เมื่อเห็นฉากตรงหน้า หลินจื่อตงก็ตกใจสุดขีดซูเหวินฮวาก็มาด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีอำนาจอะไร แต่นายน้อยคนรองของตระกูลซูซึ่งมีบุคลิกดีและเก่งในเรื่องการกิน ดื่ม เที่นสสาวและเล่นการพนันต่างเป็นที่รู้จักกันดีถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ได้ตายอนาถแน่ถึงยังไงตระกูลซูเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลหลักในเมืองเทียนไห่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่ดีเท่าตระกูลหยาง แต่ช่องว่างก็ไม่ใหญ่อย่างแน่นอน เย่เทียนหยู่ ซึ่งพึ่งพาพลังอำนาจปลอม ๆ ของตระกูลหยาง จะต้องตายอย่างแน่นอนในเวลานี้ ใบหน้าของซูเหวินฮวาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่พี่เหลียงพูด ยากจกสองคนแย่งที่นั่งเขา น่าจะหมายถึงคุณชาเย่และหญิงสาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ เขาสาวงามคนนี้ ซูเหวินฮวารู้ดี ว่าคุรชายเย่หวงแหนเธอมากครั้งล่าสุดที่คุณชายเย่ใช้เงินห้าร้อยล้านเพื่อซื้อวิลล่าให้เขา ประเด็นสำคัญคือเธอไม่ต้องการมัน แต่เขายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลอกให้เธอรับมันไว้พี่เหลียงคิดว่าซูเหวินฮวาจะสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาจึงภูมิใจมากยิ่งขึ้นและพูดว่า: “นายน้อยซู คนจนสองคนนี้ โดยเฉพาะผู้จัดการซุนคนนี้เป็นเพียง ...”เพียะ!ก่อนที่เขาจะพ
“คุณชายเย่ เป็นความผิดของผมเองครับ ผมมีตาหามีแววไม่ กล้าไปล่วงเกินท่าน”“ขออภัยคุณชายแย่ ขอร้องล่ะได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ ขอแค่ท่านยอมยกโทษให้ผม จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอมครับ”เขาพูดพร้อมกับตบหน้าตัวเองไม่หยุดอู๋หลิงที่มองเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเธอก็ย่ำแย่ลงไปอีก ตอนนี้เองที่เธอเข้าใจในที่สุดว่าอำนาจของชายหนุ่มตรงหน้าเหนือกว่าจินตนาการของเธอขนาดไหน“ยังเอาแต่ยืนอยู่อีก ยังไม่รีบคุกเข่าลงตบห้นาตัวเองซะ”เมื่อมองดูอู๋หลิงที่ยังเอาแต่ยืนบื้ออยู่ข้าง ๆ พี่เหลียงก็โกรธจัด ก่อนจะพูดด้วยความโมโหว่า “ฉันจะบอกแกให้นะว่าถ้าฉันเป็นอะไรไปแกก็ไปรอความตายได้เลย”อู๋หลิงตกใจกลัวในทันที ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนยวบ ก่อนจะรีบคุกเข่าลงก้มหัวสองสามทีแล้วตบตัวเองอย่างแรงตามพี่เหลียงเธอรู้ดีว่าพี่เหลียงคนนี้ยามลงมือก็รุนแรงไม่น้อยผู้คนต่างแอบพากันส่ายหน้า คนเราไม่อาจมองกันที่ภายนอกได้จริง ๆ คนที่เข้ามาในร้านอาหารได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาแน่เฉินเข่อซินเองก็แอบเหม่อไปพักหนึ่ง ถึงเธอจะรู้ว่านายน้อยคนรองตระกูลซูมีเงินมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีอำนาจข่มขู่มากขนาดนี้ ถึงกลับทำให้เขากลัวได้ขนาดนี้
หลังฟังประโยคนี้จบ สีหน้าของทั้งพี่เหลียงและอู๋หลิงถึงกับซีดเผือด พวกเขาก็พากันก้มหัวลงเสียงดัง “คุณหนูเฉิน เรารู้ว่าเราผิดไปแล้วจริง ๆ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสเราอีกสักครั้งเถอะนะ”“ขอร้องล่ะ เธอเป็นพระแม่ผู้ช่วยเหลือคนยากลำบากนะ”“คุณหนูเฉิน เห็นแก่ที่เราเคยเป็น เพื่อนร่วมชั้นกัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ต่อไปฉันจะต้องเคารพเธอแน่นอน”อู๋หลิงตกใจกลัวจนกระโปรงเปียกอันที่จริงเฉินเข่อซินเองก็ตกใจเหมือนกัน สิ่งที่เย่เทียนหยู่ทำและทุกคำที่เขาพูดออกมาน่ากลัวมากจนทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่น “พอแล้ว พวกเธอก็ได้รับโทษแล้ว เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ” เธอรีบพูดขึ้นทันทีทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ หัวใจของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงพร้อมกับร่างกายที่อ่อนยวบเมื่อกี้หัวใจของพวกเขาเต้นระรัวจนแถบหลุดออกจากร่าง น่ากลัวเกินไปแล้วผู้จัดการเองซุนก็ผ่อนลมหายใจโล่งอก ดีที่เขายังไม่ได้ทำผิดใหญ่หลวงอะไร ไม่อย่างนั้นละก็ เห็นทีวันนี้เขาคงได้ถึงวาระ“พี่เย่ ผมสะดวกนั่งด้วยได้ไหมครับ?”พอเห็นว่าสิ้นเรื่อง นายน้อยซูก็รีบพูดขึ้นทันที“ผมไม่สะดวก คุณเป็นถึงนายน้อยแท้ ๆ หาที่กินเองสิครับ” เย่เทียนหยู่กล่าวเ
“ฮ่า ฮ่า…”หยางปินโมโหจนแทบคลั่ง เขาพูดพร้อมหัวเราะ “คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าผมที่เป็นถึงนายน้อยตระกูลหยาง มาวันนี้จะถูกไอ้คนกระจอกไร้ชื่อดูถูกถึงขนาดนี้”“ไอ้กระจอก ไม่ว่าแกจะเป็นใคร วันนี้แกตายแน่”ทันทีที่คำพูดนี้สิ้นสุดลง ผู้คนรอบข้างต่างก็ตะลึงงันรอเดี๋ยว เขาพูดว่าอะไรนะ นายน้อยตระกูลหยาง?ในเมืองเทียนไห่ คนที่กล้าเรียกตัวเองว่านายน้อยของตระกูลหยางได้โดยไม่สะทกสะท้านนแบบนี้ นอกจากเป็นสมาชิกของตระกูลหยางที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเทียนไห่แล้ว ใครอีกจะกล้าเรียกตัวเองแบบนั้นอีกทั้ง ชายที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ก็มีลูกชายเพียงคนเดียวหลินจื่อตงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไปมาหาสู่กับตระกูลหยางไม่น้อย แต่ปัญหาคือ เขาไม่รู้จักหยางปินเลยสักนิดเดียวทุกคนรอบตัวตกตะลึงอย่างมากให้ตายสิ!เพิ่งสอดรู้สอดเห็นเรื่องใหญ่จบไปเรื่องหนึ่ง ทำไมยังมีโผล่มาอีกเรื่องได้อีก?เกิดอะไรขึ้นกับร้านอาหารวันนี้กันนะ แรกเริ่มก็นายน้อยคนรองตระกูลซู ต่อมาก็คุณชายเย่ มาตอนนี้ก็มีนายน้อยตระกูลหยางที่มีอำนาจมากมาอีกคนหวังลี่ตกใจเล็กน้อย ลูกชายคนโตของตระกูลหยาง?แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักคนตระกูล
ใช่แล้วล่ะ ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่!เมื่อกี้เขาใหญ่โตขนาดนั้น บางทีเขาอาจจะช่วยชีวิตตัวเองสักครั้งก็ได้เมื่อคิดได้ หลินจื่อตงก็เบี่ยงสายตาไปทางเย่เทียนหยู่ทันทีก่อนจะตะโกนออกมา “พี่เขย ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะ!”คำร้องเรียกพี่เขยทำเอาผู้คนรอบตัวถึงกับตกตะลึงที่นี่ยังมีพี่เขยของไอ้หนุ่มนี่ด้วยเหรอ?แต่แล้วทุกคนต่างก็พากันส่ายหน้า ไม่ได้ดูเลยว่าเบื้องหน้าของตนเป็นบุคคลที่น่ากลัวแค่ไหน เขาเป็นถึงลูกชายคนเดียวของหยางต้าฝูเมืองเทียนไห่เลยนะด้วยฐานะอำนาจอันทรงพลังแบบนี้ ใครจะไปช่วยได้?ไอ้หนุ่มคนนี้ คำร้องเรียกพี่เขยของนายไม่ใช่การช่วยชีวิตนาย แต่กำลังจะคร่าชีวิตพี่เขยนายต่างหาก“พี่เขย?”“เหอ ๆ นี่มึงยังมีพี่เขยอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ดี ให้เขาออกมา”“กูชักอยากเห็นพี่เขยของมึงคนไหนกล้ายืนหยัดมาสนับสนุนมึง!”หยางปินมองสายตาหวาดกลัวของทุกคน เขาใช้สายตาดูถูกมองไปรอบด้าน ทั้งยังแสดงสีหน้าบ้าอำนาจในความเห็นของเขา ด้วยฐานะของเขาแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นพี่เขย คนคนนั้นก็คงต้องหลบเลี่ยงและไม่กล้าแสดงตัวพูดอะไรแน่ในเวลานี้ทุกคนเห็นด้วยและพากันส่ายหน้า ไอ้หนุ่มคนนี้ ความตายมาเยือนตรงหน้าแล้วแ
คนที่ตื่นเต้นที่สุดในเหล่าผู้ชมก็คือพี่เหลียงและอู๋หลิงที่ยังไม่จากไปอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเย่เทียนหยู่ได้เลยแต่ถ้าเย่เทียนหยู่ถูกบดขยี้และสั่งสอนบทเรียน แน่นอนว่าพวกเขาก็คงมีความสุขสุด ๆแต่แล้วขณะที่ทุกคนคิดว่าเย่เทียนหยู่กำลังจะต้องโชคร้าย สีหน้าของหยางปินก็เปลี่ยนไปในทันทีความสนใจของเขาอยู่ที่หวังลี่ ผู้หญิงที่เขาชอบและหลินจื่อตงแถมผู้จัดการซุนและคนอื่น ๆ อีกหลายคนยืนบังทำให้เขาเองไม่สังเกตเห็นเย่เทียนหยู่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยซ้ำเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหยางปิน ทุกคนก็แอบถอนหายใจ จบแน่นายเย่ผู้ลึกลับคนนี้เจอปัญหาใหญ่แน่ ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของนายน้อยหยางเปลี่ยนไปแล้ว ต้องกำลังจะระเบิดโมโหแน่ถึงยังไง ถ้ากล้าตบหน้านายน้อยหยางต่อหน้าสาธารณะ ก็แปลว่ารนหาที่ตายน่ะสิไม่ผิดคาด ผู้คนเห็นนายน้อยหยางเดินอย่างรวดเร็วไปตรงหน้าคุณชายเย่ผู้ลึกลับ เกรงว่าคงจะลงมือจัดการเขาแล้วแต่แล้ววินาทีต่อมา ทุกคนก็แทบจะอ้าปากค้างนายน้อยหยางซึ่งทุกคนหวาดกลัวเดินไปหาเย่เทียนหยู่ “แพทย์เซียนเย่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะครับ? เมื่อครู่ผมไม่ได้เห็นคุณ
มีทั้งคนที่ตกใจ มีทั้งคนที่รู้สึกดีใจ แต่ก็มีบางคนที่สีหน้าไม่สู้ดีนักพี่เขย?ถ้าเรียกว่าพี่เขยได้ ก็แปลว่าพี่เย่มีภรรยาแล้วสินะ อีกทั้งยังเป็นพี่สาวของเขาคนนี้ด้วยที่จริงเฉินเข่อซินเดามาตลอดว่าบางที่พี่เย่อาจมีภรรยาแล้ว แต่หลายวันมานี้เธอไม่เคยได้พบเธอคนนั้น ทำให้หัวใจของเธอยังพอมีความหวังขึ้นมาบ้างแต่แล้ววันนี้ ความหวังในหัวใจของเธอกลับถูกทำลายในเวลานี้สีหน้าของหยางปินตึงเครียดจนถึงขั้นลืมหวังลี่ผู้หญิงของตัวเองไปสนิท “แพทย์เซียนเย่ เขาเป็นน้องเขยของท่านเหรอครับ?”“อือ!”เย่เทียนหยู่พยักหน้าการยอมรับนี้ ทำเอาสีหน้าของเฉินเข่อซินดูมืดมนยิ่งขึ้น“เช่นนั้นเองเหรอครับ เมื่อครู่ผมไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ดี ขอแพทย์เซียนเย่อย่าใส่ใจ” หยางปินขอโทษทันทีหลังจากอธิบาย“อือ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้จะเอายังไงเหรอ?” เย่เทียนหยู่ถาม“ในเมื่อแพทย์เซียนเย่เอ่ยปาก แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมก็จะปล่อยไปครับ ขอให้แพทย์เซียนเย่อย่าเอาความที่ผมเสียมารยาทเลยนะครับ” หยางปินกล่าวอย่างประหม่า“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก!”“ในเมื่อคุณช่วยผมแล้ว ผมก็จะช่วยคุณบ้าง ผู้หญิงคนนี้ผมชอบมาก ผมขอเลยคุณคงไม่ว่ากันนะ?” เ
ผู้คนต่างก็พูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้สมองเสียจริงถึงว่าทำไมเขาถึงว่ากันว่าผู้หญิงนมใหญ่ชอบไร้สมอง และมันก็ได้พิสูจน์ไปเมื่อกี้เมื่อหยางปินอาละวาดหลังเหตุการณ์ที่เย่เทียนหยู่ทำ ทั้งตัวทั้งใจเขาก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อย ประเด็นคือเขาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหวังลี่ เขาถึงได้คลี่คลายใจจากนั้นเขาก็หันหน้าไป “แพทย์เซียนเย่ ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ท่านช่วยผม”“เรื่องเล็ก อันที่จริงไม่ใช่แค่ผมหรอกที่ช่วยคุณ”ขณะที่เขาพูด เย่เทียนหยู่มองไปที่หลินจื่อตงและพูดอย่างใจเย็น: “ถึงหลินจื่อตงจะทำเกินไป แถมยังไร้ยางอาย แต่ถ้าลองคิดอีกทาง เขาก็ถือว่าบังเอิญช่วยคุณไว้เหมือนกันนะ”“เขาช่วยให้คุณเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าคุณจะถูกหลอกไปนานแค่ไหน วันหลังแต่งเข้าตระกูลหยาง คงจะผลเสียจะยิ่งใหญ่กว่านี้”ทันทีที่สิ้นคำพูด หยางปินก็พยักหน้า แพทย์เซียนเย่พูดถูก ถ้าไม่ใช่เพราะการกระทำของหลินจื่อตง เขาอาจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ในตอนนั้นเอง ในที่สุดหวังลี่ก็เข้าใจ ว่าทำไมเย่เทียนหยู่ถึงพูดแบบนั้น มันทำให้เขารู้สึกละอายใจมาก และสีหน้าของเธอก็หมองหม่นอย่างหนักทั้งที่เมื่อกี้