“ใช่แล้วล่ะ แล้วพวกเขาก็รู้จักกันมาหลายปีแล้วด้วย”“หว่านหรูเพิ่งอายุเท่าไร ถึงได้บอกว่ารู้จักมาหลายปี?”“ตั้งแต่เด็ก”“เพื่อสมัยเด็กเหรอ?”“ก็ไม่เชิงว่าอย่างนั้นหรอก ที่จริงช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ได้นานมาก แต่เด็กผู้ชายนั่นฝังอยู่ในใจของหว่านหรูมานานมากแล้วล่ะ”“บางครั้งหว่านหรูก็จะคิดถึงเขาขึ้นมา ถึงกับเคยพูดกับฉันตั้งหลายครั้งว่า วันหนึ่งผู้ชายคนนั้นจะกลับมาสู่ขอเธอ”“ส่วนเธอน่ะก็รอเด็กผู้ชายคนนั้นมาโดนตลอด!”คำพูดของซูถิงนั้นจริงครึ่งหนึ่งและเท็จครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยที่บอกว่าจะแต่งงานและเธอรอคอยเขาอยู่ก็เป็นเรื่องจริง“แล้วเด็กคนนั้นชื่ออะไรล่ะ?” เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะถาม เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับหลินหว่านหรู“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตัวหว่านหรูเองยังไม่รู้เลยค่ะ รู้แค่เรียกเขาว่ายาจกน้อย”ดวงตาของเย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำว่า “ยาจกน้อย” จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ ยาจกน้อย?”ซูถิงคิดนึกว่าเย่เทียนหยู่ไม่เชื่อเธอ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่จะชอบยาจกน้อย เธอพูดว่า “เป็นเรื่องจริงนะ ในตอนนั้น ขอทานตัวน้อยไม่รู้จักชื่อหว่านหร
เย่เทียนหยู่ไม่เคยรู้ความคิดของซูถิงเลย และไม่รู้ด้วยว่าหลินหว่านหรูไปหารัฐมนตรีไช่ด้วยตัวเอง และได้ค้นพบเรื่องราวลึกลับมากมายบนตัวเขาได้รู้ว่าความจริงเขามีอำนาจและความสามารถมหาศาลหัวใจของขาก็รู้สึกอิ่มเอมเป็นอย่างมากคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะรักฝังใจนานขนาดนี้ ยังจำตอนที่ตัวเขาเป็นยาจกตอนนั้นได้อยู่เลย แล้วยังเก็บเขาไว้ในเสมอมาด้วยเห็นได้ชัดว่าซูถิงจงไม่คิดว่าคำพูดของเธอไม่เพียงแต่ไม่อาจทำลายภาพลักษณ์ของเย่เทียนหยู่ในใจของหลินหว่านหรูได้ แต่กลับทำให้หลินหว่านหรูยิ่งชอบเขาขึ้นไปอีกถึงขั้นไม่สนใจความไม่ไว้วางใจของหลินหว่านหรูอีกต่อไปหลังจากออกจากที่นี่แล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งหรือที่เฉินเข่อซินอาศัยอยู่ แต่ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนมู่ในตอนนี้อิทธิพลของตระกูลซาได้ถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง และอำนาจในมือของถานล่างได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นของเทียนมู่กรุ๊ปทั้งหมด รวมถึงฉีเฟยกรุ๊ปด้วยสำหรับเงินสองหนึ่งหมื่นล้านที่ได้รับคืนนั้น ทั้งหมดกลับเข้าฉีเฟยกรุ๊ปโดยไม่ได้มีข่าวออกมา และตกไปอยู่ในมือของถานล่างทั้งหมดเทียนมู่กรุ๊ปในปัจจุบันได้กลายเป็นบริ
“ขอแค่ยกระดับตัวเองได้ก็พอแล้วค่ะ” แววตาของหยางหยิ๋งมุ่งมั่นมาก“คุณมีความคิดที่ดี พยายามเข้า”เย่เทียนยู่ไม่ได้พูดอะไรมาก หันกลับมาแล้วพูดว่า: “ผั่วจวิน ไปกันเถอะ ผมจะช่วยคุณฝึกฝนชิงหลงเจวี่ยสามระดับกลาง”“ได้ครับ ขอบคุณคุณชายมาก!”หยางผั่วจวินพูดอย่างตื่นเต้นทั้งสองเข้าไปในสถานที่เฉพาะอย่างรวดเร็ว หลังจากอธิบายสั้น ๆ เขาก็ให้หยางปั่วจวินนั่งขัดสมาธิทันทีและเริ่มช่วยฝึกจิตในระดับที่สี่ถึงหกด้วยพรจากพลังอันทรงพลังและมหาศาลของเย่เทียนหยู่ ในที่สุดหยางผั่วจวินก็เชี่ยวชาญเทคนิคทางจิตทั้งสามระดับกลางได้ แม้ว่าตัวเขาจะเต็มไปด้วยเจ็บปวดก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปมามากกว่าสิบครั้งติดต่อกันโดยมีความช่วยเหลือของเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาสามารถรวบรวมและคุ้นเคยกับเส้นทางการฝึกฝนได้อย่างสมบูรณ์จากนั้น เย่เทียนหยู่ก็ค่อย ๆ เก็บกวาดภารกิจ พร้อมมีเหงื่อออกเล็กน้อยบนหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเขาใช้ความพยายามไปไม่น้อยการการฝึกฝนครั้งนี้ใช้เวลาเกือบทั้งบ่ายเย่เทียนหยู่ใช้r]y’อย่างมากในการฝึกฝนหยางผั่วจวิน เขาหวังที่จะสร้างสุดยอดปรมาจารย์ที่น่ากลัวอย่างยิ่งแล
“แน่นอน ภัตราคารเซียนเมามายน่ะไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไปหรอกนะ แค่มีเงินก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ วันนี้ผมจะพาคุณเข้าไปดู”ชายผู้มีกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยู่มองตามการจ้องมองของเฉินเข่อซิน และอดไม่ได้ที่จะมองตรงไปรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไม่สวยเท่าของเฉินเข่อซินแต่เธอก็หยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยพื้นฐานแล้วเธอมีรูปร่างที่ดีและมีเสน่ห์มาก“เฉินเข่อซิน?”“เป็นเธอจริง ๆ ด้วย เธอมาที่นี่เพื่อทานอาหารด้วยเหรอ?”อู๋หลิงดูตกใจใบหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่เธออยู่ในวิทยาลัย อู๋หลิงมักจะมีปัญหากับเธอเพราะผู้ชายที่เธอชอบตามจีบเธอ อู๋หลิงเลยรังแกเธอหลายครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจออู๋หลิงที่นี่วันนี้ อาจเป็นเพราะถูกรังแกมาตลอดจึงรู้สึกกลัวนิดหน่อยโดยไม่มีเหตุผล“ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ? ดูเหมือนไม่ได้มาเพื่อทานอาหารแต่มาหางานมากกว่าล่ะสิ?”“แต่สถานที่ระดับสูงแบบนี้คงไม่ต้องการคนจนไร้รสนิยมแบบเธอหรอกนะ” อู๋หลิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยูขมวดคิ้ว เขารู้สึกโกรธแทนเฉินเข่อซินเล็กน้อย แล้วเขาจะทนกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้ยังไง เขาพูดอย่างเย็นชา: “ใครบอกคุณว่าเรากำลังมองหางาน เรามาที่
อู๋หลิงพยักหน้าอันที่จริงเด็กหญิงทั้งสองสังเกตเห็นสถานการณ์ที่ด้านหน้าประตูแล้ว แต่มันอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย และไม่ใช่เรื่องของพวกเธอ แต่เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่มา พวกเขาก็พูดทันที: “ท่านคะ โปรดแสดงบัตรสมาชิกของท่านด้วยค่ะ!”ผู้ที่มาที่นี่เพื่อทานอาหารล้วนเป็นสมาชิกของภัตราคารเซียนเมามาย และอย่างน้อยก็ต้องมีเงินเก็บมากกว่าห้าล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นคนรวยธรรมดา ๆ จะไม่มาที่นี่เพื่อทานอาหารเย่เทียนหยู่หยิบแบล็กการ์ดมังกรดำออกมา เพราะเขาเห็นป้ายที่นี่ ซึ่งเป็นของหอการค้าหลงเถิงด้วย ร้านใดก็ตามที่อยู่ภายใต้หอการค้ามังกรสามารถใช้การ์ดมังกรดำได้เมื่อหญิงสาวเห็นการ์ดสีดำ เธอก็สะดุ้งเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ท่านคะ ท่านหยิบการ์ดมาผิดหรือเปล่าคะ?”พี่เหลียงที่อยู่ข้างหลังเขาหัวเราะเสียงดังและพูดประชด: “เจ้าหนู แกคิดว่านี่เป็นสถานที่ที่แกสามารถเข้าไปได้ด้วยบัตรช้อปปิ้งอย่างนั้นเหรอ?”“ฮ่าฮ่า ตลกชะมัดเลย!” อู๋หลิงก็หัวเราะออกมาเสียงดังเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ผู้หญิงสองคนจำการ์ดใบนี้ไม่ได้ ช่างลำบากจริง ๆ เลยนะแต่แล้วผู้หญิงอีกคนก็ลังเลและพูดว่า “เสี่ยวจวน เอาการ์ดให้ฉันดูหน่อย”ผู้หญิงชื่อเสี่ยวจวนร
ทันทีที่พนักงานได้ยินก็รีบเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับคุณชาย ที่นั่งด้านนอกนี้ของเราไม่มีการกำหนดที่นั่งนะครับ หรือเราจัดห้องวีไอพีให้ท่านแทนดีไหมครับ?”“ห้องวีไอพีอะไร ผมจะนั่งตรงนี้” พี่เหลียงพูดด้วยอารมณ์โหดเหี้ยม“แต่ท่านชายและท่านหญิงทางนั้นมาาที่นี่ก่อนนะครับ”“ไม่สำคัญว่าจะมาที่นี่ก่อนหรือไม่ วันนี้ผมจองที่นั่งไว้แล้ว ผมไม่เชื่อว่าผมที่เป็นสมาชิกระดับสามดาวจะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งด้วยซ้ำ!”การเป็นสมาชิกระดับสามดาวไม่ใช่จะได้มาด้วยการเติมเงินเท่านั้น แต่ยังมาจากการใช้จ่ายสะสมในจำนวนที่เพียงพออีกด้วยว“ผู้จัดการอยู่ไหน? โทรหาผู้จัดการซุนมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”ก่อนที่บริกรจะพูดได้ พี่เหลียงก็พูดด้วยท่าทางเอาแต่ใจอู๋หลิงที่อยู่ข้าง ๆ ยิ่งดูภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมองเฉินเข่อซินอย่างเหน็บแนมไม่ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน กล้าสู้กับฉัน วันนี้แกจะได้ขายหน้าแน่ผู้จัดการอยู่ใกล้ๆ เมื่อเขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ เขาก็มา เมื่อเห็นบุคคลนั้นเขาก็กลายเป็นคนรู้จัก เขารีบพูดว่า: “พี่เหลียง เกิดอะไรขึ้นครับถึงได้โกรธขนาดนี้? ““คุณว่าไงล่ะ?”“ผู้จัดการซุน เกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร ทำไมขยะพวก
“แล้วก็นั่งคนต้อนรัลที่ประตูด้วย เธอกับไอ้เด็กนี่ตั้งใจให้มันเข้ามา”พี่เหลียงกล่าวหลังจากฟังเรื่องนี้จบผู้จัดการซุนเชื่อคำพูดของพี่เหลียง และพูดอย่างเย็นชา: “ท่านครับ ถ้าคุณมีบัตรสมาชิกจริง ๆ โปรดเอามันออกไป ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าผมหยาบคาย”“เหอ ๆ คุณยังคิดจะหยาบคายกับผมด้วยเหรอ?”“ดูเหมือนว่า แบล็คการ์ดมังกรบ้าบอนี้จะใช้งานไม่ได้! ฉันจะโทรหา หยางต้าฝูในภายหลังและถามเขาว่าเขาหมายถึงอะไร”ขณะที่เย่เทียนหยู่พูด เขาก็โยนแบล็กการ์ดหลงเถิงใส่หน้าผู้จัดการซุน และจากนั้นมันก็ตกลงไปที่พื้นแบล็คการ์ดมังกรบ้าบอเหรอ?เรียกหยางต้าฟู่ด้วยชื่อเต็มเขาเหรอ?เด็กคนนี้บ้าไปแล้วจริง ๆ !ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับแบล็กการ์ดหลงเถิงและหยางต้าฝูต่างตกตะลึงหลินจื่อตงสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงอดีตของเย่เทียนหยู่คนคนนี้ เขากก็มักทำตัวหยิ่งผยองอยู่ตลอดเวลา คิดว่าตัวเองเก่งจนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงไม่สิ นั่นคือแบล็กการ์ดหลงเถิงใช่ไหม?เป็นไปไม่ได้!สีหน้าของผู้จัดการซุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าหยิ่งยโสขนาดนี้มีไม่มาก พวกเขาคงจะไม่ได้เป็นคนหใญ่คนโตจริง ๆ หรอกใช่ไหม“แบล็กการ์ดหลงเถิง?
จบเห่!มันเป็นแบล็กการ์ดมังกรดำหลงเถิงจริง ๆ !และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพิ่งเรียกหยางต้าฝูด้วยชื่อเต็มของเขา และดูเหมือนว่าจะไม่ได้เห็นหยางต้าฝูอยู่ในสายเลยด้วยซ้ำ ตัวตนของเขาต้องน่ากลัวอย่างยิ่งมือของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่น เขาเช็ดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผากแล้ววิ่งกลับมาอย่างรวดเร็วทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้จัดการซุน ไม่จริงน่า ดูเหมือนเขาจะต้องการตรวจสอบความถูกต้องของการ์ดจริง ๆหรือว่านี่คือแบล็กการ์ดหลงเถิงจริงๆเป็นไปไม่ได้!ใครก็ตามที่รู้จักแบล็กการ์ดหลงเถิงต่างก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้พี่เหลียงและอู๋หลิงยิ่งสับสนมากขึ้น พวกเขารู้สึกว่าผู้จัดการซุนกำลังทำให้เขาเสียเวลาไม่ต้องดู ก็รู้ว่าน่าจะเป็นบัตรปลอมแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าแบล็กการ์ดหลงเถิงคืออะไรและมันหมายถึงอะไรเมื่อมองไปที่ผู้จัดการซุนที่วิ่งกลับมา พี่เหลียงก็ตะคอกอย่างเย็นชา: “ผู้อาวุโสซุน ไม่ทราบเหรอว่าเป็นของปลอม? ผมบอกคุณแล้ว คุณ ... ““หุบปาก!”ผู้จัดการซุนตะโกนใส่พี่เหลียงอีกครั้ง ถ้าเขาไม่เห็นว่าอีกฝ่ายรวยและมักพาผู้หญิงไปใช้เงิน เขาคงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจคนคนนี้ขนาดนั้นตอนนี้เพราะความสุภาพ
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ
“เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่า ไม่ว่าโลกจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ภรรยาก็คือที่สุด!”“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน”“ฮ่า ๆ......”พอทุกคนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู ก็แทบจะหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็คิดว่าประธานหลินคนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆเห็น ๆ อยู่ว่าอำนาจในมือนั้นเกินคาดเดา แต่เจ้าตัวกลับเป็นคนที่อ่อนโยนเช่นนี้เมื่อพูดถึงว่าภรรยาเป็นใหญ่ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็แดงเพราะความเขินอายขึ้นมา สิ่งสำคัญคือเธอรู้สึกว่าควรจะดึงบรรยากาศกลับมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ่งคิดแต่จะเอาใจเธออย่างเดียว จนละเลยหน้าที่ในบริษัท แบบนั้นคงไม่ดีแน่เย่เทียนหยู่สามารถที่จะไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัทได้ กระทั่งปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปเลยก็ตาม แต่เธอเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าตั้งใจจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แล้วก็จะต้องแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้น เธอจะมีหน้าไปพบอนาคตแม่สามีได้อย่างไรเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หลินหว่านหรูก็รู้สึกว่าตนทำถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “แต่ว่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เอาแต่ใจเท่ากับเขา แต่สำหรับเรื่องงานแล้ว ฉันกลับมีความเข้
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและสั่นสะเทือนในใจขึ้นมาอีกครั้งถึงขนาดไม่สนใจว่าบริษัทจะล้มละลาย แม้แต่การขอร้องจากประธานบริษัทเองก็ยังไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!นี่เป็นเผด็จการและการปกป้องที่ไร้เหตุผลชัด ๆ!ในใจหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร อาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานบริษัท หรืออาจจะมีสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินหว่านหรูด้วยความรู้สึกอิจฉาโดยเฉพาะผู้หญิงบางคน ในใจพวกเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าหากพวกเธอมีผู้ชายแบบนี้สักคน ต่อให้จะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่น พวกเธอก็คงจะมีความสุขจนตายได้เลยการปกป้องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ แม้แต่หลินหว่านหรูที่ถูกเย่เทียนหยู่ทะนุถนอมตลอดเวลาก็ยังรู้สึกใจเต้นเช่นกันเทียนหยู่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออย่างแท้จริง เขาทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจทำเพื่อเธอพอนึกย้อนกลับไป เขาก็คอยปกป้องเธออยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดมาเช่นกันเพียงแค่ตัวเองก่อนหน้านี้นั้นกลับโง่เขลาเกินไป ไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ แถมยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาตั้งหลายครั้งอีกด้วยตอนนี้พอมาคิดดูแล้