แชร์

บทที่4 เพิ่งจะคิดได้

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-02 14:15:58

คอนโดมิเนียมxxx

"แน่ใจนะหมอว่าที่นี่มีคนอยู่" เสียงเรียบของแพรวารินทร์เอ่ยถามหมอหนุ่มเมื่อเข้ามาในคอนโดฯ ของชายหนุ่มภาพที่เห็นตรงหน้าของแพรวารินทร์คือตำราแพทย์และหนังสืออื่นๆ ที่วางอยู่เกือบทุกที่ในห้องและเหมือนกับถูกหยิบออกมาอ่านแล้ววางทิ้งไว้ไม่เก็บไว้ที่เดิม กองกระดาษสามถึงสี่กองตั้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บนพื้นมีกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งเกลื่อนกลาด บนเพดานและบนพื้นมีฝุ่นจับราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานานพอสมควร จากรูปการณ์เหมือนไม่มีผู้อาศัยมาสักพักแล้ว

"ทำไมเธอถึงถามแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม

"ของในห้องเหมือนไม่ได้แตะต้องมาสักเดือนได้มั้งฝุ่นก็จับ นอกจากเหมือนไม่มีคนอยู่แล้วแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่" มัณฑนากรสาวเอ่ยบอก

"ก็คงงั้นมั้งพี่ไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วจริงๆ " พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน

"หมอนี่ก็แปลกไม่กลับบ้านมาเป็นปีๆ ไอ้เราก็นึกว่าขลุกอยู่คอนโดฯ แต่ที่ไหนได้คอนโดฯ ก็ไม่อยู่หมอไปสร้างบ้านอยู่ใต้ดินรึไง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังกองหนังสือต่างๆ ทิ้งให้พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ส่ายหัวเมื่อถูกกล่าวหาว่าสร้างบ้านอยู่ใต้ดิน

"หมอไปเก็บเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวแล้วกัน ส่วนไอ้พวกเนี้ยแพรเก็บเอง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นแต่สายตาและเมื่อยังคงสนใจที่กองหนังสือ

"อยากทำอะไรก็ทำ แยกประเภทด้วยอย่างปนกันส่วนกรอบรูป ของอื่นๆ แล้วก็โล่พวกนั้นใส่ในก่อนเดียวกันได้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยสั่งเสียงเรียบ

"สั่งจังเห็นเป็นคนใช้รึไง" แพรวารินทร์หันกลับมาส่งค้อนให้หมอหนุ่มและเอ่ยพึมพำเบา ด้านชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงพึมพำแม้จะเบามากหยุดชะงักก่อนหันไปมองและถามหญิงสาวด้วยเสียงเย็นชาแต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับทำให้เขาหยุดอยู่กับที่

"แล้วเธอคิดว่าเป็นอะไรในสายตาพี่ล่ะถึงได้พูดแบบนั้น" "ก็คิดว่าเป็นคนที่หมอไม่เคยสนใจ เป็นคนที่หมอไม่เคยเหลียวแล

เป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของหมอเลย เป็นคนที่หมอทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพังไงล่ะ ตอนที่แพรถามคุณตาว่าทำไมต้องเป็นหมอท่านบอกว่าท่านเชื่อว่าหมอจะดูแลแพรได้แต่9ปีมานี้แพรว่าแพรเป็นแค่เชือกเส้นนึงที่มัดมือหมอไว้แต่หมอยังทำทุกอย่างได้เหมือนไม่ถูกมัดแต่แพรสิกลับไม่เคยทำอะไรได้เลยและยังต้องทนอยู่รับสายตาหลายคนที่มองมาอย่างมีคำถามว่าสามีหายไปไหนทำไมเขาไม่ดูแล หมอรู้มั้ยมันแย่แค่ไหนเมื่อแพรคิดว่าแพรเป็นใครในสายตาของหมอแพรเห็นตัวเองเป็นคนใช้ยังมีค่ากว่าสิ่งที่แพรเป็นตอนนี้เลย" แพรวารินทร์เอ่ยอย่างเหลืออดก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผู้เป็นสามีในนามถึงกับนิ่งอึ้งกับสิ่งที่อยู่ในใจของเธอพรางคิดถึงสิ่งที่ตนทำสิ่งที่เขาทำลงไปมันช่างขัดกับจรรยาบรรณแพทย์เสียจริงทุกคำพูดของแพรวารินทร์ยังดังก้องอยู่ในหัวเหมือนเครื่องอัดเสียงที่เปิดซ้ำไปซ้ำมา

9ปีก่อน

"ปู่ หนูแพรเพิ่งจะ17เองนะครับทำไมต้องเป็นเด็กคนนั้นแล้วทำไมต้องเป็นเสือ" พงศ์พยัคฆ์นักศึกษาแพทย์ปี4วัย21เอ่ยถามผู้เป็นปู่อย่างสงสัยเมื่อปู่บอกให้ตนแต่งงานกับเพื่อนสนิทของน้องสาว

"ปู่ไม่ได้ให้แต่งแล้วอยู่กินกันเลยนิ แต่งแล้วให้น้องเรียนจบค่อยอยู่ด้วยกันก็ได้ ส่วนทำไมต้องเป็นหนูแพรก็ปู่อยากได้เป็นหลานสะใภ้ไงล่ะ ส่วนทำไมต้องเป็นแกไอ้เสือเพราะปู่มั่นใจว่าแกจะดูแลแก้วตาด้วยใจของพยัคฆ์ได้ไงล่ะปู่เชื่อว่าแกจะไม่ทำให้ปู่ผิดหวัง" สัตยะเจ้าของห้างสรรพสินค้าและสายการบินแห่งใหญ่ในประเทศเอ่ยบอกหลานชายด้วยน้ำเสียงจริงจังแฝงไปด้วยความมั่นใจ

"รอให้แพรวารินทร์เรียนจบก่อนค่อยแต่งก็ได้นิ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก

"รอให้ถึงตอนนั้นหลุดมือกันพอดีแกรู้มั้ยมีหลายคนอยากจะแต่งงานกับหนูแพรเพื่อจะได้ไร่พยัคฆา แกจะปล่อยให้หนูแพรแต่งงานกับคนที่หวังแต่ที่ดินและไร่ของหนูแพรงั้นเหรอแบบนั้นสู้พยัคฆ์มันหาคนดีๆ ไว้ใจได้อย่างแกมาแต่งไม่ดีกว่าเหรอว่ะ" สัตยะยังคงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"แล้วถ้าเสือไม่แต่ง" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถาม สัตยะมองหลานชายสุดที่รักก่อนจะเอ่ยบางสิ่งที่ทำให้หลานจำยอม

"ถ้าไม่แต่งไม่ต้องมาเลยฉันว่าปู่ พ่อแม่แกด้วยถือว่าตัดขาดกันเลย" "ก็ได้แค่แต่งเฉยๆ ใช่มั้ยได้แล้วอย่ามาเรียกร้องอะไรจากเสืออีก" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านของผู้เป็นปู่แต่หูก็ยังได้ยินสิ่งหนึ่งเอ่ยออกมาจากปากของผู้เป็นปู่

"ปู่มั่นใจว่าแกจะดูแลหนูแพรได้ ปู่เชื่อว่าแกจะไม่ทำให้ปู่ผิดหวัง" เขายังจำวันนั้นได้ดีแต่เพราะความโกรธที่ถูกบังคับทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะลืมคำพูดที่แฝงไปด้วยความเชื่อมั่นของผู้เป็นปู่ไปหมดสิ้นจนกระทั้งวันนี้ วันที่แพรวารินทร์เปิดเผยสิ่งที่เก็บไว้ในใจตลอด9ปีทำให้เขาคิดได้อีกครั้งเขาทำอะไรลงไปตลอด9ปีมานี้เขาทำร้ายใครมากี่คน และทำลายความเชื่อใจและความไว้ใจของใครมาแล้วบ้าง "9ปีมานี้เราทำอะไรลงไปวะ ปู่กับปู่พยัคฆ์เชื่อใจและไว้ใจให้เราดูแลเธอ แต่เรากลับปล่อยเธอให้อยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง ปล่อยให้เธอเจอถ้อยคำนินทาและครหาอย่างไม่คิดเหลียวแล เรายังควรเป็นลูกผู้ชายอีกเหรอ"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 ต้องแก้ไขด้วยหัวใจ

    แพรวารินทร์เดินหนีออกจากห้องของชายหนุ่มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งสีขาวข้างลิฟต์เธอพูดมันออกไปแล้วหวังว่าสิ่งที่พูดไปอาจทำให้เธอไม่ต้องจำใจตกอยู่ในสภาพเดิมนะ "หวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้เราได้หลุดออกจากสภาพนี้นะแพรวารินทร์"ในขณะที่ชายหนุ่มได้ใช้ความคิดและได้สำนึกต่อความผิดที่กระทำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นจังหวะดนตรีที่เขาชื่นชอบพงศ์พยัคฆ์ล้วงโทรศัพท์หรูขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มบางๆ เขากำลังอยากระบายให้ใครซักคนที่เข้าใจเขาฟังและคนที่ชายหนุ่มนึกถึงก็โทรศัพท์มาพอดีพงศ์พยัคฆ์กดรับสายแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมาปลายสายก็เอ่ยขึ้นเสียงก่อน"ทำไมรับช้าจังว่ะ" ปัญญาธรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสายพงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษด้วยเสียงเรียบ"โทษทีว่ะนายมีธุระอะไรเปล่า" "ไม่มีไรเที่ยงแล้วฉันเอาข้าวมาให้อยู่ในลิฟต์เดี๋ยวขึ้นไป" ปัญญาธรเอ่ยพร้อมมองตัวเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ"โอเคเเล้วเจอกัน" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แค่นี้เพื่อนรักอย่างปัญญาธรก็พอรู้ว่าคงมีสิ่งที่อยากระบายเป็นแน่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเท่ห์ของศัลยแพทย์หนุ่มก้าวเดินออกมาก่อนสายตาจะหันไปเห็นแพรวารินทร์"น้องแพรมานั่งทำอะไรตรงนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 สิ่งที่เลือก

    "ถ้าอยากจะแก้ไขความรู้สึกของน้องแพรฉันว่านายควรใช้หัวใจในการแก้ไขไม่ใช่ใช้แต่สมองและการกระทำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริงแต่ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจมันก็สูญเปล่าและอีกอย่างนายควรเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยน้องเขาไปหรือเก็บน้องเขาไว้ข้างตัวนายตลอดไป" คำพูดของปัญญาธรยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของพงศ์พยัคฆ์แม้เจ้าของคำพูดนั้นกลับไปแล้วก็ตาม"เฮ้อ"ร่างสูงสง่าที่นอนราบลงกับที่นอนถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตกก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผากเขาควรทำอย่างไร? นั้นคือสิ่งที่ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นพงศ์พยัคฆ์จึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพแพรวารินทร์นั่งแยกกองหนังสืออยู่ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจหนักๆ เหมือนตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ"แพรวารินทร์พี่มีเรื่องจะพูดด้วยขอเวลาสักนิดได้มั้ย" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่ไม่เย็นชาเหมือนทุกครั้งแพรวารินทร์หันหน้ามามองก่อนจะถามอย่างแปลกใจ"หมอมีอะไรรึเปล่าถ้ามีอะไรจะพูดหมอก็พูดมาเถอะจะได้รีบเก็บของแพรอยากกลับไปหาทรายแล้ว" "แพรวารินทร์เธอคิดยังไงถ้าพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-04
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทนำ

    ภายในบ้านไม้สีขาวหลังงามที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่าบ้านแสนรักทุกอย่างภายในนั้นเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่มีคนอาศัยอยู่ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้แล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคนอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันและ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้'ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้กันนะ' แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพรวา มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่ทางมุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณ21ปีในชุดสูทครีมขาวในพิธีแต่งงานใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างามดูอ่อนวัยมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้'9ปีแล้วสินะรูปนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

    โรงพยาบาล บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ทในชุดsurubs * สีเขียวจะก้าวเดินออกมาและเดินมาทางญาติของคนไข้ "การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น" นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์หรือหมอเสือ ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศเอ่ยบอกญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สร้างความโล่งอกและดีใจให้แก่ญาติได้อย่างดี "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ " หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามี "มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวนะครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยลาก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพแล้วเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้เอ่ยชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอ "หมอเสือคะ เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันค่ะ" เสียงเอ่ยชวนของแพทย์หญิงฟ้ารดาหรือหมอฟ้ากุมารแพทย์สุดน่ารักของโรงพยาบาลเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอ "นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมง มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ " หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่2 เหตุไม่คาดคิด

    บริษัทตกแต่งภายใน"เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้" รณพีร์หรือพีประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังเอ่ยปิดการประชุมเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ"เพลงพิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน" รณพีร์ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว"นั้นสิทรายแก เป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ" แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือเพลงพิชชาหรือทรายมัณฑนากรเพื่อนรักเอามือกุมศีรษะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด"แพรฉันปวดหัวโอ้ยไม่ไหวแล้ว" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดสติไป"คุณพีค่ะรีบพาทรายไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" แพรวารินทร์รีบเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม"โอเค" รณพีร์ตอบตกลงแล้วเดินไปอุ้มร่างของมัณฑนากรสาวที่ตนแอบรักไว้แนบอกแล้วเดินพาร่างบางไปที่รถของตนโดยมีแพรวารินทร์เดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วงเพื่อนสนิทก่อนจะโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่สามีหรือก็คือแม่ของหญิงสาวไร้สติเพื่อบอกอาการของเพื่อนสาวโรงพยาบาลรณพีร์พาร่างไร้สติของเพลงพิชชามาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือแค่ทฤษฎีโลกกลมทำให้เป็นโรงพยาบาลที่พงศ์พยัคฆ์ทำงานอยู่และรณพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่3 คำขอ

    ร่างของเพลงพิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง พราวกะรัตและสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวกลับไปบริษัทก่อน พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้"บ่ายโมงกว่าแล้วพ่อกับแม่ทานข้าวรึยังครับ" ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง"เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่หนูแพรโทรมาซะก่อน หนูแพรทานข้าวรึยังลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมา"ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณอย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว" สิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจเหมือนที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เคยบอกว่าหญิงสาวกลัวความสูญเสียเป็นที่สุดหลังจากสูญเสียผู้ให้กำเนิดไป"ผมว่าพ่อกับแม่ไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก"ก็ดีไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี" สิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของพราวกะรัตกลับเดินไปหาแพรวาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02

บทล่าสุด

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 สิ่งที่เลือก

    "ถ้าอยากจะแก้ไขความรู้สึกของน้องแพรฉันว่านายควรใช้หัวใจในการแก้ไขไม่ใช่ใช้แต่สมองและการกระทำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริงแต่ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจมันก็สูญเปล่าและอีกอย่างนายควรเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยน้องเขาไปหรือเก็บน้องเขาไว้ข้างตัวนายตลอดไป" คำพูดของปัญญาธรยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของพงศ์พยัคฆ์แม้เจ้าของคำพูดนั้นกลับไปแล้วก็ตาม"เฮ้อ"ร่างสูงสง่าที่นอนราบลงกับที่นอนถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตกก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผากเขาควรทำอย่างไร? นั้นคือสิ่งที่ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นพงศ์พยัคฆ์จึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพแพรวารินทร์นั่งแยกกองหนังสืออยู่ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจหนักๆ เหมือนตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ"แพรวารินทร์พี่มีเรื่องจะพูดด้วยขอเวลาสักนิดได้มั้ย" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่ไม่เย็นชาเหมือนทุกครั้งแพรวารินทร์หันหน้ามามองก่อนจะถามอย่างแปลกใจ"หมอมีอะไรรึเปล่าถ้ามีอะไรจะพูดหมอก็พูดมาเถอะจะได้รีบเก็บของแพรอยากกลับไปหาทรายแล้ว" "แพรวารินทร์เธอคิดยังไงถ้าพ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 ต้องแก้ไขด้วยหัวใจ

    แพรวารินทร์เดินหนีออกจากห้องของชายหนุ่มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งสีขาวข้างลิฟต์เธอพูดมันออกไปแล้วหวังว่าสิ่งที่พูดไปอาจทำให้เธอไม่ต้องจำใจตกอยู่ในสภาพเดิมนะ "หวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้เราได้หลุดออกจากสภาพนี้นะแพรวารินทร์"ในขณะที่ชายหนุ่มได้ใช้ความคิดและได้สำนึกต่อความผิดที่กระทำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นจังหวะดนตรีที่เขาชื่นชอบพงศ์พยัคฆ์ล้วงโทรศัพท์หรูขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มบางๆ เขากำลังอยากระบายให้ใครซักคนที่เข้าใจเขาฟังและคนที่ชายหนุ่มนึกถึงก็โทรศัพท์มาพอดีพงศ์พยัคฆ์กดรับสายแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมาปลายสายก็เอ่ยขึ้นเสียงก่อน"ทำไมรับช้าจังว่ะ" ปัญญาธรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสายพงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษด้วยเสียงเรียบ"โทษทีว่ะนายมีธุระอะไรเปล่า" "ไม่มีไรเที่ยงแล้วฉันเอาข้าวมาให้อยู่ในลิฟต์เดี๋ยวขึ้นไป" ปัญญาธรเอ่ยพร้อมมองตัวเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ"โอเคเเล้วเจอกัน" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แค่นี้เพื่อนรักอย่างปัญญาธรก็พอรู้ว่าคงมีสิ่งที่อยากระบายเป็นแน่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเท่ห์ของศัลยแพทย์หนุ่มก้าวเดินออกมาก่อนสายตาจะหันไปเห็นแพรวารินทร์"น้องแพรมานั่งทำอะไรตรงนี้

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่4 เพิ่งจะคิดได้

    คอนโดมิเนียมxxx"แน่ใจนะหมอว่าที่นี่มีคนอยู่" เสียงเรียบของแพรวารินทร์เอ่ยถามหมอหนุ่มเมื่อเข้ามาในคอนโดฯ ของชายหนุ่มภาพที่เห็นตรงหน้าของแพรวารินทร์คือตำราแพทย์และหนังสืออื่นๆ ที่วางอยู่เกือบทุกที่ในห้องและเหมือนกับถูกหยิบออกมาอ่านแล้ววางทิ้งไว้ไม่เก็บไว้ที่เดิม กองกระดาษสามถึงสี่กองตั้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บนพื้นมีกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งเกลื่อนกลาด บนเพดานและบนพื้นมีฝุ่นจับราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานานพอสมควร จากรูปการณ์เหมือนไม่มีผู้อาศัยมาสักพักแล้ว"ทำไมเธอถึงถามแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม"ของในห้องเหมือนไม่ได้แตะต้องมาสักเดือนได้มั้งฝุ่นก็จับ นอกจากเหมือนไม่มีคนอยู่แล้วแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่" มัณฑนากรสาวเอ่ยบอก"ก็คงงั้นมั้งพี่ไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วจริงๆ " พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน"หมอนี่ก็แปลกไม่กลับบ้านมาเป็นปีๆ ไอ้เราก็นึกว่าขลุกอยู่คอนโดฯ แต่ที่ไหนได้คอนโดฯ ก็ไม่อยู่หมอไปสร้างบ้านอยู่ใต้ดินรึไง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังกองหนังสือต่างๆ ทิ้งให้พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ส่ายหัวเมื่อถู

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่3 คำขอ

    ร่างของเพลงพิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง พราวกะรัตและสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวกลับไปบริษัทก่อน พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้"บ่ายโมงกว่าแล้วพ่อกับแม่ทานข้าวรึยังครับ" ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง"เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่หนูแพรโทรมาซะก่อน หนูแพรทานข้าวรึยังลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมา"ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณอย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว" สิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจเหมือนที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เคยบอกว่าหญิงสาวกลัวความสูญเสียเป็นที่สุดหลังจากสูญเสียผู้ให้กำเนิดไป"ผมว่าพ่อกับแม่ไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก"ก็ดีไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี" สิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของพราวกะรัตกลับเดินไปหาแพรวาร

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่2 เหตุไม่คาดคิด

    บริษัทตกแต่งภายใน"เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้" รณพีร์หรือพีประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังเอ่ยปิดการประชุมเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ"เพลงพิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน" รณพีร์ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว"นั้นสิทรายแก เป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ" แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือเพลงพิชชาหรือทรายมัณฑนากรเพื่อนรักเอามือกุมศีรษะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด"แพรฉันปวดหัวโอ้ยไม่ไหวแล้ว" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดสติไป"คุณพีค่ะรีบพาทรายไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" แพรวารินทร์รีบเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม"โอเค" รณพีร์ตอบตกลงแล้วเดินไปอุ้มร่างของมัณฑนากรสาวที่ตนแอบรักไว้แนบอกแล้วเดินพาร่างบางไปที่รถของตนโดยมีแพรวารินทร์เดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วงเพื่อนสนิทก่อนจะโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่สามีหรือก็คือแม่ของหญิงสาวไร้สติเพื่อบอกอาการของเพื่อนสาวโรงพยาบาลรณพีร์พาร่างไร้สติของเพลงพิชชามาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือแค่ทฤษฎีโลกกลมทำให้เป็นโรงพยาบาลที่พงศ์พยัคฆ์ทำงานอยู่และรณพี

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

    โรงพยาบาล บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ทในชุดsurubs * สีเขียวจะก้าวเดินออกมาและเดินมาทางญาติของคนไข้ "การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น" นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์หรือหมอเสือ ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศเอ่ยบอกญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สร้างความโล่งอกและดีใจให้แก่ญาติได้อย่างดี "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ " หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามี "มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวนะครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยลาก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพแล้วเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้เอ่ยชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอ "หมอเสือคะ เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันค่ะ" เสียงเอ่ยชวนของแพทย์หญิงฟ้ารดาหรือหมอฟ้ากุมารแพทย์สุดน่ารักของโรงพยาบาลเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอ "นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมง มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ " หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทนำ

    ภายในบ้านไม้สีขาวหลังงามที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่าบ้านแสนรักทุกอย่างภายในนั้นเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่มีคนอาศัยอยู่ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้แล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคนอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันและ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้'ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้กันนะ' แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพรวา มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่ทางมุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณ21ปีในชุดสูทครีมขาวในพิธีแต่งงานใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างามดูอ่อนวัยมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้'9ปีแล้วสินะรูปนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status