Share

ตอนที่9. โลกที่นางจากมา

last update Last Updated: 2024-12-21 20:40:28

ดังนั้น เมื่อมีโอกาสถ่ายทอดวิชาแก่ศิษย์รักไม่ว่าจะมากน้อย เขาจะไม่ยอมให้สูญเสียโอกาสเป็นอันขาด ส่วนเจิ้งถงจะฉวยเรียนรู้ไปด้วยหรือไม่นั้น เขามิคิดสนใจ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่อาจฝึกฝนไปทั้ง ๆ ที่ต่อสู้กับเขาได้อยู่แล้ว

เป็นอย่างที่หมิงจงเป่าคิดไม่มีผิด เมื่อฟางเล่อใช้สายตาที่ว่องไว ดูการเคลื่อนไหวของผู้เป็นอาจารย์ โดยร่างกายของนางนั้นขยับก้าวตามเสมือนการร่ายรำตามผู้นำการเต้นที่มีการแปรขบวนท่าอยู่อย่างต่อเนื่อง ครั้งแรก นางไม่ได้สนใจอะไรนอกจากจดจ่อกับการต่อสู้ แต่พอมีผู้มาใหม่ซึ่งทำให้อาจารย์ของนางหัวเราะเสียงดัง จากนั้นทุกการเคลื่อนไหว ตกอยู่ภายใต้สายตาของนาง และใช้ทุกกระบวนท่าที่จดจำได้มาตั้งรับและรุกคู่ต่อสู้ มันทำให้นางดูเหมือนจะได้เปรียบจีกวานฮวาขึ้นมาบ้างแล้ว

หากเป็นในโลกที่นางจากมา นับว่าสายตาของนางคืออัจฉริยะที่ว่องไวจนนางเองยังไม่อยากจะเชื่อ ความจำนั้นยิ่งเป็นเลิศกว่าแต่ก่อนมากนัก นางจำทุกถ้อยคำของท่านอาจารย์ได้ดี มิมีลืมเลือน

‘เล่อเล่อรู้ไหมนอกจากฝ่ามือโลกันต์แล้ว เพราะอะไรคนถึงอยากครอบครองไข่มุก จำไว้ให้ดีว่าไข่มุกโลกันต์ทำให้เจ้ามีสายตาที่ดี สมองที่ดี มันคือสมบัติที่ล้ำค่ากว่าสิ่งใด เพราะถ้าเจ้าฉลาดหลักแหลม เจ้าจะใช้มันเอาตัวรอดและกอบโกยเงินทองได้อย่างง่ายได้ จงใช้พรจากไข่มุกให้เกิดประโยชน์ และในทางที่ถูกต้องเข้าใจหรือไม่’

ใช่แล้ว หากว่านางฉลาดย่อมใช้มันแก้ปัญหาได้ดีกว่าการใช้เพียงกำลังและอารมณ์ในการตัดสินปัญหาซึ่งยากที่จะสำเร็จได้ลุล่วงด้วยดี เท้าบางขยับรุกรับได้อย่างว่องไว ร่างกายเอนหลบสลับโจมตีได้พลิ้วไหว หนักแน่นเสมอฟางเล่อกับอาจารย์ของนางคือคนคนเดียวกันก็มิปาน

ด้านเจิ้งถงทำได้เพียงขบกรามแน่น เสมือนตัวเขากำลังถูกตบใบหน้าจนชาหนึบ เมื่อเห็นการกระทำของประมุขพรรคโลกันต์กำลังขยับตามท่าทางการต่อสู้จากผู้คุ้มกันของนาง ซึ่งคนผู้นี้กำลังประมืออยู่กับเขาในตอนนี้

‘พวกเจ้ากล้าดูถูกข้า สารเลวนัก’

เป็นผู้ใดก็ย่อมเสียหน้าเป็นที่สุด มีอย่างที่ไหนกำลังต่อสู้กับเขาอยู่ยังหาญกล้าถ่ายทอดวิชาให้แก่อีกคนได้อย่างหน้าตาเฉย มันช่างหยามเกียรติกันเกินไปแล้ว เจิ้งถงเพิ่มความดุดันในการลงมือต่อศิษย์พี่ของตนเองให้หนักขึ้น

“ข้าจะไม่มีวันให้คนอย่างพวกเจ้ามาเหยียดหยามข้าถึงเพียงนี้ต่อไปได้อีก ความตายคือของขวัญสำหรับเจ้าสองคน ข้าเป็นผู้ที่เหมาะสมกับผู้นำแห่งโลกันต์ เข้าใจหรือไม่ ศิษย์พี่”

“ฮา ๆ เจ้ามั่นใจขนาดเลยรึ! ลองทำให้ข้าดูสักหน่อยจะเป็นไร”

แม้ใบหน้าหมิงจงเป่าจะประดับไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะยังคงมีไม่ขาดสาย แต่ใช่ว่าภายในจิตใจจะเป็นดังเช่นภายนอกเสียเมื่อไหร่กัน บุรุษที่จับอาวุธเพื่อช่วงชิงอำนาจผู้อื่นได้นั้น มิว่าอย่างไรก็อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด ต่อให้มองเสมือนศัตรูดูไร้ฝีมือ แท้จริงอาจเป็นเพียงกลลวง เพื่อให้เราตายใจก็เป็นได้

เช่นเดียวกันกับเจิ้งถง แม้จะฝีมือไม่อาจทัดเทียมเขาได้เมื่อในอดีต แต่ตลอดหลายปีที่เจิ้งถงหายไป มิอาจรู้ได้ว่าอีกฝ่ายร่ำเรียนวิชาเพิ่มพูนความสามารถมาจากที่ใดอีกบ้าง การประมือในครานี้นับว่าความเสี่ยงมีอยู่ไม่น้อย

หนึ่งรุกด้วยความทะนงในฝีมือ อีกหนึ่งรับด้วยความชาญฉลาด ผู้หนึ่งใช้กำลังเพื่อช่วงชิงชัยชนะ อีกหนึ่งนั้นใช้สติตอบโต้เพื่อรอจังหวะพลิกสถานการณ์ หากนี่คือสนามรบขนาดใหญ่ก็ยากจะประเมินได้ว่าผู้ใดคือคนที่จะคว้าชัยมีเพียงทั้งสองที่กำลังต่อกรกันเท่านั้นที่พากันประเมินผลครั้งนี้อยู่ภายในใจ

จีกวานฮวาลอบมองการต่อสู้ของ ชายที่นางเคยพบเจอเมื่อสองปีก่อนอยู่เช่นกัน

‘มิธรรมดาจริง ๆ คนผู้นี้คือใครกัน ไยดูจะห่วงใยโม่ไป๋หลานยิ่งนัก’

ดวงตากลมโตที่เคยสดในของจีกวานฮวาเปลี่ยนเป็นดุร้ายเจ้าเล่ห์ เสมือนจิ้งจอกก็มิปาน นางพลาดพลั้งให้คู่ต่อสู้บ้างแล้ว เรียกว่าตัวนางกำลังจะตกเป็นรองอีกฝ่ายอยู่รอมร่อ

“โม่ไป๋หลาน หากวันนี้ ข้าไม่ปลิดชีพเจ้าให้สิ้น ข้าไม่ขอมีลมหายใจอยู่ต่อไปอีกเช่นกัน”

“ข้าคงไม่อาจห้ามเจ้าได้น้องพี่ หากเจ้าคิดอยากจะตายในวันนี้ เอาเป็นว่าทำตามที่ใจเจ้าปรารถนาเถิด หึ ๆ พี่รักเจ้ามากยิ่งนัก คงทำได้เพียงสนับสนุนเจ้าให้สมปรารถนาเท่านั้นกระมัง”

ฟางเล่อกล่าววาจาเย้าแหย่อีกฝ่าย ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็ไม่มั่นใจนักว่าจะจบการต่อสู้ลงได้เมื่อใดกัน แต่มันคือหลักการใช้จิตวิทยาในการทำลายสมาธิของคู่ต่อสู้ตามแบบแผนที่นางจดจำมาจากอีกมิติ มาใช้หันเหความคิดของจีกวานฮวา เพื่อให้ญาติผู้น้องมุ่งเน้นแต่การกำจัดนาง โดยลืมเพิ่มการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้

‘ในเมื่อกำลังของข้ายังไม่แข็งแกร่ง แต่ฝีปากข้าในการเบี่ยงเบนเจ้า เชื่อเถอะว่าข้าเหนือชั้นกว่าเจ้าจีกวานฮวา’

การต่อสู้ทางด้านพี่น้องสกุลหยาง

เมี่ยวจ้านขยับเท้าหลบการโจมตีได้แบบเฉียดฉิวมาก หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้าง คนอย่างนางหรือจะยอมละสายตาจากคู่ต่อสู้และทุกอย่างรอบ ๆ กาย หากทำเช่นนั้นก็เท่ากับว่านางยินยอมตกเป็นรองศัตรูด้วยความสมัครใจนั้นเอง

‘ไม่ทางเสียละพี่ชายข้า’

หญิงสาวก้าวหลบได้อย่างว่องไวดุจสายลม ดาบในมือของหยางซานหลางฟันลงหมายผ่ากลางลำตัวให้จงได้ แต่มันกลับฝันลงยังพื้นดิน เฉียดปลายเท้าผู้เป็นน้องสาวเพียงเสี้ยวเท่านั้น

เมี่ยวจ้านจำต้องสะกิดปลายเท้า เหินกายถอยห่างหยางซานหลางด้วยว่านางใช้แส้เป็นอาวุธ แม่ทัพหนุ่มพุ่งตามเมี่ยวจ้านไปติด ๆ สองพี่น้องห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด

เสียงระเบิดของพลังวัตรมีเป็นวงกว้าง หยางซานหลางริษยาน้องสาวผู้ที่แย่งความรักของมารดาไปจากตนเอง เมื่อก่อนเขาเป็นลูกรักของมารดาเพียงผู้เดียวมาตลอด แต่เวลานี้ นอกจากมารดาจะเกลียดชังเขาแล้วยังมีลูกรักคนใหม่ที่เก่งกาจไม่แพ้กันกับเขา

‘เจ้ามันน่าชังนัก น้องสาวข้า’

“เจ้ามันสมควรตาย…เจ้าแย่งทุกอย่างไปจากข้า ข้าไม่มีน้องสาวเช่นเจ้า” หยางซานหลางพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันขณะที่บุกเข้าประชิดตัวผู้เป็นน้องสาว ใบหน้าดุดันจนกลายเป็นเหี้ยมเกรียมเลยทีเดียว

“มันควรเป็นข้าที่ต้องพูดแบบนี้พี่ชาย ท่านมันเกิดมาเพื่อหนักแผ่นดิน แล้วยังช่วงชิงครอบครัวของข้าไปอีก” เมี่ยวจ้านเองก็จุกไปทั้งทรวงอกเมื่อหยางซานหลางกำลังพาลหาเรื่องนาง

หยางซานหลางเองดวงตาเริ่มแดงก่ำจากการข่มกลั้นบางสิ่งเอาไว้ภายใน มิอาจปลดปล่อยออกมาให้ศัตรูได้เห็นมัน เขาเก็บกดเรื่องมารดามาหลายวันแล้วจนถึงตอนนี้ที่…

“อ๊ากกก…”

ตูม! ตูม!

พื้นดินแตกกระจายจนฝุ่นดินคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจากการระเบิดพลังของชายหนุ่ม

เมี่ยวจ้านพุ่งขึ้นสู่ที่สูง สองเท้าเหยียบอยู่บนกิ่งไม้ มองลงด้านล่าง นางเห็นเพียงหยางซานหลางกวัดแกว่งดาบในมือพร้อมปลดปล่อยพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ หยางซานหลาง”

เมี่ยวจ้านพึมพำเบา ๆ เมื่อมองเห็นสิ่งที่พี่ชายกระทำอยู่ในเวลานี้ เมี่ยวจ้านเหมือนกำลังมองดูอีกด้านของผู้เป็นพี่

Related chapters

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่10. แย่งชิงทุกอย่างมา

    หยางซานหลางเกิดความอิจฉานางอย่างนั้นหรือ ไยเขาถึงกล่าวหาว่านางแย่งชิงทุกอย่างมา ทั้ง ๆ ที่ตัวนางเองนั้นมิเคยได้รับอะไรเลย แม้แต่น้ำนมมารดาสักหยด อ้อมกอดจากบิดาแท้จริงสักครั้งยังไม่เคย แล้วเหตุใดกัน หยางซานหลางจึงมากล่าวหาว่านางแย่งชิงทุกอย่างมาจากเขาเล่าน้ำตาของมารดาทั้งสองต่างไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน หลิวเมิ่งชีต้องการได้ยินคำเรียกขานว่า ‘แม่’ สักครั้งจากปากของชายหนุ่ม ก่อนที่นางจะไม่มีโอกาสได้ฟังมันอีกชั่วชีวิต ตัวนางคงมิอาจทนต่อบาดแผลนี้ได้นานเท่าใดนัก“เมตตาแม่สักครั้งเถิดลูกรัก เป็นแม่เองใช่หรือไม่ที่ทำร้ายเจ้า”หลิวเมิ่งชีได้แต่รำพึงรำพันกับตนเองเบา ๆ ด้วยหัวใจที่สิ้นหวังเต็มทีแล้ว เสียใจตอนนี้ก็สายเกินกว่าที่จะกลับไปแก้ไขได้แล้ว หากนางปล่อยให้บุตรชายไม่รู้ความจริงเรื่องชาติกำเนิด ทุกอย่างคงมิเลวร้ายเช่นนี้ก็เป็นได้ หากนางยอมปล่อยหลิวเจินเจินไปเสีย ซานหลางคงมิเจ็บปวดถึงเพียงนี้ส่วนหลิวเจินเจินนั้นนึกโทษตนเองที่ไร้ความสามารถในการอบรมบุตรชายให้เป็นคนดีได้ เสมือนนางผู้เป็นแม่นั้นบกพร่องในหน้าที่ยิ่งนัก ไหนจะเวลานี้ พี่น้องต้องมาเข่นฆ่ากันเอง สวรรค์ช่างโหดร้ายกับนางอะไร

    Last Updated : 2024-12-21
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่11.ไม่จริง!

    “ไม่เลยลูกรัก…แม่ไม่เคยทำเช่นนั้นกับเจ้า” หลิวเมิ่งชีละล่ำละลักแก้ตัวด้วยใบหน้าตื่นตกใจ นางมิเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าบุตรชายจะพูดออกมาเช่นนี้“ซานหลาง! ลูกรู้แก่ใจว่าแม่เป็นเช่นไร” หลิวเจินเจินไม่มีคำแก้ ตัวเพื่อให้ตนเองดูดีเหนือญาติผู้พี่ แต่ใช้ความเป็นจริงในอดีตที่ผ่านมาเป็นตัววัดค่าของตนเองหยางซานหลางดวงตาแดงก่ำด้วยหัวใจอันแหลกสลาย เขาจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อมารดาที่แท้จริงกำลังมองมาด้วยดวงตาที่แสนรักใคร่เขาผู้เป็นบุตร แต่คนที่อยู่ในอ้อมแขนคือผู้ที่กลั่นเลือดในอกให้เขาดื่มกินมาจนเติบใหญ่ ความสำนึกผิดชอบชั่วดีกำลังฆ่าชายหนุ่มโดยมิรู้ตัวร่างแกร่งสั่นสะท้านจนหลิวเจินเจินรับรู้ได้ มืออุ่นยกขึ้นลูบแขนบุตรชาย พร้อมซบหน้าลงยังท่อนแขนแกร่งที่พาดผ่านช่วงใต้ลำคอตน พร้อมน้ำตาไหลรินออกมา ด้วยความรักของมารดามีต่อบุตรทำให้ใจที่กำลังหมดสิ้นทุกอย่างปวดร้าวจนแทบไร้เรี่ยวแรงจะยืนต่อ“แม่มิโทษเจ้าลูกรัก ลงมือเถิด…แม่ยอมสิ้นใจด้วยมือเจ้า ซานหลาง แต่จะไม่ยอมให้เจ้าสองพี่น้องต้องมาเข่นฆ่ากันต่อหน้าแม่เช่นนี้อีก”ดวงตาคู่งามหลับลงอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอนศีรษะไปพิงช่วงอกแกร่งของชายหนุ่ม หยางซานหลางกัดฟันจนแทบละเ

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่12.หัวใจของนาง

    ทว่าอยู่ ๆ ลูกศรลึกลับก็พุ่งตรงมา โดยเป้าหมายก็คงไม่พ้นหัวใจของนาง แต่เพียงเสี้ยววินาทีนั้น นางกลับล้มลง และเมื่อหันกลับไปด้านหลังเท่านั้น ใจของนางก็แทบแหลกสลาย หยางซานหลางหมุนกายเข้ารับลูกธนูแทนผู้เป็นแม่ พร้อมกับผลักนางออกให้พ้นอันตราย เพราะการต่อสู้มีอยู่รอบด้านย่อมเป็นใครก็ได้ที่ลงมือชายหนุ่มกลับที่เลือกรักษาชีวิตนางเอาไว้ แทนที่เขาจะรักษาชีวิตตนเองเสียมากกว่าทั้งที่มีโอกาสอยู่มากมาย ทั้งรอยยิ้มและดวงตาเปี่ยมรักของบุตรชายส่งมาให้ก่อนร่างสูงจะล้มลง มันช่างดูมีค่ากว่าทองพันชั่งก็มิปาน“ท่านแม่! อึก! ข้าขอโทษที่มิอาจเลือกได้”ใบหน้าที่แนบอยู่กับอกของมารดา เงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาเศร้าสร้อย เลือดไหลทะลักออกมาจากริมฝีปากหนาได้รูป น้ำตาเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้า ลมหายใจที่มีเสียงดังครืดคราด บอกถึงอาการของผู้เป็นเจ้าของกายได้อย่างชัดเจน หยางซานหลางยิ้มอย่างอ่อนแรงกับชะตากรรมของตนเอง“ซานหลาง! แม่จะช่วยเจ้าเองลูกรัก ทำใจดี ๆ เอาไว้นะ แม่จะไม่ยอมเสียเจ้าไปเป็นอันขาด” หลิวเจินเจินละล่ำละลักบอกบุตรชาย ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมทั้งพยายามกล้ำกลืนก้อนแข็ง ๆ ที่จุกอยู่ตรงลำคอหลิวเจินเจินใช้มืออั

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่13. มีแค่เพียงคนสนิท

    “อ่า! เช่นนั้นหรอกหรือ ช่างรอบรู้เสียจริง ๆ ข้าไม่เคยบอกว่าตัวข้านี้เป็นใคร เจ้ากลับรู้ดีกว่าตัวข้าเสียอีกว่าผู้ใดคือมารดาของข้า นอกเสียจากว่าเจ้าจะรู้จักครอบครัวข้าเป็นอย่างดี หรือเจ้าก็คือหนึ่งในสกุลหยางกันนะ…รึข้าเดาผิด เช่นนั้นก็คงเป็นคนที่รู้จักข้ามากกว่าพ่อแม่แท้ ๆ ของข้าเองกระมัง”มีแค่เพียงคนสนิทของพระบิดาเท่านั้นที่รู้ความจริงเรื่องชาติกำเนิดแท้จริงของนาง“...” ไม่มีคำตอบจากคนที่กำลังหาจังหวะลงมือต่อหญิงสาวศัตรูที่มีไม่ใช่แค่ภายในแคว้นชีเป่ย แต่ด้วยตำแหน่งของนางนั้น จิ้งหนานก็ย่อมมีคนตามล่านางเช่นกัน มันจะเป็นใคร นางไม่ขอใส่ใจ ตอนนี้ต้องปกป้องคนที่นางรักให้ปลอดภัยเสียก่อนเท่านั้นเป็นพอ“เงียบทำไมกัน ข้ายินดีที่จะพบปะกับผู้มีความรู้มากเลยรู้หรือไม่ ยิ่งคนที่ล่วงรู้ชีวิตผู้อื่นเป็นอย่างดี…ยกเว้นตัวเอง”เมี่ยวจ้านพูดยั่วยุเพื่อให้อีกฝ่ายเผยที่ซ่อน ซึ่งคนผู้นี้ร้ายกาจมิเบาที่สามารถเคลื่อนไหวรอบกายนางได้โดยไร้ร่องรอยให้พบเห็น“วันนี้ ข้าไม่อยากเล่นกับเจ้า เด็กน้อย ข้าให้โอกาสเจ้าหนีได้หนึ่งครั้ง”ฉึก!มีดสั้นคู่กายของเมี่ยวจ้าน ปักอยู่ที่ลำคอของคนพูด“ข้ารอคำนี้มานานแล้ว”เมี่ยวจ

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่14.เจ้าคือหัวใจของแม่ซานหลาง

    หมิงจงเป่าส่งเพียงเสียงแต่มิปรากฏกายให้อีกฝ่ายเห็น เวลานี้ ทหารติดตามไม่มีแล้วก็จริง แต่เขาวางใจอะไรไม่ได้ เพราะการที่หยางซานหลางต้องตาย นั่นหมายความว่ามีคนอื่นอีกนอกเหนือจากพวกเขาและคนของหยางซานหลางเพราะอยู่ ๆ ลูกธนูจะโผล่มาจากที่ใดได้ ในเมื่อเขาคอยจับตาอยู่ตลอดทั้งรับมือศิษย์น้องและคนของแม่ทัพหนุ่ม เขามั่นใจว่าไม่มีใครที่ยกคันศรอย่างแน่นอน นั่นบ่งบอกได้ว่ามีคนแฝงตัวอยู่เพื่อคอยสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกล เขาจะมิยอมวางใจในสิ่งที่มองไม่เห็นเป็นอันขาด อาจมีใครอีกที่คอยฉวยโอกาสกับเรื่องนี้ มิตรแท้ไม่เคยมีในการแย่งชิงอำนาจเจิ้งถงพยายามเป็นอย่างมาก ในการเพ่งสมาธิเพื่อจับทิศทางของเสียงจากคนที่หายตัวไปอย่างรวดเร็ว“ท่านช่างน่าขบขันนึกศิษย์พี่ที่คิดจะทดสอบความสามารถของข้า ข้าเองก็อยากรู้นักว่า ท่านจะใช้อีกกี่กระบวนท่า เพื่อขัดขวางข้ามิให้ช่วงชิงลมหายใจของประมุขพรรคโลกันต์ได้”ขวับ! เจิ้งถงหันไปทางด้านซ้าย เมื่อเขาเห็นเงาร่างของศิษย์พี่ของตนยืนอยู่ และเป็นเช่นนั้น เมื่อหมิงจงเป่าปรากฏกายขึ้น ทั้งยังยืนนิ่งเฉยเหมือนไร้ความรู้สึกกลัวหรือกดดันแม้แต่น้อย มีเพียงรอยยิ้มกว้างเฉกเช่นคนอารมณ์ดีเท่านั้นท

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่15. ส่งคืน

    ‘ท่านอาจารย์…ไยทิ้งข้าตอนนี้เล่า’“โม่ไป๋หลาน…ข้าจะไม่มีวันให้เจ้าพ้นมือข้าอีกครั้งเป็นแน่”จีกวานฮวายังคงพูดจาข่มขู่โม่ฟางเล่อ พร้อมทั้งไล่ตามอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งเหมือนโม่ฟ่างเล่อคือเหยื่ออันโอชะในเวลานี้โม่ฟางเล่อเองยังคงเคลื่อนไหวต่อไป พร้อมคอยจับสังเกตหาจุดอ่อนบนร่างกายของนางมาร ผู้กำลังควบคุมตนเองไม่ได้แล้ว ทว่า…‘เจอจนได้’“นั่น…มันเรื่องของเจ้าน้องสาว สำหรับตัวข้าไม่เคยคิดจะแย่งชิงอันใดกับเจ้าเลย แต่จะมิละเว้นคนที่เคยลงมือสังหารข้าเช่นกัน”ฟางเล่อยังคงต่อคำกับอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ เพื่อทำลายสมาธิของอีกฝ่ายไปด้วย ฟางเล่อจำต้องใช้หลักการหันเหเพื่อเรียกความสนใจของจีกวานฮวา ทั้งยังหาจังหวะจัดการกับอีกฝ่าย เพราะนางเห็นแล้วว่าจุดอ่อนของจีกวานฮวาคือที่ใดยิ่งสภาวะจิตใจของจีกวานฮวากำลังสาหัสจนเกินเยียวยา โม่ฟางเล่อจึงอาศัยโอกาสนี้ราดน้ำเกลือลงสู่บาดแผลที่ละน้อย เมื่ออีกฝ่ายไร้เมตตาต่อนาง ตัวนางเองก็ไม่จำเป็นต้องปรานีคนอย่างจีกวานฮวาเช่นกันเหมือนกับว่าฟางเล่อกำลังสะกดจิตของนางเองให้ไร้เมตตา เพื่อตัดขาดความอ่อนแอทางจิตใจให้ง่ายต่อการลงมือต่อศัตรู นี่เป็นครั้งแรกที่นางจับอาวุธสังหารคนจริง

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่16.ป่าอีกด้าน

    ป่าอีกด้านหมิงจงเป่ายืนจ้องมองไปยังเจิ้งถงซึ่งกำลังมีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความแค้นเคืองในตัวของศิษย์พี่ของตน ซึ่งแตกต่างกับรอยยิ้มกว้างของหมิงจงเป่าที่เหมือนชายผู้นี้ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรกับเรื่องตรงหน้าเลยสักนิดโดยตอนนี้ แขนของเจิ้งถงได้ห้อยลงข้างลำตัวทั้งยังสร้างความเจ็บปวดให้เจ้าตัวอยู่ไม่น้อย ทั้งยังมีเลือดสีแดงไหลจากต้นแขน เรื่อยลงมาจนถึงปลายนิ้ว ก่อนหยดลงลงสู่พื้นดินด้านล่าง กรามหนาของเจิ้งถงเป็นสันนูนจากการขบกัดของเจ้าตัวเอง“เจิ้งถง…หากคนอย่างข้าไร้ซึ่งฝีมือจริงคงมิอาจนั่งในตำแหน่งที่เจ้าปรารถนาได้กระมัง เจ้าไม่ควรที่จะท้าทายในสิ่งที่เหนือความสามารถของตนเอง หากเจ้ามีความเมตตา มิเห็นแก่ได้จนดวงตามืดบอด มีหรือตำแหน่งของข้าจะไม่เป็นของเจ้าในครั้งอดีต ทุกอย่างที่เจ้าพลาดหวัง มันเป็นที่ตัวเจ้า ไม่ใช่เพราะข้าหรือใครทั้งสิ้น”“หุปปาก! ข้าจะไม่ยอมก้มหัวให้คนเช่นเจ้า เป็นอันขาด ข้าเกิดมาเพื่อครอบครองสิ่งล้ำค่า แต่เป็นพวกเจ้าที่ผลักไสข้าออกจากสิ่งนั้น ข้าทำผิดอันใดไยถึงกล้ามาบอกแก่ข้า ว่าไข่มุกโลกันต์มิเลือกคนเช่นข้า แต่เป็นคนวิปลาสอย่างเจ้าแทน”เจิ้งถงตวาดเสียงดัง เขาต้องไม่มีวันพ่าย

    Last Updated : 2024-12-22
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่17.ค่ายทหารเจียงไห่

    “เจ้าจะว่าข้าใจดำก็ได้นะ เจิ้งถง ที่ปล่อยให้เจ้าถูกสังหาร แต่จะโทษข้าก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะมันมิใช่หน้าที่ของข้าที่จะต้องปกป้องคนเช่นเจ้า”เขาเห็นแล้วว่ามีลูกธนูพุ่งมา และเขาไม่คิดที่จะหลบหรือช่วยเหลือเจิ้งถง เพราะมันมิใช่เรื่องของเขา แต่มันเป็นการฆ่าปิดปากของผู้ร่วมขบวนการเสียมากกว่า อย่างน้อย เขาก็แก้แค้นให้แล้ว โดยการสังหารมือธนู ถือว่าเขาก็ยังมีเมตตาอยู่บ้าง‘เจ้าควรขอบใจข้าเจิ้งถง ในความเป็นคนดีมีเมตตา สังหารคนที่ฆ่าเจ้า หึ ๆ’ ก่อนที่ร่างสูงของหมิงจงเป่าจะหายไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงดวงตาที่เหลือกค้างของคนทรยศ โดยไม่มีผู้ใดเดาได้ว่า เจิ้งถงสิ้นใจด้วยความแค้น หรือความเศร้าเสียใจและสำนึกผิดกันแน่ แต่สำหรับหมิงจงเป่านั้น เขาคิดเพียงแค่ว่าตัวเขาทำได้ดีที่สุดเท่านี้ เพราะอย่างน้อย เขาก็มิได้ลงมือสังหารเจิ้งถงด้วยความแค้นในอดีตอย่างที่ควรจะเป็นค่ายทหารเจียงไห่เพล้ง! หยางซานชินถึงกับใบหน้าถอดสีที่อยู่ ๆ กาน้ำชาได้ตกลงแตกกระจาย เพียงแค่เขาเดินผ่าน ยังมิทันได้แตะต้องหรือเฉียดใกล้เลยด้วยซ้ำไป เสมือนลางร้ายเกิดขึ้นในห้วงความคิดอย่างฉับพลัน แต่เขาจำต้องเก็บงำเอาไว้เสีย หยางซานซินปลอบใจต

    Last Updated : 2024-12-22

Latest chapter

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่74.นางมีดีกว่านั้น

    ภายในจวนสกุลเชี่ยดูจะสงบเงียบกว่าที่เคย แต่ถึงกระนั้นก็มิใช่เรื่องที่คนภายนอกจะรับรู้ได้ เจ้าของบ้านสองสามีภรรยากำลังดื่มด่ำกับการจิบชาชั้นยอด พร้อมการสนทนากันตามประสา ซึ่งทำให้แขกผู้มาเยือนถึงกับส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับลีลาการเฝ้ารอศัตรูของคนสกุลใหญ่ หากนางปรากฏกายต่อหน้าทั้งสองคนนั้น เพียงครู่คงมีทหารในจวนโผล่ออกมาล้อมรอบ‘หึ ๆ’ นางมีดีกว่านั้น“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เงียบ ๆ มันดูมิตื่นเต้นเท่าใดนัก พวกเจ้าช่วยปลุกพวกเขาให้ตื่นกันเลยจะดีกว่า”จบคำพูดจากการแฝงตัวในเงามืด เพื่อเฝ้ารอเวลาลงมือ กลับเปลี่ยนเป็นการลงมืออย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำวางกำลังไว้อีกชั้นเพื่อการเก็บกวาด“อ๊ากก!”เพียงครึ่งก้านธูป เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็เกิดขึ้น ทหารในจวนแท้จริงคือนักฆ่ารับจ้าง ทว่า จอมโจรผู้บุกรุกก็คือกลุ่มมือสังหารชั้นยอดเช่นกัน การมาปล้นในครั้งนี้ ผู้นำมิคิดที่จะนำคนมาเพียงหยิบมือเสียเมื่อไหร่กัน การจบหมากกระดานเล็กให้สิ้นซากก็คือทุบกระดานหมากให้แหลกคามือเท่านั้น“มิต้องเชิญข้า ใต้เท้าเชี่ย ฮูหยินเชี่ย ข้าดื่มกินมาอิ่มหนำสำราญมาจากบ้านแล้ว”“กำแหงนัก กล้าบุกรุกบ้านขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ช่างรนหาที่ตายโดยแท

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่73.ยามค่ำคืน

    “พวกเจ้ามันปีศาจ คนสกุลโม่ช่างไร้ความเมตตา ข้ามิทัน...อัก!”พูดได้เพียงเท่านั้น ลำคอกลับมีเลือดพุ่งออกมามากมาย โดยมิได้ถูกตัวหยวนฟางสักนิด ความเร็วดุจสายลมทำให้ร่างสูงออกมายืนอยู่ห่างพอสมควรโดยในมือมีบางสิ่งติดมาด้วย ก่อนที่ชายหนุ่มจะกางมือออก สิ่งนั้นจึงร่วงลงสู่พื้นดิน“คิดจะกลืนกินคนของข้า มิเจียมตน สกุลโม่หรือไร้เมตตา หึ! ไม่คิดบ้างหรือว่ากว่าจะทำให้แผ่นดินนี้เป็นปึกแผ่นได้ คนสกุลโม่ต้องแลกมาด้วยสิ่งใดบ้าง เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนทั้งแคว้นเอาไว้ ปู่ข้าต้องตายเพื่อปกป้องขอทานเพียงคนเดียว เพราะนั่นคือประชาชนของพระองค์ แล้วพวกเจ้าตายเพื่อปกป้องใครบ้าง”หนึ่งในคนร้ายถึงกับตาค้าง เพราะสิ่งที่ร่วงจากมือของโม่หยวนฟาง มันคือหลอดลมของชายชุดดำ คนร้ายที่ยังมีลมหายใจอยู่เพียงหนึ่งถึงกับตัวสั่นงันงก ด้วยความหวาดกลัว คนแรกว่าอำมหิตแล้ว แต่อ๋องน้อยผู้นี้มันปีศาจชัด ๆ ชายชุดดำขยับตัวหวังจะหลบหนีฉึก! ร่างสูงของคนร้ายทรุดลงกับพื้นก่อนจะทันได้ก้าวขา“คิดจะแทงข้างหลัง! คนเช่นโม่หยวนฟาง เจ้าควรคิดให้ดีก่อน”หากมีผู้ใดมาได้ยินคำพูดของโม่หยวนฟางคงอยากตายไปสักพันครั้ง คนร้ายคิดหนี แต่ท่านอ๋องน้อยกลับกล

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่72.เจ้ามันปีศาจ

    “จะบุรุษหรือสตรี หากรู้จักการพลิกแพลงสถานการณ์ มิใช่เรื่องยากที่จะคว้าชัยในสนามรบ อ๊ะ!”โม่ฟางเล่อหมุนกายออกห่างจากคู่ต่อสู้ เมื่อรับรู้ถึงการจู่โจมจากทางด้านหลัง แม้จะเพียงเฉียดผ่าน ทว่ากระบี่ของศัตรูก็ได้ดื่มเลือดของนางเสียแล้ว โม่ฟางเล่อกลับมิได้สนใจบาดแผล หญิงสาวรีบล้วงขวดหยกใบเล็กออกมาจากอก ก่อนจะรีบกลืนสิ่งที่อยู่ในขวดลงไปอย่างรวดเร็ว นางยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องพิษ แต่การป้องกันเอาไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ผู้เป็นอาจารย์คอยกำชับและย้ำเตือนนางอยู่บ่อยครั้ง“การที่มั่นใจเกินไป มันก็มิใช่สิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่รึท่านหญิงโม่ ฮา ๆ”“สุนัขก็ยังเป็นสุนัขอยู่วันยังค่ำ ต่อให้พยายามทำตัวดั่งราชสีห์ เจ้าก็มิอาจเป็นได้ดั่งใจหมาย”จากรอยยิ้มกลับกลายเป็นใบหน้าบึ้งตึงด้วยความขุ่นเคืองใจกับคำพูดของหญิงสาว“หลีกไป ข้าจะจัดการนางด้วยตนเอง”เชี่ยหยาโถวคว้าแขนของผู้คุ้มกันออกจากการบังเขาจากหญิงสาวตรงหน้า เขาถูกสตรีอ่อนแอหยามเกียรติจนไม่เหลือชิ้นดี อย่างไรเสียวันนี้ เขาจะพิสูจน์ให้นางได้เห็นว่าคำพูดพล่อย ๆ ของสตรีเช่นนางนั้นมิใช่ความจริง“มาจบเรื่องกันเถอะ คุณชาย อย่าถ่วงเวลาพวกข้าให้มากไปกว่านี้อีกเลย”มือบางใช

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่71. เพียงครู่เดียว

    คล้อยหลังโม่หยวนฟางไปเพียงครู่เดียว ร่างสูงของชายหนุ่มในชุดสีขาวได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของคนที่กำลังสั่นระริกไปทั้งร่างด้วยความรู้สึกอันหลากหลายที่ถาโถมเข้ามา เขาพ่ายแพ้ได้อย่างน่าอับอายเป็นที่สุด การต่อสู้เพียงแค่เวลาสั้น ๆ เขากลับกลายเป็นคนพิการ และรอเพียงเวลาถูกลงทัณฑ์จากผู้เป็นนายที่แท้จริง“หึ ๆ คนเก่งของท่านพ่อ ไยตอนนี้ถึงกลายมาเป็นเพียงคนไร้ค่าเช่นนี้ เจ้าก็ดีแต่ปาก หลงเป่า”“คนที่ดีแต่ปาก ข้าว่าน่าจะเป็นเจ้ามากกว่า หึ ๆ นึกว่าผู้ใดกัน แท้จริงก็เป็นคุณชายขี้โรคจากสกุลเชี่ยนี่เอง เชี่ยหยาโถว”ขวับ! ชายหนุ่มในชุดสีขาว หันกลับไปตามเสียงในทันที ทว่ากลับไร้วี่แววของเจ้าของเสียง ก่อนจะหันกลับมายังร่างของหลงเป่าที่ตอนนี้ถูกจับตัวเอาไว้โดยโม่หยวนฟาง“เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เห็นทีคงมิอาจปล่อยท่านอ๋องน้อยให้มีลมหายใจต่อไปไม่ได้แล้วสินะ”“ฮา ๆ ปล่อยให้ข้ามีลมหายใจรึ ช่างกล้าพูดนะ คุณชายเชี่ย เจ้าไม่ใช่ตั้งใจจะกำจัดข้าอยู่ก่อนแล้วหรืออย่างไรกัน คนที่ขี้ขลาดแท้จริงคือตัวเจ้า อย่าได้โทษใครอื่นอีกเลย”“อย่าพูดให้มากความท่านอ๋องน้อย ข้ามาถึงขนาดนี้ย่อมต้องมีของพิเศษรอต้อนรับท่านอ๋องอยู่ก่อนแล

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่70.อย่าแตกตื่นไป

    คนชุดดำไถลตัวลงมาจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว พร้อมกระบี่ยาวชี้ตรงสู่กลางศีรษะของเมี่ยวจ้าน แม้จะสวมหมวกเอาไว้ แต่ทว่า ประสาทสัมผัสของนางนั้นเป็นเลิศมิแพ้ฝีมือเลยแม้แต่น้อย แส้ทองถูกสะบัดฟาด ไปด้านบนศีรษะด้วยกำลังภายในอันมหาศาลร่างของชายชุดดำที่กำลังคิดจะปลิดชีวิตของหญิงสาว มิอาจหลบได้ทัน ด้วยความเร็วที่ไม่ทันได้คาดคิดว่าจะถูกตอบโต้อย่างกะทันหันเช่นนี้ สำหรับเมี่ยวจ้านแล้ว นางไม่จำเป็นต้องมองขึ้นไปเลยด้วยซ้ำตุบ! ร่างของคนร้ายตกกระแทกพื้น โดยที่ศีรษะตกกลิ้งหลุน ๆ ไปอีกทาง ตอนนี้ธนูถูกวางลง อาวุธประจำกายถูกนำออกมาใช้แทน ทุกอย่างต้องทำให้เร็ว ด้วยจำนวนคนของฝ่ายนางมีน้อยกว่า ดังนั้นจำต้องจบทุกอย่างให้เร็ว หากยืดเยื้อมากไปกว่านี้รังแต่จะเสียเปรียบมากกว่าจะคว้าชัยมาอย่างปลอดภัย“ท่านเมี่ยวจ้าน”“อย่าแตกตื่นไป ท่านพี่ม่อตู เมี่ยวจ้านมิใช่เด็กน้อยแล้วนะ”ฟึบ!ม่อตูสะบัดผ้าคลุมกันอาวุธลับเพื่อมิให้ต้องกายผู้เป็นนาย ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของนายสาวของตนเอง สำหรับเขาแล้ว องค์หญิงเมี่ยวจ้านคือน้องสาวตัวน้อยที่เขาเฝ้าปกป้องมานับตั้งแต่พบเจอกัน เมื่อนางยังเป็นเพียงทารกจนเติบโตขึ้นมาเป็นผู้

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่69.จบปัญหา

    ‘โดยเฉพาะเจ้า โม่หยวนฟาง ข้าจะต้องทำให้เจ้าก้มหัวแทบเท้าข้าให้จงได้’โม่หยวนฟางซึ่งเบนหัวม้าให้ตนเองถอยกับมารั้งท้ายทุกคน โดยมีคนสนิทเคียงข้างกายอยู่เพียงสองคน ทั้งสามไม่เอ่ยวาจาใด ๆ ต่อกันแม้แต่ครึ่งคำ ทว่าแค่เพียงสบตาพวกเขาก็รู้ดีว่าต้องทำสิ่งใดชายหนุ่มมั่นใจในตัวของสหายรักว่าจะปกป้องน้องสาวของเขาได้เป็นอย่างดี โม่ฟางเล่อเล่อทำสิ่งที่ควรได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะพลาดพลั้งก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือการระวังหลังซึ่งเขามั่นใจว่าสองสาวคงต้องการให้เป็นเขาที่ทำหน้าที่นี้แทนโม่หยวนฟางแอบชำเลืองมองไปยังคนรักของตนที่อยู่อีกฝั่งของถนน โดยมีองครักษ์คู่ใจของนางคอยประกอบข้างมิห่างกาย ชายหนุ่มทั้งห้าผู้มาจากจิ้งหนาน ซึ่งมีหัวหน้าองครักษ์ม่อตูเป็นผู้เอ่ยปากขอติดตามนายของตนมา มิเช่นนั้นจำต้องใช้อำนาจที่มีนำตัวหญิงสาวกลับสู่แคว้นในทันทีแต่ทว่าเวลาเช่นนี้ เขากลับรู้สึกอุ่นใจอย่างไรไม่รู้ที่มีคนคอยปกป้องนางเมื่อยามต้องเจอศึกที่มิอาจคาดเดาได้ว่าจะมีโอกาสรอดมากน้อยเพียงใด“ข้าอีกแล้ว ไยต้องมาลงที่ชายหนุ่มผู้น่ารักเช่นข้าตลอดเลย”เสมือนว่าคำพูดของโม่หยวนฟางเป็นการเปิดศึกในครั้งนี้ก็มิปาน เพียงจบคำพ

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่68.อีกเส้นทางสู่เมืองหลวง

    ส่วนด้านนอกรถม้า สองแม่ทัพสกุลหยางแทบไร้การพูดคุยกันเช่นในอดีต หยางซานซินยังคงทำตัวเป็นปกติ ทว่า สิ่งที่แตกต่างก็ฉายชัดออกมาอยู่นั่นเอง เมื่อเขาดูจะไม่ใยดีบุตรชายซึ่งอยู่บนหลังอาชาเคียงข้างเขาอยู่ในขณะนี้ฝั่งหยางซานหลางก็ไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย จากคนที่นิ่งขรึมมาตลอด บัดนี้เรียกได้ว่าตลอดทั้งร่างของชายหนุ่มนั้นปลดปล่อยแต่เพียงรังสีแห่งการฆ่าฟัน ซึ่งแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนหน้าที่ชายหนุ่มจะเก็บงำทุกอย่างเอาไว้ มิแสดงตัวตนของเขาออกมาให้ผู้อื่นได้รับรู้มากถึงเพียงนี้แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงของแม่ทัพทั้งสองจะสร้างความแปลกใจให้แก่ผู้ติดตามทั้งหมด ทว่าก็ไร้ซึ่งคำถามจากทุกคน เพราะถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้นำ“ซานหลาง เจ้าจงเว้นระยะห่างกับพระนางกุ้ยเฟยให้มากขึ้นอีกสักหน่อยก็ดีนะ”แม้จะเป็นคำพูดที่ดูเรียบง่าย แต่กลับแฝงความนัยที่ทำให้ผู้ฟังขุ่นเคืองใจอยู่มากทีเดียว หยางซานหลางชำเลืองมองผู้ที่บัดนี้เขาต้องเรียกว่าบิดาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองตรง ๆ ตามเส้นทางอันยาวเหยียดพร้อมรอยยิ้มยังมุมปาก“ขอรับท่านพ่อ แต่ถ้าจะให้ดี ท่านพ่อเองก็ควรระวังใจของตนเองเอาไว้ให้มากเช่นกัน

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่67. คำว่าแพ้

    ‘คำว่าแพ้มีให้แก่คนอ่อนแอเท่านั้น และมันมิใช่ข้า’“ทูลพระนางเต๋อเฟย ลู่กงกงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”กั๋วเต๋อเฟยเหลือบขึ้นมองคนสนิท ก่อนจะพยักหน้าให้กับอี้ถิง หญิงสาวย่อกายให้แก่ผู้เป็นนาย ก่อนจะหมุนกายออกไปยังห้องด้านนอก เพื่อทำตามประสงค์ของเจ้าของตำหนักเมื่อมีผู้มาเยือน การเดินหมากของนางก็จำต้องยุติลง มือวางสะบัดมือเพียงครั้ง ผ้าผืนบางที่วางอยู่บนโต๊ะได้ปลิวสะบัดก่อนจะคลุมลงยังกระดานหมากบนโต๊ะ เสมือนมีคนจับวางก็มิปาน ร่างระหงลุกขึ้นก้าวเดินออกไปยังห้องรับรองชั้นนอกลู่กงกงรีบโค้งกายลงต่ำ เมื่อเจ้าของตำหนักเดินนวยนาดออกมาจากหลังม่านไข่มุก“ลู่เฟย ถวายบังคมพระนางเต๋อเฟยพ่ะย่ะค่ะ”“ตามสบายลู่กงกง วันนี้มาพบข้า ท่านคงมีเรื่องสำคัญเป็นแน่ ว่ามาเถิด”“ทูลพระนาง กระหม่อมนำพระบัญชาของฝ่าบาทมาแจ้งแก่พระนางพ่ะย่ะค่ะ”“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งถึงข้ารึ”ใบหน้างามซับสีเลือดในทันที เมื่อนึกถึงบุรุษผู้องอาจผู้เป็นพระสวามีของนาง แม้ทรงมีพระชนม์มายุมากแล้ว ทว่ากลับยังคงความหล่อเหล่าเฉกเช่นวัยหนุ่มสาวก็มิปาน จากแต่เดิมที่นางท่องจำว่าเพราะหน้าที่กับการสมรสในต่างแดนครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่านางปรารถนาที่จะเคียงคู่

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม2   ตอนที่66. บุรุษในชุดมังกร

    วังหลวงบุรุษในชุดมังกรเดินวนไปมาเสมือนพยัคฆ์ติดบ่วง โดยมีร่างงามของสตรีในชุดสีแดงเพลิงปักลวดลายหงส์นั่งมองคนที่เดินไปมาด้วยความนึกขัน“จะทรงเดินอีกนานรึไม่เพคะ ฝ่าบาท”“จะให้ข้านิ่งนอนใจได้อย่างไรกันฮองเฮา ผู้อาวุโสมิรู้พากันสนุกสนานอยู่ที่ใดกัน ตอนนี้ กองทัพเคลื่อนพลสู่เมืองหลวงด้วยวิธีที่แยบยลนัก หึ ๆ เป็นข้าเอง ผิดที่ข้าฮองเฮา ข้าชักนำศึกเข้าเมืองเร็วเกินไป”ร่างสูงก้าวไปนั่งยังเก้าอี้ข้างฮองเฮา โดยที่พระนางยังคงสนใจในตำราหลังจากอีกฝ่ายนั่งลง“หากเป็นท่านผู้อาวุโสก็จะทำเช่นพระองค์เพคะ อย่าทรงโทษพระองค์เองไปเลยเพคะ ไม่ว่าอย่างไร คนพวกนั้นก็ต้องเคลื่อนไหวอยู่ดี การเดินเกมในบางครั้ง การปล่อยให้ศัตรูล่วงล้ำเข้ามาบ้างก็อาจเป็นผลดี”“ข้าไม่ถัดการวางแผนเช่นเจ้านี่ ภรรยาข้า หึ ๆ”“แต่ทรงเป็นนักรักที่เก่งกาจใช่ไหมเพคะ”“ฮา ๆ วางใจเถอะฮองเฮา จะไม่มีสตรีใดมาแทนที่เจ้าได้”เมื่อรู้ว่ามีผู้มาเยือนได้ก้าวเข้าสู่ห้องชั้นนอก สองสามีภรรยาจึงได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นหยอกล้อกันแทนห้องโถงรับรอง ตำหนักเหลียน“ลู่กงกง ท่านมาตามหาฝ่าบาทหรือเจ้าคะ”“เชียงเชียง เจ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก ฝ่าบาททรงมาแอบอยู่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status