แชร์

ตอนที่5.ทั้งที่ใจนั้น...

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 23:36:12

“ท่านแม่! ได้โปรดออกมาตกลงกับลูกจะดีกว่านะขอรับ” หยางซานหลางยังคงเรียกหลิวเจินเจินว่าแม่ ทั้งที่ใจนั้นสับสนอยู่มิน้อย ไม่ใช่มารดาผู้นี้ไม่ดี แต่เป็นตัวเขาที่ไม่คู่ควรจะเรียกสตรีแสนดีว่าแม่

คนสนิทของหยางซานซิน พยายามที่จะคาดเดาความคิดของชายหนุ่ม หากแผนการต้องพังลงเพราะความใจอ่อนของหยางซานหลาง เขาก็คงต้องกำจัดเสียให้สิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพ ตามคำสั่งของนายใหญ่ซึ่งจะปล่อยให้ทุกอย่างเสียหายไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตามที เขาได้รับคำสั่งจากนายใหญ่มาโดยตรง ดังนั้น หยางซานซินก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านหากเขาจะลงมือกำจัดบุตรชายของแม่ทัพใหญ่สกุลหยาง

“หยางซานหลาง…เสียแรงที่ข้าอบรมสั่งสอนเจ้ามาแต่เยาว์วัย ไยถึงมิเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสมองของเจ้าสักนิด เหตุใดเจ้าไม่รู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดถูกผิดกันเล่า” หลิวเจินเจินยังคงนั่งอยู่ภายในรถม้าทำเพียงส่งเสียงตอบโต้ชายหนุ่มออกมาเท่านั้น

หยางซานหลางได้แต่กัดฟันด้วยความเจ็บแปลบในหัวใจ ไยเขามิรู้ถูกผิด แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจผู้ใดด้วยเช่นกันจึงเลือกที่จะอยู่ข้างบิดาซึ่งคอยบอกเขาเสมอว่า แผ่นดินชีเป่ยถูกสกุลโม่แย่งชิงไป แม้วันนี้ เขาจะรู้ว่ามันคือเรื่องโกหก แต่เขาก็ไม่อาจถอยหลังได้แล้วในตอนนี้

“ลูกจำคำสอนของท่านแม่ได้ดีขอรับ แต่มิใช่ท่านแม่หรอกหรือที่เลือกข้างผิดเสียเอง มอบของที่ท่านแม่ขโมยไปคืนแก่ข้าเถอะนะขอรับ แล้วข้าจะมิทำอันใดท่านแม่ ได้โปรดอย่าทำให้ข้าลำบากใจไปมากกว่านี้อีกเลย”

น้ำเสียงของชายหนุ่มที่เอ่ยกับมารดาเลี้ยงช่างนุ่มนวลยิ่งนัก ทุกถ้อยคำสะท้อนลึกลงไปในหัวใจของคนในรถม้า หลิวเจินเจินพยายามควบคุมตนเองมิให้อ่อนไหวกับคำพูดของบุตรชายจนพลั้งเผลอออกไปด้านนอกก่อนเวลาที่เหมาะสม

เมี่ยวจ้านเมินหน้าไปอีกทางด้วยสงสารมารดาจับใจ ถึงหยางซานหลางจะเลวร้ายเพียงใด เขาก็คือพี่ชายของนาง และชายหนุ่มผู้นี้ไม่เคยทำร้ายมารดาของนางสักครา จะมีก็แต่เพียงบิดาเท่านั้นที่เป็นผู้กระทำ

“อย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลย ซานหลาง จะลงมือก็จงทำเสียเถอะ ยืดเยื้อไปก็รังแต่จะมากความเปล่า ๆ” หลิวเจินเจินเอ่ยกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงไร้เยื่อใย หากจะตัดก็จำต้องให้ขาดกันไปเสีย แม้ภายในจะเจ็บร้าวเพียงใดก็ตาม ส่วนรวมย่อมมาก่อนส่วนตน

หยางซานหลางใบหน้าถอดสีจนซีดเผือด เมื่อได้ยินคำพูดของมารดา ชายหนุ่มจึงส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามไปนำตัวหลิวเจินเจินออกมาจากรถม้า

แต่ทว่า…ยังมิทันก้าวเข้าถึง หลังคารถม้ากลับกระเด็นออกอย่างแรงด้วยฝีมือของคนภายใน ทั้งหมดดวงตาเบิกกว้าง มือของแต่ละคนกระชับอาวุธแน่น ต่างพากันจ้องมองไปยังจุดเดียวกันคือรถม้าของหลิวเจินเจิน ซึ่งเวลานี้ได้มีหญิงสาว หน้าตางดงามยืนอยู่ขอบด้านบนของรถม้า ในมือถือวงแส้สีทอง หากจะมองให้ดี แส้เส้นนั้นมันทำจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งเส้น

เมี่ยวจ้านจ้องมองไปยังพี่ชายร่วมบิดา ชายหนุ่มผู้แย่งชิงมารดาของนางไปกว่ายี่สิบปี เกิดต่างกันเพียงสองวันเท่านั้น นางกลับเป็นผู้ถูกเลือกให้ตาย ส่วนเขากลับได้รับโอกาสให้มีชีวิตอยู่ แต่ถึงแม้นางไม่ตายและถูกเลือกให้มีลมหายใจอยู่ต่อ นางก็จะขอยืนคนละข้างกับคนสกุลหยางอยู่ดี

หยางซานหลางจ้องมองคนตรงหน้า ด้วยแววตาเหยียดหยาม เขารู้เรื่องนางมาจากบิดาแล้ว แม้จะมิเคยพบหน้ากันมาก่อน แต่วงหน้างามคล้ายคลึงกับหลิวเจินเจินนั้น มิต้องบอก เขาก็รู้ว่าคือใคร

“เจ้าคิดว่าจะแย่งชิงทุกอย่าง กลับคืนไปได้หรือ น้องพี่ มิว่าวันไหน ๆ เจ้าก็เป็นเพียงส่วนเกินของสกุลหยาง”

หยางซานหลางคิดจะใช้คำพูดเสียดแทงใจน้องสาวต่างมารดา ซึ่งแท้จริงแล้วในใจลึก ๆ เขาอิจฉาน้องสาวเป็นที่สุดที่สามารถเลือกทำในสิ่งที่ต้องการ โดยไร้คนบีบบังคับ

‘ข้าอิจฉาเจ้า น้องสาว แต่ก็ต้องเสียใจกับเจ้าด้วยที่ต้องตายในวันนี้’

เมี่ยวจ้านยิ้มเย็น มิรู้สึกอันใดกับคำพูดของพี่ชายร่วมบิดา ไยนางต้องใส่ใจด้วย ในเมื่อปัจจุบันนี้ นางเหนือกว่าอีกฝ่ายทุกประการ นางคือคนที่จะขึ้นครองบัลลังก์แห่งจิ้งหนานโดยไม่ต้องแย่งชิงมาแม้แต่น้อย

ส่วนเขา หยางซานหลางนั้นกำลังพยายามที่จะแย่งชิงมา โดยมิรู้ว่าจะสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด มันชัดเจน ซึ่งไม่ต้องให้ผู้ใดมาบอกว่าระหว่างนางกับพี่ชายใครเหนือกว่ากัน

“แล้วอย่างไร หยางซานหลาง ข้าต้องลงไปนอนดิ้นบนพื้นดินต่อหน้าเจ้ากับบิดาอย่างนั้นรึ นั่นคงมิใช่คนเช่นข้าเป็นแน่ ข้าเมี่ยวจ้านไม่มีวันลดตัวลงไปคุกเข่า เรียกร้องสิ่งใดให้เสียเวลากับคนเช่นเจ้าสองพ่อลูกเป็นอันขาด สกุลหยางสำหรับข้าแล้วช่างไร้ความหมายยิ่งนัก” เมี่ยวจ้านเองก็ยอกย้อนพี่ชายของตนด้วยคำพูดถากถางไม่แพ้กัน

หนึ่งแม่ทัพแห่งชีเป่ยผู้ไร้พ่ายกับนางขุนพลผู้ถูกขนานนามว่าพยัคฆ์ร้ายแห่งจิ้งหนาน แม้สายเลือดเดียวกัน แต่จิตใจกลับแตกต่างราวฟ้ากับเหว ทั้งสองฝ่ายต่างมีฝีมืออันสูงส่ง หากวัดกันในเวลานี้ เมี่ยวจ้านเองก็มิด้อยไปกว่าผู้เป็นพี่ชายร่วมบิดาแม้แต่น้อย ครานั้นที่พ่ายแก่บิดานั้นเพราะนางบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป นางพร้อมอย่างที่สุดสำหรับการประมือกับชายหนุ่มตรงหน้า หรือแม้แต่บิดาผู้ทรยศต่อแผ่นดินอย่างหยางซานชิน

“ปากดีเช่นมารดาเจ้ายิ่งนัก น้องสาวพี่…แต่เสียดายที่เราคงไม่ได้สังสรรค์กันเช่นพี่น้องสกุลอื่น”

หยางซานหลางพยายามทำให้เมี่ยวจ้านพลั้งเผลอเพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าจู่โจมพวกนางได้โดยง่าย เขาไม่เชื่อว่ามารดาซึ่งเป็นถึงบุตรสาวอดีตแม่ทัพใหญ่จะไร้คนคุ้มกัน มันย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน หากตัวเขาใช้เพียงความขุ่นมัวของจิตในการโจมตีอาจพลาดตกเป็นรองได้

“เช่นกันพี่ชาย! ท่านช่างต่ำช้าเช่นมารดาของท่านมิน้อยไปกว่ากันเลย ฮา ๆ”

หยางซานหลางใบหน้าเปลี่ยนในฉับพลันเมื่อน้องสาวต่างมารดาเอ่ยถึงผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของเขา เมี่ยวจ้านผู้นี้จะมีดีอันใดบ้างนะที่จะยั่วยุให้นางขุ่นเคืองจนใช้อารมณ์แทนสมอง แต่ที่เขาเห็นในตอนนี้คือนางนิ่งเฉย เสมือนคำพูดของเขานั้นดุจสายลมที่พัดแผ่วเบาสำหรับนางก็มิปาน

ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของหยางซานหลางอีก แม่ทัพหนุ่มใช้วิชาตัวเบา พุ่งจากหลังม้าตรงเข้าหาน้องสาวในทันที เมี่ยวจ้านที่เตรียมตัวรออยู่ก่อนแล้วยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ ก่อนปล่อยวงแส้ออก มือบางจับเพียงด้าม แล้วสะกิดปลายเท้า เหินกายถอยไปด้านหลังด้วยท่าทางสง่างามสมกับที่นางคือยอดขุนศึกผู้เกรียงไกร

ทางด้านจีกวานฮวา นางตัดสินใจพุ่งไปทางรถม้าเพื่อจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นแทนคู่หมั้น แต่ยังมิทัน…

ตุบ!

ร่างบางร่วงลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วทำให้ฝุ่นดินฟุ้งกระจายขึ้นรอบตัว ด้วยร่างของนางกระแทกกับพื้นดินอย่างแรง หญิงสาวรีบขยับลุกขึ้นทันที แม้จะรู้สึกจุกอยู่มิน้อยก็ตาม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่1. ติดตาม

    โรงเตี๊ยมเซียนอี้ ณ ห้องหนังสือส่วนตัวของโม่ฟางเล่อ“ฮา ๆ ๆ ข้านึกว่าพวกเจ้าจะลุกไม่ขึ้นเสียอีก ศึกเมื่อคืนหนักมากหรือเจี๋ย พวกเจ้าถึงได้ตื่นเอาป่านนี้”โม่หยวนฟางพูดไป ดวงตาก็จับจ้องใบหน้าแดงก่ำของฟางเล่อและถงเหยียนเจี๋ย ด้วยใบหน้าซับสีเลือดของทั้งคู่ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หลังจากปรับความเข้าใจกับเมี่ยวจ้านเรื่องความเข้าใจผิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่เขาและหญิงสาวจะเข้ามารวมตัวกันกับน้องสาวและสหายรักภายในห้องนี้ ชายหนุ่มขบขันกับท่าทางของทั้งคู่ที่เอาแต่ก้มหน้ามองถ้วยชา“เจ้าคิดถึงไหนกัน หยวนฟาง”ถงเหยียนเจี๋ยเองก็ไม่คิดว่าเขาและภรรยาจะตื่นสายถึงเพียงนี้จนเป็นที่ล้อเลียนของคนรอบข้าง นี่ยังเหลืออีกสองคนซึ่งยังมิกลับจากไปทำภารกิจยังค่ายทหาร เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า หากพี่ใหญ่ของสกุลโม่กลับมาคงมิแคล้วต้องมีคำพูดล้อเลียน ไม่ต่างจากคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามในตอนนี้อย่างแน่นอน ทว่า…“น้องรัก…พวกเจ้ากำลังนินทาพี่ชายผู้นี้อยู่รึ หืม!”‘เสียงมาก่อนตัวเสียอีก’ ฟางเล่อบ่นอยู่ในใจ นางมิเคยพบญาติผู้พี่มาก่อน ดีที่โม่หยวนฟางได้บอกนางก่อนแล้วเมื่อครู่ ว่านางนั้นยังมีพี่ชายอีกคนซึ่งโม่ไป๋หลานตัวจริงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่2. กลั่นแกล้ง

    ครั้งที่ฟางเล่อพาเมี่ยวจ้านไปกลั่นแกล้งและทดสอบฝีมือของพ่อลูกสกุลหยางนั้น บอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อลูกสกุลหยางไม่ได้แสดงฝีมือเต็มที่นัก หากเอาจริงขึ้นมาคงหนักมือน้องของเขาอยู่มิน้อยหยางซานหลางแม้จะดูมิฉลาดในหลาย ๆ เรื่อง แต่ฝีมือของเขานั้นไม่เป็นรองผู้ใดเช่นกัน เพียงแต่ความมุทะลุและจิตใจคับแคบของหยางซานหลางเท่านั้นที่เป็นจุดด้อยในตำแหน่งแม่ทัพ เรื่องฝีมือการรบถือว่ายอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับผู้เป็นพ่อ หยางซานชินที่นับว่าเป็นยอดขุนพลน่าเสียดายที่สองพ่อลูกกลับหลงมัวเมาในอำนาจและสตรีจนมองข้ามความถูกผิดที่ได้กระทำลงไป พวกเขาจำต้องรอบคอบให้มากในทุก ๆ การเคลื่อนไหว มิเช่นนั้นจะกลายเป็นหมากในกระดานโดยถูกคนพวกนั้นคุมเกมแทนที่จะเป็นฝ่ายเขา การทำศึก ก้าวพลาดเพียงครั้งจะเปลี่ยนฝ่ายผู้กุมชัยในสนามรบทันทีห้องอาหาร…โรงเตี๊ยมชั้นล่างร่างสูงของเจิ้งถงนั่งดื่มสุราด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เขาคอยจับสังเกตถึงสิ่งผิดปกติของคนในร้าน โดยเฉพาะบรรดาเสี่ยวเอ้อร์และคนดูแลโรงเตี๊ยม อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาได้ออกติดตามหาร่องรอยผู้คุ้มกัน และศิษย์พรรคโลกันต์ กว่าจะกลับไปยังค่ายทหาร เรื่องมากมายก็เกิดขึ้นก่อนแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่3. มันไม่ง่าย

    กว่าที่ตัวนางจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องแลกด้วยหลายสิ่งเหลือเกิน แม้แต่การฆ่าคน นางก็ต้องทำเพื่อรักษาความลับที่จะนำภัยมาสู่นางเอง จะให้การเสียสละความสุขส่วนตนของนางสูญไปเปล่า ๆ มิได้ นางใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้เป็นที่โปรดปรานจนอยู่เหนือสนมทุกนาง เป็นรองเพียงฮองเฮาเท่านั้นยิ่งเวลานี้ ฮ่องเต้มิทรงไยดีในตัวฮองเฮา หรือสนมนางในอื่นใด มีเพียงนางที่ทรงเรียกหาให้ร่วมดื่มกินเป็นเพื่อนคุยอยู่สม่ำเสมอ ทุกอย่างที่นางต้องการก็มิเคยขัด จะมีก็แต่เพียงตำแหน่งสูงสุดในวังหลังเท่านั้นที่นางยังไม่ได้ครอบครองเมื่อก่อน นางอาจต้องการตำแหน่งนั้น แต่ตอนนี้ มันไม่จำเป็นที่จะยื้อแย่ง เพราะไม่ช้า มันจะเป็นของนางอยู่ดีเรียวปากอวบอิ่มยกยิ้มหยัน เมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับศัตรูของนางและคนรัก‘หมดยุคของสกุลโม่แล้ว หยางและหลิวจะรวมเป็นหนึ่ง’“พ่อมิคิดว่า...มันจะไม่ง่ายอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้น่ะสิ! หากเป็นเช่นที่คนผู้นั้นบอกมา ไอ้เด็กนั่นมันยังไม่ตาย รวมทั้งจิ่วอิงและเงา แต่มันก็อาจจะเป็นข่าวลวงเพื่อให้เราไขว่เขวได้เช่นกัน ทางที่ดีนับจากนี้ไป เราจะวางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่พันธมิตรของเราเองก็ตามที”สมกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่4. ไล่ล่า

    เจ็ดวันต่อมา ถนนมุ่งสู่ด่านชายแดน ชีเป่ย-จิ้งหนานรถม้ากำลังเร่งความเร็วสุดฝีเท้าเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่างอยู่ และใช่ มันคือการหนีจากกลุ่มคนที่ห้อม้าตามมาติด ๆ โดยทหารของกองทัพเจียงไห่นำโดยแม่ทัพหนุ่ม หยางซานหลางเนื่องจากชายหนุ่มได้รับข่าวจากสายรายงาน ว่าหลิวเจินเจินพร้อมหลักฐานสำคัญกำลังจะข้ามชายแดนในวันนี้ เขาจึงได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้ออกติดตามช่วงชิงหลักฐานกลับมาให้ได้ พร้อมกำชับให้จัดการกับมารดาเลี้ยง อย่าให้เกิดปัญหาตามมาในภายภาคหน้าด้วยใจที่รักในมารดาผู้เลี้ยงดู เขาจึงได้ขออาสารับหน้าที่นี้ด้วยตนเอง แทนที่จะเป็นคนของบิดาหรือเจิ้งถง หยางซานหลางมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ แม้ความเป็นไปได้จะน้อยนิดก็ตาม เขาจะไม่มีวันทำร้ายมารดาอย่างหลิวเจินเจินเป็นอันขาด ‘ถึงข้าจะชั่วช้าเพียงใด แต่จะไม่ลงมือต่อผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้ข้าดื่มเป็นอันขาด’หยางซานหลางควบม้าจนสุดฝีเท้า เมื่อมองเห็นรถม้าอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากฝุ่นดินจางลงบ้างแล้ว “ยะ!” ทุกคนต่างกระตุ้นม้า ไล่กวดคนที่กำลังหนีให้ทัน เพราะรถม้านั่น…ข้ามชายแดนไปได้ ทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน“ข้าหวังว่าท่านแม่ทัพจะรู้จักหน้าที่”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่5.ทั้งที่ใจนั้น...

    “ท่านแม่! ได้โปรดออกมาตกลงกับลูกจะดีกว่านะขอรับ” หยางซานหลางยังคงเรียกหลิวเจินเจินว่าแม่ ทั้งที่ใจนั้นสับสนอยู่มิน้อย ไม่ใช่มารดาผู้นี้ไม่ดี แต่เป็นตัวเขาที่ไม่คู่ควรจะเรียกสตรีแสนดีว่าแม่คนสนิทของหยางซานซิน พยายามที่จะคาดเดาความคิดของชายหนุ่ม หากแผนการต้องพังลงเพราะความใจอ่อนของหยางซานหลาง เขาก็คงต้องกำจัดเสียให้สิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพ ตามคำสั่งของนายใหญ่ซึ่งจะปล่อยให้ทุกอย่างเสียหายไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตามที เขาได้รับคำสั่งจากนายใหญ่มาโดยตรง ดังนั้น หยางซานซินก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านหากเขาจะลงมือกำจัดบุตรชายของแม่ทัพใหญ่สกุลหยาง“หยางซานหลาง…เสียแรงที่ข้าอบรมสั่งสอนเจ้ามาแต่เยาว์วัย ไยถึงมิเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสมองของเจ้าสักนิด เหตุใดเจ้าไม่รู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดถูกผิดกันเล่า” หลิวเจินเจินยังคงนั่งอยู่ภายในรถม้าทำเพียงส่งเสียงตอบโต้ชายหนุ่มออกมาเท่านั้นหยางซานหลางได้แต่กัดฟันด้วยความเจ็บแปลบในหัวใจ ไยเขามิรู้ถูกผิด แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจผู้ใดด้วยเช่นกันจึงเลือกที่จะอยู่ข้างบิดาซึ่งคอยบอกเขาเสมอว่า แผ่นดินชีเป่ยถูกสกุลโม่แย่งชิงไป แม้วันนี้ เขา

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่4. ไล่ล่า

    เจ็ดวันต่อมา ถนนมุ่งสู่ด่านชายแดน ชีเป่ย-จิ้งหนานรถม้ากำลังเร่งความเร็วสุดฝีเท้าเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่างอยู่ และใช่ มันคือการหนีจากกลุ่มคนที่ห้อม้าตามมาติด ๆ โดยทหารของกองทัพเจียงไห่นำโดยแม่ทัพหนุ่ม หยางซานหลางเนื่องจากชายหนุ่มได้รับข่าวจากสายรายงาน ว่าหลิวเจินเจินพร้อมหลักฐานสำคัญกำลังจะข้ามชายแดนในวันนี้ เขาจึงได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้ออกติดตามช่วงชิงหลักฐานกลับมาให้ได้ พร้อมกำชับให้จัดการกับมารดาเลี้ยง อย่าให้เกิดปัญหาตามมาในภายภาคหน้าด้วยใจที่รักในมารดาผู้เลี้ยงดู เขาจึงได้ขออาสารับหน้าที่นี้ด้วยตนเอง แทนที่จะเป็นคนของบิดาหรือเจิ้งถง หยางซานหลางมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ แม้ความเป็นไปได้จะน้อยนิดก็ตาม เขาจะไม่มีวันทำร้ายมารดาอย่างหลิวเจินเจินเป็นอันขาด ‘ถึงข้าจะชั่วช้าเพียงใด แต่จะไม่ลงมือต่อผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้ข้าดื่มเป็นอันขาด’หยางซานหลางควบม้าจนสุดฝีเท้า เมื่อมองเห็นรถม้าอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากฝุ่นดินจางลงบ้างแล้ว “ยะ!” ทุกคนต่างกระตุ้นม้า ไล่กวดคนที่กำลังหนีให้ทัน เพราะรถม้านั่น…ข้ามชายแดนไปได้ ทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน“ข้าหวังว่าท่านแม่ทัพจะรู้จักหน้าที่”

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่3. มันไม่ง่าย

    กว่าที่ตัวนางจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องแลกด้วยหลายสิ่งเหลือเกิน แม้แต่การฆ่าคน นางก็ต้องทำเพื่อรักษาความลับที่จะนำภัยมาสู่นางเอง จะให้การเสียสละความสุขส่วนตนของนางสูญไปเปล่า ๆ มิได้ นางใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้เป็นที่โปรดปรานจนอยู่เหนือสนมทุกนาง เป็นรองเพียงฮองเฮาเท่านั้นยิ่งเวลานี้ ฮ่องเต้มิทรงไยดีในตัวฮองเฮา หรือสนมนางในอื่นใด มีเพียงนางที่ทรงเรียกหาให้ร่วมดื่มกินเป็นเพื่อนคุยอยู่สม่ำเสมอ ทุกอย่างที่นางต้องการก็มิเคยขัด จะมีก็แต่เพียงตำแหน่งสูงสุดในวังหลังเท่านั้นที่นางยังไม่ได้ครอบครองเมื่อก่อน นางอาจต้องการตำแหน่งนั้น แต่ตอนนี้ มันไม่จำเป็นที่จะยื้อแย่ง เพราะไม่ช้า มันจะเป็นของนางอยู่ดีเรียวปากอวบอิ่มยกยิ้มหยัน เมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับศัตรูของนางและคนรัก‘หมดยุคของสกุลโม่แล้ว หยางและหลิวจะรวมเป็นหนึ่ง’“พ่อมิคิดว่า...มันจะไม่ง่ายอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้น่ะสิ! หากเป็นเช่นที่คนผู้นั้นบอกมา ไอ้เด็กนั่นมันยังไม่ตาย รวมทั้งจิ่วอิงและเงา แต่มันก็อาจจะเป็นข่าวลวงเพื่อให้เราไขว่เขวได้เช่นกัน ทางที่ดีนับจากนี้ไป เราจะวางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่พันธมิตรของเราเองก็ตามที”สมกับ

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่2. กลั่นแกล้ง

    ครั้งที่ฟางเล่อพาเมี่ยวจ้านไปกลั่นแกล้งและทดสอบฝีมือของพ่อลูกสกุลหยางนั้น บอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อลูกสกุลหยางไม่ได้แสดงฝีมือเต็มที่นัก หากเอาจริงขึ้นมาคงหนักมือน้องของเขาอยู่มิน้อยหยางซานหลางแม้จะดูมิฉลาดในหลาย ๆ เรื่อง แต่ฝีมือของเขานั้นไม่เป็นรองผู้ใดเช่นกัน เพียงแต่ความมุทะลุและจิตใจคับแคบของหยางซานหลางเท่านั้นที่เป็นจุดด้อยในตำแหน่งแม่ทัพ เรื่องฝีมือการรบถือว่ายอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับผู้เป็นพ่อ หยางซานชินที่นับว่าเป็นยอดขุนพลน่าเสียดายที่สองพ่อลูกกลับหลงมัวเมาในอำนาจและสตรีจนมองข้ามความถูกผิดที่ได้กระทำลงไป พวกเขาจำต้องรอบคอบให้มากในทุก ๆ การเคลื่อนไหว มิเช่นนั้นจะกลายเป็นหมากในกระดานโดยถูกคนพวกนั้นคุมเกมแทนที่จะเป็นฝ่ายเขา การทำศึก ก้าวพลาดเพียงครั้งจะเปลี่ยนฝ่ายผู้กุมชัยในสนามรบทันทีห้องอาหาร…โรงเตี๊ยมชั้นล่างร่างสูงของเจิ้งถงนั่งดื่มสุราด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เขาคอยจับสังเกตถึงสิ่งผิดปกติของคนในร้าน โดยเฉพาะบรรดาเสี่ยวเอ้อร์และคนดูแลโรงเตี๊ยม อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาได้ออกติดตามหาร่องรอยผู้คุ้มกัน และศิษย์พรรคโลกันต์ กว่าจะกลับไปยังค่ายทหาร เรื่องมากมายก็เกิดขึ้นก่อนแล้ว

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่1. ติดตาม

    โรงเตี๊ยมเซียนอี้ ณ ห้องหนังสือส่วนตัวของโม่ฟางเล่อ“ฮา ๆ ๆ ข้านึกว่าพวกเจ้าจะลุกไม่ขึ้นเสียอีก ศึกเมื่อคืนหนักมากหรือเจี๋ย พวกเจ้าถึงได้ตื่นเอาป่านนี้”โม่หยวนฟางพูดไป ดวงตาก็จับจ้องใบหน้าแดงก่ำของฟางเล่อและถงเหยียนเจี๋ย ด้วยใบหน้าซับสีเลือดของทั้งคู่ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หลังจากปรับความเข้าใจกับเมี่ยวจ้านเรื่องความเข้าใจผิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่เขาและหญิงสาวจะเข้ามารวมตัวกันกับน้องสาวและสหายรักภายในห้องนี้ ชายหนุ่มขบขันกับท่าทางของทั้งคู่ที่เอาแต่ก้มหน้ามองถ้วยชา“เจ้าคิดถึงไหนกัน หยวนฟาง”ถงเหยียนเจี๋ยเองก็ไม่คิดว่าเขาและภรรยาจะตื่นสายถึงเพียงนี้จนเป็นที่ล้อเลียนของคนรอบข้าง นี่ยังเหลืออีกสองคนซึ่งยังมิกลับจากไปทำภารกิจยังค่ายทหาร เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า หากพี่ใหญ่ของสกุลโม่กลับมาคงมิแคล้วต้องมีคำพูดล้อเลียน ไม่ต่างจากคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามในตอนนี้อย่างแน่นอน ทว่า…“น้องรัก…พวกเจ้ากำลังนินทาพี่ชายผู้นี้อยู่รึ หืม!”‘เสียงมาก่อนตัวเสียอีก’ ฟางเล่อบ่นอยู่ในใจ นางมิเคยพบญาติผู้พี่มาก่อน ดีที่โม่หยวนฟางได้บอกนางก่อนแล้วเมื่อครู่ ว่านางนั้นยังมีพี่ชายอีกคนซึ่งโม่ไป๋หลานตัวจริงน

DMCA.com Protection Status