ณ บ้านสองชั้นหลังไม่ใหญ่ บรรยากาศนั้นร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ สะอาดตาเพราะมีคนคอยดูแลปัดกวาดใบไม้อยู่ตลอด ด้านในตัวบ้านนั้นก็เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะมีคนเป็นแม่คอยดูแลปัดกวาดเช็ดถูให้อยู่ในสภาพที่สวยงามเสมอเช่นกัน
บ้านหลังนี้มีสมาชิกอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคน มีพ่อแม่และลูกสาวแสนสวย
"พริม เสร็จแล้วหรือยังลูก แม่จะให้เอาขนมไปให้คุณยายดอกไม้ด้วย"
"ค่าแม่ อีกแป๊บนึงก็เสร็จแล้วค่ะ" ฉันตะโกนตอบกลับแม่
สวัสดีฉันชื่อพริม นักศึกษาปีสี่ของมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัด แต่ดีที่บ้านของฉันอยู่ในตัวจังหวัดเลยการเดินทางเลยไม่ไกล
ตึก ตึก ตึก
ขาเรียวก้าวลงบันไดมาด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งกระเป๋าสะพายพะรุงพะรัง จนคนเป็นแม่ที่ได้เห็นนั้นอดที่จะถอนหายใจไม่ได้
"เมื่อไหร่จะเปลี่ยนกระเป๋าล่ะลูก มันขาดหมดแล้วนั่น"
"ยังใช้ได้อยู่ค่ะแม่"
"เอา ออกไปแล้วก็เอาขนมไปให้คุณยายดอกไม้ด้วย"
"ได้ค่ะแม่"
คุณยายดอกไม้ เป็นคุณยายที่อยู่ข้างๆ บ้านฉันเองแหละ เห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คุณยายดอกไม้เป็นคุณยายที่รักเด็กมาก ใจดีมาก นิสัยของแกคือชอบเข้าวัดทำบุญ แต่ก่อนแกชอบทำขนมแล้วเอามาฝากฉันเป็นประจำ แต่ตอนนี้แกอายุมากแล้วก็เลยไม่ได้ทำขนมอีก แม่ของฉันก็เลยเป็นฝ่ายทำและเอาไปให้คุณยายดอกไม้แทน
"คุณยายขาคุณยาย พริมเองค่ะ" ฉันตะโกนเรียกคุณยายอยู่ที่หน้าบ้าน แต่ไม่มีการตอบกลับก็เลยเดินถือจานขนมเข้าไปข้างใน
สายตาก็พลันมองไปเห็นรถคันนึงที่จอดอยู่ในบ้านของคุณยาย มีคนมาบ้านของคุณยายเหรอ ใครกันนะ
"คุณยายขา แม่ให้พริมเอาขนมมาให้ค่ะ"
ฉันเรียกคุณยายเป็นรอบที่สอง แต่ก็ยังไม่มีใครออกมา ทีแรกก็จะวางขนมแล้วออกไป แต่ก็กลัวมดมันจะขึ้นซะก่อน เลยยืนรอคุณยายดีกว่า
"คุณยาย..." พอเรียกรอบที่สามก็มีคนออกมา แต่ไม่ใช่คุณยายดอกไม้
"หวัดดีครับ ยายอยู่ข้างบนครับ"
"เอ่อ.." ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน หน้าตาคุ้นๆ แต่ก็ไม่คุ้นยังไงก็ไม่รู้สิ ความรู้สึกลึกๆ เหมือนเคยรู้จักเคยเห็นมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ลูกชายของคุณยายเหรอ แต่ก็ไม่น่าใช่สิ คุณยายแกแก่แล้วนะ จะมีลูกชายอายุเท่านี้ด้วยเหรอ ดูจากทรงแล้วเด็กกว่าฉันอีก ต่อให้จะเป็นลูกหลงลูกคนสุดท้อง มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
"ผมชื่อรามครับ เป็นหลานของยาย"
"ราม..." ฉันทวนชื่อนี้ขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับมองคนตรงหน้าไปด้วย พยายามจ้อง เก็บรายละเอียดและนึกให้ออกว่าเป็นใคร จนกระทั่งนึกได้ "นะ นี่คือ..."
"หมาน้อยของพี่ไงครับ"
"....." ไอ้หมาน้อย! โตขนาดนี้แล้วเหรอ โตขึ้นมาก สูงด้วย ไม่แปลกใจเลยทำไมฉันถึงจำไม่ได้ แค่รู้สึกคุ้นๆ เท่านั้นเอง
ตอนที่เจอกันเขายังเด็กมาก ฉันเองก็ยังเด็กแหละ แต่เราห่างกันแค่สองปีเอง หมอนี่ตัวเล็กมากตอนเด็กๆ ฉันก็เลยตั้งชื่อให้ว่าหมาน้อย ทั้งตัวเล็กทั้งผอม แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปมากเลย อย่างกับไม่ใช่คนเดียวกัน
สิบกว่าปีแล้วสินะที่ไม่ได้เจอกัน
"เอ่อ พี่ขอโทษนะ มันนานแล้วพี่จำไม่ได้"
"แต่ผมไม่เคยลืมนะครับ"
ที่จำไม่ได้เพราะคนตรงหน้าฉันเปลี่ยนไปมากต่างหาก ไม่เหมือนเด็กเมื่อก่อนที่ฉันเคยรู้จักเลย ถ้าได้เจอกันข้างนอกฉันคงเดินผ่านเฉยๆ
"ฝากขนมให้คุณยายด้วยนะ พี่ต้องไปเรียนแล้ว"
"ได้ครับ"
พูดจบฉันก็เดินออกไป รีบเดินจ้ำอ้าวออกมาเพราะต้องไปให้ทันรถประจำทางที่หน้าปากซอย ถ้าไปไม่ทันรถเที่ยวแรกฉันต้องรออีกเที่ยวนึงซึ่งฉันอาจจะเข้าเรียนสายได้
"พี่พริมครับ พี่พริม!"
"หือ??"
"เดี๋ยวผมขับรถไปส่งครับ"
"นายเรียนอยู่ที่ไหน"
"ใกล้ๆ มหาลัยของพี่ครับ"
"เอ่อ...พี่ว่าพี่นั่งรถประจำทางไปสะดวกกว่านะ ขอบใจนะที่หวังดี พี่ไปละ"
ที่ไม่อยากให้ไปเพราะฉันขี้เกียจมานั่งตอบคำถามพวกเพื่อนๆ ถ้าเห็นว่าฉันมีผู้ชายมาส่ง
บรืน~
"ขึ้นสิครับ"
รามขับรถตามหลังฉันมา ให้ตายสิ เด็กนี่ทำไมถึงได้ตื๊อขนาดนี้นะ
"มาสิครับ เดี๋ยวผมไปส่งเอง ไม่คิดค่ารถด้วย"
"ฉันบอกว่าฉันจะไปเอง"
"รังเกียจผมเหรอครับ?"
"เปล่า แต่ฉันจะไปเอง เข้าใจหรือเปล่าเนี่ย?"
"....." รามหน้าถอดสีไปเลย นี่ฉันพูดแรงกับเขาเกินไปเหรอ แต่ฉันก็พูดปกตินี่นา บอกดีๆ กับเขาแล้วด้วย
ขณะที่กำลังคิดฉันก็เดินไปด้วย จนกระทั่งเห็นรถประจำทางจอดรออยู่พอดี ฉันเลยรีบวิ่งไปขึ้นก่อนที่รถจะออกไป จากนั้นฉันก็ได้แยกทางกับราม
มหาวิทยาลัยAA
"ให้ตายสิเกือบสายแน่ะ"
ฉันเดินเข้ามาพร้อมกับบ่นงุบงิบ ก่อนจะเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งรอกันอยู่แล้ว
"อีพริม"
"หวัดดีๆ"
"เป็นอะไรไปวะ หน้าตาเครียดเชียว"
"เกือบไม่ทันรถอ่ะดิ" ฉันตอบ
เพื่อนฉันที่คบกันมาสมัยปีหนึ่งเลยมีอยู่สามคน ชื่อเฟรม แอล โอ๋ เรารู้จักกันสมัยเป็นเฟรชชี่ จากนั้นก็สนิทกันเรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันเนี่ยแหละ
"อะๆ กว่ามาได้ พี่เปรมเค้าฝากของมาให้มึงน่ะ"
"ของ?"
"อืม นี่ไง"
"ขอบใจ"
พี่เปรมเป็นรุ่นพี่แต่ยังไม่ทันจบและออกจากมหาวิทยาลัยหรอก เพราะเห็นว่ายังต้องแก้ตามงานหลายอย่างอยู่ เลยยังไม่ได้รับปริญญากับเขา ต้องวิ่งแก้งานสารพัด
เขามาตามจีบฉันเนี่ยแหละ จีบมาได้สักพักแล้วล่ะ ตอนแรกฉันก็เล่นตัวอยู่เพราะฉันไม่ได้รู้จักเขาอย่างดี ไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอของเขา แต่เขาก็ซื้อของมาให้ทุกวันเลย จนฉันเกรงใจ
"น่าอิจฉาเนาะ เป็นผู้หญิงสวยก็งี้แหละ" แอลพูด
"เฮ้ย พูดอะไรแบบนั้นเล่า พวกมึงก็สวย"
"นั่นดิ สวยๆ แบบนี้ทำไมไม่มีผู้ชายมาจีบวะ" โอ๋พูด
"ต่อให้มึงสวยกว่านี้ แต่ถ้าผู้ชายไม่ชอบ ก็คือไม่ชอบจ้ะเลิกมโน" เฟรมพูด
'อีดอก'
เป็นการพูดที่ออกเพียงท่าทางแต่ไม่มีเสียงพูดออกมา และทุกครั้งที่มันเป็นแบบนี้ ฉันก็อดขำไม่ได้เหมือนกัน เราสนิทกันมาก จนมองว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
"ขนมพวกนี้แบ่งกันกินเถอะ กูกินคนเดียวไม่หมดหรอก" ฉันบอกกับเพื่อน
ความจริงถ้าเขามายื่นให้ตอนที่ฉันมาถึงแล้ว ฉันคงปฏิเสธด้วยซ้ำ คงไม่รับไว้ แต่พวกเพื่อนฉันคงเกรงใจ ถึงได้รับมา
หลังจากนั้นฉันก็เข้าเรียนตามปกติ เจออะไรหลายๆ อย่างต่อหน้า จนฉันเองก็ลืมไปเลยว่าเมื่อเช้าไปเจออะไรมา
@ตกเย็น
"พวกมึงจะไปไหนต่อหรือเปล่า?" แอลถาม
"ไม่รู้ดิ คงกลับบ้าน ช่วยแม่ขายผัก" โอ๋ตอบ
"กูก็เหมือนกัน" เฟรมพูด
"แล้วมึงล่ะพริม?"
"ปกติก็กลับบ้านนี่หว่าถามแปลก เลิกเรียนกูก็กลับบ้านไม่ได้ไปไหนสักหน่อย"
ถ้าเพื่อนไม่ชวนหรือมีงานเลี้ยงฉันก็ไม่ได้ไปไหนหรอก เลิกเรียนก็กลับบ้าน ฉันเหนื่อย กลับไปนั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านจะดีกว่า
"อืมๆ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน"
"โอเค กลับดีๆ ล่ะ บาย"
หลังจากนั้นเราสี่คนก็แยกย้ายกัน บ้านของเราอยู่คนละทิศคนละทางเลย เลิกเรียนปุ๊บก็คือแยกทางกันกลับ ไม่มีกลับรถประจำทางสายเดียวกัน หรือแม้กระทั่งจะไปด้วยกันได้
ฉันนั่งรถประจำทางสายเดิมกลับมาที่ปากซอยบ้าน และต้องเดินเท้าเข้าไป ซึ่งมันก็ไม่ไกลหรอก ความจริงพ่อก็ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไว้ให้คันนึงแหละ แต่ฉันเอาไว้ให้แม่ใช้มากกว่า มหาลัยมันอยู่ในตัวเมืองแถมต้องออกถนนใหญ่อีก ฉันไม่กล้าขับรถคนเดียวหรอก รถในถนนใหญ่มันน่ากลัวจะตาย
ปี๊บๆ!~
"!!!" ฉันตกใจก่อนจะรีบหันไปมองเสียงแตรด้านหลัง
"ไปกับผมไหมครับ"
เขาอีกแล้วเหรอเนี่ย เจอรามอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกนะที่จะเจอกันเพราะบ้านเราอยู่ใกล้กัน
"ใกล้ถึงบ้านแล้ว ฉันเดินเองดีกว่า ขอบใจนะ" พูดพร้อมกับยิ้มแห้ง
"งั้นเดี๋ยวผมจูงรถเดินเป็นเพื่อนครับ"
"....."
ฉันอยากจะตะโกนด่าเขาจริงๆ นะ ขับรถอยู่ดีๆ แต่อยู่ดีไม่ว่าดีอยากจะเข็นรถขึ้นมา เขามันบ้าจริงๆ
หลังจากวันนั้นผ่านไป พริมก็ยังถูกรามตามวุ่นวายอยู่เรื่อยๆ ต้องเจอหน้ากันที่บ้านทุกวัน หลีกเลี่ยงก็ไม่ได้เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่บางครั้งก็แอบรู้สึกว่ารามนั้นตั้งใจมาดักรอเจอเธอมากกว่าฟึ่บ~"เฮ้ย!!" ฉันตกใจจนแทบจะร้องกรี๊ด กำลังยืนตากผ้าอยู่ดีๆ ก็มีคนโผล่พรวดออกมา หมอนี่มันยังไงกันนะ ถึงได้ชอบโผล่มาเงียบๆ แบบนี้ตลอด"หวัดดีครับ""ราม!""ตกใจผมเหรอครับ ขอโทษครับ""....." ฉันถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ ตั้งหน้าตั้งตาตากผ้าเพราะยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ"เย็นนี้ไปเที่ยวตลาดกันไหมครับ""ไม่ว่างต้องทำงาน""แป๊บเดียวเองครับ""นายอยากไปก็ไปเองสิ จะมาชวนพี่ไปทำไม""ก็ผมอยากให้พี่ไปด้วยนี่ครับ""พี่ไม่ว่าง งานเยอะ""อืม...มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ ผมเก่งนะครับ""หึ ขนาดนั้นเชียว""ใช่ครับ""งานของพี่ พี่จัดการเองดีกว่า ขอบใจที่อยากช่วย แต่ไม่เป็นไร"ถึงจะถูกปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาก็ยังยืนเอามือวางกับเสารั้วเอาคางเกยไปบนหลังมือของตัวเอง และดูอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ไปไหน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เล่นเอาพริมถึงกับรู้สึกอึดอัด นี่มันไม่ใช่ตอนเด็กแล้วนะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว"พี่พริมไม่คิดถึงผมบ
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในอีกหลายอาทิตย์ผ่านมาพ่อแม่ของพริมไม่อยู่บ้าน เพราะถูกเชิญไปงานบุญของญาติที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะต้องไปค้างคืน เธอเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว และเข้าช่วงวันหยุดพอดี ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเก็บกวาดทำความสะอาดรอบๆ บ้าน ทำหน้าที่แทนพ่อ"พี่พริมครับ ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น?""อุ้ย ตกใจหมด!""ผมถาม ขึ้นไปทำอะไร ลงมาครับ เดี๋ยวก็ตกลงมาขาหักหรอก""พี่ขึ้นมากวาดใบไม้เฉยๆ""เดี๋ยวผมทำให้ครับ ลงมาเถอะ""ไม่เป็นไร พี่ทำเองดีกว่า""มันสูงนะครับ ถ้าพลาดตกลงมา พี่ขาหักได้เลยนะครับ""บอกว่าไม่เป็นอะไรไงเล่า เด็กนี่ตื๊อจริงวุ้ย!""พี่พริมค้าบ" ใช้เสียงอ้อนหลังคาที่เธอขึ้นมันอยู่ติดกับริมรั้วพอดี ซึ่งรามก็ยืนคุยกับเธอจากบ้านของเขานั่นแหละใบไม้มันหล่นลงมาใส่หลังคาบ้านจนเป็นกองพะเนิน ปล่อยเอาไว้แบบนี้คงได้พังซะก่อนแน่"หน้าตาก็สวย หุ่นก็ดี ผิวก็ขาว ได้เป็นดาวมหาลัยด้วย ขึ้นไปปีนทำไมครับ ทำอะไรให้มันเหมาะสมหน่อยสิ""!!!!" ไอ้เด็กบ้ารามมันกำลังยืนด่าฉันอยู่ข้างล่าง กล้าดียังไงถึงมาพูดกับฉันแบบนี้ แค่ปีนหลังคาแค่นี้เอง หาว่าฉันทำไม่ดีแล้วเหรอ"ถ้าตกลงมาหน้ากระแทกพื้น เสียโฉมขึ้นมา จะเป็นดาวมหาลัยยั
มหาวิทยาลัยAA"พี่พริมครับ""....." ฉันได้แต่อุทานในใจ 'เขาอีกแล้วเหรอ' เจอกันที่บ้านทุกวันก็ว่าเหนื่อยแล้วนะ นี่ต้องมาเจอเขาที่นี่อีกไม่สิ เขาตั้งใจมาดักรอที่นี่ วันไหนเรียนเสร็จก่อนก็จะมาอยู่ที่นี่จนกว่าจะเลิกเรียนพร้อมกัน เขาจะขับรถมอเตอร์ไซค์ตามรถรับส่งที่ฉันนั่งไปจนถึงบ้าน พอถึงปากซอยหน้าบ้านเขาก็จะลงรถ และจูงมอเตอร์ไซค์เดินเข้าบ้านพร้อมกัน จนฉันไม่ไหวกับการกระทำของเขา สุดท้ายก็ได้นั่งซ้อนท้ายไปนั่นแหละนับวันเขายิ่งตามฉันเหมือนเงาตามตัว นอกจากเรียน และแยกกันนอนบ้านใครบ้านมัน มีที่ไหนบ้างที่เราจะไม่เจอกันเลย นี่ฉันก็ไม่รู้จะโกหกเพื่อนว่ายังไงแล้วเนี่ย"ผมซื้อนมสดมาให้ครับ" เขายื่นแก้วน้ำมาให้ฉัน มาครั้งไหนต้องมีของติดไม้ติดมือมาตลอด"ราม เมื่อไหร่นายจะเลิกมายุ่งกับพี่ เลิกมาที่นี่ได้แล้ว""ทำไมครับ ผมแค่มาเล่นเฉยๆ มาปกป้องพี่ไงครับ""นายนี่มัน...""กินให้อร่อยนะครับ ผมจะนั่งรอที่เก้าอี้ครับ""....." ฉันถอนหายใจแรง ก่อนจะเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อน ที่นั่งอยู่อีกมุมนึงหน้าคณะเด็กวิศวะที่อื่นเข้ามาที่นี่ก็ไม่แปลกที่มีแต่คนมอง ฉันไม่รู้จะหลบสายตาใครยังไงแล้ว"อีพริม น้องข้างบ้านคนนั้น
มหาวิทยาลัยAA"น้องพริมครับ น้องพริม""อ้าว พี่เปรม""กำลังจะกลับแล้วเหรอครับ""ค่ะ พี่เปรมมีอะไรหรือเปล่าคะ?""เอ่อ พี่จะชวนไปนั่งกินขนมครับ ร้านข้างๆ มหาลัยเรานี่เอง""....." พริมยืนนิ่งเหมือนกำลังคิด แต่อีกคนที่เดินมาด้วยกันหน้าเข้มรออยู่แล้ว เพราะได้ยินทุกประโยคคำพูดที่ทั้งสองคุยกัน จึงไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่มีคนอื่นมายุ่งกับพี่คนสวยแบบนี้"ไปเถอะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านเอง""เอ่อแต่ว่า..""ถือซะว่าเป็นคำขอบคุณที่น้องพริมช่วยพี่แก้งานส่งอาจารย์ ไม่งั้นพี่ไม่จบแน่""งั้นก็ได้ค่ะ" คนตัวเล็กตอบรับคำขอ เพราะถ้าปฏิเสธเขาคงได้หาข้ออ้างมาเจอเธออีกแน่ๆ และต้องชวนเธอไปนั่นไปนี่อีก ไม่รู้จบ"งั้นก็ไปกันครับ" รุ่นพี่ยิ้มตอบรับด้วยความดีใจ"รามเดี๋ยวนายกลับก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอพี่""ครับ? กลับไปไหนครับ?""กลับบ้านไง""แล้วพี่ล่ะครับ ไม่กลับเหรอ เดี๋ยวไม่ทันรถหรอกครับ""นายได้ยินที่พี่พูดกับรุ่นพี่แล้วนี่ อย่ามาทำไขสือหน่อยเลย""....." รามทำหน้าเมินเหมือนไม่รับรู้ ก็จริง เขาได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว ไม่พอใจแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ต้องคีฟลุคเด็กน้อยตาใสต่อหน้าพี่สาวคนสวยข้างบ้านคนนี้"ราม เข้าใจหรือเ
ย้อนกลับไป 10 กว่าปีก่อนรั้วไม้กั้นระหว่างบ้านหลังเล็กๆ เป็นที่ประจำของเด็กคนนึงที่ชื่อว่า ราม ทุกวันจะมายืนเกาะหน้ารั้วรอพี่สาวคนสวยนั้นกลับมาจากโรงเรียน พี่สาวที่แสนใจดี แสนสวย น่ารัก จนทำให้เด็กคนนึงตั้งมั่นกับตัวเองไว้ว่าโตขึ้นจะเป็นแฟนกับพี่สาวคนนี้ให้ได้"รามรักพี่พริม""แก่แดดใหญ่แล้วนะเรา"แต่แล้วก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น คุณยายที่เป็นยายแท้ๆ ของราม นั่งเหงาหงอย เศร้าสร้อย เพราะแม่ของรามมาพารามไปอยู่ด้วย หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย เด็กน้อยที่เคยมายืนเกาะรั้วทุกเช้าเย็นหายไปโดยที่ไม่มีข่าวคราวเลยเป็น 10 ปีจนกระทั่ง..."หวัดดีครับพี่พริม""???""รามเองครับ""น้องราม...เหรอ!!"ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง เด็กน้อยตัวผอมแห้งเห็นกระดูกในวันนั้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน กลับกลายมาเป็นหนุ่มร่างกายบึกบึนกำยำ หล่อ ดูดี เท่ห์ แถมเป็นเด็กนักเรียนวิศวะด้วยโชคชะตาได้พาเขากลับมาอีกครั้ง เด็กน้อยในวันนั้นกลายเป็นหนุ่มหล่อไปซะแล้ว แถมดูฮอตไม่น้อยเลยความทรงจำแสนหวาน รักแรกที่เคยตั้งมั่นไว้ว่าโตขึ้นจะขอพี่สาวคนสวยเป็นแฟน เขายังคงตั้งใจไว้แบบนั้น ถึงตอนนั้นจะเป็นคำพูดของเด็กที่ดูเหมือนแก่แดด แต่ใค
มหาวิทยาลัยAA"น้องพริมครับ น้องพริม""อ้าว พี่เปรม""กำลังจะกลับแล้วเหรอครับ""ค่ะ พี่เปรมมีอะไรหรือเปล่าคะ?""เอ่อ พี่จะชวนไปนั่งกินขนมครับ ร้านข้างๆ มหาลัยเรานี่เอง""....." พริมยืนนิ่งเหมือนกำลังคิด แต่อีกคนที่เดินมาด้วยกันหน้าเข้มรออยู่แล้ว เพราะได้ยินทุกประโยคคำพูดที่ทั้งสองคุยกัน จึงไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่มีคนอื่นมายุ่งกับพี่คนสวยแบบนี้"ไปเถอะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านเอง""เอ่อแต่ว่า..""ถือซะว่าเป็นคำขอบคุณที่น้องพริมช่วยพี่แก้งานส่งอาจารย์ ไม่งั้นพี่ไม่จบแน่""งั้นก็ได้ค่ะ" คนตัวเล็กตอบรับคำขอ เพราะถ้าปฏิเสธเขาคงได้หาข้ออ้างมาเจอเธออีกแน่ๆ และต้องชวนเธอไปนั่นไปนี่อีก ไม่รู้จบ"งั้นก็ไปกันครับ" รุ่นพี่ยิ้มตอบรับด้วยความดีใจ"รามเดี๋ยวนายกลับก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอพี่""ครับ? กลับไปไหนครับ?""กลับบ้านไง""แล้วพี่ล่ะครับ ไม่กลับเหรอ เดี๋ยวไม่ทันรถหรอกครับ""นายได้ยินที่พี่พูดกับรุ่นพี่แล้วนี่ อย่ามาทำไขสือหน่อยเลย""....." รามทำหน้าเมินเหมือนไม่รับรู้ ก็จริง เขาได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว ไม่พอใจแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ต้องคีฟลุคเด็กน้อยตาใสต่อหน้าพี่สาวคนสวยข้างบ้านคนนี้"ราม เข้าใจหรือเ
มหาวิทยาลัยAA"พี่พริมครับ""....." ฉันได้แต่อุทานในใจ 'เขาอีกแล้วเหรอ' เจอกันที่บ้านทุกวันก็ว่าเหนื่อยแล้วนะ นี่ต้องมาเจอเขาที่นี่อีกไม่สิ เขาตั้งใจมาดักรอที่นี่ วันไหนเรียนเสร็จก่อนก็จะมาอยู่ที่นี่จนกว่าจะเลิกเรียนพร้อมกัน เขาจะขับรถมอเตอร์ไซค์ตามรถรับส่งที่ฉันนั่งไปจนถึงบ้าน พอถึงปากซอยหน้าบ้านเขาก็จะลงรถ และจูงมอเตอร์ไซค์เดินเข้าบ้านพร้อมกัน จนฉันไม่ไหวกับการกระทำของเขา สุดท้ายก็ได้นั่งซ้อนท้ายไปนั่นแหละนับวันเขายิ่งตามฉันเหมือนเงาตามตัว นอกจากเรียน และแยกกันนอนบ้านใครบ้านมัน มีที่ไหนบ้างที่เราจะไม่เจอกันเลย นี่ฉันก็ไม่รู้จะโกหกเพื่อนว่ายังไงแล้วเนี่ย"ผมซื้อนมสดมาให้ครับ" เขายื่นแก้วน้ำมาให้ฉัน มาครั้งไหนต้องมีของติดไม้ติดมือมาตลอด"ราม เมื่อไหร่นายจะเลิกมายุ่งกับพี่ เลิกมาที่นี่ได้แล้ว""ทำไมครับ ผมแค่มาเล่นเฉยๆ มาปกป้องพี่ไงครับ""นายนี่มัน...""กินให้อร่อยนะครับ ผมจะนั่งรอที่เก้าอี้ครับ""....." ฉันถอนหายใจแรง ก่อนจะเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อน ที่นั่งอยู่อีกมุมนึงหน้าคณะเด็กวิศวะที่อื่นเข้ามาที่นี่ก็ไม่แปลกที่มีแต่คนมอง ฉันไม่รู้จะหลบสายตาใครยังไงแล้ว"อีพริม น้องข้างบ้านคนนั้น
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในอีกหลายอาทิตย์ผ่านมาพ่อแม่ของพริมไม่อยู่บ้าน เพราะถูกเชิญไปงานบุญของญาติที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะต้องไปค้างคืน เธอเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว และเข้าช่วงวันหยุดพอดี ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเก็บกวาดทำความสะอาดรอบๆ บ้าน ทำหน้าที่แทนพ่อ"พี่พริมครับ ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น?""อุ้ย ตกใจหมด!""ผมถาม ขึ้นไปทำอะไร ลงมาครับ เดี๋ยวก็ตกลงมาขาหักหรอก""พี่ขึ้นมากวาดใบไม้เฉยๆ""เดี๋ยวผมทำให้ครับ ลงมาเถอะ""ไม่เป็นไร พี่ทำเองดีกว่า""มันสูงนะครับ ถ้าพลาดตกลงมา พี่ขาหักได้เลยนะครับ""บอกว่าไม่เป็นอะไรไงเล่า เด็กนี่ตื๊อจริงวุ้ย!""พี่พริมค้าบ" ใช้เสียงอ้อนหลังคาที่เธอขึ้นมันอยู่ติดกับริมรั้วพอดี ซึ่งรามก็ยืนคุยกับเธอจากบ้านของเขานั่นแหละใบไม้มันหล่นลงมาใส่หลังคาบ้านจนเป็นกองพะเนิน ปล่อยเอาไว้แบบนี้คงได้พังซะก่อนแน่"หน้าตาก็สวย หุ่นก็ดี ผิวก็ขาว ได้เป็นดาวมหาลัยด้วย ขึ้นไปปีนทำไมครับ ทำอะไรให้มันเหมาะสมหน่อยสิ""!!!!" ไอ้เด็กบ้ารามมันกำลังยืนด่าฉันอยู่ข้างล่าง กล้าดียังไงถึงมาพูดกับฉันแบบนี้ แค่ปีนหลังคาแค่นี้เอง หาว่าฉันทำไม่ดีแล้วเหรอ"ถ้าตกลงมาหน้ากระแทกพื้น เสียโฉมขึ้นมา จะเป็นดาวมหาลัยยั
หลังจากวันนั้นผ่านไป พริมก็ยังถูกรามตามวุ่นวายอยู่เรื่อยๆ ต้องเจอหน้ากันที่บ้านทุกวัน หลีกเลี่ยงก็ไม่ได้เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่บางครั้งก็แอบรู้สึกว่ารามนั้นตั้งใจมาดักรอเจอเธอมากกว่าฟึ่บ~"เฮ้ย!!" ฉันตกใจจนแทบจะร้องกรี๊ด กำลังยืนตากผ้าอยู่ดีๆ ก็มีคนโผล่พรวดออกมา หมอนี่มันยังไงกันนะ ถึงได้ชอบโผล่มาเงียบๆ แบบนี้ตลอด"หวัดดีครับ""ราม!""ตกใจผมเหรอครับ ขอโทษครับ""....." ฉันถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ ตั้งหน้าตั้งตาตากผ้าเพราะยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ"เย็นนี้ไปเที่ยวตลาดกันไหมครับ""ไม่ว่างต้องทำงาน""แป๊บเดียวเองครับ""นายอยากไปก็ไปเองสิ จะมาชวนพี่ไปทำไม""ก็ผมอยากให้พี่ไปด้วยนี่ครับ""พี่ไม่ว่าง งานเยอะ""อืม...มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ ผมเก่งนะครับ""หึ ขนาดนั้นเชียว""ใช่ครับ""งานของพี่ พี่จัดการเองดีกว่า ขอบใจที่อยากช่วย แต่ไม่เป็นไร"ถึงจะถูกปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาก็ยังยืนเอามือวางกับเสารั้วเอาคางเกยไปบนหลังมือของตัวเอง และดูอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ไปไหน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เล่นเอาพริมถึงกับรู้สึกอึดอัด นี่มันไม่ใช่ตอนเด็กแล้วนะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว"พี่พริมไม่คิดถึงผมบ
ณ บ้านสองชั้นหลังไม่ใหญ่ บรรยากาศนั้นร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ สะอาดตาเพราะมีคนคอยดูแลปัดกวาดใบไม้อยู่ตลอด ด้านในตัวบ้านนั้นก็เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะมีคนเป็นแม่คอยดูแลปัดกวาดเช็ดถูให้อยู่ในสภาพที่สวยงามเสมอเช่นกันบ้านหลังนี้มีสมาชิกอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคน มีพ่อแม่และลูกสาวแสนสวย"พริม เสร็จแล้วหรือยังลูก แม่จะให้เอาขนมไปให้คุณยายดอกไม้ด้วย""ค่าแม่ อีกแป๊บนึงก็เสร็จแล้วค่ะ" ฉันตะโกนตอบกลับแม่สวัสดีฉันชื่อพริม นักศึกษาปีสี่ของมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัด แต่ดีที่บ้านของฉันอยู่ในตัวจังหวัดเลยการเดินทางเลยไม่ไกลตึก ตึก ตึกขาเรียวก้าวลงบันไดมาด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งกระเป๋าสะพายพะรุงพะรัง จนคนเป็นแม่ที่ได้เห็นนั้นอดที่จะถอนหายใจไม่ได้"เมื่อไหร่จะเปลี่ยนกระเป๋าล่ะลูก มันขาดหมดแล้วนั่น""ยังใช้ได้อยู่ค่ะแม่""เอา ออกไปแล้วก็เอาขนมไปให้คุณยายดอกไม้ด้วย""ได้ค่ะแม่"คุณยายดอกไม้ เป็นคุณยายที่อยู่ข้างๆ บ้านฉันเองแหละ เห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คุณยายดอกไม้เป็นคุณยายที่รักเด็กมาก ใจดีมาก นิสัยของแกคือชอบเข้าวัดทำบุญ แต่ก่อนแกชอบทำขนมแล้วเอามาฝากฉันเป็นประจำ แต่ตอนนี้แกอายุมากแล้วก็เลยไม่ได้ทำขนมอี
ย้อนกลับไป 10 กว่าปีก่อนรั้วไม้กั้นระหว่างบ้านหลังเล็กๆ เป็นที่ประจำของเด็กคนนึงที่ชื่อว่า ราม ทุกวันจะมายืนเกาะหน้ารั้วรอพี่สาวคนสวยนั้นกลับมาจากโรงเรียน พี่สาวที่แสนใจดี แสนสวย น่ารัก จนทำให้เด็กคนนึงตั้งมั่นกับตัวเองไว้ว่าโตขึ้นจะเป็นแฟนกับพี่สาวคนนี้ให้ได้"รามรักพี่พริม""แก่แดดใหญ่แล้วนะเรา"แต่แล้วก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น คุณยายที่เป็นยายแท้ๆ ของราม นั่งเหงาหงอย เศร้าสร้อย เพราะแม่ของรามมาพารามไปอยู่ด้วย หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย เด็กน้อยที่เคยมายืนเกาะรั้วทุกเช้าเย็นหายไปโดยที่ไม่มีข่าวคราวเลยเป็น 10 ปีจนกระทั่ง..."หวัดดีครับพี่พริม""???""รามเองครับ""น้องราม...เหรอ!!"ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง เด็กน้อยตัวผอมแห้งเห็นกระดูกในวันนั้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน กลับกลายมาเป็นหนุ่มร่างกายบึกบึนกำยำ หล่อ ดูดี เท่ห์ แถมเป็นเด็กนักเรียนวิศวะด้วยโชคชะตาได้พาเขากลับมาอีกครั้ง เด็กน้อยในวันนั้นกลายเป็นหนุ่มหล่อไปซะแล้ว แถมดูฮอตไม่น้อยเลยความทรงจำแสนหวาน รักแรกที่เคยตั้งมั่นไว้ว่าโตขึ้นจะขอพี่สาวคนสวยเป็นแฟน เขายังคงตั้งใจไว้แบบนั้น ถึงตอนนั้นจะเป็นคำพูดของเด็กที่ดูเหมือนแก่แดด แต่ใค