เมื่อเธอหันหลังกลับไปก็เห็นอี้ จิ่นหลี ยืนพิงประตูอยู่ สายตาของเขากำลังจับจ้องมาที่เธอ“ใครโทรมา?” เขาถามขณะเดินเข้ามาหาเธอ“พ่อของฉัน” หลิง อี้หราน ตอบ “คืนพรุ่งนี้ฉันจะแวะเข้าไปที่บ้าน คุณช่วยบอกคนขับรถว่าไม่ต้องเข้าไปรับฉันที่ศูนย์บริการสุขาภิบาลได้ไหม?”ดวงตาของเขาเปร่งประกรายอย่างครุ่นคิด “พี่อยากให้ผมไปด้วยไหม?”เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ ไปกับเธอเหรอ? ทำไมเขาถึงอยากไปกับเธอล่ะ? นอกจากนี้เธอยังไปจัดการแค่เรื่องของแม่เท่านั้น“ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้” หลิง อี้หราน ตอบ “ดึกแล้ว ฉันจะไปนอน”กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเธอกำลังขอให้เขาออกไปเขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก้มลมและใช้นิ้วรวบผมยาวของเธอ “ทำไมพี่ถึงไล่ผมจัง?”เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันและไม่ยอมให้คำตอบ“ช่วยบอกผมทีว่าผมต้องทำยังไง พี่ถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ลมหายใจของเขาซึ่งมีกลิ่นเหมือนดั่งกล้วยไม้กำลังรดลงบนใบหน้าของเธอเขาต้องการให้เธอยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข เขาต้องการให้เธอพูดจาน่ารักกับเขาเหมือนที่เธอเคยทำมาก่อน ดวงตาของเธอที่เคยมองแต่เขาเมื่อครั้งยังมีกันและกันกลับมาเหมือนเดิมเหรอ?หลิง อี้หราน ตกใจ “คุณก็เคยเป็นจิน” เธอพ
ถ้าอี้หรานรู้เรื่องใหญ่นั้น ทำไมเธอถึงมาทำงานเป็นคนทำความสะอาดที่ศูนย์บริการสุขาภิบาลแทนที่จะทำงานเป็นนักแสดงสมทบล่ะ? “ไม่… ไม่มีอะไรค่ะ มันจบแล้ว” หลิง อี้หราน พูดอย่างคลุมเครือ “พี่ซู ฉันคิดว่าฉันไม่สามารถทำงานเป็นนักแสดงบทบาทสมทบได้แล้วค่ะ ช่วยบอกคุณกวอว่าฉันขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และเดี๋ยวฉันจะออกจะกลุ่มแชทค่ะ”หลังจากที่ทุกคนได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้เธอรู้ว่าวงการบันเทิงนั่นแคบมาก ทุก ๆ คนต่างรู้จักกันหมด ถ้าเธอทำงานเป็นนักแสดงบทบาทสมทบอีกครั้ง เธอคงจะรู้สึกอึดอัดใจ เธอควรพอแค่นี้น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ในการหาเงินได้อีกต่อไป ตอนนี้เธอได้แต่คิดวิธีหารายได้เพิ่ม“ได้สิ” พี่ซูเห็นว่าหลิง อี้หราน ไม่ต้องการจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ดังนั้นเธอจึงไม่ถามคำถามใด ๆ อีก เธอพูดแค่ว่า “ฉันจะไปคุยกับคุณกวอให้ แต่เธอควรบอกให้เขารู้ก่อนที่เธอจะออกจากกลุ่มแชตนะ” “ได้ค่ะ ฉันจะบอกเขาค่ะ” หลิง อี้หรานตอบเธอเริ่มกังวลมากขึ้นกับการหารายได้พิเศษ อย่างไรก็ตาม เธอต้องการจ่ายเงินคือเหลียนอีให้เร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ และถ้าค่ารักษาพยาบาลของคุณยายเ
“นั่งลงก่อนสิ” หลิง กว๋อจื้อ กล่าวหลิง อี้หราน นั่งลงและถามทันที “คุณจะย้ายหลุมศพของแม่ไปไว้ที่ไหน?”“ไม่ต้องรีบหรอก” หลิง กว๋อจื้อ กล่าวและโบกมือเรียกเธอ “คุยเรื่องลูกกับน้องสาวก่อนเถอะ วันนี้พ่อจะเป็นผู้สร้างสันติให้ทั้งคู่เอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า ลูกก็ยังเป็นพี่น้องกัน ลูกต้องดูแลน้องสาวของตัวเอง”หลิง อี้หราน ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณจะย้ายหลุมศพแม่ไปไว้ที่ไหน”หลิง กว๋อจื้อ เริ่มอารมณ์เสีย “พ่อก็บอกอยู่ว่าเราจะคุยเรื่องนี้ทีหลังยังไงล่ะ? เรามาคุยเรื่องของลูกกับน้องสาวก่อนเถอะ” “พี่ ถ้าฉันทำอะไรผิดพลาดไป อย่าเอาไปใส่ใจเลยนะ ฉันขอโทษ” หลิง ลั่วอิน พูดด้วยถ้อยคำจริงใจหลิง อี้หราน รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นฝ่ายที่ต้องตั้งรับยิ่งหลิง ลั่วอิน พูดแบบนี้ยิ่งก่อให้เกิดแต่ปัญหาแน่นอนว่าสิ่งที่หลิง กว๋อจื้อ พูดต่อทำให้หลิง อี้หราน เข้าใจว่าหลิง ลั่วอิน ต้องการจะสื่ออะไร“เอาล่ะ เธอทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ลูกไม่ควรทำร้ายกันเพราะผู้ชายคนเดียว” หลิง กว๋อจื้อ พูดกับลูกสาวคนโต “กู้ ลี่เฉินเป็นแฟนของน้องสาวนะอี้หราน เธอไม่ควรเข้าไปยุ่งกับความสัมพันธ์ของพวกเขา แล้วเธอก
“แกเอาแต่พูดถึงแม่! แกไม่อยากเห็นอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับน้องสาวแกบ้างเลยหรือไง ช่างเป็นลูกที่ดีของแม่เสียจริง!” หลิง กว๋อจื้อ พูดด้วยความโกรธ เขาตรงเข้าในห้องแล้วหยิบอัลบั้มรูปออกมาหลิง อี้หราน ตัวสั่น อัลบั้มรูปนั่น… เป็นของแม่เธอ ในนั่นมีรูปของเธอกับแม่เธอเต็มไปหมด!เธอเห็นหลิง กว๋อจื้อ หยิบไฟแช็กออกมาก่อนจุดไฟเผาอัลบั้ม “เพราะแกไม่อยากเห็นน้องสาวมีความสุข งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้อัลบั้มรูปนี้กับแก แม่ของแกก็คงไม่ต้องการลูกสาวแบบแกเหมือนกัน!”อัลบั้มที่ถูกเผาไหม้โดนหลิง กว๋อจื้อ โยนลงบนพื้นหลิง อี้หราน เกือบจะกรีดร้องออกมา เธอดึงแขนเสื้อปิดมือของเธอเพื่อใช้มันตีเพื่อดับเปลวเพลิงเท่าที่ทำได้อย่าไหม้นะ! ไม่นะ!รูปถ่ายข้างในทั้งหมดเป็นความทรงจำของเธอกับแม่! มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!หลิง อี้หราน ไม่รู้ว่าตัวเองกรีดร้องมานานแค่ไหน เธอเอาแต่ดับเปลวไฟด้วยมือของเธอแม้ว่ามันจะเผาไหม้มือเธอก็ตามตอนนี้เธอกลายเป็นเหมือนคนบ้า!สายตาน่ากลัวของเธอมองไปที่พวกเขาในที่สุด เปลวไฟก็ดับลง หลิง อี้หราน มองไปอัลบั้มที่ถูกเผาและตระหนักได้ว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาเธอเดินโซซัดโซเซถืออัลบั้มร
เธอจะดีใจมากถ้าหลิง อี้หราน ถูกไฟเผาจนเสียโฉมไปหมด อย่างน้อยลี่เฉินก็คงไม่สนใจเธออีกต่อไปน่าเสียดายเสียจริง!...หลิง อี้หราน ไม่รู้ว่าเธอเดินมาถึงชั้นล่างได้ยังไง เธอรู้สึกราวกับจะหมดแรงในทุกอย่างก้าวเธอกอดอัลบั้มรูปไว้ในอ้อมแขนที่สั่นเทาเพราะยังคงรู้สึกตกใจอยู่เธอไม่กล้าแม้แต่จะเปิดอัลบั้มรูปเพื่อดูความเสียหายนี่คือความทรงจำของเธอทั้งหมด—ความทรงจำของแม่!เมื่อเธอเดินไปเรื่อย ๆ ก็สะดุดกับทางเข้า ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งคว้าตัวเธอเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นกับพี่?” เสียงกังวลเกิดขึ้นในหัวของเธอ ความกังวลที่ไม่สามารถปกปิดได้เธอรู้สึกราวกับตัวเองกำลังโดนเงาปกคลุมอยู่ แขนคู่หนึ่งขยับอย่างรวดเร็วเพื่อประครองร่างกายของเธอไว้ใครกัน? ใครที่กำลังประคองเธอไว้?หลิง อี้หราน เงยหน้าขึ้นแล้วสบเข้ากับดวงตาสวยคู่หนึ่ง ดวงตาที่มีเสน่ห์เหมือนดอกบ๊วย สวยงานจนน่ากลัว นัยต์ตาสีดำแต่สว่างสดใสที่เหมือนกับหินแก้ว ดูลึกลับมากจนเธอไม่สามารถมองทะลุผ่านไปได้“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ครับ?” เขาขมวดคิ้วมองดูร่องรอยน้ำตาที่เหลืออยู่บนใบหน้าของเธอ เขารู้สึกถึงหัวใจที่กำลังแตกสลายเธอจ้องมองเขาและยิ้มเศร้า ๆ “จิน
หลิง อี้หราน ยังคงเงียบเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง เมื่อหมอดึงอัลบั้มออกจากมือเธอ เธอกลับกอดมันแน่นขึ้นพร้อมกรีดร้องดัง “ไม่!”“ให้หมอดูมือหน่อยนะ พี่สาว หมอไม่ได้จะเอาอัลบั้มรูปไปไหน” อี้ จิ่นหลี พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่สาว ส่งมันมาให้ผมนะ หมอแค่อยากดูแผลบนมือของพี่เท่านั้นเอง ได้ไหมครับ?”เมื่อได้ยินคำว่า ‘พี่’ เธอก็หันหน้ามามองเขาก่อนพูดพึมพัม “จิน...” “ผมเอง” เขาตอบก่อนถามต่อ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ริมฝีปากของเธอสั่นพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง “ไหม้… อัลบั้มรูปของแม่… ไหม้หมดแล้ว”เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยังดูตกใจ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเธออีกครั้งอี้ จิ่นหลี ตกใจกับอัลบั้มรูปที่ไหม้นี้… นี่เป็นอัลบั้มรูปของเธอกับแม่เหรอ?หลังจากใช้เวลาร่วมกันไม่นาน เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าสำคัญกับเธอขนาดไหนเมื่อหมอสามารถตรวจดูแผลบนมือของหลิง อี้หราน เขาก็เริ่มทำการรักษาพร้อมกับพันผ้าบนแผลให้เธอหลังมือของเธอยังคงช้ำจากบาดแผลครั้งที่แล้ว แถมยังมีแผลใหม่เพิ่มมาทำให้เขาต้องพันผ้าบนมือของเธอทั้งสองข้างเธอยังคงเงียบอยู่ราวกับว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร หลายคนเริ่มรู้สึกกส
จมูกของเธอเริ่มจะเจ็บ และน้ำตาที่หยุดไหลเมื่อครู่ก็กำลังไหลย้อนกลับมา “ถ้าพี่ต้องการที่จะร้องไห้ ก็แค่ร้องออกมาเลย พี่สาว” เขาใช้ปลายนิ้วมือของเขา ปัดไปที่ดวงตาของเธอ คำว่า ‘พี่สาว’ เหมือนกับเป็นกุญแจที่ปลดปล่อยความเจ็บปวดและความเสียใจทั้งหมดที่อัดอั้นและขังอยู่ภายในใจของเธอ เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่ท่วมท้นของเธอได้ ในตอนนี้ หลิง อี้หราน ส่งเสียงโอดครวญออกมาอย่างเต็มที่และในที่สุดน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอไม่ได้ร้องไห้อย่างขมขื่นแบบนี้มานานแล้ว เธอคิดมาตลอดว่า ไม่ว่าเธอจะร้องไห้ดังแค่ไหน หรือน้ำตาจะไหลออกมามากแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเธอไม่มีอะไรที่จะพึ่งพาได้ นอกจากตัวเธอเอง น้ำตาเหล่านั้นมันก็เป็นแค่เพียงสิ่งที่ไร้ค่า และในตอนนี้ การที่เขาเรียกเธอว่า ‘พี่สาว’ มันทำให้เธอนึกถึงแม่และน้องชายในท้องของแม่เธอ ที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่ไม่มีโอกาส ได้ออกมาเรียกเธอว่า ‘พี่สาว’ ถ้าแม่และน้องชายของเธอไม่เสียชีวิต เธอจะเหงาน้อยลงกว่านี้ไหม? เธอจะได้มีโอกาสที่จะมีครอบครัวที่แท้จริงไหม? เสียงร้องไห้ของ หลิง อี้หราน ทำให้ อี้ จิ่นหลี แปลกใจ ถ้าเขารู้สึกไม่สบายในการที่เธอกัดริ
ชิน เหลียนอี ตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเสียงผู้ชายจากปลายสาย นอกจากนี้ยังฟังดูเหมือน ... "คุณคือ… อี้ จิ่นหลี หรือเปล่า?" เธอถามด้วยความประหลาดใจ"ใช่" เขาตอบและวางสายชิน เหลียนอี จ้องไปที่โทรศัพท์ในมือของเธอ ถ้าอี้หรานหลับไปและอี้ จิ่นหลี เป็นคนรับโทรศัพท์ของเธอ… นั่นหมายความว่าตอนนี้ อี้ จิ่นหลี้ อยู่กับเพื่อนสนิทของเธออย่างนั้นเหรอ?อีกทั่ง, อี้หราน ไม่ได้อยู่ในห้องเช่าของเธอ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ชิน เลียนอี มองจากโทรศัพท์ของเธอไปหยั่งประตูห้องเช่าที่ปิดอยู่ เป็นไปได้ไหมว่า... ตอนนี้ อี้หร่าน จะพักอยู่กับอี้ จิ่นหลีชีวิตช่างน่าอัศจรรย์โดยแท้ใช่ไหมล่ะ?ในขณะเดียวกัน อี้ จิ่นหลี้ ก็วางโทรศัพท์ของหลิง อี้หราน ลงและเขาได้อุ้มเธอที่ยังหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขาขึ้นและออกจากรถอย่างระมัดระวังเขาถอดเสื้อคลุมออกและคลุมร่างของเธอห่วงว่าเธอจะเป็นหวัดขณะที่เขาเดินเข้าไปข้างใน เหล่าคนรับใช้ก็ไม่สามารถเก็บอาการของความแปลกใจไว้ได้ เมื่อพวกเขาได้เห็นกับตา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสงสัยว่า คุณหลิงนั้นอาจจะเป็นแขกคนพิเศษที่จะได้ย้ายเข้ามาอยู่คฤหาสน์ อี้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นนายน้อยอี้แสดงออกกับ