Share

ตอนที่4. ไล่ล่า

last update Last Updated: 2024-12-17 23:34:50

เจ็ดวันต่อมา ถนนมุ่งสู่ด่านชายแดน ชีเป่ย-จิ้งหนาน

รถม้ากำลังเร่งความเร็วสุดฝีเท้าเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่างอยู่ และใช่ มันคือการหนีจากกลุ่มคนที่ห้อม้าตามมาติด ๆ โดยทหารของกองทัพเจียงไห่นำโดยแม่ทัพหนุ่ม หยางซานหลาง

เนื่องจากชายหนุ่มได้รับข่าวจากสายรายงาน ว่าหลิวเจินเจินพร้อมหลักฐานสำคัญกำลังจะข้ามชายแดนในวันนี้ เขาจึงได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้ออกติดตามช่วงชิงหลักฐานกลับมาให้ได้ พร้อมกำชับให้จัดการกับมารดาเลี้ยง อย่าให้เกิดปัญหาตามมาในภายภาคหน้า

ด้วยใจที่รักในมารดาผู้เลี้ยงดู เขาจึงได้ขออาสารับหน้าที่นี้ด้วยตนเอง แทนที่จะเป็นคนของบิดาหรือเจิ้งถง หยางซานหลางมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ แม้ความเป็นไปได้จะน้อยนิดก็ตาม เขาจะไม่มีวันทำร้ายมารดาอย่างหลิวเจินเจินเป็นอันขาด 

‘ถึงข้าจะชั่วช้าเพียงใด แต่จะไม่ลงมือต่อผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้ข้าดื่มเป็นอันขาด’

หยางซานหลางควบม้าจนสุดฝีเท้า เมื่อมองเห็นรถม้าอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากฝุ่นดินจางลงบ้างแล้ว 

“ยะ!” 

ทุกคนต่างกระตุ้นม้า ไล่กวดคนที่กำลังหนีให้ทัน เพราะรถม้านั่น…ข้ามชายแดนไปได้ ทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน

“ข้าหวังว่าท่านแม่ทัพจะรู้จักหน้าที่” คนสนิทของหยางซานซินเอ่ย

“อย่าได้บังอาจถามข้า” หยางซานหลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ และไม่แม้แต่จะชำเลืองมองคนที่ควบม้าตีเสมอขึ้นมาอยู่ข้างกาย

ทางด้านหมิงจงเป่าเร่งม้าให้เร็วขึ้นอีก ส่วนคนที่นั่งอยู่ภายในรถม้ามิได้พากันหวาดกลัวต่อภัยที่กำลังมาถึงตัวสักนิด 

หลิวเจินเจินรู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าคนที่ตามล่านางคือบุตรชายซึ่งนางเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดด้วยสองมือ นางไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้น เมื่อต้องทำร้ายชายหนุ่มที่นางรักดั่งบุตรในอุทร หากพวกนางไม่รีบลงมือเสียแต่ตอนนี้ ไม่ช้าคงต้องกลายเป็นเพียงเบี้ยในกระดานจนกลายเป็นศึกรอบด้านก็เป็นได้ นางจำต้องร่วมแผนการตัดกำลังของฝ่ายกบฏซึ่งมีอดีตสามีและบุตรชายร่วมอยู่ในฝ่ายตรงข้ามกับนาง

ทุกอย่างมิอาจรั้งรอได้เหมือนที่คิดในคราแรก ว่าควรจะรอเวลาเหมาะสมที่ค่อยลงมือ แต่อดีตสามีกลับไม่คิดละเว้นชีวิตนางและบุตรสาว เมื่ออีกฝ่ายมิเมตตาต่อนาง เช่นนั้นจำเป็นด้วยหรือที่จะยอมถูกกระทำอยู่เพียงฝ่ายเดียว

“เมี่ยวเอ๋อร์ มิว่าอย่างไรวันนี้ เจ้าห้ามห่วงแม่มากกว่าตนเองเข้าใจหรือไม่ สำหรับแม่นั้นเสมือนใบไม้ที่ใกล้ปลิดปลิว ส่วนลูกนั้นเปรียบดั่งดอกไม้แรกแย้ม อย่าเลือกที่จะเสียสละตนเอง โดยทำร้ายใจคนแก่เช่นแม่ รู้ไหม”

หลิวเจินเจินกำชับบุตรสาว เพราะเกรงว่าหากเมี่ยวจ้านมัวแต่ห่วงนางอาจพลาดพลั้งถึงชีวิตเอาได้ แม้แต่บาดเจ็บ นางก็ไม่อยากให้เกิดแก่บุตรสาวเพียงคนเดียว

“ท่านแม่อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ แค่ไม่กี่คน ข้ากับท่านอาหมิงรับมือไหวอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

หญิงสาวตอบยิ้ม ๆ นางไม่มั่นใจนัก แต่มิอยากให้ผู้เป็นแม่ต้องเป็นกังวลเท่านั้นเอง นางคือนักรบ ไม่เคยคิดที่จะประมาทศัตรู การที่อีกฝ่ายกล้าตามไล่ล่าพวกนาง นั่นเท่ากับว่าอีกฝ่ายก็ต้องมิใช่ธรรมดาเช่นกัน พี่ชายของนางเป็นถึงแม่ทัพ ฝีมือย่อมต้องสูงส่ง ในความดุดันย่อมต้องมีสมองที่ชาญฉลาดในการเอาชนะคู่ต่อสู้ มิเช่นนั้น คนอย่างหยางซานหลางคงไม่ยืนอยู่บนจุดนี้ได้นานถึงเพียงนี้เป็นแน่

“แม่ขอโทษ…ที่ทำให้ลูกต้องทำร้ายกันเอง” หลิวเจินเจินบีบเบา ๆ ที่มือของบุตรสาว

“ท่านแม่! มิว่าอย่างไร ข้าก็พร้อมที่จะป้องป้องท่านแม่นะเจ้าคะ” เมี่ยวจ้านเอ่ยเบา ๆ พร้อมระบายยิ้มงามทั่วใบหน้าทำให้หลิวเจินเจินอดอมยิ้มตามมิได้

ด้วยแผนการครั้งนี้ของฟางเล่อ ทั้งหมดเพียงเพื่อแยกสองพ่อลูกสกุลหยางออกจากกันเท่านั้น เพราะจะทำให้ทุกฝ่ายดำเนินตามแผนได้อย่างราบลื่น อย่างไรเสียวันนี้ บรรดาจิ้งจอกทั้งหลายคงได้พากันโผล่หางออกมาอวดโฉมเป็นว่าเล่น 

คนที่เดินทางมาอย่างลับ ๆ ตอนนี้อยู่ที่พรรคเมฆาทมิฬโดยมีหรู่อี้เป็นผู้ส่งข่าวมาให้ หลังจากคนสนิทของท่านหญิงโม่ได้แฝงตัวเข้าไปกับคณะของกลุ่มคนต้องสงสัย โดยมีหมิงจงเป่าเป็นผู้จัดการให้หญิงสาวปลอมตัวเข้าร่วมในคณะได้อย่างแนบเนียน 

แม้คนส่งข่าวของหมิงจงเป่ามิอาจระบุตัวผู้นำของฝ่ายนั้นได้ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าคณะเดินทางใดคือกลุ่มกบฏจึงง่ายต่อการส่งหรู่อี้เข้าไปปะปนแฝงตัวในคณะเดินทาง จนตอนนี้ หญิงสาวได้เข้าไปอยู่ในพรรคมารคอยสืบหาข่าว

ส่วนขุนนางที่ร่วมมือกับสกุลหยางนั้นก็มาถึงยังค่ายทหารแล้วเช่นกัน หากพวกเขาปะทะซึ่ง ๆ หน้าฝ่ายตนย่อมลำบากด้วยกำลังคนที่จำนวนน้อยกว่า แต่หากจะเอาชนะได้โดยเสียเลือดเนื้อน้อยที่สุดก็จำต้องกำจัดผู้บงการไปทีละคน 

‘ในเมื่อเป็นคนดีแล้วยังถูกทรยศหักหลัง ไยพวกเขาจะทำตัวเยี่ยงโจรร้าย หรือนักฆ่าบ้างไม่ได้เล่า’ 

นั่นคือคำพูดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะออกมาจากปากของท่านหญิงผู้เคยอ่อนโยนประดุจดอกไม้กลีบบาง แต่ไฉนนางกลับกลายเป็นดั่งพยัคฆ์ร้ายที่คอยซุ่มตะครุบเหยื่ออย่างชาญฉลาด เสมือนท่านหญิงโม่มิใช่คนเดิม

ฟิ้ว! ฉึก ๆ 

สองแม่ลูกยังคงนั่งนิ่งอยู่ภายในรถม้า แม้จะถูกโจมตีมาแล้วก็ตาม 

ฮี้ ๆ 

สองขาหน้าของม้ายกขึ้นสูงเมื่อด้านหน้าถูกขวางทางอย่างกะทันหัน หมิงจงเป่ายังมีสติมากพอ ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเขาก็สามารถทำให้ม้าสงบลงได้ พอ ๆ กับทุกสิ่งรอบกายหยุดนิ่ง รวมถึงศัตรูที่ประกบหน้าหลัง โดยมีรถม้าจอดนิ่งอยู่ระหว่างกลาง

หญิงสาวในชุดสีฟ้าอ่อนนั่งอยู่บนหลังม้า นำกลุ่มชายฉกรรจ์หลายสิบคนขวางทางอยู่ ด้านหลังคือชายหนุ่มรูปงามที่คนทั่วแคว้นรู้จักดี เขาคือแม่ทัพหนุ่มผู้เกรียงไกร แต่มีจิตใจมิสะอาดเช่นหน้าตา แม่ทัพหยางซานหลางในวันนี้กลับสวมหน้ากากไว้ครึ่งซีกซ้าย เพื่อปกปิดรอยแผลที่ยังไม่หายดีจากการถูกผีอดีตภรรยาหลอกหลอน

หมิงจงเป่ายังคงนั่งนิ่งประจำที่ผู้บังคับม้า ดวงตาจ้องเขม็งไปยังด้านหน้า รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้นทีละน้อยทำให้ใบหน้าของชายวัยกลางคนน่ามองยิ่งนัก หากเวลานี้อยู่ในวงล้อมของสตรี เขาคงรู้สึกดีกว่านี้ แต่ตอนนี้อยู่ในวงล้อมของเด็กเลือดร้อนทำให้เขาอนาถใจที่ต้องสังหารหนุ่มสาวพวกนี้

นางมารน้อยที่เมื่อสองปีก่อนเขาเคยไว้ชีวิต แต่เมื่อไม่ยอมจะกลับใจ วันนี้ เขาคงมิจำต้องยั้งมือหรือปล่อยไปเช่นในอดีตอีกแล้ว หากมิตัดรากถอนโคนเสียในตอนนี้ สักวันก็จะกลับมาแว้งกัดพวกเขาอีกอยู่ดี

“ท่านแม่! ออกมาพูดคุย…กับบุตรชายผู้นี้สักคำเถิด”

คำพูดของชายหนุ่มมีติดขัดบ้างเล็กน้อย มือของแม่ทัพหนุ่มสั่น

น้อย ๆ ศัตรูมากมายเขาไม่เคยหวั่นเกรง แต่สตรีในรถม้าคือคนที่ป้อนนมในอกให้เขาดื่มกิน

“ท่านแม่ทัพ” 

หนึ่งในคนสนิทของหยางซานซินเอ่ยเสียงเรียบ เขาได้รับคำสั่งให้คอยจับสังเกตชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในภารกิจนี้

“ข้ารู้แล้ว!” 

หยางซานหลางชำเลืองมองคนด้านข้างด้วยความขัดเคือง แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เพราะเขารู้ดีว่างานนี้บิดามิได้วางใจเขานัก ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งคนสนิทตามประกบเขาเช่นนี้ แผนการของเขาคงต้องลำบากมิน้อย หากคนสนิทของบิดายังอยู่ข้างกายเช่นนี้

Related chapters

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่5.ทั้งที่ใจนั้น...

    “ท่านแม่! ได้โปรดออกมาตกลงกับลูกจะดีกว่านะขอรับ” หยางซานหลางยังคงเรียกหลิวเจินเจินว่าแม่ ทั้งที่ใจนั้นสับสนอยู่มิน้อย ไม่ใช่มารดาผู้นี้ไม่ดี แต่เป็นตัวเขาที่ไม่คู่ควรจะเรียกสตรีแสนดีว่าแม่คนสนิทของหยางซานซิน พยายามที่จะคาดเดาความคิดของชายหนุ่ม หากแผนการต้องพังลงเพราะความใจอ่อนของหยางซานหลาง เขาก็คงต้องกำจัดเสียให้สิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพ ตามคำสั่งของนายใหญ่ซึ่งจะปล่อยให้ทุกอย่างเสียหายไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตามที เขาได้รับคำสั่งจากนายใหญ่มาโดยตรง ดังนั้น หยางซานซินก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านหากเขาจะลงมือกำจัดบุตรชายของแม่ทัพใหญ่สกุลหยาง“หยางซานหลาง…เสียแรงที่ข้าอบรมสั่งสอนเจ้ามาแต่เยาว์วัย ไยถึงมิเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสมองของเจ้าสักนิด เหตุใดเจ้าไม่รู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดถูกผิดกันเล่า” หลิวเจินเจินยังคงนั่งอยู่ภายในรถม้าทำเพียงส่งเสียงตอบโต้ชายหนุ่มออกมาเท่านั้นหยางซานหลางได้แต่กัดฟันด้วยความเจ็บแปลบในหัวใจ ไยเขามิรู้ถูกผิด แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจผู้ใดด้วยเช่นกันจึงเลือกที่จะอยู่ข้างบิดาซึ่งคอยบอกเขาเสมอว่า แผ่นดินชีเป่ยถูกสกุลโม่แย่งชิงไป แม้วันนี้ เขา

    Last Updated : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่ 6. ไยต้องเป็นเช่นนี้

    หมิงจงเป่ายืนส่งยิ้มซึ่งเขาคิดว่าหวานที่สุดให้แก่หญิงสาว เจอกันครั้งนี้ นางช่างอัปลักษณ์ยิ่งนักจีกวานฮวาเพิ่งรู้สึกได้ว่าผ้าที่นางคลุมปิดบังใบหน้าได้ไปอยู่ในมือของอีกฝ่ายเสียแล้ว‘เป็นไปไม่ได้ อะไรจะเร็วปานนั้น’ หญิงสาวรีบพุ่งตรงเข้าใส่ชายตรงหน้าในทันใดส่วนทหารติดตามได้พากันเข้าล้อมรอบรถม้า ทุกคนต่างกระชับอาวุธเอาไว้แน่น เตรียมพร้อมรับมือกับคนด้านใน ไม่มีใครมิรู้จักหลิวเจินเจิน ฝีมือนางร้ายกาจสมกับเป็นบุตรสาวแม่ทัพ แม้วัยของอดีตฮูหยินสกุลหยางจะล่วงเลยมามากแล้วก็ตามที พวกเขามั่นใจว่านางยังคงมีเขี้ยวเล็บแหลมคมเช่นเดิมมิเปลี่ยนไปแน่นอนกระบี่หลายเล่มแทงจากรอบทิศทางเข้าไปภายในรถม้า ปัง! ชิ้นส่วนของตัวรถแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยพลังอันสูงส่ง สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้น มิใช่หลิวเจินเจินแต่เพียงผู้เดียว กลับมีหญิงสาวอีกคนยืนเคียงข้างนางอยู่ด้วยทุกอย่างตกอยู่ภายใต้สายตาของหยางซานหลาง ร่างบางในชุดสีขาวคุ้นตาทำให้ชายหนุ่มเสียสมาธิไปบ้างเมี่ยวจ้านถอยกลับไปยืนเคียงข้างมารดาและหญิงสาวอีกคน แค้นนี้มิใช่ของนางแต่ผู้เดียว หากจะลงมือจริง ๆ นางต้องการชีวิตหยางซานชินมากกว่าผู้ใดฟางเล่อค่อย ๆ หมุนกายเพื

    Last Updated : 2024-12-21
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่7.เพิ่งรู้สึกได้ว่า

    “จะ…เจ้ายังคิดว่าตัวเองเหนือกว่าข้าอยู่อีกหรือ ซานหลางเลือกข้า เจินเจิน ไม่ใช่เจ้า เช่นนั้นแล้ว เขาจะตามมาฆ่าเจ้าเพื่อข้าทำไม”ทุกถ้อยคำของหลิวเมิ่งชีนั้นเหมือนมีดที่หมายกรีดกลางใจของอีกฝ่าย แต่หลิวเจินเจินกลับนิ่งเฉยต่อคำเหล่านั้น เพราะนางรู้ดีแก่ใจว่าบุตรชายเลือกใคร‘เขาคือลูกชายข้าเมิ่งชี ต่อให้เขาลงมือกับข้า ใจของซานหลางก็มีแต่ข้าที่เป็นมารดาของเขา ข้าเชื่อเช่นนั้น’“แล้วเราจะได้รู้กัน ท่านพี่”หลิวเมิ่งชีกำอาวุธเอาไว้แน่น ฝีมือนางมิเป็นรองหลิวเจินเจินแม้แต่น้อย และวันนี้ นางจะพิสูจน์ให้ทุกคนประจักษ์แก่สายตา ว่านางคือสตรีที่เพียบพร้อมทั้งอำนาจ หน้าตา และฝีมือ มิใช่หลิวเจินเจินที่มีแต่ผู้คนยกย่องสรรเสริญว่าสตรีเหนือสตรี เป็นรองเพียงฮองเฮาของแคว้น สิ่งใดที่คนอย่างหลิวเมิ่งชีต้องการ มิมีคำว่าไม่ได้“ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่กับลูกสาวของเจ้าเองน้องพี่”“มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือพี่สาวข้า ว่าบุตรสาวข้าตายแล้ว บ่าวที่ภักดีของข้าก็มากมาย มีหรือพวกเขาจะปล่อยให้ลูกข้าตาย”หลิวเจินเจินหันใบหน้าไปด้านข้างเล็กน้อย ก่อนจะปรายตาไปยังหญิงสาวอีกคนที่กำลังสะบัดแส้ไปมาอย่างดุดัน ต่อกรอยู่ในวงล้อมของเหล่าทหารกบ

    Last Updated : 2024-12-21
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่8. ไม่มีวัน

    “เจ้าไม่มีวันได้ครอบครองใจของซานชิน ใจของเขาเป็นของข้าแต่ผู้เดียว เจินเจิน” ทุกคำพูดที่หลุดออกมาจากปากนั้น เลือดสีแดงฉานทะลักออกมาพร้อม ๆ กันเสมอ“ใจที่สกปรกเช่นนั้น ข้าไม่ต้องการเอามาแปดเปื้อนหัวใจของข้าแม้แต่น้อย บอกเขาเก็บมันไว้ให้ดี เพราะข้าจะควักมันออกมา เหยียบให้จมลงไปในแผ่นดินให้หมดสิ้น”ทุกคำพูดของหลิวเจินเจิน มันดูเลือดเย็นไร้ซึ่งความอาลัย ในตัวของหยางซานซินนัก ไม่เว้นแม้แต่แววตาที่ไร้ความรู้สึกของนาง“เจ้ามัน…เป็นได้แค่...ดอกไม้ไร้ค่า เจินเจิน…อึก!”ดวงตาของหลิงเมิ่งชี มองเลยไปยังชายหนุ่มซึ่งอยู่ห่างจากนางไปพอสมควร หยางซานหลางยังไม่ทันเห็นว่าตอนนี้ นางกำลังจะสิ้นใจในมิช้า สักคำที่นางอยากได้ยินจากปากของชายหนุ่มคือ‘เรียกข้าว่าแม่…ได้หรือไม่ซานหลาง’ นางทำได้แต่เพียงคิดเท่านั้นหลิวเจินเจิน แม้จะสงสารญาติผู้พี่จับใจ แต่ไม่คิดใจอ่อนให้คนที่ขึ้นชื่อว่าศัตรูได้“ข้าหรือท่านกันแน่…พี่ข้า!”เรียวปากบางเหยียดยิ้มหยัน ก่อนจะใช้ฝ่ามือกระแทกเข้ายังด้ามกระบี่ ร่างบางของหลิวเมิ่งชีถอยหลังไปตามแรงนั้นโดยมิอาจขัดขืนอันใดได้ปึก! หลังของสนมงามกระแทกกับต้นไม้ โดยมีกระบี่ของหลิวเจินเจินแทงทะล

    Last Updated : 2024-12-21
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่9. โลกที่นางจากมา

    ดังนั้น เมื่อมีโอกาสถ่ายทอดวิชาแก่ศิษย์รักไม่ว่าจะมากน้อย เขาจะไม่ยอมให้สูญเสียโอกาสเป็นอันขาด ส่วนเจิ้งถงจะฉวยเรียนรู้ไปด้วยหรือไม่นั้น เขามิคิดสนใจ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่อาจฝึกฝนไปทั้ง ๆ ที่ต่อสู้กับเขาได้อยู่แล้วเป็นอย่างที่หมิงจงเป่าคิดไม่มีผิด เมื่อฟางเล่อใช้สายตาที่ว่องไว ดูการเคลื่อนไหวของผู้เป็นอาจารย์ โดยร่างกายของนางนั้นขยับก้าวตามเสมือนการร่ายรำตามผู้นำการเต้นที่มีการแปรขบวนท่าอยู่อย่างต่อเนื่อง ครั้งแรก นางไม่ได้สนใจอะไรนอกจากจดจ่อกับการต่อสู้ แต่พอมีผู้มาใหม่ซึ่งทำให้อาจารย์ของนางหัวเราะเสียงดัง จากนั้นทุกการเคลื่อนไหว ตกอยู่ภายใต้สายตาของนาง และใช้ทุกกระบวนท่าที่จดจำได้มาตั้งรับและรุกคู่ต่อสู้ มันทำให้นางดูเหมือนจะได้เปรียบจีกวานฮวาขึ้นมาบ้างแล้วหากเป็นในโลกที่นางจากมา นับว่าสายตาของนางคืออัจฉริยะที่ว่องไวจนนางเองยังไม่อยากจะเชื่อ ความจำนั้นยิ่งเป็นเลิศกว่าแต่ก่อนมากนัก นางจำทุกถ้อยคำของท่านอาจารย์ได้ดี มิมีลืมเลือน‘เล่อเล่อรู้ไหมนอกจากฝ่ามือโลกันต์แล้ว เพราะอะไรคนถึงอยากครอบครองไข่มุก จำไว้ให้ดีว่าไข่มุกโลกันต์ทำให้เจ้ามีสายตาที่ดี สมองที่ดี มันคือสมบัติที่ล้ำค่ากว่าสิ

    Last Updated : 2024-12-21
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่10. แย่งชิงทุกอย่างมา

    หยางซานหลางเกิดความอิจฉานางอย่างนั้นหรือ ไยเขาถึงกล่าวหาว่านางแย่งชิงทุกอย่างมา ทั้ง ๆ ที่ตัวนางเองนั้นมิเคยได้รับอะไรเลย แม้แต่น้ำนมมารดาสักหยด อ้อมกอดจากบิดาแท้จริงสักครั้งยังไม่เคย แล้วเหตุใดกัน หยางซานหลางจึงมากล่าวหาว่านางแย่งชิงทุกอย่างมาจากเขาเล่าน้ำตาของมารดาทั้งสองต่างไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน หลิวเมิ่งชีต้องการได้ยินคำเรียกขานว่า ‘แม่’ สักครั้งจากปากของชายหนุ่ม ก่อนที่นางจะไม่มีโอกาสได้ฟังมันอีกชั่วชีวิต ตัวนางคงมิอาจทนต่อบาดแผลนี้ได้นานเท่าใดนัก“เมตตาแม่สักครั้งเถิดลูกรัก เป็นแม่เองใช่หรือไม่ที่ทำร้ายเจ้า”หลิวเมิ่งชีได้แต่รำพึงรำพันกับตนเองเบา ๆ ด้วยหัวใจที่สิ้นหวังเต็มทีแล้ว เสียใจตอนนี้ก็สายเกินกว่าที่จะกลับไปแก้ไขได้แล้ว หากนางปล่อยให้บุตรชายไม่รู้ความจริงเรื่องชาติกำเนิด ทุกอย่างคงมิเลวร้ายเช่นนี้ก็เป็นได้ หากนางยอมปล่อยหลิวเจินเจินไปเสีย ซานหลางคงมิเจ็บปวดถึงเพียงนี้ส่วนหลิวเจินเจินนั้นนึกโทษตนเองที่ไร้ความสามารถในการอบรมบุตรชายให้เป็นคนดีได้ เสมือนนางผู้เป็นแม่นั้นบกพร่องในหน้าที่ยิ่งนัก ไหนจะเวลานี้ พี่น้องต้องมาเข่นฆ่ากันเอง สวรรค์ช่างโหดร้ายกับนางอะไร

    Last Updated : 2024-12-21
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่11.ไม่จริง!

    “ไม่เลยลูกรัก…แม่ไม่เคยทำเช่นนั้นกับเจ้า” หลิวเมิ่งชีละล่ำละลักแก้ตัวด้วยใบหน้าตื่นตกใจ นางมิเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าบุตรชายจะพูดออกมาเช่นนี้“ซานหลาง! ลูกรู้แก่ใจว่าแม่เป็นเช่นไร” หลิวเจินเจินไม่มีคำแก้ ตัวเพื่อให้ตนเองดูดีเหนือญาติผู้พี่ แต่ใช้ความเป็นจริงในอดีตที่ผ่านมาเป็นตัววัดค่าของตนเองหยางซานหลางดวงตาแดงก่ำด้วยหัวใจอันแหลกสลาย เขาจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อมารดาที่แท้จริงกำลังมองมาด้วยดวงตาที่แสนรักใคร่เขาผู้เป็นบุตร แต่คนที่อยู่ในอ้อมแขนคือผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้เขาดื่มกินมาจนเติบใหญ่ ความสำนึกผิดชอบชั่วดีกำลังฆ่าชายหนุ่มโดยมิรู้ตัวร่างแกร่งสั่นสะท้านจนหลิวเจินเจินรับรู้ได้ มืออุ่นยกขึ้นลูบแขนบุตรชาย พร้อมซบหน้าลงยังท่อนแขนแกร่งที่พาดผ่านช่วงใต้ลำคอตน พร้อมน้ำตาไหลรินออกมา ด้วยความรักของมารดามีต่อบุตรทำให้ใจที่กำลังหมดสิ้นทุกอย่างปวดร้าวจนแทบไร้เรี่ยวแรงจะยืนต่อ“แม่มิโทษเจ้าลูกรัก ลงมือเถิด…แม่ยอมสิ้นใจด้วยมือเจ้า ซานหลาง แต่จะไม่ยอมให้เจ้าสองพี่น้องต้องมาเข่นฆ่ากันต่อหน้าแม่เช่นนี้อีก”ดวงตาคู่งามหลับลงอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอนศีรษะไปพิงช่วงอกแกร่งของชายหนุ่ม หยางซานหลางกัดฟันจนแทบละเ

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่12.หัวใจของนาง

    ทว่าอยู่ ๆ ลูกศรลึกลับก็พุ่งตรงมา โดยเป้าหมายก็คงไม่พ้นหัวใจของนาง แต่เพียงเสี้ยววินาทีนั้น นางกลับล้มลง และเมื่อหันกลับไปด้านหลังเท่านั้น ใจของนางก็แทบแหลกสลาย หยางซานหลางหมุนกายเข้ารับลูกธนูแทนผู้เป็นแม่ พร้อมกับผลักนางออกให้พ้นอันตราย เพราะการต่อสู้มีอยู่รอบด้านย่อมเป็นใครก็ได้ที่ลงมือชายหนุ่มกลับที่เลือกรักษาชีวิตนางเอาไว้ แทนที่เขาจะรักษาชีวิตตนเองเสียมากกว่าทั้งที่มีโอกาสอยู่มากมาย ทั้งรอยยิ้มและดวงตาเปี่ยมรักของบุตรชายส่งมาให้ก่อนร่างสูงจะล้มลง มันช่างดูมีค่ากว่าทองพันชั่งก็มิปาน“ท่านแม่! อึก! ข้าขอโทษที่มิอาจเลือกได้”ใบหน้าที่แนบอยู่กับอกของมารดา เงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาเศร้าสร้อย เลือดไหลทะลักออกมาจากริมฝีปากหนาได้รูป น้ำตาเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้า ลมหายใจที่มีเสียงดังครืดคราด บอกถึงอาการของผู้เป็นเจ้าของกายได้อย่างชัดเจน หยางซานหลางยิ้มอย่างอ่อนแรงกับชะตากรรมของตนเอง“ซานหลาง! แม่จะช่วยเจ้าเองลูกรัก ทำใจดี ๆ เอาไว้นะ แม่จะไม่ยอมเสียเจ้าไปเป็นอันขาด” หลิวเจินเจินละล่ำละลักบอกบุตรชาย ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมทั้งพยายามกล้ำกลืนก้อนแข็ง ๆ ที่จุกอยู่ตรงลำคอหลิวเจินเจินใช้มืออั

    Last Updated : 2024-12-22

Latest chapter

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่74.นางมีดีกว่านั้น

    ภายในจวนสกุลเชี่ยดูจะสงบเงียบกว่าที่เคย แต่ถึงกระนั้นก็มิใช่เรื่องที่คนภายนอกจะรับรู้ได้ เจ้าของบ้านสองสามีภรรยากำลังดื่มด่ำกับการจิบชาชั้นยอด พร้อมการสนทนากันตามประสา ซึ่งทำให้แขกผู้มาเยือนถึงกับส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับลีลาการเฝ้ารอศัตรูของคนสกุลใหญ่ หากนางปรากฏกายต่อหน้าทั้งสองคนนั้น เพียงครู่คงมีทหารในจวนโผล่ออกมาล้อมรอบ‘หึ ๆ’ นางมีดีกว่านั้น“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เงียบ ๆ มันดูมิตื่นเต้นเท่าใดนัก พวกเจ้าช่วยปลุกพวกเขาให้ตื่นกันเลยจะดีกว่า”จบคำพูดจากการแฝงตัวในเงามืด เพื่อเฝ้ารอเวลาลงมือ กลับเปลี่ยนเป็นการลงมืออย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำวางกำลังไว้อีกชั้นเพื่อการเก็บกวาด“อ๊ากก!”เพียงครึ่งก้านธูป เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็เกิดขึ้น ทหารในจวนแท้จริงคือนักฆ่ารับจ้าง ทว่า จอมโจรผู้บุกรุกก็คือกลุ่มมือสังหารชั้นยอดเช่นกัน การมาปล้นในครั้งนี้ ผู้นำมิคิดที่จะนำคนมาเพียงหยิบมือเสียเมื่อไหร่กัน การจบหมากกระดานเล็กให้สิ้นซากก็คือทุบกระดานหมากให้แหลกคามือเท่านั้น“มิต้องเชิญข้า ใต้เท้าเชี่ย ฮูหยินเชี่ย ข้าดื่มกินมาอิ่มหนำสำราญมาจากบ้านแล้ว”“กำแหงนัก กล้าบุกรุกบ้านขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ช่างรนหาที่ตายโดยแท

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่73.ยามค่ำคืน

    “พวกเจ้ามันปีศาจ คนสกุลโม่ช่างไร้ความเมตตา ข้ามิทัน...อัก!”พูดได้เพียงเท่านั้น ลำคอกลับมีเลือดพุ่งออกมามากมาย โดยมิได้ถูกตัวหยวนฟางสักนิด ความเร็วดุจสายลมทำให้ร่างสูงออกมายืนอยู่ห่างพอสมควรโดยในมือมีบางสิ่งติดมาด้วย ก่อนที่ชายหนุ่มจะกางมือออก สิ่งนั้นจึงร่วงลงสู่พื้นดิน“คิดจะกลืนกินคนของข้า มิเจียมตน สกุลโม่หรือไร้เมตตา หึ! ไม่คิดบ้างหรือว่ากว่าจะทำให้แผ่นดินนี้เป็นปึกแผ่นได้ คนสกุลโม่ต้องแลกมาด้วยสิ่งใดบ้าง เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนทั้งแคว้นเอาไว้ ปู่ข้าต้องตายเพื่อปกป้องขอทานเพียงคนเดียว เพราะนั่นคือประชาชนของพระองค์ แล้วพวกเจ้าตายเพื่อปกป้องใครบ้าง”หนึ่งในคนร้ายถึงกับตาค้าง เพราะสิ่งที่ร่วงจากมือของโม่หยวนฟาง มันคือหลอดลมของชายชุดดำ คนร้ายที่ยังมีลมหายใจอยู่เพียงหนึ่งถึงกับตัวสั่นงันงก ด้วยความหวาดกลัว คนแรกว่าอำมหิตแล้ว แต่อ๋องน้อยผู้นี้มันปีศาจชัด ๆ ชายชุดดำขยับตัวหวังจะหลบหนีฉึก! ร่างสูงของคนร้ายทรุดลงกับพื้นก่อนจะทันได้ก้าวขา“คิดจะแทงข้างหลัง! คนเช่นโม่หยวนฟาง เจ้าควรคิดให้ดีก่อน”หากมีผู้ใดมาได้ยินคำพูดของโม่หยวนฟางคงอยากตายไปสักพันครั้ง คนร้ายคิดหนี แต่ท่านอ๋องน้อยกลับกล

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่72.เจ้ามันปีศาจ

    “จะบุรุษหรือสตรี หากรู้จักการพลิกแพลงสถานการณ์ มิใช่เรื่องยากที่จะคว้าชัยในสนามรบ อ๊ะ!”โม่ฟางเล่อหมุนกายออกห่างจากคู่ต่อสู้ เมื่อรับรู้ถึงการจู่โจมจากทางด้านหลัง แม้จะเพียงเฉียดผ่าน ทว่ากระบี่ของศัตรูก็ได้ดื่มเลือดของนางเสียแล้ว โม่ฟางเล่อกลับมิได้สนใจบาดแผล หญิงสาวรีบล้วงขวดหยกใบเล็กออกมาจากอก ก่อนจะรีบกลืนสิ่งที่อยู่ในขวดลงไปอย่างรวดเร็ว นางยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องพิษ แต่การป้องกันเอาไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ผู้เป็นอาจารย์คอยกำชับและย้ำเตือนนางอยู่บ่อยครั้ง“การที่มั่นใจเกินไป มันก็มิใช่สิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่รึท่านหญิงโม่ ฮา ๆ”“สุนัขก็ยังเป็นสุนัขอยู่วันยังค่ำ ต่อให้พยายามทำตัวดั่งราชสีห์ เจ้าก็มิอาจเป็นได้ดั่งใจหมาย”จากรอยยิ้มกลับกลายเป็นใบหน้าบึ้งตึงด้วยความขุ่นเคืองใจกับคำพูดของหญิงสาว“หลีกไป ข้าจะจัดการนางด้วยตนเอง”เชี่ยหยาโถวคว้าแขนของผู้คุ้มกันออกจากการบังเขาจากหญิงสาวตรงหน้า เขาถูกสตรีอ่อนแอหยามเกียรติจนไม่เหลือชิ้นดี อย่างไรเสียวันนี้ เขาจะพิสูจน์ให้นางได้เห็นว่าคำพูดพล่อย ๆ ของสตรีเช่นนางนั้นมิใช่ความจริง“มาจบเรื่องกันเถอะ คุณชาย อย่าถ่วงเวลาพวกข้าให้มากไปกว่านี้อีกเลย”มือบางใช

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่71. เพียงครู่เดียว

    คล้อยหลังโม่หยวนฟางไปเพียงครู่เดียว ร่างสูงของชายหนุ่มในชุดสีขาวได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของคนที่กำลังสั่นระริกไปทั้งร่างด้วยความรู้สึกอันหลากหลายที่ถาโถมเข้ามา เขาพ่ายแพ้ได้อย่างน่าอับอายเป็นที่สุด การต่อสู้เพียงแค่เวลาสั้น ๆ เขากลับกลายเป็นคนพิการ และรอเพียงเวลาถูกลงทัณฑ์จากผู้เป็นนายที่แท้จริง“หึ ๆ คนเก่งของท่านพ่อ ไยตอนนี้ถึงกลายมาเป็นเพียงคนไร้ค่าเช่นนี้ เจ้าก็ดีแต่ปาก หลงเป่า”“คนที่ดีแต่ปาก ข้าว่าน่าจะเป็นเจ้ามากกว่า หึ ๆ นึกว่าผู้ใดกัน แท้จริงก็เป็นคุณชายขี้โรคจากสกุลเชี่ยนี่เอง เชี่ยหยาโถว”ขวับ! ชายหนุ่มในชุดสีขาว หันกลับไปตามเสียงในทันที ทว่ากลับไร้วี่แววของเจ้าของเสียง ก่อนจะหันกลับมายังร่างของหลงเป่าที่ตอนนี้ถูกจับตัวเอาไว้โดยโม่หยวนฟาง“เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เห็นทีคงมิอาจปล่อยท่านอ๋องน้อยให้มีลมหายใจต่อไปไม่ได้แล้วสินะ”“ฮา ๆ ปล่อยให้ข้ามีลมหายใจรึ ช่างกล้าพูดนะ คุณชายเชี่ย เจ้าไม่ใช่ตั้งใจจะกำจัดข้าอยู่ก่อนแล้วหรืออย่างไรกัน คนที่ขี้ขลาดแท้จริงคือตัวเจ้า อย่าได้โทษใครอื่นอีกเลย”“อย่าพูดให้มากความท่านอ๋องน้อย ข้ามาถึงขนาดนี้ย่อมต้องมีของพิเศษรอต้อนรับท่านอ๋องอยู่ก่อนแล

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่70.อย่าแตกตื่นไป

    คนชุดดำไถลตัวลงมาจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว พร้อมกระบี่ยาวชี้ตรงสู่กลางศีรษะของเมี่ยวจ้าน แม้จะสวมหมวกเอาไว้ แต่ทว่า ประสาทสัมผัสของนางนั้นเป็นเลิศมิแพ้ฝีมือเลยแม้แต่น้อย แส้ทองถูกสะบัดฟาด ไปด้านบนศีรษะด้วยกำลังภายในอันมหาศาลร่างของชายชุดดำที่กำลังคิดจะปลิดชีวิตของหญิงสาว มิอาจหลบได้ทัน ด้วยความเร็วที่ไม่ทันได้คาดคิดว่าจะถูกตอบโต้อย่างกะทันหันเช่นนี้ สำหรับเมี่ยวจ้านแล้ว นางไม่จำเป็นต้องมองขึ้นไปเลยด้วยซ้ำตุบ! ร่างของคนร้ายตกกระแทกพื้น โดยที่ศีรษะตกกลิ้งหลุน ๆ ไปอีกทาง ตอนนี้ธนูถูกวางลง อาวุธประจำกายถูกนำออกมาใช้แทน ทุกอย่างต้องทำให้เร็ว ด้วยจำนวนคนของฝ่ายนางมีน้อยกว่า ดังนั้นจำต้องจบทุกอย่างให้เร็ว หากยืดเยื้อมากไปกว่านี้รังแต่จะเสียเปรียบมากกว่าจะคว้าชัยมาอย่างปลอดภัย“ท่านเมี่ยวจ้าน”“อย่าแตกตื่นไป ท่านพี่ม่อตู เมี่ยวจ้านมิใช่เด็กน้อยแล้วนะ”ฟึบ!ม่อตูสะบัดผ้าคลุมกันอาวุธลับเพื่อมิให้ต้องกายผู้เป็นนาย ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของนายสาวของตนเอง สำหรับเขาแล้ว องค์หญิงเมี่ยวจ้านคือน้องสาวตัวน้อยที่เขาเฝ้าปกป้องมานับตั้งแต่พบเจอกัน เมื่อนางยังเป็นเพียงทารกจนเติบโตขึ้นมาเป็นผู้

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่69.จบปัญหา

    ‘โดยเฉพาะเจ้า โม่หยวนฟาง ข้าจะต้องทำให้เจ้าก้มหัวแทบเท้าข้าให้จงได้’โม่หยวนฟางซึ่งเบนหัวม้าให้ตนเองถอยกับมารั้งท้ายทุกคน โดยมีคนสนิทเคียงข้างกายอยู่เพียงสองคน ทั้งสามไม่เอ่ยวาจาใด ๆ ต่อกันแม้แต่ครึ่งคำ ทว่าแค่เพียงสบตาพวกเขาก็รู้ดีว่าต้องทำสิ่งใดชายหนุ่มมั่นใจในตัวของสหายรักว่าจะปกป้องน้องสาวของเขาได้เป็นอย่างดี โม่ฟางเล่อเล่อทำสิ่งที่ควรได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะพลาดพลั้งก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือการระวังหลังซึ่งเขามั่นใจว่าสองสาวคงต้องการให้เป็นเขาที่ทำหน้าที่นี้แทนโม่หยวนฟางแอบชำเลืองมองไปยังคนรักของตนที่อยู่อีกฝั่งของถนน โดยมีองครักษ์คู่ใจของนางคอยประกอบข้างมิห่างกาย ชายหนุ่มทั้งห้าผู้มาจากจิ้งหนาน ซึ่งมีหัวหน้าองครักษ์ม่อตูเป็นผู้เอ่ยปากขอติดตามนายของตนมา มิเช่นนั้นจำต้องใช้อำนาจที่มีนำตัวหญิงสาวกลับสู่แคว้นในทันทีแต่ทว่าเวลาเช่นนี้ เขากลับรู้สึกอุ่นใจอย่างไรไม่รู้ที่มีคนคอยปกป้องนางเมื่อยามต้องเจอศึกที่มิอาจคาดเดาได้ว่าจะมีโอกาสรอดมากน้อยเพียงใด“ข้าอีกแล้ว ไยต้องมาลงที่ชายหนุ่มผู้น่ารักเช่นข้าตลอดเลย”เสมือนว่าคำพูดของโม่หยวนฟางเป็นการเปิดศึกในครั้งนี้ก็มิปาน เพียงจบคำพ

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่68.อีกเส้นทางสู่เมืองหลวง

    ส่วนด้านนอกรถม้า สองแม่ทัพสกุลหยางแทบไร้การพูดคุยกันเช่นในอดีต หยางซานซินยังคงทำตัวเป็นปกติ ทว่า สิ่งที่แตกต่างก็ฉายชัดออกมาอยู่นั่นเอง เมื่อเขาดูจะไม่ใยดีบุตรชายซึ่งอยู่บนหลังอาชาเคียงข้างเขาอยู่ในขณะนี้ฝั่งหยางซานหลางก็ไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย จากคนที่นิ่งขรึมมาตลอด บัดนี้เรียกได้ว่าตลอดทั้งร่างของชายหนุ่มนั้นปลดปล่อยแต่เพียงรังสีแห่งการฆ่าฟัน ซึ่งแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนหน้าที่ชายหนุ่มจะเก็บงำทุกอย่างเอาไว้ มิแสดงตัวตนของเขาออกมาให้ผู้อื่นได้รับรู้มากถึงเพียงนี้แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงของแม่ทัพทั้งสองจะสร้างความแปลกใจให้แก่ผู้ติดตามทั้งหมด ทว่าก็ไร้ซึ่งคำถามจากทุกคน เพราะถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้นำ“ซานหลาง เจ้าจงเว้นระยะห่างกับพระนางกุ้ยเฟยให้มากขึ้นอีกสักหน่อยก็ดีนะ”แม้จะเป็นคำพูดที่ดูเรียบง่าย แต่กลับแฝงความนัยที่ทำให้ผู้ฟังขุ่นเคืองใจอยู่มากทีเดียว หยางซานหลางชำเลืองมองผู้ที่บัดนี้เขาต้องเรียกว่าบิดาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองตรง ๆ ตามเส้นทางอันยาวเหยียดพร้อมรอยยิ้มยังมุมปาก“ขอรับท่านพ่อ แต่ถ้าจะให้ดี ท่านพ่อเองก็ควรระวังใจของตนเองเอาไว้ให้มากเช่นกัน

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่67. คำว่าแพ้

    ‘คำว่าแพ้มีให้แก่คนอ่อนแอเท่านั้น และมันมิใช่ข้า’“ทูลพระนางเต๋อเฟย ลู่กงกงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”กั๋วเต๋อเฟยเหลือบขึ้นมองคนสนิท ก่อนจะพยักหน้าให้กับอี้ถิง หญิงสาวย่อกายให้แก่ผู้เป็นนาย ก่อนจะหมุนกายออกไปยังห้องด้านนอก เพื่อทำตามประสงค์ของเจ้าของตำหนักเมื่อมีผู้มาเยือน การเดินหมากของนางก็จำต้องยุติลง มือวางสะบัดมือเพียงครั้ง ผ้าผืนบางที่วางอยู่บนโต๊ะได้ปลิวสะบัดก่อนจะคลุมลงยังกระดานหมากบนโต๊ะ เสมือนมีคนจับวางก็มิปาน ร่างระหงลุกขึ้นก้าวเดินออกไปยังห้องรับรองชั้นนอกลู่กงกงรีบโค้งกายลงต่ำ เมื่อเจ้าของตำหนักเดินนวยนาดออกมาจากหลังม่านไข่มุก“ลู่เฟย ถวายบังคมพระนางเต๋อเฟยพ่ะย่ะค่ะ”“ตามสบายลู่กงกง วันนี้มาพบข้า ท่านคงมีเรื่องสำคัญเป็นแน่ ว่ามาเถิด”“ทูลพระนาง กระหม่อมนำพระบัญชาของฝ่าบาทมาแจ้งแก่พระนางพ่ะย่ะค่ะ”“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งถึงข้ารึ”ใบหน้างามซับสีเลือดในทันที เมื่อนึกถึงบุรุษผู้องอาจผู้เป็นพระสวามีของนาง แม้ทรงมีพระชนม์มายุมากแล้ว ทว่ากลับยังคงความหล่อเหล่าเฉกเช่นวัยหนุ่มสาวก็มิปาน จากแต่เดิมที่นางท่องจำว่าเพราะหน้าที่กับการสมรสในต่างแดนครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่านางปรารถนาที่จะเคียงคู่

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่66. บุรุษในชุดมังกร

    วังหลวงบุรุษในชุดมังกรเดินวนไปมาเสมือนพยัคฆ์ติดบ่วง โดยมีร่างงามของสตรีในชุดสีแดงเพลิงปักลวดลายหงส์นั่งมองคนที่เดินไปมาด้วยความนึกขัน“จะทรงเดินอีกนานรึไม่เพคะ ฝ่าบาท”“จะให้ข้านิ่งนอนใจได้อย่างไรกันฮองเฮา ผู้อาวุโสมิรู้พากันสนุกสนานอยู่ที่ใดกัน ตอนนี้ กองทัพเคลื่อนพลสู่เมืองหลวงด้วยวิธีที่แยบยลนัก หึ ๆ เป็นข้าเอง ผิดที่ข้าฮองเฮา ข้าชักนำศึกเข้าเมืองเร็วเกินไป”ร่างสูงก้าวไปนั่งยังเก้าอี้ข้างฮองเฮา โดยที่พระนางยังคงสนใจในตำราหลังจากอีกฝ่ายนั่งลง“หากเป็นท่านผู้อาวุโสก็จะทำเช่นพระองค์เพคะ อย่าทรงโทษพระองค์เองไปเลยเพคะ ไม่ว่าอย่างไร คนพวกนั้นก็ต้องเคลื่อนไหวอยู่ดี การเดินเกมในบางครั้ง การปล่อยให้ศัตรูล่วงล้ำเข้ามาบ้างก็อาจเป็นผลดี”“ข้าไม่ถัดการวางแผนเช่นเจ้านี่ ภรรยาข้า หึ ๆ”“แต่ทรงเป็นนักรักที่เก่งกาจใช่ไหมเพคะ”“ฮา ๆ วางใจเถอะฮองเฮา จะไม่มีสตรีใดมาแทนที่เจ้าได้”เมื่อรู้ว่ามีผู้มาเยือนได้ก้าวเข้าสู่ห้องชั้นนอก สองสามีภรรยาจึงได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นหยอกล้อกันแทนห้องโถงรับรอง ตำหนักเหลียน“ลู่กงกง ท่านมาตามหาฝ่าบาทหรือเจ้าคะ”“เชียงเชียง เจ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก ฝ่าบาททรงมาแอบอยู่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status