ตอนที่ 8 แต่งงานกับผม
ฉันมองเขาอย่างลุ้นรอคำตอบ โดยหวังในใจลึกๆ ว่าจะไม่สัญญาอะไรเพี้ยนๆ หรือแย่ๆ ออกไปเพื่อทำร้ายตัวเองอีก แค่ที่เสียไปก็มากเกินพอแล้ว ดวงตาฉันสั่นระริก มีความหวาดหวั่นอยู่ในนั้น หวาดกลัวกับคำตอบที่กำลังจะออกมาจากปากหนาทรงเสน่ห์นั่น..
" คุณเอลิซจะ... แต่งงานกับผม" สิ้นประโยคที่เขาเอ่ยมา เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางหัวของฉัน ฉันแทบสิ้นสติ ตัวฉันแข็ง เหมือนวิญญาณได้ออกจากร่างเป็นการถาวรแล้ว นี่ฉันต้องบ้าเต็มขั้นแน่นอนนอกจากทำเรื่องบ้าๆ แล้วยังไปสัญญาอะไรอุตริอีก
" ดะ..ดะ.เดี๋ยวนะคะ เอลิซนี่นะ สัญญาแบบนั้นกับคุณ" ฉันรีบถาม เพราะแทบไม่อยากจะเชื่อกับความบ้าของตัวเอง จนต้องเอ่ยถามเขาไปอีกรอบเพื่อความมั่นใจ
"ครับ" ^-^
" แล้วคุณก็ยอมรับข้อตกลงของ เอลิซหรอคะ ถ้าเอลิซท้องจริงๆ คุณจะแต่งงานกับเอลิซหรอคะ" -*-
"ครับ" ^-^
" เดี๋ยวนะคะมันเป็นแค่เกมคุณไม่ต้องมาจริงจังอะไรก็ได้ค่ะ" -*-
" ผมเป็นคนรักษาคำพูดและผม ไม่ชอบคนผิดคำพูด" -*-
ฉันเริ่มเหลืออดกับความจริงจังเกินเบอร์ของเขาแล้ว มันก็แค่เกมที่เผลอเล่นไปตอนเมา ทำไมต้องมาจริงจังอะไรขนาดนั้น ขนาดฉันเป็นผู้หญิงฉันยังไม่เรียกร้องเลย ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องพูดให้ชัดเจน!!!
" คือเอลิซเป็นผู้หญิง เอลิซเสียหายมากกว่าเอลิซยังไม่แคร์เลยแล้วทำไมคุณเซฟต้องจริงจังด้วยค่ะ ส่วนความบริสุทธิ์ของเอลิซ เอลิซเป็นคนตัดสินใจเองไม่เป็นไรนะคะ คุณไม่ต้องมาแสดงความรับผิดชอบ เพียงเพราะแค่คุณเป็นคนแรกของเอลิซนะคะ แล้วอีกอย่าง เดี๋ยวเอลิซกินยาคุมฉุกเฉินเอาก็ได้ค่ะแค่นี้ก็น่าจะป้องกันได้ในระดับนึงแล้ว แล้วโอกาสท้องก็น้อยมากนะคะกับแค่คืนเดียว" ฉันรัวคำพูดพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจเพราะหนึ่งฉันก็ไม่ได้มีความผูกพันหรืออยากผูกมัดอะไรกับเขา สองฉันก็ไม่อยากให้เขามามองว่าฉันจ้องจะจับเขาจนกลายเป็นผู้หญิงไร้ยางอาย
"ไม่ได้!!!! ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าผมเกลียดคนผิดคำพูด" เสียงตวาดลั่นจนฉันสะดุ้งโหยง
ทำไมเขาต้องจริงจังเบอร์นี้ด้วย แต่ช่างมันเถอะขอแค่ให้ฉันออกไปจากที่นี่ได้ก็พอ เพราะหลังจากนี้ไป เราก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว และฉันก็จะกินยาคุมฉุกเฉิน และต่อให้ท้องฉันก็จะรับผิดชอบเอง เพราะฉันเป็นคนก่อเรื่อง ฉันก็ควรรับผิดชอบเอง และ 'เราก็ควรจะเป็นแค่คนที่ไม่รู้จักกัน'
" ยังไงคุณก็จะเล่นเกมนี้ให้จบใช่ไหมคะ อย่างนั้นก็ได้ค่ะ กติกาที่เอลิซตั้งขึ้นเอลิซจะรับผิดชอบมันเองค่ะ งั้นหนึ่งเดือนนับจากวันนี้เอลิซจะส่งข่าวให้คุณทราบนะคะ ว่าเอลิซท้องไหม ถ้าท้องเอลิซก็จะทำตามสัญญาที่ให้กับคุณไว้ แต่ถ้าไม่ เราสองคนต่างเลิกแล้วต่อกัน ต่างคนต่างไปใช้ชีวิต เราสองคนจะเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลย ตามนี้นะคะคุณเซฟ" ฉันบอกออกไปอย่างเหลืออด ขอให้แค่ได้ออกไปจากที่นี้ก่อนเถอะ แม่จะกินยาคุมฉุกเฉินพร้อมทั้งยาคุมปกติต่ออีก 1 เดือนไปเลย...หึ!! รู้จักเอลิซปลาไหลสไลเดอร์ น้อยไปซะแล้ว
"ได้ครับ" ^-^ เขาตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มแบบมีเลศนัย (บ้าไปแล้วมั้งตานี่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย)
" ถ้างั้นรบกวนปล่อยเอลิซได้แล้วค่ะเอลิซจะลุกไปแต่งตัวเพื่อกลับบ้านค่ะ"
"แต่....." รอยยิ้ม เลศนัย นั้นอีกแล้ว
"แต่อะไรอีกค่ะ" ฉันถามด้วยอารมณ์ที่เริ่มหงุดหงิด จะมาตงมาแต่อะไรอีกเนี่ย หรือฉันไปสัญญาอะไรเพิ่มอีกว่ะ -*-
"แต่ระหว่างรอผล 1 เดือนคุณต้องอยู่กับผมที่นี่ " เขาเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างคนมีชัย
"ทำไมค่ะ ทำไมเอลิซต้องอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ" ฉันถามเพราะทั้งงงและเริ่มโมโห
"เพราะผมไม่ไว้ใจคุณ ผมรู้เมื่อคุณออกไปจากที่นี้ คุณก็จะไปกินยาคุมฉุกเฉิน พร้อมกับกินยาคุมปกติต่ออีก 1 เดือน ซึ่งมันเป็นการโกง อ๋อ..อีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ผมเกลียดคนโกงเข้าไส้" เขาเอ่ย พร้อมแสยะยิ้มจนทำให้ฉันขนลุกซู่ทั้งตัว
ฉันอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน โอ้โห้!!!นอสตราดามุส ได้ถือกำเนิดเกิดมาในร่างเขาเป็นแน่ ทำไมรู้เข้ามาถึงความคิดฉันขนาดนี้ ไม่ได้การแล้วผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไป ฉันต้องหนี….
เขาคลายกอดฉัน แล้วลุกขึ้นไปเอาผ้าพันกาย เพียงแว๊บเดียวที่สมองฉันคิดแผนการได้ ฉันเอาผ้าห่มหอร่างพร้อมคว้ากระเป๋า ที่อยู่ข้างเตียงนอน เสื้อผ้าช่างมัน! ในหัวได้แต่คิดว่าไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน อย่างน้อยให้มันพ้นจากที่นี่ไปได้ก่อนที่เหลือค่อยว่ากัน คิดได้ดังนั้นก็ว่ารีบสาวเท้าวิ่งไปที่ประตู และก่อนที่จะได้ทันถึงประตู เสียงเย็นก็เอ่ยตามหลังฉันมาว่า…
" คุณกำลังทำอะไร!! จะไปไหน คิดจะหนีหรอ คุณหนีผมไม่พ้นหรอก เพราะทั้งชั้นนี้เป็นของผม หน้าห้องก็มีลูกน้องผม ลิฟต์เป็นลิฟต์ส่วนตัวเฉพาะของผม และที่สำคัญทั้งคอนโดนี้เป็นของผม" เขาหันมาพูดพร้อมมองด้วยสายตาเย้ยหยันในความคิด และการกระทำโง่ๆ ของฉัน
OMG!!! ฉันหันไปอย่างช้าๆ ตามเสียง เขายืนกอดอกเผชิญหน้าใส่ฉันทั้งยิ้มเยาะอย่างคนชนะ เข่าฉันแทบทรุดนี่มันบ่วงเวรบ่วงกรรมอะไรที่ฉันทำไว้ ความผิดพลาดเดียวที่ฉันทำก็คือการที่เมื่อคืนฉันไปสถานที่นั้น และฉันเมาเลยทำให้ฉันไม่มีสติไปทำข้อตกลง พูดประโยคบ้าๆ นั่น
น้ำตาฉันเริ่มเอ่อคลอเต็มดวงตาสองข้าง เสียงสั่นเครือเอ่ยอย่างจนใจ หวังเพียงให้เขาเห็นใจฉันสักนิด
" คุณปล่อยฉันไปเถอะนะคุณไม่มีสิทธิ์มากักขังฉันแบบนี้ ฉันมีพ่อมีแม่ที่คอยฉันอยู่นะคุณจะมาทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้ ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์บ้าบอนี้ขึ้นมาแต่ในเมื่อคุณมีแต่ได้ และฉันที่เป็นคนที่เสีย แล้วคุณจะมาเอาอะไรกับฉันอีกได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ" T ^ T
ตอนที่ 9 เพราะว่าผมชอบ" ไม่!!!" ^-^สิ้นเสียงที่เขาตอบกลับมา มันทำให้สติที่ฉันมีเริ่มขาด ฉันเอามือปาดน้ำตาบนหน้า แล้วจ้องเขาเขม็ง ความโมโหจนหน้ามืด ทำให้ฉันจะพูดในสิ่งที่จะทำให้ฉันรอด นั่นคือการพึ่งพากฎหมาย!!" ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องงั้นฉันจะแจ้งความจะแจ้งให้หมดเลยทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ฉันจะแจ้งความจริงๆ นะ" ฉันขู่"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสบายๆขำบ้าอะไรว่ะ ฉันจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง" กฎหมายหรอ ทั้งกฎหมายทั้งคน ผมซื้อมันไว้หมดแล้ว ขอแค่ผมสั่งกฎหมายก็สามารถเปลี่ยนได้ และอีกอย่าง ข่มขืนหรอ ผมว่า ที่ร่างกายคุณมันตอบสนองต่อการกระทำของผม ผมไม่เรียกว่าข่มขืนนะ"(*O*) ช็อกสิคะ" บ้า...เรื่องบ้าบออะไร คุณไม่ต้องมาโกหกฉันนะ คุณเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนหรอถึงจะมาอยู่เหนือกฎหมายได้ อยากจะหัวเราะ ไม่มีอะไรจะมาขู่แล้วหรือไง ตลกสิ้นดี" ฉันกัดปากเถียงออกไป และถึงปากจะเถียงไปแบบนั้นแต่ใจก็แอบหวั่นๆ หวังว่าเขาคงไม่ใช่....คนที่ฉันคิดนะ......" ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าผมเป็นใคร"ฉันเม้มปากรอคำตอบมือทั้งสองข้างกำผ้าห่อตัวไว้แน่น ดวงตากลมโตเริ่มสั่น น้ำตาที่แห้งเห
ตอนที่ 10 หมายถึงทั้งตัวเขากระซิบเสียงทุ้มที่ข้างหู ลมหายใจรดลงมาจนทำให้ขนลุกความรู้สึกแปลกๆ เริ่มก่อตัวอีกครั้ง แต่ฉันจะทำให้มันเกิดขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตอบอะไรออกไป ฉันควรที่จะต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดออกไป ฉันถอนหายใจแล้วตอบเขากลับไป“เฮ้อออออ คุณเซฟเจ้าค่ะ ได้โปรดลุกออกไปจากตัวดิฉัน เอ๊ย เอลิซ ด้วยค่ะ” ฉันเอ่ยอย่างคนไม่สบอารมณ์“คุณกำลังทำให้ผมไม่พอใจ แล้วถ้าผมไม่พอใจ ผมก็จะ...” ขณะที่เขาพูด มือของเขาก็ลูบไล้ที่ต้นขาของฉัน จนฉันสะดุ้ง“ขะ..ขอโทษค่ะ คุณเซฟขาาาา ลุกเถอะนะคะ เอลิซ อยากไปเข้าห้องน้ำค่ะ” ฉันส่งสายตาที่คิดว่าหวานหยาดเยิ้มที่สุดให้เขาแต่หารู้ไม่!!!“ยิ่งคุณทำแบบนี้ผมยิ่งไม่อยากลุกเลย...เรามาเล่นเกมสนุกๆ เหมือนเมื่อคืนกันดีกว่าไหม” เขาพูด พร้อมก้มลงจูบที่ซอกคอของฉันฉันตกใจกับสิ่งที่เขาทำ ฉันพยายามดิ้นหนีแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้ร่างของเราทั้งสองเสียดสีบดขยี้เพิ่มความสยิวกันเสียมากกว่า“เอ๊ะ คุณนี่ยังไงกัน ฉันพูดดีก็แล้ว อะไรก็แล้ว จะมาเจ้าเล่ห์อะไรใส่ฉันอีก หึ” ฉันโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกสุดจะทน“ฮ่าๆๆๆ โอเคๆๆ ผมขอโทษ ผมลุกแล้
ตอนที่ 11 (NC) ด้วยตัวเองหน้าฉันร้อนผ่าวด้วยความอาย เลือดฝาดแดงกระจายจากแก้มไปถึงใบหูตัวฉันดีดขึ้นอัตโนมัติ ฉันไม่ยอมทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกแน่ แต่เหมือนว่าคุณเซฟเขาจะไวกว่าฉันมาก ไม่ทันที่ฉันจะลุกขึ้น เขาก็ใช้สองมือจับที่เอวคอดของฉันแล้วยกตัวฉันลอยขึ้นไปนั่งคร่อมที่ตัวเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“ว๊ายยย ปล่อยยยย ปล่อยฉันนะ” ฉันทั้งดิ้น ทั้งโวยวายแต่ยิ่งดิ้น มันยิ่งเหมือนปลุกเร้าท่อนเอ็นยักษ์ให้ตื่นจากการหลับใหลให้เร็วขึ้น เพราะฉันสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่กำลังผงาดขึ้นมาเสียดสีช่องทางรักของฉันอยู่“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวจะไม่ได้คุยนะ” เขาเอ่ยเสียงกระเส่า มุมปากกระตุกอย่างคนเจ้าเล่ห์“คะ..คุณเซฟก็ปล่อยเอลิซลงสิคะ” ฉันพูดตะกุกตะกักอ้อนวอน“ก็คุยมาสิ” ^-^ เขายังคงนิ่งเฉย และทั้งสองมือก็ยังคงตรึงอยู่ที่เอวของฉันฉันหยุดดิ้นแล้ว แต่ท่อนเอ็นของเขากลับยังไม่หยุดขยับ มันยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก เสียดสีหยอกล้อกับร่องสวาทของฉันผ่านแพนตี้บางตัวจิ๋ว“กะ...ก็...คะ...คุณเซฟฟฟฟ...อือออ” ฉันเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ผลจากการเสียดสีที่ชวนสยิวตรงจุดกึ่งกลางของเราทั้งสอง มันกำลังทำให้ฉันสติกระเจิดกระเจิง“ก็....อะไร...
ตอนที่ 12 ไม่มีความรัก“ห๊ะ....ว่าไงนะ!!!” ฉันตะโกนด้วยความตกใจถึงจะเกลียดพวกมันอยู่มาก แต่ฉันก็อดตกใจไม่ได้“หมอบอกว่าอาการ 50:50 ถ้ารอดก็อาจจะพิการ” ชมพู่เอ่ยบอกน้ำเสียงมีความกังวลแม้จะตกใจ แต่ฉันก็สะใจที่มันโดนแบบนี้ สงสัยไปทำชั่วไว้เยอะ“ส่วนฉัน..ฉันก็โดนตบจนสลบ เพิ่งจะฟื้น เลยโทรหาแกนี่แหละ” ชมพูบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองประสบ(ยังมีหน้ามาคิดถึงฉันนะ หน้าด้านยางมะตอยเรียกพี่จริงๆ)“เหอะ...ก็สมควรแล้วนี่ กับสิ่งที่แกได้รับ คงทำชั่วไว้กับหลายคน จนไม่รู้ว่าใครเขามาเอาคืน” หลังจากที่ทนฟังมาได้สักพัก ฉันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องพูดดีกับมันต่อ และไม่มีซึ่งความเห็นใจต่อคนพวกนี้ด้วย“กะ แก ฉะ ฉัน ขอโทษ แต่ตอนนี้แกช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันไม่มีเงินออกจากโรงพยาบาล” ในที่สุดความต้องการที่แท้จริงของชมพู่ก็เปิดเผยออกมา(หึ..สุดยอดความหน้าด้านหน้าทนจริงๆ)“นี่ชมพู่ แกแม่งสุดยอดของความหน้าด้านจริงๆ แกทำเลวกับฉันขนาดไหน แกลืมไปแล้วหรอ ฉันจะบอกให้นะ ต่อให้พวกแกสองคนตายต่อหน้าฉันจริงๆ แม้กระทั่งค่าโทรที่จะเรียกมูลนิธิมาเก็บศพ ฉันยังไม่คิดจะโทรเลย แล้วนับประสาอะไรกับการที่ฉันจะช่วยแกออกจากโรงพยาบาลอ่
ตอนที่ 13 เกือบโดน...ฉันเลือกใส่แค่ชุดชั้นในไม่ได้เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตของเขากับเสื้อผ้าใหม่ เพราะคิดว่าวันนี้ฉันคงไม่ได้ออกไปไหน ก็ขอใส่ที่มันสบายๆ หน่อยแล้วกัน เพราะชุดที่มาส่งมีแต่แนวออกงาน ไม่มีตัวไหนที่ดูแล้วใส่สบายเลย ฉันเลือกชุดชั้นในสีดำ เพราะตัวนี้ดูเรียบร้อยสุดแล้ว ถึงจะเป็นตาข่ายที่โชว์เนื้อสาวอวบอูมทั้งบนทั้งล่างให้เด่น แต่ยังมีส่วนที่หนาพอที่จะปกปิดได้บ้าง เสร็จแล้วฉันก็เดินลงมา พนักงาน และ ป้าเสริมกลับไปกันหมดแล้ว เหลือแค่ลูกน้องคนสนิทของคุณเซฟเท่านั้นฉันลูบท้องปรอย ๆ เพราะเริ่มหิวแล้ว เลยเอ่ยกับเขาว่า ~~“คุณเซฟค่ะ เอลิซหิว” ฉันบอกเขา แต่เขายังคงสนใจแล็ปท็อปในมือเขาอยู่“คุณเซฟค่ะ เอลิซหิวแล้วค่ะ” ฉันเดินเข้าไปหยุดที่หน้าเขา แล้วก้มหน้าเอียงคอเพื่อมองหน้าเขา แล้วเอ่ยย้ำอีกครั้งเนื่องจากเสื้อผ้าของเขาไซซ์มันใหญ่เกินไปสำหรับฉัน จึงทำให้คอเสื้อมันร่นลงมาจนแทบจะปิดหน้าอกไม่มิด พอฉันก้มมันก็ทำให้คอเสื้อเปิดกว้าง จนมองเข้าไปเห็นทั้งเรือนร่างของฉันจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็ประจวบกับระดับสายตาของเขาพอดี ทำให้เขามองเข้ามาในเสื้อเชิ้ตที่เผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนเนินอวบอิ่ม ยั
ตอนที่ 14 ผมจะนอนด้วย‘ทุกคืน’ณ เพนท์เฮ้าส์ติ๊ด ~~~~ แกร๊กเพราะสินค้ามีปัญหานิดหน่อยเลยทำให้ผมต้องกลับดึก ทั้งที่ใจผมมันร่ำร้องที่จะกลับทุกวินาที ขณะที่เดินเข้ามาผมสงสัยว่า ทำไมบรรยากาศถึงได้เงียบเชียบอย่างนี้ เอ๊ะ หรือเธอจะหนีไปแล้ว พอคิดได้แบบนั้นแล้วใจผมก็เริ่มร้อนรน และก่อนที่ผมจะได้แหกปากตะโกนเรียกลูกน้องหน้าห้องมาคิดบัญชีที่ปล่อยให้เธอหนีไป ผมก็ฉุกคิดได้ว่า เธอไม่ได้หนีไป ไม่ใช่แน่นอน เพราะลูกน้องที่อยู่หน้าห้องก็ไม่ได้รายงานอะไรเลย นี่ผมเป็นหนักขนาดนี้เลยหรือ ผมได้แต่หัวเราะให้กับตัวเองกับความบ้าคลั่งที่มีต่อเธอผมเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณห้องโถง ไฟที่ไม่ได้เปิดทำให้ไม่เห็นว่ามีร่างบางนุ่มนิ่มนอนตะแคงขดตัวหายใจสม่ำเสมออยู่บนโซฟา เธอยังอยู่ผมลอบดีใจ เธอไม่ได้หนีผมไปไหน ใบหน้าคมระบายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวแสงจันทร์ที่ส่องผ่านกระจกเข้ามากระทบใบหน้านวลเนียนใสไร้สิ่งแต่งเติม มันยิ่งทำให้เธอน่าหลงใหลเข้าไปอีก เธอสวยเหลือเกิน.....เธอยังคงไม่รู้สึกตัว ผมนั่งมองเธอสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ช้อนร่างบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ตัวเธอนุ่มนิ่ม หอมกรุ่น แค่ได้ใกล้ได้สัมผัส ผมก็แทบไม่เป็นตัวของ
ตอนที่ 15 แอบทำลับหลัง ฉันนั่งร้องไห้อยู่แบบนั้นนานเท่าไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ป้าเสริมมาเคาะประตูเรียก~~~~ ก๊อก ก๊อก ก๊อก~~~~“คุณเอลิซค่ะ คุณเอลิซ” ป้าเสริมเอ่ยเรียก“ค่ะป้า” ฉันฝืนตอบกลับไป“เป็นอะไรไหมคะ” ป้าเสริมยังคงถามด้วยความเป็นห่วง“เอลิซไม่เป็นไรค่ะป้า เอลิซขออาบน้ำก่อนนะคะ” ฉันตอบกลับป้าเสริมไปเพราะไม่อยากให้แกเป็นห่วง“ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรเรียกป้าได้ตลอดเลยนะคะ” ป้าเสริมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เพราะแกรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวคนนี้ฉันหยุดร้องไห้แล้วลงจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเพื่อไปอาบน้ำ ระหว่างที่อาบน้ำฉันได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี ถ้าเขาทำแบบนั้นอีกฉันจะทนได้ไหม ถ้าเขาสัมผัสฉันอีกฉันจะร้องไห้เหมือนเมื่อกี้นี้ไหม ฉันไม่ได้เกลียดที่เขาสัมผัสตัวฉันเลยนะ แต่ฉันเกลียดตัวเองที่ร่างกายมันคอยจะตอบสนองเขา จนฉันกลัว กลัวว่าตัวเองจะถลำลึกจนไม่อาจถอนตัวออกมาได้ กลัวว่าถ้าฉันชินกับการที่มีเขา แล้วเขาหายไป ฉันจะทำยังไง ฉันกลัวใจของตัวเอง และฉันยังเข็ดขยาดกับความรักหลังจากที่ฉันได้เจอกับการหักหลังจากรักครั้งก่อนความคิดที่ประเดประดังเข้ามา มันตีกันจนกลายเป็นน้ำตาที่ไหลออกมา และสิ
ตอนที่ 16 บทลงโทษ‘คนทรยศ’“เอลิซ ทำไมคุณทำแบบนี้” เสียงดังก้องกังวาน ทำฉันแทบตาสว่างฉันงัวเงียมองเขาด้วยความมึนงง จากการโดนกระชากขึ้นมาจากที่นอน และโดนตะคอกใส่“อะไรกันค่ะ เอลิซทำอะไร” ฉันยังคงสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไรทำไมเขาถึงดูโกรธขนาดนี้ หรือว่าเขายังโกรธฉันจากเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีกเขามองฉันด้วยสายตาที่ดุดันและน่ากลัวมาก จนทำให้ฉันรู้สึกหวาดผวา ก่อนที่สติฉันจะค่อยๆ กลับมา เขาได้ปาสิ่งหนึ่งมาที่หน้าตักฉัน“นี่มันคืออะไร” เขากดเสียงต่ำ สกัดอารมณ์สุดขีดซองสีน้ำตาลที่ดูคุ้นตาถูกปามาที่หน้าตัก ฉันตาสว่างขึ้นทันที นี่ฉันไม่น่าลืมวางไว้ที่หัวนอนเลยให้ตายเถอะ!!ฉันค่อยๆ หยิบซองนั้นขึ้นมา กำไว้แน่น แน่นอนเขาคงรู้แล้วว่าข้างในนั้นคืออะไร“อธิบายซิ” เขาคาดคั้นเอาคำตอบ“กะ...ก็” ฉันตอบตะกุกตะกัก“ก็...อะไร!!!” น้ำเสียงดุดันตะคอกใส่ฉันฉันสะดุ้งตกใจเสียงตะคอก มือยิ่งกำซองแน่น จนรับรู้ได้ถึงอาการชาที่มือ“ผมถามว่า...ก็อะไร!!!” เขายังคงตะคอกด้วยน้ำเสียงที่ดุดันยิ่งขึ้นตัวฉันสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ดวงตาหลุบต่ำไม่กล้าสบตากับร่างหนาที่ยืนเกรี้ยวกราดอยู่เบื้องหน้า ตอ
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(3)ผมตัดสินใจเดินลงมาหาเธอ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ๆ แล้วเอ่ยทักทายเธอออกไป..."คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" ผมเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตอบ"ค่ะ ว่าไงคะ" เธอหันมาหาพร้อมตอบรับ ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะตะลึงในความหล่อของผมอยู่เหมือนกัน"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" โอ๊ยคนอะไรยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ขนาดใส่เสื้อผ้ายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าหาก...(ไอ้เสือ...!! ใจเย็นดิว่ะ...หึหึ)"อะ...อะไรนะคะ" เหมือนเธอจะเริ่มเมาแล้ว แต่นั่นก็กลับยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นไปอีก"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" ผมถามโดยที่สายตามจับจ้องไปทั่วร่างของเธอ"ดะ..ได้ค่ะ" เธอตอบตะกุกตะกัก และนั่นมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่น(นี่มันคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ฟ้าเป็นใจใช่หรือเปล่า ~~)"คุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถามเธอออกไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก"คุณครับ ชื่ออะไรครับ" ผมสะกิดเธออีกครั้ง เพราะดูเธอจะเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังที่ผมถาม"ห๊ะ...ว่ายังไงนะคะ"สายตาเย้ายวนเหลือเกิน ทนไว้ไอ้เซฟทนไว้" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถาม
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(2)อีกทั้งวันนี้เธอกำลังฉลองวันครบรอบของเธอกับแฟนของเธออยู่ด้วย...หึ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยามที่เธอเตรียมขอขวัญไปเซอร์ไพรส์ให้มันนั้น ยามที่มันได้รับหน้ามันจะบานเป็นกระด้งขนาดไหน ทั้งที่พวกมันไม่สมควรจะได้รับความปรารถนาดีจากเธอเลยด้วยซ้ำ...!! ผมนึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ใช้ให้ลูกน้องไปคอยตามดูเธอ รวมทั้งไอ้แฟนสารเลวของเธอ แล้วก็...หึ..นังเพื่อนสุดเลวของเธอด้วย ผมมักจะได้รับรายงานถึงสิ่งที่เธอมักจะทำให้พวกมันอยู่เสมอ สิ่งที่ดี ๆ และความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมอบให้พวกมัน ทั้ง ๆ ที่พวกมันต่างทรยศหักหลังเธอ พวกมันไม่สมควรจะได้รับความรักและความใจดีแบบนั้นเลย... “แม่งเอ๊ย...!!” ผมที่สบถลั่นออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำไมผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นถึงได้ครอบครองหัวใจของเธอได้ว่ะ ทำไมกันวะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้วะ...ทำไมไม่เป็นผมวะที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ และทำไมจังหวะชีวิตของเราถึงต้องไม่ตรงกันด้วยวะ.... ผมที่นั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะปาแก้วเหล้าออกไปจนแตกกระจาย ประจวบกับที่ไอ้กิตที่เพิ่งเข้ามาก็ได้เห็นการก
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(1)ครืนนน ~~ เปรี้ยงงง..!! ซ่าาาา ~~เสียงฝนตกฟ้าที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา คล้ายกับว่าหยาดน้ำที่หลั่งรินลงมาจากฟากฟ้าสาดซัดลงมาเพื่อต้องการจะชำระล้างชีวิตของใครบางคนให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...ผมที่นั่งเหม่อลอยมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา บรรยากาศที่ดูจะครื้นเครงสนุกสนานเฮฮา แต่ทว่า...กลับไร้ค่าสำหรับผมเหลือเกิน ผมที่แกว่งไกวแก้วบรั่นดีในมือเพื่อให้น้ำสีอำพันในนั้นโคลงเคลงไปมา ก่อนจะสาดซัดมันให้ลงไปในลำคอ แต่ทว่า...ความร้อนที่เกิดจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพัน กลับสู้ความร้อนรนในใจของผมในตอนนี้ไม่ได้เลยเพราะเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวที่ผมเฝ้าตามหาและปรารถนามาตลอด รักแรกและรักเดียวของผม เธอที่ตอนนี้กำลังมีความสุขอยู่กับคนอื่น...ใช่...วันนี้เป็นวันครบรอบของการเป็นแฟนระหว่างเธอกับ...ไอ้ผู้ชายคนนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ... ~~ผมที่รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ภาพที่ผมได้เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น มันทำให้ผมปวดหนึบไปทั้งก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้าย ภาพที่เหมือนจะตอกย้ำว่าผมจะไม่มีวันได้ครอบครองหัวใจของเธออีกเลย...ย้อนไปก่อนหน้านั้นหลายปี ~~ผ
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(4)งานดำเนินไปพร้อมกับหัวใจของฉันที่ร้อนรุ่ม ฉันที่เฝ้ารอเพื่อให้ถึงเวลาที่จะได้เป่าเค้กเร็ว ๆ เพราะฉันรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาได้ถูกคุณป้าเธียร่าแม่ของเขาบังคับให้ถือเค้กวันเกิดมาเพื่อเซอร์ไพรส์ฉัน (แม้ว่าจะมีเค้กเก้าชั้นอยู่ที่กลางงานแล้วก็ตาม) ฉันที่เหลือบตามองไปดูเขา ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ถูกบังคับและแม้ว่าจะยังไม่บูดบึ้ง แต่ทว่ากลับเย็นชาจนฉันเองยังแอบหวั่นอยู่ในใจแต่ถึงกระนั้น...แม้ว่าฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งนี้ให้กับฉันมากแค่ไหน แต่ทว่า...ส่วนลึกของหัวใจ ฉันกลับรู้สึกดีใจและสุขใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากฉันได้แสดงให้ทุกคนในงานได้เห็นแล้วว่าเขาคือคนของฉัน ฉันยังได้เห็นสายตาแห่งความริษยาที่ถูกส่งออกมาจากบรรดาผู้หญิงเกือบร้อยคนที่อยู่ในงานอีกด้วยจนกระทั่ง...เมื่อเวลาสำคัญมาถึง เค้กที่ถูกเขาคนนั้นเดินถือเดินเข้ามา พร้อมกับได้มายืนหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของฉัน มันทำให้วินาทีนั้นหัวใจของฉันพองโตและเต้นระรัวทันที♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday Happy birt
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(3)นับตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองตระกูลก็ยังคงไปมาหาสู่กันตลอด โดยทุกครั้งที่เขามาก็เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานด้วยกันกับพ่อของเขา และการที่เขาต้องมาดูงาน บวกกับฉันเองที่ต้องเรียนรู้งานกับพ่อตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ฉันกับเขาได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น สนทนากันด้วยภาษางานมากขึ้น และเมื่อพ่วงกับความพยายามของฉันที่มักจะตีมึนคอยเจื้อยแจ้วเจรจาชวนเขาคุยอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอดเวลาด้วยแล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั่นก็เพราะจากในช่วงแรกที่เขามักจะเดินหนีไปเสียทุกทีเวลาที่ฉันชวนคุย จนพักหลัง ๆ เขาเองก็เริ่มที่จะอยู่นิ่งแล้วฟังฉันคุยบ้างความสัมพันธ์ของเราสองคนดูจะพัฒนาขึ้น แม้ว่ามันจะดำเนินไปเหมือนหอยทากเป็นตะคริว แต่สำหรับฉันมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้งานไปพร้อม ๆ กันกับเขา ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ ของฉันยังอยากเรียกเขาว่าพี่เซฟ มากกว่าคุณเซบาสเธียก็ตาม...วันเวลาล่วงเลยไปพร้อมกับความใจแข็งที่เริ่มน้อยลงของเขา...จนกระทั่งวันหนึ่ง...มันเป็นวันที่ทำให้ฉันเห็นว่าสุดท้ายแล้วการกระทำด้วยความพยายามพากเพียรของฉันก็ได้ตอบสนองฉันแล้วเมื่อความสัมพ