แชร์

บทที่2 เหตุไม่คาดคิด

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-02 14:14:34

บริษัทตกแต่งภายใน

"เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้" รณพีร์หรือพีประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังเอ่ยปิดการประชุมเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ

"เพลงพิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน" รณพีร์ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว

"นั้นสิทรายแก เป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ" แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือเพลงพิชชาหรือทรายมัณฑนากรเพื่อนรักเอามือกุมศีรษะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด

"แพรฉันปวดหัวโอ้ยไม่ไหวแล้ว" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดสติไป

"คุณพีค่ะรีบพาทรายไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" แพรวารินทร์รีบเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม

"โอเค" รณพีร์ตอบตกลงแล้วเดินไปอุ้มร่างของมัณฑนากรสาวที่ตนแอบรักไว้แนบอกแล้วเดินพาร่างบางไปที่รถของตนโดยมีแพรวารินทร์เดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วงเพื่อนสนิทก่อนจะโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่สามีหรือก็คือแม่ของหญิงสาวไร้สติเพื่อบอกอาการของเพื่อนสาว

โรงพยาบาล

รณพีร์พาร่างไร้สติของเพลงพิชชามาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือแค่ทฤษฎีโลกกลมทำให้เป็นโรงพยาบาลที่พงศ์พยัคฆ์ทำงานอยู่และรณพีร์เองก็จงใจที่จะให้ลูกน้องสาวเข้ารับการรักษาจากหมอหนุ่มโดยหารู้ไม่ว่าเพลงพิชชาไม่ประสงค์จะให้หมอหนุ่มรับรู้สิ่งที่ตนเป็นรวมถึงครอบครับและแพรวารินทร์ด้วย

"หมอพงศ์พยัคฆ์ครับช่วยดูอาการของเธอให้หน่อยครับ" รณพีร์ที่เจอกับพงศ์พยัคฆ์ระหว่างทางไปห้องฉุกเฉินรีบเรียกหมอหนุ่มทันที ร่างคุ้นตาในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่บังเอิญรู้จักและร่างคุ้นตาที่เดินตามหลังมาทำให้ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพผมยุ่งๆ แก้มสองข้างมีคราบน้ำตาของน้องสาวเพียงคนเดียว

"เธอบอกว่าปวดหัวครับ แล้วจู่ๆ ก็หมดสติไป" รณพีร์เอ่ยตอบเพราะแพรวารินทร์นั้นอยู่ในสภาพที่ห่วงเพื่อนจนพูดอะไรไม่ออก

"ปวดแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามภรรยาตีทะเบียนที่เขาไม่คิดจะเหลียวมองแต่เหมือนจะไม่ได้คำตอบ

"เท่าที่ผมเห็นก็พักใหญ่แล้วครับ ประมาณสองสามอาทิตย์ได้แต่ไม่รุนแรงจนน้ำตาไหลและหมดสติเหมือนครั้งนี้ คุณแพรๆ คุณใกล้ชิดทรายที่สุดคุณบอกหมอไปซิครับ" รณพีร์เอ่ยตอบก่อนหันไปเรียกสติหญิงสาวที่ยืนด้านหลังเสียงเรียกของรณพีร์ทำให้สติของแพรวารินทร์กลับมาหญิงสาวทบทวนความผิดปกติของเพื่อนก่อนตอบออกมา

"ทรายเป็นมาสักพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ เธอบอกว่าไปหาหมอมาแล้วแค่เครียดมากไปหมอให้ยามากิน แต่หลังจากนั้นเธอยังปวดหัวอีกแล้วเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ปกติเธอนอนเร็วตื่นเช้าแต่พักหลังมานี้เที่ยงคืนเธอยังบอกว่านอนไม่หลับแล้วก็ตื่นสาย" สิ่งที่ได้ยินสร้างความตกใจให้ประสาทศัลยแพทย์อย่างพงศ์พยัคฆ์ไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าน้องสาวจะเป็นแบบนั้น 'คงไม่ใช่' หมอหนุ่มต้านความคิดของตนในใจ

"แล้วมีอาการแขนขาหรือร่างกายส่วนไหนอ่อนแอบ้างไหม" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อหาเสียงตัวเองเจอหญิงสาวได้แต่พยักหน้า

"รามเตรียมทำMRI* ด่วน ส่วนคุณรณพีร์วางเธอลงบนเตียงเราคงต้องสแกนสมอง" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะเดินหายไปในห้องพร้อมร่างของน้องสาว

30นาทีต่อมา

"เสือเป็นไงบ้างลูก" พราวกะรัตเอ่ยถามบุตรชายคนโตทันทีที่ชายหนุ่มออกมาจากห้องหลังจากที่แพรวารินทร์โทรศัพท์มาบอกตนและผู้เป็นสามีอย่างสิงหาก็รีบมาทันทีและได้ทราบหลังจากมาถึงว่าผู้เป็นลูกชายคือหมอที่ทำการวินิจฉัยก็เบาใจได้ ส่วนรณพีร์ที่เพิ่งรู้ว่าหญิงสาวที่ตนแอบรักเป็นน้องสาวของหมอที่เคยผ่าตัดเลือดคั่งให้แก่ผู้เป็นป้าก็โล่งใจที่สาวที่ตนแอบรักอยู่ในมือหมอที่เก่งที่สุดในประเทศ

"ไปคุยกันที่ห้องผมดีกว่าครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของบุตรชายสร้างความไม่สบายใจให้ผู้เป็นพ่อแม่ได้ไม่น้อย แพรวารินทร์กุมมือของแม่สามีและบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจก่อนที่ทั้งสี่จะตามหมอหนุ่มไปในห้องประจำของหมอหนุ่ม

"จากการทำMRI พบว่าหนูทรายมีเนื้องอกในสมองครับและมันก็ขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หนูทรายปวดมาก นี้เป็นผลการตรวจเมื่อสามเดือนก่อนจากโรงพยาบาลแถบชานเมืองผมขอผลมาดูเมื่อกี้ ในระยะเวลา3เดือนขนาดของเนื้องอกใหญ่ขึ้นมากโชคดีที่ไม่ใช่เนื้อร้ายแต่จากขนาดและตำแหน่งของเนื้องอกอันตรายมาก เพราะอยู่ใกล้กับเส้นประสาท ต้องทำการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด และอาจมีผลข้างเคียงหลังผ่าตัดจนสูญเสียความทรงจำระยะสั้นได้ น้องอาจจำเราไม่ได้สักสามเดือนสี่เดือนหรือจนกว่าจะมีอะไรมากระตุ้นความทรงจำหรือไม่ก็ตลอดชีวิต" สิ่งที่หมอหนุ่มพูดสร้างความตกใจและเสียใจให้แก่ผู้ฟังไม่น้อยพงศ์พยัคฆ์ถอนหายใจก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะมากอดปลอบใจมารดาแม้ว่าตนจะไม่ได้กลับบ้านมานานแต่ก็โทรศัพท์หามารดาตลอด

"คิดในแง่ดีสิครับแม่เนื้องอกที่พบไม่ได้เป็นเนื้อร้ายก็ดีแค่ไหนแล้ว" พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ปลอบมารดาที่เอาแต่ร่ำไห้ตรงหน้าของหมอหนุ่มคือมารดาที่ซุกอยู่ในอกแกร่งด้านหลังของผู้เป็นแม่คือภรรยาสาวของตนที่ร้องไห้ไม่มีเสียงสะอื้นอยู่ผู้เป็นบิดาได้แต่โอบลูกสะใภ้ที่อาการแย่เอามากๆ เพราะสิงหารู้ดีหากไม่เสียใจหนักมากลูกสะใภ้จะสะอื้นไห้แต่ถ้าหนักมากจริงๆ หญิงสาวจะเงียบปล่อยให้น้ำตาไหลทะลักดั่งเขื่อนน้ำตาแตกเช่นครั้งนี้มือหนาลูบไล้ปลอบใจลูกสะใภ้ที่ตนรักดั่งลูกสาวอีกคนตลอดเก้าปีที่แพรวารินทร์เข้ามาอยู่ในครอบครัวหญิงสาวไม่เคยร้องไห้ไร้เสียงสะอื้นเช่นวันนี้เลย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่3 คำขอ

    ร่างของเพลงพิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง พราวกะรัตและสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวกลับไปบริษัทก่อน พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้"บ่ายโมงกว่าแล้วพ่อกับแม่ทานข้าวรึยังครับ" ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง"เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่หนูแพรโทรมาซะก่อน หนูแพรทานข้าวรึยังลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมา"ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณอย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว" สิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจเหมือนที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เคยบอกว่าหญิงสาวกลัวความสูญเสียเป็นที่สุดหลังจากสูญเสียผู้ให้กำเนิดไป"ผมว่าพ่อกับแม่ไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก"ก็ดีไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี" สิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของพราวกะรัตกลับเดินไปหาแพรวาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่4 เพิ่งจะคิดได้

    คอนโดมิเนียมxxx"แน่ใจนะหมอว่าที่นี่มีคนอยู่" เสียงเรียบของแพรวารินทร์เอ่ยถามหมอหนุ่มเมื่อเข้ามาในคอนโดฯ ของชายหนุ่มภาพที่เห็นตรงหน้าของแพรวารินทร์คือตำราแพทย์และหนังสืออื่นๆ ที่วางอยู่เกือบทุกที่ในห้องและเหมือนกับถูกหยิบออกมาอ่านแล้ววางทิ้งไว้ไม่เก็บไว้ที่เดิม กองกระดาษสามถึงสี่กองตั้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บนพื้นมีกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งเกลื่อนกลาด บนเพดานและบนพื้นมีฝุ่นจับราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานานพอสมควร จากรูปการณ์เหมือนไม่มีผู้อาศัยมาสักพักแล้ว"ทำไมเธอถึงถามแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม"ของในห้องเหมือนไม่ได้แตะต้องมาสักเดือนได้มั้งฝุ่นก็จับ นอกจากเหมือนไม่มีคนอยู่แล้วแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่" มัณฑนากรสาวเอ่ยบอก"ก็คงงั้นมั้งพี่ไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วจริงๆ " พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน"หมอนี่ก็แปลกไม่กลับบ้านมาเป็นปีๆ ไอ้เราก็นึกว่าขลุกอยู่คอนโดฯ แต่ที่ไหนได้คอนโดฯ ก็ไม่อยู่หมอไปสร้างบ้านอยู่ใต้ดินรึไง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังกองหนังสือต่างๆ ทิ้งให้พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ส่ายหัวเมื่อถู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 ต้องแก้ไขด้วยหัวใจ

    แพรวารินทร์เดินหนีออกจากห้องของชายหนุ่มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งสีขาวข้างลิฟต์เธอพูดมันออกไปแล้วหวังว่าสิ่งที่พูดไปอาจทำให้เธอไม่ต้องจำใจตกอยู่ในสภาพเดิมนะ "หวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้เราได้หลุดออกจากสภาพนี้นะแพรวารินทร์"ในขณะที่ชายหนุ่มได้ใช้ความคิดและได้สำนึกต่อความผิดที่กระทำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นจังหวะดนตรีที่เขาชื่นชอบพงศ์พยัคฆ์ล้วงโทรศัพท์หรูขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มบางๆ เขากำลังอยากระบายให้ใครซักคนที่เข้าใจเขาฟังและคนที่ชายหนุ่มนึกถึงก็โทรศัพท์มาพอดีพงศ์พยัคฆ์กดรับสายแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมาปลายสายก็เอ่ยขึ้นเสียงก่อน"ทำไมรับช้าจังว่ะ" ปัญญาธรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสายพงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษด้วยเสียงเรียบ"โทษทีว่ะนายมีธุระอะไรเปล่า" "ไม่มีไรเที่ยงแล้วฉันเอาข้าวมาให้อยู่ในลิฟต์เดี๋ยวขึ้นไป" ปัญญาธรเอ่ยพร้อมมองตัวเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ"โอเคเเล้วเจอกัน" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แค่นี้เพื่อนรักอย่างปัญญาธรก็พอรู้ว่าคงมีสิ่งที่อยากระบายเป็นแน่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเท่ห์ของศัลยแพทย์หนุ่มก้าวเดินออกมาก่อนสายตาจะหันไปเห็นแพรวารินทร์"น้องแพรมานั่งทำอะไรตรงนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 สิ่งที่เลือก

    "ถ้าอยากจะแก้ไขความรู้สึกของน้องแพรฉันว่านายควรใช้หัวใจในการแก้ไขไม่ใช่ใช้แต่สมองและการกระทำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริงแต่ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจมันก็สูญเปล่าและอีกอย่างนายควรเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยน้องเขาไปหรือเก็บน้องเขาไว้ข้างตัวนายตลอดไป" คำพูดของปัญญาธรยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของพงศ์พยัคฆ์แม้เจ้าของคำพูดนั้นกลับไปแล้วก็ตาม"เฮ้อ"ร่างสูงสง่าที่นอนราบลงกับที่นอนถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตกก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผากเขาควรทำอย่างไร? นั้นคือสิ่งที่ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นพงศ์พยัคฆ์จึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพแพรวารินทร์นั่งแยกกองหนังสืออยู่ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจหนักๆ เหมือนตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ"แพรวารินทร์พี่มีเรื่องจะพูดด้วยขอเวลาสักนิดได้มั้ย" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่ไม่เย็นชาเหมือนทุกครั้งแพรวารินทร์หันหน้ามามองก่อนจะถามอย่างแปลกใจ"หมอมีอะไรรึเปล่าถ้ามีอะไรจะพูดหมอก็พูดมาเถอะจะได้รีบเก็บของแพรอยากกลับไปหาทรายแล้ว" "แพรวารินทร์เธอคิดยังไงถ้าพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-04
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทนำ

    ภายในบ้านไม้สีขาวหลังงามที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่าบ้านแสนรักทุกอย่างภายในนั้นเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่มีคนอาศัยอยู่ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้แล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคนอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันและ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้'ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้กันนะ' แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพรวา มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่ทางมุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณ21ปีในชุดสูทครีมขาวในพิธีแต่งงานใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างามดูอ่อนวัยมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้'9ปีแล้วสินะรูปนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

    โรงพยาบาล บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ทในชุดsurubs * สีเขียวจะก้าวเดินออกมาและเดินมาทางญาติของคนไข้ "การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น" นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์หรือหมอเสือ ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศเอ่ยบอกญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สร้างความโล่งอกและดีใจให้แก่ญาติได้อย่างดี "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ " หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามี "มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวนะครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยลาก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพแล้วเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้เอ่ยชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอ "หมอเสือคะ เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันค่ะ" เสียงเอ่ยชวนของแพทย์หญิงฟ้ารดาหรือหมอฟ้ากุมารแพทย์สุดน่ารักของโรงพยาบาลเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอ "นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมง มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ " หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02

บทล่าสุด

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 สิ่งที่เลือก

    "ถ้าอยากจะแก้ไขความรู้สึกของน้องแพรฉันว่านายควรใช้หัวใจในการแก้ไขไม่ใช่ใช้แต่สมองและการกระทำ การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริงแต่ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจมันก็สูญเปล่าและอีกอย่างนายควรเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยน้องเขาไปหรือเก็บน้องเขาไว้ข้างตัวนายตลอดไป" คำพูดของปัญญาธรยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของพงศ์พยัคฆ์แม้เจ้าของคำพูดนั้นกลับไปแล้วก็ตาม"เฮ้อ"ร่างสูงสง่าที่นอนราบลงกับที่นอนถอนหายใจอย่างคนคิดไม่ตกก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาก่ายหน้าผากเขาควรทำอย่างไร? นั้นคือสิ่งที่ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นพงศ์พยัคฆ์จึงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพแพรวารินทร์นั่งแยกกองหนังสืออยู่ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจหนักๆ เหมือนตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ"แพรวารินทร์พี่มีเรื่องจะพูดด้วยขอเวลาสักนิดได้มั้ย" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่ไม่เย็นชาเหมือนทุกครั้งแพรวารินทร์หันหน้ามามองก่อนจะถามอย่างแปลกใจ"หมอมีอะไรรึเปล่าถ้ามีอะไรจะพูดหมอก็พูดมาเถอะจะได้รีบเก็บของแพรอยากกลับไปหาทรายแล้ว" "แพรวารินทร์เธอคิดยังไงถ้าพ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 ต้องแก้ไขด้วยหัวใจ

    แพรวารินทร์เดินหนีออกจากห้องของชายหนุ่มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งสีขาวข้างลิฟต์เธอพูดมันออกไปแล้วหวังว่าสิ่งที่พูดไปอาจทำให้เธอไม่ต้องจำใจตกอยู่ในสภาพเดิมนะ "หวังว่าสิ่งที่พูดไปจะทำให้เราได้หลุดออกจากสภาพนี้นะแพรวารินทร์"ในขณะที่ชายหนุ่มได้ใช้ความคิดและได้สำนึกต่อความผิดที่กระทำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นจังหวะดนตรีที่เขาชื่นชอบพงศ์พยัคฆ์ล้วงโทรศัพท์หรูขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มบางๆ เขากำลังอยากระบายให้ใครซักคนที่เข้าใจเขาฟังและคนที่ชายหนุ่มนึกถึงก็โทรศัพท์มาพอดีพงศ์พยัคฆ์กดรับสายแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดออกมาปลายสายก็เอ่ยขึ้นเสียงก่อน"ทำไมรับช้าจังว่ะ" ปัญญาธรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสายพงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษด้วยเสียงเรียบ"โทษทีว่ะนายมีธุระอะไรเปล่า" "ไม่มีไรเที่ยงแล้วฉันเอาข้าวมาให้อยู่ในลิฟต์เดี๋ยวขึ้นไป" ปัญญาธรเอ่ยพร้อมมองตัวเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ"โอเคเเล้วเจอกัน" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แค่นี้เพื่อนรักอย่างปัญญาธรก็พอรู้ว่าคงมีสิ่งที่อยากระบายเป็นแน่ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเท่ห์ของศัลยแพทย์หนุ่มก้าวเดินออกมาก่อนสายตาจะหันไปเห็นแพรวารินทร์"น้องแพรมานั่งทำอะไรตรงนี้

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่4 เพิ่งจะคิดได้

    คอนโดมิเนียมxxx"แน่ใจนะหมอว่าที่นี่มีคนอยู่" เสียงเรียบของแพรวารินทร์เอ่ยถามหมอหนุ่มเมื่อเข้ามาในคอนโดฯ ของชายหนุ่มภาพที่เห็นตรงหน้าของแพรวารินทร์คือตำราแพทย์และหนังสืออื่นๆ ที่วางอยู่เกือบทุกที่ในห้องและเหมือนกับถูกหยิบออกมาอ่านแล้ววางทิ้งไว้ไม่เก็บไว้ที่เดิม กองกระดาษสามถึงสี่กองตั้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บนพื้นมีกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งเกลื่อนกลาด บนเพดานและบนพื้นมีฝุ่นจับราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานานพอสมควร จากรูปการณ์เหมือนไม่มีผู้อาศัยมาสักพักแล้ว"ทำไมเธอถึงถามแบบนี้" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม"ของในห้องเหมือนไม่ได้แตะต้องมาสักเดือนได้มั้งฝุ่นก็จับ นอกจากเหมือนไม่มีคนอยู่แล้วแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่" มัณฑนากรสาวเอ่ยบอก"ก็คงงั้นมั้งพี่ไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วจริงๆ " พงศ์พยัคฆ์เอ่ยตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน"หมอนี่ก็แปลกไม่กลับบ้านมาเป็นปีๆ ไอ้เราก็นึกว่าขลุกอยู่คอนโดฯ แต่ที่ไหนได้คอนโดฯ ก็ไม่อยู่หมอไปสร้างบ้านอยู่ใต้ดินรึไง" แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังกองหนังสือต่างๆ ทิ้งให้พงศ์พยัคฆ์ได้แต่ส่ายหัวเมื่อถู

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่3 คำขอ

    ร่างของเพลงพิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง พราวกะรัตและสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวกลับไปบริษัทก่อน พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้"บ่ายโมงกว่าแล้วพ่อกับแม่ทานข้าวรึยังครับ" ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง"เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่หนูแพรโทรมาซะก่อน หนูแพรทานข้าวรึยังลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมา"ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณอย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว" สิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจเหมือนที่พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เคยบอกว่าหญิงสาวกลัวความสูญเสียเป็นที่สุดหลังจากสูญเสียผู้ให้กำเนิดไป"ผมว่าพ่อกับแม่ไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอก"ก็ดีไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี" สิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของพราวกะรัตกลับเดินไปหาแพรวาร

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่2 เหตุไม่คาดคิด

    บริษัทตกแต่งภายใน"เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้" รณพีร์หรือพีประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังเอ่ยปิดการประชุมเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ"เพลงพิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน" รณพีร์ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว"นั้นสิทรายแก เป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ" แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือเพลงพิชชาหรือทรายมัณฑนากรเพื่อนรักเอามือกุมศีรษะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด"แพรฉันปวดหัวโอ้ยไม่ไหวแล้ว" เพลงพิชชาเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดสติไป"คุณพีค่ะรีบพาทรายไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" แพรวารินทร์รีบเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม"โอเค" รณพีร์ตอบตกลงแล้วเดินไปอุ้มร่างของมัณฑนากรสาวที่ตนแอบรักไว้แนบอกแล้วเดินพาร่างบางไปที่รถของตนโดยมีแพรวารินทร์เดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วงเพื่อนสนิทก่อนจะโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่สามีหรือก็คือแม่ของหญิงสาวไร้สติเพื่อบอกอาการของเพื่อนสาวโรงพยาบาลรณพีร์พาร่างไร้สติของเพลงพิชชามาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือแค่ทฤษฎีโลกกลมทำให้เป็นโรงพยาบาลที่พงศ์พยัคฆ์ทำงานอยู่และรณพี

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

    โรงพยาบาล บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ทในชุดsurubs * สีเขียวจะก้าวเดินออกมาและเดินมาทางญาติของคนไข้ "การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น" นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์หรือหมอเสือ ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศเอ่ยบอกญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สร้างความโล่งอกและดีใจให้แก่ญาติได้อย่างดี "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ " หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามี "มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวนะครับ" พงศ์พยัคฆ์เอ่ยลาก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพแล้วเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้เอ่ยชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอ "หมอเสือคะ เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันค่ะ" เสียงเอ่ยชวนของแพทย์หญิงฟ้ารดาหรือหมอฟ้ากุมารแพทย์สุดน่ารักของโรงพยาบาลเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอ "นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมง มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ " หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทนำ

    ภายในบ้านไม้สีขาวหลังงามที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่าบ้านแสนรักทุกอย่างภายในนั้นเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่มีคนอาศัยอยู่ ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้แล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวอีกสองคนอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันและ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้'ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้กันนะ' แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพรวา มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่ทางมุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณ21ปีในชุดสูทครีมขาวในพิธีแต่งงานใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างามดูอ่อนวัยมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้'9ปีแล้วสินะรูปนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status