ตอนที่ 9 เพราะว่าผมชอบ
" ไม่!!!" ^-^
สิ้นเสียงที่เขาตอบกลับมา มันทำให้สติที่ฉันมีเริ่มขาด ฉันเอามือปาดน้ำตาบนหน้า แล้วจ้องเขาเขม็ง ความโมโหจนหน้ามืด ทำให้ฉันจะพูดในสิ่งที่จะทำให้ฉันรอด นั่นคือการพึ่งพากฎหมาย!!
" ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องงั้นฉันจะแจ้งความจะแจ้งให้หมดเลยทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ฉันจะแจ้งความจริงๆ นะ" ฉันขู่
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสบายๆ
ขำบ้าอะไรว่ะ ฉันจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง
" กฎหมายหรอ ทั้งกฎหมายทั้งคน ผมซื้อมันไว้หมดแล้ว ขอแค่ผมสั่งกฎหมายก็สามารถเปลี่ยนได้ และอีกอย่าง ข่มขืนหรอ ผมว่า ที่ร่างกายคุณมันตอบสนองต่อการกระทำของผม ผมไม่เรียกว่าข่มขืนนะ"
(*O*) ช็อกสิคะ
" บ้า...เรื่องบ้าบออะไร คุณไม่ต้องมาโกหกฉันนะ คุณเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนหรอถึงจะมาอยู่เหนือกฎหมายได้ อยากจะหัวเราะ ไม่มีอะไรจะมาขู่แล้วหรือไง ตลกสิ้นดี" ฉันกัดปากเถียงออกไป และถึงปากจะเถียงไปแบบนั้นแต่ใจก็แอบหวั่นๆ หวังว่าเขาคงไม่ใช่....คนที่ฉันคิดนะ......
" ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าผมเป็นใคร"
ฉันเม้มปากรอคำตอบมือทั้งสองข้างกำผ้าห่อตัวไว้แน่น ดวงตากลมโตเริ่มสั่น น้ำตาที่แห้งเหือดไปเมื่อครู่ เริ่มคลอออกมาอีกครั้ง เพื่อรอเวลาปลดปล่อย
“ผมชื่อ....เซบาสเธีย ธิพัฒน์เดชะไพศาล”
*0* ฉันถึงกับช็อกต่อสิ่งที่ได้ยิน น้ำตาฉันไหลเหมือนสั่งได้ สิ่งที่ฉันกลัวและกังวลที่สุดมันคือความจริง
เป็นเขาจริงๆ
เขาคือคนนั้น....คนที่มีทั้งเงิน อำนาจ บารมี ชื่อเสียง ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริง ความรวยเบอร์หนึ่งของประเทศ เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง SBTeir Corporate ที่ครอบคลุมไปทั่วโลก และยิ่งข่าวซุบซิบที่ฉันได้ยินมาเขามีทั้งธุรกิจเบื้องหน้าและธุรกิจสีเทาเบื้องหลัง ถึงทำให้เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลขนาดนี้ ทั้งยังเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลายคนพยายามไขว่คว้าให้ได้มาเคียงกาย แม้แค่ข้ามคืนก็ยังดี แล้วฉันจะทำยังไงดี ทำไมไม่เหมือนที่ฉันคิดไว้ ว่าพวกไฮโซ คนรวย น่าจะพอใจกับความสัมพันธ์แค่คืนเดียวนี่ แล้วทำไมเขาถึงไม่ยอม....ปล่อยฉัน
“มะ...ไม่จริง คุณโกหก” ฉันเอ่ยเสียงสั่น
“ทำไมผมต้องโกหกคุณด้วย ผมรู้นะว่าตัวเองดังในแวดวงสังคม คุณไม่คุ้นหน้าผมเลยหรือไง” เขาเอ่ยเย้ยหยัน
“กะ..ก็ฉันไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกับคุณสักหน่อย ชื่อคุณนะฉันรู้ว่าเป็นใคร แต่หน้าตาฉันก็แค่เคยผ่านตามาบ้างก็เท่านั้น แทบจะไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ” ฉันบอกตามความจริง ฉันไม่ได้สนใจสังคมไฮโซเท่าไร
“ผ่านตา..คุณกล้ามากนะ” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความขุ่นเคือง นี่เขาเป็นแค่คนเคยผ่านตาของเธอเองนะหรอ เขาเนี้ย คือผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ เธอจะมาดูถูกเขาแบบนี้ไม่ได้ เธอต้องได้รับบทเรียน!!
เขาก้าวเท้าเข้ามาหาฉันที่นั่งกองอยู่ที่พื้นหน้าประตู พร้อมสายตาที่ดูจะมีความขุ่นเคืองอยู่ในนั้น เขาก้มลงมาอุ้มฉันในท่าเจ้าสาว ฉันที่อยู่ในห่อผ้าห่มพยายามดิ้นไม่ให้เขาทำอะไรฉันได้อีก แต่เหมือนสิ่งที่ฉันทำมันจะสูญเปล่า เขาอุ้มฉันตัวลอยแล้วเดินไปยังที่นอน พร้อมโยนฉันลงแล้วโถมตัวทับฉันไว้ไม่ให้ดิ้นหนี้จากร่างอันแข็งแกร่งของเขาได้
“คะ..คุณเซฟ คุณจะทำอะไรฉันค่ะ” ฉันดิ้นดุ๊กดิ๊กภายใต้ร่างของเขา
“แล้วคุณคิดว่าผมควรทำอะไรดีล่ะ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ขณะที่พูดจมูกก็ไล่ดมตามแก้มฉัน ส่วนมือก็พยายามดึงผ้าห่มที่คลุมกายฉันออก
“อย่านะ..อย่าคิดจะทำอะไรแบบนั้นอีกนะคะ สัญญาของเรามันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” ฉันเอ่ย พร้อมรั้งผ้าห่ม ประการด่านสุดท้ายไว้อย่างสุดกำลัง
“แต่สัญญาของผมยังไม่จบ”
“ขอตกลงใหม่ของผมก็คือใน 1 เดือน ระหว่างรอผลคุณต้องอยู่กับผมที่นี่ ที่เพนท์เฮ้าส์นี้”
“ทำไมฉันต้องทำตาม” ฉันเชิดหน้าใส่ เอ่ยด้วยความโมโหและไม่เข้าใจ
“เพราะนั้นคือความต้องการของผม” เขาเอ่ยอย่างคนเอาแต่ใจ
“ฉันขอเหตุผลที่สมควรมากกว่านี้ ฉันควรมีสิทธิ์ได้ตัดสินใจบ้าง ทีเมื่อคืนฉันยังถามความคิดเห็นคุณเลยนะ” ฉันอ้างกับเขาถึงเรื่องเมื่อคืนที่เราตกลงเล่นเกมบ้าๆ นั้น ฉันก็ยังถามความคิดเห็นเขาก่อนเลย
ให้ตายเหอะ!!...หลังจากนี้ฉันสาบานเลยว่าจะไม่แตะต้องของมึนเมาอีกแล้ว เมารอบนี้เสียซิง ถ้าเมารอบหน้าจะเสียอะไรก็ไม่รู้..คิดแล้วสยอง
“อย่างที่บอก ผมไม่ชอบคนผิดสัญญา คนโกหก การที่คุณอยู่ที่นี่มันทำให้คุณอยู่ในสายตาของผมตลอด ผมเป็นคนชอบเล่นเกม แล้วเกมนี้มันสนุกจนผมตื่นเต้นทุกขณะจริงๆ และคุณรู้อะไรไหมผมไม่เคยเล่นเกมแพ้!!” เขาพูดอย่างมั่นใจ
“หมายความว่ายังไง ไม่เคยเล่นเกมแพ้” ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัย
“ก็หมายความอย่างที่พูด” เขาเลิ่กคิ้วเข้มเชิงล้อเลียน
“คุณต้องพูดให้เคลีย์นะ ถ้าการที่คุณชนะ มันแปลว่าฉันต้องท้องหรือเปล่า?” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างรอคำตอบ
เขาเงียบ---
“นี่คุณเซฟ ฉันถามว่า การที่คุณชนะ มันแปลว่าฉันต้องท้องหรือเปล่า?” ฉันย้ำกับเขาอีกรอบ
“ผมว่า ก่อนที่คุณจะสนใจคำตอบของผม คุณสนใจร่างกายตัวเองก่อนไหม ว่าตอนนี้มันเริ่มตอบสนองผมอีกแล้ว” เขาส่งเสียงยียวนเจือปนไปด้วยความเจ้าเล่ห์
ห๊ะ!! ฉันมองหน้าเขาด้วยความสงสัยในสิ่งที่เขาพูด เพราะว่าฉันกำลังรอคำตอบจากเขา ในขณะที่เขาก็ไม่ตอบ แถมยังเฉไฉไปเรื่องอื่น ฉันจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น ก่อนที่เขาจะทำหน้าพยักพเยิด ให้ฉันมองร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเอง
“ว๊ายยยยยยย ผ้าห่มฉัน” ฉันกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เขาหัวเราะอย่างสะใจ
“ขำบ้าอะไร ห๊ะ ไอ้คนฉวยโอกาส” ฉันสบถ มือก็ทุบอกแกร่งเขา อย่างแรง
“ผมนี่นะฉวยโอกาส คุณเอาแต่จ้องมองมาที่หน้าผม ผมก็นึกว่าคุณ....ชอบ ฮ่าๆๆๆ” เขายังคงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ที่ได้รังแกฉัน
“ชอบบ้าบออะไร ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ แล้วก็เอาผ้าห่มคืนมาด้วย” ฉันกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจในการกระทำของเขา
(ไอ้บ้านี่ มือไวชะมัด)
“คุณมั่นใจหรอจะให้ผมลุกน่ะ ร่างกายคุณมันไม่บอกแบบนั้นเลย แต่ว่าาาา ความจริงผมก็ลุกแล้วนะ...” เขากลั้วหัวเราะในลำคอ พร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาที่ฉัน
“ลุกออกไปเลยนะ...ไอ้บ้า ร่างกายของฉัน ฉันรู้ดี..หึ” ฉันยังคงยืนยันหนักแน่น เพราะฉันรู้ตัวเองดี...
(รู้ดีจริงแหละว่าถ้าเขายังอยู่บนร่างฉันนานกว่านี้ การไปจากที่นี่คงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีกแน่นอน สงบใจไว้ยัยเอลิซ)
“ผมจะลุก ก็ต่อเมื่อคุณพูดดีๆ กับผมและแทนตัวเองว่า...เอลิซ...เหมือนเดิม เหมือนเมื่อคืน...ได้ไหม” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม สายตาคมเข้มมีเสน่ห์ จ้องมองมาที่ฉันอย่างรอคำตอบ
“ทำไม ฉันต้องทำด้วย” เมื่อเขากวนมา ฉันก็อยากจะกวนกลับบ้าง
“ก็เพราะว่าผม...ชอบ” ^-^
ตอนที่ 10 หมายถึงทั้งตัวเขากระซิบเสียงทุ้มที่ข้างหู ลมหายใจรดลงมาจนทำให้ขนลุกความรู้สึกแปลกๆ เริ่มก่อตัวอีกครั้ง แต่ฉันจะทำให้มันเกิดขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตอบอะไรออกไป ฉันควรที่จะต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดออกไป ฉันถอนหายใจแล้วตอบเขากลับไป“เฮ้อออออ คุณเซฟเจ้าค่ะ ได้โปรดลุกออกไปจากตัวดิฉัน เอ๊ย เอลิซ ด้วยค่ะ” ฉันเอ่ยอย่างคนไม่สบอารมณ์“คุณกำลังทำให้ผมไม่พอใจ แล้วถ้าผมไม่พอใจ ผมก็จะ...” ขณะที่เขาพูด มือของเขาก็ลูบไล้ที่ต้นขาของฉัน จนฉันสะดุ้ง“ขะ..ขอโทษค่ะ คุณเซฟขาาาา ลุกเถอะนะคะ เอลิซ อยากไปเข้าห้องน้ำค่ะ” ฉันส่งสายตาที่คิดว่าหวานหยาดเยิ้มที่สุดให้เขาแต่หารู้ไม่!!!“ยิ่งคุณทำแบบนี้ผมยิ่งไม่อยากลุกเลย...เรามาเล่นเกมสนุกๆ เหมือนเมื่อคืนกันดีกว่าไหม” เขาพูด พร้อมก้มลงจูบที่ซอกคอของฉันฉันตกใจกับสิ่งที่เขาทำ ฉันพยายามดิ้นหนีแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้ร่างของเราทั้งสองเสียดสีบดขยี้เพิ่มความสยิวกันเสียมากกว่า“เอ๊ะ คุณนี่ยังไงกัน ฉันพูดดีก็แล้ว อะไรก็แล้ว จะมาเจ้าเล่ห์อะไรใส่ฉันอีก หึ” ฉันโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกสุดจะทน“ฮ่าๆๆๆ โอเคๆๆ ผมขอโทษ ผมลุกแล้
ตอนที่ 11 (NC) ด้วยตัวเองหน้าฉันร้อนผ่าวด้วยความอาย เลือดฝาดแดงกระจายจากแก้มไปถึงใบหูตัวฉันดีดขึ้นอัตโนมัติ ฉันไม่ยอมทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกแน่ แต่เหมือนว่าคุณเซฟเขาจะไวกว่าฉันมาก ไม่ทันที่ฉันจะลุกขึ้น เขาก็ใช้สองมือจับที่เอวคอดของฉันแล้วยกตัวฉันลอยขึ้นไปนั่งคร่อมที่ตัวเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“ว๊ายยย ปล่อยยยย ปล่อยฉันนะ” ฉันทั้งดิ้น ทั้งโวยวายแต่ยิ่งดิ้น มันยิ่งเหมือนปลุกเร้าท่อนเอ็นยักษ์ให้ตื่นจากการหลับใหลให้เร็วขึ้น เพราะฉันสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่กำลังผงาดขึ้นมาเสียดสีช่องทางรักของฉันอยู่“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวจะไม่ได้คุยนะ” เขาเอ่ยเสียงกระเส่า มุมปากกระตุกอย่างคนเจ้าเล่ห์“คะ..คุณเซฟก็ปล่อยเอลิซลงสิคะ” ฉันพูดตะกุกตะกักอ้อนวอน“ก็คุยมาสิ” ^-^ เขายังคงนิ่งเฉย และทั้งสองมือก็ยังคงตรึงอยู่ที่เอวของฉันฉันหยุดดิ้นแล้ว แต่ท่อนเอ็นของเขากลับยังไม่หยุดขยับ มันยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก เสียดสีหยอกล้อกับร่องสวาทของฉันผ่านแพนตี้บางตัวจิ๋ว“กะ...ก็...คะ...คุณเซฟฟฟฟ...อือออ” ฉันเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ผลจากการเสียดสีที่ชวนสยิวตรงจุดกึ่งกลางของเราทั้งสอง มันกำลังทำให้ฉันสติกระเจิดกระเจิง“ก็....อะไร...
ตอนที่ 12 ไม่มีความรัก“ห๊ะ....ว่าไงนะ!!!” ฉันตะโกนด้วยความตกใจถึงจะเกลียดพวกมันอยู่มาก แต่ฉันก็อดตกใจไม่ได้“หมอบอกว่าอาการ 50:50 ถ้ารอดก็อาจจะพิการ” ชมพู่เอ่ยบอกน้ำเสียงมีความกังวลแม้จะตกใจ แต่ฉันก็สะใจที่มันโดนแบบนี้ สงสัยไปทำชั่วไว้เยอะ“ส่วนฉัน..ฉันก็โดนตบจนสลบ เพิ่งจะฟื้น เลยโทรหาแกนี่แหละ” ชมพูบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองประสบ(ยังมีหน้ามาคิดถึงฉันนะ หน้าด้านยางมะตอยเรียกพี่จริงๆ)“เหอะ...ก็สมควรแล้วนี่ กับสิ่งที่แกได้รับ คงทำชั่วไว้กับหลายคน จนไม่รู้ว่าใครเขามาเอาคืน” หลังจากที่ทนฟังมาได้สักพัก ฉันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องพูดดีกับมันต่อ และไม่มีซึ่งความเห็นใจต่อคนพวกนี้ด้วย“กะ แก ฉะ ฉัน ขอโทษ แต่ตอนนี้แกช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันไม่มีเงินออกจากโรงพยาบาล” ในที่สุดความต้องการที่แท้จริงของชมพู่ก็เปิดเผยออกมา(หึ..สุดยอดความหน้าด้านหน้าทนจริงๆ)“นี่ชมพู่ แกแม่งสุดยอดของความหน้าด้านจริงๆ แกทำเลวกับฉันขนาดไหน แกลืมไปแล้วหรอ ฉันจะบอกให้นะ ต่อให้พวกแกสองคนตายต่อหน้าฉันจริงๆ แม้กระทั่งค่าโทรที่จะเรียกมูลนิธิมาเก็บศพ ฉันยังไม่คิดจะโทรเลย แล้วนับประสาอะไรกับการที่ฉันจะช่วยแกออกจากโรงพยาบาลอ่
ตอนที่ 13 เกือบโดน...ฉันเลือกใส่แค่ชุดชั้นในไม่ได้เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตของเขากับเสื้อผ้าใหม่ เพราะคิดว่าวันนี้ฉันคงไม่ได้ออกไปไหน ก็ขอใส่ที่มันสบายๆ หน่อยแล้วกัน เพราะชุดที่มาส่งมีแต่แนวออกงาน ไม่มีตัวไหนที่ดูแล้วใส่สบายเลย ฉันเลือกชุดชั้นในสีดำ เพราะตัวนี้ดูเรียบร้อยสุดแล้ว ถึงจะเป็นตาข่ายที่โชว์เนื้อสาวอวบอูมทั้งบนทั้งล่างให้เด่น แต่ยังมีส่วนที่หนาพอที่จะปกปิดได้บ้าง เสร็จแล้วฉันก็เดินลงมา พนักงาน และ ป้าเสริมกลับไปกันหมดแล้ว เหลือแค่ลูกน้องคนสนิทของคุณเซฟเท่านั้นฉันลูบท้องปรอย ๆ เพราะเริ่มหิวแล้ว เลยเอ่ยกับเขาว่า ~~“คุณเซฟค่ะ เอลิซหิว” ฉันบอกเขา แต่เขายังคงสนใจแล็ปท็อปในมือเขาอยู่“คุณเซฟค่ะ เอลิซหิวแล้วค่ะ” ฉันเดินเข้าไปหยุดที่หน้าเขา แล้วก้มหน้าเอียงคอเพื่อมองหน้าเขา แล้วเอ่ยย้ำอีกครั้งเนื่องจากเสื้อผ้าของเขาไซซ์มันใหญ่เกินไปสำหรับฉัน จึงทำให้คอเสื้อมันร่นลงมาจนแทบจะปิดหน้าอกไม่มิด พอฉันก้มมันก็ทำให้คอเสื้อเปิดกว้าง จนมองเข้าไปเห็นทั้งเรือนร่างของฉันจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็ประจวบกับระดับสายตาของเขาพอดี ทำให้เขามองเข้ามาในเสื้อเชิ้ตที่เผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนเนินอวบอิ่ม ยั
ตอนที่ 14 ผมจะนอนด้วย‘ทุกคืน’ณ เพนท์เฮ้าส์ติ๊ด ~~~~ แกร๊กเพราะสินค้ามีปัญหานิดหน่อยเลยทำให้ผมต้องกลับดึก ทั้งที่ใจผมมันร่ำร้องที่จะกลับทุกวินาที ขณะที่เดินเข้ามาผมสงสัยว่า ทำไมบรรยากาศถึงได้เงียบเชียบอย่างนี้ เอ๊ะ หรือเธอจะหนีไปแล้ว พอคิดได้แบบนั้นแล้วใจผมก็เริ่มร้อนรน และก่อนที่ผมจะได้แหกปากตะโกนเรียกลูกน้องหน้าห้องมาคิดบัญชีที่ปล่อยให้เธอหนีไป ผมก็ฉุกคิดได้ว่า เธอไม่ได้หนีไป ไม่ใช่แน่นอน เพราะลูกน้องที่อยู่หน้าห้องก็ไม่ได้รายงานอะไรเลย นี่ผมเป็นหนักขนาดนี้เลยหรือ ผมได้แต่หัวเราะให้กับตัวเองกับความบ้าคลั่งที่มีต่อเธอผมเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณห้องโถง ไฟที่ไม่ได้เปิดทำให้ไม่เห็นว่ามีร่างบางนุ่มนิ่มนอนตะแคงขดตัวหายใจสม่ำเสมออยู่บนโซฟา เธอยังอยู่ผมลอบดีใจ เธอไม่ได้หนีผมไปไหน ใบหน้าคมระบายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวแสงจันทร์ที่ส่องผ่านกระจกเข้ามากระทบใบหน้านวลเนียนใสไร้สิ่งแต่งเติม มันยิ่งทำให้เธอน่าหลงใหลเข้าไปอีก เธอสวยเหลือเกิน.....เธอยังคงไม่รู้สึกตัว ผมนั่งมองเธอสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ช้อนร่างบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ตัวเธอนุ่มนิ่ม หอมกรุ่น แค่ได้ใกล้ได้สัมผัส ผมก็แทบไม่เป็นตัวของ
ตอนที่ 15 แอบทำลับหลัง ฉันนั่งร้องไห้อยู่แบบนั้นนานเท่าไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ป้าเสริมมาเคาะประตูเรียก~~~~ ก๊อก ก๊อก ก๊อก~~~~“คุณเอลิซค่ะ คุณเอลิซ” ป้าเสริมเอ่ยเรียก“ค่ะป้า” ฉันฝืนตอบกลับไป“เป็นอะไรไหมคะ” ป้าเสริมยังคงถามด้วยความเป็นห่วง“เอลิซไม่เป็นไรค่ะป้า เอลิซขออาบน้ำก่อนนะคะ” ฉันตอบกลับป้าเสริมไปเพราะไม่อยากให้แกเป็นห่วง“ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรเรียกป้าได้ตลอดเลยนะคะ” ป้าเสริมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เพราะแกรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวคนนี้ฉันหยุดร้องไห้แล้วลงจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเพื่อไปอาบน้ำ ระหว่างที่อาบน้ำฉันได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี ถ้าเขาทำแบบนั้นอีกฉันจะทนได้ไหม ถ้าเขาสัมผัสฉันอีกฉันจะร้องไห้เหมือนเมื่อกี้นี้ไหม ฉันไม่ได้เกลียดที่เขาสัมผัสตัวฉันเลยนะ แต่ฉันเกลียดตัวเองที่ร่างกายมันคอยจะตอบสนองเขา จนฉันกลัว กลัวว่าตัวเองจะถลำลึกจนไม่อาจถอนตัวออกมาได้ กลัวว่าถ้าฉันชินกับการที่มีเขา แล้วเขาหายไป ฉันจะทำยังไง ฉันกลัวใจของตัวเอง และฉันยังเข็ดขยาดกับความรักหลังจากที่ฉันได้เจอกับการหักหลังจากรักครั้งก่อนความคิดที่ประเดประดังเข้ามา มันตีกันจนกลายเป็นน้ำตาที่ไหลออกมา และสิ
ตอนที่ 16 บทลงโทษ‘คนทรยศ’“เอลิซ ทำไมคุณทำแบบนี้” เสียงดังก้องกังวาน ทำฉันแทบตาสว่างฉันงัวเงียมองเขาด้วยความมึนงง จากการโดนกระชากขึ้นมาจากที่นอน และโดนตะคอกใส่“อะไรกันค่ะ เอลิซทำอะไร” ฉันยังคงสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไรทำไมเขาถึงดูโกรธขนาดนี้ หรือว่าเขายังโกรธฉันจากเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีกเขามองฉันด้วยสายตาที่ดุดันและน่ากลัวมาก จนทำให้ฉันรู้สึกหวาดผวา ก่อนที่สติฉันจะค่อยๆ กลับมา เขาได้ปาสิ่งหนึ่งมาที่หน้าตักฉัน“นี่มันคืออะไร” เขากดเสียงต่ำ สกัดอารมณ์สุดขีดซองสีน้ำตาลที่ดูคุ้นตาถูกปามาที่หน้าตัก ฉันตาสว่างขึ้นทันที นี่ฉันไม่น่าลืมวางไว้ที่หัวนอนเลยให้ตายเถอะ!!ฉันค่อยๆ หยิบซองนั้นขึ้นมา กำไว้แน่น แน่นอนเขาคงรู้แล้วว่าข้างในนั้นคืออะไร“อธิบายซิ” เขาคาดคั้นเอาคำตอบ“กะ...ก็” ฉันตอบตะกุกตะกัก“ก็...อะไร!!!” น้ำเสียงดุดันตะคอกใส่ฉันฉันสะดุ้งตกใจเสียงตะคอก มือยิ่งกำซองแน่น จนรับรู้ได้ถึงอาการชาที่มือ“ผมถามว่า...ก็อะไร!!!” เขายังคงตะคอกด้วยน้ำเสียงที่ดุดันยิ่งขึ้นตัวฉันสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ดวงตาหลุบต่ำไม่กล้าสบตากับร่างหนาที่ยืนเกรี้ยวกราดอยู่เบื้องหน้า ตอ
ตอนที่ 17 (NC) อย่างบ้าคลั่ง!!เขาถอดเสื้อผ้าออกจนร่างเปลือยเปล่าแล้วคลานขึ้นมาที่เตียงมุ่งตรงมาที่ฉัน ก่อนจะใช้สองมือแกร่งจับไปที่ข้อเท้าของฉันแล้วออกแรงดึง ตัวฉันรูดไปกับที่นอนตามแรงของเขา จากนั้นเขาจับขาฉันอ้าออกเผยให้เห็นกุหลาบงามที่แย้มกลีบสีชมพูอ่อน เขากลืนน้ำลายลงคอ มองมันด้วยสายตาหื่นกระหาย แล้วเอาตัวมาแทรกอยู่ตรงกลางหว่างขา ฉันนอนตัวสั่นหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น“คนที่ทรยศผม มันต้องเจ็บ และนี่คือบทลงโทษที่คุณต้องได้รับ” เมื่อสิ้นเสียงของเขา เขาออกแรงดันเจ้าเอ็นยักษ์เข้ามาที่ร่องสวาทที่แห้งเหือดไร้ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงรวดเดียวพรวด~~~~ กึ๊ด~~~~“กรี๊ดดด / อ๊าาา” เสียงร้องที่พ่นออกมาจากปากของคนทั้งสอง ที่ต่างความรู้สึกกัน“ฮึก..ฮึก..ฮึก” ฉันกัดปากอดทนต่อความเจ็บปวดจากจุดกึ่งกลางที่โดนเสียดสีอย่างรุนแรง“คุณมันทรยศผมเอลิซ คุณมันเห็นคำสัญญาของเราไม่มีความหมาย คุณเห็นผมเป็นตัวตลก” ปั๊ก! ปั๊ก! ตับ! ตับ! เขาพูดพร้อมรัวเอวสอบ กระแทกท่อนเอ็นเข้าร่องสาวอย่างไม่ปรานี โดยที่ไม่มีการเล้าโลมใดๆ“คุณกินยานั้น เพราะหวังว่าจะได้ไม่ท้องกับผม คุณไม่เท่ากับผิดสัญญาข้อตกลงระหว่างเรา แต่เท่ากั
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(3)ผมตัดสินใจเดินลงมาหาเธอ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ๆ แล้วเอ่ยทักทายเธอออกไป..."คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" ผมเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตอบ"ค่ะ ว่าไงคะ" เธอหันมาหาพร้อมตอบรับ ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะตะลึงในความหล่อของผมอยู่เหมือนกัน"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" โอ๊ยคนอะไรยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ขนาดใส่เสื้อผ้ายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าหาก...(ไอ้เสือ...!! ใจเย็นดิว่ะ...หึหึ)"อะ...อะไรนะคะ" เหมือนเธอจะเริ่มเมาแล้ว แต่นั่นก็กลับยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นไปอีก"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" ผมถามโดยที่สายตามจับจ้องไปทั่วร่างของเธอ"ดะ..ได้ค่ะ" เธอตอบตะกุกตะกัก และนั่นมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่น(นี่มันคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ฟ้าเป็นใจใช่หรือเปล่า ~~)"คุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถามเธอออกไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก"คุณครับ ชื่ออะไรครับ" ผมสะกิดเธออีกครั้ง เพราะดูเธอจะเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังที่ผมถาม"ห๊ะ...ว่ายังไงนะคะ"สายตาเย้ายวนเหลือเกิน ทนไว้ไอ้เซฟทนไว้" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถาม
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(2)อีกทั้งวันนี้เธอกำลังฉลองวันครบรอบของเธอกับแฟนของเธออยู่ด้วย...หึ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยามที่เธอเตรียมขอขวัญไปเซอร์ไพรส์ให้มันนั้น ยามที่มันได้รับหน้ามันจะบานเป็นกระด้งขนาดไหน ทั้งที่พวกมันไม่สมควรจะได้รับความปรารถนาดีจากเธอเลยด้วยซ้ำ...!! ผมนึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ใช้ให้ลูกน้องไปคอยตามดูเธอ รวมทั้งไอ้แฟนสารเลวของเธอ แล้วก็...หึ..นังเพื่อนสุดเลวของเธอด้วย ผมมักจะได้รับรายงานถึงสิ่งที่เธอมักจะทำให้พวกมันอยู่เสมอ สิ่งที่ดี ๆ และความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมอบให้พวกมัน ทั้ง ๆ ที่พวกมันต่างทรยศหักหลังเธอ พวกมันไม่สมควรจะได้รับความรักและความใจดีแบบนั้นเลย... “แม่งเอ๊ย...!!” ผมที่สบถลั่นออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำไมผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นถึงได้ครอบครองหัวใจของเธอได้ว่ะ ทำไมกันวะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้วะ...ทำไมไม่เป็นผมวะที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ และทำไมจังหวะชีวิตของเราถึงต้องไม่ตรงกันด้วยวะ.... ผมที่นั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะปาแก้วเหล้าออกไปจนแตกกระจาย ประจวบกับที่ไอ้กิตที่เพิ่งเข้ามาก็ได้เห็นการก
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(1)ครืนนน ~~ เปรี้ยงงง..!! ซ่าาาา ~~เสียงฝนตกฟ้าที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา คล้ายกับว่าหยาดน้ำที่หลั่งรินลงมาจากฟากฟ้าสาดซัดลงมาเพื่อต้องการจะชำระล้างชีวิตของใครบางคนให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...ผมที่นั่งเหม่อลอยมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา บรรยากาศที่ดูจะครื้นเครงสนุกสนานเฮฮา แต่ทว่า...กลับไร้ค่าสำหรับผมเหลือเกิน ผมที่แกว่งไกวแก้วบรั่นดีในมือเพื่อให้น้ำสีอำพันในนั้นโคลงเคลงไปมา ก่อนจะสาดซัดมันให้ลงไปในลำคอ แต่ทว่า...ความร้อนที่เกิดจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพัน กลับสู้ความร้อนรนในใจของผมในตอนนี้ไม่ได้เลยเพราะเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวที่ผมเฝ้าตามหาและปรารถนามาตลอด รักแรกและรักเดียวของผม เธอที่ตอนนี้กำลังมีความสุขอยู่กับคนอื่น...ใช่...วันนี้เป็นวันครบรอบของการเป็นแฟนระหว่างเธอกับ...ไอ้ผู้ชายคนนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ... ~~ผมที่รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ภาพที่ผมได้เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น มันทำให้ผมปวดหนึบไปทั้งก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้าย ภาพที่เหมือนจะตอกย้ำว่าผมจะไม่มีวันได้ครอบครองหัวใจของเธออีกเลย...ย้อนไปก่อนหน้านั้นหลายปี ~~ผ
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(4)งานดำเนินไปพร้อมกับหัวใจของฉันที่ร้อนรุ่ม ฉันที่เฝ้ารอเพื่อให้ถึงเวลาที่จะได้เป่าเค้กเร็ว ๆ เพราะฉันรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาได้ถูกคุณป้าเธียร่าแม่ของเขาบังคับให้ถือเค้กวันเกิดมาเพื่อเซอร์ไพรส์ฉัน (แม้ว่าจะมีเค้กเก้าชั้นอยู่ที่กลางงานแล้วก็ตาม) ฉันที่เหลือบตามองไปดูเขา ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ถูกบังคับและแม้ว่าจะยังไม่บูดบึ้ง แต่ทว่ากลับเย็นชาจนฉันเองยังแอบหวั่นอยู่ในใจแต่ถึงกระนั้น...แม้ว่าฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งนี้ให้กับฉันมากแค่ไหน แต่ทว่า...ส่วนลึกของหัวใจ ฉันกลับรู้สึกดีใจและสุขใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากฉันได้แสดงให้ทุกคนในงานได้เห็นแล้วว่าเขาคือคนของฉัน ฉันยังได้เห็นสายตาแห่งความริษยาที่ถูกส่งออกมาจากบรรดาผู้หญิงเกือบร้อยคนที่อยู่ในงานอีกด้วยจนกระทั่ง...เมื่อเวลาสำคัญมาถึง เค้กที่ถูกเขาคนนั้นเดินถือเดินเข้ามา พร้อมกับได้มายืนหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของฉัน มันทำให้วินาทีนั้นหัวใจของฉันพองโตและเต้นระรัวทันที♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday Happy birt
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(3)นับตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองตระกูลก็ยังคงไปมาหาสู่กันตลอด โดยทุกครั้งที่เขามาก็เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานด้วยกันกับพ่อของเขา และการที่เขาต้องมาดูงาน บวกกับฉันเองที่ต้องเรียนรู้งานกับพ่อตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ฉันกับเขาได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น สนทนากันด้วยภาษางานมากขึ้น และเมื่อพ่วงกับความพยายามของฉันที่มักจะตีมึนคอยเจื้อยแจ้วเจรจาชวนเขาคุยอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอดเวลาด้วยแล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั่นก็เพราะจากในช่วงแรกที่เขามักจะเดินหนีไปเสียทุกทีเวลาที่ฉันชวนคุย จนพักหลัง ๆ เขาเองก็เริ่มที่จะอยู่นิ่งแล้วฟังฉันคุยบ้างความสัมพันธ์ของเราสองคนดูจะพัฒนาขึ้น แม้ว่ามันจะดำเนินไปเหมือนหอยทากเป็นตะคริว แต่สำหรับฉันมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้งานไปพร้อม ๆ กันกับเขา ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ ของฉันยังอยากเรียกเขาว่าพี่เซฟ มากกว่าคุณเซบาสเธียก็ตาม...วันเวลาล่วงเลยไปพร้อมกับความใจแข็งที่เริ่มน้อยลงของเขา...จนกระทั่งวันหนึ่ง...มันเป็นวันที่ทำให้ฉันเห็นว่าสุดท้ายแล้วการกระทำด้วยความพยายามพากเพียรของฉันก็ได้ตอบสนองฉันแล้วเมื่อความสัมพ