เธอนึกถึงตอนที่กู้ ลี่เฉิน ช่วยเธอผูกเชือกรองเท้าเมื่อวานนี้ เขา... หึงเหรอ?อี้ จิ่นหลี หึงหรือเปล่า? มันเป็นสิ่งที่หลิง อี้หราน ไม่เคยคิดมาก่อน แต่มันก็ดูน่ารักดีเวลานึกถึงการกระทำของเขาแดดเผา?โจว เชียนหยุน มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองดูท้องฟ้า วันนี้มีเมฆมาก โดยเมฆกำลังบดบังแสงจากดวงอาทิตย์อยู่“ยังไงก็แล้วแต่ อาหยันน้อยกำลังจะผ่าตัดเร็ว ๆ นี้แล้ว แม่กับฉันจะไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลหยันน้อยสักสองสามวัน ดังนั้นฉันจะปิดร้านอาหารตอนที่เราต้องไปโรงพยาบาล แต่เธอไม่ต้องกังวล เธอจะได้รับเงินตามปกติ” โจว เชียนหยุน กล่าว “ฉันจะส่งข้อความหาเธอตอนเปิดร้านอาหารนะ”“ได้ค่ะ” หลิง อี้หราน ตอบ “บอกฉันด้วยนะคะถ้าการผ่าตัดของหยันน้อยเสร็จแล้ว ฉันอยากรู้ว่าการผ่าตัดของเขาเป็นไปด้วยดีไหม”“แน่นอน” โจว เชียนหยุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันหวังว่าการผ่าตัดของเขาจะเป็นไปด้วยดี” แม้ว่าจะปิดร้านอาหารแค่ไม่กี่วัน แต่ก็ส่งผลกระทบต่อเธอ แต่ตอนนี้การได้ยินของลูกชายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอเมื่ออาหยันน้อยมีประสาทหูเทียมแล้ว เธอจะมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องเผชิญ เช่น วิธีแปลเสียงที่เขาได้ยินให้เป็นภาษา เพื
“หลิง อี้หราน อยู่ไหน? เธอไม่อยู่ที่นี่เหรอ?” กู้ ลี่เฉิน ถาม“อี้หราน... ออกไปส่งอาหาร เธอจะกลับมาภายหลัง” โจว เชียนหยุน ตอบกู้ ลี่เฉิน ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาสั่งชานมกาแฟแค่แก้วเดียว จากนั้นเขาก็นั่งลงและดื่มมันอย่างช้า ๆคนที่มีชื่อเสียงอย่างกู้ ลี่เฉิน ที่อยู่ในร้านอาหาร เขาดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะมีคนไม่มากนักในร้านอาหาร แต่คนสองสามคนก็จำเขาได้ว่าเขาคือเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงรูปลักษณ์, ภูมิฐาน, และท่าทีไม่แยแสของเขา ซึ่งดูเหมือนจะเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขาอย่างน่าประหลาดใจลูกค้าหลายคนในร้านอาหารมองมาที่เขาแม้แต่โจว เชียนหยุน ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะมองดูกู้ ลี่เฉิน จิบชานมกาแฟของเขา เขาดูเหมือนกำลังถ่ายโฆษณาอยู่เธอรู้ว่าว่าชานมกาแฟในร้านอาหารของเธอดูดีขึ้นมาก‘เมื่อไหร่อี้หรานจะกลับมา?’ ความคิดของโจว เชียนหยุน ทันใดนั้นเธอก็เห็นรถหรูจอดอยู่หน้าร้านอาหารเล็ก ๆ ของเธออีกครั้งเธอกล่าวว่า ‘อีกครั้ง’ เนื่องจากรถปอร์เช่คันหนึ่งได้จอดอยู่ที่ร้านอาหารของเธอก่อนหน้านี้แล้วจากนั้น ก็มีร่างสูงออกมาจากรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ที่เพิ่งเข้ามาจอด ดวงตาของโจว เชียนห
นิ้วของกู้ ลี่เฉิน กระชับขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขาถือแก้วชานมกาแฟ “ถ้าฉันเสียใจล่ะ?” เขาลดความสำคัญอิทธิพลของหลิง อี้หราน ที่มีต่อเขาในตอนนั้นเขาแค่คิดว่าหลิง อี้หราน ดูคล้ายกับคนที่เขากำลังตามหาเท่านั้นเขาค่อย ๆ ตระหนักถึงบางอย่างที่มีอะไรมากกว่านั้น เมื่อเขาเห็นใครบางคนพยายามทำร้ายเธอหรือตีเธอ เขาจะรู้สึกว่าหัวใจของเขามันบีบแน่นขึ้น และรีบเข้าไปช่วยเธอโดยไม่รู้ตัวราวกับว่าการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยของเธอก็สามารถทำให้หัวใจของเขาปวดร้าวได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอกำลังจะจากไป เขาก็ลังเลที่จะแยกทางกับเธอราวกับหวังว่าสายตาของเธอจะจ้องมองมาที่เขาอีกสักพักแม้เพียงชั่วครู่ก็ตาม!เขาเคยแคร์ผู้หญิงมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? นอกจากเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตเขาแล้ว ก็มีแค่เธอเขายังเคยคิดว่าเขาไม่ควรยอมแพ้เรื่องของเธอง่าย ๆ ให้กับอี้ จิ่นหลี ถ้าเธออยู่กับเขา มันจะทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงคนนั้นน้อยลง และลดความเจ็บปวดจากความปรารถนาที่ไม่สมหวังของเขาได้บ้างไหม?ดวงตาของอี้ จิ่นหลี เหลือบมองลงมา เขาจ้องมองไปที่กู้ ลี่เฉิน อย่างเย็นชา “นายจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นหรอก ฉันจะไม่ปล่อยให้นายทำอะไร”“อ
อี้ จิ่นหลี ยังคงดื่มกาแฟของเขาต่อไปอย่างสบาย ๆ เขาชิมมันอย่างไม่ตั้งใจนัก เขาคุยกับกู้ ลี่เฉิน เรื่องของอี้หราน แทนที่จะพูดถึงเรื่องการเกิดความโกลาหลในเมืองเฉินกู้ ลี่เฉิน หรี่ตาลงและจิบกาแฟอีกครั้งความตึงเครียดระหว่างพวกเขาทั้งสองคนหายไปและตอนนี้ก็กลายเป็นเหมือนการพบปะกันระหว่างเพื่อนโจว เชียนหยุน รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยส่วนลูกค้าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงต่างมองมาที่ทั้งคู่เป็นครั้งคราว พวกเขาสองคนดูเหมือนคนดัง ผู้หญิงคนหนึ่งถึงกับพยายามดึงโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปผู้หญิงคนนั้นเล็งโทรศัพท์ของเธอไปที่อี้ จิ่นหลี กับกู้ ลี่เฉิน ก่อนที่เธอจะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ เธอก็ถูกมือใหญ่หยุดบอดี้การ์ดของอี้ จิ่นหลี เขาพูดกับผู้หญิงคนนั้นตรง ๆ ว่า “ท่านประธานไม่ชอบให้ใครถ่ายภาพ ถ้าคุณยืนยันจะถ่าย ผมคงต้องพาคุณออกไป”ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่คือ… ภัยคุกคามหรือไม่! อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นใบหน้าที่ไร้วิญญาณของบอดี้การ์ดและร่างกายที่กำยำ คำพูดประท้วงเหล่านั้นก็ถูกกลืนกลับเข้าไปในท้องของเธอความรู้สึกของเธอบอกว่าถึงแม้เธอจะประท้วงออกมา แต่เธอก็จะกลายเป็นคนขายหน้าในตอนสุดท้ายหญิงส
ใบหน้าของหลิง อี้หราน พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างช่วยไม่ได้ เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อยแล้วกล่าวกับโจว เชียนหยุน “เขาเป็นแฟนของฉันค่ะ”“แฟนของเธอ?!” ดวงตาของโจว เชียนหยุน เบิกกว้างทันที เธอรู้สึกถึงบางอย่างระหว่างพวกเขาจากการสนทนาก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตาม... แฟน?! อี้หรานมีแฟนแล้ว?! แถมเขาดูเป็นคนลึกลับด้วย!ใช่ ลึกลับนี่คือสิ่งที่โจว เชียนหยุน รู้สึก แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าและดูไม่เป็นอันตราย แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่มีพิษภัย สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่าผู้ชายคนนั้นอันตรายผู้ชายคนนี้ดูหยิ่งยโสและทะนงตัว“ใช่ค่ะ แฟนของฉัน” หลิง อี้หราน ตอบ“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อโจว เชียนหยุน เป็นเจ้าของร้านนี้” โจว เชียนหยุน กล่าวแนะนำตัวเอง“สวัสดีครับ ผมอี้ จิ่นหลี” อี้ จิ่นหลี กล่าวโจว เชียนหยุน ตกตะลึงอีกครั้ง ความประหลาดใจในดวงตาของเธอชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆอี้ จิ่นหลี คนนี้ไม่ใช่คนที่เธอคิดไว้ใช่ไหม? โจว เชียนหยุน รู้สึกได้ว่าหัวของเธอกำลังหมุนอยู่ในตอนนี้กู้ ลี่เฉิน และอี้ จิ่นหลี มาที่ร้านอาหารของเธอ และทั้งสองคนก็มาที่นี่เพราะอี้หรานอี้หราน... คือใครกันแน่? เธอเป็นอย่างท
โจว เชียนหยุน นึกถึงตอนก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอดึงหลิง อี้หราน ออกมาเพื่อถามเรื่องนี้ อี้หรานได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เธอ“ใช่ค่ะ พี่โจว เขาคืออี้ จิ่นหลี จากอี้ กรุ๊ป” นั่นคือสิ่งที่อี้หรานกล่าวกับเธอโจว เชียนหยุน รู้สึกราวกับว่าหัวของเธอถูกคลื่นฟ้าผ่าหลังจากที่เกิดฟ้าร้อง เธอรู้สึกหนักใจเล็กน้อยสาวส่งของในร้านอาหารของเธอเป็นแฟนกับอี้ จิ่นหลี เหรอเนี่ย? ใครจะเชื่อถ้าเธอบอกพวกเขา?เมื่อหลิง อี้หราน บอกว่าเธอยังมีอาหารที่ต้องส่ง อี้ จิ่นหลี ก็กล่าวขึ้นโดยไม่คาดคิด “ถ้าอย่างนั้นผมจะรอพี่ที่นี่ วันนี้ผมว่างทั้งวัน”จากนั้นเธอก็ออกไปส่งอาหาร ในขณะที่อี้ จิ่นหลี อยู่ที่นี่และอ่านหนังสือของเขา!โจว เชียนหยุน คิดว่าเธอผ่านอะไรมามากมาย แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกสับสนเล็กน้อยทำไมอี้หรานถึงมาทำงานให้เธอในเมื่ออี้หรานมีแฟนที่มีความสามารถขนาดนี้? อี้ จิ่นหลี… จริงจังกับอี้หรานหรือเปล่า?แต่ตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมันกลับดูเป็นธรรมชาติ อย่างน้อยคนนอกอย่างเธอก็สามารถเห็นได้ว่า อี้ จิ่นหลี ให้ความสำคัญกับอี้หรานหลังจากเห็นว่าอี้ จิ่นหลี ดื่มกาแฟเสร็จแล้ว โจว เชียนหยุน ก็ก้าวไปข้างหน้าและถามว่า “คุ
“ฉันเข้าใจ... ฉันจะไม่พูดอะไรกับเธอ” โจว เชียนหยุน ลังเลและกล่าวว่า “ฉันเพิ่งรู้วันนี้ว่าอี้หรานเป็นแฟนของคุณ ฉันไม่เคยต้องการใช้เธอ ฉันจ้างเธอเพียงเพราะเธอเคยติดคุกเหมือนกับฉันและฉันก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอ เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากให้เธอโอกาส”ความเยือกเย็นในดวงตาของอี้ จิ่นหลี ลดลงเล็กน้อย “ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างคุณกับเย่ เหวินหมิง ผมแค่ต้องการให้อี้หรานทำงานอยู่ที่ร้านของคุณอย่างปลอดภัย คุณสามารถโทรหาผมได้ทุกเมื่อ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ”เขาจึงให้หมายเลขโทรศัพท์ของเขาแก่โจว เชียนหยุนโจว เชียนหยุน รีบจดเบอร์ของเขา มีคนไม่มากในเมือง เฉิน ที่จะได้รับรู้หมายเลขโทรศัพท์ของเขา แต่เธอกลับสามารถหามันได้จากสถานการณ์แบบนี้อี้ จิ่นหลี บอกว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างเธอกับเย่ เหวินหมิง นั่นหมายความว่าเขาจะไม่บอกเย่ เหวินหมิง เกี่ยวกับที่อยู่ของเธอสิ่งนี้ทำให้โจว เชียนหยุน โล่งใจอี้ จิ่นหลี อยู่ในร้านอาหารและกินอาหารเย็นกับหลิง อี้หราน ที่นั่นในตอนท้ายของวัน เพื่อนร่วมงานทุกคนของเธอในร้านอาหารต่างรู้ว่าหลิง อี้หราน มีแฟนหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาเพื่อนร่วมงานเหล่านั้น
ช่วงนี้เขาตั้งใจจะนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอ แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าการนอนบนเตียงเดียวกันจะกลายเป็นความต้องการของจิตใต้สำนึกหลิง อี้หราน ต้องเปิดไฟตลอดการนอนหลับ ดังนั้นเธอจึงกล่าวอย่างไพเราะว่า “ดูเหมือนคุณจะไม่คุ้นเคยกับการฉันที่เปิดไฟนอน บางทีคุณควรกลับไปนอนที่ห้องของคุณนะ”อี้ จิ่นหลี จึงตอบว่า “ผมอยากนอนกับพี่ ผมรู้สึกสบายใจเวลานอนกับพี่ ถ้าพี่อยากจะเปิดไฟก็ไม่เป็นอะไร”หลิง อี้หราน จึงตัดสินใจเก็บประโยคถัดไปไว้กับตัวเองคำพูดที่อี้ จิ่นหลี กล่าวออกมานั้น... ค่อนข้างยั่วยวน! เขาไม่รู้เหรอว่าคำพูดเหล่านั้นสามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมได้?“จะนอนแล้วเหรอ?” อี้ จิ่นหลี ถามขณะที่เขาจ้องมองหลิง อี้หราน เดินไปที่เตียง“อืม” หลิง อี้หราน ตอบด้วยใบหน้าที่กระสับกระส่ายหลิง อี้หราน ยกผ้าห่มขึ้นและขึ้นไปบนเตียง แขนของอี้ จิ่นหลี โอบรอบเอวของเธอไว้อย่างง่ายดาย เขาซุกใบหน้าของเขาไว้ในอกของเธอขณะที่กอดเธอแน่น ราวกับว่าเขายังเป็นเด็กที่ถูกให้ท้ายโดยผู้ใหญ่รอบ ๆตอนนี้เขาดูเหมือนเด็กน้อย และทำตัวต่างออกไปจากปกติ หลิง อี้หราน กำลังจินตนาการถึงความไร้เดีย