แชร์

ตอนที่3. ตอบผมสิ

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-22 23:02:58

“พี่คะ! ได้โปรด! เจสขอโทษ ฮือ ๆ พี่ราฟปล่อยพี่ถิงถิงเถอะนะคะ เดี๋ยวพี่ถิงถิงจะช้ำเอาได้”

การยื้อกันไปมาของคนทั้งสามทำให้หลี่ถิงที่สวมรองเท้าส้นสูงเกิดพลิก ในขณะที่ราฟาเอลปล่อยมือจากหญิงสาวพอดี ทำให้หลี่ถิงหงายหลัง จนศีรษะกระแทกเข้าตรงขอบมุมโต๊ะวางแจกัน ซึ่งเป็นรูปทรงเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ด้านหลังเข้าอย่างแรง จนทำให้แจกันลายครามตกลงแตก ก่อนร่างบางของเธอจะร่วงลงสู่พื้น เศษกระเบื้องจากแจกันได้เสียบเข้าตรงท้ายทอยของหลี่ถิงโดยที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสได้ป้องกันหรือหลบหลีกได้เลย

จากนั้นไม่นาน หลังจากร่างบางนอนแน่นิ่งไป เลือดค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากรอยแผลทีละน้อยกลายเป็นวงกว้าง ราฟาเอลที่มัวแต่ปัดมือของเจสซิก้าอยู่ทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปรับหลี่ถิงได้ทัน ก่อนที่เธอจะล้มลงกระแทกกับพื้นที่เต็มไปด้วยเศษกระเบื้องซึ่งกระจายอยู่เต็มไปหมด

“กรี๊ดดดด!! พี่ถิงถิง ไม่นะ…พี่ราฟ...ฆ่าพี่ถิงถิง”

เจสซิก้ากรีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเลือดกระจายเป็นวงกว้างออกมาจากศีรษะของพี่สาวที่ได้นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่กับพื้นห้องตรงหน้าเธอในตอนนี้ เธอไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ราฟาเอลรีบเอามือปิดปากหญิงสาวเอาไว้ เมื่ออีกฝ่ายสงบลง เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาภรรยาทันที

“ไม่นะ…ที่รัก ได้ยินผมไหม ถิงถิงตอบผมสิ”

ราฟาเอลเองก็ตกใจกับภาพของภรรยาที่นอนจมกองเลือด ร่างสูงก้าวเข้าไปย่อตัวลงใกล้ ๆ ภรรยาที่ดวงตาปิดสนิท ราฟาเอลยื่นมือไปอังที่ปลายจมูกของหลี่ถิง ซึ่งตอนนี้ลมหายใจของหลี่ถิงดูเหมือนจะแผ่วเบาและเริ่มขาดห้วง ทำใบหน้าของชายหนุ่มถึงกับซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว เพราะถ้าเกิดหลี่ถิงตายไปจริง ๆ ชีวิตที่เคยมีจะหายไปในพริบตา เจสซิก้าได้แต่ยืนตัวสั่น ในสมองคิดไปต่าง ๆ นานา เธอกำลังกลัวอยู่นั่นเอง

สติสุดท้ายของหลี่ถิง เธอรู้สึกปวดหนึบตอนที่หัวกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะ แต่ความเจ็บปวดเริ่มมีมากหลังจากเธอล้มลงที่พื้น และมีบางอย่างปักเข้าไปยังท้ายทอย เพียงไม่กี่วินาทีทุกอย่างก็ดับลง เหมือนภาพฝันที่เลื่อนลอย

มิติคู่ขนาน....

“หลี่ถิง! เจ้าอย่ายอมแพ้ จงตื่นขึ้นมา…”

เสียงที่ได้ยินช่างไพเราะยิ่งนัก มันช่วยปลอบประโลมเธอได้มากทีเดียว แต่ตอนนี้ หลี่ถิงกำลังต่อสู้อยู่ในฝันร้าย เธอพยายามที่จะทำให้ตัวเองหลุดพ้น เพื่อที่จะออกมาจากห้วงแห่งฝันสู่ความเป็นจริงให้ได้ ดวงตาที่อยากจะลืมขึ้นเสียที แต่ไม่อาจทำได้อย่างที่ใจต้องการ มันกดทับอึดอัดไปหมดในตอนนี้

หลี่ถิงพยายามที่จะวิ่งหนีความฝัน ซึ่งมันโหดร้ายและเป็นที่สะเทือนใจจนเกินกว่าที่เธอจะทนรับได้ไหว เรื่องราวเสมือนในละครซึ่งกำลังฉายชัดอยู่ในตอนนี้ ทำให้เธออยากกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดคลั่งแค้นเป็นที่สุด

เสียงหายใจหอบถี่ เหงื่อที่ผุดออกมาเต็มวงหน้า เปลือกตาที่พยายามขยับไปมา บอกได้ว่าคนที่นอนอยู่ กำลังต่อสู้กับฝันร้ายที่ไม่มีใคร

สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้เลย

หลี่ถิงพยายามร้องเรียกคนที่เธอกำลังยืนมองอยู่ในตอนนี้ด้วยความสงสารจับใจ มือเรียวยกขึ้นป้องปากตะโกนเรียกคนให้มาช่วย

“ใครก็ได้ช่วยผู้หญิงคนนั้นทีค่ะ”

แต่เหมือนเสียงที่เปล่งออกไปเปรียบเหมือนอากาศธาตุ ยิ่งเห็นการดิ้นรนเอาชีวิตรอดของอีกฝ่ายเธอยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นเหมือนผู้หญิงคนนั้น คือพยายามที่จะต่อสู้เพื่อรักษาลมหายใจ แล้วนี่มันคือที่ไหนกัน ทำไมผู้หญิงหน้าตาสวยราวเจ้าหญิงในเทพนิยายคนนี้ถึงได้ถูกทำร้ายอย่างทารุณแบบนั้นกันนะ

เมื่อไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ และไร้วี่แววของคนที่จะมาช่วย สองเท้าเปล่าเปลือยรีบก้าวลงในลำธารเพื่อช่วยเหลือหญิงงามให้รอดพ้นจากน้ำมือของคนร้าย แต่เมื่อมือของหลี่ถิงยื่นออกไปเพื่อสัมผัสกับคนร้ายหวังฉุดรั้งให้อีกฝ่ายปลดปล่อยหญิงสาวคนนั้น

แต่มันกลับเลยผ่านไป...ไม่อาจทำได้อย่างใจคิด!

หลี่ถิงยกสองมือขึ้นมองด้วยอาการสั่นน้อย ๆ น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว  ตรงหน้าเธอมีน้ำกระเซ็นแตกกระจายจากแรงดิ้นรนของหญิงสาวชุด

สีขาวคนนั้น

พอเห็นอย่างนั้น หลี่ถิงจึงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่ยอมแพ้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะดำลงไปในน้ำที่ไม่ได้ลึกมาก เคลื่อนกายเข้าไปใต้ร่างของหญิงสาวคนนั้น ก่อนจะใช้สองมือจับที่ใบหน้า

‘ทำไมถึงจับผู้หญิงคนนี้ได้’

หลี่ถิงทำได้เพียงแค่คิด เพราะตอนนี้ เธอต้องรีบช่วยผู้หญิงคนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ดวงตาคู่งามของทั้งสองสบประสานกัน หลี่ถิงขยับใบหน้าเข้าใกล้อีกฝ่ายก่อนจะประกบริมฝีปากลงไป เพื่อต่อลมหายใจให้กับหญิงงาม

หญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์นั้น มีนามว่า โม่ไป๋หลาน นางกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะให้หลุดจากมือของชิงชิงซึ่งเป็นคนสนิท และคือคนที่นางไว้วางใจมาแต่เยาว์วัย สาวใช้ข้างกายกำลังใช้สองมือกดหัวของนางให้จมลงไปในลำธารสายเล็ก ๆ ที่อยู่ในบริเวณจวนแม่ทัพสกุลหยาง

ด้วยว่าวันนี้ นางกับน้องสาวและสาวใช้คนสนิทได้ออกมานั่งเล่นพักผ่อนกัน นางจำได้แค่เพียงว่า น้องสาวได้ขอตัวไปปลดทุกข์ โดยให้นางนั่งรออยู่ที่เดิมกับชิงชิง สาวใช้ข้างกายที่กำลังเดินเก็บดอกไม้อยู่ข้างริมลำธาร โดยไป๋หลานได้นั่งจัดช่อดอกไม้รออยู่ ภายในมือของไป๋หลานมีดอกไม้หลากสีที่งดงามไม่ต่างจากคนที่กำลังถือมันอยู่ในตอนนี้ ยิ่งรอยยิ้มของนางสะกดได้ทุกสายตา แม้จะแค่เพียงแย้มออกเล็กน้อยก็ตามที

“ฮูหยินน้อย! มาดูทางนี้สิเจ้าคะ”

โม่ไป๋หลานหันไปตามเสียงเรียกของชิงชิง ก่อนจะวางช่อดอกไม้ในมือลง แล้วลุกขึ้นก้าวช้า ๆ ไปยังสาวใช้ ทุกการเคลื่อนไหวช่างดูงดงามอ่อนหวานสูงส่ง จนทำให้ใครบางคนที่แอบมองอยู่รู้สึกมิชอบใจกับความงาม

ที่เป็นอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินของโม่ไป๋หลาน

“อะไรหรือ? พี่ชิงชิง”

“ในน้ำนั่นเจ้าค่ะ เหมือนจะมีปลาสีเงินตัวใหญ่ มันว่ายออกไปตรงนั้นแล้วเจ้าค่ะ” ชิงชิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทำให้ผู้เป็นนายยืดคอมองตามมือของชิงชิงไป

“ไหนกันพี่ชิงชิง! ว้าย!!!…”

ตูม!

ร้องออกมาได้เพียงแค่นั้น ร่างระหงถูกกระแทกจากทางด้านหลัง พลัดตกลงไปในลำธาร

โม่ไป๋หลานกำลังจะโผล่หน้าขึ้นจากน้ำเพื่อหายใจและหวังจะขึ้นฝั่ง มือของชิงชิงที่ตามลงมาได้กดศีรษะและไหล่ของนางให้จมกลับลงไปอีกครั้ง ด้วยมิทันคาดคิดว่าคนสนิทจะทำเช่นนี้ จึงทำให้ไม่อาจโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้

โม่ไป๋หลานได้ยินเสียงของใครบางคนที่พยายามร้องเรียกนาง และตามให้คนมาช่วย หญิงสาวรับรู้ว่ามีคนวิ่งลงมายืนอยู่ใกล้กับที่นางพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด เหมือนภาพสะท้อน เท้าเปล่าเปลือยที่สองตามองเห็นเหมือนแรงใจจากที่ไกลโพ้น แม้เจ้าของเท้าบางจะมิอาจช่วยนางได้ แต่อย่างน้อยนางก็ได้รับรู้ว่ามีผู้พยายามแล้วที่จะช่วยนางอยู่

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่4.มิติคู่ขนาน

    เมื่อโม่ไป๋หลานเริ่มอ่อนแรง แต่กลับมีใบหน้างดงามของหญิงสาวเจ้าของเท้าเปล่าเปลือยได้ลอยตัวอยู่ใต้ร่างของนาง พร้อมสองมือกอบกุมใบหน้าของนางเอาไว้เพียงครู่ใบหน้าหวานของหญิงสาวผู้นั้นได้ขยับเข้าใกล้ก่อนจะประกบริมฝีปากทาบที่กลีบปากของนาง พร้อมพยายามเป่าลมเข้ามา น้ำตาของโม่ไป๋หลานไหลรินผสมไปกับสายน้ำหญิงงามผู้นี้เป็นใครกัน ถึงได้พยายามช่วยมอบลมหายใจให้แก่นางเช่นนี้ที่สำคัญ ทำไมชิงชิงจึงมิรับรู้ถึงการมีอยู่ของหญิงสาวที่กำลังต่อลมหายใจให้แก่นาง ไยมีเพียงตัวนางเท่านั้นที่รับรู้และสัมผัสสตรีผู้นี้ได้ ซ้ำได้ยินเสียงของอีกฝ่ายตั้งแต่คราแรก‘หรือว่าถึงเวลาของข้าแล้ว’โม่ไป๋หลานจำคำพูดของหญิงแก่ที่วัดชิงฉุ่ยได้ดี ‘อีกมินานแม่นางจะต้องจากไปไกล รอเพียงเวลาหมุนผ่านเพื่อย้อนกลับมา รอผู้ที่ผูกด้ายแดงแก่นิ้วเจ้า ร่างกายนี้จะเป็นของผู้อื่น ที่จะมาปลดพันธนาการของเจ้าให้เป็นอิสระ’ก่อนที่นางจะเดินจากมาพร้อมความรู้สึกใจหายกับโชคชะตาของตนเอง เมื่อหันกลับไปมองหญิงชราก็หายไปเสียแล้วโม่ไป๋หลานเริ่มอ่อนแรง มิอาจดิ้นรนได้อีกต่อไปแล้ว หลี่ถิงเริ่มสำลักน้ำแล้วเช่นกัน ร่างบางกระตุกเล็กน้อย สองแขนของหญิงสาวทั้งคู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่5.  อยู่ที่ไหน

    เธอจึงรีบหลับตาลงอีกครั้ง และลืมขึ้นช้า ๆ แล้วหันมองไปรอบ ๆ ตัวอีกครั้งอยู่หลายรอบ จนแน่ใจว่านี้เป็นเรื่องจริง ก่อนที่หลี่ถิงจะก้มลงมองฝ่ามือของตัวเองเป็นอันดับแรก ก่อนจะพลิกดูหลังมือ ดวงตากลมเบิกโพลงเมื่อเห็นเล็บมือที่สั้นลงและไร้สิ่งแต่งแต้มแน่นอนมันต้องมีสีสัน...ไม่ใช่แบบนี้!ก่อนที่มือบางจะยกขึ้นลูบใบหน้า ไล่ลงมาตามลำคอ จนสัมผัสกับเส้นผมที่ยาวสลวย ซึ่งมันไม่น่าจะใช่ของเธอเอง เพราะผมของเธอมันไม่ได้ยาวขนาดนี้ หลี่ถิงรวบดึงเส้นผมตัวเองแรง ๆ จนรู้สึกเจ็บ‘ไม่ใช่วิกผม ใจเย็นถิงถิง...เธอแค่กำลังฝันไป’“นะ…นี่มันอะไรกัน ฉันอยู่ที่ไหน”หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะสำรวจร่างกายของตัวเองในส่วนอื่น ๆ ที่ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นส่ำ เพราะทุกสัดส่วนมันไม่ใช่ตัวเธอเลยสักนิดเดียวหลี่ถิงตัดสินใจก้าวลงจากเตียงเพื่อหาใครสักคนมาให้คำตอบแก่เธอ แค่เพียงหย่อนเท้าลงพื้น ร่างบางก็ลุกพรวดขึ้น เป็นเหตุให้ล้มหน้าทิ่มพื้น‘อูยยย เจ็บจัง’ หลี่ถิงนั่งแหมะอยู่กับพื้น พร้อมเอามือลูบหน้าผากเบา ๆหญิงสาวนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นใหม่ พอมั่นใจว่าลุกไหว คราวนี้เธอจึงค่อย ๆ เกาะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่6. ซึ่งความเป็นจริงแล้ว

    หรู่อี้ยังจำเรื่องเมื่อบ่ายวันก่อนได้ดี ตอนที่นางตามผู้เป็นนายไปยังลำธารหลังจวนนั้น สิ่งที่นางเห็นคือชิงชิงได้เดินขึ้นจากลำธาร ก่อนจะเดินหายไปยังอีกด้าน โดยรอบบริเวณกลับมิพบร่างของเจ้านายที่ควรต้องนั่งหรือเดินเล่นอยู่ แถว ๆ ข้างริมลำธารเช่นทุกครั้งที่ท่านหญิงชอบทำเป็นประจำนางรีบวิ่งไปยังจุดที่ชิงชิงเดินขึ้นมา จึงได้เห็นร่างของเจ้านายคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ หรู่อี้รีบกระโจนลงไปรวบร่างไร้สติของเจ้านายขึ้นจากน้ำ ก่อนจะช้อนอุ้มร่างบางของท่านหญิงโม่ขึ้นฝั่งโดยไม่ได้แสดงสีหน้าว่าคนที่สิ้นสตินั้นหนักเกินไปสำหรับร่างบอบบางของนางสักนิด หรู่อี้ดูเหมือนคนที่มีกำลังมากกว่าสาวใช้ทั่วไปมากนักซึ่งความเป็นจริงแล้ว นางมิได้เป็นเพียงสาวใช้ แต่เป็นองครักษ์ที่ติดตามมาจากซานชี แต่ไม่อาจเปิดเผย เพราะนางได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องเจ็ดให้ปิดเป็นความลับ เพื่อคอยดูแลผู้เป็นนายอยู่ห่าง ๆ ด้วยเหตุผลบางประการที่นางเองก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกันหรู่อี้เร่งช่วยเหลือผู้เป็นนายให้กลับมาหายใจอีกครั้ง น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมานองหน้า เพียงแค่ลับตานางมิถึงครึ่งชั่วยาม ไม่คิดว่าคนใกล้ตัวจะเป็นคนลงมือหากไม่เป็นเพราะนางติดตามท่านหญิงม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่7. อีกเรื่องหนึ่ง

    แต่เพราะนางติดที่สามีจึงจำต้องทนนิ่งไว้ จะให้นางเกรี้ยวกราดเช่นสตรีไร้การอบรม นางก็มิอาจทำได้เช่นกัน อีกอย่าง บุตรชายก็ยังรักษาระยะที่เหมาะสมในการพบปะพูดคุยกับจีกวานฮวาอยู่มาก ซึ่งมันยังไม่ถึงขั้นต้องตักเตือนหรือห้ามปรามกัน และเป็นนางเองที่คอยบอกมิให้สะใภ้รักยอมรับจีกวานฮวามาเป็นอนุของบุตรชายนางเป็นสตรีคนหนึ่ง ไยจะมิรู้ว่าหากจีกวานฮวาแต่งเข้ามาในจวน ลูกสะใภ้ของนางต้องเจ็บปวดแค่ไหน“ซานหลาง แทนที่เจ้าจะเอาเวลามาปลอบขวัญผู้อื่นอยู่แบบนี้ เจ้าต้องให้แม่บอกหรือไม่ ว่าสิ่งที่ลูกสมควรทำตอนนี้คืออะไร และต้องอยู่ที่ไหน”เมื่อถูกมองด้วยหางตาเสมือนการดูหมิ่นกลาย ๆ จากมารดาของชายหนุ่ม ทำให้จีกวานฮวาจำต้องหลบไปอยู่ด้านหลังของหยางซานหลางด้วยท่าทางหวาดกลัว ยิ่งเพิ่มความมิพอใจให้แก่ฮูหยินใหญ่แห่งสกุลหยาง‘หึ! มารยาเจ้าใช้ได้แค่กับผู้อื่น ยกเว้นคนเช่นข้า จีกวานฮวา’หลิวเจินเจินคิดอยู่ในใจ พร้อมกับพยายามข่มกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองที่มีต่อหญิงสาวเอาไว้ให้ลึกที่สุด“ท่านแม่ เมื่อไหร่จะเลิกเข้าข้างไป๋หลานสักที ท่านมักเชื่อการเสแสร้งของนางเหมือนคนตาบอดยิ่งนัก” หยางซานหลางตัดพ้อมารดาอยู่ในที“ใช่ ลูกรัก แม่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่8. ชัดเจน

    หลิวเจินเจินประกาศเปิดศึกกับบุตรชายอย่างชัดเจน จีกวานฮวารู้สึกอิจฉาโม่ไป๋หลานยิ่งนัก ที่มารดาของชายหนุ่มปกป้องญาติผู้พี่ของนางอย่างออกนอกหน้า จนกล้าต่อกรกับชายหนุ่ม“ท่านแม่ นางคือคนผิดนะขอรับ โม่ไป๋หลาน เจ้าปากกล้าเกินไปแล้ว ข้าคือสามีของเจ้า ไยถึงกล้าต่อคำกับข้า ซ้ำต่อหน้าบ่าวไพร่อีกด้วย”หยางซานหลางรู้สึกเหมือนถูกมารดาและภรรยารุมกล่าวหาว่าเขาคือคนที่ไร้ซึ่งเหตุผลอยู่กลาย ๆ“สามีของข้าน่ะหรือ! แน่ใจนะ...ว่าเป็นท่านจริง ๆ หากใช่ ไยจึงปรักปรำภรรยาตนเองเช่นนี้เล่า สงสัยข้าฝันไป ว่าตนเองยังไร้ซึ่งคู่ครอง หรือนี่มิใช่เรื่องจริงกัน อย่างว่าคนใกล้ตาย มักสับสนกับเรื่อง…สามีภรรยาอะไรแบบนี้! ข้าตื่นมาอยู่ในห้องเพียงลำพัง เลยเข้าใจว่ายังไม่มีสามี เพราะมีด้วยหรือที่คนแต่งงานกันแล้ว เมื่อเจ็บป่วยก็ไร้การเหลียวแลกันเช่นนี้”หลี่ถิงทำตาโต ยกมือข้างที่มิได้ถูกแม่สามีเกาะกุมขึ้นปิดปากตนเอง เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากฮูหยินหยาง นางชอบใจในการกระทำของสะใภ้รักเป็นอย่างมาก ไป๋หลานสมควรลุกขึ้นมารักษาสิทธิ์ในฐานะภรรยาของบุตรชายได้แล้วสองสามีภรรยายืนประจันหน้ากัน และมันน่าแปลกมากกว่านั้น คือฮูหยินน้อยของบ้านมิคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่9.  มีประโยชน์อันใด

    “ข้าพูดไปจะมีประโยชน์อันใด ในเมื่อคนที่ไร้ความเป็นธรรมอย่างท่านเป็นผู้ชี้ชะตาผู้คนในจวน และนั่นรวมถึงตัวข้าด้วย ที่ถูกท่านกล่าวหาในสิ่งที่ข้าไม่ได้กระทำ หากข้าพูดออกมาก็ไม่พ้นคำตัดสินจากท่านว่าข้าคือผู้ผิดอยู่วันยังค่ำ สู้ปล่อยให้พวกท่านเก็บไปคิดเล่น ๆ กันต่อเองมิดีกว่าหรือ”“โม่ไป๋หลาน ตัวเจ้าไม่ได้มาฟังการสอบสวน มาถึงก็พูดจาให้ร้ายใส่ความผู้อื่น แล้วยังพูดเหมือนตัวข้าไม่มีความเป็นธรรมต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่”“ข้าคือผู้ถูกกระทำ ย่อมรู้ดีกว่าผู้ใด แล้วมีสักคำแล้วหรือที่ข้าพาดพิงถึงใคร ส่วนที่กล่าวหาว่าข้าทำให้ท่านดูเหมือนคนไม่มีความเป็นธรรม คงไม่ต้องให้ข้าบอกหรอกนะ ว่าจริงหรือไม่ และไม่มีสิ่งใดที่คนอย่างข้าต้องการจากสามีเช่นท่าน แม่ทัพหยางซานหลาง”หยางซานหลางกำลังปะทะกับภรรยา ซึ่งไม่รู้ว่านางไปกินยาตัวไหนผิดมา ถึงได้หาญกล้าต่อกรกับคนเช่นเขาต่อหน้าผู้คนเช่นนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนนางจะเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูดจีกวานฮวาเห็นท่าไม่ดีจึงได้เดินเข้าไปหาญาติผู้พี่ของตน หวังปลอบโยนให้นางอารมณ์เย็นลง จะได้ไม่ต้องมีปากเสียงกันกับผู้เป็นพี่เขย ซึ่งมันพ่วงความอับอายมาสู่ตัวนางอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่10.  ผู้แพ้

    จีกวานฮวาแอบกำหมัดแน่นภายใต้แขนเสื้อ นางคือผู้แพ้อย่างนั้นหรือในวันนี้ ทุก ๆ ครั้งนางคือคนที่ชนะมาโดยตลอด ส่วนทหารและบ่าวไพร่ที่มาอยู่ดูการตัดสินได้หายไปจากลานฝึกอย่างรวดเร็วเช่นกัน“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ท่านแม่” หลี่ถิงก็เล่นบทนางเอกแสนดี สะใภ้ผู้เพียบพร้อมได้เช่นกัน ก่อนจะแสร้งทิ้งน้ำหนักลงไปทางแม่สามีเล็กน้อยหลิวเจินเจินโอบประคองหญิงสาวด้วยความรักใคร่ ก่อนจะก้าวพ้นประตูลานฝึก ฮูหยินใหญ่แห่งจวนสกุลหยางได้หยุดลงก่อนจะเอี้ยวตัวเล็กน้อยหันกลับไปยังบุตรชายและญาติของลูกสะใภ้“อ้อ! ลืมไป คุณหนูจีกวานฮวาเองก็รีบกลับบ้านได้แล้วนะ ก่อนที่มันจะค่ำมืดเอา หลานเอ๋อร์มีซานหลางคอยดูแลอยู่แล้ว คงไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้า เจ้าน่าจะรู้นะ ว่าระหว่างสามีกับญาติ ข้าคิดว่าคนเป็นสามีย่อมดีต่อความรู้สึกมากกว่า จริงหรือไม่ หน้าที่ในการปรนนิบัติซานหลางก็เป็นของภรรยาเขา ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”หยางฮูหยินกล่าวทิ้งท้ายด้วยคำพูดเหน็บแหนม ซึ่งทำให้คนฟังแทบกรีดร้องออกมาด้วยความอับอายและเจ็บแค้นเลยทีเดียวหยางซานหลางมองตามร่างภรรยา ด้วยสายตาที่แปลกกว่าที่เคย โม่ไป๋หลานคนนี้ติดจะก้าวร้าว แต่ทุกคำของนางช่างมีน้ำหนักที่สาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่11.  ถอนหายใจ

    หลี่ถิงรีบหลบหลังเสาทันที ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะเดินมาหาตน แล้วหาเรื่องแบบเมื่อกลางวัน‘ฉันยังไม่พร้อมทะเลาะกับใครตอนนี้’หญิงสาวถอนหายใจโล่งอกทันที เมื่อร่างสูงของหยางซานหลางได้หายเข้าไปภายในห้องซึ่งอยู่ฝั่งขวามือของห้องเธอ ด้วยลักษณะของเรือนหลังนี้เป็นรูปทรงตัวยู โดยห้องของเธอจัดอยู่ตรงกลางที่เป็นส่วนของตัวยูนั่นเอง‘ไหนในหนังสือนิยายหรือละครบอกว่าสามีภรรยาในยุคโบราณ เขาจะแยกอยู่คนละหลังนี่! ยิ่งสามีไม่รักก็มิสมควรนอนหลังเดียวกัน แต่ทำไมสามีของโม่ไป๋หลานถึงได้มาอยู่ที่นี่’“หลบทำไม! หรือคิดว่าข้าจะไปหาเจ้ากัน ถึงมาทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ตรงนี้ เพื่อเฝ้ารอข้าอย่างนั้นใช่ไหม คิดว่าข้าจะหลงกลมารยาของสตรีใจสกปรกอย่างเจ้าหรืออย่างไรกัน”หยางซานหลางปรากฏตัวขึ้นอีกด้านของเสาต้นใหญ่ที่หลี่ถิงหลบอยู่ พร้อมน้ำเสียงกึ่งเย้ยหยัน“ว้าย! ท่านคิดจะทำอะไรข้าอย่างนั้นหรือ ไยถึงได้มาเงียบ ๆ เช่นนี้”หลี่ถิงหวีดร้องด้วยความตกใจ จนดวงตามืดไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดประชดอีกฝ่าย ที่ยังยืนนิ่งมองเธออยู่“อย่าใส่ความข้าเพียงเพราะอับอายกับความคิดของตนเอง ไป๋หลาน มีหรือว่าข้าจะมิรู้ว่าเจ้าออกมายืนทำอะไรตรงนี้ ถ้าไม่ใช่มาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่98. โปรดติดตาม…ในเล่ม 2

    “ให้เข้ามาได้” ฮ่องเต้ทรงตรัสอนุญาต แม้จะทรงข้องพระทัยอยู่ไม่น้อย ที่อยู่ ๆ ผู้เป็นอาของพระองค์ก็เสด็จมาหา“ท่านอ๋องเชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ” ลู่กงกงก้าวออกไปยังหน้าประตู ก่อนทูลเชิญเสด็จจิ้นอ๋องจิ้นอ๋องเสิ่นหลีก้าวเข้ามาอย่างองอาจ แม้วัยจะล่วงเลยไปมากแล้วก็ตามที แต่ยังคงความสง่าเช่นราชนิกุลผู้มีสายเลือดมังกรอยู่มิเสื่อมคลาย ใบหน้าที่อ่อนโอน และอบอุ่นเสมอสำหรับคนในครอบครัว แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” จิ้นอ๋องประสานมือก่อนจะโค้งตัว ทำความเคารพโอรสมังกร ผู้ที่นั่งส่งยิ้มมาให้ตนเอง“ตามสบายเถอะ เสด็จอา วันนี้ทรงมีเรื่องสำคัญอันใดหรือไม่ จึงได้มาหาข้าเช่นนี้”ฮ่องเต้เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา มิทรงอ้อมค้อมเลยแม้แต่น้อย เพราะทรงรู้จักนิสัยของผู้เป็นอาดี ว่าหากไม่มีเรื่องสำคัญใด ๆ คนผู้นี้มักจะขลุกอยู่กับโคลงกลอน และการออกตรวจเยี่ยมราษฎร ตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อแบ่งเบาหน้าที่ของพระองค์เอง“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมเพียงมาเยี่ยมเยียน พระองค์เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ เห็นว่าช่วงนี้ทรงมิค่อยสบายพระทัยนัก จึงอยากที่จะมาชวนฝ่าบาท ร่วมดื่มสุราชั้นยอด จากเมืองฉินเส่าสักหน่อยพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้โม่เหยีย

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่97.ชายแปลกหน้า

    แต่ยังไร้เสียงร้องขอความเมตตา ออกจากปากของสองพี่น้อง โม่หยวนฟางพยายามยกหน้าไม้ขึ้น เขาทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงตัดสินใจกดยิงออกไป ระยะประชิดเช่นนี้ มีหรือจะพลาดเป้า ลูกดอกพุ่งเข้าบริเวณสีข้างของคนร้าย ด้วยอารามตกใจ ชายสวมหน้ากากจึงเหวี่ยงหยวนฟาง ไปยังทิศทางเดียวกับโม่คังปึก! ตุบ! ร่างเด็กชายกระแทกเข้ากับตัวของพี่ชายที่รวบรวมพลังทั้งหมด พุ่งรับร่างผู้เป็นน้องชาย ก่อนจะตกสู่พื้นไปพร้อม ๆ กัน เป็นภาพที่สะเทือนใจขององครักษ์บางคนที่ยังหายใจอยู่ แต่ไร้สามารถที่จะลุกขึ้นปกป้องนายได้แล้วเช่นกันเลือดสีแดงฉาน ทะลักออกมาจากปากของโม่คัง เด็กชายยังคงพลิกตัวนอน ทาบทับเอาร่างบังน้องชายเอาไว้ภายใต้กายโชกเลือดของตนเอง ซึ่งเขาเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ อาการหายใจไม่ทั่วช่องท้อง เริ่มมีบ้างแล้วหยวนฟางดึงปี่ออกจากเชือกที่ร้อยติดกับสายคาดเอว ก่อนจะนำมาใส่ปากออกแรงเป่าอยู่อย่างมิท้อถอย ชายสวมหน้ากากเดินเข้ามาเหยียบลงบนหลังของโม่คัง ค่อย ๆ กดน้ำหนักลงไป เด็กชายไร้แรงต้านทานใด ๆ ได้อีกสองแขนที่พยายามค้ำยันเอาไว้ เพื่อไม่ให้ทับน้องชายแรงเกินไป ถึงกับสั่นระริก ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส มันคือการทรมานจากศ

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่96. มีคนร้าย

    หลายปีก่อน ระหว่างทางไปวัดฉุ่ยอิงนอกเมืองหลวงเพล้ง! ฮี้ ๆ เสียงกระทบกันของอะไรสักอย่าง รวมทั้งเสียงม้าที่แตกตื่น ทำให้เด็กน้อยทั้งสาม ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถม้า รับรู้ถึงเรื่องผิดปกติ“เกิดอะไรขึ้น”เด็กชายวัยสิบขวบเอ่ยถามองครักษ์ด้านนอก แม้ตัวเขาพอเดาได้ไม่ยากว่าเกิดจากอะไร“อย่าออกมาพ่ะย่ะค่ะ มีคนร้าย”คำตอบจากหนึ่งในองครักษ์ ที่ได้อยู่คุ้มกันขบวนรถม้านำเสด็จองค์รัชทายาทโม่คังในวัยสิบชันษาเพื่อไปยังนอกเมือง ซึ่งตอนนี้ อยู่ ๆ รถม้าได้หยุดลงกะทันหัน โดยภายในมีขันทีวัยใกล้เคียงกันได้ตามเสด็จพร้อมทั้งพระญาติ คือท่านอ๋องน้อยโม่หยวนฟางเมื่อได้ยินคำตอบจากองครักษ์ เด็ก ๆ ต่างพากันเตรียมพร้อมรับมือ เสียงลูกดอกกระทบรถม้า และทะลุเข้ามายังด้านใน ทำให้โม่คังรีบคว้าตัวน้องชายเข้ามากอดเพื่อปกป้อง ก่อนจะหยิบเอาแส้อสรพิษที่นำติดตัวมาด้วยเอาไว้ในมือ แล้วพาน้องชาย รวมทั้งขันทีคนสนิทลงจากรถม้า องครักษ์คุ้มกันได้ล้อมเข้าเพื่อป้องกันเจ้านายทั้งสองอ๋องน้อยด้วยวัยเพียงห้าขวบที่หวังตามพระเชษฐาออกมาเที่ยวนอกวังนั้นยังมิประสาอะไรมาก ฝีมือการต่อสู้ก็เพียงเล็กน้อยยังมิถึงขั้นชำนาญ ในมือยังคงถือหน้าไม้ที่ฮ่องเต้

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่95. เจ้าเป็นใคร

    ชายหนุ่มเดินยืดตัวตรง ช่างดูสง่าผ่าเผย จนมิเหมือนบ่าวรับใช้สักเท่าใดนัก ร่างสูงหยุดยืนกะทันหัน เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ทัพใหญ่หยางซานซินโดยบังเอิญ บุรุษต่างวัยยืนจ้องตากันดุจมังกรปะทะพยัคฆ์ก็ว่าได้ ก่อนรอยยิ้มของผู้อ่อนวัยกว่า จะยกขึ้นช้า ๆ เมื่อมองเห็นเสือเฒ่า ปิดดวงตาเอาไว้ข้างหนึ่ง‘สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่ แม้บาดเจ็บหนักยังลุกขึ้น ออกมาเดินไปทั่วค่ายได้’ นับว่าเสือเฒ่าตัวนี้ร้ายมิใช่เล่นแต่จงอย่าลืมว่าแม่ทัพเพียงสองคน มิอาจล้มฮ่องเต้ได้โดยไร้ผู้หนุนหลัง และคนผู้นั้นต่างหากที่เขาต้องการตัว มากกว่าคนตรงหน้า โม่คังเดินเบี่ยงตัวหลบให้อีกฝ่าย แต่เท้าของหยางซานซิน ยังมิทันขยับก้าวกลับเป็นโม่คังที่ก้าวออกไปก่อน ไม่คิดรั้งรอที่จะเอ่ยปากอันใดกับหยางซานซิน“หยุดก่อน! เจ้าเป็นใคร เห็นข้าแล้วยังไม่รู้จักอ่อนน้อม รึเห็นข้าเป็นเพียงก้อนหินหรืออย่างไรกัน เป็นชาวบ้านไร้การอบรมสิ้นดี”โม่คังหยุดเดินก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย คนพวกนี้ช่างเจ้ายศกันเสียจริง เขาเป็นถึงองค์ชาย ยังไม่เคยเรียกร้องให้คนมาก้มหัวให้ ชายหนุ่มหันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย แววตาเสมือนไร้ความรู้สึกใด ๆ เมื่อเขาต้องมองหน้าคนอย่างหยางซานซิน

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่ 94.เบามือเกินไปแล้ว

    หยางซานหลางได้คว้ามือไปหยิบหน้ากากมาสวมเพื่อปิดบังรอยแผล“ข้าน้อยเยว่คัง คารวะท่านแม่ทัพหยาง”ชายหนุ่มได้ยื่นตะกร้าให้แก่ทหาร ก่อนจะกล่าวแนะนำตัวและประสานมือ ทำความเคารพแม่ทัพหนุ่ม โม่คังแอบซ้อนสายตาเหลือบมองคนที่นั่งอยู่‘เล่อเล่อ! น้องเบามือเกินไปแล้ว หยางซานหลางยังนั่งหน้าตาย อยู่ได้ มันไม่สาแก่ใจพี่เท่าใดนัก’ ชายหนุ่มแอบตำหนิน้องสาวอยู่ภายในใจทหารที่เป็นผู้รับตะกร้าอาหารไป ได้ทำการทดสอบพิษเสียก่อน ที่จะนำมาให้แก่ผู้เป็นหัวหน้าของตนได้ดื่มกิน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงได้นำออกมาวางยังโต๊ะ รวมกับอาหารของหญิงสาว ซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว จีกวานฮวาถึงกับใบหน้าชา เสมือนถูกตบอย่างแรง เมื่อต้องมองอาหารที่สตรีอื่น นำมาให้คนรักของตนต่อหน้าเช่นนี้“แม่นางฟางเล่อสบายดีหรือ ข้านั้นเสียมารยาทมากนัก ที่มิได้เข้าไปกล่าวทักทาย ต้อนรับนางเลย ช่างเสียมารยาทนัก”“หามิได้ขอรับท่านแม่ทัพ นายหญิงให้เรียนท่านแม่ทัพว่า เมื่อวานเห็นท่านแม่ทัพ ไม่ได้เข้าไปร่วมงานเลี้ยงเปิดตัวเซียนอี้ วันนี้จึงได้มอบหมายให้ข้าน้อย นำของกำนัลมาให้ยังค่ายแทนขอรับ หวังว่าท่านแม่ทัพหยางคงมิรังเกียจของพื้น ๆ เช่นนี้นะขอรับ”โม่

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่ 93. เชิงเขานอกเมือง

    “เป็นเพียงบ่าวรับใช้ มินอนหน้าเตียงของข้าเสียเลยล่ะขอรับ” หยวนฟางประชดคนเป็นพี่“เช่นนั้นก็ได้ เอาตามนี้ก็ดี ปะ! ไปนอนกันเถอะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว เราควรพักผ่อน” โม่คังยกยิ้มมุมปาก เมื่อกลั่นแกล้งผู้เป็นน้องได้ จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดีโม่คังอยากหัวเราะดัง ๆ กับท่าทางประชดประชันของน้องชาย อายุมิใช่น้อย แต่พอเขาที่แก่กว่ามานั่งอยู่ตรงนี้ เจ้านั่นก็กลายร่างเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ทันที ยังมีอีกคนพรุ่งนี้ น้องสาวสุดที่รักจะยังจำพี่ชายคนนี้ได้อยู่รึไม่ คราแรกตอนได้ยินข่าวการตายของนาง เขาแทบตรงดิ่งเข้าเมืองหลวง เพื่อฆ่าอดีตน้องเขยด้วยมือของตนเอง แต่เพราะคำว่าเพื่อบ้านเมือง เขาจะปรากฏตัวให้ใครรู้มิได้ว่ายังไม่ตาย‘ใกล้ถึงเวลาที่พวกแก ต้องชดใช้แล้วกบฏทั้งหลาย’หยวนฟางแทบอยากผูกคอตาย เมื่อผู้เป็นพี่ชายมานอนร่วมห้อง เป็นเขาที่ต้องนอนหน้าเตียง เมื่อทนไม่ได้กับการนอนดิ้นของพี่ชาย จึงต้องหอบหมอนและผ้าห่ม ลงมานอนข้างล่างแทน“ฝากไว้ก่อนท่านพี่ อย่าเผลอก็แล้วกัน ข้าจะเอาคืนให้สาสม”เสียงบ่นเบา ๆ ของคนด้านล่าง ทำให้คนบนเตียงยิ้มกว้าง ที่แกล้งน้องชายได้สำเร็จ พวกเขาหยอกล้อกันเช่นนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต เมื่อเสียงน้อ

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่ 92.อย่าใส่ความ

    “ได้! ปล่อยข้าก่อน”หรู่อี้รู้สึกว่าใบหน้าของนางร้อนผ่าว เมื่อลมหายใจของคนตัวใหญ่ เป่าลดลงบนหน้าผากของนาง เมื่อร่างบางได้เป็นอิสระแล้ว หรู่อี้รีบพุ่งลงจากเตียง ไปยืนอยู่ข้างเมี่ยวจ้านในทันที เยว่คังยังคงตีสีหน้าเศร้าสร้อย ก่อนจะค่อย ๆ คลานลงจากเตียง ไปยืนตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ ผู้เป็นนาย“เอาละ! ข้าจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันเอาไว้ หรู่อี้ชายผู้นี้มีนามว่าเยว่คัง เป็นคนของฝ่าบาท ส่วนเจ้าเยว่คัง นางคือหรู่อี้ผู้ติดตาม คนสนิทของท่านหญิงโม่ฟางเล่อ ส่วนนั่นคือองค์หญิงเมี่ยวจ้าน คนรักของข้าเอง”พอแนะนำว่าเมี่ยวจ้านคือผู้ใดเสร็จ รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา เยว่คังค้อมศีรษะให้แก่สตรีทั้งสองนาง ก่อนจะชำเลืองมองไปทางโม่หยวนฟาง‘ร้ายนักเจ้าน้องชาย หมายจะทิ้งบ้านเมือง ไปเป็นเขยต่างแคว้น’ โดยคนเป็นน้องชายก็มิยิ่งหย่อนไปกว่ากัน“ท่านพี่จะรีบทำให้ไก่ตื่นไปไย อย่างไรเสียนกน้อยของท่านก็มิหนีหายไปไหนได้อยู่แล้ว” หยวนฟางกระซิบเบา ๆ กับเยว่คัง“แม่นางหรู่อี้! เยว่คังผู้นี้จำต้องขออภัยที่ได้ล่วงเกินแม่นาง แต่อย่างไรเสีย เรื่องที่ท่านทำให้ข้าต้องมีมลทินนั้น ข้าคงมิอาจนิ่งเฉยได้”ทุกสายตาหันไปมองยังหรู่อี้

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่ 91. ดุจสายลม

    ชายหนุ่มได้หายออกจากเก้าอี้ไปนั่งอยู่บนเตียง โดยที่หรู่อี้มิอาจตามได้ทัน ความรวดเร็วว่องไวดุจสายลม ช่างน่ากลัวยิ่งนักหากคนผู้นี้คือศัตรู คงต้องบอกว่าหนักมือสำหรับนางไม่น้อยเลย หรู่อี้พุ่งเข้าหาคนบนเตียง ด้วยความเร็วดุจพายุก็มิปาน แต่คนที่นั่งอยู่กลับไม่ได้ขยับไปไหน เพียงเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อย มือแกร่งรวบจับข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ออกแรงเพียงเล็กน้อย ร่างบางกลับไปนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม กระบี่ในมือตกอยู่ข้างลำตัวแทนไม่เพียงแค่กอดรัด ขณะที่หรู่อี้กำลังจะอ้าปากต่อว่า“อื้อ! อ่อย! ฮา! อะ!”หรู่อี้ทำได้แค่เพียง ส่งเสียงอู้อี้ออกมา มิใช่เพียงแค่ปากประกบลงบนกลีบปากนุ่มของหญิงสาวเท่านั้น ลิ้นของชายหนุ่มได้สอดล่วงล้ำ เข้าไปในโพรงปากของหญิงสาวอีกด้วย หรู่อี้ถึงกับสั่นสะท้านไปทั่วร่าง เมื่อถูกรุกราน นางยังมิเคยต้องมือบุรุษใดมาก่อนชายหนุ่มลอบยิ้มในใจ กับความใสซื่อและอ่อนประสบการณ์ของคนในอ้อมแขน หรู่อี้ถึงกับน้ำตาซึม ก่อนจะค่อย ๆ ไหลลงสู่แก้มนวล ชายหนุ่มรู้สึกได้กับน้ำอุ่น ๆ สัมผัสใบหน้าของตนซึ่งแนบชิดกับอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออก“นี่อย่างไรล่ะ เขาเรียกว่าเล่นลิ้นสาวน้อย”

  • ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม1   ตอนที่ 90. รัชทายาทแห่งจิ้งหนาน

    ‘มิเจียมตนเลยเมี่ยวจ้าน’ หญิงสาวพร่ำบ่นตนเองอยู่ภายในใจ“เจ้ายังมิรู้ตัวอีกหรือเมี่ยวจ้าน ว่าตนเองมีความผิดเรื่องใดบ้าง”โม่หยวนฟางยกยิ้มมุมปากด้วยความขบขัน และยังคงพูดจา ให้อีกฝ่ายเกิดความสงสัยมากขึ้นอีก เขารู้ตั้งแต่คนของเขาส่งสัญญาณมาก่อนแล้วว่า พวกนางมาถึงหอร้อยราตรีแล้ว เขาจึงเริ่มปล่อยให้หญิงคณิกาผู้นั้นรุกหนัก โดยยอมหญิงงามผู้นั้นขึ้นคร่อมบนตัว เสมือนเขาเป็นม้าและคณิกาคนงามเป็นผู้ขี่ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาเดียวกัน กับที่เมี่ยวจ้านปรากฏตัวขึ้น ด้วยใบหน้านิ่งสนิท แต่การกระทำกลับมินิ่งเสมือนใบหน้า สร้างความพอใจให้แกเขายิ่งนัก สิ่งที่ชอบในตัวนางคือ ความตรงไปตรงมา นางชัดเจนเสมอในสิ่งที่ลงมือกระทำ สมแล้วที่เป็นถึงรัชทายาทแห่งจิ้งหนาน‘ข้าอยากเห็นขุนพลผู้เกรียงไกร พ่ายต่อใจตนเองนัก’“เจ้าเห็นร่างกายภายใต้เสื้อผ้าของพี่จนหมดสิ้นแล้ว มิเว้นแม้แต่ส่วนลับ เช่นนั้นแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบ”โม่หยวนฟางพูดด้วยน้ำเสียง เหมือนกำลังจะร้องไห้ พร้อมใบหน้าเริ่มหม่นหมองลงทีละนิด“ห๊ะ! ขะ…ข้าหรือ” เมี่ยวจ้านอุทานออกมา ด้วยความตกใจปนสับสนโม่หยวนฟางเริ่มตีหน้าเศร้า เอามือลูบตามเนื้อตัวของตน เพื่อแสดงให้หญิ

DMCA.com Protection Status