หลังจากที่ทั้งสามสั่งกาแฟ กวาน ลี่หลี่ ก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับงานปัจจุบันของหลิง อี้หราน เธออยากรู้เพิ่มเติaมเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของอี้หรานและพยายามจะสังเกตปฏิกิริยาของอี้ จิ่นหลีแต่อี้ จิ่นหลี กลับไม่รู้สึกกระวนกระวายใจราวกับเขารู้คำตอบของหลิง อี้หราน อยู่แล้ว“อี้หราน ทำไมเธอไม่ลองคุยกับหัวหน้าที่บริษัทล่ะ? ถ้าเธออยากกลับไปทำงานก็ลองคุยกับเขาดูสิ เธออาจจะได้กลับไปทำงานที่บริษัทก็ได้นะ ถึงเธอจะได้ทำงานเป็นคนทำความสะอาด แต่ก็ยังดีกว่าเป็นคนงานในศูนย์สุขาภิบาลนะ” กวาน ลี่หลี่ พูดพลางแสร้งทำเป็นคนดีหลิง อี้หราน เงยหน้าขึ้นมองกวาน ลี่หลี่ ด้วยดวงตาที่แข็งขึ้น “ฉันไม่ได้อยากจะเปลี่ยนงานน่ะ”“อย่างงั้นเหรอ?” กวาน ลี่หลี่ เบะริมฝีปากของเธอ “เธออาจจะมีรายได้จากการเป็นพนักงานทำความสะอาดมากกว่าการเป็นคนงานในศูนย์สุขาภิบาลก็ได้นะ เธอแน่ใจเหรอว่าไม่ได้คิดแบบนี้น่ะ?”“ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” น้ำเสียงของหลิง อี้หราน แข็งขึ้นกวาน ลี่หลี่ ต้องการพูดมากกว่านี้ แต่เฮ่อ ปางเหอ หยุดเธอไว้ โชคดีที่พนักงงานมาเสิร์ฟกาแฟพอดีทำให้หัวข้อของพวกเขาหยุดชั่วคราว“กาแฟที่นี้ราคาแพงมากเ
หลิง อี้หราน ตกตะลึง เธอเงยหน้าด้วยความตกใจและมองเข้าไปในดวงตาของอี้ จิ่นหลีใบหน้าของกวาน ลี่หลี่ ซีดลงพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “ฉันไม่คิดว่าคุณอี้… จะรักอี้หรานขนาดนี้ คุณวางแผนจะแต่งงานกันไหมคะ?”“ถ้าเธออยากแต่งงานกับผม แน่นอนว่าผมจะแต่งงานกับเธอครับ” อี้ จิ่นหลี กล่าวหลิง อี้หราน รู้สึกหัวใจของเธอกำลังเต้นแรง เธอมองไปที่อี้ จิ่นหลี อย่างไม่เชื่อ ราวกับว่าเธอได้ยินอะไรผิดไป“เป็นไปได้ยังไงกัน?!” กวาน ลี่หลี่ โพล่งขึ้นอี้ จิ่นหลี มองไปที่กวาน ลี่หลี่ อย่างเกียจคร้าน “มีอะไรเป็นไปไม่ได้เหรอครับ?!”ดวงตาของเขาแข็งขึ้น ทำให้กวาน ลี่หลี่ อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นไปด้วยความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ“เอาล่ะ ไปกันเถอะอี้หราน” อี้ จิ่นหลีเดินไปพรางจับมือหลิง อี้หรานเธอเดินตามอี้ จิ่นหลี ออกไปโดยไม่ขัดขืนเฮ่อ ปางเหอ มองไปที่กวาน ลี่หลี่ และพูดอย่างขัดใจว่า “ลี่หลี่ ทำไมคุณถึงพูดเรื่องที่เพื่อนของคุณเคยเข้าคุกมาก่อนล่ะ? โชคดีที่คุณอี้รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้าไม่งั้นมันคงทำให้พวกเขาอายถึงขั้นแตกหักกันเลยนะ”‘ฉันตั้งใจ!’ กวาน ลี่หลี่ พูดอย่างขมขื่นในใจ เมื่อเธอเห็นถ้วยกาแฟของอี้ จิ่นหลี
“ยังไงก็แล้วแต่ พี่ควรเก็บคำพูดของผมใส่ใจบ้างนะ” เขาพูดหลิง อี้หราน รู้สึกตกใจ เขาหมายความว่าอย่างไร? เก็บใส่ใจอย่างนั้นเหรอ...?เขาจะแต่งงานกับเธอถ้าเธออยากจะแต่งงานกับเขา เขารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?จิตใจของหลิง อี้หราน ยุ่งเหยิงไปหมดจนพวกเขาเข้าไปในรถ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ อี้ เธอก็เดินตามเขาออกจากรถและเข้าไปในบ้าน เขาหยุดกะทันหันและหันมาพูด“ยังไงก็แล้วแต่ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยอดอาหาร” เขาพูด “มีหลายครั้งที่ผมหิวและคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย”พ่อของเขาจากไปตั้งแต่เมื่อเขายังเป็นเด็ก อี้ จิ่นหลี อยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ซอมซ่อ เขาถือโกศที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าของพ่อตัวเอง ตอนนั้นเขาอดยากและหิวมากจนแทบจะหมดเรี่ยวแรง จนรู้สึกเข้าใกล้ถึงความตายจริง ๆ ในที่สุด เพื่อนบ้านของเขาก็เปิดประตูเข้ามาและยื่นอาหารให้กับเขา เพียงแค่นั้นเขาสามารถฟื้นพละกำลังของตัวเองได้หลิง อี้หราน ตกตะลึงและมองเขาด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาพูดแบบนี้น้ำเสียงของเขาแผ่วลงจนเธอรู้สึกไม่สบายใจเธอนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กที่เขาเคยเล่าให้เธอฟังเมื่อครั้งยังเป็นแค่จินแม่ของเขาทิ้งเขาไปและพ่อของเขา… เสียชีวิตท่ามกลางหิมะ ก่อ
“เพราะว่าอี้หรานไม่มีอะไรดี ๆ ในชีวิตของเธอ เธอก็คงไม่อยากเห็นลั่วอินมีความสุขหรอก!” ฟาง ซุ่ยเอ๋อ พูดอย่างโกรธเคือง “ถ้าเธอทำลายความสัมพันธ์ของลั่วอินกับลี่เฉิน ฉันจะฆ่าเธอ!”อย่างไรก็ตาม หลิง กว๋อจื้อ กล่าวว่า “พวกเรากำลังเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?” หลิง อี้หราน ก็เป็นลูกสาวของฉันเหมือนกัน มันไม่สำคัญกับเขาถ้าลูกสาวของเขาจะไปคบกับกู้ ลี่เฉินสิ่งสำคัญคือการที่เขาได้เป็นพ่อตาของกู้ ลี่เฉิน ต่างหาก“เข้าใจผิดอะไรล่ะ? เธอพยายามจะไต่เต้าให้เป็นที่รู้จักของสังคม” ฟาง ซุ่ยเอ๋อ กล่าว “เธอรู้จักกับอี้ จิ่นหลี ได้ยังไงกัน? ไม่รู้เหรอว่าเธอเคยติดคุกมาก่อน? ใครจะจริงจังกับเธอกันล่ะ?”ฟาง ซุ่ยเอ๋อ ไม่ลังเลที่จะประณามลูกเลี้ยงเพราะกลัวว่าลูกเลี้ยงคนนี้จะมาขโมยการแต่งงานที่ดีของลูกสาวเธอไป“ลั่วอินนั้นแตกต่างออกไป ลั่วอินใสซื่อ และตอนนี้เธอก็ยังเป็นแฟนกับลี่เฉินด้วย เธอจะเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดและจะแต่งงานเข้าตระกูลกู้” ฟาง ซุ่ยเอ๋อ พูดราวกับลั่วอินเป็นราชินีแห่งวงการภาพยนต์และจะกลายเป็นลูกสะไภ้ตระกูลกู้ทันทีหลิง กว๋อจื้อ พยักหน้าและกล่าวต่อ “เอาล่ะ งั้นฉันจะบอกให้อี้หรานกลับมาบ้านและคุยกับเธ
เมื่อเธอหันหลังกลับไปก็เห็นอี้ จิ่นหลี ยืนพิงประตูอยู่ สายตาของเขากำลังจับจ้องมาที่เธอ“ใครโทรมา?” เขาถามขณะเดินเข้ามาหาเธอ“พ่อของฉัน” หลิง อี้หราน ตอบ “คืนพรุ่งนี้ฉันจะแวะเข้าไปที่บ้าน คุณช่วยบอกคนขับรถว่าไม่ต้องเข้าไปรับฉันที่ศูนย์บริการสุขาภิบาลได้ไหม?”ดวงตาของเขาเปร่งประกรายอย่างครุ่นคิด “พี่อยากให้ผมไปด้วยไหม?”เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ ไปกับเธอเหรอ? ทำไมเขาถึงอยากไปกับเธอล่ะ? นอกจากนี้เธอยังไปจัดการแค่เรื่องของแม่เท่านั้น“ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้” หลิง อี้หราน ตอบ “ดึกแล้ว ฉันจะไปนอน”กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเธอกำลังขอให้เขาออกไปเขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก้มลมและใช้นิ้วรวบผมยาวของเธอ “ทำไมพี่ถึงไล่ผมจัง?”เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันและไม่ยอมให้คำตอบ“ช่วยบอกผมทีว่าผมต้องทำยังไง พี่ถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ลมหายใจของเขาซึ่งมีกลิ่นเหมือนดั่งกล้วยไม้กำลังรดลงบนใบหน้าของเธอเขาต้องการให้เธอยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข เขาต้องการให้เธอพูดจาน่ารักกับเขาเหมือนที่เธอเคยทำมาก่อน ดวงตาของเธอที่เคยมองแต่เขาเมื่อครั้งยังมีกันและกันกลับมาเหมือนเดิมเหรอ?หลิง อี้หราน ตกใจ “คุณก็เคยเป็นจิน” เธอพ
ถ้าอี้หรานรู้เรื่องใหญ่นั้น ทำไมเธอถึงมาทำงานเป็นคนทำความสะอาดที่ศูนย์บริการสุขาภิบาลแทนที่จะทำงานเป็นนักแสดงสมทบล่ะ? “ไม่… ไม่มีอะไรค่ะ มันจบแล้ว” หลิง อี้หราน พูดอย่างคลุมเครือ “พี่ซู ฉันคิดว่าฉันไม่สามารถทำงานเป็นนักแสดงบทบาทสมทบได้แล้วค่ะ ช่วยบอกคุณกวอว่าฉันขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และเดี๋ยวฉันจะออกจะกลุ่มแชทค่ะ”หลังจากที่ทุกคนได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้เธอรู้ว่าวงการบันเทิงนั่นแคบมาก ทุก ๆ คนต่างรู้จักกันหมด ถ้าเธอทำงานเป็นนักแสดงบทบาทสมทบอีกครั้ง เธอคงจะรู้สึกอึดอัดใจ เธอควรพอแค่นี้น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ในการหาเงินได้อีกต่อไป ตอนนี้เธอได้แต่คิดวิธีหารายได้เพิ่ม“ได้สิ” พี่ซูเห็นว่าหลิง อี้หราน ไม่ต้องการจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ดังนั้นเธอจึงไม่ถามคำถามใด ๆ อีก เธอพูดแค่ว่า “ฉันจะไปคุยกับคุณกวอให้ แต่เธอควรบอกให้เขารู้ก่อนที่เธอจะออกจากกลุ่มแชตนะ” “ได้ค่ะ ฉันจะบอกเขาค่ะ” หลิง อี้หรานตอบเธอเริ่มกังวลมากขึ้นกับการหารายได้พิเศษ อย่างไรก็ตาม เธอต้องการจ่ายเงินคือเหลียนอีให้เร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ และถ้าค่ารักษาพยาบาลของคุณยายเ
“นั่งลงก่อนสิ” หลิง กว๋อจื้อ กล่าวหลิง อี้หราน นั่งลงและถามทันที “คุณจะย้ายหลุมศพของแม่ไปไว้ที่ไหน?”“ไม่ต้องรีบหรอก” หลิง กว๋อจื้อ กล่าวและโบกมือเรียกเธอ “คุยเรื่องลูกกับน้องสาวก่อนเถอะ วันนี้พ่อจะเป็นผู้สร้างสันติให้ทั้งคู่เอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า ลูกก็ยังเป็นพี่น้องกัน ลูกต้องดูแลน้องสาวของตัวเอง”หลิง อี้หราน ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณจะย้ายหลุมศพแม่ไปไว้ที่ไหน”หลิง กว๋อจื้อ เริ่มอารมณ์เสีย “พ่อก็บอกอยู่ว่าเราจะคุยเรื่องนี้ทีหลังยังไงล่ะ? เรามาคุยเรื่องของลูกกับน้องสาวก่อนเถอะ” “พี่ ถ้าฉันทำอะไรผิดพลาดไป อย่าเอาไปใส่ใจเลยนะ ฉันขอโทษ” หลิง ลั่วอิน พูดด้วยถ้อยคำจริงใจหลิง อี้หราน รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นฝ่ายที่ต้องตั้งรับยิ่งหลิง ลั่วอิน พูดแบบนี้ยิ่งก่อให้เกิดแต่ปัญหาแน่นอนว่าสิ่งที่หลิง กว๋อจื้อ พูดต่อทำให้หลิง อี้หราน เข้าใจว่าหลิง ลั่วอิน ต้องการจะสื่ออะไร“เอาล่ะ เธอทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ลูกไม่ควรทำร้ายกันเพราะผู้ชายคนเดียว” หลิง กว๋อจื้อ พูดกับลูกสาวคนโต “กู้ ลี่เฉินเป็นแฟนของน้องสาวนะอี้หราน เธอไม่ควรเข้าไปยุ่งกับความสัมพันธ์ของพวกเขา แล้วเธอก
“แกเอาแต่พูดถึงแม่! แกไม่อยากเห็นอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับน้องสาวแกบ้างเลยหรือไง ช่างเป็นลูกที่ดีของแม่เสียจริง!” หลิง กว๋อจื้อ พูดด้วยความโกรธ เขาตรงเข้าในห้องแล้วหยิบอัลบั้มรูปออกมาหลิง อี้หราน ตัวสั่น อัลบั้มรูปนั่น… เป็นของแม่เธอ ในนั่นมีรูปของเธอกับแม่เธอเต็มไปหมด!เธอเห็นหลิง กว๋อจื้อ หยิบไฟแช็กออกมาก่อนจุดไฟเผาอัลบั้ม “เพราะแกไม่อยากเห็นน้องสาวมีความสุข งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้อัลบั้มรูปนี้กับแก แม่ของแกก็คงไม่ต้องการลูกสาวแบบแกเหมือนกัน!”อัลบั้มที่ถูกเผาไหม้โดนหลิง กว๋อจื้อ โยนลงบนพื้นหลิง อี้หราน เกือบจะกรีดร้องออกมา เธอดึงแขนเสื้อปิดมือของเธอเพื่อใช้มันตีเพื่อดับเปลวเพลิงเท่าที่ทำได้อย่าไหม้นะ! ไม่นะ!รูปถ่ายข้างในทั้งหมดเป็นความทรงจำของเธอกับแม่! มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!หลิง อี้หราน ไม่รู้ว่าตัวเองกรีดร้องมานานแค่ไหน เธอเอาแต่ดับเปลวไฟด้วยมือของเธอแม้ว่ามันจะเผาไหม้มือเธอก็ตามตอนนี้เธอกลายเป็นเหมือนคนบ้า!สายตาน่ากลัวของเธอมองไปที่พวกเขาในที่สุด เปลวไฟก็ดับลง หลิง อี้หราน มองไปอัลบั้มที่ถูกเผาและตระหนักได้ว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาเธอเดินโซซัดโซเซถืออัลบั้มร