อี้ จิ่นหลีกล่าวว่า “ในเมื่อพี่ถาม ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง” แม้ว่าเขาจะไม่บอกเธอในตอนนี้ เธอก็อาจจะรู้เรื่องนี้ในไม่ช้าเพราะมันมันไม่ใช่ความลับในสังคมชั้นสูงของเมืองเฉินเขาอยากจะบอกเธอเองมากกว่าให้คนอื่นมาเล่าเรื่องให้เธอฟัง“กู้ ลี่เฉินกำลังมองหาใครบางคน เขากำลังมองหาผู้หญิงที่เขารู้จักเมื่อตอนที่เขายังเด็ก แต่เขายังหาเธอไม่เจอ พูดได้เลยว่าแฟนของเขาคือคนแทนของผู้หญิงคนนั้น เพราะเขายังหาคนที่ใช่ไม่เจอ เขาเลยหาคนมาแทนที่เพื่อปลอบโยนตัวเอง” อี้ จิ่นหลีกล่าวขณะดูปฏิกิริยาของหลิง อี้หรานหลิง อี้หรานขมวดคิ้ว “เขากำลังมองหาตัวแทนของเด็กน้อยเหรอ?”“แฟนเก่าของเขาคงดูเหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้น”“แต่พวกเธอไม่ใช่คนที่เขากำลังตามหา แล้วมันสนุกเหรอที่มองหาตัวสำรองต่อไป?” เธอถาม“บางทีเขาอาจจะหมกมุ่นอยู่กับมันมากเกินไป หรือบางทีเขาอาจจะสิ้นหวังแล้ว บางทีเขาอาจจะคิดว่าเขาจะไม่ได้พบเด็กน้อยคนนั้นอีก”ขณะที่อี้ จิ่นหลีพูด เขาก็เปลี่ยนบทสนทนาไปอีกครั้ง “ถ้าพี่เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นและรู้ว่ามีคนแบบนี้กำลังตามหาพี่ พี่จะทำยังไง?”หลิง อี้หรานตกตะลึง เธอไม่ได้คิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้
กวาน ลี่หลี่จงใจสั่งอาหารร้านเธอตั้งแต่รู้ว่าเธอทำงานที่นี่ หลิง อี้หรานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ากวาน ลี่หลี่คิดอะไรอยู่?“มีอะไรหรือเปล่า? รายการอาหารผิดเหรอ” โจว เชียนหยุนตะโกนถามจากเคาน์เตอร์แคชเชียร์“ไม่มีอะไรค่ะ” หลิง อี้หรานหัวเราะคิกคัก เธอรับคำสั่งและเดินไปที่จักรยานยนต์ไฟฟ้าของเธอ จากนั้นจึงขี่มันไปที่สำนักงานกฎหมายเมื่อหลิง อี้หรานเดินเข้าไปในบริษัท กวาน ลี่หลี่ก็เข้ามาขวางหน้าเธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ อี้หราน ขอบใจมากนะที่มาส่งอาหารให้ฉันอีกครั้ง”“อย่าพูดอย่างนั้นเลย มันเป็นหน้าที่ของฉัน” หลิง อี้หรานพูดเบา ๆ และเอาอาหารให้เธอแทนที่กวาน ลี่หลี่จะรับอาหารไป แต่เธอกลับพาอี้หรานไปที่ห้องรับรองแขกและพูดกับเพื่อนร่วมงานของเธอที่นั่นว่า “ทุกคน นี่คือคนที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ฉันเพิ่งเล่าให้พวกคุณฟัง เธอยังเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของเรา หลิง อี้หราน”ทันใดนั้น ทุกสายตาจับจ้องมาที่หลิง อี้หรานความรู้สึกไม่ดีเพิ่มขึ้นในจิตใจของหลิง อี้หรานกวาน ลี่หลี่กล่าวด้วยความจริงใจว่า “ฉันมีหน้าที่ต้องสอนทนายความมือใหม่ที่นี่และอย่างที่เธอรู้ การยกเอาคดีความในอดีตมาโต้เถียงและอภิปรายกัน
“ช่วยฉันงั้นเหรอ? คำที่ออกจากปากเธอมันทำให้ฉันรู้สึกแย่!” หลิง อี้หรานกล่าวคนรอบข้างเป็นทนายความมืออาชีพ พวกเขาไม่ใช่คนโง่ พวกเขาจะเดาอะไรไม่ออกหลังจากฟังบทสนทนาเหล่านี้ได้อย่างไร? สายตาที่พวกเขามองไปที่กวาน ลี่หลี่ก็เปลี่ยนไป แน่นอนว่าชื่อเสียงของกวาน ลี่หลี่กำลังถูกทำลายกวาน ลี่หลี่ต้องการทำให้หลิง อี้หรานรู้สึกอับอายในวันนี้เพื่อที่เธอจะสามารถระบายความรู้สึกเศร้าโศกของเธอระหว่างการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลได้หลังจากพบกับหลิง อี้หรานใครจะคิดว่าคนที่ต้องอับอายกลับเป็นตัวเธอเอง?เธอหยิบถ้วยชาขึ้นมาโดยไม่ทันคิดและโยนใส่หลิง อี้หรานหลิง อี้หรานพยายามหลบหนีถ้วยชาไม่ให้โดนใบหน้าของเธอ เธอป้องกันตัวเองและโยนถ้วยชากลับไป แต่เสื้อผ้าท่อนบนของเธอกลับไม่รอดในช่วงฤดูร้อน หลิง อี้หรานสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว และตอนนี้มันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำชา จนมองเห็นชุดชั้นในข้างในเสื้อเชิ้ตขาวของเธอเพื่อนร่วมงานของกวาน ลี่หลี่ไม่คาดคิดว่าเธอจะทำแบบนั้น บางคนถึงกลับอุทานออกมาขณะที่หลิง อี้หรานพยายามปกปิดหน้าอกของเธอ เสื้อแจ็คเก็ตสูทบาง ๆ ก็คลุมร่างกายของเธอไว้“คลุมไว้!” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของเธอ
มือของเธอที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่นเป็นหมัด มันกำลังอดทนถึงการถูกกดขี่บางอย่างเจ้านายได้ตรวจสอบข้อมูลของเธอก่อนหน้านี้และรู้ว่าเธอถูกคุมขังเนื่องจากการขับรถประมาทจนก่อให้เกิดแก่ความตายต่อห่าว เหมยววี่แต่เขาไม่ได้ลงลึกเกี่ยวกับคดีนี้ ตอนนี้พอมาฟังสิ่งที่คนอื่นพูด เธอ... ไม่ได้รู้สึกผิดในการพิจารณาคดี โดยการบอกว่าเธอถูกเข้าใจผิดเธอถูกเข้าใจผิดจริงหรือป่าว? การตายของห่าว เหมยยวี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยอย่างนั้นเหรอ?เพื่อนร่วมงานอธิบายเหตุการณ์สั้น ๆ โดยไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่คนที่เป็นเจ้านายของบริษัทจะไม่เข้าใจเรื่องคาว ๆ อย่างนั้นได้อย่างไร? เขามองไปที่กวาน ลี่หลี่ด้วยสายตาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันไปมองหลิง อี้หราน“อี้หราน ฉันขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอด้วยนะ แล้วเรื่องนี้ ทางบริษัทจะชดเชยค่าเสียหายให้คุณ คุณมาแจ้งรายละเอียดได้ภายหลัง” เจ้านายกล่าวหลิง อี้หรานพูดเบา ๆ “ไม่ล่ะค่ะ ฉันยังต้องทำงานอยู่!”เธอหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่กู้ ลี่เฉิน ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกแล้วส่งคืนให้เขา “ขอบคุณค่ะ” เสื้อของเธอยังเปียกอยู่และอยู่ในสภาพบางเฉียบอย่างไรก็ตาม หลิง อี้หรานอยากจะออกไปจากที
กวาน ลี่หลี่พูดอะไรไม่ออกทันใดนั้น เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่มักจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกวาน ลี่หลี่ก็เย้ยหยันและกล่าวว่า “นี่ ใครบางคนตั้งใจจะทำให้อดีตเพื่อนร่วมงานอับอายแต่กลับต้องอับอายเสียเอง บางทีพรุ่งนี้เธออาจจะไม่ได้เป็นทนายแล้ว เช่นเดียวกับอดีตเพื่อนร่วมงาน นี่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทนายมือใหม่!” ใบหน้าของกวาน ลี่หลี่ซีดลงทันที ปากที่เคยพูดพล่อย ๆ กลับนิ่งเงียบ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกถ้ามันเกิดขึ้นจริง เธอคงกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับพวกทนายคนอื่น ๆ ต่อจากนี้ไป!ถ้าเธอรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เธอจะไม่มีวันลงมือทำมัน!...หลิง อี้หรานเดินลงมาถึงชั้นล่างของอาคาร แต่ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงจักรยานไฟฟ้า กู้ ลี่เฉินก็วิ่งมาคว้าแขนของเธอไว้ “ทำไมคุณถึงอยากเตร็ดเตร่ไปทั่วบนถนนในชุดเสื้อขาวบางเฉียบแบบนี้มากกว่ายอมรับน้ำใจจากผม? คุณเกลียดผมเหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่อยากแตะต้องข้าวของของผมเลยงั้นเหรอ?”หลิง อี้หรานพยายามดึงแขนออกจากมือของเขา แต่มันกลับไม่เป็นผล เขาจับแขนเธอแน่นขึ้น“ฉันแค่คิดว่ามันคงจะยุ่งยากถ้าต้องคืนเสื้อสูทให้คุณ ตอนนี้อากาศร้อน อีกไม่นานเสื้อฉันก็คงจะแห้ง”
“อยู่... ตรงนั้นไง” เธอชี้ไปที่ร้านขายเสื้อผ้าเธอรู้สึกประหลาดใจที่กู้ ลี่เฉินเดินตามเธอเข้าไปในร้านโดยบอกว่าตอนนี้เธอกำลังสวมเสื้อสูทของเขาอยู่และเขาจะเอามันคืนเมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหลิง อี้หรานรีบเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดราคาถูกที่สุดของร้านขณะที่หลิง อี้หรานหยิบเสื้อผ้าของเธอออกมา อี้ จิ่นหลีที่อยู่ในห้องทำงานที่บริษัทอี้ กรุ๊ป กำลังฟังเลขาส่วนตัวของเขารายงานด้วยใบหน้ามืดมน“ครับ เราได้พูดคุยกับสื่อข่าวทั้งหมดแล้ว พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข่าวใด ๆ เกี่ยวกับ คุณหลิงทั้งนั้น ทั้งสามสื่อหลักจะไม่เผยแพร่ข่าวในครั้งนี้” เกา ฉงหมิงกล่าวเรื่องมันเริ่มต้นหลังจากสื่อทั้งสามได้รับอีเมลที่ไม่ระบุชื่อพร้อมรูปถ่ายของหลิง อี้หรานและกู้ ลี่เฉิน“ใครเป็นคนทำ? หาตัวคนทำเจอหรือยัง?” อี้ จิ่นหลีถาม“เรากำลังตรวจสอบอยู่ครับ เหมือนพวกเขากำลังพยายามป้องกันไม่ให้เราหาเจอ เพราะพวกเขาให้การไม่ตรงกัน” เกา ฉงหมิงกล่าว“ค้นหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” อี้ จิ่นลีกล่าวอย่างเย็นชา“ครับ!” เกา ฉงหมิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว“ออกไปได้แล้ว” อี้ จิ่นหลีกล
เขาอยากได้ยินเสียงของเธอเพราะการได้ยินเสียงของเธอจะทำให้เขารู้สึกมั่นใจ!ครู่ต่อมา เธอก็รับสาย แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับไม่ใช่เสียงของเธอ“จิ่นหลี?”นั่นคือ... เสียงของกู้ ลี่เฉินหัวใจของเขาหล่นไปถึงตาตุ่ม เขาพูด “ฉันเอง ทำไมนายถึงมารับโทรศัพท์ของอี้หราน?”“เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า โทรศัพท์และกระเป๋าของเธออยู่ข้างนอก... ฉันจะบอกให้เธอโทรกลับหานายทีหลัง ดีไหม?” เสียงของกู้ ลี่เฉินกล่าวเบา ๆ“ไม่เป็นไร” อี้ จิ่นหลีวางสายเมื่อวางสาย กู้ ลี่เฉินก็หลุบตามองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือหลังจากที่เห็นหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของหลิง อี้หรานที่เมมชื่อว่า ‘จิน’ เขารับสายราวกับว่าเขาถูกครอบงำอยู่ชั่วขณะปกติเขาจะไม่รับสายแทนคนอื่นแต่... เขากลับเพิ่งทำมันลงไปเมื่อกี้นี้เพียงเพราะอี้ จิ่นหลีที่โทรมาแค่นั้นเหรอ?ผู้ชายที่เขาเคยคิดว่าจะไม่มีวันตกหลุมรักผู้หญิงคนไหน กลับตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เขาสนใจสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปล่อยเธอไป ไม่ใช่เพราะเขากลัวที่จะต้องต่อสู้กับจิ่นหลีแต่เพราะคนที่เขาต้องการจริง ๆ ไม่ใช่หลิง อี้หรานเมื่อพูดอย่างนั้น ทุกครั้งที่เขาเห็นหลิง อี้หราน เขาก็อดไม่ได้ที่จะ
เขาเคยสงสัยว่าเธอจะงดงามขนาดไหนเมื่อสวมชุดที่เขาซื้อให้อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยรู้สึกตกตะลึงขนาดนี้มาก่อน ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาสวมชุดเดรสธรรมดาราคาถูก เธอเดินช้า ๆ ไปที่กระจกแล้วมองดู การกระทำง่าย ๆ นี้ทำให้ดวงตาของเขาแดงก่ำหลิง อี้หรานยืนอยู่หน้ากระจกมองดูชุดที่เธอกำลังใส่อยู่ เธอชอบชุดเดรสชุดนี้มากเพราะมันดูเหมือนชุดเดรสลายดอกไม้ที่คุณยายของเธอซื้อให้เธอเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กน่าเสียดายที่ชุดเดรสลายดอกไม้นั้นขาดและถูกโยนทิ้งตอนนั้นเธอยังร้องไห้เพราะมันด้วยซ้ำ!โชคดีที่ชุดค่อนข้างยาว ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะกระโปรงจะเปิดตอนเธอขี่จักรยาทไฟฟ้า นอกจากนั้น ชุดเดรสนี้ก็ไม่แพง เพียง 280 ดอลลาร์เท่านั้น เธอสามารถต่อราคาในร้านค้าแบบนี้ได้ ทำให้ราคาถูกลงไปอีก“เป็นไงคะคุณผู้หญิง? ชอบไหมชุดนี้ไหมคะ?” เจ้าของร้านถามขึ้น“ก็ชอบค่ะ แต่คุณช่วยลดราคาอีกหน่อยได้ไหมคะ?” หลิง อี้หรานถาม“อืม... เราขายในราคาที่ถูกที่สุดแล้ว และราคา...” ก่อนที่เจ้าของร้านจะพูดจบ เธอกลับหยุดพูดกะทันหันขณะที่เธอจ้องไปข้างหลังหลิง อี้หรานอย่างว่างเปล่าหลิง อี้หรานตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะรู้ว่าเกิดอะไร