แกสทอนเดินเข้าที่คฤหาสน์ของท่านหญิงนาทาเลีย เขาเลิกคิ้วเพื่อเป็นการกล่าวถามอีฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตกลงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่
“ท่านหญิงดูเหมือนว่าจะพึ่งกลับมาจากพระราชวังค่ะ และ..สภาพจิตใจของท่านหญิงนั้นไม่สู้ดีสักเท่าไหร่” แกสทอนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนาทาเลีย เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ แต่ทว่าที่หางตากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปที่หางตาของเธอด้วยความแผ่วเบา นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อเธอมองเห็นแกสทอนหัวใจที่เจ็บปวดของนาทาเลียก็เหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น “แกสทอน..” “ขอโทษด้วยนะครับ หากว่าข้าทำให้ท่านตื่น” นาทาเลียส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็นอนมานานมากพอสมควรแล้วเหมือนกัน เจ้าขึ้นมานอนบนนี้สิ” เขามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน แกสทอนไม่ได้ลังเลกับการขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้านาย เพราะเขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตัวเองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในเวลานี้ไม่มีเจ้านายหรือว่าพ่อบ้านอะไรทั้งนั้น มีเพียงแค่เขาและเธอ “ฝันร้ายงั้นหรือครับ” นาทาเลียหลับตาลงในอ้อมแขนของเขา ความหวานละมุนของแกสทอนกำลังโอบล้อมรอบตัวเธอเอาไว้ “อืม น่าจะเป็นแบบนั้น มันเป็นฝันร้ายที่ยาวนานมากพอสมควรเลย” และเธอกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อหาหนทางที่จะหยุดยั้งฝันร้ายพวกนั้น “เช่นนั้นก็นอนต่อเถอะครับ ท่านหญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของข้าจะปลอดภัยและไม่มีฝันร้ายใดๆ สามารถมารบกวนเวลานอนของท่านได้เลย” เขาจะกองความสุขเอาไว้ตรงหน้า ส่วนนาทาเลียเธอเองก็ใช้ความอบอุ่นของเขาในการกล่อมตัวเองเพื่อให้เดินทางเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง แกสทอนนั้นแตกต่าง เพราะว่าเขาไม่ได้หวังอะไรจากเธอเลยแม้แต่อย่างเดียว นาทาเลียยังคงยืนยันคำเดิมว่าแกสทอนยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเธออยู่ .............. เธอคิดอยากจะนอนพักสักแรมเดือนแต่ทว่าเอาเข้าจริงนาทาเลียได้นอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงเพียงแค่สองวันเท่านั้น เพราะว่าวันนี้คืองานเลี้ยงฉลองเนื่องในวันครอบรอบวันสถาปนาราชวงศ์เบลซขึ้นมา และเธอจะต้องเข้าร่วมงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่..เธอไม่ได้อยากไปเหยียบที่พระราชวังด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องไปเพราะวันนี้เธอนัดกับโลเวลเอาไว้ ว่าจะไปเป็นคู่ควงให้แก่เขา หน้าหนังสือพิมพ์ในวันพรุ่งนี้คงจะตีข่าวกันอย่างสนุกสนานมากทีเดียว “ท่านหญิงคะรถม้าของพระราชวังเดินทางมาถึงแล้วค่ะ” นาทาเลียเหลือบมองไปที่กระจกในห้องนอนของเธอ รถม้าแสนหรูหราสีทองที่จอดเทียบด้านหน้าคฤหาสน์ ส่วนผู้ที่ลงมาไม่ใช่องค์รัชทายาทแต่กลับเป็นข้าหลวง นาทาเลียถอนหายใจเบาๆ ไม่ว่าจะอย่างไร เธอไม่สามารถทำใจญาติดีกับโอเวนได้จริงๆ นั่นแหละ เธอแค่จะต้องอดทนอีกราวปีครึ่ง เมื่อวิตอเรียปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อนั้น ราชวงศ์จะเลิกยุ่งกับเธอ “ปฏิเสธไป ข้ามีนัดแล้วในวันนี้ ลงไปบอกข้าหลวงว่าข้าจะไปที่งานด้วยตัวเอง” อีฟมองหน้าสาวใช้ในห้องพร้อมกับพยักหน้าเพื่อให้สาวใช้ผู้นั้นลงไปปฏิเสธท่านข้าหลวง ส่วนเธอกำลังวุ่นอยู่กับการจัดแต่งทรงผมสีเงินของท่านหญิงให้งดงาม “ท่านหญิงคะ แบบนี้ดีแล้วอย่างนั้นหรือ จะอย่างไรวันนี้คืองานเลี้ยงที่แสนยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ ท่านปฏิเสธองค์รัชทายาทเช่นนี้..จะไม่เป็นข่าวโด่งดัง..” “แบบนี้ดีแล้วอีฟ ข้าเคยคิดจะรักษาหน้าเขา หากว่าเขามารับข้าด้วยตัวเอง แต่นี่เขาไม่ได้มารับข้าด้วยตัวเองแต่กลับส่งข้าหลวงของเขามา ส่วนตัวเขาในยามนี้คงจะกำลังเริงรักอยู่กับเลดี้มากมายที่อยากจะถวายตัวเป็นพระสนมของเขาจนตัวสั่น ข้ามีชีวิตแบบนั้นไม่ได้จริงๆ อีฟ ข้าไม่อยากเป็นพระชายาหรือว่าจักรพรรดินี แต่ข้าอยากเป็น..แค่นาทาเลีย” อีฟมองหน้าท่านหญิงของเธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน “รับทราบแล้วค่ะ ท่านหญิง” นาทาเลียมองหน้าอีฟด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด “ไม่ใช่ท่านหญิงนาทาเลีย แต่แค่นาทาเลียจริงๆ ข้าอยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย อยากจะเดินเท้าเปล่าแล้ววิ่งเล่นในนาข้าวที่พึ่งจะเก็บเกี่ยว อยากจะมีสามีที่เห็นว่าข้าเป็นภรรยาไม่ใช่เห็นข้าเป็นเครื่องมือที่เขาจะใช้เพื่อก้าวไปสู่เส้นทางแห่งอำนาจ..” อลาโนที่ยืนอยู่หน้าห้องของน้องสาวพลันนิ่งอึ้ง เขากำลังจะเข้ามาพูดคุยเพื่อหว่านล้อมให้นาทาเลียนั่งรถม้าของราชวงศ์ไปที่งาน แต่เขากลับมาได้ยินความในใจและความต้องการที่ลึกซึ้งของน้องสาวอย่างไม่คาดคิดมาก่อน “เมื่อสองวันก่อน..ท่านหญิงออกมาจากพระราชวังครับ ในสภาพที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่ ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าท่านหญิงไปพบเจออะไรที่พระราชวัง” แกสทอนกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลง เขาเบนสายตามองหน้าของท่านแกรนด์ดยุคซึ่งกำลังมองไปที่ประตูห้องนอนของนาทาเลีย “หรือว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นกันนะ บอกให้สาวใช้ไปปฏิเสธรถม้าของพระราชวังเถอะ น้องสาวของข้าจะไปที่นั่นด้วยตัวของนางเอง” เมื่อกล่าวจบอลาโนก็เดินจากไป เขาไม่ชอบงานเลี้ยงสักเท่าไหร่เพราะอย่างนั้นอลาโนจึงไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงนี้แล้วส่งนาทาเลียไปที่นั่นแทน “เตรียมตัวให้ข้าหน่อยสิแกสทอนดูเหมือนว่างานเลี้ยงในครั้งนี้ข้าจะต้องเข้าร่วมด้วยแล้ว” รถม้าของตระกูลบาทาซาร์เคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์อาโมรี โลเวลลงมาจากรถม้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ท่านหญิงให้ข้ามาเรียนเชิญท่านเข้าไปรอที่ด้านในค่ะ” มีสาวใช้เดินนำโลเวลเข้าไปที่ด้านในคฤหาสน์นาทาเลีย เขามองคฤหาสน์แสนหรูหราทั้งสองหลังที่ตั้งอยู่ข้างๆ กันด้วยสายตาที่อดตะลึงไม่ได้ ความร่ำรวยของอาโมรีเป็นเรื่องที่ต้องมาเห็นด้วยตาสักครั้งจริงๆ และเมื่อโลเวลเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์นาทาเลีย สตรีที่เขารอคอยก็เดินลงมาจากบันได นางสวมชุดเดรสยาวลากพื้นแสนหรูหราที่ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ ที่เย็บติดกับชุด ผมยาวสีเงินรวบขึ้นเพื่อโชว์ลำคอขาวเนียน และใบหน้านั้น เขาไม่รู้จะบรรยายอย่างไรถึงจะคู่ควรเท่ากับความงดงามที่แท้จริงของนาง “มาเร็วดีนี่” “ก็..ข้าไม่อยากให้ท่านหญิงรอนาน ไปกันเถอะครับเทียร์” นาทาเลียไม่ได้รู้สึกอะไรที่เขาเรียกชื่อเล่นของเธอ เธอวางมือลงบนมือของเขาเพื่อให้เขาช่วยประคองเธอไปที่รถม้าของบาทาซาร์ ถึงแม้ว่ารถม้านี้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ารถม้าของพระราชวังแต่ทว่ามันก็หรูหรามากทีเดียว และเมื่อเราขึ้นมาบนรถม้าโลเวลก็เปิดฉากการสนทนา “ข้าอยากรู้ว่าคู่ควงที่ท่านว่านั้น ข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง จับมือ กอด หอมแก้ม จูบ ข้าทำได้ทั้งหมดเลยรึเปล่า?”“แกรนด์ดยุคอาโมรีและท่านหญิงอาโมรีมาถึงแล้วครับ..”แน่นอนว่าเมื่อเสียงประกาศจบลงชนชั้นสูงทุกคนต่างพยายามเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อมองหน้าของสองพี่น้องที่งดงามประดุจรูปปั้นในวิหารศักดิ์สิทธิ์ตระกูลอาโมรีนั้นขึ้นชื่อเรื่องเลือดบริสุทธิ์ เป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากองค์จักรพรรดิองค์ก่อน แต่ทว่าท่านแกรนด์ดยุครุ่นก่อนปฏิเสธที่จะครองราชย์ ตำแหน่งองค์จักรพรรดิจึงถูกส่งต่อและมอบให้ตระกูลเบลซ ตระกูลดยุคซึ่งเป็นผู้ทำสงครามชนะแทนตระกูลเบลซสถาปนาราชวงศ์ขึ้นมาใหม่และยังคงให้เกียรติตระกูลอาโมรีเสมอเพราะอย่างนั้นในเมื่อแม้แต่องค์จักรพรรดิยังคงให้เกียรติและเคารพ ชนชั้นสูงทั่วจักรวรรดิจึงไม่มีใครที่กล้าคิดจะมีเรื่องกับคนในตระกูลอาโมรีเลยพอฟังถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะนึกอิจฉาท่านหญิงอาโมรีกันเป็นแถวๆ เพราะว่านางมีพี่ชายที่ตามใจนางยิ่งและเพราะเป็นอาโมรีจึงไม่มีใครสักคนที่กล้าจะขัดใจ“นาทาเลีย สีหน้าของเจ้าไม่สู้ดีเลย ให้พี่พากลับดีหรือไม่”ฉันส่งยิ้มให้กับพี่ชายที่ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่าดวงตาฉันมันจะบอด เพราะความหล่อเหลาที่เจิดจรัสของพี่ชายมันช่างจ้าซะเหลือเกิน“ไม่ค่ะ ข้าไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”
ซีลินยกมือขึ้นมาลูบแก้มของตัวเบาๆ เธอมิได้รู้สึกโกรธเคืองสตรีงดงามเบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย เธอก้มหน้าลงเพื่อเป็นการบอกลาก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งท้ายเอาไว้เพียงรอยยิ้มและแววตาที่อ่อนโยนซึ่งมันบาดลึกลงไปในหัวใจของนาทาเลียได้อย่างชัดเจนนาทาเลียก้มมองมือของตัวเอง แน่นอนว่ามันยังเจ็บ ยังมีร่องรอยแดงเนื่องจากมันพึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของซีลิน หน้าต่างสีแดงนั้นหายไปไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยนอกจากความเจ็บของเธอที่ฉายชัดขึ้นมาชีวิตเช่นนี้ดีแล้วอย่างนั้นหรือ? ต้องทำตามคำสั่งพวกนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำถามนั้นเธอเคยได้คำตอบมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะเธอคิดว่าอย่างไรเสีย นี่ก็คือเกม..และหากว่าเธอลองตายไป เธออาจจะได้กลับไปยังโลกที่เคยอยู่แต่ทว่าเมื่อนาทาเลียตาย เธอกลับเข้ามาในร่างของตัวเองอีกครั้ง..พร้อมกับหน้าต่างคำสั่งว่าเธอเหลืออีก 9 ชีวิต นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถตายได้อีก9ครั้งรึเปล่านะครั้งเดียวก็เจ็บปวดแทบบ้าแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเธอไม่คิดที่จะลองตายอีกครั้งแล้ว เพราะอย่างนั้นเธอจะต้องตามหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากหน้าต่างข้อความพวกนี้อย่างน้อยก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่เป็นของเธออย่างแท้จริง.
ข้อที่1. นาทาเลียจะต้องใช้แส้ฟาดไปที่ก้นอันเปลือยเปล่าของพ่อบ้านแกสทอน...เพียงข้อแรก ภารกิจเพื่ออิสระของเธอเพียงข้อแรกก็ทำให้นาทาเลียถึงกับกุมขมับ หากภารกิจนั้นระบุว่า ให้เธอใช้แส้ฟาดลงไปบนก้นของแกสทอน เธอยังจะทำได้ง่ายดายเสียกว่าเพราะว่าแกสทอนคือพ่อบ้านของอาโมรี เขาคือลูกชายเพียงคนเดียวของท่านเคาน์ผู้ล่วงลับ ท่านพี่รับเขาเข้ามาที่อาโมรีและส่งมอบตำแหน่งของพ่อบ้านให้เขาแกสทอนคือชายอายุสามสิบสามที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาและชวนมอง เขาเหมาะสมกับการเป็นท่านเคาน์หรือว่าเป็นขุนนางมากกว่าที่จะเป็นพ่อบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นการเป็นพ่อบ้านของอาโมรีนั้นทำให้เขามีอำนาจมากกว่าขุนนางบางคนเสียอีก ตามเนื้อเรื่องแล้วนาทาเลียและแกสทอนนั้นรู้จักกันตั้งแต่เด็ก เขาดูแลเธอมาตลอดในฐานะของพ่อบ้านเรื่องทุกเรื่องของนาทาเลียล้วนแล้วแต่ผ่านสายตาของเขามาทั้งสิ้นแต่..ความสัมพันธ์ของนาทาเลียและแกสทอนไม่ได้ดีขนาดนั้นเพราะว่าครั้งหนึ่งนาทาเลียเคย..คิดจะจับแกสทอนมาเป็นชายบำเรอ และนั่นคือครั้งแรกและครั้งเดียวที่ท่านพี่อลาโนออกหน้าช่วยเหลือเขา เป็นครั้งแรกที่พี่ชายของนาทาเลียขัดใจนาง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแกสทอนก็หาทางหลีกเลี่
อีฟยกมือขึ้นมากุมมือของท่านหญิงเอาไว้“เรื่องนั้นข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่านหญิงอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าท่านหญิงจะต้องการความช่วยเหลือแบบไหน บอกกล่าวกับข้ามาได้เลยนะคะ ข้าจะไม่ถามอะไรทั้งนั้นเพราะอย่างนั้น..ท่านหญิงได้โปรดวางใจและอย่าทำหน้าลำบากใจเช่นนี้อีกในเวลาที่ท่านสั่งให้ข้าทำอะไร”ก่อนที่จะมาเข้ารับตำแหน่งสาวใช้ประจำตัวของท่านหญิงนาทาเลีย จะต้องมีการกล่าวคำปฏิญาณก่อนและอีฟกล่าวคำสาบานในความภักดีของเธอไปแล้ว ไม่ว่าท่านหญิงจะต้องการให้เธอทำอะไร อีฟล้วนแล้วแต่ยินดีทั้งนั้นนาทาเลียสวมชุดสาวใช้พร้อมกับวิกผมสีน้ำตาล เธอไม่รู้ว่าทำแค่นี้จะสามารถตบตาของแกสทอนได้หรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็น่าจะลองเสี่ยงดู เธอถือถาดเครื่องหอมเดินเข้าไปที่ด้านหน้าบ้านพักของพ่อบ้าน ซึ่งนาทาเลียไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าบ้านพักของพ่อบ้านจะอยู่ไกลมากถึงขนาดนี้ แถมบ้านของเขายังมีขนาดใหญ่โตราวกับคฤหาสน์ขนาดย่อมๆ มีทางออกด้านหลังอีกหนึ่งทางที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ทางด้านหน้าของคฤหาสน์อาโมรี” วันนี้เป็นเวรของข้าในการรับใช้ท่านพ่อบ้านค่ะ”คำกล่าวนี้สาวใช้ผู้ที่จะต้องมารับใช้แกสทอนบอกกล่าวกับเธอเอาไว้ เขาไม่ค่อยยินยอมให้สตร
นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก แกสทอนจ้องหน้าเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขายื่นมือมาดึงวิกผมของเธอออก และทันทีที่ผมสีเงินสยายลงมาใบหน้าของนาทาเลียก็ยิ่งตกใจมากกว่าเก่าหมายความว่าเขารู้อยู่แล้วหรอกหรือว่าเป็นเธอ เขาจำได้อย่างไรกันในเมื่อเธอแนบเนียนขนาดนี้“ท่านหญิงเข้ามาที่นี่มีจุดประสงค์อันใดกันครับ?”เขากล่าวพร้อมกันเดินเข้ามาหาเธอและนาทาเลียก็เดินถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เธอขบเม้มริมฝีปากเบาๆ เพื่อคิดหาทางออก ทว่าเขาก็ยังคงเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับส่งสายตาที่แสนกดดันมาเรื่อยๆจนตอนนี้แผ่นหลังของเธอมันชนกับผนังห้องอาบน้ำแล้ว ไม่มีหนทางใดๆ ให้นาทาเลียได้หลบหนีอีกแล้ว“ข้า..ต้องการเจ้า เจ้าก็รู้นี่แกสทอนว่าข้าต้องการเจ้ามากแค่ไหน?”เธอกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเครือ แน่นอนว่ามันไม่เหลือทางเลือกอีกแล้วนอกจากการทำตัวให้เหมือนกับนาทาเลียจอมชั่วช้าคนเดิม อย่างน้อยเธอคือท่านหญิงและเธอมีอำนาจเหนือเขาถึงแม้ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามแกสทอสแค่นหัวเราะออกมาราวกับคนที่บ้าคลั่ง เขาจับที่ปลายคางของเธอเพื่อที่จะเชยคางมนของเธอขึ้นมามองสบตากับเขาความสวยที่ราวกับไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ นั่นคือคำนิยามของท
เธอช้อนสายตามองหน้าเขา และแกสทอนกำลังวางเธอลงบนเก้าอี้ที่ทำจากไม้ ทว่ามือของเธอที่กำลังกอดคอเขาอยู่นั้นกลับไม่ยินยอมปล่อย เพราะหากว่าเขาเธอปล่อยมือละก็จะต้อง..เห็นช้างน้อยของเขาอย่างแน่นอนและ...นี่คือโอกาสดีเลยไม่ใช่เรอะที่เธอจะใช้แส้ฟาดที่ก้นของเขา“แกสทอน..”ผมสีดำของเขามันเปียกชื้น และในยามนี้มันไม่ได้เป็นทรงอย่างที่ควรจะเป็นเพราะว่ามันเปียกลู่จนปกลงบนใบหน้าทำให้ภาพลักษณ์พ่อบ้านที่แสนจะสมบูรณ์แบบของแกสทอนมันจางหายไปจนหมด เขาเหมือนกับเด็กหนุ่มน้อยที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าทั้งๆ ที่ความคิดแกสทอนอายุสามสิบสามแล้วเธอเผลอไผลจ้องมองใบหน้าของเขาอยู่ครู่หนึ่งจนลมจากหน้าต่างพัดผ่านมา นาทาเลียถึงได้รู้สึกว่าเธอในยามนี้กำลังเปียก ชุดที่เธอสวมใส่ก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำไม่แตกต่างจากสภาพของเขาสักเท่าไหร่นักใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อก่อนที่นาทาเลียจะค่อยๆ หยิบแส้หนังสีดำออกมาจากเอวขอร้องล่ะแกสทอน แค่ตีเบาๆ เท่านั้นเองท่านคงจะไม่โกรธข้าหรอกใช่ไหม?สายตาของท่านหญิงนาทาเลียมันทำให้เขารู้สึกคันหยุบหยิบที่หัวใจ เธอร้องเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงหวานล้ำและแววตาของเธอมันก็เต็มไปด้วยความเย้ายวนเป็นที่สุ
นาทาเลียเผลอเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเธอได้ยินคำกล่าวของเขา เท่าเทียมในความหมายของเขามันมีความหมายว่าหากเธอเห็นก้นเขา เขาก็จะต้องเห็นก้นเธอแบบนั้นเรอะ!!“หมายความว่าเจ้าต้องการที่จะทำแบบเดียวกันกับที่ข้าทำ?”เธอย้อนเขาอีกครั้ง“ครับ ข้าไม่เห็นว่าคำกล่าวของข้ามันจะเข้าใจยากตรงไหนเลย แต่ทว่าในยามนี้ข้าจะต้องทำให้ร่างกายของท่านอบอุ่นซะก่อนไม่อย่างนั้นสาวใช้มากมายจะเดือดร้อนในวันพรุ่งนี้”เขาจับที่ไหล่ของเธอก่อนจะหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหลังให้กับเขา แกสทอนถอดผ้ากันเปื้อนที่ผูกอยู่บนเอวของนาทาเลียออกมา ตามด้วยชุดของสาวใช้ที่เธอกำลังสวมอยู่แกสทอนไม่ได้ให้โอกาสในการปฏิเสธแก่นาทาเลียเพราะว่าเขาเร่งรีบถอดชุดที่เปียกชุ่มพวกนั้นออกจากร่างกายของเธอ หลังจากนั้นเขาใช้ผ้าห่มคลุมตัวเธอเอาไว้ด้วยความรวดเร็วและคล่องแคล่วหลังจากนั้นเขาก็ห่อตัวของนาทาเลียด้วยผ้าห่มแล้วอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อพาเธอไปยังห้องนอนของเขา“แกสทอน..”ทำไมนะเธอถึงได้ขยันเรียกชื่อของเขานักหนา และชื่อของเขาที่เปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงของเธอมันสร้างความสั่นไหวในใจของแกสทอนได้อย่างไม่น่าเชื่อ“ทำไมครับ ไม่สะดวกให้ข้าเปลี่ยนชุดให้อย่างนั้นหรือ? หากจะ
“แกสทอน..”ชื่อของเขายังถูกเรียกขานออกมาจากริมฝีปากของท่านหญิงนาทาเลียไม่หยุดเลย และยิ่งเธอเรียกชื่อเขาออกมาด้วยน้ำเสียงที่กะเซ่าเช่นนั้นมันยิ่งปลุกเร้าความต้องการในส่วนลึกของแกสทอนได้อย่างไม่น่าเชื่อนาทาเลียสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อแกสทอสจุมพิตลงมาบนสะโพกของเธอ สาบานได้เลยว่านี่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงเลยสักนิดเดียว อีกทั้งความใกล้ชิดที่เกิดพอดีพวกนี้กำลังทำให้เธอรู้สึก..แปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก“แกสทอน เจ้ากล่าวว่าตัวเองนั้นชื่นชอบความเท่าเทียมแต่ทว่าในยามนี้เจ้ากำลังเอาเปรียบข้าอยู่ไม่ใช่รึไง?”แกสทอนหัวเราะเบาๆ“เอาเปรียบอย่างนั้นหรือครับ? เช่นนั้นท่านต้องการที่จะกระทำเฉกเช่นที่ข้ากำลังทำอย่างนั้นหรือครับ แน่นอนว่ามันคงจะวิเศษไปเลย”นาทาเลียดึงผ้าห่มมาปกคลุมร่างกายของเธอเอาไว้พร้อมกับมองหน้าเขา“แกสทอน..ข้าคิดว่าท่านทำมากกว่าการฟาดแส้หนังนั้นบนก้นของข้าแล้ว เพราะอย่างนั้นวันนี้ท่านควร..พอเท่านี้”ทำไมมักน้อยจังล่ะ ทั้งๆ ที่เขาเครื่องติดแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับบอกกล่าวให้ขอพอและหยุดยั้งเพียงเท่านั้น บ้าไปแล้วหรืออย่างไร“ข้ายินดีที่จะเป็นนายบำเรอของท่านครับ..ขอแค่เราจับมือแล้วผ่านค่ำคืนนี้ไปด้วยก
แกสทอนเดินเข้าที่คฤหาสน์ของท่านหญิงนาทาเลีย เขาเลิกคิ้วเพื่อเป็นการกล่าวถามอีฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตกลงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่“ท่านหญิงดูเหมือนว่าจะพึ่งกลับมาจากพระราชวังค่ะ และ..สภาพจิตใจของท่านหญิงนั้นไม่สู้ดีสักเท่าไหร่”แกสทอนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนาทาเลีย เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ แต่ทว่าที่หางตากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปที่หางตาของเธอด้วยความแผ่วเบานาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อเธอมองเห็นแกสทอนหัวใจที่เจ็บปวดของนาทาเลียก็เหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น“แกสทอน..”“ขอโทษด้วยนะครับ หากว่าข้าทำให้ท่านตื่น”นาทาเลียส่ายหน้าเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็นอนมานานมากพอสมควรแล้วเหมือนกัน เจ้าขึ้นมานอนบนนี้สิ”เขามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนแกสทอนไม่ได้ลังเลกับการขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้านาย เพราะเขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตัวเองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในเวลานี้ไม่มีเจ้านายหรือว่าพ่อบ้านอะไรทั้งนั้น มี
ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาบนขา นาทาเลียเหลือบไปมองก็พบว่าส่วนนั้นของเขากำลังสอดแทรกเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ“อึ่ก..”“ผ่อนคลายนาทาเลีย ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทนไหว แต่เจ้าจะต้องผ่อนคลาย โอบรัดข้าแน่นปานนั้นใจคอจะทำให้ข้าขาดใจตายเลยหรืออย่างไรกัน”สะโพกของเธอถูกมือของเขายึดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้นาทาเลียได้มีโอกาสถอนสะโพกหนีโอเวนยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลแรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสั่นสะท้าน เขาจ้องมองใบหน้าของนาทาเลียพร้อมกับขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างไม่มีความปรานี ส่วนที่เหลือสอดแทรกเข้าไปด้านในจนสุดลำแท่งเขากัดกรามแน่นพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนไล้ไปตามผิวกายเปลือย มือของโอเวนขยำไปมากับเนินเนื้อคู่สวย"พอทำแบบนี้พร้อมๆ กันถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยอย่างนั้นหรือ นาทาเลียเจ้าชอบการกระทำของข้าก็บอกมาเถอะ ร่างกายของเจ้าตอบสนองเช่นนี้แล้ว อันที่จริงมันชัดเจนมากจนข้าไม่ต้องเอ่ยถามก็ได้..”แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากได้ยินว่าเธอสุขสมกับการกระทำของเขา อยากได้ยินว่าเธอกำลังมีความสุขภายใต้ร่างกายเขาความเป็นชายของเขาแทรกลึกเข้ามาก่อนจะถูกดึงออกเพื่อรอ
เมื่อเหล่าสตรีมากมายในห้องนอนขององค์รัชทายาทเห็นท่านหญิงอาโมรีซึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับออกปากไล่พวกนาง แน่นอนว่าสภาพของสตรีแต่ละคนมันไม่แตกต่างกันเลย และพวกนางกำลังหยิบคว้าผ้าห่มและชุดเดรสที่กระจัดกระจายไปตามพื้นขึ้นมาปกคลุมร่างกายเอาไว้ แล้ววิ่งหนีออกจากห้องไป สกาเล็ตมองที่องค์รัชทายาท แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่มีการเอ่ยปากเพื่อรั้งเธอหรือว่าสตรีใดเอาไว้ บนใบหน้าที่หล่อเหลาของพระองค์มันเต็มไปด้วยความตื่นตกใจในแบบที่เหมือนกับว่าการที่ท่านหญิงมาหาพระองค์ที่นี่ในวันนี้มันคือเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม และเมื่อสกาเล็ตเดินจากไปเป็นคนสุดท้าย ประตูห้องนอนขององค์รัชทายาทก็ปิดลง มือของนาทาเลียสั่นเทา เธอมองหน้าของโอเวนที่กำลังมีสีหน้าตื่นตกใจ ซึ่งเธอไม่ได้แปลกใจกับสีหน้าเช่นนั้นของเขาสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาคงไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่มาหาเขาในยามนี้ ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่ไม่เคยคิด เพราะหากไม่ติดว่าจะต้องทำภารกิจเธอก็ไม่อยากจะมาเหยียบที่นี่เหมือนกัน! นาทาเลียคิดว่าตัวเองในยามนี้กำลังทำเรื่องที่น่าสมเพชมากที่สุด เธอสูญเสียศักดิ์ศรีและสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปให้ระบบเกมบ้าๆ นี่ ทว่าเธอไม่มีทางเลือก เ
นาทาเลียมองหน้าของโลเวลอีกครั้ง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา“เช่นนั้นเรื่องที่เจ้าเขียนมาในจดหมาย เรื่องของเลดี้สกาเล็ต..หมายความว่าเจ้าให้คนมาแอบดูข้าอย่างนั้นหรือ?”โลเวลจุดยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ สาบานได้เลยว่าคราแรกเขาเกือบจะยอมแพ้เรื่องการเป็นผู้นำตระกูลบาทาซาร์แล้ว หากว่าเขาไม่ได้พบเจอกับเธอก่อน และในตอนนี้จะเรียกว่าเธอคือแสงสว่างของเขาก็คงจะไม่ผิด ในทางเดินที่มืดมิดท่านหญิงนาทาเลียเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับขวดไวน์ในมือ ราวกับนางกำลังบอกกล่าวกับเขา ว่าเขาสามารถทำอะไรกับนางก็ได้ในช่วงที่นางกำลังเมามายไม่ได้สติ เขาไม่เคยโลภหรือว่าอยากจะได้สิ่งใดมาก่อนเลยจนได้มาพบเธอโลเวลคิดว่าหากเขาได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับท่านหญิงอาโมรี เส้นทางการแย่งชิงอำนาจในตระกูลมันคงจะง่ายดายมากกว่าเดิม ทว่าด้วยการปฏิเสธในครั้งแรกมันทำให้เขามองเห็นความสั่นไหวในสายตาของเธออย่างเห็นได้ชัดเจน ราวกับว่านางมีเรื่องที่บอกใครไม่ได้อยู่..อีกทั้งเท่าที่เขาเห็น ท่านหญิงอาโมรีไม่ได้ใกล้เคียงกับข่าวลือเลย นางไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่เขาได้ยินมา อีกทั้งเขายื่นข้อเสนอเรื่องที่ให้เธอนอนกับเขาไปแล้
นาทาเลียยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มและเมื่อเธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม เหล่าบรรดาสาวใช้ทั้งหลายก็เดินถอยหลังไปราวสิบเก้า ราวกับว่าการกระทำของเธอมันคือคำสั่งอะไรสักอย่างแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน เพราะว่าในยามนี้มีเรื่องที่เธอไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือองค์รัชทายาทโอเวน เขามานั่งปั้นยิ้มอยู่ที่คฤหาสน์ของเธอทำไมกัน“บรรยากาศที่คฤหาสน์ของเจ้านั้นช่างแตกต่างยิ่งนัก มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่ค่อยออกงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าเจ้ามีสวนที่แสนงดงามพวกนี้นี่เอง ข้าก็หลงคิดว่าเจ้าป่วยไข้หรือว่าไม่สบาย”หางคิ้วของนาทาเลียกระตุกเบาๆ เธอไม่ได้อยากจะพูดคุยกับคนเช่นองค์รัชทายาทสักเท่าไหร่นัก“บอกเหตุผลของฝ่าบาทมาเถอะเพคะ เราสองคนใช่คนที่จะสามารถมาดื่มชาด้วยกันอย่างนั้นหรือ?”“นาทาเลีย ถึงอย่างไรตำแหน่งพระชายาของข้ามันก็จะต้องเป็นของเจ้า เพราะอย่างนั้นมาญาติดีกันเอาไว้ตั้งแต่ในยามนี้ย่อมเหมาะสมยิ่งแล้ว”อีกเหตุผลที่เธอไม่ค่อยชอบราชวงศ์มากเท่าไหร่นัก คืออีกสองปีเมื่อวิตอเรียปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาทจะหลงลืมการมีอยู่ของนาทาเลียไปจนหมดสิ้น พวกเขาให้ความสนใจกับอำนาจของพลังศักดิ์สิทธิ์มาก
มื้ออาหารแสนหรูหราในพระราชวังซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับแกรนด์ดยุคอาโมรีโดยเฉพาะ มีขุนนางมากหน้าหลายตาที่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงนี้ด้วย“ข้อตกลงของเรานั้น ท่านยังต้องการเวลาในการทำความเข้าใจอีกหรือไม่แกรนด์ดยุค”อลาโนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เขาส่งยิ้มให้กับองค์จักรพรรดิซึ่งกำลังคาดหวังกับคำตอบของเขาอยู่“นาทาเลียยังเด็ก อีกทั้งองค์รัชทายาทก็ยังทรงสนุกอยู่กับการเล่นกับเลดี้มากมาย..ข้อเสนอของเรานั้นยังคงต้องรักษาเพียงแต่นาทาเลียและองค์รัชทายาทยังไม่พร้อม”องค์จักรพรรดิเบนสายตาไปมองหน้าของลูกชายเขา คำกล่าวของแกรนด์ดยุคนั้นก็ถือว่ามีส่วนที่จริงอยู่เหมือนกัน เดิมทีเขาคือดยุคที่ไม่ได้มีสายเลือดของราชวงศ์อะไรเลย แต่แกรนด์ดยุคอาโมรีรุ่นก่อนกลับหยิบยื่นอำนาจที่ใครๆ ต่างไขว่คว้ามาให้เขา ด้วยพันธสัญญาว่าราชวงศ์เบลซที่พึ่งจะสถาปนาขึ้นมาใหม่จะต้องแต่งงานกับทายาทของอาโมรีเขาไม่ได้อยากจะกดดันอะไรเลย เพียงแต่เรื่องการเป็นราชวงศ์ของเขาก็ถูกจับตามองอยู่เหมือนกัน แน่นอนหากว่าเขาได้อำนาจของอาโมรีมาช่วยค้ำจุนราชวงศ์ ความมั่นคงมันก็จะมีมากขึ้นยามนี้ทั้งท่านหญิงนาทาเลียและโอเวนยังคงเล่นสนุกกับงานเลี้ยงต่างๆ น
กว่านาทาเลียจะกลับมาถึงคฤหาสน์อาโมรีก็ปาเข้าไปช่วงเย็น เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ อลาโนก็เดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาในทันทีและเมื่อนาทาเลียเห็นหน้าพี่ชายของเธอ มันก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอคือเด็กที่แอบหนีเที่ยวแต่กลับถูกจับได้ยังไงไม่รู้สิ“เทียร์มาคุยกันหน่อยสิ”นาทาเลียขบเม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับเดินตามพี่ชายเข้าไปที่คฤหาสน์อลาโนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของเธอสักเท่าไหร่ และเมื่อนาทาเลียเข้ามานั่งด้านใน สาวใช้ก็รีบยกน้ำชาเข้ามาในทันที“เรื่องของลูกชายคนรองของเคาน์บาทาซาร์”อ่า..เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องถูกตำหนิ เรื่องนั้นนาทาเลียคิดเอาไว้อยู่และ และเธอจะยินยอมให้ท่านพี่สั่งสอนเธอ เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะก่อเรื่องเอาไว้ใหญ่มากพอสมควร“หากเจ้าชอบเขาจริงๆ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้พี่จะให้คนของเราไปพาเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าดีหรือไม่”นาทาเลียถึงกับสำลักน้ำชาที่เธอกำลังยกขึ้นมาดื่ม เธอคิดว่าท่านพี่จะตำหนิหรือไม่ก็ด่าทอเรื่องที่เธอทำให้ชื่อเสียงของอาโมรีเสื่อมเสีย แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ข้า..ไม่ได้ชอบเขาค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาของท่านพี่แต่กั
นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดศีรษะที่เธอต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำมาดื่มดับกระหาย“อีฟ..”นาทาเลียเรียกชื่ออีฟด้วยความเคยชิน ทว่าในห้องนอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี้มันกลับไม่ใช่ห้องนอนแสนหรูหราที่คุ้นชินสายตาเลยแม้แต่น้อย แถมบนเตียงที่เธอพึ่งจะลุกออกมาก็มีคนนอนอยู่นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดด้วยความรู้สึกประหม่าพอสมควร ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับพูดคุยกับ..ชายผู้มีดวงตาที่น่าจดจำ เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขามันคนละสีกัน และเมื่อนาทาเลียเดินไปที่เตียงเธอก็ยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ เพราะว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือชายผู้มีดวงตาสองสีที่เธอพูดคุยด้วยไม่ผิดแน่เมื่อก้มมองชุดตัวเองก็พบว่าเธอไม่ได้สวมชุดเดรสสีน้ำเงินอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดนอนสบายๆ เครื่องประดับมากมายที่เธอสวมมาถูกถอดพร้อมกับวางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนชุดเดรสของเธอสวมเอาไว้ในหุ่นไม้ซึ่งมันน่าจะผ่านก
แล้ว..ทำไมฉันจะต้องสนใจชื่อเสียงของนายด้วยล่ะ ทีก่อนหน้านี้เป็นนายไม่ใช่เรอะที่ทำให้นาทาเลียอับอายน่ะ!!เพราะอย่างนั้นมือของนาทาเลียจึงไม่ยกมือขึ้นวางบนมือขององค์รัชทายาทอย่างที่ควรจะเป็น เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ไยดีคนเช่นองค์รัชทายาทโอเวนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้เขาจะต้องหาสตรีสักนางมาควงในวันนี้ แทนเธอเป็นแน่ และหากเธอเดาไม่ผิดบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั่นกำลัง..โกรธเคืองเธอชนิดที่ว่าอยากจะพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโอเวนหรี่ตามมองแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังเดินออกห่างไปเรื่อยๆ เขาแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาพลันบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธที่อัดแน่นในอก เพียงแต่อารมณ์นั้นมันจะมาระเบิดกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ไม่ได้ เพราะว่าเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของราชวงศ์“เลดี้สกาเล็ต..เรามองเจ้ามานานแล้วเต้นรำกับเราสักเพลงสิ”สตรีผู้นั้นมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง ใบหน้าของนางแดงซ่าน สกาเล็ตแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนที่เธอจะวางมือของตัวเองลงบนมือขององค์รัชทายาท“เป็นเกียรติยิ่งแล้วเพคะฝ่าบาท”นาทาเลียคว้าขวดไว