Share

บทที่3 คำขอ

last update Last Updated: 2025-03-02 14:15:13

ร่างของเพลงพิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง พราวกะรัตและสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวกลับไปบริษัทก่อน พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้

"บ่ายโมงกว่าแล้วพ่อกับแม่ทานข้าวรึยังครับ" ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง

"เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่หนูแพรโทรมาซะก่อน หนูแพรทานข้าวรึยังลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมา

"ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณอย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว" สิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจเหมือนที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เคยบอกว่าหญิงสาวกลัวความสูญเสียเป็นที่สุดหลังจากสูญเสียผู้ให้กำเนิดไป

"ผมว่าพ่อกับแม่ไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก

"ก็ดีไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี" สิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของพราวกะรัตกลับเดินไปหาแพรวารินทร์ก่อนที่นิ้วมือเรียวจะแตะลงที่ไหล่ของลูกสะใภ้เรียกสติของแพรวารินทร์ให้กลับมาก่อนจะเอ่ยบางอย่างแต่กลับได้รับการปฏิเสธ

"หนูแพรไปทานข้าวกันลูก" "ไม่ค่ะแพรจะอยู่กับทรายแม่พราวพ่อสิงห์ไปทานกับหมอเถอะค่ะ" นอกจากคำปฏิเสธแล้วสองสามีภรรยายังได้รับรู้ความเหินห่างของบุตรชายและสะใภ้ด้วยก่อนจะถูกบังคับให้แต่งงานกันแพรวารินทร์ที่มาค้างบ้านสัตยบดินทร์ทุกวันหยุดจะเรียกพงศ์พยัคฆ์ว่า"พี่เสือ"แต่คำที่ทั้งคู่ได้ยินเมื่อครู่คือ"หมอ"ก่อนหน้านี้ทั้งสองก็ไม่ได้ตกใจไม่เพราะเก้าปีที่ผ่านมาหญิงสาวก็พูดเช่นนี้แต่นั้นไม่ได้อยู่ต่อหน้าพงศ์พยัคฆ์ดั่งเช่นวันนี้

"งั้นเดี๋ยวแม่ซื้อมาฝากนะลูก" พราวกะรัตเอ่ยบอกพร้อมลูบหัวลูกสะใภ้ก่อนจะเดินออกจากไปพร้อมสิงหาและพงศ์พยัคฆ์

3ชั่วโมงต่อมา

หลังจากพราวกะรัตและสิงหากลับจากรับประทานอาหารทั้งสามก็นั่งรอคนบนเตียงให้ฟื้นส่วนพงศ์พยัคฆ์มีเคสผ่าคัดด่วนจึงขอตัวไปทำงาน ในขณะที่แพรวารินทร์ลุกไปคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นเจ้านายที่โทรศัพท์มาถามอาการของคนที่ชานหนุ่มแอบชอบ แพรขนตางอนของคนบนเตียงก็ลืมขึ้นก่อนจะกระพริบสองสามครั้งเพื่อปรับแสงก่อนจะเอ่ยขึ้นเพื่อขอน้ำเพราะคอแห้ง

"น้ำขอน้ำหน่อย" "หนูทรายฟื้นแล้วหรือลูกเป็นไงบ้าง" พราวกะรัตถลาเข้าไปหาบุตรสาวยื่นน้ำให้บุตรสาวดื่มก่อนจะเอ่ยถามข้างกายมีสิงหาที่ถลามาพร้อมภรรยายืนอยู่ด้านตรงข้ามมีแพรวารินทร์ที่ยืนน้ำตาซึมอยู่

"ทุกคนคงรู้แล้วสินะว่าทรายเป็นอะไร ทรายขอโทษนะค่ะที่ไม่บอกพ่อกับแม่ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้บอกแก" หลังจากดื่มน้ำเสร็จเพลงพิชชาก็เอ่ยขอโทษทั้งสามทันที

"ฉันไม่ให้อภัยแกแกมีพี่เป็นหมอสมองนะแต่แกกลับปิดบังแม้แต่หมอ แกรู้ไหมฉันรักแกมากนะทรายถ้าแกเป็นอะไรไปฉันจะทำไง" แพรวารินทร์เอ่ยอย่างน้อยใจ

"โอ้ๆ หายงอนน้า ฉันขอโทษฉันก็รักแก" เพลงพิชชารู้ดีว่าเพื่อนรักกลัวการสูญเสียแค่ไหนเพราะงั้นตนจึงไม่บอกอาการป่วยให้เพื่อนสาวรู้

ก๊อกๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกสายตาจากคนในห้องให้หันไปมองก่อนจะเห็นร่างสูงสมาร์ทของพงศ์พยัคฆ์ก้าวเข้ามา

"ฟื้นแล้วเหรอเป็นไงบ้างยัยตัวแสบเราทำพี่ขายหน้ารู้มั้ย มีอย่างที่ไหนพี่ชายเป็นประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าน้องสาวมีเนื้องอกในสมองแถมยังไปตรวจกับหมอคนอื่นอีก" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตัดพ้อน้องอย่างที่เล่นทีจริง

"โธ่เอ้ยพี่เสือทรายเพิ่งง้อเพื่อนไปหยกๆ พี่ชายมาตัดพ้ออีกมันหน้าน้อยใจ ร้อยวันพันปีไม่ค่อยได้เจอกันยังจะมาตัดพ้อน้องอีก" ผู้เป็นน้องเอ่ยแกล้งด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

"อย่ามาแหลพี่ไม่โง่" ผู้เป็นพี่ตอกกลับอย่างรู้ทัน

"ชิส์เอาเถอะแต่น้องจะเป็นไงต่อ" เพลงพิชชาเอ่ยถามอย่างสงสัยในการป่วยของตน

"เนื้องอกชิ้นนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมากแถมยังอยู่ใกล้เส้นประสาทเพราะงั้นต้องผ่าตัดอย่างเร็วอาทิตย์หน้าอย่างช้าสามอาทิตย์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพรางลูบผมน้องสาวอย่างแสนรัก

"ทรายไม่ผ่าจนกว่าพี่เสือจะขนของกลับไปอยู่บ้าน" เพลงพิชชาเอ่ยบอกอย่างจริงจังจนพี่ชายต้องยอมเพื่อสุขภาพของน้องสาวเพราะรู้ดีว่าถ้าเพลงพิชชาบอกว่าไม่ก็คือไม่

"ก็ได้พี่จะกลับไปอยู่บ้านก็ได้"

"ขนกลับไปให้หมดห้ามออกมาอีกสัญญานะค่ะ" เพลงพิชชาเอ่นบอกและแอบลอบยิ้มเมื่อพี่ชายยกนิ้วมาเกี่ยวก้อยเหมือนตอนเด็กๆ

"สัญญา พ่อครับอีกสองวันให้คนของเราสักสี่ห้าคนช่วยไปขนของที่คอนโดฯ ผมด้วยนะครับ" "แล้วจะเอาเวลาไหนไปเก็บของล่ะลูก" พราวกะรัตเอ่ยถามบุตรชายเพราะทราบจากปัญญาธรว่าบางครั้งบุตรชายก็ทำงานจนลืมเวลาแม้แต่จะทานข้าว

"คงลางานสักวันสองวันครับ เห็นมั้ยเรานะสร้างความยุ่งยากให้พี่จนได้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะหันไปตัดพ้อน้องสาวพอเป็นพีธี

"งั้นทรายจะขอโทษด้วยการส่งเพื่อนรักไปช่วยเก็บของนะค่ะอย่าโกรธทรายนะ" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้น คนถูกส่งไปช่วยหันขวับไปมองตาถล่น

"ถามฉันยังหะ" "แพรถ้าแกไม่ไปช่วยฉันจะไม่ผ่าตัดจริงด้วย" เพลงพิชชาใช้เนื้องอกขู่เพื่อนรักเหมือนที่ใช้กับผู้เป็นพี่และมันก็ได้ผลตามคาดแพรวารินทร์ยอมทำตามทุกอย่างเพื่อนไม่ต้องเห็นเพื่อนรักเจ็บปวกหรือจากไปแค่วันนี้เธอก็กลัวจะแย่แล้ว

"ก็ได้ถ้าหมอยอมให้ฉันเข้าไปในคอนโดฯ เขานะ" "พี่ยอมใช่มั้ยพี่เสือ" เพลงพิชชาหันไปถามพี่ชายอย่างข่มขู่จนพี่ชายยอมแพ้

"ก็เข้าไปสิใครห้ามมิทราบ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ

"ดีแล้วลูกให้น้องไปช่วยจะได้เสร็จไวๆ จะได้กลับบ้านเร็วๆ " ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นหลังจากยืนเงียบมองบุตรสาวแสนเจ้าเลห์ยกข้ออ้างมาขู่พี่ชายและเพื่อนสาว

"นี่ก็เย็นมากแล้วพ่อกับแม่กลับเถอะครับเดี๋ยวผมให้พยาบาลมาดูแลยัยตัวแสบนี่เอง" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาจนเย็นแล้ว

"แพรขอเฝ้ายัยทรายเองนะค่ะพ่อสิงห์แม่พราว" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นเพื่อขออนุญาติ สองสามีภรรยายิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะพยักหน้าอนุญาต

"แม่พราวไปกลับก่อนนะลูกพรุ่งนี้จะมาแต่เช้า แม่ไปนะเสือเดี๋ยวทานข้าวเย็นพร้อมน้องเลยนะเดี๋ยวแม่สั่งขึ้นมาให้หนูแพรด้วยหนูทรายถ้าพี่เราหรือเพื่อนเราไม่ทานโทรมาบอกแม่ด้วย" พราวกะรัตเอ่ยกำชับเพราะสิ่งเดียวที่สองสามีภรรยามีเหมือนกันคือการทำงานจนลืมเวลาหรือทานอาหารไม่ตรงเวลานั้นเองก่อนจะพากันออกจากห้องไป

"อีกสองชั่วโมงอาหารเย็นคงมาพักผ่อนก่อนนะหนูทรายพี่ไปทำงานก่อนพรุ่งนี้จะได้ลาหยุดอย่างสบายใจ" ผู้เป็นพี่เอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไปทำงานต่อเพราะเข้ามีนัดคนไข้อีกสองคน

22.30น.

มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มสายตายังจ้องที่แผ่นฟิล์มเอกซเรย์สมองของน้องสาวก่อนจะหันมองนาฬิกาบนข้อมือซ้ายเข็มสั้นชี้อยู่บนตัวเลขที่เขาไม่คิดว่าจะเวลาขนาดนี้แล้วก่อนจะลุกจากห้องไปยังห้องพักของน้องสาวหลังจากที่ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้องสาวแล้วกลับมารับประทานอาหารเย็นพร้อมกับน้องสาวและภรรยาจากนั้นชายหนุ่มก็ขลุกตัวอยู่กับตำราแพทย์และแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สมองของผู้เป็นน้อง

ร่างสูงสมาร์ทเดินเข้าไปในห้องมองไปที่น้องสาวแล้วเดินไปขยับผ้าห่มให้น้องสาวก่อนจะลูบผมอย่างแสนรักก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นร่างบางที่นั่งหลับอยู่ข้างเตียงด้านตรงข้ามของเขาชายหนุ่มหยุดคิดอย่างชั่งใจก่อนจะอ้อมไปอุ้มหญิงสาวไปวางบนโซฟาอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้หญิงสาวตื่นก่อนจะหยิบผ้าห่มมาห่มให้สายตาพิจารณาในหน้านวลของภรรยาที่เขาไม่ได้เห็นหน้าค่าตามาถึงเก้าปีไม่คิดว่าเก้าปีที่ผ่านมาหญิงสาวจะหน้าตาสะสวยน่ารักน่าหลงได้ขนาดนี้ 'ไม่เหลือเคล้าหนูแพรไร้เดียงสาเลยนะแพรวารินทร์' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะสลัดความคิดของตนแล้วเดินออกไปจากห้องไป

 

Related chapters

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่4 เพิ่งจะคิดได้

    คอนโดมิเนียมxxx"แน่ใจนะหมอว่าที่นี่มีคนอยู่" เสียงเรียบของแพรวารินทร์เอ่ยถามหมอหนุ่มเมื่อเข้ามาในคอนโดฯ ของชายหนุ่มภาพที่เห็นตรงหน้าของแพรวารินทร์คือตำราแพทย์และหนังสืออื่นๆ ที่วางอยู่เกือบทุกที่ในห้องและเหมือนกับถูกหยิบออกมาอ่านแล้ววางทิ้งไว้ไม่เก็บไว้ที่เดิม กองกระดาษสามถึงสี่กองตั้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บนพื้นมีกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งเกลื่อนกลาด บนเพดานและบนพื้นมีฝุ่นจับราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานานพอสมควร จากรูปการณ์เหมือนไม่มีผู้อาศัยมาสักพักแล้ว"ทำไมเธอถึงถามแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม"ของในห้องเหมือนไม่ได้แตะต้องมาสักเดือนได้มั้งฝุ่นก็จับ นอกจากเหมือนไม่มีคนอยู่แล้วแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่" มัณฑนากรสาวเอ่ยบอก"ก็คงงั้นมั้งพี่ไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วจริงๆ " พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน"หมอนี่ก็แปลกไม่กลับบ้านมาเป็นปีๆ ไอ้เราก็นึกว่าขลุกอยู่คอนโดฯ แต่ที่ไหนได้คอนโดฯ ก็ไม่อยู่หมอไปสร้างบ้านอยู่ใต้ดินรึไง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังกองหนังสือต่างๆ ทิ้งให้พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ส่ายหัวเมื่อถู

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 ต้องแก้ไขด้วยหัวใจ

    แพรวารินทร์เดินหนีออกจากห้องของชายหนุ่มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งสีขาวข้างลิฟต์เธอพูดมันออกไปแล้วหวังว่าสิ่งที่พูดไปอาจทำให้เธอไม่ต้องจำใจตกอยู่ในสภาพเดิมนะ "หวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้เราได้หลุดออกจากสภาพนี้นะแพรวารินทร์"ในขณะที่ชายหนุ่มได้ใช้ความคิดและได้สำนึกต่อความผิดที่กระทำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นจังหวะดนตรีที่เขาชื่นชอบพงศ์พยัคฆ์ล้วงโทรศัพท์หรูขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มบางๆ เขากำลังอยากระบายให้ใครซักคนที่เข้าใจเขาฟังและคนที่ชายหนุ่มนึกถึงก็โทรศัพท์มาพอดีพงศ์พยัคฆ์กดรับสายแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมาปลายสายก็เอ่ยขึ้นเสียงก่อน"ทำไมรับช้าจังว่ะ" ปัญญาธรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสายพงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษด้วยเสียงเรียบ"โทษทีว่ะนายมีธุระอะไรเปล่า" "ไม่มีไรเที่ยงแล้วฉันเอาข้าวมาให้อยู่ในลิฟต์เดี๋ยวขึ้นไป" ปัญญาธรเอ่ยพร้อมมองตัวเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ"โอเคเเล้วเจอกัน" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แค่นี้เพื่อนรักอย่างปัญญาธรก็พอรู้ว่าคงมีสิ่งที่อยากระบายเป็นแน่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเท่ห์ของศัลยแพทย์หนุ่มก้าวเดินออกมาก่อนสายตาจะหันไปเห็นแพรวารินทร์"น้องแพรมานั่งทำอะไรตรงนี้

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 สิ่งที่เลือก

    "ถ้าอยากจะแก้ไขความรู้สึกของน้องแพรฉันว่านายควรใช้หัวใจในการแก้ไขไม่ใช่ใช้แต่สมองและการกระทำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริงแต่ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจมันก็สูญเปล่าและอีกอย่างนายควรเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยน้องเขาไปหรือเก็บน้องเขาไว้ข้างตัวนายตลอดไป" คำพูดของปัญญาธรยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของพงศ์พยัคฆ์แม้เจ้าของคำพูดนั้นกลับไปแล้วก็ตาม"เฮ้อ"ร่างสูงสง่าที่นอนราบลงกับที่นอนถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตกก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผากเขาควรทำอย่างไร? นั้นคือสิ่งที่ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นพงศ์พยัคฆ์จึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพแพรวารินทร์นั่งแยกกองหนังสืออยู่ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจหนักๆ เหมือนตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ"แพรวารินทร์พี่มีเรื่องจะพูดด้วยขอเวลาสักนิดได้มั้ย" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่ไม่เย็นชาเหมือนทุกครั้งแพรวารินทร์หันหน้ามามองก่อนจะถามอย่างแปลกใจ"หมอมีอะไรรึเปล่าถ้ามีอะไรจะพูดหมอก็พูดมาเถอะจะได้รีบเก็บของแพรอยากกลับไปหาทรายแล้ว" "แพรวารินทร์เธอคิดยังไงถ้าพ

    Last Updated : 2025-03-04
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทนำ

    ภายในบ้านไม้สีขาวหลังงามที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่าบ้านแสนรักทุกอย่างภายในนั้นเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่มีคนอาศัยอยู่ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้แล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคนอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันและ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้'ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้กันนะ' แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพรวา มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่ทางมุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณ21ปีในชุดสูทครีมขาวในพิธีแต่งงานใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างามดูอ่อนวัยมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้'9ปีแล้วสินะรูปนี้

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

    โรงพยาบาล บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ทในชุดsurubs * สีเขียวจะก้าวเดินออกมาและเดินมาทางญาติของคนไข้ "การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น" นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์หรือหมอเสือ ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศเอ่ยบอกญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สร้างความโล่งอกและดีใจให้แก่ญาติได้อย่างดี "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ " หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามี "มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวนะครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยลาก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพแล้วเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้เอ่ยชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอ "หมอเสือคะ เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันค่ะ" เสียงเอ่ยชวนของแพทย์หญิงฟ้ารดาหรือหมอฟ้ากุมารแพทย์สุดน่ารักของโรงพยาบาลเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอ "นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมง มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ " หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไ

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่2 เหตุไม่คาดคิด

    บริษัทตกแต่งภายใน"เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้" รณพีร์หรือพีประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังเอ่ยปิดการประชุมเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ"เพลงพิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน" รณพีร์ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว"นั้นสิทรายแก เป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ" แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือเพลงพิชชาหรือทรายมัณฑนากรเพื่อนรักเอามือกุมศีรษะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด"แพรฉันปวดหัวโอ้ยไม่ไหวแล้ว" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดสติไป"คุณพีค่ะรีบพาทรายไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" แพรวารินทร์รีบเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม"โอเค" รณพีร์ตอบตกลงแล้วเดินไปอุ้มร่างของมัณฑนากรสาวที่ตนแอบรักไว้แนบอกแล้วเดินพาร่างบางไปที่รถของตนโดยมีแพรวารินทร์เดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วงเพื่อนสนิทก่อนจะโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่สามีหรือก็คือแม่ของหญิงสาวไร้สติเพื่อบอกอาการของเพื่อนสาวโรงพยาบาลรณพีร์พาร่างไร้สติของเพลงพิชชามาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือแค่ทฤษฎีโลกกลมทำให้เป็นโรงพยาบาลที่พงศ์พยัคฆ์ทำงานอยู่และรณพี

    Last Updated : 2025-03-02

Latest chapter

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 สิ่งที่เลือก

    "ถ้าอยากจะแก้ไขความรู้สึกของน้องแพรฉันว่านายควรใช้หัวใจในการแก้ไขไม่ใช่ใช้แต่สมองและการกระทำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริงแต่ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจมันก็สูญเปล่าและอีกอย่างนายควรเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยน้องเขาไปหรือเก็บน้องเขาไว้ข้างตัวนายตลอดไป" คำพูดของปัญญาธรยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของพงศ์พยัคฆ์แม้เจ้าของคำพูดนั้นกลับไปแล้วก็ตาม"เฮ้อ"ร่างสูงสง่าที่นอนราบลงกับที่นอนถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตกก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผากเขาควรทำอย่างไร? นั้นคือสิ่งที่ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นพงศ์พยัคฆ์จึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพแพรวารินทร์นั่งแยกกองหนังสืออยู่ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจหนักๆ เหมือนตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ"แพรวารินทร์พี่มีเรื่องจะพูดด้วยขอเวลาสักนิดได้มั้ย" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่ไม่เย็นชาเหมือนทุกครั้งแพรวารินทร์หันหน้ามามองก่อนจะถามอย่างแปลกใจ"หมอมีอะไรรึเปล่าถ้ามีอะไรจะพูดหมอก็พูดมาเถอะจะได้รีบเก็บของแพรอยากกลับไปหาทรายแล้ว" "แพรวารินทร์เธอคิดยังไงถ้าพ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 ต้องแก้ไขด้วยหัวใจ

    แพรวารินทร์เดินหนีออกจากห้องของชายหนุ่มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งสีขาวข้างลิฟต์เธอพูดมันออกไปแล้วหวังว่าสิ่งที่พูดไปอาจทำให้เธอไม่ต้องจำใจตกอยู่ในสภาพเดิมนะ "หวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้เราได้หลุดออกจากสภาพนี้นะแพรวารินทร์"ในขณะที่ชายหนุ่มได้ใช้ความคิดและได้สำนึกต่อความผิดที่กระทำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นจังหวะดนตรีที่เขาชื่นชอบพงศ์พยัคฆ์ล้วงโทรศัพท์หรูขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มบางๆ เขากำลังอยากระบายให้ใครซักคนที่เข้าใจเขาฟังและคนที่ชายหนุ่มนึกถึงก็โทรศัพท์มาพอดีพงศ์พยัคฆ์กดรับสายแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมาปลายสายก็เอ่ยขึ้นเสียงก่อน"ทำไมรับช้าจังว่ะ" ปัญญาธรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสายพงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษด้วยเสียงเรียบ"โทษทีว่ะนายมีธุระอะไรเปล่า" "ไม่มีไรเที่ยงแล้วฉันเอาข้าวมาให้อยู่ในลิฟต์เดี๋ยวขึ้นไป" ปัญญาธรเอ่ยพร้อมมองตัวเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ"โอเคเเล้วเจอกัน" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แค่นี้เพื่อนรักอย่างปัญญาธรก็พอรู้ว่าคงมีสิ่งที่อยากระบายเป็นแน่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเท่ห์ของศัลยแพทย์หนุ่มก้าวเดินออกมาก่อนสายตาจะหันไปเห็นแพรวารินทร์"น้องแพรมานั่งทำอะไรตรงนี้

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่4 เพิ่งจะคิดได้

    คอนโดมิเนียมxxx"แน่ใจนะหมอว่าที่นี่มีคนอยู่" เสียงเรียบของแพรวารินทร์เอ่ยถามหมอหนุ่มเมื่อเข้ามาในคอนโดฯ ของชายหนุ่มภาพที่เห็นตรงหน้าของแพรวารินทร์คือตำราแพทย์และหนังสืออื่นๆ ที่วางอยู่เกือบทุกที่ในห้องและเหมือนกับถูกหยิบออกมาอ่านแล้ววางทิ้งไว้ไม่เก็บไว้ที่เดิม กองกระดาษสามถึงสี่กองตั้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บนพื้นมีกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งเกลื่อนกลาด บนเพดานและบนพื้นมีฝุ่นจับราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานานพอสมควร จากรูปการณ์เหมือนไม่มีผู้อาศัยมาสักพักแล้ว"ทำไมเธอถึงถามแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม"ของในห้องเหมือนไม่ได้แตะต้องมาสักเดือนได้มั้งฝุ่นก็จับ นอกจากเหมือนไม่มีคนอยู่แล้วแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่" มัณฑนากรสาวเอ่ยบอก"ก็คงงั้นมั้งพี่ไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วจริงๆ " พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน"หมอนี่ก็แปลกไม่กลับบ้านมาเป็นปีๆ ไอ้เราก็นึกว่าขลุกอยู่คอนโดฯ แต่ที่ไหนได้คอนโดฯ ก็ไม่อยู่หมอไปสร้างบ้านอยู่ใต้ดินรึไง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังกองหนังสือต่างๆ ทิ้งให้พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ส่ายหัวเมื่อถู

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่3 คำขอ

    ร่างของเพลงพิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง พราวกะรัตและสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวกลับไปบริษัทก่อน พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้"บ่ายโมงกว่าแล้วพ่อกับแม่ทานข้าวรึยังครับ" ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง"เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่หนูแพรโทรมาซะก่อน หนูแพรทานข้าวรึยังลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมา"ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณอย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว" สิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจเหมือนที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เคยบอกว่าหญิงสาวกลัวความสูญเสียเป็นที่สุดหลังจากสูญเสียผู้ให้กำเนิดไป"ผมว่าพ่อกับแม่ไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก"ก็ดีไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี" สิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของพราวกะรัตกลับเดินไปหาแพรวาร

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่2 เหตุไม่คาดคิด

    บริษัทตกแต่งภายใน"เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้" รณพีร์หรือพีประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังเอ่ยปิดการประชุมเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ"เพลงพิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน" รณพีร์ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว"นั้นสิทรายแก เป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ" แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือเพลงพิชชาหรือทรายมัณฑนากรเพื่อนรักเอามือกุมศีรษะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด"แพรฉันปวดหัวโอ้ยไม่ไหวแล้ว" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดสติไป"คุณพีค่ะรีบพาทรายไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" แพรวารินทร์รีบเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม"โอเค" รณพีร์ตอบตกลงแล้วเดินไปอุ้มร่างของมัณฑนากรสาวที่ตนแอบรักไว้แนบอกแล้วเดินพาร่างบางไปที่รถของตนโดยมีแพรวารินทร์เดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วงเพื่อนสนิทก่อนจะโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่สามีหรือก็คือแม่ของหญิงสาวไร้สติเพื่อบอกอาการของเพื่อนสาวโรงพยาบาลรณพีร์พาร่างไร้สติของเพลงพิชชามาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือแค่ทฤษฎีโลกกลมทำให้เป็นโรงพยาบาลที่พงศ์พยัคฆ์ทำงานอยู่และรณพี

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

    โรงพยาบาล บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ทในชุดsurubs * สีเขียวจะก้าวเดินออกมาและเดินมาทางญาติของคนไข้ "การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น" นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์หรือหมอเสือ ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศเอ่ยบอกญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สร้างความโล่งอกและดีใจให้แก่ญาติได้อย่างดี "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ " หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามี "มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวนะครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยลาก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพแล้วเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้เอ่ยชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอ "หมอเสือคะ เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันค่ะ" เสียงเอ่ยชวนของแพทย์หญิงฟ้ารดาหรือหมอฟ้ากุมารแพทย์สุดน่ารักของโรงพยาบาลเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอ "นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมง มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ " หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทนำ

    ภายในบ้านไม้สีขาวหลังงามที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่าบ้านแสนรักทุกอย่างภายในนั้นเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่มีคนอาศัยอยู่ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้แล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคนอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันและ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้'ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้กันนะ' แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพรวา มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่ทางมุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณ21ปีในชุดสูทครีมขาวในพิธีแต่งงานใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างามดูอ่อนวัยมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้'9ปีแล้วสินะรูปนี้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status