แชร์

ตอนที่4. ไล่ล่า

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 23:34:50

เจ็ดวันต่อมา ถนนมุ่งสู่ด่านชายแดน ชีเป่ย-จิ้งหนาน

รถม้ากำลังเร่งความเร็วสุดฝีเท้าเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่างอยู่ และใช่ มันคือการหนีจากกลุ่มคนที่ห้อม้าตามมาติด ๆ โดยทหารของกองทัพเจียงไห่นำโดยแม่ทัพหนุ่ม หยางซานหลาง

เนื่องจากชายหนุ่มได้รับข่าวจากสายรายงาน ว่าหลิวเจินเจินพร้อมหลักฐานสำคัญกำลังจะข้ามชายแดนในวันนี้ เขาจึงได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้ออกติดตามช่วงชิงหลักฐานกลับมาให้ได้ พร้อมกำชับให้จัดการกับมารดาเลี้ยง อย่าให้เกิดปัญหาตามมาในภายภาคหน้า

ด้วยใจที่รักในมารดาผู้เลี้ยงดู เขาจึงได้ขออาสารับหน้าที่นี้ด้วยตนเอง แทนที่จะเป็นคนของบิดาหรือเจิ้งถง หยางซานหลางมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ แม้ความเป็นไปได้จะน้อยนิดก็ตาม เขาจะไม่มีวันทำร้ายมารดาอย่างหลิวเจินเจินเป็นอันขาด 

‘ถึงข้าจะชั่วช้าเพียงใด แต่จะไม่ลงมือต่อผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้ข้าดื่มเป็นอันขาด’

หยางซานหลางควบม้าจนสุดฝีเท้า เมื่อมองเห็นรถม้าอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากฝุ่นดินจางลงบ้างแล้ว 

“ยะ!” 

ทุกคนต่างกระตุ้นม้า ไล่กวดคนที่กำลังหนีให้ทัน เพราะรถม้านั่น…ข้ามชายแดนไปได้ ทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน

“ข้าหวังว่าท่านแม่ทัพจะรู้จักหน้าที่” คนสนิทของหยางซานซินเอ่ย

“อย่าได้บังอาจถามข้า” หยางซานหลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ และไม่แม้แต่จะชำเลืองมองคนที่ควบม้าตีเสมอขึ้นมาอยู่ข้างกาย

ทางด้านหมิงจงเป่าเร่งม้าให้เร็วขึ้นอีก ส่วนคนที่นั่งอยู่ภายในรถม้ามิได้พากันหวาดกลัวต่อภัยที่กำลังมาถึงตัวสักนิด 

หลิวเจินเจินรู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าคนที่ตามล่านางคือบุตรชายซึ่งนางเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดด้วยสองมือ นางไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้น เมื่อต้องทำร้ายชายหนุ่มที่นางรักดั่งบุตรในอุทร หากพวกนางไม่รีบลงมือเสียแต่ตอนนี้ ไม่ช้าคงต้องกลายเป็นเพียงเบี้ยในกระดานจนกลายเป็นศึกรอบด้านก็เป็นได้ นางจำต้องร่วมแผนการตัดกำลังของฝ่ายกบฏซึ่งมีอดีตสามีและบุตรชายร่วมอยู่ในฝ่ายตรงข้ามกับนาง

ทุกอย่างมิอาจรั้งรอได้เหมือนที่คิดในคราแรก ว่าควรจะรอเวลาเหมาะสมที่ค่อยลงมือ แต่อดีตสามีกลับไม่คิดละเว้นชีวิตนางและบุตรสาว เมื่ออีกฝ่ายมิเมตตาต่อนาง เช่นนั้นจำเป็นด้วยหรือที่จะยอมถูกกระทำอยู่เพียงฝ่ายเดียว

“เมี่ยวเอ๋อร์ มิว่าอย่างไรวันนี้ เจ้าห้ามห่วงแม่มากกว่าตนเองเข้าใจหรือไม่ สำหรับแม่นั้นเสมือนใบไม้ที่ใกล้ปลิดปลิว ส่วนลูกนั้นเปรียบดั่งดอกไม้แรกแย้ม อย่าเลือกที่จะเสียสละตนเอง โดยทำร้ายใจคนแก่เช่นแม่ รู้ไหม”

หลิวเจินเจินกำชับบุตรสาว เพราะเกรงว่าหากเมี่ยวจ้านมัวแต่ห่วงนางอาจพลาดพลั้งถึงชีวิตเอาได้ แม้แต่บาดเจ็บ นางก็ไม่อยากให้เกิดแก่บุตรสาวเพียงคนเดียว

“ท่านแม่อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ แค่ไม่กี่คน ข้ากับท่านอาหมิงรับมือไหวอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

หญิงสาวตอบยิ้ม ๆ นางไม่มั่นใจนัก แต่มิอยากให้ผู้เป็นแม่ต้องเป็นกังวลเท่านั้นเอง นางคือนักรบ ไม่เคยคิดที่จะประมาทศัตรู การที่อีกฝ่ายกล้าตามไล่ล่าพวกนาง นั่นเท่ากับว่าอีกฝ่ายก็ต้องมิใช่ธรรมดาเช่นกัน พี่ชายของนางเป็นถึงแม่ทัพ ฝีมือย่อมต้องสูงส่ง ในความดุดันย่อมต้องมีสมองที่ชาญฉลาดในการเอาชนะคู่ต่อสู้ มิเช่นนั้น คนอย่างหยางซานหลางคงไม่ยืนอยู่บนจุดนี้ได้นานถึงเพียงนี้เป็นแน่

“แม่ขอโทษ…ที่ทำให้ลูกต้องทำร้ายกันเอง” หลิวเจินเจินบีบเบา ๆ ที่มือของบุตรสาว

“ท่านแม่! มิว่าอย่างไร ข้าก็พร้อมที่จะป้องป้องท่านแม่นะเจ้าคะ” เมี่ยวจ้านเอ่ยเบา ๆ พร้อมระบายยิ้มงามทั่วใบหน้าทำให้หลิวเจินเจินอดอมยิ้มตามมิได้

ด้วยแผนการครั้งนี้ของฟางเล่อ ทั้งหมดเพียงเพื่อแยกสองพ่อลูกสกุลหยางออกจากกันเท่านั้น เพราะจะทำให้ทุกฝ่ายดำเนินตามแผนได้อย่างราบลื่น อย่างไรเสียวันนี้ บรรดาจิ้งจอกทั้งหลายคงได้พากันโผล่หางออกมาอวดโฉมเป็นว่าเล่น 

คนที่เดินทางมาอย่างลับ ๆ ตอนนี้อยู่ที่พรรคเมฆาทมิฬโดยมีหรู่อี้เป็นผู้ส่งข่าวมาให้ หลังจากคนสนิทของท่านหญิงโม่ได้แฝงตัวเข้าไปกับคณะของกลุ่มคนต้องสงสัย โดยมีหมิงจงเป่าเป็นผู้จัดการให้หญิงสาวปลอมตัวเข้าร่วมในคณะได้อย่างแนบเนียน 

แม้คนส่งข่าวของหมิงจงเป่ามิอาจระบุตัวผู้นำของฝ่ายนั้นได้ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าคณะเดินทางใดคือกลุ่มกบฏจึงง่ายต่อการส่งหรู่อี้เข้าไปปะปนแฝงตัวในคณะเดินทาง จนตอนนี้ หญิงสาวได้เข้าไปอยู่ในพรรคมารคอยสืบหาข่าว

ส่วนขุนนางที่ร่วมมือกับสกุลหยางนั้นก็มาถึงยังค่ายทหารแล้วเช่นกัน หากพวกเขาปะทะซึ่ง ๆ หน้าฝ่ายตนย่อมลำบากด้วยกำลังคนที่จำนวนน้อยกว่า แต่หากจะเอาชนะได้โดยเสียเลือดเนื้อน้อยที่สุดก็จำต้องกำจัดผู้บงการไปทีละคน 

‘ในเมื่อเป็นคนดีแล้วยังถูกทรยศหักหลัง ไยพวกเขาจะทำตัวเยี่ยงโจรร้าย หรือนักฆ่าบ้างไม่ได้เล่า’ 

นั่นคือคำพูดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะออกมาจากปากของท่านหญิงผู้เคยอ่อนโยนประดุจดอกไม้กลีบบาง แต่ไฉนนางกลับกลายเป็นดั่งพยัคฆ์ร้ายที่คอยซุ่มตะครุบเหยื่ออย่างชาญฉลาด เสมือนท่านหญิงโม่มิใช่คนเดิม

ฟิ้ว! ฉึก ๆ 

สองแม่ลูกยังคงนั่งนิ่งอยู่ภายในรถม้า แม้จะถูกโจมตีมาแล้วก็ตาม 

ฮี้ ๆ 

สองขาหน้าของม้ายกขึ้นสูงเมื่อด้านหน้าถูกขวางทางอย่างกะทันหัน หมิงจงเป่ายังมีสติมากพอ ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเขาก็สามารถทำให้ม้าสงบลงได้ พอ ๆ กับทุกสิ่งรอบกายหยุดนิ่ง รวมถึงศัตรูที่ประกบหน้าหลัง โดยมีรถม้าจอดนิ่งอยู่ระหว่างกลาง

หญิงสาวในชุดสีฟ้าอ่อนนั่งอยู่บนหลังม้า นำกลุ่มชายฉกรรจ์หลายสิบคนขวางทางอยู่ ด้านหลังคือชายหนุ่มรูปงามที่คนทั่วแคว้นรู้จักดี เขาคือแม่ทัพหนุ่มผู้เกรียงไกร แต่มีจิตใจมิสะอาดเช่นหน้าตา แม่ทัพหยางซานหลางในวันนี้กลับสวมหน้ากากไว้ครึ่งซีกซ้าย เพื่อปกปิดรอยแผลที่ยังไม่หายดีจากการถูกผีอดีตภรรยาหลอกหลอน

หมิงจงเป่ายังคงนั่งนิ่งประจำที่ผู้บังคับม้า ดวงตาจ้องเขม็งไปยังด้านหน้า รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้นทีละน้อยทำให้ใบหน้าของชายวัยกลางคนน่ามองยิ่งนัก หากเวลานี้อยู่ในวงล้อมของสตรี เขาคงรู้สึกดีกว่านี้ แต่ตอนนี้อยู่ในวงล้อมของเด็กเลือดร้อนทำให้เขาอนาถใจที่ต้องสังหารหนุ่มสาวพวกนี้

นางมารน้อยที่เมื่อสองปีก่อนเขาเคยไว้ชีวิต แต่เมื่อไม่ยอมจะกลับใจ วันนี้ เขาคงมิจำต้องยั้งมือหรือปล่อยไปเช่นในอดีตอีกแล้ว หากมิตัดรากถอนโคนเสียในตอนนี้ สักวันก็จะกลับมาแว้งกัดพวกเขาอีกอยู่ดี

“ท่านแม่! ออกมาพูดคุย…กับบุตรชายผู้นี้สักคำเถิด”

คำพูดของชายหนุ่มมีติดขัดบ้างเล็กน้อย มือของแม่ทัพหนุ่มสั่น

น้อย ๆ ศัตรูมากมายเขาไม่เคยหวั่นเกรง แต่สตรีในรถม้าคือคนที่ป้อนนมในอกให้เขาดื่มกิน

“ท่านแม่ทัพ” 

หนึ่งในคนสนิทของหยางซานซินเอ่ยเสียงเรียบ เขาได้รับคำสั่งให้คอยจับสังเกตชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในภารกิจนี้

“ข้ารู้แล้ว!” 

หยางซานหลางชำเลืองมองคนด้านข้างด้วยความขัดเคือง แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เพราะเขารู้ดีว่างานนี้บิดามิได้วางใจเขานัก ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งคนสนิทตามประกบเขาเช่นนี้ แผนการของเขาคงต้องลำบากมิน้อย หากคนสนิทของบิดายังอยู่ข้างกายเช่นนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่5.ทั้งที่ใจนั้น...

    “ท่านแม่! ได้โปรดออกมาตกลงกับลูกจะดีกว่านะขอรับ” หยางซานหลางยังคงเรียกหลิวเจินเจินว่าแม่ ทั้งที่ใจนั้นสับสนอยู่มิน้อย ไม่ใช่มารดาผู้นี้ไม่ดี แต่เป็นตัวเขาที่ไม่คู่ควรจะเรียกสตรีแสนดีว่าแม่คนสนิทของหยางซานซิน พยายามที่จะคาดเดาความคิดของชายหนุ่ม หากแผนการต้องพังลงเพราะความใจอ่อนของหยางซานหลาง เขาก็คงต้องกำจัดเสียให้สิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพ ตามคำสั่งของนายใหญ่ซึ่งจะปล่อยให้ทุกอย่างเสียหายไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตามที เขาได้รับคำสั่งจากนายใหญ่มาโดยตรง ดังนั้น หยางซานซินก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านหากเขาจะลงมือกำจัดบุตรชายของแม่ทัพใหญ่สกุลหยาง“หยางซานหลาง…เสียแรงที่ข้าอบรมสั่งสอนเจ้ามาแต่เยาว์วัย ไยถึงมิเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสมองของเจ้าสักนิด เหตุใดเจ้าไม่รู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดถูกผิดกันเล่า” หลิวเจินเจินยังคงนั่งอยู่ภายในรถม้าทำเพียงส่งเสียงตอบโต้ชายหนุ่มออกมาเท่านั้นหยางซานหลางได้แต่กัดฟันด้วยความเจ็บแปลบในหัวใจ ไยเขามิรู้ถูกผิด แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจผู้ใดด้วยเช่นกันจึงเลือกที่จะอยู่ข้างบิดาซึ่งคอยบอกเขาเสมอว่า แผ่นดินชีเป่ยถูกสกุลโม่แย่งชิงไป แม้วันนี้ เขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่1. ติดตาม

    โรงเตี๊ยมเซียนอี้ ณ ห้องหนังสือส่วนตัวของโม่ฟางเล่อ“ฮา ๆ ๆ ข้านึกว่าพวกเจ้าจะลุกไม่ขึ้นเสียอีก ศึกเมื่อคืนหนักมากหรือเจี๋ย พวกเจ้าถึงได้ตื่นเอาป่านนี้”โม่หยวนฟางพูดไป ดวงตาก็จับจ้องใบหน้าแดงก่ำของฟางเล่อและถงเหยียนเจี๋ย ด้วยใบหน้าซับสีเลือดของทั้งคู่ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หลังจากปรับความเข้าใจกับเมี่ยวจ้านเรื่องความเข้าใจผิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่เขาและหญิงสาวจะเข้ามารวมตัวกันกับน้องสาวและสหายรักภายในห้องนี้ ชายหนุ่มขบขันกับท่าทางของทั้งคู่ที่เอาแต่ก้มหน้ามองถ้วยชา“เจ้าคิดถึงไหนกัน หยวนฟาง”ถงเหยียนเจี๋ยเองก็ไม่คิดว่าเขาและภรรยาจะตื่นสายถึงเพียงนี้จนเป็นที่ล้อเลียนของคนรอบข้าง นี่ยังเหลืออีกสองคนซึ่งยังมิกลับจากไปทำภารกิจยังค่ายทหาร เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า หากพี่ใหญ่ของสกุลโม่กลับมาคงมิแคล้วต้องมีคำพูดล้อเลียน ไม่ต่างจากคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามในตอนนี้อย่างแน่นอน ทว่า…“น้องรัก…พวกเจ้ากำลังนินทาพี่ชายผู้นี้อยู่รึ หืม!”‘เสียงมาก่อนตัวเสียอีก’ ฟางเล่อบ่นอยู่ในใจ นางมิเคยพบญาติผู้พี่มาก่อน ดีที่โม่หยวนฟางได้บอกนางก่อนแล้วเมื่อครู่ ว่านางนั้นยังมีพี่ชายอีกคนซึ่งโม่ไป๋หลานตัวจริงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่2. กลั่นแกล้ง

    ครั้งที่ฟางเล่อพาเมี่ยวจ้านไปกลั่นแกล้งและทดสอบฝีมือของพ่อลูกสกุลหยางนั้น บอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อลูกสกุลหยางไม่ได้แสดงฝีมือเต็มที่นัก หากเอาจริงขึ้นมาคงหนักมือน้องของเขาอยู่มิน้อยหยางซานหลางแม้จะดูมิฉลาดในหลาย ๆ เรื่อง แต่ฝีมือของเขานั้นไม่เป็นรองผู้ใดเช่นกัน เพียงแต่ความมุทะลุและจิตใจคับแคบของหยางซานหลางเท่านั้นที่เป็นจุดด้อยในตำแหน่งแม่ทัพ เรื่องฝีมือการรบถือว่ายอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับผู้เป็นพ่อ หยางซานชินที่นับว่าเป็นยอดขุนพลน่าเสียดายที่สองพ่อลูกกลับหลงมัวเมาในอำนาจและสตรีจนมองข้ามความถูกผิดที่ได้กระทำลงไป พวกเขาจำต้องรอบคอบให้มากในทุก ๆ การเคลื่อนไหว มิเช่นนั้นจะกลายเป็นหมากในกระดานโดยถูกคนพวกนั้นคุมเกมแทนที่จะเป็นฝ่ายเขา การทำศึก ก้าวพลาดเพียงครั้งจะเปลี่ยนฝ่ายผู้กุมชัยในสนามรบทันทีห้องอาหาร…โรงเตี๊ยมชั้นล่างร่างสูงของเจิ้งถงนั่งดื่มสุราด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เขาคอยจับสังเกตถึงสิ่งผิดปกติของคนในร้าน โดยเฉพาะบรรดาเสี่ยวเอ้อร์และคนดูแลโรงเตี๊ยม อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาได้ออกติดตามหาร่องรอยผู้คุ้มกัน และศิษย์พรรคโลกันต์ กว่าจะกลับไปยังค่ายทหาร เรื่องมากมายก็เกิดขึ้นก่อนแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่3. มันไม่ง่าย

    กว่าที่ตัวนางจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องแลกด้วยหลายสิ่งเหลือเกิน แม้แต่การฆ่าคน นางก็ต้องทำเพื่อรักษาความลับที่จะนำภัยมาสู่นางเอง จะให้การเสียสละความสุขส่วนตนของนางสูญไปเปล่า ๆ มิได้ นางใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้เป็นที่โปรดปรานจนอยู่เหนือสนมทุกนาง เป็นรองเพียงฮองเฮาเท่านั้นยิ่งเวลานี้ ฮ่องเต้มิทรงไยดีในตัวฮองเฮา หรือสนมนางในอื่นใด มีเพียงนางที่ทรงเรียกหาให้ร่วมดื่มกินเป็นเพื่อนคุยอยู่สม่ำเสมอ ทุกอย่างที่นางต้องการก็มิเคยขัด จะมีก็แต่เพียงตำแหน่งสูงสุดในวังหลังเท่านั้นที่นางยังไม่ได้ครอบครองเมื่อก่อน นางอาจต้องการตำแหน่งนั้น แต่ตอนนี้ มันไม่จำเป็นที่จะยื้อแย่ง เพราะไม่ช้า มันจะเป็นของนางอยู่ดีเรียวปากอวบอิ่มยกยิ้มหยัน เมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับศัตรูของนางและคนรัก‘หมดยุคของสกุลโม่แล้ว หยางและหลิวจะรวมเป็นหนึ่ง’“พ่อมิคิดว่า...มันจะไม่ง่ายอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้น่ะสิ! หากเป็นเช่นที่คนผู้นั้นบอกมา ไอ้เด็กนั่นมันยังไม่ตาย รวมทั้งจิ่วอิงและเงา แต่มันก็อาจจะเป็นข่าวลวงเพื่อให้เราไขว่เขวได้เช่นกัน ทางที่ดีนับจากนี้ไป เราจะวางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่พันธมิตรของเราเองก็ตามที”สมกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่5.ทั้งที่ใจนั้น...

    “ท่านแม่! ได้โปรดออกมาตกลงกับลูกจะดีกว่านะขอรับ” หยางซานหลางยังคงเรียกหลิวเจินเจินว่าแม่ ทั้งที่ใจนั้นสับสนอยู่มิน้อย ไม่ใช่มารดาผู้นี้ไม่ดี แต่เป็นตัวเขาที่ไม่คู่ควรจะเรียกสตรีแสนดีว่าแม่คนสนิทของหยางซานซิน พยายามที่จะคาดเดาความคิดของชายหนุ่ม หากแผนการต้องพังลงเพราะความใจอ่อนของหยางซานหลาง เขาก็คงต้องกำจัดเสียให้สิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพ ตามคำสั่งของนายใหญ่ซึ่งจะปล่อยให้ทุกอย่างเสียหายไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตามที เขาได้รับคำสั่งจากนายใหญ่มาโดยตรง ดังนั้น หยางซานซินก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านหากเขาจะลงมือกำจัดบุตรชายของแม่ทัพใหญ่สกุลหยาง“หยางซานหลาง…เสียแรงที่ข้าอบรมสั่งสอนเจ้ามาแต่เยาว์วัย ไยถึงมิเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสมองของเจ้าสักนิด เหตุใดเจ้าไม่รู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดถูกผิดกันเล่า” หลิวเจินเจินยังคงนั่งอยู่ภายในรถม้าทำเพียงส่งเสียงตอบโต้ชายหนุ่มออกมาเท่านั้นหยางซานหลางได้แต่กัดฟันด้วยความเจ็บแปลบในหัวใจ ไยเขามิรู้ถูกผิด แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจผู้ใดด้วยเช่นกันจึงเลือกที่จะอยู่ข้างบิดาซึ่งคอยบอกเขาเสมอว่า แผ่นดินชีเป่ยถูกสกุลโม่แย่งชิงไป แม้วันนี้ เขา

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่4. ไล่ล่า

    เจ็ดวันต่อมา ถนนมุ่งสู่ด่านชายแดน ชีเป่ย-จิ้งหนานรถม้ากำลังเร่งความเร็วสุดฝีเท้าเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่างอยู่ และใช่ มันคือการหนีจากกลุ่มคนที่ห้อม้าตามมาติด ๆ โดยทหารของกองทัพเจียงไห่นำโดยแม่ทัพหนุ่ม หยางซานหลางเนื่องจากชายหนุ่มได้รับข่าวจากสายรายงาน ว่าหลิวเจินเจินพร้อมหลักฐานสำคัญกำลังจะข้ามชายแดนในวันนี้ เขาจึงได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้ออกติดตามช่วงชิงหลักฐานกลับมาให้ได้ พร้อมกำชับให้จัดการกับมารดาเลี้ยง อย่าให้เกิดปัญหาตามมาในภายภาคหน้าด้วยใจที่รักในมารดาผู้เลี้ยงดู เขาจึงได้ขออาสารับหน้าที่นี้ด้วยตนเอง แทนที่จะเป็นคนของบิดาหรือเจิ้งถง หยางซานหลางมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ แม้ความเป็นไปได้จะน้อยนิดก็ตาม เขาจะไม่มีวันทำร้ายมารดาอย่างหลิวเจินเจินเป็นอันขาด ‘ถึงข้าจะชั่วช้าเพียงใด แต่จะไม่ลงมือต่อผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้ข้าดื่มเป็นอันขาด’หยางซานหลางควบม้าจนสุดฝีเท้า เมื่อมองเห็นรถม้าอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากฝุ่นดินจางลงบ้างแล้ว “ยะ!” ทุกคนต่างกระตุ้นม้า ไล่กวดคนที่กำลังหนีให้ทัน เพราะรถม้านั่น…ข้ามชายแดนไปได้ ทุกอย่างจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน“ข้าหวังว่าท่านแม่ทัพจะรู้จักหน้าที่”

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่3. มันไม่ง่าย

    กว่าที่ตัวนางจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องแลกด้วยหลายสิ่งเหลือเกิน แม้แต่การฆ่าคน นางก็ต้องทำเพื่อรักษาความลับที่จะนำภัยมาสู่นางเอง จะให้การเสียสละความสุขส่วนตนของนางสูญไปเปล่า ๆ มิได้ นางใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้เป็นที่โปรดปรานจนอยู่เหนือสนมทุกนาง เป็นรองเพียงฮองเฮาเท่านั้นยิ่งเวลานี้ ฮ่องเต้มิทรงไยดีในตัวฮองเฮา หรือสนมนางในอื่นใด มีเพียงนางที่ทรงเรียกหาให้ร่วมดื่มกินเป็นเพื่อนคุยอยู่สม่ำเสมอ ทุกอย่างที่นางต้องการก็มิเคยขัด จะมีก็แต่เพียงตำแหน่งสูงสุดในวังหลังเท่านั้นที่นางยังไม่ได้ครอบครองเมื่อก่อน นางอาจต้องการตำแหน่งนั้น แต่ตอนนี้ มันไม่จำเป็นที่จะยื้อแย่ง เพราะไม่ช้า มันจะเป็นของนางอยู่ดีเรียวปากอวบอิ่มยกยิ้มหยัน เมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับศัตรูของนางและคนรัก‘หมดยุคของสกุลโม่แล้ว หยางและหลิวจะรวมเป็นหนึ่ง’“พ่อมิคิดว่า...มันจะไม่ง่ายอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้น่ะสิ! หากเป็นเช่นที่คนผู้นั้นบอกมา ไอ้เด็กนั่นมันยังไม่ตาย รวมทั้งจิ่วอิงและเงา แต่มันก็อาจจะเป็นข่าวลวงเพื่อให้เราไขว่เขวได้เช่นกัน ทางที่ดีนับจากนี้ไป เราจะวางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่พันธมิตรของเราเองก็ตามที”สมกับ

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่2. กลั่นแกล้ง

    ครั้งที่ฟางเล่อพาเมี่ยวจ้านไปกลั่นแกล้งและทดสอบฝีมือของพ่อลูกสกุลหยางนั้น บอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อลูกสกุลหยางไม่ได้แสดงฝีมือเต็มที่นัก หากเอาจริงขึ้นมาคงหนักมือน้องของเขาอยู่มิน้อยหยางซานหลางแม้จะดูมิฉลาดในหลาย ๆ เรื่อง แต่ฝีมือของเขานั้นไม่เป็นรองผู้ใดเช่นกัน เพียงแต่ความมุทะลุและจิตใจคับแคบของหยางซานหลางเท่านั้นที่เป็นจุดด้อยในตำแหน่งแม่ทัพ เรื่องฝีมือการรบถือว่ายอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับผู้เป็นพ่อ หยางซานชินที่นับว่าเป็นยอดขุนพลน่าเสียดายที่สองพ่อลูกกลับหลงมัวเมาในอำนาจและสตรีจนมองข้ามความถูกผิดที่ได้กระทำลงไป พวกเขาจำต้องรอบคอบให้มากในทุก ๆ การเคลื่อนไหว มิเช่นนั้นจะกลายเป็นหมากในกระดานโดยถูกคนพวกนั้นคุมเกมแทนที่จะเป็นฝ่ายเขา การทำศึก ก้าวพลาดเพียงครั้งจะเปลี่ยนฝ่ายผู้กุมชัยในสนามรบทันทีห้องอาหาร…โรงเตี๊ยมชั้นล่างร่างสูงของเจิ้งถงนั่งดื่มสุราด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เขาคอยจับสังเกตถึงสิ่งผิดปกติของคนในร้าน โดยเฉพาะบรรดาเสี่ยวเอ้อร์และคนดูแลโรงเตี๊ยม อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาได้ออกติดตามหาร่องรอยผู้คุ้มกัน และศิษย์พรรคโลกันต์ กว่าจะกลับไปยังค่ายทหาร เรื่องมากมายก็เกิดขึ้นก่อนแล้ว

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่1. ติดตาม

    โรงเตี๊ยมเซียนอี้ ณ ห้องหนังสือส่วนตัวของโม่ฟางเล่อ“ฮา ๆ ๆ ข้านึกว่าพวกเจ้าจะลุกไม่ขึ้นเสียอีก ศึกเมื่อคืนหนักมากหรือเจี๋ย พวกเจ้าถึงได้ตื่นเอาป่านนี้”โม่หยวนฟางพูดไป ดวงตาก็จับจ้องใบหน้าแดงก่ำของฟางเล่อและถงเหยียนเจี๋ย ด้วยใบหน้าซับสีเลือดของทั้งคู่ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หลังจากปรับความเข้าใจกับเมี่ยวจ้านเรื่องความเข้าใจผิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่เขาและหญิงสาวจะเข้ามารวมตัวกันกับน้องสาวและสหายรักภายในห้องนี้ ชายหนุ่มขบขันกับท่าทางของทั้งคู่ที่เอาแต่ก้มหน้ามองถ้วยชา“เจ้าคิดถึงไหนกัน หยวนฟาง”ถงเหยียนเจี๋ยเองก็ไม่คิดว่าเขาและภรรยาจะตื่นสายถึงเพียงนี้จนเป็นที่ล้อเลียนของคนรอบข้าง นี่ยังเหลืออีกสองคนซึ่งยังมิกลับจากไปทำภารกิจยังค่ายทหาร เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า หากพี่ใหญ่ของสกุลโม่กลับมาคงมิแคล้วต้องมีคำพูดล้อเลียน ไม่ต่างจากคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามในตอนนี้อย่างแน่นอน ทว่า…“น้องรัก…พวกเจ้ากำลังนินทาพี่ชายผู้นี้อยู่รึ หืม!”‘เสียงมาก่อนตัวเสียอีก’ ฟางเล่อบ่นอยู่ในใจ นางมิเคยพบญาติผู้พี่มาก่อน ดีที่โม่หยวนฟางได้บอกนางก่อนแล้วเมื่อครู่ ว่านางนั้นยังมีพี่ชายอีกคนซึ่งโม่ไป๋หลานตัวจริงน

DMCA.com Protection Status