“ทำไมคุณไม่เปิดไฟล่ะ?” เธอถามอย่างสงสัย“ผมคิดถึงพี่” เขาตอบที่คำตอบไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำถามของเธอใบหน้าของเธอพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงและหัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้น หลิง อี้หราน ดีใจที่ตอนนี้ยังมืดอยู่เพราะมันหมายความว่าเขามองไม่เห็นใบหน้าที่แดงแจ๋ของเธอ“แล้วพี่ล่ะ? วันนี้พี่คิดถึงผมบ้างไหม?” เสียงของเขายังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอ ในขณะที่ลมหายใจของเขารวยรินรดต้นคอเธอจนรู้สึกเสียวซ่านเธอรู้สึกราวกับว่าลมหายใจบนต้นคอได้ดึงดูดความสนใจของเธอไปหมด และหลังจากรู้สึกถึงลมหายใจของเขา เธอก็รู้สึกว่าริมฝีปากของเขาแนบชิดกับหูของเธอมากจนถ้าเขาเข้ามาใกล้อีกนิดริมฝีปากของเขาก็คงจะจูบที่ใบหูของเธอพอดีขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด ก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดแปลบ ๆ ที่หูของเธอ เธอรู้สึกตกใจก่อนจะดึงสติของตัวเองกลับมา จากนั้น... ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นเขา… กำลังขบใบหูของเธออย่างละเมียดละไม ทำให้ตัวของเธอสั่นเล็กน้อย“บ้างไหมครับพี่?” เสียงต่ำของเขาดังออกมาอีกครั้ง“ฉันคิดถึง...” เธอตอบเสียงสั่น “อืม... ปล่อยฉันก่อน ฉันขอวางกระเป๋าก่อน”เธอกล่าวและรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เธอรู้สึกเพียงว่าบรรยากาศมันคลุมเครือจ
เขากลัวว่าเธอจะไม่ชอบเขามากพอ เขากลัวว่าความรักของเธอที่มีต่อเขาจะถูกแทนที่ได้ตลอดเวลา และวันหนึ่งเธอจะทิ้งเขาไป!เขาค่อย ๆ หันร่างของเธอเข้ามาหาเขาเพื่อให้พวกเขาหันหน้าเข้าหากันและกันแม้ตอนนี้ความมืดจะปกคลุมไปทั่วห้องนั่งเล่น แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้หลิง อี้หรานยังคงสามารถมองเห็นเค้าโครงใบหน้าของอี้ จิ่นหลี ได้แต่เธอไม่สามารถมองเห็นการแสดงออกทางใบหน้าของเขาได้อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกได้ว่าเขากำลังมองมาที่เธอเหมือนกันเธอค่อย ๆ ยกมือขึ้นแนบกับแก้มของเขา และกล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น “ได้สิ ฉันจะชอบคุณมากกว่านี้” หากในตอนแรกเธอรู้สึกสับสนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา และไม่รู้สึกถึงอนาคตในความสัมพันธ์นี้ ตอนนี้เธอกลับขอร้องให้มันแตกต่างไปจากเดิมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตของพวกเขา เธอจะยอมรับผู้ชายคนนี้ จะให้ความรักแก่เขามากขึ้น และจะปลอบประโลมเมื่อเขาไม่สบายใจ—อย่างน้อยก็ในตอนนี้หลังจากจบคำพูดของเธอ เธอเขย่งตัวและบรรจงจูบริมฝีปากของเขานี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีสติและจูบเขาด้วยความรู้สึกที่แท้จริงราวกับว่าเธอได้ใส่ความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อเขาไว้ในจูบนั้นร่า
คนที่มีฐานะสูงอย่าง อี้ จิ่นหลี อาจมีสิ่งล่อตาล่อใจอยู่รอบตัวเขา แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอนั้นเป็นเรื่องจริงความสัมพันธ์นี้จะคงอยู่ต่อไปในอนาคตไหม?“ผมจะไม่ตกหลุมรักใครอีกแล้ว พี่คือคนเดียวที่ผมรักในชีวิตนี้” อี้ จิ่นหลี กล่าว“เพราะฉะนั้นถ้าผมทำผิดอะไร ผมหวังว่าพี่จะยกโทษให้ผม” เขาพึมพำ ก่ำกึ่งระหว่างออกคำสั่งและออดอ้อน“ได้สิ” หลิง อี้หราน ตอบเมื่อคำตอบออกมาจากปากของเธอ เธอก็รู้สึกได้ว่าเขากอดเธอแน่นขึ้น “หลิง อี้หราน อย่าลืมสิ่งที่พี่สัญญากับผมในวันนี้ อย่าลืมเด็ดขาด!”ราวกับว่าเธอได้สัญญาบางสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เธอไม่สามารถลืมหรือย้อนกลับไปได้...ภายในห้องน้ำ หลิง อี้หราน มองไปที่แก้มแดงระเรื่อของเธอแม้ว่าจะผ่านมาสักพักแล้วที่เธอกอดและจูบกับอี้ จิ่นหลี ในห้องนั่งเล่น แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงแดงอยู่อี้ จิ่นหลี ดูแปลกไปในคืนนี้ แต่เธอก็ไม่สามารถนึกออกได้ว่าเพราะอะไรบางทีเธออาจจะแปลกใจที่อยู่ ๆ เขาก็บอกว่าเขารักเธอเมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้น หลิง อี้หราน ก็ไม่รู้สึกอะไรนอกจากความหวานที่พรั่งพรูออกมาจากใจ แม้แต่ในกระจก มุมปากของเธอก็ยกสูงขึ้น
วิดีโอพวกนั้นไม่ได้อยู่บนโลกออนไลน์อีกต่อไป แต่... เธอก็ไม่อยากปิดบังเรื่องนี้จากเขา เพราะพวกเขาก็เป็นแฟนกันแล้ว“วันนี้...” หลิง อี้หราน บอกอี้ จิ่นหลี เกี่ยวกับข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในวันนี้ รวมถึงเรื่องที่กู้ ลี่เฉิน ช่วยเธอไว้เมื่อเธอพูดจบ เธอไม่เห็นความตกใจหรือแปลกใจบนใบหน้าของอี้ จิ่นหลี แม้แต่น้อย เธออดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า “คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ?”“อืม ผมเห็นวิดีโอเหตุการณ์ที่พี่พูดถึง” เขากล่าวตอนนี้เธอกลับเป็นคนที่ประหลาดใจแทน เขาเห็นวิดีโอที่เธอ... ไม่เห็นด้วยซ้ำ!“ในวิดีโอนั้น... ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับกู้ ลี่เฉินนะ” เธอกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดโดยไม่รู้ตัว เธอจึงเริ่มอธิบายให้เขาฟังตามที่พี่โจวกล่าว เมื่อวิดิโอถูกเผยแพร่ออกไป ความคิดเห็นจำนวนมากด้านล่างก็คาดเดาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับกู้ ลี่เฉินเขานั่งบนขอบเตียงโดยใช้มือโอบรอบเอวของเธอไว้ คางของเขาเอียงไปข้างหลังเล็กน้อยขณะที่จ้องมองเธอ “พี่ไม่ได้สนใจกู้ ลี่เฉิน ใช่ไหม?”“แน่นอนว่าไม่” เธอกล่าว เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขารู้บ้างไหมว่าตอนนี้เขาน่าดึงดูดแค่ไหน?เขาดูแตกต่างจากเวลาที่อยู่ต่อหน้าคน
เธอนึกถึงตอนที่กู้ ลี่เฉิน ช่วยเธอผูกเชือกรองเท้าเมื่อวานนี้ เขา... หึงเหรอ?อี้ จิ่นหลี หึงหรือเปล่า? มันเป็นสิ่งที่หลิง อี้หราน ไม่เคยคิดมาก่อน แต่มันก็ดูน่ารักดีเวลานึกถึงการกระทำของเขาแดดเผา?โจว เชียนหยุน มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองดูท้องฟ้า วันนี้มีเมฆมาก โดยเมฆกำลังบดบังแสงจากดวงอาทิตย์อยู่“ยังไงก็แล้วแต่ อาหยันน้อยกำลังจะผ่าตัดเร็ว ๆ นี้แล้ว แม่กับฉันจะไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลหยันน้อยสักสองสามวัน ดังนั้นฉันจะปิดร้านอาหารตอนที่เราต้องไปโรงพยาบาล แต่เธอไม่ต้องกังวล เธอจะได้รับเงินตามปกติ” โจว เชียนหยุน กล่าว “ฉันจะส่งข้อความหาเธอตอนเปิดร้านอาหารนะ”“ได้ค่ะ” หลิง อี้หราน ตอบ “บอกฉันด้วยนะคะถ้าการผ่าตัดของหยันน้อยเสร็จแล้ว ฉันอยากรู้ว่าการผ่าตัดของเขาเป็นไปด้วยดีไหม”“แน่นอน” โจว เชียนหยุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันหวังว่าการผ่าตัดของเขาจะเป็นไปด้วยดี” แม้ว่าจะปิดร้านอาหารแค่ไม่กี่วัน แต่ก็ส่งผลกระทบต่อเธอ แต่ตอนนี้การได้ยินของลูกชายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอเมื่ออาหยันน้อยมีประสาทหูเทียมแล้ว เธอจะมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องเผชิญ เช่น วิธีแปลเสียงที่เขาได้ยินให้เป็นภาษา เพื
“หลิง อี้หราน อยู่ไหน? เธอไม่อยู่ที่นี่เหรอ?” กู้ ลี่เฉิน ถาม“อี้หราน... ออกไปส่งอาหาร เธอจะกลับมาภายหลัง” โจว เชียนหยุน ตอบกู้ ลี่เฉิน ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาสั่งชานมกาแฟแค่แก้วเดียว จากนั้นเขาก็นั่งลงและดื่มมันอย่างช้า ๆคนที่มีชื่อเสียงอย่างกู้ ลี่เฉิน ที่อยู่ในร้านอาหาร เขาดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะมีคนไม่มากนักในร้านอาหาร แต่คนสองสามคนก็จำเขาได้ว่าเขาคือเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงรูปลักษณ์, ภูมิฐาน, และท่าทีไม่แยแสของเขา ซึ่งดูเหมือนจะเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขาอย่างน่าประหลาดใจลูกค้าหลายคนในร้านอาหารมองมาที่เขาแม้แต่โจว เชียนหยุน ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะมองดูกู้ ลี่เฉิน จิบชานมกาแฟของเขา เขาดูเหมือนกำลังถ่ายโฆษณาอยู่เธอรู้ว่าว่าชานมกาแฟในร้านอาหารของเธอดูดีขึ้นมาก‘เมื่อไหร่อี้หรานจะกลับมา?’ ความคิดของโจว เชียนหยุน ทันใดนั้นเธอก็เห็นรถหรูจอดอยู่หน้าร้านอาหารเล็ก ๆ ของเธออีกครั้งเธอกล่าวว่า ‘อีกครั้ง’ เนื่องจากรถปอร์เช่คันหนึ่งได้จอดอยู่ที่ร้านอาหารของเธอก่อนหน้านี้แล้วจากนั้น ก็มีร่างสูงออกมาจากรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ที่เพิ่งเข้ามาจอด ดวงตาของโจว เชียนห
นิ้วของกู้ ลี่เฉิน กระชับขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขาถือแก้วชานมกาแฟ “ถ้าฉันเสียใจล่ะ?” เขาลดความสำคัญอิทธิพลของหลิง อี้หราน ที่มีต่อเขาในตอนนั้นเขาแค่คิดว่าหลิง อี้หราน ดูคล้ายกับคนที่เขากำลังตามหาเท่านั้นเขาค่อย ๆ ตระหนักถึงบางอย่างที่มีอะไรมากกว่านั้น เมื่อเขาเห็นใครบางคนพยายามทำร้ายเธอหรือตีเธอ เขาจะรู้สึกว่าหัวใจของเขามันบีบแน่นขึ้น และรีบเข้าไปช่วยเธอโดยไม่รู้ตัวราวกับว่าการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยของเธอก็สามารถทำให้หัวใจของเขาปวดร้าวได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอกำลังจะจากไป เขาก็ลังเลที่จะแยกทางกับเธอราวกับหวังว่าสายตาของเธอจะจ้องมองมาที่เขาอีกสักพักแม้เพียงชั่วครู่ก็ตาม!เขาเคยแคร์ผู้หญิงมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? นอกจากเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตเขาแล้ว ก็มีแค่เธอเขายังเคยคิดว่าเขาไม่ควรยอมแพ้เรื่องของเธอง่าย ๆ ให้กับอี้ จิ่นหลี ถ้าเธออยู่กับเขา มันจะทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงคนนั้นน้อยลง และลดความเจ็บปวดจากความปรารถนาที่ไม่สมหวังของเขาได้บ้างไหม?ดวงตาของอี้ จิ่นหลี เหลือบมองลงมา เขาจ้องมองไปที่กู้ ลี่เฉิน อย่างเย็นชา “นายจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นหรอก ฉันจะไม่ปล่อยให้นายทำอะไร”“อ
อี้ จิ่นหลี ยังคงดื่มกาแฟของเขาต่อไปอย่างสบาย ๆ เขาชิมมันอย่างไม่ตั้งใจนัก เขาคุยกับกู้ ลี่เฉิน เรื่องของอี้หราน แทนที่จะพูดถึงเรื่องการเกิดความโกลาหลในเมืองเฉินกู้ ลี่เฉิน หรี่ตาลงและจิบกาแฟอีกครั้งความตึงเครียดระหว่างพวกเขาทั้งสองคนหายไปและตอนนี้ก็กลายเป็นเหมือนการพบปะกันระหว่างเพื่อนโจว เชียนหยุน รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยส่วนลูกค้าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงต่างมองมาที่ทั้งคู่เป็นครั้งคราว พวกเขาสองคนดูเหมือนคนดัง ผู้หญิงคนหนึ่งถึงกับพยายามดึงโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปผู้หญิงคนนั้นเล็งโทรศัพท์ของเธอไปที่อี้ จิ่นหลี กับกู้ ลี่เฉิน ก่อนที่เธอจะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ เธอก็ถูกมือใหญ่หยุดบอดี้การ์ดของอี้ จิ่นหลี เขาพูดกับผู้หญิงคนนั้นตรง ๆ ว่า “ท่านประธานไม่ชอบให้ใครถ่ายภาพ ถ้าคุณยืนยันจะถ่าย ผมคงต้องพาคุณออกไป”ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่คือ… ภัยคุกคามหรือไม่! อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นใบหน้าที่ไร้วิญญาณของบอดี้การ์ดและร่างกายที่กำยำ คำพูดประท้วงเหล่านั้นก็ถูกกลืนกลับเข้าไปในท้องของเธอความรู้สึกของเธอบอกว่าถึงแม้เธอจะประท้วงออกมา แต่เธอก็จะกลายเป็นคนขายหน้าในตอนสุดท้ายหญิงส