“อยู่... ตรงนั้นไง” เธอชี้ไปที่ร้านขายเสื้อผ้าเธอรู้สึกประหลาดใจที่กู้ ลี่เฉินเดินตามเธอเข้าไปในร้านโดยบอกว่าตอนนี้เธอกำลังสวมเสื้อสูทของเขาอยู่และเขาจะเอามันคืนเมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหลิง อี้หรานรีบเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดราคาถูกที่สุดของร้านขณะที่หลิง อี้หรานหยิบเสื้อผ้าของเธอออกมา อี้ จิ่นหลีที่อยู่ในห้องทำงานที่บริษัทอี้ กรุ๊ป กำลังฟังเลขาส่วนตัวของเขารายงานด้วยใบหน้ามืดมน“ครับ เราได้พูดคุยกับสื่อข่าวทั้งหมดแล้ว พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข่าวใด ๆ เกี่ยวกับ คุณหลิงทั้งนั้น ทั้งสามสื่อหลักจะไม่เผยแพร่ข่าวในครั้งนี้” เกา ฉงหมิงกล่าวเรื่องมันเริ่มต้นหลังจากสื่อทั้งสามได้รับอีเมลที่ไม่ระบุชื่อพร้อมรูปถ่ายของหลิง อี้หรานและกู้ ลี่เฉิน“ใครเป็นคนทำ? หาตัวคนทำเจอหรือยัง?” อี้ จิ่นหลีถาม“เรากำลังตรวจสอบอยู่ครับ เหมือนพวกเขากำลังพยายามป้องกันไม่ให้เราหาเจอ เพราะพวกเขาให้การไม่ตรงกัน” เกา ฉงหมิงกล่าว“ค้นหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” อี้ จิ่นลีกล่าวอย่างเย็นชา“ครับ!” เกา ฉงหมิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว“ออกไปได้แล้ว” อี้ จิ่นหลีกล
เขาอยากได้ยินเสียงของเธอเพราะการได้ยินเสียงของเธอจะทำให้เขารู้สึกมั่นใจ!ครู่ต่อมา เธอก็รับสาย แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับไม่ใช่เสียงของเธอ“จิ่นหลี?”นั่นคือ... เสียงของกู้ ลี่เฉินหัวใจของเขาหล่นไปถึงตาตุ่ม เขาพูด “ฉันเอง ทำไมนายถึงมารับโทรศัพท์ของอี้หราน?”“เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า โทรศัพท์และกระเป๋าของเธออยู่ข้างนอก... ฉันจะบอกให้เธอโทรกลับหานายทีหลัง ดีไหม?” เสียงของกู้ ลี่เฉินกล่าวเบา ๆ“ไม่เป็นไร” อี้ จิ่นหลีวางสายเมื่อวางสาย กู้ ลี่เฉินก็หลุบตามองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือหลังจากที่เห็นหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของหลิง อี้หรานที่เมมชื่อว่า ‘จิน’ เขารับสายราวกับว่าเขาถูกครอบงำอยู่ชั่วขณะปกติเขาจะไม่รับสายแทนคนอื่นแต่... เขากลับเพิ่งทำมันลงไปเมื่อกี้นี้เพียงเพราะอี้ จิ่นหลีที่โทรมาแค่นั้นเหรอ?ผู้ชายที่เขาเคยคิดว่าจะไม่มีวันตกหลุมรักผู้หญิงคนไหน กลับตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เขาสนใจสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปล่อยเธอไป ไม่ใช่เพราะเขากลัวที่จะต้องต่อสู้กับจิ่นหลีแต่เพราะคนที่เขาต้องการจริง ๆ ไม่ใช่หลิง อี้หรานเมื่อพูดอย่างนั้น ทุกครั้งที่เขาเห็นหลิง อี้หราน เขาก็อดไม่ได้ที่จะ
เขาเคยสงสัยว่าเธอจะงดงามขนาดไหนเมื่อสวมชุดที่เขาซื้อให้อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยรู้สึกตกตะลึงขนาดนี้มาก่อน ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาสวมชุดเดรสธรรมดาราคาถูก เธอเดินช้า ๆ ไปที่กระจกแล้วมองดู การกระทำง่าย ๆ นี้ทำให้ดวงตาของเขาแดงก่ำหลิง อี้หรานยืนอยู่หน้ากระจกมองดูชุดที่เธอกำลังใส่อยู่ เธอชอบชุดเดรสชุดนี้มากเพราะมันดูเหมือนชุดเดรสลายดอกไม้ที่คุณยายของเธอซื้อให้เธอเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กน่าเสียดายที่ชุดเดรสลายดอกไม้นั้นขาดและถูกโยนทิ้งตอนนั้นเธอยังร้องไห้เพราะมันด้วยซ้ำ!โชคดีที่ชุดค่อนข้างยาว ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะกระโปรงจะเปิดตอนเธอขี่จักรยาทไฟฟ้า นอกจากนั้น ชุดเดรสนี้ก็ไม่แพง เพียง 280 ดอลลาร์เท่านั้น เธอสามารถต่อราคาในร้านค้าแบบนี้ได้ ทำให้ราคาถูกลงไปอีก“เป็นไงคะคุณผู้หญิง? ชอบไหมชุดนี้ไหมคะ?” เจ้าของร้านถามขึ้น“ก็ชอบค่ะ แต่คุณช่วยลดราคาอีกหน่อยได้ไหมคะ?” หลิง อี้หรานถาม“อืม... เราขายในราคาที่ถูกที่สุดแล้ว และราคา...” ก่อนที่เจ้าของร้านจะพูดจบ เธอกลับหยุดพูดกะทันหันขณะที่เธอจ้องไปข้างหลังหลิง อี้หรานอย่างว่างเปล่าหลิง อี้หรานตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะรู้ว่าเกิดอะไร
เขากอดเธอแน่นจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก“ฉันไม่... ไม่...” เธอพูดออกมาอย่างลำบากหลิง อี้หรานคิดว่าเธอจะเป็นลมเพราะขาดอากาศหายใจ ทันใดนั้น แรงกระชากก็ดึงเธอออกมาจากอ้อมแขนของกู้ ลี่เฉิน จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงหมัด ตามมาด้วยเสียงของหนักตกลงมา เก้าอี้และชั้นวางของก็พังลงมาหลิง อี้หรานสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้น สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าของอี้ จิ่นหลีเขาดึงเธอออกจากอ้อมแขนของกู้ ลี่เฉิน! หลิง อี้หรานจ้องไปที่อี้ จิ่นหลีที่ยืนอยู่ข้างเธออย่างว่างเปล่า เธอสงสัยว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่ใบหน้าเย็นชาของอี้ จิ่นหลีจ้องมองกู้ ลี่เฉินที่เพิ่งถูกชกลงไปกองกับพื้นกู้ ลี่เฉินลุกขึ้นมาเอนตัวพิงที่ชั้นวางของ เขาถูกรายล้อมไปด้วยชั้นวางของที่ล้มลงมาริมฝีปากของเขามีเลือดไหลออกมา“นายรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?” อี้ จิ่นหลีถามออกไปด้วยใบหน้าที่น่ากลัว น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบราวกับลมเหน็บ และเสียงของเขาทำให้คนทั่วไปสั่นสะท้านกู้ ลี่เฉินจ้องมองอี้ จิ่นหลีด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ฉันรู้”“นายรู้? แต่ก็ยังจะทำ นายอยากให้ตระกูลกู้มีปัญหากับตระกูลอี้ใช่ไหม ลี่เฉิน?” อี้ จิ่นหลีกล่าวอย่างประชดประชันกู้ ลี่เฉินเ
ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นอีกครั้ง เขาหันมามองเธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย นัยน์ตาของเขาดูมืดมนแต่มันกลับเต็มไปด้วยความรักที่เธอไม่วันเข้าใจ“ให้ฉันคุยกับเขาเถอะ จิน” เธอพูดและจับมือเขาแน่นราวกับจะปลอบโยนเขาอี้ จิ่นหลี้มองเธอโดยไม่ขยับไปไหน ริมฝีปากบางของเขาเม้มเข้าหากันแน่น เขากำลังลังเล เขาลังเลเพราะเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรหลิง อี้หรานก้าวไปข้างหน้าและเดินผ่านอี้ จิ่นหลีไปเธอมองไปที่กู้ ลี่เฉินที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว “ฉันไม่ใช่คนที่คุณกำลังตามหาหรอก ฉันไม่รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไปสักนิด ฉันคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนอื่น!”ดวงตาของอี้ จิ่นหลีเป็นประกายในขณะที่เธอพูด ในขณะที่กู้ ลี่เฉินดูไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอ... ลืมไปแล้วเหรอ? หรือเพราะมันนานมาแล้ว?”“ฉันเป็นคนความจำดีนะคะ แต่ฉันจำอะไรที่คุณเพิ่งพูดไปไม่ได้เลย ถ้าฉันดูเหมือนเด็กผู้หญิงที่คุณจำได้จริง ๆ และถ้าชุดที่ฉันเลือกวันนี้ดูคล้ายกัน ฉันคงบอกได้แค่ว่า มันคงเป็นเรื่องบังเอิญทั้งหมด” หลิง อี้หรานกล่าวกู้ ลี่เฉินเม้มริมฝีปากขณะดวงตาฟีนิกซ์ของเขาจ้องมองตรงมาที่หลิง อี้หรานหลิง อี้หร
อี้ จิ่นหลีไม่ได้พูดอะไร เขานิ่งเงียบและขับรถต่อไปเขาไม่รู้ว่าเขากำลังกลัวอะไร เขากลัวกู้ ลี่เฉินรู้ว่าอี้หรานเป็นคนที่เขากำลังตามหาหรือกลัวว่า อี้หรานจะมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกู้ ลี่เฉิน?ไม่ กู้ ลี่เฉิน… จะไม่มีทางรู้ความจริง เพราะเขาได้ดัดแปลงหลักฐานไว้หมดแล้วอี้หราน... ดูเหมือนจะจำเหตุการณ์ในปีนั้นไม่ได้จริง ๆ หลังจากตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เขาได้รู้ว่าอี้หรานล้มป่วยหลังจากพบกู้ ลี่เฉินเพียงไม่กี่วัน เธอถูกส่งกลับมาที่เมืองเฉินด้วยไข้สูงอาจเป็นเพราะอาการป่วยในครั้งนั้น ทำให้เธอจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้แม้ว่าเขา... จะเตรียมพร้อมรับมือแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังกระสับกระส่ายอยู่?เพราะทุกอย่างล้วนมีข้อยกเว้น บางสิ่งอาจจะเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ก็ได้เช่นเดียวกับภาพที่เขาเห็นกู้ ลี่เฉินกอดเธอไว้ขณะร้องไห้ ตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่? ทำไมเธอถึงไม่เคยบอกอะไรกับเขาเลย?เธอพยายามปิดบังอะไร?“จิน คุณกำลังขับรถไปไหน? ฉันต้องกลับไปที่ร้านอาหารตอนบ่ายเพื่อไปส่งอาหาร” หลิง อี้หรานกล่าวแต่ดูเหมือนว่าอี้ จิ่นหลีจะไม่ได้ฟังที่เธอพูดหลิง อี้หรานกัดริมฝีปากของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาโจ
“ทำไมเราถึงมาที่นี่?” หลิง อี้หรานถามด้วยความสงสัยอี้ จิ่นหลีเม้มริมฝีปากบางของเขาเข้าด้วยกันและมองรอดผ่านหน้าต่างรถไปที่วิวเมืองเฉินพ่อของเขาพาเขามาที่นี่เมื่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่และพูดกับเขาว่า “ลูกรู้อะไรไหม จิน? เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ลูกจะเข้าใจว่าความโดดเดี่ยวมันเป็นยังไง แต่ถ้าลูกไม่ได้ยืนอยู่บนจุดสงสุด ลูกจะไม่สามารถแม้แต่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้”ดังนั้น ถ้าเขาต้องการที่จะควบคุมโชคชะตาของเขา เขาจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดเขาต่อไป!และเมื่อใดก็ตามที่เขาอารมณ์เสีย เขาจะมาที่นี่และมองดูที่เส้นขอบฟ้าที่ตัดกับเมืองเฉิน เขาบอกตัวเองว่าสักวันหนึ่งเขาจะเป็นผู้ควบคุมโชคชะตาของตัวเองนานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งที่อี้ กรุ๊ป?ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาคิดว่าเขาสามารถควบคุมโชคชะตาของเขาได้แล้วและจะไม่มีใครผลักเขาลงมาอีกแต่เมื่อเขาขับรถมาที่นี่อีกครั้ง มันทำให้เขาเริ่มคิดว่าเขาเป็นผู้ควบคุมโชคชะตาของเขาจริง ๆ หรือโชคชะตาของเขาอยู่ในมือของคนอื่นกันแน่?บุคคลนั้นสามารถควบคุมอารมณ์ทั้งหมดของเขา ทำให้เขากระวนกระวายใจและแม้กระทั่ง... ทำให้เข
ทำไม... เธอต้องพูดออกไปใช่ไหม?ราวกับว่าเขาพยายามเค้นให้เธอตอบคำถามของเขา“บอกผมสิ ทำไม? บอกผมทีว่าทำไมพี่ถึงจะไม่ตกหลุมรักกู้ ลี่เฉิน” เขาถามเธอซ้ำใบหน้าของหลิง อี้หรานแดงก่ำ ขณะที่เธอตะเบ่งเสียงออกมาว่า “เพราะคุณเป็นคนที่ฉันตกหลุมรักไง ไม่มีอะไรเลยจริง ๆ ระหว่างฉันกับกู้ ลี่เฉิน จิน ฉันไม่อยากให้คุณเข้าใจฉันผิด” ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ?เขายังจำรูปถ่ายในกล่องจดหมายอีเมลของเขาได้ รูปถ่ายของกู้ ลี่เฉินที่อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนรูปที่... กู้ ลี่เฉินร้องไห้ต่อหน้าเธอภาพถ่ายเหล่านั้นเหมือนกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่ แม้ว่าเขาจะพยายามทำทุกอย่าง แต่เขากลับไม่สามารถทำลายสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกู้ ลี่เฉินได้“ไม่มีอะไรเหรอ? พี่ไม่มีอะไรปิดบังผมอยู่เหรอ?” เขาถามด้วยเสียงพึมพำ“ฉันทำทุกอย่างชัดเจนแล้ว เรื่องระหว่างฉันกับกู้ ลี่เฉิน ไม่มีอะไรทั้งนั้น” เธอคิดว่าเขากำลังถามถึงเหตุการณ์ในวันนี้“ถ้าอย่างนั้น… อี้หราน พี่คลั่งรักผมมากแค่ไหนล่ะ?” ลมหายใจร้อนของเขาปะทะเข้ากับใบหน้าของเธอ ริมฝีปากของทั้งสองเกือบสัมผัสกันความกำกวมชัดเจนมากยิ่งขึ้นใบหน้าของหลิง อี้หรานแดงขึ้นเล็กน้อย เธอ... ควรจะตอบ