ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาบนขา นาทาเลียเหลือบไปมองก็พบว่าส่วนนั้นของเขากำลังสอดแทรกเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ
“อึ่ก..” “ผ่อนคลายนาทาเลีย ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทนไหว แต่เจ้าจะต้องผ่อนคลาย โอบรัดข้าแน่นปานนั้นใจคอจะทำให้ข้าขาดใจตายเลยหรืออย่างไรกัน” สะโพกของเธอถูกมือของเขายึดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้นาทาเลียได้มีโอกาสถอนสะโพกหนี โอเวนยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลแรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสั่นสะท้าน เขาจ้องมองใบหน้าของนาทาเลียพร้อมกับขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างไม่มีความปรานี ส่วนที่เหลือสอดแทรกเข้าไปด้านในจนสุดลำแท่ง เขากัดกรามแน่นพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนไล้ไปตามผิวกายเปลือย มือของโอเวนขยำไปมากับเนินเนื้อคู่สวย "พอทำแบบนี้พร้อมๆ กันถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยอย่างนั้นหรือ นาทาเลียเจ้าชอบการกระทำของข้าก็บอกมาเถอะ ร่างกายของเจ้าตอบสนองเช่นนี้แล้ว อันที่จริงมันชัดเจนมากจนข้าไม่ต้องเอ่ยถามก็ได้..” แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากได้ยินว่าเธอสุขสมกับการกระทำของเขา อยากได้ยินว่าเธอกำลังมีความสุขภายใต้ร่างกายเขา ความเป็นชายของเขาแทรกลึกเข้ามาก่อนจะถูกดึงออกเพื่อรอเวลาที่จะกลับเข้ามายังส่วนลึกอีกครั้ง ต้นขาด้านในของเธอสั่นสะท้าน นาทาเลียได้แต่บิดตัวเร้าเมื่อการสอดแทรกทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่ได้อยากรู้สึกเช่นนี้ แต่ทว่าความต้องการทางร่างกายเป็นเรื่องที่หักห้ามเอาไว้ได้ยาก และถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกดีมากแค่ไหนแต่ในใจของนาทาเลียก็ภาวนาให้มันจบลงโดยไวที่สุด เขาหยุดยั้งทุกการกระทำก่อนจะอุ้มเธอวางเอาไว้บนตัก โอเวนยกขาเธอขึ้นก่อนที่เขาจะปล่อยให้ตกลงบนอะไรสักอย่างที่แข็งผงาดเตรียมพร้อม “อ๊า!!” “แบบนี้..ดีกว่าเดิมเยอะเลยว่าไหม ให้ตายสิข้าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ปลายยอดล่วงผ่านเข้ามาถึงจุดที่ลึกที่สุด และมันสร้างความสุขสมให้เธอได้อย่างชัดเจน ช่องทางบีบรัดจนสัมผัสได้ถึงรูปร่างลักษณะและขนาดอันใหญ่โตของอีกฝ่าย “อ่า..โอเวน ช้าลงหน่อย!!” เขาจุมพิตลงไปบนหน้าปากที่ชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ “เรื่องนั้นเจ้าต้องโทษตัวเอง ใครใช้ให้เจ้าหวานล้ำถึงเพียงนี้กันเล่า ข้าหยุดขยับไม่ได้เลยนาทาเลีย ช่วยขยับสะโพกไปพร้อมกันได้รึเปล่ามันเหมือนกับว่าข้าจะเสร็จสมแล้วเลย..อึ่ก..” ลมหายใจของเขาหอบกระชั้นสลับกับผ่อนลมหายใจสั่นเทาร้อนยาว โอเวนฝังจมูกลงไปบนแก้มของนาทาเลียแรงๆ “อึ่ก..ข้าไม่ไหวแล้วนาทาเลีย” เธอขยุ้มเส้นผมเขาเอาไว้แน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านจากโอเวนนั้นทำให้นาทาเลียเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เธอขบกัดริมฝีปากแน่นเมื่อร่างกายจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ บนความสุขสมที่เขาบรรจงส่งมอบให้ “อ๊ะ..อื้อ” ดูเหมือนว่าในตอนนี้ความสุขสมจะมีชัยเหนือความอึดอัดหรือหวาดหวั่นทุกอย่างในหัวใจของนาทาเลีย ทั้งตัวและหัวใจเหมือนจะลอยขึ้นฟ้าเลย ในท้องรู้สึกได้ถึงความร้อนและแรงกระตุกเบาๆ ของแก่นกายที่ยังคงสอดเร้นเอาไว้ในร่างกายของเธอ เขาพรมจูบบนใบหน้าของนาทาเลียราวกับว่าเราคือคู่แต่งงานใหม่ “หายเหนื่อยรึยัง..ทำต่ออีกครั้งได้ไหม?” เธอช้อนสายตามองหน้าเขาก่อนจะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา “เอามันออกไปเดี๋ยวนี้..” เสียงนั้นเหมือนกับฟ้าที่ผ่าลงมากลางหัวของโอเวนกลางวันแสกๆ นาทาเลียลุกขึ้นโดยไม่รอให้เขาได้กล่าวคำใด เธอเดินหอบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องอาบน้ำหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงน้ำที่ไหลรินออกมา นาทาเลียใช้เวลาไม่นานกับการชำระล้างร่างกายของเธอและเธอสวมเสื้อผ้าได้ด้วยตัวคนเดียวโดยที่ไม่ต้องเรียกสาวใช้เลยด้วยซ้ำ “เจ้าสาบานแล้วว่าจะลืมเรื่องในวันนี้เพราะอย่างนั้น ลืมมันซะโอเวน” โอเวนยกมือขึ้นมาเสยผมของเขาไปด้านหลัง ก่อนที่เขาจะแค่นหัวเราะออกมา “เจ้าเล่นสนุกอะไรอยู่นาทาเลีย คิดว่าข้าจะยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ” เขาลุกขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้สวมอะไรสักชิ้น นาทาเลียมองหน้าเขาในขณะที่เธอกำลังผูกริบบิ้นหมวกบอนเน็ตที่ใต้คาง “แล้วอย่างไร ข้าไม่มีอะไรจะบอกกล่าวกับเจ้าอีกแล้วนอกจาก ขอบคุณสำหรับเรื่องในวันนี้” หลังจากกล่าวจบนาทาเลียก็เปิดประตูพร้อมกับเดินจากไป สตรีมากมายของโอเวนยังคงนั่งรอเขาอยู่ที่ด้านหน้าห้องนอน “พวกเจ้าเข้าไปด้านในได้แล้ว องค์รัชทายาททรงเรียกหา..” หลังจากสิ้นคำกล่าวของนาทาเลียเหล่าสตรีพวกนั้นก็วิ่งกรูกันเข้าไปด้านในห้องนอนขององค์รัชทายาทโอเวน นาทาเลียรีบพาตัวเองเดินออกมาตรงนั้น เธอยกมือขึ้นมากุมหัวใจตัวเองเอาไว้ ไม่เป็นไร เธอจะต้องไม่เป็นอะไร ภารกิจข้อที่ 2 สำเร็จลุล่วง ภารกิจข้อที่ 3 และ 4 จะมีการประกาศเมื่อครบเวลาสี่เดือนนับจากวันที่เริ่มต้นภารกิจที่ 1 นาทาเลียถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอมีเวลาว่างๆ ที่จะได้พักกายและใจอีกสองเดือนก่อนที่ภารกิจที่ 3 จะประกาศออกมา นาทาเลียเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าสวนของห้องโถงจัดเลี้ยง ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าขอบตามันร้อนผ่าวมากเหลือเกิน หยาดน้ำตาแวววาวรินไหลออกมา นาทาเลียกระชับหมวกบอนเน็ตของเธอให้มันปกปิดใบหน้าที่กำลังดูไม่ได้ของตัวเอง เธอยืนร้องไห้ออกมาเงียบๆ โดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่สวนของพระราชวัง วันนั้นที่ตรงนี้เธอเคยถูกระบบเกมสั่งให้ตบหน้าของเลดี้ซีลีน วันนั้นเธอก็นั่งร้องไห้ตรงนี้ ส่วนวันนี้ก็ยังมายืนร้องไห้ตรงนี้อีกให้ตายเถอะ เธอจะไม่เข้ามาที่พระราชวังอีกหากไม่จำเป็น เพราะที่นี่มีแต่ความทรงจำแย่ๆ ทั้งนั้นเลย “ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าท่านกำลังร้องไห้เพราะอะไร แต่..ท่านช่วยรับผ้าเช็ดหน้าของข้าไปด้วยเถอะนะครับ” นาทาเลียเงยหน้าขึ้นเพื่อมองบุรุษผู้กำลังส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ เธอไม่คุ้นหน้าเขามาก่อนเลย และมันเหมือนกับว่าเราทั้งสองคนไม่เคยพบเจอกันมาก่อน “อ่า..ความงามบนใบหน้าของท่านไม่เหมาะกับน้ำตาเลยนะครับ เพราะอย่างนั้นอย่างร้องไห้อีกเลยครับ” นาทาเลียยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้ามาจากมือของเขา “ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณพร้อมกับเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เพราะนาทาเลียในยามนี้ไม่ต้องการสนทนากับใคร เธออยากกลับไปที่คฤหาสน์ หลังจากนั้นก็ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดสักหลายๆ รอบ ให้ร่างกายของเธอหลงลืมสัมผัสของโอเวนให้หมดสิ้นแกสทอนเดินเข้าที่คฤหาสน์ของท่านหญิงนาทาเลีย เขาเลิกคิ้วเพื่อเป็นการกล่าวถามอีฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตกลงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่“ท่านหญิงดูเหมือนว่าจะพึ่งกลับมาจากพระราชวังค่ะ และ..สภาพจิตใจของท่านหญิงนั้นไม่สู้ดีสักเท่าไหร่”แกสทอนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนาทาเลีย เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ แต่ทว่าที่หางตากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปที่หางตาของเธอด้วยความแผ่วเบานาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อเธอมองเห็นแกสทอนหัวใจที่เจ็บปวดของนาทาเลียก็เหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น“แกสทอน..”“ขอโทษด้วยนะครับ หากว่าข้าทำให้ท่านตื่น”นาทาเลียส่ายหน้าเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็นอนมานานมากพอสมควรแล้วเหมือนกัน เจ้าขึ้นมานอนบนนี้สิ”เขามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนแกสทอนไม่ได้ลังเลกับการขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้านาย เพราะเขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตัวเองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในเวลานี้ไม่มีเจ้านายหรือว่าพ่อบ้านอะไรทั้งนั้น มี
“แกรนด์ดยุคอาโมรีและท่านหญิงอาโมรีมาถึงแล้วครับ..”แน่นอนว่าเมื่อเสียงประกาศจบลงชนชั้นสูงทุกคนต่างพยายามเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อมองหน้าของสองพี่น้องที่งดงามประดุจรูปปั้นในวิหารศักดิ์สิทธิ์ตระกูลอาโมรีนั้นขึ้นชื่อเรื่องเลือดบริสุทธิ์ เป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากองค์จักรพรรดิองค์ก่อน แต่ทว่าท่านแกรนด์ดยุครุ่นก่อนปฏิเสธที่จะครองราชย์ ตำแหน่งองค์จักรพรรดิจึงถูกส่งต่อและมอบให้ตระกูลเบลซ ตระกูลดยุคซึ่งเป็นผู้ทำสงครามชนะแทนตระกูลเบลซสถาปนาราชวงศ์ขึ้นมาใหม่และยังคงให้เกียรติตระกูลอาโมรีเสมอเพราะอย่างนั้นในเมื่อแม้แต่องค์จักรพรรดิยังคงให้เกียรติและเคารพ ชนชั้นสูงทั่วจักรวรรดิจึงไม่มีใครที่กล้าคิดจะมีเรื่องกับคนในตระกูลอาโมรีเลยพอฟังถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะนึกอิจฉาท่านหญิงอาโมรีกันเป็นแถวๆ เพราะว่านางมีพี่ชายที่ตามใจนางยิ่งและเพราะเป็นอาโมรีจึงไม่มีใครสักคนที่กล้าจะขัดใจ“นาทาเลีย สีหน้าของเจ้าไม่สู้ดีเลย ให้พี่พากลับดีหรือไม่”ฉันส่งยิ้มให้กับพี่ชายที่ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่าดวงตาฉันมันจะบอด เพราะความหล่อเหลาที่เจิดจรัสของพี่ชายมันช่างจ้าซะเหลือเกิน“ไม่ค่ะ ข้าไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”
ซีลินยกมือขึ้นมาลูบแก้มของตัวเบาๆ เธอมิได้รู้สึกโกรธเคืองสตรีงดงามเบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย เธอก้มหน้าลงเพื่อเป็นการบอกลาก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งท้ายเอาไว้เพียงรอยยิ้มและแววตาที่อ่อนโยนซึ่งมันบาดลึกลงไปในหัวใจของนาทาเลียได้อย่างชัดเจนนาทาเลียก้มมองมือของตัวเอง แน่นอนว่ามันยังเจ็บ ยังมีร่องรอยแดงเนื่องจากมันพึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของซีลิน หน้าต่างสีแดงนั้นหายไปไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยนอกจากความเจ็บของเธอที่ฉายชัดขึ้นมาชีวิตเช่นนี้ดีแล้วอย่างนั้นหรือ? ต้องทำตามคำสั่งพวกนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำถามนั้นเธอเคยได้คำตอบมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะเธอคิดว่าอย่างไรเสีย นี่ก็คือเกม..และหากว่าเธอลองตายไป เธออาจจะได้กลับไปยังโลกที่เคยอยู่แต่ทว่าเมื่อนาทาเลียตาย เธอกลับเข้ามาในร่างของตัวเองอีกครั้ง..พร้อมกับหน้าต่างคำสั่งว่าเธอเหลืออีก 9 ชีวิต นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถตายได้อีก9ครั้งรึเปล่านะครั้งเดียวก็เจ็บปวดแทบบ้าแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเธอไม่คิดที่จะลองตายอีกครั้งแล้ว เพราะอย่างนั้นเธอจะต้องตามหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากหน้าต่างข้อความพวกนี้อย่างน้อยก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่เป็นของเธออย่างแท้จริง.
ข้อที่1. นาทาเลียจะต้องใช้แส้ฟาดไปที่ก้นอันเปลือยเปล่าของพ่อบ้านแกสทอน...เพียงข้อแรก ภารกิจเพื่ออิสระของเธอเพียงข้อแรกก็ทำให้นาทาเลียถึงกับกุมขมับ หากภารกิจนั้นระบุว่า ให้เธอใช้แส้ฟาดลงไปบนก้นของแกสทอน เธอยังจะทำได้ง่ายดายเสียกว่าเพราะว่าแกสทอนคือพ่อบ้านของอาโมรี เขาคือลูกชายเพียงคนเดียวของท่านเคาน์ผู้ล่วงลับ ท่านพี่รับเขาเข้ามาที่อาโมรีและส่งมอบตำแหน่งของพ่อบ้านให้เขาแกสทอนคือชายอายุสามสิบสามที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาและชวนมอง เขาเหมาะสมกับการเป็นท่านเคาน์หรือว่าเป็นขุนนางมากกว่าที่จะเป็นพ่อบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นการเป็นพ่อบ้านของอาโมรีนั้นทำให้เขามีอำนาจมากกว่าขุนนางบางคนเสียอีก ตามเนื้อเรื่องแล้วนาทาเลียและแกสทอนนั้นรู้จักกันตั้งแต่เด็ก เขาดูแลเธอมาตลอดในฐานะของพ่อบ้านเรื่องทุกเรื่องของนาทาเลียล้วนแล้วแต่ผ่านสายตาของเขามาทั้งสิ้นแต่..ความสัมพันธ์ของนาทาเลียและแกสทอนไม่ได้ดีขนาดนั้นเพราะว่าครั้งหนึ่งนาทาเลียเคย..คิดจะจับแกสทอนมาเป็นชายบำเรอ และนั่นคือครั้งแรกและครั้งเดียวที่ท่านพี่อลาโนออกหน้าช่วยเหลือเขา เป็นครั้งแรกที่พี่ชายของนาทาเลียขัดใจนาง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแกสทอนก็หาทางหลีกเลี่
อีฟยกมือขึ้นมากุมมือของท่านหญิงเอาไว้“เรื่องนั้นข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่านหญิงอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าท่านหญิงจะต้องการความช่วยเหลือแบบไหน บอกกล่าวกับข้ามาได้เลยนะคะ ข้าจะไม่ถามอะไรทั้งนั้นเพราะอย่างนั้น..ท่านหญิงได้โปรดวางใจและอย่าทำหน้าลำบากใจเช่นนี้อีกในเวลาที่ท่านสั่งให้ข้าทำอะไร”ก่อนที่จะมาเข้ารับตำแหน่งสาวใช้ประจำตัวของท่านหญิงนาทาเลีย จะต้องมีการกล่าวคำปฏิญาณก่อนและอีฟกล่าวคำสาบานในความภักดีของเธอไปแล้ว ไม่ว่าท่านหญิงจะต้องการให้เธอทำอะไร อีฟล้วนแล้วแต่ยินดีทั้งนั้นนาทาเลียสวมชุดสาวใช้พร้อมกับวิกผมสีน้ำตาล เธอไม่รู้ว่าทำแค่นี้จะสามารถตบตาของแกสทอนได้หรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็น่าจะลองเสี่ยงดู เธอถือถาดเครื่องหอมเดินเข้าไปที่ด้านหน้าบ้านพักของพ่อบ้าน ซึ่งนาทาเลียไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าบ้านพักของพ่อบ้านจะอยู่ไกลมากถึงขนาดนี้ แถมบ้านของเขายังมีขนาดใหญ่โตราวกับคฤหาสน์ขนาดย่อมๆ มีทางออกด้านหลังอีกหนึ่งทางที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ทางด้านหน้าของคฤหาสน์อาโมรี” วันนี้เป็นเวรของข้าในการรับใช้ท่านพ่อบ้านค่ะ”คำกล่าวนี้สาวใช้ผู้ที่จะต้องมารับใช้แกสทอนบอกกล่าวกับเธอเอาไว้ เขาไม่ค่อยยินยอมให้สตร
นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก แกสทอนจ้องหน้าเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขายื่นมือมาดึงวิกผมของเธอออก และทันทีที่ผมสีเงินสยายลงมาใบหน้าของนาทาเลียก็ยิ่งตกใจมากกว่าเก่าหมายความว่าเขารู้อยู่แล้วหรอกหรือว่าเป็นเธอ เขาจำได้อย่างไรกันในเมื่อเธอแนบเนียนขนาดนี้“ท่านหญิงเข้ามาที่นี่มีจุดประสงค์อันใดกันครับ?”เขากล่าวพร้อมกันเดินเข้ามาหาเธอและนาทาเลียก็เดินถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เธอขบเม้มริมฝีปากเบาๆ เพื่อคิดหาทางออก ทว่าเขาก็ยังคงเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับส่งสายตาที่แสนกดดันมาเรื่อยๆจนตอนนี้แผ่นหลังของเธอมันชนกับผนังห้องอาบน้ำแล้ว ไม่มีหนทางใดๆ ให้นาทาเลียได้หลบหนีอีกแล้ว“ข้า..ต้องการเจ้า เจ้าก็รู้นี่แกสทอนว่าข้าต้องการเจ้ามากแค่ไหน?”เธอกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเครือ แน่นอนว่ามันไม่เหลือทางเลือกอีกแล้วนอกจากการทำตัวให้เหมือนกับนาทาเลียจอมชั่วช้าคนเดิม อย่างน้อยเธอคือท่านหญิงและเธอมีอำนาจเหนือเขาถึงแม้ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามแกสทอสแค่นหัวเราะออกมาราวกับคนที่บ้าคลั่ง เขาจับที่ปลายคางของเธอเพื่อที่จะเชยคางมนของเธอขึ้นมามองสบตากับเขาความสวยที่ราวกับไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ นั่นคือคำนิยามของท
เธอช้อนสายตามองหน้าเขา และแกสทอนกำลังวางเธอลงบนเก้าอี้ที่ทำจากไม้ ทว่ามือของเธอที่กำลังกอดคอเขาอยู่นั้นกลับไม่ยินยอมปล่อย เพราะหากว่าเขาเธอปล่อยมือละก็จะต้อง..เห็นช้างน้อยของเขาอย่างแน่นอนและ...นี่คือโอกาสดีเลยไม่ใช่เรอะที่เธอจะใช้แส้ฟาดที่ก้นของเขา“แกสทอน..”ผมสีดำของเขามันเปียกชื้น และในยามนี้มันไม่ได้เป็นทรงอย่างที่ควรจะเป็นเพราะว่ามันเปียกลู่จนปกลงบนใบหน้าทำให้ภาพลักษณ์พ่อบ้านที่แสนจะสมบูรณ์แบบของแกสทอนมันจางหายไปจนหมด เขาเหมือนกับเด็กหนุ่มน้อยที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าทั้งๆ ที่ความคิดแกสทอนอายุสามสิบสามแล้วเธอเผลอไผลจ้องมองใบหน้าของเขาอยู่ครู่หนึ่งจนลมจากหน้าต่างพัดผ่านมา นาทาเลียถึงได้รู้สึกว่าเธอในยามนี้กำลังเปียก ชุดที่เธอสวมใส่ก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำไม่แตกต่างจากสภาพของเขาสักเท่าไหร่นักใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อก่อนที่นาทาเลียจะค่อยๆ หยิบแส้หนังสีดำออกมาจากเอวขอร้องล่ะแกสทอน แค่ตีเบาๆ เท่านั้นเองท่านคงจะไม่โกรธข้าหรอกใช่ไหม?สายตาของท่านหญิงนาทาเลียมันทำให้เขารู้สึกคันหยุบหยิบที่หัวใจ เธอร้องเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงหวานล้ำและแววตาของเธอมันก็เต็มไปด้วยความเย้ายวนเป็นที่สุ
นาทาเลียเผลอเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเธอได้ยินคำกล่าวของเขา เท่าเทียมในความหมายของเขามันมีความหมายว่าหากเธอเห็นก้นเขา เขาก็จะต้องเห็นก้นเธอแบบนั้นเรอะ!!“หมายความว่าเจ้าต้องการที่จะทำแบบเดียวกันกับที่ข้าทำ?”เธอย้อนเขาอีกครั้ง“ครับ ข้าไม่เห็นว่าคำกล่าวของข้ามันจะเข้าใจยากตรงไหนเลย แต่ทว่าในยามนี้ข้าจะต้องทำให้ร่างกายของท่านอบอุ่นซะก่อนไม่อย่างนั้นสาวใช้มากมายจะเดือดร้อนในวันพรุ่งนี้”เขาจับที่ไหล่ของเธอก่อนจะหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหลังให้กับเขา แกสทอนถอดผ้ากันเปื้อนที่ผูกอยู่บนเอวของนาทาเลียออกมา ตามด้วยชุดของสาวใช้ที่เธอกำลังสวมอยู่แกสทอนไม่ได้ให้โอกาสในการปฏิเสธแก่นาทาเลียเพราะว่าเขาเร่งรีบถอดชุดที่เปียกชุ่มพวกนั้นออกจากร่างกายของเธอ หลังจากนั้นเขาใช้ผ้าห่มคลุมตัวเธอเอาไว้ด้วยความรวดเร็วและคล่องแคล่วหลังจากนั้นเขาก็ห่อตัวของนาทาเลียด้วยผ้าห่มแล้วอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อพาเธอไปยังห้องนอนของเขา“แกสทอน..”ทำไมนะเธอถึงได้ขยันเรียกชื่อของเขานักหนา และชื่อของเขาที่เปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงของเธอมันสร้างความสั่นไหวในใจของแกสทอนได้อย่างไม่น่าเชื่อ“ทำไมครับ ไม่สะดวกให้ข้าเปลี่ยนชุดให้อย่างนั้นหรือ? หากจะ
แกสทอนเดินเข้าที่คฤหาสน์ของท่านหญิงนาทาเลีย เขาเลิกคิ้วเพื่อเป็นการกล่าวถามอีฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตกลงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่“ท่านหญิงดูเหมือนว่าจะพึ่งกลับมาจากพระราชวังค่ะ และ..สภาพจิตใจของท่านหญิงนั้นไม่สู้ดีสักเท่าไหร่”แกสทอนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนาทาเลีย เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ แต่ทว่าที่หางตากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปที่หางตาของเธอด้วยความแผ่วเบานาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อเธอมองเห็นแกสทอนหัวใจที่เจ็บปวดของนาทาเลียก็เหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น“แกสทอน..”“ขอโทษด้วยนะครับ หากว่าข้าทำให้ท่านตื่น”นาทาเลียส่ายหน้าเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็นอนมานานมากพอสมควรแล้วเหมือนกัน เจ้าขึ้นมานอนบนนี้สิ”เขามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนแกสทอนไม่ได้ลังเลกับการขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้านาย เพราะเขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตัวเองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในเวลานี้ไม่มีเจ้านายหรือว่าพ่อบ้านอะไรทั้งนั้น มี
ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาบนขา นาทาเลียเหลือบไปมองก็พบว่าส่วนนั้นของเขากำลังสอดแทรกเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ“อึ่ก..”“ผ่อนคลายนาทาเลีย ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทนไหว แต่เจ้าจะต้องผ่อนคลาย โอบรัดข้าแน่นปานนั้นใจคอจะทำให้ข้าขาดใจตายเลยหรืออย่างไรกัน”สะโพกของเธอถูกมือของเขายึดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้นาทาเลียได้มีโอกาสถอนสะโพกหนีโอเวนยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลแรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสั่นสะท้าน เขาจ้องมองใบหน้าของนาทาเลียพร้อมกับขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างไม่มีความปรานี ส่วนที่เหลือสอดแทรกเข้าไปด้านในจนสุดลำแท่งเขากัดกรามแน่นพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนไล้ไปตามผิวกายเปลือย มือของโอเวนขยำไปมากับเนินเนื้อคู่สวย"พอทำแบบนี้พร้อมๆ กันถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยอย่างนั้นหรือ นาทาเลียเจ้าชอบการกระทำของข้าก็บอกมาเถอะ ร่างกายของเจ้าตอบสนองเช่นนี้แล้ว อันที่จริงมันชัดเจนมากจนข้าไม่ต้องเอ่ยถามก็ได้..”แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากได้ยินว่าเธอสุขสมกับการกระทำของเขา อยากได้ยินว่าเธอกำลังมีความสุขภายใต้ร่างกายเขาความเป็นชายของเขาแทรกลึกเข้ามาก่อนจะถูกดึงออกเพื่อรอ
เมื่อเหล่าสตรีมากมายในห้องนอนขององค์รัชทายาทเห็นท่านหญิงอาโมรีซึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับออกปากไล่พวกนาง แน่นอนว่าสภาพของสตรีแต่ละคนมันไม่แตกต่างกันเลย และพวกนางกำลังหยิบคว้าผ้าห่มและชุดเดรสที่กระจัดกระจายไปตามพื้นขึ้นมาปกคลุมร่างกายเอาไว้ แล้ววิ่งหนีออกจากห้องไป สกาเล็ตมองที่องค์รัชทายาท แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่มีการเอ่ยปากเพื่อรั้งเธอหรือว่าสตรีใดเอาไว้ บนใบหน้าที่หล่อเหลาของพระองค์มันเต็มไปด้วยความตื่นตกใจในแบบที่เหมือนกับว่าการที่ท่านหญิงมาหาพระองค์ที่นี่ในวันนี้มันคือเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม และเมื่อสกาเล็ตเดินจากไปเป็นคนสุดท้าย ประตูห้องนอนขององค์รัชทายาทก็ปิดลง มือของนาทาเลียสั่นเทา เธอมองหน้าของโอเวนที่กำลังมีสีหน้าตื่นตกใจ ซึ่งเธอไม่ได้แปลกใจกับสีหน้าเช่นนั้นของเขาสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาคงไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่มาหาเขาในยามนี้ ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่ไม่เคยคิด เพราะหากไม่ติดว่าจะต้องทำภารกิจเธอก็ไม่อยากจะมาเหยียบที่นี่เหมือนกัน! นาทาเลียคิดว่าตัวเองในยามนี้กำลังทำเรื่องที่น่าสมเพชมากที่สุด เธอสูญเสียศักดิ์ศรีและสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปให้ระบบเกมบ้าๆ นี่ ทว่าเธอไม่มีทางเลือก เ
นาทาเลียมองหน้าของโลเวลอีกครั้ง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา“เช่นนั้นเรื่องที่เจ้าเขียนมาในจดหมาย เรื่องของเลดี้สกาเล็ต..หมายความว่าเจ้าให้คนมาแอบดูข้าอย่างนั้นหรือ?”โลเวลจุดยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ สาบานได้เลยว่าคราแรกเขาเกือบจะยอมแพ้เรื่องการเป็นผู้นำตระกูลบาทาซาร์แล้ว หากว่าเขาไม่ได้พบเจอกับเธอก่อน และในตอนนี้จะเรียกว่าเธอคือแสงสว่างของเขาก็คงจะไม่ผิด ในทางเดินที่มืดมิดท่านหญิงนาทาเลียเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับขวดไวน์ในมือ ราวกับนางกำลังบอกกล่าวกับเขา ว่าเขาสามารถทำอะไรกับนางก็ได้ในช่วงที่นางกำลังเมามายไม่ได้สติ เขาไม่เคยโลภหรือว่าอยากจะได้สิ่งใดมาก่อนเลยจนได้มาพบเธอโลเวลคิดว่าหากเขาได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับท่านหญิงอาโมรี เส้นทางการแย่งชิงอำนาจในตระกูลมันคงจะง่ายดายมากกว่าเดิม ทว่าด้วยการปฏิเสธในครั้งแรกมันทำให้เขามองเห็นความสั่นไหวในสายตาของเธออย่างเห็นได้ชัดเจน ราวกับว่านางมีเรื่องที่บอกใครไม่ได้อยู่..อีกทั้งเท่าที่เขาเห็น ท่านหญิงอาโมรีไม่ได้ใกล้เคียงกับข่าวลือเลย นางไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่เขาได้ยินมา อีกทั้งเขายื่นข้อเสนอเรื่องที่ให้เธอนอนกับเขาไปแล้
นาทาเลียยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มและเมื่อเธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม เหล่าบรรดาสาวใช้ทั้งหลายก็เดินถอยหลังไปราวสิบเก้า ราวกับว่าการกระทำของเธอมันคือคำสั่งอะไรสักอย่างแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน เพราะว่าในยามนี้มีเรื่องที่เธอไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือองค์รัชทายาทโอเวน เขามานั่งปั้นยิ้มอยู่ที่คฤหาสน์ของเธอทำไมกัน“บรรยากาศที่คฤหาสน์ของเจ้านั้นช่างแตกต่างยิ่งนัก มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่ค่อยออกงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าเจ้ามีสวนที่แสนงดงามพวกนี้นี่เอง ข้าก็หลงคิดว่าเจ้าป่วยไข้หรือว่าไม่สบาย”หางคิ้วของนาทาเลียกระตุกเบาๆ เธอไม่ได้อยากจะพูดคุยกับคนเช่นองค์รัชทายาทสักเท่าไหร่นัก“บอกเหตุผลของฝ่าบาทมาเถอะเพคะ เราสองคนใช่คนที่จะสามารถมาดื่มชาด้วยกันอย่างนั้นหรือ?”“นาทาเลีย ถึงอย่างไรตำแหน่งพระชายาของข้ามันก็จะต้องเป็นของเจ้า เพราะอย่างนั้นมาญาติดีกันเอาไว้ตั้งแต่ในยามนี้ย่อมเหมาะสมยิ่งแล้ว”อีกเหตุผลที่เธอไม่ค่อยชอบราชวงศ์มากเท่าไหร่นัก คืออีกสองปีเมื่อวิตอเรียปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาทจะหลงลืมการมีอยู่ของนาทาเลียไปจนหมดสิ้น พวกเขาให้ความสนใจกับอำนาจของพลังศักดิ์สิทธิ์มาก
มื้ออาหารแสนหรูหราในพระราชวังซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับแกรนด์ดยุคอาโมรีโดยเฉพาะ มีขุนนางมากหน้าหลายตาที่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงนี้ด้วย“ข้อตกลงของเรานั้น ท่านยังต้องการเวลาในการทำความเข้าใจอีกหรือไม่แกรนด์ดยุค”อลาโนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เขาส่งยิ้มให้กับองค์จักรพรรดิซึ่งกำลังคาดหวังกับคำตอบของเขาอยู่“นาทาเลียยังเด็ก อีกทั้งองค์รัชทายาทก็ยังทรงสนุกอยู่กับการเล่นกับเลดี้มากมาย..ข้อเสนอของเรานั้นยังคงต้องรักษาเพียงแต่นาทาเลียและองค์รัชทายาทยังไม่พร้อม”องค์จักรพรรดิเบนสายตาไปมองหน้าของลูกชายเขา คำกล่าวของแกรนด์ดยุคนั้นก็ถือว่ามีส่วนที่จริงอยู่เหมือนกัน เดิมทีเขาคือดยุคที่ไม่ได้มีสายเลือดของราชวงศ์อะไรเลย แต่แกรนด์ดยุคอาโมรีรุ่นก่อนกลับหยิบยื่นอำนาจที่ใครๆ ต่างไขว่คว้ามาให้เขา ด้วยพันธสัญญาว่าราชวงศ์เบลซที่พึ่งจะสถาปนาขึ้นมาใหม่จะต้องแต่งงานกับทายาทของอาโมรีเขาไม่ได้อยากจะกดดันอะไรเลย เพียงแต่เรื่องการเป็นราชวงศ์ของเขาก็ถูกจับตามองอยู่เหมือนกัน แน่นอนหากว่าเขาได้อำนาจของอาโมรีมาช่วยค้ำจุนราชวงศ์ ความมั่นคงมันก็จะมีมากขึ้นยามนี้ทั้งท่านหญิงนาทาเลียและโอเวนยังคงเล่นสนุกกับงานเลี้ยงต่างๆ น
กว่านาทาเลียจะกลับมาถึงคฤหาสน์อาโมรีก็ปาเข้าไปช่วงเย็น เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ อลาโนก็เดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาในทันทีและเมื่อนาทาเลียเห็นหน้าพี่ชายของเธอ มันก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอคือเด็กที่แอบหนีเที่ยวแต่กลับถูกจับได้ยังไงไม่รู้สิ“เทียร์มาคุยกันหน่อยสิ”นาทาเลียขบเม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับเดินตามพี่ชายเข้าไปที่คฤหาสน์อลาโนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของเธอสักเท่าไหร่ และเมื่อนาทาเลียเข้ามานั่งด้านใน สาวใช้ก็รีบยกน้ำชาเข้ามาในทันที“เรื่องของลูกชายคนรองของเคาน์บาทาซาร์”อ่า..เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องถูกตำหนิ เรื่องนั้นนาทาเลียคิดเอาไว้อยู่และ และเธอจะยินยอมให้ท่านพี่สั่งสอนเธอ เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะก่อเรื่องเอาไว้ใหญ่มากพอสมควร“หากเจ้าชอบเขาจริงๆ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้พี่จะให้คนของเราไปพาเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าดีหรือไม่”นาทาเลียถึงกับสำลักน้ำชาที่เธอกำลังยกขึ้นมาดื่ม เธอคิดว่าท่านพี่จะตำหนิหรือไม่ก็ด่าทอเรื่องที่เธอทำให้ชื่อเสียงของอาโมรีเสื่อมเสีย แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ข้า..ไม่ได้ชอบเขาค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาของท่านพี่แต่กั
นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดศีรษะที่เธอต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำมาดื่มดับกระหาย“อีฟ..”นาทาเลียเรียกชื่ออีฟด้วยความเคยชิน ทว่าในห้องนอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี้มันกลับไม่ใช่ห้องนอนแสนหรูหราที่คุ้นชินสายตาเลยแม้แต่น้อย แถมบนเตียงที่เธอพึ่งจะลุกออกมาก็มีคนนอนอยู่นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดด้วยความรู้สึกประหม่าพอสมควร ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับพูดคุยกับ..ชายผู้มีดวงตาที่น่าจดจำ เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขามันคนละสีกัน และเมื่อนาทาเลียเดินไปที่เตียงเธอก็ยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ เพราะว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือชายผู้มีดวงตาสองสีที่เธอพูดคุยด้วยไม่ผิดแน่เมื่อก้มมองชุดตัวเองก็พบว่าเธอไม่ได้สวมชุดเดรสสีน้ำเงินอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดนอนสบายๆ เครื่องประดับมากมายที่เธอสวมมาถูกถอดพร้อมกับวางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนชุดเดรสของเธอสวมเอาไว้ในหุ่นไม้ซึ่งมันน่าจะผ่านก
แล้ว..ทำไมฉันจะต้องสนใจชื่อเสียงของนายด้วยล่ะ ทีก่อนหน้านี้เป็นนายไม่ใช่เรอะที่ทำให้นาทาเลียอับอายน่ะ!!เพราะอย่างนั้นมือของนาทาเลียจึงไม่ยกมือขึ้นวางบนมือขององค์รัชทายาทอย่างที่ควรจะเป็น เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ไยดีคนเช่นองค์รัชทายาทโอเวนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้เขาจะต้องหาสตรีสักนางมาควงในวันนี้ แทนเธอเป็นแน่ และหากเธอเดาไม่ผิดบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั่นกำลัง..โกรธเคืองเธอชนิดที่ว่าอยากจะพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโอเวนหรี่ตามมองแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังเดินออกห่างไปเรื่อยๆ เขาแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาพลันบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธที่อัดแน่นในอก เพียงแต่อารมณ์นั้นมันจะมาระเบิดกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ไม่ได้ เพราะว่าเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของราชวงศ์“เลดี้สกาเล็ต..เรามองเจ้ามานานแล้วเต้นรำกับเราสักเพลงสิ”สตรีผู้นั้นมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง ใบหน้าของนางแดงซ่าน สกาเล็ตแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนที่เธอจะวางมือของตัวเองลงบนมือขององค์รัชทายาท“เป็นเกียรติยิ่งแล้วเพคะฝ่าบาท”นาทาเลียคว้าขวดไว