แชร์

บทที่ 5

ผู้แต่ง: กวักทรัพย์เข้ากรุสมบัติ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เสิ่นจือเฉียนติดรถของเจียงเหยาจิงมาที่นี่เพื่อมาหาซ่งหยุนหยุน

เมื่อเห็นเฉินเหวินเหยียนเดินเข้ามา เขาก็เปิดประตูและลงจากรถ “ผมไปก่อนนะครับ”

หลังจากที่เขาไป เฉินเหวินเหยียนก็เข้าไปนั่งตรงข้ามกับเจียงเหยาจิง เธอรู้สึกกระสับกระส่ายใจเล็กน้อยเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าเจียงเหยาจิงอาจจะจำคนผิด

แต่เธอรู้ดีว่าเขาจะนำผลประโยชน์มาให้

จู่ ๆ ผู้อำนวยการก็สั่งให้เธอไปฝึกงานที่โรงพยาบาลกลางเขตสอง ทั้ง ๆ ที่เขาชื่นชมซ่งหยุนหยุนมาโดยตลอด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจียงเหยาจิง

เธอตัดสินใจจับผู้ชายคนนี้

เรื่องดี ๆ แบบนี้ โอกาสแบบนี้ ไม่ได้เจอบ่อย ๆ เธอต้องคว้ามันไว้แน่นอน

“ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นขณะพูด

เจียงเหยาจิงไม่คิดว่าเธอจะตัดสินใจเร็วขนาดนี้ เขาทำตัวดูเหมือนสบาย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเขาเองก็อยากรู้คำตอบของเธอเหมือนกัน

“ฉันไม่อยากได้อะไรค่ะ”

การที่คนเราจะตกลงปลงใจแต่งงานกันจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก่อน

ทันทีที่เธอเอ่ยปากว่าเธอยอมตกลงแต่งงาน หรือต้องการผลประโยชน์ใด ๆ จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเธอมีนิสัยโลภมาก

เธอจึงใช้วิธีถอยก้าวเพื่อก้าวหน้า “แค่เป็นเพื่อนกับคุณก็พอแล้วค่ะ”

เจียงเหยาจิงเม้มริมฝีปากแน่น ยากที่จะเข้าใจอารมณ์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณคิดดีแล้วใช่ไหม?”

เฉินเหวินเยียนพยักหน้า

เมื่อคืนอาจจะป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ

เขาไม่อยากบีบบังคับคนอื่น

“ผมเคารพการตัดสินใจของคุณครับ”

ในโรงพยาบาล

ซ่งหยุนหยุนกำลังอ่านตำราแพทย์อยู่ในห้องโถง หลังจากเลิกงานเธอไม่อยากกลับไปในอาณาเขตของเจียงเหยาจิงเลย เรื่องกลับบ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง

แค่ใช้เวลาเรื่อยเปื่อยอยู่ในโรงพยาบาล แค่ได้อ่านหนังสือ เธอรู้สึกดีแล้ว

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ประตูเปิดออก เสิ่นจือเฉียนเห็นเธอจึงเอ่ยถามว่า “ทำไมเธอถึงมาแอบอยู่ที่นี่ล่ะ?”

“ฉันไม่ได้แอบสักหน่อย”

ซ่งหยุนหยุนปิดหนังสือแล้ววางลงบนโต๊ะก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา “พี่นั่นแหละ ทำไมจู่ ๆ ถึงมาโผล่ที่นี่ได้คะ?”

“เธอช่วยพี่ พี่ก็ต้องขอบคุณเธอสิถึงจะถูก” เขายิ้ม “ไปเถอะ เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงอะไรอร่อย ๆ”

เธอส่ายหน้า “ไม่ดีกว่าค่ะ”

“อ้าว ทำไมล่ะ? มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า?” เสิ่นจือเฉียนสังเกตเห็นว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยดี

ซ่งหยุนหยุนเบือนหน้าหนีแล้วพูดว่า “เปล่านี่คะ”

เห็นได้ชัดว่าเสิ่นจือเฉียนไม่เชื่อ “เธอมีอะไรจะบอกพี่ไหม หรือว่าเธอไม่เชื่อใจฉันแล้ว?”

“ไม่ใช่ค่ะ” เธอรีบปฏิเสธแล้วถอนหายใจ “ฉันกับพี่คงเป็นเพื่อนร่วมงานกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”

“ทำไมล่ะ?” เสิ่นจือเฉียนขมวดคิ้ว ราวกับว่ายังโกรธอยู่เล็กน้อย “ผู้อำนวยการเปลี่ยนใจแล้วเหรอ? เขาให้ใครไปแทน? พี่จะไปหาเขาเดี๋ยวนี้”

ซ่งหยุนหยุนดึงเขาแล้วส่ายหัว

“ความฝันของเธอคือการได้เป็นแพทย์ทหารที่มีชื่อเสียงไม่ใช่เหรอ? ถ้าเธอไม่ได้ไปโรงพยาบาลกลาง แล้วทำตามความฝันได้ยังไง?” เสิ่นจือเฉียนรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวตนของเธอ

ที่เธอขยันเรียน ขยันทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดเป็นเพราะเธออยากทำตามความฝันไม่ใช่เหรอ?

ซ่งหยุนหยุนหลับตาลง ไม่ใช่ว่าเธอจะทิ้งความฝัน แต่เธอไม่มีทางเลือก

นอกจากนี้ เธอไม่อยากทำให้เสิ่นจือเฉียนมีปัญหา

เสิ่นจือเฉียนเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “พี่เข้าใจแล้ว”

ซ่งหยุนหยุนยิ้มให้เขาแล้วพูดว่า “ฉันเลี้ยงข้าวพี่ดีกว่า”

“ไว้คราวหน้าแล้วกัน” ในใจของเสิ่นจือเฉียนเหมือนกระจกที่ใสสะอาด ตกลงกันแล้วว่าเธอจะต้องได้ไป แต่มาวันนี้เธอกลับถูกเอาชื่อออก เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ ๆ ซ่งหยุนหยุนถึงได้พยายามหลีกเลี่ยง และนิ่งเงียบไม่พูดถึง

อย่างไรก็ตาม เขากลับมองข้ามเรื่องนี้ไปไม่ได้

“พี่เพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องที่ต้องทำ พี่ไปก่อนนะ”

พูดจบเขาก็หันหลังแล้วเดินจากไป

โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ

เสิ่นจือเฉียนบุกเข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการ เขามั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความคิดของเขาเอง เขามาจากตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพล

เมื่อผู้อำนวยการที่กำลังติดสายเห็นเสิ่นจือเฉียนพุ่งเข้ามา เขาจึงรีบวางสายตัดบทสนทนาทันที แล้วยืนขึ้นยิ้ม “หมอเสิ่นมาได้ยังไงเหรอครับ?"

“คนที่ถูกเลือกให้ไปโรงพยาบาลกลางคือซ่งหยุนหยุนไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมถึงมีการเปลี่ยนคน? ใครเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้คุณ? ถ้าวันนี้คุณไม่อธิบายให้ชัดเจน อย่ามาโทษว่าผมไม่จบ”

ผู้อำนวยการก็ลำบากใจเช่นกัน

เขาอธิบายว่า “ผมเองก็ไม่มีทางเลือก คุณคิดดู เจียงเหยาจิงสั่งให้ผมดูแลหมอเฉิน แล้วจะให้ผมทำยังไง?”

เมื่อเสิ่นจือเฉียนได้ยินชื่อของเจียงเหยาจิง คิ้วของเขาพลันกระตุก

“ถ้าคุณยังโกรธ คุณก็ไปหาเจียงเหยาจิงสิ” ผู้อำนวยการเจ้าเล่ห์ เนื่องจากทั้งสองเป็นคนที่เขาไม่ควรมีปัญหาด้วย ดังนั้นเขาจึงผลักไสเรื่องนี้ออกไป

เสิ่นจือเฉียนโกรธมาก พลันเดินกลับไปหาเจียงเหยาจิง ทันทีที่เขาออกจากประตูโรงพยาบาล เขาก็บังเอิญเห็นเฉินเหวินเหยียนลงจากรถพอดี

เขารีบเดินเข้าไปหา

เฉินเหวินเหยียนยิ้มและทักทายเขา “รุ่นพี่”

เสิ่นจือเฉียนไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทางอย่างไร

เขามองเข้าไปในรถแล้วส่งเสียงฮึมอย่างสุภาพ

หลังจากที่เฉินเหวินเหยียนเดินจากไป ไม่ว่าเสิ่นจือเฉียนจะคิดอย่างไร เขาก็รู้สึกเสียใจกับซ่งหยุนหยุน แต่คนที่ใช้เส้นสายนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา

เจียงเหยาจิงไม่เคยสนใจผู้หญิงเลย

ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฉินเหวินเหยียนดูเหมือนจะไม่ธรรมดาซะแล้ว

เขาจะทำลายสิ่งดี ๆ ของเพื่อนได้เหรอ?

เป็นเรื่องยากมากที่เจียงเหยาจิงจะมีความรัก

“ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณถึงชอบเฉินเหวินเหยียน?”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 6

    เจียงเหยาจิงเงยหน้าแล้วยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาตอบด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม “หืม?” เสิ่นจือเฉียนกัดฟันแล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ เพื่อความสุขของคุณ ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน” เจียงเหยาจิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ออกรถ” ฮั่วซุนสตาร์ทรถแล้วขับออกไป เสิ่นจือเฉียนรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรบางอย่างให้ซ่งหยุนหยุน ขณะที่เขากำลังหันหลังจะกลับไป เขาเห็นเธอเดินออกมาพอดี “หยุนหยุน” เสิ่นจือเฉียนก้าวไปหาเธอ “ฉันต้องกลับแล้ว” เธอยิ้มให้เสิ่นจือเฉียน เสิ่นจือเฉียนเห็นเธอแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ “คือว่าหยุนหยุน เรื่องที่ต้องหาหัวใจที่เหมาะสมให้แม่ของเธอ พี่จะพยายามเพื่อช่วยหาเต็มที่นะ” เมื่อคิดถึงแม่ เธอก็รู้สึกบีบหัวใจและพยายามซ่อนความรู้สึกไว้ แต่น้ำเสียงไม่สามารถปกปิดได้ เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “จริงเหรอคะ?” หัวใจเป็นอวัยวะที่รอนานมาก ไม่เหมือนอวัยวะส่วนอื่น บางคนรอไม่ไหวจนต้องตายเสียก่อน “พี่เสิ่น ขอบคุณมากนะคะ” เธอไม่รู้จะแสดงความขอบคุณอย่างไร สายตาของเขาอบอุ่นเล็กน้อย “ไม่เป็นไรหรอก” เสิ่นจือเฉียนรู้สึกสงสารเธอมาก ถ้าเบื้องหลังไม่ใช่เจียงเหยาจิง เธอก็คงเข้าใกล้คว

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 7

    “คุณซ่ง?” ผมเป็นผู้ช่วยของคุณเจียง คุณเจียงสั่งให้ผมมารับคุณครับ” ซ่งหยุนหยุนชะงักครู่หนึ่งเมื่อเห็นฮั่วซุน พลันหลบสายตาอย่างรวดเร็ว เพื่อปกปิดไม่ให้เขารู้ว่าเธอจำหน้าเขาได้ ผู้ชายคนนี้เป็นคนเปิดประตูให้เมื่อครั้งล่าสุดที่เธอเคยไปรักษาผู้ป่วยแทนเสิ่นจือเฉียน หรือเขาเป็นผู้ช่วยของเจียงเหยาจิง? เจียงเหยาจิงคือคนที่ได้รับบาดเจ็บเหรอ? “เชิญครับคุณซ่ง” เมื่อเห็นว่าเธอยืนนิ่ง ฮั่วซุนจึงพูดย้ำอีกครั้ง ซ่งหยุนหยุนรวบรวมความสติแล้วพูดว่า “ฉันต้องไปทำงานค่ะ” เธอปฎิเสธอย่างหนักแน่น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้น “คุณซ่งคิดให้ดี ๆ นะครับ สถานะของคุณตอนนี้มันทำให้คุณเจียงไม่พอใจ คุณอาจจะตกงาน หรือเสียวิชาชีพแพทย์ไปเลยก็ได้นะครับ” นี่เป็นการข่มขู่ชัด ๆ ซ่งหยุนหยุนกำหมัดแน่น พ่อของเธอให้แค่ค่าผ่าตัด ส่วนค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอล้วนมาจากเงินเดือนของเธอทั้งหมด เธอจะตกงาน หรือเลิกทำอาชีพหมอไม่ได้เด็ดขาด ทางเดียวคือเธอต้องไปกับฮั่วซุนเท่านั้น! “งั้นคุณรอสักครู่ ฉันจะโทรไปขอลางานที่โรงพยาบาลก่อน” เธอขึ้นไปคุยโทรศัพท์ชั้นบน และหยิบมีดผ่าตัดในลิ้นชักใส่ไว้ในกระเป๋าเพื่อเอาไว้ป

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 8

    เขาคิดจะปล่อยให้ฉันอยู่กับผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ? แล้วเขาออกมาทำไม? จะมาเยาะเย้ยฉันเหรอ? หึหึ! “เจียงเหยาจิง?” เธอชี้นิ้วไปยังชายที่มีท่าทางอำมหิต หรือเป็นเพราะดื่มแอลกอฮอล์จึงทำให้เธอกล้าขึ้น ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำว่าความกลัวคืออะไร “คุณ คุณมันก็แค่ไอ้สารเลว!” สีหน้าของเจียงเหยาจิงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม! ฮั่วซุนและป้าหวู่ต่างก้มหน้าลงแทบไม่กล้าหายใจ เธอเดินเซไปมา คว้าเนคไทของเจียงเหยาจิงแล้วดึงเข้าหาตัว “คุณคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับคุณนักเหรอ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นเทวดาหรือไง?” กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ติดมาจากคลับทำให้เจียงเหยาจิงขมวดคิ้วตลอดเวลา และดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะซ่อนความโกรธเอาไว้ เขารีบคว้าข้อมือของเธอแล้วพูดว่า “ผมว่าคุณบ้าไปแล้ว” เธอกล้าไปกับผู้ชายทุกคน? เขาต้องการให้ผู้หญิงคนนี้ถอนตัวเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์แย่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอดื้อรั้นเหมือนลา และไม่ยอมปล่อยมือ ตอนที่ซ่งหยุนหยุนตามกู่ฮ่วยไป เขาเองก็เสียใจ อย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็เป็นภรรยาของเขา ถึงจะแค่ในนามก็เถอะ ถ้าเธอมีมลทิน เขาก็ไม่พอใจ “คุณนั่นแหละที่บ้า” มือทั้งสองข้างของซ่งหยุนหยุนกระสับกระส่ายตบตีเ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 9

    “ไม่พบ” เจียงเหยาจิงเปิดประตูห้องทำงานแล้วพูดว่า “ขอกาแฟให้ผมสักแก้วสิ” พูดจบเขาก็เดินไปที่โต๊ะ “คุณกู่บอกว่าถ้าคุณไม่ไปพบเขาวันนี้ เขาจะไม่ยอมกลับนะคะ” เจียงเหยาจิงหันไปมองเลขา เลขาพลันก้มหน้าลงทันที “งั้นก็ไปพามาเถอะ” เขานั่งลงแล้วยื่นมือไปปลดกระดุมสูท ไม่นานเลขาก็เข้ามาพร้อมกาแฟในมือและกู่ฮ่วย กู่ฮ่วยเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณไปหาผู้หญิงคนนั้นมาจากที่ไหน?” เจียงเหยาจิงหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาแล้วสั่งให้เลขาออกไปข้างนอก หลังจากพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองกู่ฮ่วย “คุณดูที่เธอทิ้งรอยเอาไว้ให้ผมสิ?” กู่ฮ่วยชี้ไปที่คอของเขา บนคอมีรอยแผลที่เห็นได้ชัด อีกทั้งข้อมือของเขาก็พันผ้ากอซด้วย “อีกนิดเดียวเอ็นขาด” สายตาของเจียงเหยาจิงมองข้ามอาการบาดเจ็บของกู่ฮ่วย ในใจเขากลับรู้สึกมีความสุข เขาแกล้งถามว่า “ไปทำเอาท่าไหนล่ะครับ?” กู่ฮ่วยยังคงหวาดผวา “ผู้หญิงคนนั้นพกมีดมาด้วย? ฝีมือของเธอน่าทึ่งมาก ผมไปโรงพยาบาลแล้วหมอบอกว่าอีกนิดเดียวจะโดนเส้นเลือดใหญ่ ไม่ทันได้เสวยสุข แต่ผมดันเกือบตายซะงั้น ผมก็เลยอยากถามคุณว่า คุณไปเจอผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง?” เจียงเหยาจิงอารมณ์ดีเมื่อได้ยินว่าเขา

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 10

    ทุกคนต่างสงสัย ใช่สิ อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้?!! มีธุระกันหมดเลยเหรอ? เฉินเหวินเอียนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ถ้าเมื่อกี้เธอหูฝาด แล้วตอนนี้ล่ะ? เธอกวาดสายตาไปมาระหว่างเจียงเหยาจิงและซ่งหยุนหยุน เธอพยายามสังเกต “หมอซ่งมีธุระอะไรเหรอ?” เธอถามหยั่งเชิง ซ่งหยุนหยุนอยากบอกเฉินเหวินเหยียนไปตรง ๆ ว่าเธอคือภรรยาของเจียงเหยาจิง จากนั้นก็ให้เจียงเหยาจิงอธิบายรายละเอียดให้เฉินเหวินเหยียนรู้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอกลับไม่กล้าทำ เธอมีปัญหากับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เธอเสียโอกาสในการไปโรงพยาบาลกลางแล้วเรื่องหนึ่ง เธอไม่อยากตกงาน เธอทำได้แต่ก้มหัวและทำท่าเหมือนนกกระทา “ปู่เรียกให้ฉันกลับไป เพราะน่าจะมีเรื่องด่วน ฉันไม่ไปไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าคุณเจียงจะมีธุระเหมือนกัน บังเอิญจังเลยนะคะ ฮ่า ฮ่า” เธอหัวเราะแห้ง ๆ เธออยากจะปั่นเขาเล่น แต่เจียงเหยาจิงรู้ทัน “บังเอิญจังเลยครับ ปู่ของผมก็โทรมาเหมือนกัน แล้วคุณปู่ของคุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ? ให้ผมไปส่งคุณระหว่างทางไหม?” ซ่งหยุนหยุนแทบจะฝืนยิ้มไม่ไหว ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะการควบคุมอารมณ์ที่ดีของเธอ เธอคงจะปาถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะใส่หน้าเขา

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 11

    ซ่งหยุนหยุนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง ขณะที่เธอหันหลังกลับไปมอง เธอเผลอดันกล่องใบนั้นตกลงบนพื้น! เจียงเหยาจิงจ้องมองเธอด้วยสายตาโกรธเคือง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวมาก! เธอรีบอธิบาย “ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...” ขณะที่พูด เธอก็นั่งยอง ๆ และพยายามเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา ขณะที่นิ้วของเธอกำลังจะแตะกล่อง ข้อมือของเธอกลับถูกเขาคว้าไว้อย่างแรงจนกระดูกแทบจะหัก เจ็บ! เธอเจ็บจนเหงื่อซึม และรู้สึกเหมือนมือกำลังจะหัก เจียงเหยาจิงตาแดงก่ำด้วยความโมโห “เอามือสกปรกของเธอออกไป!” เขาพูดพลางพลักเธอออกด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ซ่งหยุนหยุนกระเด็นไปข้างหลังหัวโขกมุมตู้ ความเจ็บปวดบีบหัวใจทำให้เธอชาไปชั่วขณะ สมองดังตุบ ๆ เธอรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่น ๆ ไหลลงมา มือเรียวเอื้อมไปหลังคอ สัมผัสได้ถึงบางอย่างเหนียว ๆ ไม่น่าแปลกใจ เธอมีเลือดออกแต่ไม่มาก เธอเงยหน้าขึ้นเห็นเจียงเหยาจิงหยิบกล่องขึ้นมาอย่างระมัดระวังผ่านเส้นผมที่ยุ่งเหยิง แค่เห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของเขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าของสิ่งความสำคัญกับเขามาก เจียงเหยาจิงเปิดกล่องเพื่อตรวจสอบของในนั้นอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าสิ่งที่อยู่ข้างในอาจจะเสียหา

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 12

    ผู้เฒ่าเจียงคิดไว้แล้วว่าสักวันมันต้องเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้พ่อบ้านเฉียนจะเข้าใจแล้ว “เรื่องที่ท่านขอให้ผมหาหัวใจ...” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซ่งหยุนหยุนก็ออกมาพร้อมกับชุดปฐมพยาบาล พ่อบ้านเฉียนรีบหุบปากทันที คุณเจียงยืนขึ้นจากโซฟาพร้อมไม้เท้าแล้วพูดกับซ่งหยุนหยุนว่า “ตามฉันมา” หลังจากพูดจบ ผู้เฒ่าเจียงก็เดินนำไปที่ห้องสมุด ซ่งหยุนหยุนวางกล่องยาไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไป ผู้เฒ่าเจียงนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “พ่อแม่ของเหยาจิงเสียชีวิตเร็ว ฉันจึงเลี้ยงดูเขาจนเติบโต ตอนเรียน เขาก็พักหอในมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบ เขาย้ายออกจากบ้านเก่า และเข้ามาบริหารบริษัท เขางานยุ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และแทบไม่กลับมาอีกเลย” เสียงของผู้เฒ่าเจียงเบามาก พ่อของเจียงเหยาจิงเป็นลูกชายคนโตของเขา ความเจ็บปวดที่คนผมขาวมอบให้คนผมดำจะยังคงเศร้าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม มีเหตุผลอยู่ว่าทำไมเจียงเหยาจิงถึงไม่อยากกลับมา เขาเดาได้ว่าเจียงเหยาจิงจะจัดการกับครอบครัวของลูกคนที่สองอย่างไรหลังจากที่ตนจากโลกนี้ไป ความอดทนของเจียงเหยาจิงจนถึงตอนนี้ดูได้จากใบหน้าของเขา เขาต้องการให้เจียงเหยาจ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 13

    “ผู้อำนวยการ ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นคะ?” ซ่งหยุนหยุนมีลางสังหรณ์ไม่ดี “คุณน่าจะรู้ว่าการถูกแบนจากแวดวงวิชาชีพหมายความว่าอย่างไร…” ผู้อำนวยการลังเลที่จะพูด “ผมเกรงว่าอาชีพหมอของคุณจะพัง ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้าจ้างคุณอีก” ซ่งหยุนหยุนตกใจกับเรื่องกะทันหันนี้มาก เธอกำมือและคลายออกพลางพูดซ้ำหลายครั้ง “ผู้อำนวยการ ฉันรักงานนี้มาก ฉันเลิกทำงานนี้ไม่ได้ค่ะ” “ถึงแม้ผมอยากช่วย แต่ผมก็ไม่มีอำนาจพอ” ผู้อำนวยการรู้สึกเสียใจ เขาตระหนักและชื่นชมทัศนคติ และทักษะทางวิชาชีพของซ่งหยุนหยุนมาก แต่เขาไม่มีอำนาจปกป้องเธอ “ถ้าคุณยังอยากทำงานนี้ คุณต้องไปพบเจียงเหยาจิง ถ้าคุณทำให้เขาขุ่นเคืองก็ขอโทษเขาเถอะ ดีกว่าโดนไล่ออก” ผู้อำนวยการเตือนด้วยความหวังดี “ฉัน...” เธอลังเลที่จะพูด ความอคติของเจียงเหยาจิงที่มีต่อเธอสามารถลบล้างได้ด้วยคำขอโทษอย่างเดียวเหรอ? เธอรู้ดีว่าเจียงเหยาจิงทำกับเธอแบบนี้ ไม่เพียงเพราะเธอเกือบจะทำลายของมีค่าของเขาเมื่อคืนนี้ แต่ยังเป็นเพราะเขาไม่พอใจกับความจริงที่ว่า เธอกลายเป็นภรรยาของเขา นี่อาจเป็นการแก้แค้นเธอเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และบังคับให้เธอคิดจะหย่า เธอสูดล

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 270

    เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 269

    ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 268

    เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 267

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 266

    พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 265

    ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 264

    "ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 263

    เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 262

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื

DMCA.com Protection Status