มีคลื่นน้อย ๆ ในดวงตาของเขาและตาคู่นั้นเผยให้เห็นความอ่อนโยนบางอย่างที่ดูเหมือนจะบอกว่าเขาสามารถทนกับเธอได้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตามประกายในดวงตาของเขาและรอยยิ้มที่มุมริมฝีปากของเขานั้นสวยงามอย่างสุดจะพรรณนาหลิง อี้หราน ก็ตระหนักได้ว่าเธอกำลังงี่เง่า แม้ว่าเธอจะสั่งอาหารทั้งหมดในเมนู แต่ก็ยังไม่มีอะไรให้อี้ จิ่นหลีเกิดอะไรขึ้นกับเธอ? เธอกำลังระบายความโกรธออกไปด้วยวิธีโง่ ๆ อย่างนั้นสินะด้วยความผิดหวัง หลิง อี้หราน ยื่นเมนูกลับไปให้หนักงานอย่างไม่พอใจและพูดว่า "แค่นี้ค่ะ"“นั่นหมดแล้วใช่ไหม?" อี้ จิ่นหลี กล่าวด้วยรอยยิ้มหลิง อี้หราน กัดริมฝีปากของเธอสักครู่ก่อนจะพูดว่า "แค่นั้นแหล่ะ""กินหมดได้เหรอครับ? มันสำหรับเจ็ดหรือแปดคนนะครับ มันไม่มากเกินไปสำหรับคุณสองคนเลยเหรอครับ?" พนักงานกล่าวอย่างมีชั้นเชิงอี้ จิ่นหลี พูดเบา ๆ ว่า "สำหรับตอนนี้ แค่นั้นก่อน"พนักงานหยิบเมนูและจากไปอี้ จิ่นหลี มองไปที่หลิง อี้หราน และพูดว่า "ถ้าพี่คิดว่ายังไม่พอ พี่สั่งเพิ่มได้อีกนะ"น้ำเสียงที่ผ่อนคลายของเขาทำให้หัวใจของเธอกระโจนอีกครั้ง“เมื่อกี้ฉันงี้เง่าเอง ฉันจะเปลี่ยนรายการอาหารและลบรายการ
บางทีการจ้องมองของเขาก็ตรงไปตรงมาและไม่สะทกสะท้านอะไรเสียเลย จนหลิง อี้หราน อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองอี้ จิ่นหลี เธอถามเขาว่า "คุณไม่ไปกินข้าวเหรอ?"“ผมกิน แต่ผมแค่อยากดูพี่กินสักพักหนึ่งก่อน ผมพบว่าอาหารน่ากินกว่าเมื่อผมดูพี่กินน่ะ” เขากล่าว“...” จู่ ๆ เธอก็รู้สึกพูดไม่ออก เขาหมายถึงอะไร?“ทุกครั้งที่ผมดูพี่กิน อาหารดูอร่อยขึ้นเยอะเลย” เขาพึมพำ“นั่นเป็นเพราะคุณไม่เคยหิวเลยไง” เธอพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าคุณไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน แม้ว่านั่นจะเป็นแค่ข้าวขาวในน้ำก็ตามคุณจะพบว่ามันอร่อย”ดวงตาของเขาแข็งขึ้น “พี่เคยหิวเหรอ?”"อืม ใช่" เธอพูดเบา ๆ สิ่งที่เคยเป็นเรื่องของชีวิตและความตายในตอนนั้นดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องสบาย ๆ ในตอนนี้ริมฝีปากบางของเขาเม้มแน่น “ในคุกน่ะเหรอ?”"ใช่" เธอตอบจากนั้นทั้งสองก็ไม่พูดอีกต่อไป เธอก้มหน้าลงและกินต่อในขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เธออย่างหนักแน่นวันนี้เธอยังคงสวมเสื้อผ้าราคาถูก เธอก้มหน้าลงโดยมีผมสองสามเส้นข้างแก้มด้วยลำคอและลำตัวที่ผอมบางของเธอตอนนี้เธอผอมลงกว่ารูปถ่ายในข้อมูลที่เขาเก็บรวบรวมก่อนที่เธอจะเข้าคุก เธอดูราวกับว่าสายล
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลายคนในเมืองเฉินรู้แล้วว่า ห่าว อี้เหมิง และเซียว จื่อฉี หมั้นหมายกันและจะแต่งงานกันในไม่ช้า กวาน ลี่หลี่ เมื่อกล่าวถึง เซียว จื่อฉี กล่าวถึง ‘อดีตแฟน’ ราวกับเป็นการเตือนสติอะไรบางสิ่งบางอย่างหลิง อี้หราน จ้องไปที่กวาน ลี่หลี่ แล้วก็เข้าใจอะไรบางอย่างในขณะที่หลิง อี้หราน จ้องมองไปที่กวาน ลี่หลี่ บนใบหน้าของเธอมีความรู้สึกที่ไม่สบายใจอยู่ เธอกำลังมองไปที่กวาน ลี่หลี่ ราวกับว่าเธอสามารถมองผ่านเธอได้อย่างไรก็ตาม เธอบอกตัวเองว่า ‘ถ้าเธอมองฉันออกแล้วมันจะยังไงล่ะ? หลิง อี้หราน ไม่ใช่ดาวรุ่งในวงการอีกต่อไป 'เธอเคยร่วมงานกับหลิง อี้หราน ในตอนนั้น แต่คนที่ทุกคนจับตามองคือ หลิง อี้หราน เท่านั้นเพื่อนร่วมงานในสำนักงานทุกคนเคยบอกว่า หลิง อี้หราน กำลังจะเป็นทนายความใหญ่ในไม่ช้าเพราะเธอกำลังมีชีวิตรักและหน้าที่การงานที่ดีเมื่อกวาน ลี่หลี่ ทำผิดพลาดในการทำงาน ที่ปรึกษาของเธอในบริษัทจะขอให้เธอเป็นเหมือนหลิง อี้หราน มากขึ้น สิ่งนี้ทำให้เธอขุ่นเคือง แต่เธอก็ทำอะไรไม่ถูกหลิง อี้หราน เป็นเหมือนดั่งภูเขาบนศีรษะของเธอ ตราบใดที่หลิง อี้หราน อยู่ในบริษัท คนอื่น ๆ ก็มักจะเปรี
”ไม่ต้อง" หลิง อี้หราน พูดเบา ๆ “ฉันก็มีเพื่อนรอฉันอยู่ข้างนอกเหมือนกัน ฉันค้องไปแล้วแหล่ะ”“นี่ รีแล็กซ์น่า" กวาน ลี่หลี่ กล่าวเสริม "ตอนนี้เธอยังไม่มีแฟนใช่ไหม? แฟนของฉันเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยและรู้จักผู้คนมากมาย ทำไมเธอไม่ให้เขาแนะนำเธอให้กับผู้ชายสักสองสามคนล่ะ?"เธอพูดขณะเดินตามหลิง อี้หราน ออกจากห้องน้ำจากนั้นกวาน ลี่หลี่ ก็เรียกชายรูปร่างปานกลางที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องน้ำ เขามาทันทีหลิง อี้หราน มองไปที่ชายที่เข้ามาใกล้ เขาดูเป็นคนธรรมดา แต่แก่กว่าเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาอยู่ในช่วงปลายยุค 40 เห็นได้ชัดว่านี่คือแฟนของกวาน ลี่หลี่ “ปางเหอ นี่คืออดีตเพื่อนร่วมงานของฉัน หลิง อี้หราน ฉันบังเอิญเจอเธอในห้องน้ำ" กวาน ลี่หลี่ พูด เธอกล่าวเสริม “อี้หราน นี่แฟนของฉัน เฮ่อ ปางเหอ เขาเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยยูเรน"กวาน ลี่หลี่ ดูเหมือนโอ้อวดเฮ่อ ปางเหอ รีบแก้ต่างเธอทันที “ผมเป็นเพียงรองศาสตราจารย์ไม่ใช่ศาสตราจารย์ครับ"“อีกสองปีคุณก็จะเป็นศาสตราจารย์นั่นแหล่ะ” กวาน ลี่หลี่ พูดอย่างไม่เห็นด้วย จากนั้นเธอก็ถามหลิง อี้หราน ว่า "เธอบอกว่าเพื่อนรอเธออยู่ข้างนอกไม่ใช่เหรอ? พวกเข
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในครั้งต่อไปที่พวกเขาพบกันเขาจะไม่ใช่แค่จินอีกต่อไป แต่เป็นอี้ จิ่นหลีเธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะจำสิ่งที่เธอพูดได้ในตอนนั้น“อี้หราน... เขาเป็นใคร?” กวาน ลี่หลี่ ถามพร้อมจ้องไปที่อี้ จิ่นหลี ด้วยความตกใจผู้ชายที่ดูสง่าและดูมีภูมิฐานคือ... เพื่อนของหลิง อี้หราน อย่างนั้นเหรอ?! มันแปลกมากที่จะคิดว่ามันเป็นไปได้!ก่อนที่หลิง อี้หราน จะพูด ยี่จินลี่กล่าวว่า "ผู้หญิงคนนี้จะนัดพี่ไปนัดบอดเหรอ? พี่ไม่ได้บอกเธอเหรอว่ามีผมอยู่แล้วน่ะ?"กวาน ลี่หลี่ อ้าปากค้างชายคนนี้... เขาเป็นเพื่อนของหลิง อี้หราน หรือไม่? อาจจะเป็น... แฟนของเธอก็ได้?!การปรากฏตัวของเขาเพียงอย่างเดียวสามารถเอาชนะ เซียว จื่อฉี ได้ ไม่ต้องพูดถึงแฟนของรองศาสตราจารย์ของเธอเลย!เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ กวาน ลี่หลี่ ก็มองไปที่เฮ่อ ปางเหอ เดิมทีเธอค่อนข้างพอใจกับแฟนของเธอ แม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าเธอ 10 ปี แต่ก็เป็นรองศาสตราจารย์ เขาสามารถเป็นศาสตราจารย์ได้ในอีกไม่กี่ปีอย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ…เพื่อนของหลิง อี้หราน กวาน ลี่หลี่ ก็รู้สึกว่าแฟนหนุ่มของเธอดูไม่ค่อยดีนักหลิง อี้หราน ตกตะลึงกับ
หลังจากที่ทั้งสามสั่งกาแฟ กวาน ลี่หลี่ ก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับงานปัจจุบันของหลิง อี้หราน เธออยากรู้เพิ่มเติaมเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของอี้หรานและพยายามจะสังเกตปฏิกิริยาของอี้ จิ่นหลีแต่อี้ จิ่นหลี กลับไม่รู้สึกกระวนกระวายใจราวกับเขารู้คำตอบของหลิง อี้หราน อยู่แล้ว“อี้หราน ทำไมเธอไม่ลองคุยกับหัวหน้าที่บริษัทล่ะ? ถ้าเธออยากกลับไปทำงานก็ลองคุยกับเขาดูสิ เธออาจจะได้กลับไปทำงานที่บริษัทก็ได้นะ ถึงเธอจะได้ทำงานเป็นคนทำความสะอาด แต่ก็ยังดีกว่าเป็นคนงานในศูนย์สุขาภิบาลนะ” กวาน ลี่หลี่ พูดพลางแสร้งทำเป็นคนดีหลิง อี้หราน เงยหน้าขึ้นมองกวาน ลี่หลี่ ด้วยดวงตาที่แข็งขึ้น “ฉันไม่ได้อยากจะเปลี่ยนงานน่ะ”“อย่างงั้นเหรอ?” กวาน ลี่หลี่ เบะริมฝีปากของเธอ “เธออาจจะมีรายได้จากการเป็นพนักงานทำความสะอาดมากกว่าการเป็นคนงานในศูนย์สุขาภิบาลก็ได้นะ เธอแน่ใจเหรอว่าไม่ได้คิดแบบนี้น่ะ?”“ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” น้ำเสียงของหลิง อี้หราน แข็งขึ้นกวาน ลี่หลี่ ต้องการพูดมากกว่านี้ แต่เฮ่อ ปางเหอ หยุดเธอไว้ โชคดีที่พนักงงานมาเสิร์ฟกาแฟพอดีทำให้หัวข้อของพวกเขาหยุดชั่วคราว“กาแฟที่นี้ราคาแพงมากเ
หลิง อี้หราน ตกตะลึง เธอเงยหน้าด้วยความตกใจและมองเข้าไปในดวงตาของอี้ จิ่นหลีใบหน้าของกวาน ลี่หลี่ ซีดลงพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “ฉันไม่คิดว่าคุณอี้… จะรักอี้หรานขนาดนี้ คุณวางแผนจะแต่งงานกันไหมคะ?”“ถ้าเธออยากแต่งงานกับผม แน่นอนว่าผมจะแต่งงานกับเธอครับ” อี้ จิ่นหลี กล่าวหลิง อี้หราน รู้สึกหัวใจของเธอกำลังเต้นแรง เธอมองไปที่อี้ จิ่นหลี อย่างไม่เชื่อ ราวกับว่าเธอได้ยินอะไรผิดไป“เป็นไปได้ยังไงกัน?!” กวาน ลี่หลี่ โพล่งขึ้นอี้ จิ่นหลี มองไปที่กวาน ลี่หลี่ อย่างเกียจคร้าน “มีอะไรเป็นไปไม่ได้เหรอครับ?!”ดวงตาของเขาแข็งขึ้น ทำให้กวาน ลี่หลี่ อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นไปด้วยความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ“เอาล่ะ ไปกันเถอะอี้หราน” อี้ จิ่นหลีเดินไปพรางจับมือหลิง อี้หรานเธอเดินตามอี้ จิ่นหลี ออกไปโดยไม่ขัดขืนเฮ่อ ปางเหอ มองไปที่กวาน ลี่หลี่ และพูดอย่างขัดใจว่า “ลี่หลี่ ทำไมคุณถึงพูดเรื่องที่เพื่อนของคุณเคยเข้าคุกมาก่อนล่ะ? โชคดีที่คุณอี้รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้าไม่งั้นมันคงทำให้พวกเขาอายถึงขั้นแตกหักกันเลยนะ”‘ฉันตั้งใจ!’ กวาน ลี่หลี่ พูดอย่างขมขื่นในใจ เมื่อเธอเห็นถ้วยกาแฟของอี้ จิ่นหลี
“ยังไงก็แล้วแต่ พี่ควรเก็บคำพูดของผมใส่ใจบ้างนะ” เขาพูดหลิง อี้หราน รู้สึกตกใจ เขาหมายความว่าอย่างไร? เก็บใส่ใจอย่างนั้นเหรอ...?เขาจะแต่งงานกับเธอถ้าเธออยากจะแต่งงานกับเขา เขารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?จิตใจของหลิง อี้หราน ยุ่งเหยิงไปหมดจนพวกเขาเข้าไปในรถ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ อี้ เธอก็เดินตามเขาออกจากรถและเข้าไปในบ้าน เขาหยุดกะทันหันและหันมาพูด“ยังไงก็แล้วแต่ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยอดอาหาร” เขาพูด “มีหลายครั้งที่ผมหิวและคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย”พ่อของเขาจากไปตั้งแต่เมื่อเขายังเป็นเด็ก อี้ จิ่นหลี อยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ซอมซ่อ เขาถือโกศที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าของพ่อตัวเอง ตอนนั้นเขาอดยากและหิวมากจนแทบจะหมดเรี่ยวแรง จนรู้สึกเข้าใกล้ถึงความตายจริง ๆ ในที่สุด เพื่อนบ้านของเขาก็เปิดประตูเข้ามาและยื่นอาหารให้กับเขา เพียงแค่นั้นเขาสามารถฟื้นพละกำลังของตัวเองได้หลิง อี้หราน ตกตะลึงและมองเขาด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาพูดแบบนี้น้ำเสียงของเขาแผ่วลงจนเธอรู้สึกไม่สบายใจเธอนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กที่เขาเคยเล่าให้เธอฟังเมื่อครั้งยังเป็นแค่จินแม่ของเขาทิ้งเขาไปและพ่อของเขา… เสียชีวิตท่ามกลางหิมะ ก่อ