จบเห่!มันเป็นแบล็กการ์ดมังกรดำหลงเถิงจริง ๆ !และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพิ่งเรียกหยางต้าฝูด้วยชื่อเต็มของเขา และดูเหมือนว่าจะไม่ได้เห็นหยางต้าฝูอยู่ในสายเลยด้วยซ้ำ ตัวตนของเขาต้องน่ากลัวอย่างยิ่งมือของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่น เขาเช็ดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผากแล้ววิ่งกลับมาอย่างรวดเร็วทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้จัดการซุน ไม่จริงน่า ดูเหมือนเขาจะต้องการตรวจสอบความถูกต้องของการ์ดจริง ๆหรือว่านี่คือแบล็กการ์ดหลงเถิงจริงๆเป็นไปไม่ได้!ใครก็ตามที่รู้จักแบล็กการ์ดหลงเถิงต่างก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้พี่เหลียงและอู๋หลิงยิ่งสับสนมากขึ้น พวกเขารู้สึกว่าผู้จัดการซุนกำลังทำให้เขาเสียเวลาไม่ต้องดู ก็รู้ว่าน่าจะเป็นบัตรปลอมแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าแบล็กการ์ดหลงเถิงคืออะไรและมันหมายถึงอะไรเมื่อมองไปที่ผู้จัดการซุนที่วิ่งกลับมา พี่เหลียงก็ตะคอกอย่างเย็นชา: “ผู้อาวุโสซุน ไม่ทราบเหรอว่าเป็นของปลอม? ผมบอกคุณแล้ว คุณ ... ““หุบปาก!”ผู้จัดการซุนตะโกนใส่พี่เหลียงอีกครั้ง ถ้าเขาไม่เห็นว่าอีกฝ่ายรวยและมักพาผู้หญิงไปใช้เงิน เขาคงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจคนคนนี้ขนาดนั้นตอนนี้เพราะความสุภาพ
นอกเสียจากว่า เขาไม่ได้วางหยางต้าฝูไว้ในสายตาเลยถ้าเป็นแบบนั้นละก็ หรือเย่เทียนหยู่จะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาเห็น?ถึงแม้ว่าหลินจื่อตงวัน ๆ จะไม่ทำอะไรเลยสักอย่างและเอาแต่สร้างปัญหาไปทั่ว แต่เขาก็ยังไม่โง่เขลาขนาดนั้นหลังจากที่ผู้จัดการซุนสอนบทเรียนให้กับพวกเขาทั้งสองแล้ว เขาก็กลับมาหาเย่เทียนหยู่ และทำตัวเป็นผู้น่าสงสารอีกครั้ง ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง: “ท่านครับ ผมขอโทษจริง ๆ สำหรับเรื่องวันนี้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย”“มองคุณแล้ว การ์ดเป็นของจริงใช่ไหมครับ?” เย่เทียนหยู่หยิบการ์ดขึ้นมาแล้วถามเบา ๆ“ใช่ แน่นอน มันเป็นการ์ดมังกรดำของแท้แน่นอน!”ผู้จัดการซุนพูดเสียงดังและยืนยันทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป สายตาของทุกคนก็ตกตะลึงดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้พูดจะเป็นเรื่องจริง“การ์ดใบนี้ยังมีผลอยู่หรือเปล่า?” เย่เทียนหยู่ถาม“มีผลครับ มันมีผลแน่นอนครับ!”ผู้จัดการซุนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยิ้มอย่างระมัดระวัง“ดีเลย มันจะได้ง่ายหน่อย ฉันจะได้ไม่ต้องโทรหาหยางต้าฟู่” เย่เทียนหยู่เห็นผู้คนมากมายเฝ้าดูอยู่รอบ ๆ และไม่อยากทำให้เรื่องแย่ลง“ได้ครับดีมากแลย ขอบคุณท่านชาย”“
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า หลินจื่อตงก็ตกใจสุดขีดซูเหวินฮวาก็มาด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีอำนาจอะไร แต่นายน้อยคนรองของตระกูลซูซึ่งมีบุคลิกดีและเก่งในเรื่องการกิน ดื่ม เที่นสสาวและเล่นการพนันต่างเป็นที่รู้จักกันดีถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ได้ตายอนาถแน่ถึงยังไงตระกูลซูเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลหลักในเมืองเทียนไห่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่ดีเท่าตระกูลหยาง แต่ช่องว่างก็ไม่ใหญ่อย่างแน่นอน เย่เทียนหยู่ ซึ่งพึ่งพาพลังอำนาจปลอม ๆ ของตระกูลหยาง จะต้องตายอย่างแน่นอนในเวลานี้ ใบหน้าของซูเหวินฮวาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พี่เหลียงพูด ยากจกสองคนแย่งที่นั่งเขา น่าจะหมายถึงคุณชาเย่และหญิงสาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ เขาสาวงามคนนี้ ซูเหวินฮวารู้ดี ว่าคุรชายเย่หวงแหนเธอมากครั้งล่าสุดที่คุณชายเย่ใช้เงินห้าร้อยล้านเพื่อซื้อวิลล่าให้เขา ประเด็นสำคัญคือเธอไม่ต้องการมัน แต่เขายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลอกให้เธอรับมันไว้พี่เหลียงคิดว่าซูเหวินฮวาจะสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาจึงภูมิใจมากยิ่งขึ้นและพูดว่า: “นายน้อยซู คนจนสองคนนี้ โดยเฉพาะผู้จัดการซุนคนนี้เป็นเพียง ...”เพียะ!ก่อนที่เขาจะพ
“คุณชายเย่ เป็นความผิดของผมเองครับ ผมมีตาหามีแววไม่ กล้าไปล่วงเกินท่าน”“ขออภัยคุณชายแย่ ขอร้องล่ะได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ ขอแค่ท่านยอมยกโทษให้ผม จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอมครับ”เขาพูดพร้อมกับตบหน้าตัวเองไม่หยุดอู๋หลิงที่มองเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเธอก็ย่ำแย่ลงไปอีก ตอนนี้เองที่เธอเข้าใจในที่สุดว่าอำนาจของชายหนุ่มตรงหน้าเหนือกว่าจินตนาการของเธอขนาดไหน“ยังเอาแต่ยืนอยู่อีก ยังไม่รีบคุกเข่าลงตบห้นาตัวเองซะ”เมื่อมองดูอู๋หลิงที่ยังเอาแต่ยืนบื้ออยู่ข้าง ๆ พี่เหลียงก็โกรธจัด ก่อนจะพูดด้วยความโมโหว่า “ฉันจะบอกแกให้นะว่าถ้าฉันเป็นอะไรไปแกก็ไปรอความตายได้เลย”อู๋หลิงตกใจกลัวในทันที ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนยวบ ก่อนจะรีบคุกเข่าลงก้มหัวสองสามทีแล้วตบตัวเองอย่างแรงตามพี่เหลียงเธอรู้ดีว่าพี่เหลียงคนนี้ยามลงมือก็รุนแรงไม่น้อยผู้คนต่างแอบพากันส่ายหน้า คนเราไม่อาจมองกันที่ภายนอกได้จริง ๆ คนที่เข้ามาในร้านอาหารได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาแน่เฉินเข่อซินเองก็แอบเหม่อไปพักหนึ่ง ถึงเธอจะรู้ว่านายน้อยคนรองตระกูลซูมีเงินมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีอำนาจข่มขู่มากขนาดนี้ ถึงกลับทำให้เขากลัวได้ขนาดนี้
หลังฟังประโยคนี้จบ สีหน้าของทั้งพี่เหลียงและอู๋หลิงถึงกับซีดเผือด พวกเขาก็พากันก้มหัวลงเสียงดัง “คุณหนูเฉิน เรารู้ว่าเราผิดไปแล้วจริง ๆ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสเราอีกสักครั้งเถอะนะ”“ขอร้องล่ะ เธอเป็นพระแม่ผู้ช่วยเหลือคนยากลำบากนะ”“คุณหนูเฉิน เห็นแก่ที่เราเคยเป็น เพื่อนร่วมชั้นกัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ต่อไปฉันจะต้องเคารพเธอแน่นอน”อู๋หลิงตกใจกลัวจนกระโปรงเปียกอันที่จริงเฉินเข่อซินเองก็ตกใจเหมือนกัน สิ่งที่เย่เทียนหยู่ทำและทุกคำที่เขาพูดออกมาน่ากลัวมากจนทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่น “พอแล้ว พวกเธอก็ได้รับโทษแล้ว เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ” เธอรีบพูดขึ้นทันทีทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หัวใจของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงพร้อมกับร่างกายที่อ่อนยวบเมื่อกี้หัวใจของพวกเขาเต้นระรัวจนแถบหลุดออกจากร่าง น่ากลัวเกินไปแล้วผู้จัดการเองซุนก็ผ่อนลมหายใจโล่งอก ดีที่เขายังไม่ได้ทำผิดใหญ่หลวงอะไร ไม่อย่างนั้นละก็ เห็นทีวันนี้เขาคงได้ถึงวาระ“พี่เย่ ผมสะดวกนั่งด้วยได้ไหมครับ?”พอเห็นว่าสิ้นเรื่อง นายน้อยซูก็รีบพูดขึ้นทันที“ผมไม่สะดวก คุณเป็นถึงนายน้อยแท้ ๆ หาที่กินเองสิครับ” เย่เทียนหยู่กล่าวเ
“ฮ่า ฮ่า…”หยางปินโมโหจนแทบคลั่ง เขาพูดพร้อมหัวเราะ “คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าผมที่เป็นถึงนายน้อยตระกูลหยาง มาวันนี้จะถูกไอ้คนกระจอกไร้ชื่อดูถูกถึงขนาดนี้”“ไอ้กระจอก ไม่ว่าแกจะเป็นใคร วันนี้แกตายแน่”ทันทีที่คำพูดนี้สิ้นสุดลง ผู้คนรอบข้างต่างก็ตะลึงงันรอเดี๋ยว เขาพูดว่าอะไรนะ นายน้อยตระกูลหยาง?ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าเรียกตัวเองว่านายน้อยของตระกูลหยางได้โดยไม่สะทกสะท้านนแบบนี้ นอกจากเป็นสมาชิกของตระกูลหยางที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเทียนไห่แล้ว ใครอีกจะกล้าเรียกตัวเองแบบนั้นอีกทั้ง ชายที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ก็มีลูกชายเพียงคนเดียวหลินจื่อตงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไปมาหาสู่กับตระกูลหยางไม่น้อย แต่ปัญหาคือ เขาไม่รู้จักหยางปินเลยสักนิดเดียวทุกคนรอบตัวตกตะลึงอย่างมากให้ตายสิ!เพิ่งสอดรู้สอดเห็นเรื่องใหญ่จบไปเรื่องหนึ่ง ทำไมยังมีโผล่มาอีกเรื่องได้อีก?เกิดอะไรขึ้นกับร้านอาหารวันนี้กันนะ แรกเริ่มก็นายน้อยคนรองตระกูลซู ต่อมาก็คุณชายเย่ มาตอนนี้ก็มีนายน้อยตระกูลหยางที่มีอำนาจมากมาอีกคนหวังลี่ตกใจเล็กน้อย ลูกชายคนโตของตระกูลหยาง?แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักคนตระกูล
ใช่แล้วล่ะ ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่!เมื่อกี้เขาใหญ่โตขนาดนั้น บางทีเขาอาจจะช่วยชีวิตตัวเองสักครั้งก็ได้เมื่อคิดได้ หลินจื่อตงก็เบี่ยงสายตาไปทางเย่เทียนหยู่ทันทีก่อนจะตะโกนออกมา “พี่เขย ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะ!”คำร้องเรียกพี่เขยทำเอาผู้คนรอบตัวถึงกับตกตะลึงที่นี่ยังมีพี่เขยของไอ้หนุ่มนี่ด้วยเหรอ?แต่แล้วทุกคนต่างก็พากันส่ายหน้า ไม่ได้ดูเลยว่าเบื้องหน้าของตนเป็นบุคคลที่น่ากลัวแค่ไหน เขาเป็นถึงลูกชายคนเดียวของหยางต้าฝูเมืองเทียนไห่เลยนะด้วยฐานะอำนาจอันทรงพลังแบบนี้ ใครจะไปช่วยได้?ไอ้หนุ่มคนนี้ คำร้องเรียกพี่เขยของนายไม่ใช่การช่วยชีวิตนาย แต่กำลังจะคร่าชีวิตพี่เขยนายต่างหาก“พี่เขย?”“เหอ ๆ นี่มึงยังมีพี่เขยอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ดี ให้เขาออกมา”“กูชักอยากเห็นพี่เขยของมึงคนไหนกล้ายืนหยัดมาสนับสนุนมึง!”หยางปินมองสายตาหวาดกลัวของทุกคน เขาใช้สายตาดูถูกมองไปรอบด้าน ทั้งยังแสดงสีหน้าบ้าอำนาจในความเห็นของเขา ด้วยฐานะของเขาแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นพี่เขย คนคนนั้นก็คงต้องหลบเลี่ยงและไม่กล้าแสดงตัวพูดอะไรแน่ในเวลานี้ทุกคนเห็นด้วยและพากันส่ายหน้า ไอ้หนุ่มคนนี้ ความตายมาเยือนตรงหน้าแล้วแ
คนที่ตื่นเต้นที่สุดในเหล่าผู้ชมก็คือพี่เหลียงและอู๋หลิงที่ยังไม่จากไปอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเย่เทียนหยู่ได้เลยแต่ถ้าเย่เทียนหยู่ถูกบดขยี้และสั่งสอนบทเรียน แน่นอนว่าพวกเขาก็คงมีความสุขสุด ๆแต่แล้วขณะที่ทุกคนคิดว่าเย่เทียนหยู่กำลังจะต้องโชคร้าย สีหน้าของหยางปินก็เปลี่ยนไปในทันทีความสนใจของเขาอยู่ที่หวังลี่ ผู้หญิงที่เขาชอบและหลินจื่อตงแถมผู้จัดการซุนและคนอื่น ๆ อีกหลายคนยืนบังทำให้เขาเองไม่สังเกตเห็นเย่เทียนหยู่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยซ้ำเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหยางปิน ทุกคนก็แอบถอนหายใจ จบแน่นายเย่ผู้ลึกลับคนนี้เจอปัญหาใหญ่แน่ ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของนายน้อยหยางเปลี่ยนไปแล้ว ต้องกำลังจะระเบิดโมโหแน่ถึงยังไง ถ้ากล้าตบหน้านายน้อยหยางต่อหน้าสาธารณะ ก็แปลว่ารนหาที่ตายน่ะสิไม่ผิดคาด ผู้คนเห็นนายน้อยหยางเดินอย่างรวดเร็วไปตรงหน้าคุณชายเย่ผู้ลึกลับ เกรงว่าคงจะลงมือจัดการเขาแล้วแต่แล้ววินาทีต่อมา ทุกคนก็แทบจะอ้าปากค้างนายน้อยหยางซึ่งทุกคนหวาดกลัวเดินไปหาเย่เทียนหยู่ “แพทย์เซียนเย่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะครับ? เมื่อครู่ผมไม่ได้เห็นคุณ
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ
“เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่า ไม่ว่าโลกจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ภรรยาก็คือที่สุด!”“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน”“ฮ่า ๆ......”พอทุกคนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู ก็แทบจะหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็คิดว่าประธานหลินคนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆเห็น ๆ อยู่ว่าอำนาจในมือนั้นเกินคาดเดา แต่เจ้าตัวกลับเป็นคนที่อ่อนโยนเช่นนี้เมื่อพูดถึงว่าภรรยาเป็นใหญ่ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็แดงเพราะความเขินอายขึ้นมา สิ่งสำคัญคือเธอรู้สึกว่าควรจะดึงบรรยากาศกลับมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ่งคิดแต่จะเอาใจเธออย่างเดียว จนละเลยหน้าที่ในบริษัท แบบนั้นคงไม่ดีแน่เย่เทียนหยู่สามารถที่จะไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัทได้ กระทั่งปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปเลยก็ตาม แต่เธอเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าตั้งใจจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แล้วก็จะต้องแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้น เธอจะมีหน้าไปพบอนาคตแม่สามีได้อย่างไรเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หลินหว่านหรูก็รู้สึกว่าตนทำถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “แต่ว่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เอาแต่ใจเท่ากับเขา แต่สำหรับเรื่องงานแล้ว ฉันกลับมีความเข้
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและสั่นสะเทือนในใจขึ้นมาอีกครั้งถึงขนาดไม่สนใจว่าบริษัทจะล้มละลาย แม้แต่การขอร้องจากประธานบริษัทเองก็ยังไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!นี่เป็นเผด็จการและการปกป้องที่ไร้เหตุผลชัด ๆ!ในใจหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร อาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานบริษัท หรืออาจจะมีสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินหว่านหรูด้วยความรู้สึกอิจฉาโดยเฉพาะผู้หญิงบางคน ในใจพวกเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าหากพวกเธอมีผู้ชายแบบนี้สักคน ต่อให้จะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่น พวกเธอก็คงจะมีความสุขจนตายได้เลยการปกป้องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ แม้แต่หลินหว่านหรูที่ถูกเย่เทียนหยู่ทะนุถนอมตลอดเวลาก็ยังรู้สึกใจเต้นเช่นกันเทียนหยู่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออย่างแท้จริง เขาทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจทำเพื่อเธอพอนึกย้อนกลับไป เขาก็คอยปกป้องเธออยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดมาเช่นกันเพียงแค่ตัวเองก่อนหน้านี้นั้นกลับโง่เขลาเกินไป ไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ แถมยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาตั้งหลายครั้งอีกด้วยตอนนี้พอมาคิดดูแล้