“พี่สาวของฉันเคยบอกว่าผู้ชายอย่างอี้ จิ่นหลีไม่เคยรักใครเลย! เขาไม่ไว้ใจผู้หญิง ในโลกนี้เขาเชื่อตัวเองเท่านั้น!”‘เว้นแต่ว่าหลิง อี้หรานจะทำให้อี้ จิ่นหลีไม่สงสัยในตัวเธอ หากมีข้อสงสัยเพียงเล็กน้อย…’ ดวงตาของห่าว อี้เหมิงมืดมนลงอี้ จิ่นหลีเสียสติไปแล้ว พี่สาวของเธอรักเขามาก แม้ว่าอี้ จิ่นหลีจะไม่ได้รักเธอ แต่เธอก็ยังต้องการแต่งงานกับเขาและอี้ จิ่นหลีไม่เคยคร่ำครวญให้กับเธอเลยในตอนที่เธอเสียชีวิต‘ฉันอยากจะเห็นว่าอะไรจะเกิดนกับหลิง อี้หราน’‘หลิง อี้หรานทำให้ฉันลำบากใจ เมื่อไหร่ที่หลิง อี้หรานถูกอี้ จิ่นหลีเขี่ยทิ้ง ฉันจะทำให้หลิง อี้หรานได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอีกครั้งอย่างแน่นอน!’…แม้ว่าครอบเซียวและครอบครัวห่าวจะพยายามอย่างหนักและใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ข่าวเกี่ยวกับห่าว อี้เหมิงที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์ก็ยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการค้นหาที่มาแรงเป็นเวลาสามวันทั้งสองครอบครัวต่างรับรู้มาว่ามีมากกว่าหนึ่งฝ่ายที่ต้องการนำข่าวของอี้เหมิงมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการห่าว อี้เหมิงถูกทำให้อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครชิน เหลียนอีอารมณ์ดีเมื่อเธอเห็นข่าวที่ติดอันดับรายการค้นหาที่มาแรงในท
“คุณไม่จำเป็นต้องลำบากตามมาก็ได้ ฉันแค่ไปเยี่ยมหลุมฝังศพของคุณยาย แล้วฉันจะรีบกลับมา” เธอพูด“มันไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร” อี้ จิ่นหลียืนกราน “อี้หราน ที่ฉันจะไปเพราะเขาเป็นคุณยายของเธอ”หลิง อี้หรานรู้สึกอบอุ่นขี้นในหัวใจ จากนั้นเธอก็เอาแขนโอบเอวเขาและซุกใบหน้าของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา‘นี่คือความที่รู้สึกที่ถูกใครบางคนหวงแหนใช่ไหม?’อี้ จิ่นหลีมองดูคนในอ้อมกอด เขายกมือขึ้นลูบผมของเธอ “เธออยากจะขอพรวันเกิดไหม?”‘ขอพร?’ หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก สิ่งที่ต้องการมากที่สุดสูงคือการพลิกคดีของเธอ แต่ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องการนั้นได้กลายเป็นจริงแล้วตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการคือ... “ไม่ว่าฉันจะขออะไร คุณจะทำมันเพื่อฉันได้ไหม?” เธอถามขณะที่เงยหน้ามองมาที่เขา “แน่นอน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ” เขาตอบเธออย่างมั่นใจ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกคุณในงานวันเกิดของฉัน” หลิง อี้หรานพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเธอไม่ได้ต้องการให้เขามาลุยน้ำลุยไฟหรือเสี่ยงอะไรเพื่อเธอ เธอเพียงต้องการให้เขาเชื่อมั่นในตัวเธอ เชื่อว่าเธอรักเขา ไม่หวั่นไหวและไม่แสดงแววตาที่เปราะบางและอ้างว้างในดวงตาของเขาอีกนั่นก็เพราะว่า...
‘โจว เชียนหยุนอยู่ที่ไหนในค่ำคืนนี้?’ผู้หญิงคนนั้นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ติดอยู่ในหัวใจของเขามายาวนานเขาเป็นผู้ชนะแท้ ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่มีความสุขเอาเสียเลย? ทุกครั้งที่เขานึกถึงผู้หญิงคนนั้น เขากลับรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย‘ถ้าฉันหาเธอเจอ ความรู้สึกนี้อาจจะหายไป’‘ฉันจะตามหาเธอให้เจอ เธอจะได้ไม่มีพื้นที่ในหัวใจของฉันอีก!’…ในวันรุ่งขึ้น คนขับรถประจำตระกูลอี้ได้ขับรถพาหลิง อี้หรานไปที่นอกเมืองหลิง อี้หรานในชุดสีดำเดินเข้าไปในบ้านของครอบครัวลู่วันนี้เป็นวันครบรอบ 49 วันหลังจากที่คุณยายจากไป ครอบครัวลู่วางแผนที่จะจัดงานใหญ่โต พวกเขาอันเชิญนักบวชลัทธิเต๋าให้มาสวดมนต์ รวมถึงเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมากมายให้มาเข้าร่วมงานเมื่อหลิง อี้หรานมาถึงบ้านของครอบครัวลู่ เธอก็เห็นแขกรับเชิญเต็มบ้านแล้วหลิง อี้หรานมองดูภาพขาวดำของคุณยายขณะจุดธูป ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาคุณยายคือคนที่เคยปกป้องเธอมากที่สุดตอนที่เธออายุสามถึงเก้าขวบ คุณยายเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ของเธอ คอยปกป้องเธอจากความยากลำบากทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูเธอให้ดีคุณยายเคยพูดไว้ว่า “อี้หรานเป็นเด็กที่มุ่ง
หลิง อี้หรานรู้สึกสั่นสะท้าน สายตาของเขา... เฉยเมยและดูห่างเหินราวกับว่าเขากำลังมองคนแปลกหน้าเธอรู้สึกว่าเธอกำลังสูญเสียบางอย่าง ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว‘ทำไมฉันถึงรู้สึกสูญเสีย? เป็นเพราะคนคนนี้ที่เคยอยู่ในช่วงที่ยากลำบากกับฉันตอนเด็ก ๆ แล้วทำกับฉันราวกับเป็นคนแปลกหน้าหรือเปล่า?’‘แต่... ฉันก็เป็นคนเลือกแบบนี้เองไม่ใช่เหรอ?’‘แม้ว่าฉันจะเป็นคนช่วยชีวิตของกู้ ลี่เฉินเอาไว้... แต่ฉันก็เลือกแล้ว ฉันตัดสินใจเลือกจินแล้ว!’‘ฉันไม่อยากทำให้จินเสียใจ ฉันไม่ต้องการให้คนที่รักฉันดูเปราะบางและไม่มั่นใจในความรักของฉัน ดังนั้น ไม่ว่าความทรงจำของฉันจะสูญหายไปหรือไม่ก็ตาม ฉันก็จะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก!’‘ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้แหละ ดีแล้ว’หลิง อี้หรานยิ้มเหยเกและก้มศีรษะลงหวา ลี่ฟางที่ยืนอยู่ข้างกู้ ลี่เฉินมองดูหลิง อี้หรานด้วยความเกลียดชัง จากนั้นเธอจึงมองไปที่กู้ ลี่เฉินด้วยสายตาที่เป็นกังวล เธอกลัวว่ากู้ ลี่เฉินจะมีท่าทีแตกต่างออกไปหลังจากที่เห็นหลิง อี้หรานถ้ากู้ ลี่เฉินแตะต้องตัวหลิง อี้หรานในงานนี้เหมือนกับที่เขาทำในงานจัดแสดงสินค้าครั้งที่แล้ว เธอคงจะอับอาย
หลิง อี้หรานหัวเราะคิกคักทันที “น้องสาว เธอช่วยกู้ ลี่เฉินไว้จริง ๆ น่ะเหรอ?”หวา ลี่ฟางจ้องมองเธอ “ไม่อย่างนั้นลี่เฉินจะดีกับฉันมากเหรอถ้าฉันไม่ได้ช่วยเขาตอนเด็ก?”“แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะชอบไปเล่นที่เนินเขาหนิ ใช่ไหม? ฉันต่างหากที่ชอบไปเล่นที่นั่น” หลิง อี้หรานตอกกลับใบหน้าของหวา ลี่ฟางซีดเผือด “อะไรนะ... เธอหมายความว่ายังไง? แล้วมันเกี่ยวข้องกับการที่ฉันชอบไปที่นั่นหรือไม่ชอบไปยังไง? ยังไงซะ ฉันก็เป็นคนช่วยลี่เฉินอยู่ดี”“แน่ใจเหรอ?” หลิง อี้หรานมองดูดวงตาเจ้าเล่ห์ของเธอและมั่นใจว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอรู้สึกผิด ลี่ฟางจึงหลบสายตาของเธอเช่นนั้นน้องลี่ฟางต้องไม่ใช่คนที่ช่วยชีวิตกู้ ลี่เฉินอย่างแน่นอน“อี้หราน พอได้หรือยัง?” หวา ลี่ฟางพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง เธอรู้สึกอับอาย ดังนั้นเธอจงใจใช้ความโกรธปกปิดความรู้สกึผิดของเธอ “มันไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเรื่องระหว่างฉันกับลี่เฉิน สนใจแต่เรื่องของเธอเองก็พอ!”จากนั้นหวา ลี่ฟางจึงรีบเดินจากไปหลิง อี้หรานหลุบตาลงและมองไปที่มือของเธอ ‘แล้วถ้าในความฝันทั้งหมดคือฉันที่เป็นช่วยชีวิตกู้ ลี่เฉิน...’‘สองมือนี้ที่จับมือขอ
หลิง อี้หรานซื้อของมาเคารพคุณยายและเธอไม่ต้องการทำแบบนี้กับครอบครัวลู่ เธอต้องการอยู่กับคุณยายของเธอเพียงสองคนขณะที่รถมาถึงเชิงเขา แทนที่จะให้คนขับพาเธอไป แต่หลิง อี้หรานกลับพูดว่า “เดี๋ยวฉันขึ้นไปเองค่ะ ฉันอยากอยู่กับคุณยายตามลำพังสักพัก รอฉันที่นี่นะคะ”คนขับแสดงท่าทีอึดอัดใจ “แต่คุณอี้บอกว่า...”“ฉันจะคุยกับจินเอง เขาจะไม่โทษคุณและที่นี่คือที่ฝังศพของคนในหมู่บ้าน ยิ่งเป็นเวลากลางวันด้วย มันคงไม่มีอะไรอันตรายหรอกค่ะ” หลิง อี้หรานบอกเธอพูดขึ้นขณะเดินแบกทุกอย่างที่เธอซื้อมาขึ้นไปหาร่างไร้วิญญาณของคุณยายคนขับรถไม่กล้าโต้เถียงกับเธอ เขาทำได้เพียงยืนรอเงียบ ๆ ที่เชิงเขาเท่านั้นเมื่อหลิง อี้หรานเดินเข้ามาใกล้หลุมฝังศพของคุณยาย โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากอี้ จิ่นหลี“ฉันประชุมเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” อี้ จิ่นหลีพูด“ไม่ต้องรีบนะ ฉันยังไว้อาลัยคุณยายไม่เสร็จ” หลิง อี้หรานพูด“ตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่?” เขาถาม“ฉันมาหาคุณยายที่หลุมศพ ที่บ้านของครอบครับลู่มีคนอยู่เยอะจนเสียงดังมาก แต่ที่นี่เงียบสงบและฉันสามารถใช้เวลาอยู่กับคุณยายตามลำพังได้ ถ้าคุณมาถึง
“เตรียมรถให้ฉันที” อี้ จิ่นหลีพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ครับ!” เกา ฉงหมิงตอบกลับ เขาเหลือบมองสีหน้าของเจ้านายและรู้สึกราวกับว่ามีข้อต้องห้ามบางอย่างอยู่ในนั้นและเมื่อไหร่ที่เมื่อข้อต้องห้ามนั้นถูกทำลาย บางทีทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไป!อาจจะเป็นเพราะหลิง อี้หรานเกา ฉงหมิงคิดกับตัวเองว่านายน้อยอี้ห่วงใยหลิง อี้หรานมากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ บางทีอาจจะเกินจินตนาการของนายน้อยอี้เองด้วยซ้ำแต่เกา ฉงหมิงก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมนายน้อยอี้ถึงกังวลเกี่ยวกับกู้ ลี่เฉินเป็นอย่างมาก‘เหมือนเขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างหลิง อี้หรานกับกู้ ลี่เฉิน’‘นายน้อยอี้กลัวอะไรกันแน่?’จากนั้น เกา ฉงหมิงก็หัวเราะเยาะตัวเอง ‘นายน้อยอี้กลัวอะไรที่ไหนล่ะ? ฉันอาจจะคิดมากเกินไป!’...หลิง อี้หรานนั่งอยู่บนเนินเล็ก ๆ หน้าหลุมศพของคุณยาย เธอกำลังเล่าเรื่องราวในชีวิตของเธอในตอนนี้ให้คุณยายฟัง รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเธอกับอี้ จิ่นหลีในอนาคตบนเนินเขานี้มีคนไม่มานัก ไม่เหมือนกับที่บ้านของครอบครัวลู่ เพราะวันนี้ไม่ใช่วันแห่งการกวาดสุสานหรือเหมายัน ดังนั้นจึงไม่มีคนอื่นที่มาเยี่ยมหลุมศพ เธอจึงสามารถบอกทุกอ
ในความฝัน เด็กชายก้าวพลาดและลื่นล้มไปที่ขอบหน้าผา เด็กหญิงตัวเล็กพยายามจะดึงเด็กชายขึ้นมาตามสัญชาตญาณและทั้งคู่ก็ไถลลื่นลงไปด้วยกันแต่เด็กหญิงกลับจับมือเด็กชายเอาไว้และไม่ยอมปล่อยมือ จากนั้นเธอก็ดึงเด็กชายขึ้นมากับเธอหลิง อี้หรานเดินไปที่ขอบหน้าผาและมองลงไปอย่างระวังหน้าผานี้ค่อนข้างชัน แม้แต่ผู้ใหญ่ยังคิดว่ามันค่อนข้างอันตราย ถ้าคุณบังเอิญตกลงไป กระดูกของคุณอาจจะหักเป็นสองสามชิ้นได้เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลิง อี้หรานก็ถอยกลับไปอีกสองสามก้าว เพื่อหนีจากขอบหน้าผากู้ ลี่เฉินไม่ได้เข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนอื่น เขาจำเธอได้ แต่เธอกลับจำเขาไม่ได้แต่เมื่อเธอเริ่มจำเขาได้ เขากลับเข้าใจผิดว่าเป็นคนอื่นแทนมันจะเป็นความลับ ความลับที่ฝังอยู่ในใจเธอตลอดไปทันใดนั้นเสียงเท้าเหยียบกิ่งไม้บนพื้นก็ดังขึ้น หลิง อี้หรานหันศีรษะของเธอกลับมอง เธอประหลาดใจเมื่อเธอเห็นกู้ ลี่เฉินที่นี่เขาสวมสูทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาวชุดเดียวกันกับที่เธอเห็นก่อนหน้า แต่สิ่งเดียวที่แตกต่างจากตอนแรกที่เธอเห็นคือเขาถือถังหูลู่อยู่ในมือแต่ถังหูลู่ยังคงห่อด้วยพลาสติก เขายังไม่ได้แกะมันออกมาใบหน้าที่ไม่แยแสของเขาเปลี่