ริมฝีปากบางของเขากำลังให้ความอบอุ่นแก่มือของเธอ ขณะที่เขาพูด “เธอไม่อยากเป็นพี่สาวของฉันแล้วเหรอ? ไหนตอนเมาเธอบอกว่าอยากเป็นพี่สาวฉันไง ถ้าเธอต้องการ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้ หรือถ้าเธอไม่อยากย้ายกลับไปคฤหาสน์อี้ ฉันไปอยู่กับเธอที่ห้องเช่าเหมือนเมื่อก่อนก็ได้นะ”หลิง อี้หรานตกตะลึง เงยหน้าขึ้นทันทีและมองที่เขาด้วยความประหลาดใจริมฝีปากบางเซ็กซี่กดลงบนฝ่ามือของเธอ ในขณะที่ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาคอยปลอบประโลมเธอใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้น ดวงตาที่แสนงดงามได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ เผยให้เห็นความบริสุทธิ์และความทะเยอทะยานจนสุดโต่งจนใครก็มิอาจละสายตาจากใบหน้าของเขาได้‘ฉันยังอยากเป็นพี่สาวของเขาไหม? ฉันอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า?’ หลิง อี้หรานถามตัวเอง ‘แต่ว่า... นั่นเคยเป็นช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นและเป็นชั่วนิรันดร์สำหรับฉัน’‘ในตอนนั้น ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าถ้าฉันมีครอบครัว ฉันจะไม่เหงาอีกต่อไป!’‘ฉันไม่เคยคาดหวังถึงการได้รับความรักจากคนรัก ฉันเพียงต้องการความรักจากครอบครัวเท่านั้น’ครู่ต่อมา ดวงตาของเธอก็ค่อย ๆ ลดต่ำลง ดูสงบและไม่แยแสอีกครั้ง “อี้ จิ่นหลี เราเลิกกันแล้ว ไม่
รอยแดงบนข้อมือของเธอนั้นร้อนมากจนดูราวกับว่ามันอาจจะไหม้ได้ในอีกไม่นานทันทีที่เธอหลับตาลง เธอก็เอาแต่นึกถึงตอนที่เขาก้มจูบรอยแดงบนข้อมือของเธอ!…สามวันต่อมา โจว เชียนหยุนตื่นแต่เช้าและมองดูลูกชายของเธอที่ยังคงนอนหลับใหลด้วยสายตาที่อ่อนโยน‘การที่ได้เห็นเขาเติบโตมาเคียงข้างฉันมันทำให้ฉันรู้สึกดีมาก!’เธอดีใจที่เธอไม่ได้ตัดสินใจทำแท้งลูกและอดทนให้กำเนิดเขา ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวดที่สุดสำหรับเธอ แต่… มันก็คุ้มค่า!คุณนายโจวเห็นลูกสาวจ้องมองหลานชายอย่างอ่อนโยน เธอจึงเดินเข้าไปในห้องและกระซิบว่า “หยุน เก็บของทุกอย่างเสร็จแล้วนะ บ่ายนี้เราจะไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงกันแล้ว ทำไมลูกไม่นอนพักผ่อนเสียหน่อยล่ะ?”“ฉันนอนไม่หลับหรอกแม่” โจว เชียนหยุนส่ายหัว “บริษัทขนย้ายจะเข้ามาขนของเร็ว ๆ นี้ ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อม”"แม่กังวลเรื่องการเริ่มธุรกิจใหม่ที่เมืองจี!” คุณนายโจวพูดอย่างกังวลใจ เพราะพวกเขาต้องขายร้านอาหารแห่งนี้ทั้งที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง คุณนายโจวจึงรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้“ร้านอาหารของเราไปได้ดีในเมืองเฉิน มันก็จะไปได้ดีในเมืองจีเช่นกัน ไม่
“คุณพ่ออยากให้คุณประกาศวันแต่งงานเพื่อแสดงว่าคุณจริงใจกับฉัน” คง จื่ออินพูด“ได้สิ” เย่ เหวินหมิงตอบเขาจะทำทุกอย่างที่เธอต้องการ“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรามาเป็นผู้นำเปิดฟลอร์เต้นรำกันนะคะ” คง จื่ออินพูดเสริม“อืม” เย่ เหวินหมิงตอบ ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์ผู้โทรเขา เขาจึงพูดกับคง จื่ออินว่า “ผมต้องรับสายนี้ เดี๋ยวผมมา”จากนั้น เขาจึงเดินไปที่มุมเงียบสงบของห้องจัดเลี้ยงแล้วรับโทรศัพท์เบอร์ที่โทรเข้าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของชายที่เขาส่งไปจับตาดูโจว เชียนหยุนที่เมืองเฉินที่ชายคนนั้นโทรมาในเวลานี้อาจเพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับโจว เชียนหยุนทันทีที่เขารับสาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเย่ เหวินหมิงได้ยินเพียงเขาพูดว่า “ท่านประธานเย่ครับ โจว เชียนหยุนกำลังจะออกจากเมืองเฉิน เธอซื้อตั๋วรถไฟตอน 15.45 น. และ…”“อะไรนะ?”“แต่เธอไม่ได้อยู่คนเดียวครับ” ชายคนนั้นพูดเย่ เหวินหมิงรู้สึกสับสน ‘ไม่ได้อยู่คนเดียว? เขาหมายความว่าอะไร? ฉันจำได้ว่าเธอมีแม่ที่หายตัวไปพร้อมกับเธอทันทีที่เธอออกจากคุก’‘เธออยู่กับแม่ของเธอหรือเปล่า?’“เธอมีลูกชาย” สิ
“ฉัน... ฉันไม่รู้” คง จื่ออินรู้สึกสับสน ‘ใครโทรมาหาเขา? เหวินหมิงกำลังจะไปหยุดใคร?’‘เขา... หมายถึงใครกันแน่?’“เราจะทำยังไงดี… เหวินหมิงไม่อยากแต่งงานกับจื่ออินเหรอ? ทำไมเขาถึงหนีไปแบบนี้?” คุณนายคงพูดอย่างกังวลใจเดิมทีตระกูลคงเป็นเพียงเจ้าของบริษัทเล็ก ๆ ในชนชั้นที่สาม แต่เพราะความช่วยเหลือจากตระกูลเย่ พวกเขาจึงได้เข้ามาอยู่ในสังคมชั้นสูงไม่มีใครไม่รู้ว่าตระกูลคงมักได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลเย่หลายคนถึงกับแอบเปรียบเทียบตระกูลคงเป็นปรสิตที่คอยกัดกินผลประโยชย์จากตระกูลเย่ถ้าหากตระกูลเย่กับตระกูลคงไม่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวจากการแต่งงานครั้งนี้ได้ ตระกูลคงก็จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเช่นเมื่อก่อน“เป็นไปได้ยังไง? ตระกูลเย่หาฤกษ์วันแต่งงานแล้ว จะมีอะไรผิดพลาดได้ยังไง?” พ่อของจื่ออินตะคอกใส่ภรรยาและกระซิบว่า “เอาล่ะ วันนี้คนมาร่วมงานเยอะ พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปก่อน!”แม่ของจื่ออินทำได้เพียงฝืนยิ้มออกมาและเผชิญหน้ากับแขกที่อยู่รอบตัวเธอคง จื่ออินเม้มริมฝีปากสีแดงสดเข้าหากันขณะมองไปที่ทางออกของห้องจัดเลี้ยงที่เย่ เหวินหมิงหายตัวไปเธอเรียกชื่อเหวินหมิงออกมาเสียงดัง
คุณนายโจวรู้สึกขมขื่นเมื่อพูดถึงเรื่องนี้เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่คง จื่ออินได้รับ เธอพบว่าลูกสาวของของเธอนั้นน่าสงสารเกินไป“แม่ หยุด!” โจว เชียนหยุนโพล่งขึ้น เธอไม่ต้องการให้ลูกชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเกี่ยวกับความแค้นของผู้ใหญ่คุณนายโจวดึงสติของตัวเองกลับมาและนั่งเงียบในทันทีโชคดีที่อาหยันน้อยจดจ่ออยู่กับทิวทัศน์รอบ ๆ ตัวเขาในแต่ละวันที่ผ่านไป โจว เชียนหยุนรู้สึกว่าความไม่สบายใจของเธอได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เธอทนรอให้ทั้งสามคนขึ้นไปบนรถไฟความเร็วสูงไม่ไหวในที่สุด เสียงประกาศก็ดังขึ้นให้ผู้คนเริ่มเช็กอินเพื่อขึ้นไปยังรถไฟทว่า อาหยันน้อยต้องการไปห้องน้ำ ดังนั้น โจว เชียนหยุนจึงหันไปหาคุณนายโจวและพูดว่า “แม่ ดูแลสัมภาระของเราไว้นะ ฉันจะพาอาหยันน้อยไปห้องน้ำ”“รีบไปรีบมาล่ะ พวกเขาจะต้องตรวจตั๋วก่อนขึ้นรถไฟ” คุณนายโจวบอก“ค่ะ” โจว เชียนหยุนตอบขณะจูงมือลูกชายไปห้องน้ำเธอพาลูกชายไปห้องน้ำหญิงเพราะเขาเด็กเกินไปที่จะไปห้องน้ำชายคนเดียวโชคดีที่ห้องน้ำหญิงมีประตูทุกบานซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว และไม่มีใครมีปัญหากับประตูนี้เหล่านี้หลังจากที่เด็กน้อยทำธุรระของเขาเสร็จ โจว เชี
แม้ว่าเขาจะสั่งให้คนของเขาหยุดเธอไว้ แต่เขากลับต้องการเห็นเธอด้วยตาของเขาเองและถามเธอว่าเด็กคนนี้คือใคร!ทว่า เขากลับแปลกใจที่เห็นเด็กคนนี้เป็นครั้งที่สองเขาไม่คาดคิดว่าเด็กคนนี้จะเป็นเด็กคนเดียวกันที่เขาเคยพบมาก่อนเขารู้สึกเอ็นดูและต้องการอุปถัมภ์เด็กคนนี้มาก่อน‘ฉันไม่คิดว่า... เด็กคนนั้นจะเป็นลูกของเธอ!’เย่ เหวินหมิงก้มลง ดวงตาสีดำสนิทจ้องไปที่เด็กน้อยที่อยู่ข้างหน้าเขา เขามองเข้าไปในดวงตาที่คล้ายคลึงกับของเขา“หนู... ชื่ออะไร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“ชื่อเล่นชื่ออาหยันฮะ ส่วนชื่อเต็มของผมชื่อโจว หยัน” เด็กน้อยส่งยิ้มให้เย่ เหวินหมิงทันทีที่เขาเห็นรอยยิ้มของเด็กน้อย เย่ เหวินหมิงก็พบเหตุผลที่เขาเอ็นดูเด็กน้อย เป็นเพราะรอยยิ้มของเด็กคนนี้ดูเหมือนกับรอยยิ้มของโจว เชียนหยุน!‘โจว หยัน?’“พ่อของหนู... อยู่ที่ไหนล่ะ?” เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเด็กน้อยก็เริ่มบูดบึ้งขึ้นเล็กน้อยในทันที “พ่อไม่อยู่แล้ว แม่บอกว่าพ่ออยู่บนสวรรค์”‘บนสวรรค์?’ เย่ เหวินหมิงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาและเดินไปหาโจว เชียนหยุนที่ยืนหน้าซีดอยู่“เอาลูกฉัน… คืนมา
โจว เชียนหยุนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะขึ้นรถตามเย่ เหวินหมิงไปจากนั้นโทรศัพท์ของโจว เชียนหยุนก็ดังขึ้น เธอมองดูหมายเลขผู้โทรเข้าและเห็นว่าเป็นแม่ของเธอทันทีที่เธอหยิบมันขึ้นมา เธอก็ได้ยินเสียงกังวลใจของคุณนายโจวรอดผ่านออกมาจากโทรศัพท์ “หยุน ลูกอยู่ที่ไหน? เขาเช็กอินกันจะเสร็จหมดแล้วนะ”“อาหยันน้อยกับฉันคงไปตอนนี้ไม่ได้แล้วล่ะแม่ แม่ไปหาโรงแรมเล็ก ๆ พักรอก่อนได้ไหม?” โจว เชียนหยุนพูด“เกิดอะไรขึ้น?” คุณนายโจวถามโจว เชียนหยุนเงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ เหวินหมิง แล้วพบว่ามีรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากของเขา ราวกับว่าเขากำลังรอดูว่าเธอจะตอบอย่างไร อาหยันน้อยที่นั่งอยู่ระหว่างพวกเขา เงยหน้าขึ้นมองไปที่เธอเขามีดวงตาที่คล้ายคลึงกับพ่อ และตอนนี้พวกเขากลับดูเหมือนกันมากยิ่งขึ้น“อาหยันน้อยและฉันอยู่กับเย่ เหวินหมิง” โจว เชียนหยุนพูดด้วยท่าทีสงบเสียงตื่นตระหนกของคุณนายโจวดังขึ้น “เขา... เขาเจออาหยันน้อยแล้วเหรอ? แล้วเขา... กับลูก…”คุณนายโจวพูดติดอ่างอย่างช่วยไม่ได้“ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ ฉันจะจัดการเอง” จากนั้น โจว เชียนหยุนจึงวางสาย“เธอจะจัดการเหรอ? ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าเธอจะจัดการเร
เขารู้สึกจุกในอกอย่างบอกไม่ถูก!ทันใดนั้น รถยนต์ก็แล่นมาจอดอยู่หน้าโรงแรม เย่ เหวินหมิงออกไปก่อน และโจว เชียนหยุนก็เดินจับมืออาหยันน้อยตามชายชุดสูทเข้าไปห้องที่เย่ เหวินหมิงพักอยู่นั้นเป็นห้องชุดสุดหรูของโรงแรมนี่เป็นครั้งแรกที่อาหยันได้เข้ามาในห้องสุดหรูแบบนี้ เขารู้สึกประหลาดใจกับทุกอย่างที่นี่ แม้แต่จอโทรศัพท์แอลซีดี ขนาด 70 นิ้ว ก็ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างทว่า หลังจากได้ผจญภัยมาทั้งวัน เด็กน้อยก็เริ่มง่วงนอนเขาควรจะได้งีบหลับหลังอาหารกลางวัน แต่ก่อนหน้านั้นเขาตื่นเต้นกับรถไฟความเร็วสูงจนนอนไม่หลับ ทันทีที่พวกเขาเข้ามาถึงโรงแรม เด็กชายก็ผล็อยหลับไปทันทีโจว เชียนหยุนมองดูลูกชายที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนและพูดกับเย่ เหวินหมิงว่า “อาหยันน้อยนอนในห้องนี้ได้ไหม? ถ้าคุณอยากจะคุยอะไรกับฉัน เราก็ย้ายไปคุยกันในห้องอื่น ฉันไม่อยากให้เขาได้ยินในเรื่องที่ไม่ควรได้ยิน”ดวงตาของเย่ เหวินหมิงเขม็งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้น เขาจึงออกจากห้องไปโดยไม่ปริปากพูดอะไรโจว เชียนหยุนเดินไปข้างเตียงและวางเด็กน้อยลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะห่มผ้าห่มให้เขา เธอเอื้อมมือไปจับแก้มของ