคยเป็น เพื่อนร่วมชั้นกัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ต่อไปฉันจะต้องเคารพเธอแน่นอน”อู๋หลิงตกใจกลัวจนกระโปรงเปียกอันที่จริงเฉินเข่อซินเองก็ตกใจเหมือนกัน สิ่งที่เย่เทียนหยู่ทำและทุกคำที่เขาพูดออกมาน่ากลัวมากจนทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่น “พอแล้ว พวกเธอก็ได้รับโทษแล้ว เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ” เธอรีบพูดขึ้นทันทีทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หัวใจของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงพร้อมกับร่างกายที่อ่อนยวบเมื่อกี้หัวใจของพวกเขาเต้นระรัวจนแถบหลุดออกจากร่าง น่ากลัวเกินไปแล้วผู้จัดการเองซุนก็ผ่อนลมหายใจโล่งอก ดีที่เขายังไม่ได้ทำผิดใหญ่หลวงอะไร ไม่อย่างนั้นละก็ เห็นทีวันนี้เขาคงได้ถึงวาระ“พี่เย่ ผมสะดวกนั่งด้วยได้ไหมครับ?”พอเห็นว่าสิ้นเรื่อง นายน้อยซูก็รีบพูดขึ้นทันที“ผมไม่สะดวก คุณเป็นถึงนายน้อยแท้ ๆ หาที่กินเองสิครับ” เย่เทียนหยู่กล่าวเ
“ฮ่า ฮ่า…”หยางปินโมโหจนแทบคลั่ง เขาพูดพร้อมหัวเราะ “คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าผมที่เป็นถึงนายน้อยตระกูลหยาง มาวันนี้จะถูกไอ้คนกระจอกไร้ชื่อดูถูกถึงขนาดนี้”“ไอ้กระจอก ไม่ว่าแกจะเป็นใคร วันนี้แกตายแน่”ทันทีที่คำพูดนี้สิ้นสุดลง ผู้คนรอบข้างต่างก็ตะลึงงันรอเดี๋ยว เขาพูดว่าอะไรนะ นายน้อยตระกูลหยาง?ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าเรียกตัวเองว่านายน้อยของตระกูลหยางได้โดยไม่สะทกสะท้านนแบบนี้ นอกจากเป็นสมาชิกของตระกูลหยางที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเทียนไห่แล้ว ใครอีกจะกล้าเรียกตัวเองแบบนั้นอีกทั้ง ชายที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ก็มีลูกชายเพียงคนเดียวหลินจื่อตงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไปมาหาสู่กับตระกูลหยางไม่น้อย แต่ปัญหาคือ เขาไม่รู้จักหยางปินเลยสักนิดเดียวทุกคนรอบตัวตกตะลึงอย่างมากให้ตายสิ!เพิ่งสอดรู้สอดเห็นเรื่องใหญ่จบไปเรื่องหนึ่ง ทำไมยังมีโผล่มาอีกเรื่องได้อีก?เกิดอะไรขึ้นกับร้านอาหารวันนี้กันนะ แรกเริ่มก็นายน้อยคนรองตระกูลซู ต่อมาก็คุณชายเย่ มาตอนนี้ก็มีนายน้อยตระกูลหยางที่มีอำนาจมากมาอีกคนหวังลี่ตกใจเล็กน้อย ลูกชายคนโตของตระกูลหยาง?แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักคนตระกูล