นอกเสียจากว่า เขาไม่ได้วางหยางต้าฝูไว้ในสายตาเลยถ้าเป็นแบบนั้นละก็ หรือเย่เทียนหยู่จะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาเห็น?ถึงแม้ว่าหลินจื่อตงวัน ๆ จะไม่ทำอะไรเลยสักอย่างและเอาแต่สร้างปัญหาไปทั่ว แต่เขาก็ยังไม่โง่เขลาขนาดนั้นหลังจากที่ผู้จัดการซุนสอนบทเรียนให้กับพวกเขาทั้งสองแล้ว เขาก็กลับมาหาเย่เทียนหยู่ และทำตัวเป็นผู้น่าสงสารอีกครั้ง ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง: “ท่านครับ ผมขอโทษจริง ๆ สำหรับเรื่องวันนี้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย”“มองคุณแล้ว การ์ดเป็นของจริงใช่ไหมครับ?” เย่เทียนหยู่หยิบการ์ดขึ้นมาแล้วถามเบา ๆ“ใช่ แน่นอน มันเป็นการ์ดมังกรดำของแท้แน่นอน!”ผู้จัดการซุนพูดเสียงดังและยืนยันทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป สายตาของทุกคนก็ตกตะลึงดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้พูดจะเป็นเรื่องจริง“การ์ดใบนี้ยังมีผลอยู่หรือเปล่า?” เย่เทียนหยู่ถาม“มีผลครับ มันมีผลแน่นอนครับ!”ผู้จัดการซุนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยิ้มอย่างระมัดระวัง“ดีเลย มันจะได้ง่ายหน่อย ฉันจะได้ไม่ต้องโทรหาหยางต้าฟู่” เย่เทียนหยู่เห็นผู้คนมากมายเฝ้าดูอยู่รอบ ๆ และไม่อยากทำให้เรื่องแย่ลง“ได้ครับดีมากแลย ขอบคุณท่านชาย”“
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า หลินจื่อตงก็ตกใจสุดขีดซูเหวินฮวาก็มาด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีอำนาจอะไร แต่นายน้อยคนรองของตระกูลซูซึ่งมีบุคลิกดีและเก่งในเรื่องการกิน ดื่ม เที่นสสาวและเล่นการพนันต่างเป็นที่รู้จักกันดีถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ได้ตายอนาถแน่ถึงยังไงตระกูลซูเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลหลักในเมืองเทียนไห่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่ดีเท่าตระกูลหยาง แต่ช่องว่างก็ไม่ใหญ่อย่างแน่นอน เย่เทียนหยู่ ซึ่งพึ่งพาพลังอำนาจปลอม ๆ ของตระกูลหยาง จะต้องตายอย่างแน่นอนในเวลานี้ ใบหน้าของซูเหวินฮวาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พี่เหลียงพูด ยากจกสองคนแย่งที่นั่งเขา น่าจะหมายถึงคุณชาเย่และหญิงสาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ เขาสาวงามคนนี้ ซูเหวินฮวารู้ดี ว่าคุรชายเย่หวงแหนเธอมากครั้งล่าสุดที่คุณชายเย่ใช้เงินห้าร้อยล้านเพื่อซื้อวิลล่าให้เขา ประเด็นสำคัญคือเธอไม่ต้องการมัน แต่เขายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลอกให้เธอรับมันไว้พี่เหลียงคิดว่าซูเหวินฮวาจะสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาจึงภูมิใจมากยิ่งขึ้นและพูดว่า: “นายน้อยซู คนจนสองคนนี้ โดยเฉพาะผู้จัดการซุนคนนี้เป็นเพียง ...”เพียะ!ก่อนที่เขาจะพ
“คุณชายเย่ เป็นความผิดของผมเองครับ ผมมีตาหามีแววไม่ กล้าไปล่วงเกินท่าน”“ขออภัยคุณชายแย่ ขอร้องล่ะได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ ขอแค่ท่านยอมยกโทษให้ผม จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอมครับ”เขาพูดพร้อมกับตบหน้าตัวเองไม่หยุดอู๋หลิงที่มองเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเธอก็ย่ำแย่ลงไปอีก ตอนนี้เองที่เธอเข้าใจในที่สุดว่าอำนาจของชายหนุ่มตรงหน้าเหนือกว่าจินตนาการของเธอขนาดไหน“ยังเอาแต่ยืนอยู่อีก ยังไม่รีบคุกเข่าลงตบห้นาตัวเองซะ”เมื่อมองดูอู๋หลิงที่ยังเอาแต่ยืนบื้ออยู่ข้าง ๆ พี่เหลียงก็โกรธจัด ก่อนจะพูดด้วยความโมโหว่า “ฉันจะบอกแกให้นะว่าถ้าฉันเป็นอะไรไปแกก็ไปรอความตายได้เลย”อู๋หลิงตกใจกลัวในทันที ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนยวบ ก่อนจะรีบคุกเข่าลงก้มหัวสองสามทีแล้วตบตัวเองอย่างแรงตามพี่เหลียงเธอรู้ดีว่าพี่เหลียงคนนี้ยามลงมือก็รุนแรงไม่น้อยผู้คนต่างแอบพากันส่ายหน้า คนเราไม่อาจมองกันที่ภายนอกได้จริง ๆ คนที่เข้ามาในร้านอาหารได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาแน่เฉินเข่อซินเองก็แอบเหม่อไปพักหนึ่ง ถึงเธอจะรู้ว่านายน้อยคนรองตระกูลซูมีเงินมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีอำนาจข่มขู่มากขนาดนี้ ถึงกลับทำให้เขากลัวได้ขนาดนี้
หลังฟังประโยคนี้จบ สีหน้าของทั้งพี่เหลียงและอู๋หลิงถึงกับซีดเผือด พวกเขาก็พากันก้มหัวลงเสียงดัง “คุณหนูเฉิน เรารู้ว่าเราผิดไปแล้วจริง ๆ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสเราอีกสักครั้งเถอะนะ”“ขอร้องล่ะ เธอเป็นพระแม่ผู้ช่วยเหลือคนยากลำบากนะ”“คุณหนูเฉิน เห็นแก่ที่เราเคยเป็น เพื่อนร่วมชั้นกัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ต่อไปฉันจะต้องเคารพเธอแน่นอน”อู๋หลิงตกใจกลัวจนกระโปรงเปียกอันที่จริงเฉินเข่อซินเองก็ตกใจเหมือนกัน สิ่งที่เย่เทียนหยู่ทำและทุกคำที่เขาพูดออกมาน่ากลัวมากจนทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่น “พอแล้ว พวกเธอก็ได้รับโทษแล้ว เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ” เธอรีบพูดขึ้นทันทีทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หัวใจของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงพร้อมกับร่างกายที่อ่อนยวบเมื่อกี้หัวใจของพวกเขาเต้นระรัวจนแถบหลุดออกจากร่าง น่ากลัวเกินไปแล้วผู้จัดการเองซุนก็ผ่อนลมหายใจโล่งอก ดีที่เขายังไม่ได้ทำผิดใหญ่หลวงอะไร ไม่อย่างนั้นละก็ เห็นทีวันนี้เขาคงได้ถึงวาระ“พี่เย่ ผมสะดวกนั่งด้วยได้ไหมครับ?”พอเห็นว่าสิ้นเรื่อง นายน้อยซูก็รีบพูดขึ้นทันที“ผมไม่สะดวก คุณเป็นถึงนายน้อยแท้ ๆ หาที่กินเองสิครับ” เย่เทียนหยู่กล่าวเ
“ฮ่า ฮ่า…”หยางปินโมโหจนแทบคลั่ง เขาพูดพร้อมหัวเราะ “คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าผมที่เป็นถึงนายน้อยตระกูลหยาง มาวันนี้จะถูกไอ้คนกระจอกไร้ชื่อดูถูกถึงขนาดนี้”“ไอ้กระจอก ไม่ว่าแกจะเป็นใคร วันนี้แกตายแน่”ทันทีที่คำพูดนี้สิ้นสุดลง ผู้คนรอบข้างต่างก็ตะลึงงันรอเดี๋ยว เขาพูดว่าอะไรนะ นายน้อยตระกูลหยาง?ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าเรียกตัวเองว่านายน้อยของตระกูลหยางได้โดยไม่สะทกสะท้านนแบบนี้ นอกจากเป็นสมาชิกของตระกูลหยางที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเทียนไห่แล้ว ใครอีกจะกล้าเรียกตัวเองแบบนั้นอีกทั้ง ชายที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ก็มีลูกชายเพียงคนเดียวหลินจื่อตงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไปมาหาสู่กับตระกูลหยางไม่น้อย แต่ปัญหาคือ เขาไม่รู้จักหยางปินเลยสักนิดเดียวทุกคนรอบตัวตกตะลึงอย่างมากให้ตายสิ!เพิ่งสอดรู้สอดเห็นเรื่องใหญ่จบไปเรื่องหนึ่ง ทำไมยังมีโผล่มาอีกเรื่องได้อีก?เกิดอะไรขึ้นกับร้านอาหารวันนี้กันนะ แรกเริ่มก็นายน้อยคนรองตระกูลซู ต่อมาก็คุณชายเย่ มาตอนนี้ก็มีนายน้อยตระกูลหยางที่มีอำนาจมากมาอีกคนหวังลี่ตกใจเล็กน้อย ลูกชายคนโตของตระกูลหยาง?แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักคนตระกูล
ใช่แล้วล่ะ ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่!เมื่อกี้เขาใหญ่โตขนาดนั้น บางทีเขาอาจจะช่วยชีวิตตัวเองสักครั้งก็ได้เมื่อคิดได้ หลินจื่อตงก็เบี่ยงสายตาไปทางเย่เทียนหยู่ทันทีก่อนจะตะโกนออกมา “พี่เขย ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะ!”คำร้องเรียกพี่เขยทำเอาผู้คนรอบตัวถึงกับตกตะลึงที่นี่ยังมีพี่เขยของไอ้หนุ่มนี่ด้วยเหรอ?แต่แล้วทุกคนต่างก็พากันส่ายหน้า ไม่ได้ดูเลยว่าเบื้องหน้าของตนเป็นบุคคลที่น่ากลัวแค่ไหน เขาเป็นถึงลูกชายคนเดียวของหยางต้าฝูเมืองเทียนไห่เลยนะด้วยฐานะอำนาจอันทรงพลังแบบนี้ ใครจะไปช่วยได้?ไอ้หนุ่มคนนี้ คำร้องเรียกพี่เขยของนายไม่ใช่การช่วยชีวิตนาย แต่กำลังจะคร่าชีวิตพี่เขยนายต่างหาก“พี่เขย?”“เหอ ๆ นี่มึงยังมีพี่เขยอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ดี ให้เขาออกมา”“กูชักอยากเห็นพี่เขยของมึงคนไหนกล้ายืนหยัดมาสนับสนุนมึง!”หยางปินมองสายตาหวาดกลัวของทุกคน เขาใช้สายตาดูถูกมองไปรอบด้าน ทั้งยังแสดงสีหน้าบ้าอำนาจในความเห็นของเขา ด้วยฐานะของเขาแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นพี่เขย คนคนนั้นก็คงต้องหลบเลี่ยงและไม่กล้าแสดงตัวพูดอะไรแน่ในเวลานี้ทุกคนเห็นด้วยและพากันส่ายหน้า ไอ้หนุ่มคนนี้ ความตายมาเยือนตรงหน้าแล้วแ
คนที่ตื่นเต้นที่สุดในเหล่าผู้ชมก็คือพี่เหลียงและอู๋หลิงที่ยังไม่จากไปอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเย่เทียนหยู่ได้เลยแต่ถ้าเย่เทียนหยู่ถูกบดขยี้และสั่งสอนบทเรียน แน่นอนว่าพวกเขาก็คงมีความสุขสุด ๆแต่แล้วขณะที่ทุกคนคิดว่าเย่เทียนหยู่กำลังจะต้องโชคร้าย สีหน้าของหยางปินก็เปลี่ยนไปในทันทีความสนใจของเขาอยู่ที่หวังลี่ ผู้หญิงที่เขาชอบและหลินจื่อตงแถมผู้จัดการซุนและคนอื่น ๆ อีกหลายคนยืนบังทำให้เขาเองไม่สังเกตเห็นเย่เทียนหยู่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยซ้ำเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหยางปิน ทุกคนก็แอบถอนหายใจ จบแน่นายเย่ผู้ลึกลับคนนี้เจอปัญหาใหญ่แน่ ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของนายน้อยหยางเปลี่ยนไปแล้ว ต้องกำลังจะระเบิดโมโหแน่ถึงยังไง ถ้ากล้าตบหน้านายน้อยหยางต่อหน้าสาธารณะ ก็แปลว่ารนหาที่ตายน่ะสิไม่ผิดคาด ผู้คนเห็นนายน้อยหยางเดินอย่างรวดเร็วไปตรงหน้าคุณชายเย่ผู้ลึกลับ เกรงว่าคงจะลงมือจัดการเขาแล้วแต่แล้ววินาทีต่อมา ทุกคนก็แทบจะอ้าปากค้างนายน้อยหยางซึ่งทุกคนหวาดกลัวเดินไปหาเย่เทียนหยู่ “แพทย์เซียนเย่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะครับ? เมื่อครู่ผมไม่ได้เห็นคุณ
มีทั้งคนที่ตกใจ มีทั้งคนที่รู้สึกดีใจ แต่ก็มีบางคนที่สีหน้าไม่สู้ดีนักพี่เขย?ถ้าเรียกว่าพี่เขยได้ ก็แปลว่าพี่เย่มีภรรยาแล้วสินะ อีกทั้งยังเป็นพี่สาวของเขาคนนี้ด้วยที่จริงเฉินเข่อซินเดามาตลอดว่าบางที่พี่เย่อาจมีภรรยาแล้ว แต่หลายวันมานี้เธอไม่เคยได้พบเธอคนนั้น ทำให้หัวใจของเธอยังพอมีความหวังขึ้นมาบ้างแต่แล้ววันนี้ ความหวังในหัวใจของเธอกลับถูกทำลายในเวลานี้สีหน้าของหยางปินตึงเครียดจนถึงขั้นลืมหวังลี่ผู้หญิงของตัวเองไปสนิท “แพทย์เซียนเย่ เขาเป็นน้องเขยของท่านเหรอครับ?”“อือ!”เย่เทียนหยู่พยักหน้าการยอมรับนี้ ทำเอาสีหน้าของเฉินเข่อซินดูมืดมนยิ่งขึ้น“เช่นนั้นเองเหรอครับ เมื่อครู่ผมไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ดี ขอแพทย์เซียนเย่อย่าใส่ใจ” หยางปินขอโทษทันทีหลังจากอธิบาย“อือ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้จะเอายังไงเหรอ?” เย่เทียนหยู่ถาม“ในเมื่อแพทย์เซียนเย่เอ่ยปาก แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมก็จะปล่อยไปครับ ขอให้แพทย์เซียนเย่อย่าเอาความที่ผมเสียมารยาทเลยนะครับ” หยางปินกล่าวอย่างประหม่า“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก!”“ในเมื่อคุณช่วยผมแล้ว ผมก็จะช่วยคุณบ้าง ผู้หญิงคนนี้ผมชอบมาก ผมขอเลยคุณคงไม่ว่ากันนะ?” เ
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้