แชร์

พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก
พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก
ผู้แต่ง: กวักทรัพย์เข้ากรุสมบัติ

บทที่ 1

ผู้แต่ง: กวักทรัพย์เข้ากรุสมบัติ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ซ่งหยุนหยุนแต่งงาน แต่เจ้าบ่าวกลับไม่เคยออกมาปรากฏตัวเลย

สีแดงของผ้าปูที่นอนและอักษรมงคลที่อยู่บนผนังนั้นเตะตา ราวกับฟาดเข้าที่ใบหน้าของเธอ

อับอาย! ไม่ยอม!?

แล้วอย่างไรล่ะ?

ตั้งแต่เกิดมา ชีวิตของเธอก็ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนอื่น รวมไปถึงเรื่องการแต่งงานด้วย

เพียงเพราะความโลภของพ่อ จึงทำให้เธอต้องแต่งงานกับตระกูลเจียง

ปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของผู้เฒ่าเจียง แต่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เขาเสียชีวิตขณะพยายามช่วยผู้เฒ่าเจียง

ธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ ที่ต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนโตและเผชิญหน้ากับภาวะล้มละลายนั้น พ่อที่ฉลาดหลักแหลมจึงรู้ดีว่า ถ้าเขาเอ่ยปากขอเงินจากตระกูลเจียง บุญคุณนี้ก็จะสิ้นสุดลงทันที ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีทำร้ายคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง โดยการขอให้เจียงเหยาจิง ซึ่งเป็นหลานชายของผู้เฒ่าเจียงแต่งงานกับเธอ

ด้วยฐานะร่ำรวยของตระกูลเจียง สามารถมอบสินสอดก้อนโตให้เขาได้อย่างแน่นอน

อีกทั้งยังได้ปรองดองกับตระกูลเจียงอีกด้วย

ตระกูลเจียงเองก็ไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวเสียหน้า

เจียงเหยาจิงไม่พอใจกับการแต่งงานครั้งนี้มาก เขาจึงไม่ไปเข้าร่วมพิธีงานแต่งที่มีแค่สองตระกูล และห้ามไม่ให้เธอแสดงตัวเป็นภรรยาของเขาต่อหน้าสาธารณชน

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่มีใครถามเธอสักคำว่าเธอต้องการหรือไม่

เธอลืมตาขึ้นด้วยแววตาใส ขนตาโค้งงอนสั่นเบา ๆ ซ่อนความดื้อรั้นไว้เล็กน้อย

ในเมื่อเธอก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในค่ำคืนแรกของการแต่งงานอย่างไร ขณะเดียวกันก็ได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมงาน

ช่วยเปลี่ยนกะกับฉันหน่อยสิ

เธอเรียกรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล

ชุดแต่งงานสีแดงเปลี่ยนเป็นเสื้อกาวน์สีขาว

จู่ ๆ ประตูห้องเวรก็ถูกเปิดออกอย่างแรง

ขณะที่เธอกำลังจะเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรตกลงบนพื้น และไฟในห้องก็ดับทันที

ซ่งหยุนหยุนตกใจมากจนขนลุก

“ใคร...”

ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ร่างเล็กก็ถูกผลักลงบนโต๊ะ ของบนโต๊ะร่วงกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด มีดแหลมกดลงที่ลำคอของเธอ พร้อมเสียงขู่ “หุบปาก!”

แสงไฟสลัวทำให้เธอมองเห็นได้เพียงใบหน้าที่เปื้อนเลือด และสายตาที่ดุดันของชายคนนั้น

กลิ่นเลือดฉุนโชยเข้าจมูก เธอจึงรู้ว่าชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บ

อาจเป็นความเคยชินทางสายอาชีพ จึงทำให้เธอมีนิสัยใจเย็น แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมแบบนี้

เธอค่อย ๆ งอขาและพยายามจะโจมตีจุดอ่อนของชายคนนั้น แต่ทันทีที่เธอขยับ เขาก็สังเกตเห็นซะก่อน มือหนาพลันจับขาที่แกว่งไปมาของเธออย่างแรง

“ฉันเห็นเต็มตาว่าเขามาทางนี้”

เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ประตู

ฟังจากเสียงแล้วเดาได้ว่าพวกเขากำลังจะเปิดประตูเข้ามา

ไม่มีทางเลือก ชายคนนั้นพลันก้มศีรษะจูบริมฝีปากของเธอทันที

ซ่งหยุนหยุนขัดขืน และผลักชายคนนั้นออกไปได้อย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ทำร้ายเธอด้วยของมีคมที่อยู่ในมือ

เธอตกตะลึงครู่หนึ่ง

คลิก!

มือจับประตูบิดออก

ซ่งหยุนหยุนเปลี่ยนใจ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วจูบริมฝีปากของเขาพลางเอื้อมมือไปโอบรอบคอของชายคนนั้นไว้

น้ำเสียงของเธอสั่นเทา แต่เธอกลับนิ่งเพื่อกลบเกลื่อนแล้วพูดว่า “ฉันช่วยคุณได้นะ”

ลูกกระเดือกของชายคนนั้นกลิ้งขึ้นลง พลันเปลี่ยนจากจังหวะเชื่องช้าเป็นเร็วขึ้น ลมหายใจร้อนผ่าวของเขากระทบลงบนใบหูของเธอ พลางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและเย้ายวน “ผมจะรับผิดชอบคุณแน่นอน”

ไม่ เขาเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่แกล้งแสดงเท่านั้น

ทันทีที่ประตูถูกผลักออก

เธอผ่อนลมหายใจยาวเลียนแบบในทีวี เสียงหอบแหบทำให้ชายคนนั้นเคลิบเคลิ้มและหลงใหล

ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้คนที่อยู่หน้าประตูรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยิน

“ให้ตายเถอะ พลอดรักกันในโรงพยาบาลเหรอ? น่าตื่นเต้นดีจัง”

ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก แสงจากทางเดินก็เล็ดลอดเข้ามา และส่องไปยังร่างของซ่งหยุนหยุน ร่างกำยำทับร่างของเธอไว้เพื่อซ่อนให้พ้นจากสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนที่อยู่หน้าประตู ภายใต้แสงไฟสลัวจึงมองเห็นได้เพียงเงาร่างที่กำลังนัวเนียกันเท่านั้น

“ไม่ใช่เจียงเหยาจิงแน่นอน เขาได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก”

“ผู้หญิงคนนี้ครวญครางได้เซ็กซี่มาก”

“โธ่เอ้ย รีบไปหาเขากันเถอะ ไม่งั้นพวกเราจะตายกันหมดนะ!”

เสียงกรอบแกรบของฝีเท้าค่อย ๆ ห่างออกไป

ชายคนนั้นรู้ว่าพวกเขาไปแล้ว แต่ตนกลับพบว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ หญิงแปลกหน้าคนนี้กระตุ้นความปรารถนาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อาจเป็นเพราะบรรยากาศพาไป หรือบางทีอาจเป็นเพราะท่าทางระหว่างทั้งสองคลุมเครือเกินไป ความดื้อรั้นที่ซ่งหยุนหยุนไม่เคยกล้าแสดงออกก็ระเบิดออกมาในทันที

การถูกบงการชีวิต ทำให้ชีวิตของเธอมืดมน

เธอต่อต้านด้วยการตามใจตัวเอง!

ซ่งหยุนหยุนเองก็ไม่ได้ขัดขืนมากนัก กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้มันเป็นไป

หลังจากนั้นชายคนนั้นก็หอมแก้มเธอเบา ๆ เสียงทุ้มของเขาเต็มไปด้วยเสียงแหบอย่างพึงพอใจ

“ผมจะกลับมาหาคุณ” พูดจบเขาก็รีบหนีออกไป

เอวของซ่งหยุนหยุนถูกกดลงกับขอบโต๊ะเป็นเวลานานจึงทำให้เธอเจ็บ

จู่ ๆ โทรศัพท์ที่ถูกผลักไปขอบโต๊ะจนแทบจะหล่นลงมาก็มีเสียงดังขึ้น

ทันทีที่เธอยื่นมือออกไปคว้ามารับสาย ก็พลันมีเสียงลุกลนดังมาจากปลายสาย “หมอซ่ง มีคนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้อยู่ที่ห้องฉุกเฉิน อาการบาดเจ็บสาหัสมาก และต้องการความช่วยเหลือด่วน หมอรีบมาที่นี่ด่วนเลยค่ะ”

ซ่งหยุนหยุน ปรับน้ำเสียงก่อนตอบอย่างใจเย็น “โอเค ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางสาย เธอเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อกี้…

เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ และความรู้สึกไม่สบายตัวต่างบอกเธอว่าเมื่อกี้มันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเกิดขึ้นจริง

เธออยู่กับชายแปลกหน้าในคืนวันแต่งงานของเธอ…

นี่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดที่เธอเคยทำมาในชีวิต!

ค่ำคืนที่วุ่นวาย

กลับมาถึงห้องเวร สภาพห้องยังคงรกอยู่

ดูเหมือนว่าเธอยังนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวาน มือทั้งสองข้างกำหมัดเล็กน้อย

“หมอซ่ง ขอบคุณนะที่มาทำหน้าที่แทนฉัน” เฉินเหวินเหยียนเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

ซ่งหยุนหยุนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่เต็มใจ “อืม ไม่เป็นไร”

“งานของฉันเสร็จแล้ว เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ” เฉินเหวินเหยียนยกคิ้วขึ้นทันทีที่เห็นสภาพในห้องเละเทะ “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?”

ซ่งหยุนหยุน หันหน้าหนีเพื่อซ่อนความตื่นตระหนกข้างในดวงตา “ฉันซุ่มซ่ามเอง ไหน ๆ เธอก็มาแล้ว งั้นฉันขอกลับก่อนก็แล้วกัน”

เฉินเหวินเหยียนรู้สึกได้ว่าเธอทำตัวแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ จึงเข้าไปในห้องและเก็บกวาดของที่อยู่บนพื้น

จู่ ๆ ผู้อำนวยการก็ปรากฏตัวอยู่ที่ประตู พร้อมกับฮั่วซุนผู้ช่วยของเจียงเหยาจิง

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
บุญช่วย ทองใบสี
อ่านแล้วเพล้นดีสนุกมากเลยค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 2

    ผู้อำนวยการกล่าว “เธอคือเฉินเหวินเหยียน แพทย์ประจำการเมื่อคืนนี้ครับ” ฮั่วซุนเดินเข้าไปดูตารางงานของเฉินเหวินเหยียนแล้วพูดว่า “ตามผมมา” เฉินเหวินเหยียนสับสนเล็กน้อย “ไปไหนคะ...” “ตามไปเถอะ” ผู้อำนวยการไม่รีรอให้เธอถามต่อ พลันดึงเธอแล้วพูดว่า “อย่าปล่อยให้คุณเจียงรอนาน” ไม่นานเธอก็ถูกพาตัวไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ เจียงเหยาจิงทิ้งตัวลงบนโซฟา ร่างสูงเพรียวสง่า หากไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็นริมฝีปากซีดของเขา ไอของน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลปกปิดรอยเลือดบนร่างกายของเขา เขาสวมชุดสูทสีดำสนิท ใบหน้าดุดันเปล่งประกายรังสีอำมหิต แค่มองหน้าของเขาก็น่ากลัว! ผู้ช่วยเดินไปข้างหลังเจียงเหยาจิงแล้วโน้มตัวกระซิบ “มีคนจงใจทำลายเทปบันทึกกล้องวงจรปิดของเมื่อคืนนี้ทั้งหมดครับ น่าจะป็นคนที่ไล่ล่าคุณ คงกลัวว่าจะทิ้งหลักฐานไว้ ส่วนผู้หญิงคนนี้คือแพทย์ประจำเวรเมื่อคืนครับ เธอชื่อเฉินเหวินเหยียน ผู้อำนวยการยืนยันว่าเธอเป็นคนเข้าเวร ผมเองก็เพิ่งไปตรวจสอบในเครื่องบันทึกเวลาทำงาน เธอเป็นคนที่เข้าเวรเมื่อคืนจริง ๆ ครับ” เจียงเหยาจิงเงยหน้ามอง เฉินเหวินเหยียนสูดลมหายใจ คน ๆ นี้คือเจ้าของเทียนจูกรุ๊

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 3

    คนที่โทรมาคือพี่ชายคนสนิท ทั้งสองจบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์แห่งเดียวกัน แต่เขาจบก่อนเธอสองปี เขาเคยไปเรียนที่ต่างประเทศ และตอนนี้ก็มีชื่อเสียงมากในจีน เขาดูแลตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด ดังนั้นจึงถือได้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน “ว่าไงคะ” เธอรีบรับสายอย่างรวดเร็ว “พี่มีคนไข้ แต่ตอนนี้พี่ติดธุระด่วนไปไม่ได้ เธอช่วยไปแทนพี่หน่อยสิ” ซ่งหยุนหยุนเหลือบดูนาฬิกา วันนี้เธอไม่มีเคสรักษาคนไข้นอก ช่วงบ่ายมีผ่าตัดสองเคส ดังนั้นเธอจึงว่างในช่วงเช้า “โอเคค่ะ” “ที่อยู่คือ สวนกุหลาบ เฟสเอ ห้องสามศูนย์หก เธอแค่บอกเขาว่ามาหาคุณฮั่ว คนเฝ้าประตูจะแจ้งเอง” “อืม” “อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ และอย่าถามคำถามอะไรมาก เธอแค่รักษาเขาก็พอ” ฝั่งนู้นกำชับมา “เข้าใจแล้วค่ะ” ซ่งหยุนหยุนรับปาก หลังจากวางสายโทรศัพท์ เธอก็นั่งแท็กซี่ไปยังสถานที่แห่งนั้น ที่แห่งนี้คือเขตพื้นที่ระดับไฮเอนด์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับสูง คนเฝ้าประตูกันเธอไว้ เธอจึงบอกว่ามาหาคุณฮั่ว คนเฝ้าประตูจึงโทรไปยืนยันก่อนที่จะให้เธอเข้าไป เธอกดกริ่งที่ห้องสามศูนย์หก ประตูเปิดอย่างรวดเร็ว ฮั่วซุนขมวดคิ้ว

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 4

    เธอหลับตาลงแล้วเดินไปเก็บชุดปฐมพยาบาล โดยไม่ลืมว่าตัวเองอยู่ในฐานะหมอ เธอพูดกำชับว่า “ระวังอย่างให้แผลโดนน้ำ ฆ่าเชื้อวันละครั้ง และพยายามสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ เพื่อไม่ให้เสียดสีบาดแผลนะคะ” เธอวางยาลงแล้วพูดว่า “อันนี้สำหรับรับทาน ส่วนอันนี้สำหรับใช้ภายนอกค่ะ” เจียงเหยาจิงส่งเสียงตอบรับเบา ๆ โดยไม่หันกลับมามอง ซ่งหยุนหยุนไม่พูดอะไรต่อ เธอแค่หยิบชุดปฐมพยาบาลแล้วเดินออกไป เธอนั่งแท็กซี่กลับถึงโรงพยาบาลเกือบสิบเอ็ดโมง จากนั้นก็เดินไปหาของกินที่โรงอาหารของโรงพยาบาล ทันทีที่กลับถึงแผนก ผู้อำนวยการก็เรียกเธอไปพบที่ห้องทำงานของเขา “ผมจะให้เฉินเหวินเหยียนไปเรียนรู้ที่โรงพยาบาลกลางทหารผ่านศึกเขตสอง” ผู้อำนวยการพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับว่ามีบางอย่างปิดบังอยู่ ซ่งหยุนหยุนตกตะลึงและถามด้วยน้ำเสียงทะเยอทะยาน “คุณบอกว่าจะให้ฉันไปไม่ใช่เหรอคะ?” “คุณก็รู้ว่าอุปกรณ์การแพทย์เทคโนโลยีชั้นสูงในโรงพยาบาลของเราได้รับการบริจาคจากเทียนจูกรุ๊ป เจียงเหยาจิงสั่งให้ผมดูแลคุณหมอเฉิน ผมเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำ” ซ่งหยุนหยุนอดรู้สึกประหม่าไม่ได้เมื่อได้ยินชื่อเจียงเหยาจิง แม้เธอจะเป็นภรรยาขอ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 5

    เสิ่นจือเฉียนติดรถของเจียงเหยาจิงมาที่นี่เพื่อมาหาซ่งหยุนหยุน เมื่อเห็นเฉินเหวินเหยียนเดินเข้ามา เขาก็เปิดประตูและลงจากรถ “ผมไปก่อนนะครับ” หลังจากที่เขาไป เฉินเหวินเหยียนก็เข้าไปนั่งตรงข้ามกับเจียงเหยาจิง เธอรู้สึกกระสับกระส่ายใจเล็กน้อยเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าเจียงเหยาจิงอาจจะจำคนผิด แต่เธอรู้ดีว่าเขาจะนำผลประโยชน์มาให้ จู่ ๆ ผู้อำนวยการก็สั่งให้เธอไปฝึกงานที่โรงพยาบาลกลางเขตสอง ทั้ง ๆ ที่เขาชื่นชมซ่งหยุนหยุนมาโดยตลอด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจียงเหยาจิง เธอตัดสินใจจับผู้ชายคนนี้ เรื่องดี ๆ แบบนี้ โอกาสแบบนี้ ไม่ได้เจอบ่อย ๆ เธอต้องคว้ามันไว้แน่นอน “ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นขณะพูด เจียงเหยาจิงไม่คิดว่าเธอจะตัดสินใจเร็วขนาดนี้ เขาทำตัวดูเหมือนสบาย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเขาเองก็อยากรู้คำตอบของเธอเหมือนกัน “ฉันไม่อยากได้อะไรค่ะ” การที่คนเราจะตกลงปลงใจแต่งงานกันจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก่อน ทันทีที่เธอเอ่ยปากว่าเธอยอมตกลงแต่งงาน หรือต้องการผลประโยชน์ใด ๆ จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเธอมีนิสัยโลภมาก เธอจึงใช้วิธีถอยก้าวเพื่อก้าวหน้า “แค่เป็นเพื่อนกับคุณก็พอแล้วค่ะ”

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 6

    เจียงเหยาจิงเงยหน้าแล้วยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาตอบด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม “หืม?” เสิ่นจือเฉียนกัดฟันแล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ เพื่อความสุขของคุณ ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน” เจียงเหยาจิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ออกรถ” ฮั่วซุนสตาร์ทรถแล้วขับออกไป เสิ่นจือเฉียนรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรบางอย่างให้ซ่งหยุนหยุน ขณะที่เขากำลังหันหลังจะกลับไป เขาเห็นเธอเดินออกมาพอดี “หยุนหยุน” เสิ่นจือเฉียนก้าวไปหาเธอ “ฉันต้องกลับแล้ว” เธอยิ้มให้เสิ่นจือเฉียน เสิ่นจือเฉียนเห็นเธอแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ “คือว่าหยุนหยุน เรื่องที่ต้องหาหัวใจที่เหมาะสมให้แม่ของเธอ พี่จะพยายามเพื่อช่วยหาเต็มที่นะ” เมื่อคิดถึงแม่ เธอก็รู้สึกบีบหัวใจและพยายามซ่อนความรู้สึกไว้ แต่น้ำเสียงไม่สามารถปกปิดได้ เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “จริงเหรอคะ?” หัวใจเป็นอวัยวะที่รอนานมาก ไม่เหมือนอวัยวะส่วนอื่น บางคนรอไม่ไหวจนต้องตายเสียก่อน “พี่เสิ่น ขอบคุณมากนะคะ” เธอไม่รู้จะแสดงความขอบคุณอย่างไร สายตาของเขาอบอุ่นเล็กน้อย “ไม่เป็นไรหรอก” เสิ่นจือเฉียนรู้สึกสงสารเธอมาก ถ้าเบื้องหลังไม่ใช่เจียงเหยาจิง เธอก็คงเข้าใกล้คว

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 7

    “คุณซ่ง?” ผมเป็นผู้ช่วยของคุณเจียง คุณเจียงสั่งให้ผมมารับคุณครับ” ซ่งหยุนหยุนชะงักครู่หนึ่งเมื่อเห็นฮั่วซุน พลันหลบสายตาอย่างรวดเร็ว เพื่อปกปิดไม่ให้เขารู้ว่าเธอจำหน้าเขาได้ ผู้ชายคนนี้เป็นคนเปิดประตูให้เมื่อครั้งล่าสุดที่เธอเคยไปรักษาผู้ป่วยแทนเสิ่นจือเฉียน หรือเขาเป็นผู้ช่วยของเจียงเหยาจิง? เจียงเหยาจิงคือคนที่ได้รับบาดเจ็บเหรอ? “เชิญครับคุณซ่ง” เมื่อเห็นว่าเธอยืนนิ่ง ฮั่วซุนจึงพูดย้ำอีกครั้ง ซ่งหยุนหยุนรวบรวมความสติแล้วพูดว่า “ฉันต้องไปทำงานค่ะ” เธอปฎิเสธอย่างหนักแน่น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้น “คุณซ่งคิดให้ดี ๆ นะครับ สถานะของคุณตอนนี้มันทำให้คุณเจียงไม่พอใจ คุณอาจจะตกงาน หรือเสียวิชาชีพแพทย์ไปเลยก็ได้นะครับ” นี่เป็นการข่มขู่ชัด ๆ ซ่งหยุนหยุนกำหมัดแน่น พ่อของเธอให้แค่ค่าผ่าตัด ส่วนค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอล้วนมาจากเงินเดือนของเธอทั้งหมด เธอจะตกงาน หรือเลิกทำอาชีพหมอไม่ได้เด็ดขาด ทางเดียวคือเธอต้องไปกับฮั่วซุนเท่านั้น! “งั้นคุณรอสักครู่ ฉันจะโทรไปขอลางานที่โรงพยาบาลก่อน” เธอขึ้นไปคุยโทรศัพท์ชั้นบน และหยิบมีดผ่าตัดในลิ้นชักใส่ไว้ในกระเป๋าเพื่อเอาไว้ป

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 8

    เขาคิดจะปล่อยให้ฉันอยู่กับผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ? แล้วเขาออกมาทำไม? จะมาเยาะเย้ยฉันเหรอ? หึหึ! “เจียงเหยาจิง?” เธอชี้นิ้วไปยังชายที่มีท่าทางอำมหิต หรือเป็นเพราะดื่มแอลกอฮอล์จึงทำให้เธอกล้าขึ้น ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำว่าความกลัวคืออะไร “คุณ คุณมันก็แค่ไอ้สารเลว!” สีหน้าของเจียงเหยาจิงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม! ฮั่วซุนและป้าหวู่ต่างก้มหน้าลงแทบไม่กล้าหายใจ เธอเดินเซไปมา คว้าเนคไทของเจียงเหยาจิงแล้วดึงเข้าหาตัว “คุณคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับคุณนักเหรอ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นเทวดาหรือไง?” กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ติดมาจากคลับทำให้เจียงเหยาจิงขมวดคิ้วตลอดเวลา และดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะซ่อนความโกรธเอาไว้ เขารีบคว้าข้อมือของเธอแล้วพูดว่า “ผมว่าคุณบ้าไปแล้ว” เธอกล้าไปกับผู้ชายทุกคน? เขาต้องการให้ผู้หญิงคนนี้ถอนตัวเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์แย่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอดื้อรั้นเหมือนลา และไม่ยอมปล่อยมือ ตอนที่ซ่งหยุนหยุนตามกู่ฮ่วยไป เขาเองก็เสียใจ อย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็เป็นภรรยาของเขา ถึงจะแค่ในนามก็เถอะ ถ้าเธอมีมลทิน เขาก็ไม่พอใจ “คุณนั่นแหละที่บ้า” มือทั้งสองข้างของซ่งหยุนหยุนกระสับกระส่ายตบตีเ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 9

    “ไม่พบ” เจียงเหยาจิงเปิดประตูห้องทำงานแล้วพูดว่า “ขอกาแฟให้ผมสักแก้วสิ” พูดจบเขาก็เดินไปที่โต๊ะ “คุณกู่บอกว่าถ้าคุณไม่ไปพบเขาวันนี้ เขาจะไม่ยอมกลับนะคะ” เจียงเหยาจิงหันไปมองเลขา เลขาพลันก้มหน้าลงทันที “งั้นก็ไปพามาเถอะ” เขานั่งลงแล้วยื่นมือไปปลดกระดุมสูท ไม่นานเลขาก็เข้ามาพร้อมกาแฟในมือและกู่ฮ่วย กู่ฮ่วยเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณไปหาผู้หญิงคนนั้นมาจากที่ไหน?” เจียงเหยาจิงหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาแล้วสั่งให้เลขาออกไปข้างนอก หลังจากพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองกู่ฮ่วย “คุณดูที่เธอทิ้งรอยเอาไว้ให้ผมสิ?” กู่ฮ่วยชี้ไปที่คอของเขา บนคอมีรอยแผลที่เห็นได้ชัด อีกทั้งข้อมือของเขาก็พันผ้ากอซด้วย “อีกนิดเดียวเอ็นขาด” สายตาของเจียงเหยาจิงมองข้ามอาการบาดเจ็บของกู่ฮ่วย ในใจเขากลับรู้สึกมีความสุข เขาแกล้งถามว่า “ไปทำเอาท่าไหนล่ะครับ?” กู่ฮ่วยยังคงหวาดผวา “ผู้หญิงคนนั้นพกมีดมาด้วย? ฝีมือของเธอน่าทึ่งมาก ผมไปโรงพยาบาลแล้วหมอบอกว่าอีกนิดเดียวจะโดนเส้นเลือดใหญ่ ไม่ทันได้เสวยสุข แต่ผมดันเกือบตายซะงั้น ผมก็เลยอยากถามคุณว่า คุณไปเจอผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง?” เจียงเหยาจิงอารมณ์ดีเมื่อได้ยินว่าเขา

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 270

    เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 269

    ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 268

    เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 267

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 266

    พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 265

    ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 264

    "ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 263

    เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 262

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื

DMCA.com Protection Status