ไป๋ ทิงซินพบว่าประสบการณ์ครั้งแรกของเขาส่วนใหญ่ มักจะเกิดขึ้นเพราะชิน เหลียนอีตัวอย่างเช่น เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เมาและขึ้นคร่อมเขา เธอทำทุกสิ่งที่เธอควรทำและไม่ควรทำในวันรุ่งขึ้นเขาถูกผู้หญิงคนนี้ทิ้งดื้อ ๆ โดยไม่มีคำพูดลาอะไรเลยเป็นครั้งแรกและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกขอให้แชร์ลิงก์ข่าวซุบซิบใน WeChatเธอเคยสงสัยบ้างไหมว่าผู้ติดต่อส่วนใหญ่ใน WeChat ของเขาเป็นใคร?อย่างไรก็ตาม เขาเคยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องระหว่างห่าว อี้เหมิงกับหลิง อี้หรานมาก่อน ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้ว่าเธอเกลียดชังห่าว อี้เหมิงแค่ไหนเขาไม่กลัวที่จะรุกรานตระกูลห่าว เพราะทุกวันนี้เขาก็ทำให้หลายคนขุ่นเคืองอยู่แล้วแต่… ไป๋ ทิงซินหรี่ตาลงเล็กน้อยและตอบชิน เหลียนอีใน WeChat ว่า ‘ทำไมผมต้องแชร์ลิงก์เพื่อคุณด้วย?’ครู่ต่อมา ชิน เหลียนอีตอบว่า ‘เพราะคุณเป็นแฟนของฉัน!’ข้อความของเธอส่งมาพร้อมกับมีมคุกเข่าไป๋ ทิงซินรู้สึกขบขันเล็กน้อยบางครั้งผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้เขาลุกขึ้นพรวดพราดด้วยความโกรธ แต่บางครั้งเธอก็ทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่ารักดูเหมือนว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย เพิกเฉยต่อการฉ้อโกงและการแท
ไป๋ ทิงซินไปรับชิน เหลียนอีหลังเลิกงาน ภายในรถ ชิน เหลียนอียังคงแชร์ข่าวและแสดงความคิดเห็น เธอพยายามอย่างหนักเพื่อให้ข่าวซุบซิบนั้นขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรงขณะที่เธอ ‘ต่อสู้’ อยู่ ชิน เหลียนอีก็พูดขึ้นว่า “ตระกูลห่าวน่ารังเกียจมาก พวกเขาเอาแต่ลบข่าวพวกนี้ออกจากการค้นหา ไม่อย่างนั้นความคิดเห็นและข่าวนี้คงติดเทรนด์การค้นหาไปแล้ว”“คุณอยากให้ข่าวนี้อยู่ในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรงเหรอ?” ไป๋ ทิงซินถาม“แน่นอน ไม่อย่างนั้นฉันจะทำไปเพื่ออะไรล่ะ?” เธอบ่นแต่ไม่หยุดแชร์ลิ้งก์ข่าว“ก็แค่กดค้นหาข่าวในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรง ทำไมถึงมีปัญหาเยอะนักล่ะ?” ไป๋ ชิงซินถาม“ถ้าฉันไม่ทำมัน ฉันก็ไม่มีความหวังอะไรเลย” ชิน เหลียนอีพูดอย่างโกรธเคือง“คุณไม่รู้หรือว่าคุณสามารถจ่ายเงินเพื่อใส่บางอย่างลงไปในรายการการค้นหาที่กำลังมาแรงได้?”ชิน เหลียนอีตกใจกับคำพูดของเขาที่ให้ความกระจ่างแก่เธอ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปที่ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยดวงตาที่สดใสราวกับแมวเหมียวพระเจ้า เธอลืมไปได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างเธอมีเงินมากมาย ไม่ต้องพูดอะไรอีก! มันเป็นเรื่อ
แต่ทำไมสายตาที่เขามองมาที่เธอถึงดูมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่?มันเหมือนกับภาพลวงตาว่าเขารักเธอ!‘เขาจะรักฉันได้อย่างไร?’‘เขาเกลียดฉัน! ฉันนอนกับเขาและทิ้งเขาไปในวันรุ่งขึ้นโดยไม่บอกลาสักคำ!’“ฉัน...” เธอกัดริมฝีปากของเธอและไม่รู้จะพูดอะไรเขาไม่รอให้เธอตอบ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดหมายเลขและพูดกับปลายสายว่า “ได้ข่าวว่าห่าว อี้เหมิงถูกขึ้นแบล็คลิสต์และพยายามลบข่าวที่ลาออกจากรายการการค้นหาที่กำลังมาแรง... ใช่… เดี๋ยวก่อน”ไป๋ ทิงซินหันไปหาชิน เหลียนอีแล้วถามว่า “คุณอยากให้ข่าวนั้นเป็นที่หนึ่งในรายการค้นหาที่มาแรงกี่วัน?”“ฮะ?” ชิน เหลียนอีกระพริบตา เธอยังคงฟุ้งซ่านเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาว่า “สามวัน?”“สามวัน” ไป๋ ทิงซินตอบกลับปลายสาย ครู่ต่อมา เขาก็วางโทรศัพท์และพูดกับชิน เหลียนอีว่า “ผมทำในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว”ชิน เหลียนอีกระพริบตาอีกครั้ง ‘แค่นี้... เหรอ?’เธอพยายามดันข่าวนั้นให้ขึ้นเป็นประเด็นร้อนมาเกือบทั้งวันแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ แต่… เอ่อ มันกลับจบลงด้วยการจูบและการโทรศัพท์เหรอ?จู่ ๆ ชิน เหลียนอีก็พบว่าการจูบของเธอ... เป็นการจูบที่คุ้มค่าสุด ๆ เธอไม่รู้ว่าเขาต้องใช
“พี่สาวของฉันเคยบอกว่าผู้ชายอย่างอี้ จิ่นหลีไม่เคยรักใครเลย! เขาไม่ไว้ใจผู้หญิง ในโลกนี้เขาเชื่อตัวเองเท่านั้น!”‘เว้นแต่ว่าหลิง อี้หรานจะทำให้อี้ จิ่นหลีไม่สงสัยในตัวเธอ หากมีข้อสงสัยเพียงเล็กน้อย…’ ดวงตาของห่าว อี้เหมิงมืดมนลงอี้ จิ่นหลีเสียสติไปแล้ว พี่สาวของเธอรักเขามาก แม้ว่าอี้ จิ่นหลีจะไม่ได้รักเธอ แต่เธอก็ยังต้องการแต่งงานกับเขาและอี้ จิ่นหลีไม่เคยคร่ำครวญให้กับเธอเลยในตอนที่เธอเสียชีวิต‘ฉันอยากจะเห็นว่าอะไรจะเกิดนกับหลิง อี้หราน’‘หลิง อี้หรานทำให้ฉันลำบากใจ เมื่อไหร่ที่หลิง อี้หรานถูกอี้ จิ่นหลีเขี่ยทิ้ง ฉันจะทำให้หลิง อี้หรานได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอีกครั้งอย่างแน่นอน!’…แม้ว่าครอบเซียวและครอบครัวห่าวจะพยายามอย่างหนักและใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ข่าวเกี่ยวกับห่าว อี้เหมิงที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์ก็ยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการค้นหาที่มาแรงเป็นเวลาสามวันทั้งสองครอบครัวต่างรับรู้มาว่ามีมากกว่าหนึ่งฝ่ายที่ต้องการนำข่าวของอี้เหมิงมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการห่าว อี้เหมิงถูกทำให้อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครชิน เหลียนอีอารมณ์ดีเมื่อเธอเห็นข่าวที่ติดอันดับรายการค้นหาที่มาแรงในท
“คุณไม่จำเป็นต้องลำบากตามมาก็ได้ ฉันแค่ไปเยี่ยมหลุมฝังศพของคุณยาย แล้วฉันจะรีบกลับมา” เธอพูด“มันไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร” อี้ จิ่นหลียืนกราน “อี้หราน ที่ฉันจะไปเพราะเขาเป็นคุณยายของเธอ”หลิง อี้หรานรู้สึกอบอุ่นขี้นในหัวใจ จากนั้นเธอก็เอาแขนโอบเอวเขาและซุกใบหน้าของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา‘นี่คือความที่รู้สึกที่ถูกใครบางคนหวงแหนใช่ไหม?’อี้ จิ่นหลีมองดูคนในอ้อมกอด เขายกมือขึ้นลูบผมของเธอ “เธออยากจะขอพรวันเกิดไหม?”‘ขอพร?’ หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก สิ่งที่ต้องการมากที่สุดสูงคือการพลิกคดีของเธอ แต่ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องการนั้นได้กลายเป็นจริงแล้วตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการคือ... “ไม่ว่าฉันจะขออะไร คุณจะทำมันเพื่อฉันได้ไหม?” เธอถามขณะที่เงยหน้ามองมาที่เขา “แน่นอน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ” เขาตอบเธออย่างมั่นใจ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกคุณในงานวันเกิดของฉัน” หลิง อี้หรานพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเธอไม่ได้ต้องการให้เขามาลุยน้ำลุยไฟหรือเสี่ยงอะไรเพื่อเธอ เธอเพียงต้องการให้เขาเชื่อมั่นในตัวเธอ เชื่อว่าเธอรักเขา ไม่หวั่นไหวและไม่แสดงแววตาที่เปราะบางและอ้างว้างในดวงตาของเขาอีกนั่นก็เพราะว่า...
‘โจว เชียนหยุนอยู่ที่ไหนในค่ำคืนนี้?’ผู้หญิงคนนั้นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ติดอยู่ในหัวใจของเขามายาวนานเขาเป็นผู้ชนะแท้ ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่มีความสุขเอาเสียเลย? ทุกครั้งที่เขานึกถึงผู้หญิงคนนั้น เขากลับรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย‘ถ้าฉันหาเธอเจอ ความรู้สึกนี้อาจจะหายไป’‘ฉันจะตามหาเธอให้เจอ เธอจะได้ไม่มีพื้นที่ในหัวใจของฉันอีก!’…ในวันรุ่งขึ้น คนขับรถประจำตระกูลอี้ได้ขับรถพาหลิง อี้หรานไปที่นอกเมืองหลิง อี้หรานในชุดสีดำเดินเข้าไปในบ้านของครอบครัวลู่วันนี้เป็นวันครบรอบ 49 วันหลังจากที่คุณยายจากไป ครอบครัวลู่วางแผนที่จะจัดงานใหญ่โต พวกเขาอันเชิญนักบวชลัทธิเต๋าให้มาสวดมนต์ รวมถึงเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมากมายให้มาเข้าร่วมงานเมื่อหลิง อี้หรานมาถึงบ้านของครอบครัวลู่ เธอก็เห็นแขกรับเชิญเต็มบ้านแล้วหลิง อี้หรานมองดูภาพขาวดำของคุณยายขณะจุดธูป ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาคุณยายคือคนที่เคยปกป้องเธอมากที่สุดตอนที่เธออายุสามถึงเก้าขวบ คุณยายเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ของเธอ คอยปกป้องเธอจากความยากลำบากทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเธอให้ดีคุณยายเคยพูดไว้ว่า “อี้หรานเป็นเด็กที่มุ่ง
หลิง อี้หรานรู้สึกสั่นสะท้าน สายตาของเขา... เฉยเมยและดูห่างเหินราวกับว่าเขากำลังมองคนแปลกหน้าเธอรู้สึกว่าเธอกำลังสูญเสียบางอย่าง ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว‘ทำไมฉันถึงรู้สึกสูญเสีย? เป็นเพราะคนคนนี้ที่เคยอยู่ในช่วงที่ยากลำบากกับฉันตอนเด็ก ๆ แล้วทำกับฉันราวกับเป็นคนแปลกหน้าหรือเปล่า?’‘แต่... ฉันก็เป็นคนเลือกแบบนี้เองไม่ใช่เหรอ?’‘แม้ว่าฉันจะเป็นคนช่วยชีวิตของกู้ ลี่เฉินเอาไว้... แต่ฉันก็เลือกแล้ว ฉันตัดสินใจเลือกจินแล้ว!’‘ฉันไม่อยากทำให้จินเสียใจ ฉันไม่ต้องการให้คนที่รักฉันดูเปราะบางและไม่มั่นใจในความรักของฉัน ดังนั้น ไม่ว่าความทรงจำของฉันจะสูญหายไปหรือไม่ก็ตาม ฉันก็จะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก!’‘ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้แหละ ดีแล้ว’หลิง อี้หรานยิ้มเหยเกและก้มศีรษะลงหวา ลี่ฟางที่ยืนอยู่ข้างกู้ ลี่เฉินมองดูหลิง อี้หรานด้วยความเกลียดชัง จากนั้นเธอจึงมองไปที่กู้ ลี่เฉินด้วยสายตาที่เป็นกังวล เธอกลัวว่ากู้ ลี่เฉินจะมีท่าทีแตกต่างออกไปหลังจากที่เห็นหลิง อี้หรานถ้ากู้ ลี่เฉินแตะต้องตัวหลิง อี้หรานในงานนี้เหมือนกับที่เขาทำในงานจัดแสดงสินค้าครั้งที่แล้ว เธอคงจะอับอาย
หลิง อี้หรานหัวเราะคิกคักทันที “น้องสาว เธอช่วยกู้ ลี่เฉินไว้จริง ๆ น่ะเหรอ?”หวา ลี่ฟางจ้องมองเธอ “ไม่อย่างนั้นลี่เฉินจะดีกับฉันมากเหรอถ้าฉันไม่ได้ช่วยเขาตอนเด็ก?”“แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะชอบไปเล่นที่เนินเขาหนิ ใช่ไหม? ฉันต่างหากที่ชอบไปเล่นที่นั่น” หลิง อี้หรานตอกกลับใบหน้าของหวา ลี่ฟางซีดเผือด “อะไรนะ... เธอหมายความว่ายังไง? แล้วมันเกี่ยวข้องกับการที่ฉันชอบไปที่นั่นหรือไม่ชอบไปยังไง? ยังไงซะ ฉันก็เป็นคนช่วยลี่เฉินอยู่ดี”“แน่ใจเหรอ?” หลิง อี้หรานมองดูดวงตาเจ้าเล่ห์ของเธอและมั่นใจว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอรู้สึกผิด ลี่ฟางจึงหลบสายตาของเธอเช่นนั้นน้องลี่ฟางต้องไม่ใช่คนที่ช่วยชีวิตกู้ ลี่เฉินอย่างแน่นอน“อี้หราน พอได้หรือยัง?” หวา ลี่ฟางพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง เธอรู้สึกอับอาย ดังนั้นเธอจงใจใช้ความโกรธปกปิดความรู้สกึผิดของเธอ “มันไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเรื่องระหว่างฉันกับลี่เฉิน สนใจแต่เรื่องของเธอเองก็พอ!”จากนั้นหวา ลี่ฟางจึงรีบเดินจากไปหลิง อี้หรานหลุบตาลงและมองไปที่มือของเธอ ‘แล้วถ้าในความฝันทั้งหมดคือฉันที่เป็นช่วยชีวิตกู้ ลี่เฉิน...’‘สองมือนี้ที่จับมือขอ