อี้ จิ่นหลีโอบแขนรอบเอวของหลิง อี้หรานและเขยิบริมฝีปากบางของเขาเข้าใกล้ ๆ หูของเธอเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าชิน เหลียนอีจะพูดอะไรดี ๆ เป็นเหมือนกันนะ”“อะไรนะ?” หลิง อี้หรานอุทาน“เธอเลือกสามีได้ดี” อี้ จิ่นหลีพูดขณะที่เขาหยอกล้อกับใบหูส่วนล่างของหลิง อี้หรานด้วยปลายลิ้นอย่างนุ่มนวลเธออ้าปากค้างและหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม “จิน...” เธอเริ่มพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย“อีกหนึ่งปี เราจะแต่งงานกันทันที” อี้ จิ่นหลีพึมพำ ‘หนึ่งปี ฉันจะรอเธออีกแค่หนึ่งปี หนึ่งปีให้หลัง เธอจะเป็นของฉันอย่างแท้จริง’เขาผละริมฝีปากบางและขบติ่งหูของเธอเบา ๆ ก่อนดูดเม้มมัน จนเธอตัวสั่น“จิน อย่า...” ตอนนี้เธอเป็นเหมือนกุ้งต้ม ใบหูของเธอร้อนมาก ราวกับเลือดของเธอกำลังพุ่งไปที่นั่นแต่เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินเสียงเธอ เขายังคงขบเม้มเบา ๆ ที่ติ่งหูของเธอก่อนจะที่คาง คอ และขยับไปจนถึงหน้าอกของเธอเธอหน้าแดงจนไม่กล้ามองหน้าเขา “อย่า… อย่า ถ้าคนรับใช้เข้ามาล่ะ?”ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องครัว หากมีใครมาเห็นพวกเขา...“ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก ถ้าฉันไม่สั่งพวกเขา” เขาพึมพำ และบรรจงจูบที่หัวใจด้านซ้ายของเธอเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้
ไป๋ ทิงซินพบว่าประสบการณ์ครั้งแรกของเขาส่วนใหญ่ มักจะเกิดขึ้นเพราะชิน เหลียนอีตัวอย่างเช่น เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เมาและขึ้นคร่อมเขา เธอทำทุกสิ่งที่เธอควรทำและไม่ควรทำในวันรุ่งขึ้นเขาถูกผู้หญิงคนนี้ทิ้งดื้อ ๆ โดยไม่มีคำพูดลาอะไรเลยเป็นครั้งแรกและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกขอให้แชร์ลิงก์ข่าวซุบซิบใน WeChatเธอเคยสงสัยบ้างไหมว่าผู้ติดต่อส่วนใหญ่ใน WeChat ของเขาเป็นใคร?อย่างไรก็ตาม เขาเคยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องระหว่างห่าว อี้เหมิงกับหลิง อี้หรานมาก่อน ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้ว่าเธอเกลียดชังห่าว อี้เหมิงแค่ไหนเขาไม่กลัวที่จะรุกรานตระกูลห่าว เพราะทุกวันนี้เขาก็ทำให้หลายคนขุ่นเคืองอยู่แล้วแต่… ไป๋ ทิงซินหรี่ตาลงเล็กน้อยและตอบชิน เหลียนอีใน WeChat ว่า ‘ทำไมผมต้องแชร์ลิงก์เพื่อคุณด้วย?’ครู่ต่อมา ชิน เหลียนอีตอบว่า ‘เพราะคุณเป็นแฟนของฉัน!’ข้อความของเธอส่งมาพร้อมกับมีมคุกเข่าไป๋ ทิงซินรู้สึกขบขันเล็กน้อยบางครั้งผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้เขาลุกขึ้นพรวดพราดด้วยความโกรธ แต่บางครั้งเธอก็ทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่ารักดูเหมือนว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย เพิกเฉยต่อการฉ้อโกงและการแท
ไป๋ ทิงซินไปรับชิน เหลียนอีหลังเลิกงาน ภายในรถ ชิน เหลียนอียังคงแชร์ข่าวและแสดงความคิดเห็น เธอพยายามอย่างหนักเพื่อให้ข่าวซุบซิบนั้นขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรงขณะที่เธอ ‘ต่อสู้’ อยู่ ชิน เหลียนอีก็พูดขึ้นว่า “ตระกูลห่าวน่ารังเกียจมาก พวกเขาเอาแต่ลบข่าวพวกนี้ออกจากการค้นหา ไม่อย่างนั้นความคิดเห็นและข่าวนี้คงติดเทรนด์การค้นหาไปแล้ว”“คุณอยากให้ข่าวนี้อยู่ในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรงเหรอ?” ไป๋ ทิงซินถาม“แน่นอน ไม่อย่างนั้นฉันจะทำไปเพื่ออะไรล่ะ?” เธอบ่นแต่ไม่หยุดแชร์ลิ้งก์ข่าว“ก็แค่กดค้นหาข่าวในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรง ทำไมถึงมีปัญหาเยอะนักล่ะ?” ไป๋ ชิงซินถาม“ถ้าฉันไม่ทำมัน ฉันก็ไม่มีความหวังอะไรเลย” ชิน เหลียนอีพูดอย่างโกรธเคือง“คุณไม่รู้หรือว่าคุณสามารถจ่ายเงินเพื่อใส่บางอย่างลงไปในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรงได้?”ชิน เหลียนอีตกใจกับคำพูดของเขาที่ให้ความกระจ่างแก่เธอ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปที่ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยดวงตาที่สดใสราวกับแมวเหมียวพระเจ้า เธอลืมไปได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างเธอมีเงินมากมาย ไม่ต้องพูดอะไรอีก! มันเป็นเรื่อ
แต่ทำไมสายตาที่เขามองมาที่เธอถึงดูมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่?มันเหมือนกับภาพลวงตาว่าเขารักเธอ!‘เขาจะรักฉันได้อย่างไร?’‘เขาเกลียดฉัน! ฉันนอนกับเขาและทิ้งเขาไปในวันรุ่งขึ้นโดยไม่บอกลาสักคำ!’“ฉัน...” เธอกัดริมฝีปากของเธอและไม่รู้จะพูดอะไรเขาไม่รอให้เธอตอบ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดหมายเลขและพูดกับปลายสายว่า “ได้ข่าวว่าห่าว อี้เหมิงถูกขึ้นแบล็คลิสต์และพยายามลบข่าวที่ลาออกจากรายการการค้นหาที่กำลังมาแรง... ใช่… เดี๋ยวก่อน”ไป๋ ทิงซินหันไปหาชิน เหลียนอีแล้วถามว่า “คุณอยากให้ข่าวนั้นเป็นที่หนึ่งในรายการค้นหาที่มาแรงกี่วัน?”“ฮะ?” ชิน เหลียนอีกระพริบตา เธอยังคงฟุ้งซ่านเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาว่า “สามวัน?”“สามวัน” ไป๋ ทิงซินตอบกลับปลายสาย ครู่ต่อมา เขาก็วางโทรศัพท์และพูดกับชิน เหลียนอีว่า “ผมทำในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว”ชิน เหลียนอีกระพริบตาอีกครั้ง ‘แค่นี้... เหรอ?’เธอพยายามดันข่าวนั้นให้ขึ้นเป็นประเด็นร้อนมาเกือบทั้งวันแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ แต่… เอ่อ มันกลับจบลงด้วยการจูบและการโทรศัพท์เหรอ?จู่ ๆ ชิน เหลียนอีก็พบว่าการจูบของเธอ... เป็นการจูบที่คุ้มค่าสุด ๆ เธอไม่รู้ว่าเขาต้องใช
“พี่สาวของฉันเคยบอกว่าผู้ชายอย่างอี้ จิ่นหลีไม่เคยรักใครเลย! เขาไม่ไว้ใจผู้หญิง ในโลกนี้เขาเชื่อตัวเองเท่านั้น!”‘เว้นแต่ว่าหลิง อี้หรานจะทำให้อี้ จิ่นหลีไม่สงสัยในตัวเธอ หากมีข้อสงสัยเพียงเล็กน้อย…’ ดวงตาของห่าว อี้เหมิงมืดมนลงอี้ จิ่นหลีเสียสติไปแล้ว พี่สาวของเธอรักเขามาก แม้ว่าอี้ จิ่นหลีจะไม่ได้รักเธอ แต่เธอก็ยังต้องการแต่งงานกับเขาและอี้ จิ่นหลีไม่เคยคร่ำครวญให้กับเธอเลยในตอนที่เธอเสียชีวิต‘ฉันอยากจะเห็นว่าอะไรจะเกิดนกับหลิง อี้หราน’‘หลิง อี้หรานทำให้ฉันลำบากใจ เมื่อไหร่ที่หลิง อี้หรานถูกอี้ จิ่นหลีเขี่ยทิ้ง ฉันจะทำให้หลิง อี้หรานได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอีกครั้งอย่างแน่นอน!’…แม้ว่าครอบเซียวและครอบครัวห่าวจะพยายามอย่างหนักและใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ข่าวเกี่ยวกับห่าว อี้เหมิงที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์ก็ยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการค้นหาที่มาแรงเป็นเวลาสามวันทั้งสองครอบครัวต่างรับรู้มาว่ามีมากกว่าหนึ่งฝ่ายที่ต้องการนำข่าวของอี้เหมิงมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการห่าว อี้เหมิงถูกทำให้อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครชิน เหลียนอีอารมณ์ดีเมื่อเธอเห็นข่าวที่ติดอันดับรายการค้นหาที่มาแรงในท
“คุณไม่จำเป็นต้องลำบากตามมาก็ได้ ฉันแค่ไปเยี่ยมหลุมฝังศพของคุณยาย แล้วฉันจะรีบกลับมา” เธอพูด“มันไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร” อี้ จิ่นหลียืนกราน “อี้หราน ที่ฉันจะไปเพราะเขาเป็นคุณยายของเธอ”หลิง อี้หรานรู้สึกอบอุ่นขี้นในหัวใจ จากนั้นเธอก็เอาแขนโอบเอวเขาและซุกใบหน้าของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา‘นี่คือความที่รู้สึกที่ถูกใครบางคนหวงแหนใช่ไหม?’อี้ จิ่นหลีมองดูคนในอ้อมกอด เขายกมือขึ้นลูบผมของเธอ “เธออยากจะขอพรวันเกิดไหม?”‘ขอพร?’ หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก สิ่งที่ต้องการมากที่สุดสูงคือการพลิกคดีของเธอ แต่ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องการนั้นได้กลายเป็นจริงแล้วตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการคือ... “ไม่ว่าฉันจะขออะไร คุณจะทำมันเพื่อฉันได้ไหม?” เธอถามขณะที่เงยหน้ามองมาที่เขา “แน่นอน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ” เขาตอบเธออย่างมั่นใจ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกคุณในงานวันเกิดของฉัน” หลิง อี้หรานพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเธอไม่ได้ต้องการให้เขามาลุยน้ำลุยไฟหรือเสี่ยงอะไรเพื่อเธอ เธอเพียงต้องการให้เขาเชื่อมั่นในตัวเธอ เชื่อว่าเธอรักเขา ไม่หวั่นไหวและไม่แสดงแววตาที่เปราะบางและอ้างว้างในดวงตาของเขาอีกนั่นก็เพราะว่า...
‘โจว เชียนหยุนอยู่ที่ไหนในค่ำคืนนี้?’ผู้หญิงคนนั้นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ติดอยู่ในหัวใจของเขามายาวนานเขาเป็นผู้ชนะแท้ ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่มีความสุขเอาเสียเลย? ทุกครั้งที่เขานึกถึงผู้หญิงคนนั้น เขากลับรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย‘ถ้าฉันหาเธอเจอ ความรู้สึกนี้อาจจะหายไป’‘ฉันจะตามหาเธอให้เจอ เธอจะได้ไม่มีพื้นที่ในหัวใจของฉันอีก!’…ในวันรุ่งขึ้น คนขับรถประจำตระกูลอี้ได้ขับรถพาหลิง อี้หรานไปที่นอกเมืองหลิง อี้หรานในชุดสีดำเดินเข้าไปในบ้านของครอบครัวลู่วันนี้เป็นวันครบรอบ 49 วันหลังจากที่คุณยายจากไป ครอบครัวลู่วางแผนที่จะจัดงานใหญ่โต พวกเขาอันเชิญนักบวชลัทธิเต๋าให้มาสวดมนต์ รวมถึงเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมากมายให้มาเข้าร่วมงานเมื่อหลิง อี้หรานมาถึงบ้านของครอบครัวลู่ เธอก็เห็นแขกรับเชิญเต็มบ้านแล้วหลิง อี้หรานมองดูภาพขาวดำของคุณยายขณะจุดธูป ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาคุณยายคือคนที่เคยปกป้องเธอมากที่สุดตอนที่เธออายุสามถึงเก้าขวบ คุณยายเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ของเธอ คอยปกป้องเธอจากความยากลำบากทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเธอให้ดีคุณยายเคยพูดไว้ว่า “อี้หรานเป็นเด็กที่มุ่ง
หลิง อี้หรานรู้สึกสั่นสะท้าน สายตาของเขา... เฉยเมยและดูห่างเหินราวกับว่าเขากำลังมองคนแปลกหน้าเธอรู้สึกว่าเธอกำลังสูญเสียบางอย่าง ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว‘ทำไมฉันถึงรู้สึกสูญเสีย? เป็นเพราะคนคนนี้ที่เคยอยู่ในช่วงที่ยากลำบากกับฉันตอนเด็ก ๆ แล้วทำกับฉันราวกับเป็นคนแปลกหน้าหรือเปล่า?’‘แต่... ฉันก็เป็นคนเลือกแบบนี้เองไม่ใช่เหรอ?’‘แม้ว่าฉันจะเป็นคนช่วยชีวิตของกู้ ลี่เฉินเอาไว้... แต่ฉันก็เลือกแล้ว ฉันตัดสินใจเลือกจินแล้ว!’‘ฉันไม่อยากทำให้จินเสียใจ ฉันไม่ต้องการให้คนที่รักฉันดูเปราะบางและไม่มั่นใจในความรักของฉัน ดังนั้น ไม่ว่าความทรงจำของฉันจะสูญหายไปหรือไม่ก็ตาม ฉันก็จะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก!’‘ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้แหละ ดีแล้ว’หลิง อี้หรานยิ้มเหยเกและก้มศีรษะลงหวา ลี่ฟางที่ยืนอยู่ข้างกู้ ลี่เฉินมองดูหลิง อี้หรานด้วยความเกลียดชัง จากนั้นเธอจึงมองไปที่กู้ ลี่เฉินด้วยสายตาที่เป็นกังวล เธอกลัวว่ากู้ ลี่เฉินจะมีท่าทีแตกต่างออกไปหลังจากที่เห็นหลิง อี้หรานถ้ากู้ ลี่เฉินแตะต้องตัวหลิง อี้หรานในงานนี้เหมือนกับที่เขาทำในงานจัดแสดงสินค้าครั้งที่แล้ว เธอคงจะอับอาย
หลิงอี้หรานลุกขึ้นและกอดชินเหลียนอีเบา ๆ “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจ”“เธอพูดเรื่องอะไรกัน? ฉันก็แค่อยากให้เธอโอเคแล้วก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องในอดีต ยังไงซะ เธอก็ต้องเดินหน้าต่อไปใช่ไหมล่ะ?” ชินเหลียนอีพูดพร้อมสูดจมูกและฝืนยิ้มให้หลิงอี้หรานแต่หลิงอี้หรานรู้สึกแสบจมูกเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของเพื่อนรัก เหลียนอีนั้นยังเจ็บช้ำจากอาการอกหัก แต่ว่าเลือกทึ่จะกลบฝังความเจ็บปวด และเผชิญหน้ากับคนอื่นด้วยรอยยิ้ม“ฉันจะไม่เป็นอะไร เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอก เธอสิเป็นคนที่ต้องไม่เป็นอะไร รีบ ๆ หายดีไว ๆ เธอต้องมาเล่นกับลูก ๆ ของฉันตอนที่พวกเขาเกิดมาแล้ว” หลิงอี้หรานบอก“พวกเราทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร” ชินเหลียนอีกอดเพื่อนรักเธอแน่นและก็พูดกับตัวเองอีกครั้ง “ฉันจะลืมไป๋ถิงซิน ฉันทำได้แน่ ๆ ฉันก็แค่ต้องมองว่า ความสัมพันธ์ของฉันและไป๋ถิงซินก็เป็นความทรงจำเรื่องหนึ่ง จากนี้ไปมันจะเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น”อาการเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็ใกล้วันตรุษจีนเข้ามาทุกที หลิงอี้หรานเอามือลูบท้อง เธอไม่เห็นจินมาหลายวันแล้ว ทุกวันนี้เธอคิดถึงแต่เรื่องที่เหลียนอีพูด ‘เดินไปข้างหน้า’ เธอถามตัวเองว่า เธอรัก
”นายน้อยอี้แค่ต้องการปกป้องคุณให้ดีขึ้นแค่นั้นครับคุณผู้หญิง” เกาฉงหมิงบอก “เขาจะปกป้องฉัน หรือว่าคอยจับตาดูฉันกันแน่?” อี้หรานถาม เกาฉงหมิงเงียบไปทันที เพราะอย่างไรนายน้อยอี้ก็สั่งไม่ให้บอกอี้หรานเรื่องเลขาหวังเพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นกังวลโดยเฉพาะตอนนี้เธอใกล้คลอดแล้ว หลิงอี้หรานเองก็ไม่ได้คาดคั้นเธอแค่ก้มหน้ามองหน้าท้องที่พองนูน เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหลิงอี้หรานก็เจอชินเหลียนอี เธอดูท่าทางสดใสตอนนี้เธอดูแลตัวเองได้แล้ว เมื่อออกจากโรงพยาบาลและได้พักผ่อนสักหน่อย เธอก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ชินเหลียนอี้ทักหลิงอี้หราน “อี้หราน เธอมาแล้ว มาสิมา มานั่งเร็ว เธอเป็นคนท้องแล้วตอนนี้ก็เป็นช่วงต้องระวัง” หลังจากที่อี้หรานนั่ง เธอก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง? หมอบอกไหมว่า เธอจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน?”“หมอบอกว่า ฉันออกได้อาทิตย์หน้าน่ะ” ชินเหลียนอี้ยิ้มกริ่มพร้อมเอามือลูบหัวที่โล้นเลี่ยน หลังจากที่เธอผ่าตัดสมองผมของเธอก็โดนโกนออกจนเกลี้ยงและเธอก็อาจจะต้องใส่วิกไปสักพักหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล “เมื่อวานพี่โจวมาหาฉันแล้วบอกว่าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันว่าเธอเหมือนรอดตายหวุดหวิดเลยห
อี้จิ่นหลีเกือบจะวิ่งออกจากห้องตรวจของหมอด้วยอาการตื่นตระหนก เขาสั่งหวงเซียนบอดี้การ์ดของหลิงอี้หรานแล้วหมอคนใหม่ให้กลับมาที่ห้องตรวจ หมอที่เคยตรวจหลิงอี้หรานนั้นโดนคนของกู้ลี่เฉินทำให้สลบ“นายน้อยอี้ คุณเป็นอะไรไหมครับ?” เกาฉงหมิงถาม เพราะว่าตอนนี้นายน้อยอี้ดูหน้าซีดมาก“ฉันไม่เป็นอะไร” อี้จิ่นหลีหายใจอย่างยากลำบาก เขาไม่คาดคิดว่า ตัวเองจะยังหวาดกลัวอยู่ เขานั้นกลัวว่า เธอจะตอบว่าเสียใจ แม้เธอจะยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการหย่า เขาก็กลัวว่าสักวันเธอจะคิดขึ้นมา เขานั้นกลัวว่า เธออาจจะรักเขาไม่มากพอ.. เขากลัวหลายอย่างมาก“นายเจอเลขาหวังหรือยัง?” อี้จิ่นหลียกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากและถามเกาฉงหมิง“ยังครับ” เกาฉงหมิงตอบ ตั้งแต่งานศพของนายท่านอี้ เลขาหวังที่เคยทำงานให้นายท่านอี้ก็หายตัวไป แม้ว่าพวกเขาจะสั่งคนเพิ่มไปตามหาเลขาหวังก็ยังหาไม่เจอ“ตามหาต่อไป ตราบใดที่เขายังไม่ออกจากเมืองเฉินไป ถึงต้องพลิกแผ่นดินก็ต้องหาเขาให้ได้” อี้จิ่นหลีสั่ง สีหน้าเขามืดครึ้ม เลขาหวังนั้นเป็นคนเก็บความลับของปู่ ปู่ของเขาน่าจะทำมากกว่าแค่ส่งอีเมลข้อมูลความจริงไปหากู้ลี่เฉิน มันจะต้องมีอย่างอื่นอีก ไม่อย่า
ขณะที่พูดเขาก็เดินมาหาหลิงอี้หรานและจ้องเธอ “เธอเคยบอกว่าเธอจะไม่ทิ้งฉันตราบใดที่ฉันไม่ทิ้งเธอใช่ไหม? ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่ทิ้งฉันไปตราบที่เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” หลิงอี้หรานอึ้งไป สิ่งที่เธอเคยพูดก่อนหน้านี้ยังดังกังวาลในหูเธอ มือของเธอจับหน้าท้องซึ่งตอนนี้ใหญ่เท่าอายุครรภ์พร้อมคลอด เธอสูดหายใจลึกก่อนบอกว่า “ใช่ ฉันพูดแบบนั้น” จากนั้นเธอก็หันไปมองกู้ลี่เฉินและพูดว่า “กู้ลี่เฉิน คุณก็ได้ยินเขาแล้ว ฉัน… จะไม่ทิ้งจินไป” เมื่อเธอพูดคำว่า ‘จิน’ ออกมา ดวงตาของอี้จิ่นหลีก็เป็นประกายขณะที่เขายืนอยู่ข้างเธอ ความตื่นเต้นยินดีฉายผ่านใบหน้าเขาอย่างห้ามไม่อยู่ ‘เธอเรียกฉันว่าจินอีกครั้งแล้ว นี่หมายความว่าเธอยอมอภัยให้แล้วลืมเรื่องในอดีตใช่ไหม?’สีหน้ากู้ลี่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้รู้สีกแปลกใจมากนัก บางทีเขาก็อาจจะคาดคำตอบนี้ไว้แล้ว เขาแค่อยากรู้ว่า เธอจะยังอยู่กับอี้จิ่นหลีไหมหลังจากที่ได้รู้ความจริง “โอเค เข้าใจแล้ว ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” กู้ลี่เฉินพูดก่อนที่จะออกจากห้องตรวจของหมอไปพร้อมคนของเขา อี้จิ่นหลียังสั่งให้คนอื่นออกไปจากห้อง จู่ ๆ ก็เหลือ
”จิ่นหลีขังคุณไว้เหรอ?” กู้ลี่เฉินถาม หลิงอี้หรานอึ้งไป ‘ขังฉันเหรอ? เขาเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?’เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของเธอ กู้ลี่เฉินก็บอกว่า “จำนวนของยามในคฤหาสน์อี้ทุกวันนี้เพิ่มขึ้นมาสามเท่า และผมก็ได้ยินว่าระบบรักษาความปลอดภัยก็เปลี่ยนเป็นตัวที่ดีขึ้น อีกอย่างผมไปหาคุณสองครั้งแล้ว แต่ว่าอี้จิ่นหลีก็หยุดผมไว้ทั้งสองครั้ง ผมเจอคุณไม่ได้เลย พอผมโทรเข้ามือถือของคุณ สัญญาณก็โดนตัดไปอัตโนมัติ” หลิงอี้หรานตกใจเมื่อเธอได้ยินเช่นนี้ กลายเป็นที่เธอรู้สึกว่าจำนวนของบอดี้การ์ดเพิ่มขึ้นนั้นเธอไม่ได้คิดไปเอง แสดงว่าจินส่งคนมากขึ้นให้มาคอยตามเธอ มีครั้งหนึ่งที่เธออยากไปเดินแถวบ้านแต่ว่าย่านนั้นก็มีการจัดการเก็บกวาดจนหมด และเธอก็มีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งคอยห้อมล้อม ตั้งแต่นั้นเธอก็ไม่ออกไปเดินเตร่อีกเลย เธอเดินอยู่แต่ในคฤหาสน์เท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนมีกล้องวงจรปิดในบ้านเพิ่มขึ้นด้วย 'นีจินกลัว… ว่าฉันจะหนีเหรอ? เขาเลยขังฉันไว้ด้วยวิธีนี้’ หลิงอี้หรานครุ่นคิดขณะที่กู้ลี่เฉินพูดอย่างวิตก “ระหว่างคุณกับเขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือว่าเขา…” เขานั้นกลัวว่าหลังจากที่อี้หรานรู้ความจริง ความสัมพันธ์ร
”แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลห่าว ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่ได้อะไรเลย คุณก็ยังได้สิ่งที่พ่อแม่ของคุณจะให้อยู่ดี”“ได้มาไม่เท่าไหร่แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ห่าวอี้เหมิงแค่นเสียง “ถ้าพี่สาวฉันยังมีชีวิตอยู่แล้วฉันเป็นทายาทลำดับสองของตระกูลห่าว พ่อแม่ของคุณคงไม่ให้ค่าฉันแบบนี้แล้วก็ต้องบอกให้คุณระวังตอนที่คบกับฉัน” เซียวจื่อฉีหน้าแดงก่ำทันที เขารู้ว่าห่าวอี้เหมิงพูดถูก พ่อแม่ของเขาเลือกเธอเพราะว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลห่าว “แต่หลิงอี้หรานบริสุทธิ์ ทำไมคุณถึงทำกับเธอแบบนั้นตอนที่อยู่ในคุก ทั้ง ๆ ที่คุณก็ป้ายความผิดให้เธอแล้ว?” เซียวจื่อฉีถาม เซียวจื่อฉีตัวสั่นเมื่อคิดถึงว่า ห่าวอี้เหมิงทำกับอี้หรานอย่างไรในตอนนั้น แล้วที่แท้ตัวเธอเองกลับเป็นฆาตกรตัวจริง ผู้หญิงคนนี้เสแสร้งแกล้งแสดงใส่เขามากแค่ไหนนะ?“เธอเป็นแฟนคุณ มีเพียงแต่ต้องกำจัดหล่อนเท่านั้นฉันถึงจะมีโอกาสได้เป็นแฟนคุณ” ห่าวอี้เหมิงยิ้มเย้ย “ ฉันก็แค่อยากเห็นว่า หลิงอี้หรานสำคัญกับคุณมากแค่ไหน แต่… ฮ่าฮ่า… กลายเป็นว่าเธอไม่มีค่าอะไรเลย” หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ห่าวอี้เหมิงก็บอกอีกว่า “เซียวจื่อฉี คุณเขี่ยหลิง
แต่ด้านนอกช่วงนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เครือข่ายของตระกูลห่าวล้มและไม่สามารถจ่ายหนี้ธนาคารได้ ดังนั้นธนาคารจึงยื่นเรื่องให้ห้ามมีการเคลื่อนไหวใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลห่าว ขณะเดียวกัน ข่าวก็แพร่ไปว่า ตำรวจได้ไปจับกุมห่าวอี้เหมิงในงานแฟนมีตติ้ง แม้ว่าห่าวอี้เหมิงจะออกจากวงการบันเทิงมาแล้ว แต่เธอก็ยังมีแฟนคลับเหนียวแน่นจำนวนมาก เธอนั้นแต่งตัวเพื่อไปงานแฟนมีตติ้งโดยใส่สร้อยคอมูลค่า 300 ล้านบาท เธอถึงขั้นเชิญนักข่าวมาร่วมงาน เจตนาของห่าวอี้เหมิงที่จัดงานแฟนมีตติ้งก็คือเพื่อแสดงให้เห็นว่า ตระกูลห่าวไม่ได้เจอปัญหาทางด้านการเงิน และเพื่อให้ชื่อของเธอติดกระแสในโลกออนไลน์ แต่ตำรวจกลับโผล่มาในงานแฟนมีตติ้งของเธอเธอนั้นโดนใส่กุญแจมือต่อหน้าแฟนคลับกลุ่มใหญ่โดยตำรวจที่บอกว่า มาจับเธอในข้อหาต้องสงสัยการฆาตกรรม บรรดาแฟนต่างก็ตกตะลึง ‘ฆาตกรรมเหรอ? ฆาตกรรมอะไรกัน? เทพธิดาห่าวของเราเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมเหรอ?’ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่มีโอกาสที่จะปกปิดข่าวไว้ได้ แม้ห่าวอี้เหมิงและตระกูลห่าวจะอยากทำแค่ไหนก็ตาม เพราะอย่างไรก็มีแฟน ๆ อยู่มากเกินไป จากนั้นเหตุการณ์นี้ก็กลายเป็นหัวข้
เขานั้นจะทำทุกอย่างให้เธอยอมอภัยทุกอย่างยกเว้นไปจากเขา เขาไม่สนใจว่าเธอต้องการจะไปจากคฤหาสน์อี้ หรือไปจากเขา แต่ว่าเขายังอยากจะกักขังเธอไว้ในคฤหาสน์อี้ มันเหมือนกับเขาเชื่อว่า เธอจะไม่มีทางทิ้งไปแบบนั้นแน่ เมื่อพูดจบแล้วจิ่นหลีก็หันหลังเดินออกจากห้องไป ไม่นานพยาบาลก็เข้ามาซึ่งเป็นคนเดียวกับที่คอยดูแลอี้หรานตอนกลางคืนตลอดหลายวันมานี่ “คุณผู้หญิงอี้คะ คุณผู้ชายอี้บอกว่าให้คุณพักผ่อน เขาจะไม่เข้ามาในห้องอีกแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องอะไรแล้วค่ะ” พยาบาลผู้ดูแลบอกหลิงอี้หรานเงียบ เธอนอนลงและหลับตาช้า ๆ แต่มือของเธอยังคงลูบท้องอยู่ เธอนั้นพยายามสงบสติอารมณ์ลง เธอต้องทำใจให้สงบเพื่อเด็ก ๆ ‘ฉันควรทำยังไงดี? ฉันไม่สามารถลืมความเจ็บปวดและการที่เขามองดูอยู่ข้าง ๆ เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ได้? ใช่ไหม?’จู่ ๆ เธอก็คิดถึงสิ่งที่เขามักบอกเธอเสมอว่า หากเขารู้จักเธอเร็วกว่านี้ เขาก็จะไม่ปล่อยให้เธอต้องทรมานแบบนี้น ตอนนั้นเธอเพียงคิดว่า เขาหมายถึงช่วงเวลาที่เธอต้องทรมานอยู่ในคุก แต่มันมีความหมายอื่นที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา หากว่าเขารู้จักและตกหลุมรักเธอเร็วกว่านี้ เขาก็คงไม่นั่งดูอยู่เฉย ๆ เขาจะต้อ
เมื่อหมอและพยาบาลออกไป หลิงอี้หรานก็มองอี้จิ่นหลีที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง เขายืนไม่ไกลจากเตียงนักและเหมือนห้อมล้อมไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวสิ้นหวัง อี้หรานเม้มปากและบอกว่า “พอลูกคลอดแล้ว ฉันอยากจะย้ายออกจากบ้านตระกูลอี้”อี้จิ่นหลีเงยหน้ามองเธอทันทีด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ “เธออยากจะ… ออกจากคฤหาสน์อี้เหรอ?”เธอตอบ “ใช่ เพราะว่าฉันไม่รู้ว่าจะมองหน้าคุณยังไง บางทีการย้ายออกจากคฤหาสน์อี้อาจจะดีกับเราทั้งคู่”เธออาจจะหาข้อแก้ตัวมาช่วยแก้ตัวให้การกระทำของเขาได้ อย่างเช่น เธออาจจะบอกว่าเพราะตอนนั้นเขายังไม่รู้จักเธอและเธอก็ไม่มีค่าอะไรในสายตาเขา แล้วเขาจะมาเห็นอกเห็นใจคนที่ไม่มีความสำคัญอะไรได้อยางไร ในเมื่อเขานั้นมักจะไร้ความรู้สึกอยู่เสมอ? มันก็จะอธิบายได้ว่า ทำไมเขาถึงได้ทำเพียงแค่ดูแต่ไม่เข้ามามีส่วนร่วมอะไร เธออาจจะหาข้ออ้างได้มากกว่าหนึ่งข้อเพื่อที่จะใช้เกลี้ยกล่อมตัวเอง เธอนั้นถูกเลี้ยงดูมาให้เชื่อมั่นในความยุติธรรม นั่นเลยเป็นสาเหตุที่เธอเลือกเป็นทนายซึ่งจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความยุติธรรมด้วยการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ แต่คนที่เธอรักที่สุดกลับไม่แยแสและปล่อยให้เธอต้องติดคุกโดยไร้ค