Share

บทที่2 แพรวารินทร์

last update Last Updated: 2025-03-02 14:14:34

 

เวลาต่อมา

ห้องผ่าตัด

หลังจากรถพยาบาลพาคนเจ็บมาถึงโรงพยาบาลหญิงสาวก็ถูกนำตัวเข้าทำMRIทันทีและผลก็ออกมาว่ามีเลือดคั่งอยู่ในสมองบริเวณจุดสำคัญพอดีจึงถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดทันทีโดยมีพงศ์พยัคฆ์เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด โชคดีที่ไม่มีเนื้องอกอย่างที่พงศ์พยัคฆ์กังวลแต่คนเจ็บก็มีเลือดคั่งมาก่อนหน้านี้แล้ว

“การผ่าตัดครั้งนี้อันตรายมากเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษขอให้ทุกคนอย่าประมาท เอาล่ะก่อนอื่นเราจะเปิดกะโหลกเพื่อระบายเลือดที่คั่งออกทุกคนพร้อม” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นทุกคนพยักหน้าก่อนที่การผ่าตัดจะเริ่มขึ้นอย่างระมัดระวังจนกระทั่งสิ้นสุดการผ่าตัด ร่างอันเหนื่อยล้าก้าวออกจากห้องผ้าตัดก่อนที่จะพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยล้าและโล่งใจ

“เป็นไงบ้างวะเสือ ปลอดภัยแล้วใช่มั้ย” ปัญจวัตรเอ่ยถามเพื่อนรักหลังจากให้การกับตำรวจเท่าที่เห็นและพาเด็กน้อยที่ดูท่าจะหิวไปทานข้าวเพราะตนกับกุมารแพทย์สาวก็ทานไปได้ไม่ถึงสามคำก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อนจากนั้นชายหนุ่มจึงขับรถกลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับฟ้ารดาและเด็กหญิงตัวน้อยที่หยุดร้องไห้แล้ว

หมอหนุ่มพยักหน้าก่อนที่จะสอบถามถึงการติดต่อญาติคนไข้ “ปลอดภัยแล้วการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีแล้วมีญาติมารับแม่หนูนี่รึยัง”

“เดี๋ยวพ่อของน้องน้ำก็คงมา”ปัญจวัตรเอ่ยบอก คำตอบสั้นๆ ของปัญจวัตรทำให้เพื่อนหนุ่มทำหน้างุนงงพร้อมกับพูดออกมา “น้องน้ำ?”

“ใช่น้องเขาชื่อน้องน้ำแล้วบังเอิญมากว่ะ น้องน้ำเป็นลูกไอ้ไมค์” ปัญจวัตรเอ่ยไขข้อสงสัยของเพื่อนรักในตอนที่ตนหยิบโทรศัพท์ของคนเจ็บขึ้นมาจะโทรหาคนรู้จักได้เห็นรูปของหญิงสาวกับชายหนุ่มที่รู้จักอุ้มเด็กหญิงอยู่พอฟ้ารดาเอ่ยถามเด็กน้อยก็บอกว่าเป็นคุณพ่อทำให้ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาโทรอย่างไม่ลังเล

“ลูกไอ้ไมค์เหรอเนี่ย...สวัสดีครับน้องน้ำ อาชื่อเสือนะอาเป็นเพื่อนกับพ่อของหนูตอนนี้แม่หนูปลอดภัยแล้วนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแก่เด็กน้อยที่เพิ่งรู้ว่าเป็นลูกเพื่อนสนิทอีกคนแต่เพราะตนและปัญจวัตรเรียนแพทย์ส่วนพิชัยพลหรือไมค์นั้นเรียนวิศวะฯ ทำให้ห่างกันไปจนกระทั่งได้ข่าวว่าเพื่อนสนิทแต่งงานและมีลูกแล้วแต่เพราะงานและหลายๆ เรื่องทำให้ทั้งสามไม่ได้ติดต่อกันแม้มีเบอร์โทร

ในขณะพงศ์พยัคฆ์มองหนูน้อยอย่างเอ็นดูอยู่นั้นร่างของพิชัยพลก็เดินเข้ามา

“เสือ นุชเป็นไงบ้างวะ” พิชัยพลรีบตรงมาหาเพื่อนสนิททันทีพร้อมกับตำรวจที่มาสอบปากคำ ชายหนุ่มผู้มาใหม่รีบรับลูกสาวไปอุ้มและปลอบทันทีขณะที่พงศ์พยัคฆ์มองภาพนั้นอย่างเอ็นดูและชื่นชมในบรรยากาศของพ่อลูกก่อนจะตบไหล่เพื่อน

“ปลอดภัยแล้วอีกสองสามวันคงฟื้น”

“เกิดอะไรขึ้นวะ” พิชัยพลเอ่ยถามอย่างสงสัย ตอนที่รู้เรื่องเขาตกใจจนแทบตั้งสติไม่ได้ พอได้สติก็รีบมุ่งตรงมาทันทีด้วยความห่วงลูกและภรรยา

“เมียนายขับย้อนศรแล้วรถก็ชนประสานงากับรถของคู่กรณีที่ขับมาด้วยความเร็วเกินกำหนด” พงศ์พยัคฆ์ที่เห็นเหตุการณ์เต็มสองตาเอ่ยบอกเพื่อนและนายตำรวจที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

นายตำรวจหนุ่มฟังแล้วขมวดคิ้วเพราะจากคำให้การของคู่กรณีไม่ตรงกับที่หมอหนุ่มพูดจนต้องเอ่ยถามขึ้น “ขอโทษนะครับคุณเห็นเหตุการณ์รึเปล่าเพราะคู่กรณีของคุณนุชตรีญาบอกว่าเขาขับตามกฎหมายกำหนดแต่คุณนุชตรีญาขับย้อนศรมาด้วยความเร็ว”

“ผมนั่งทานข้าวอยู่ที่ร้านหน้าจุดเกิดเหตุหันหน้าเข้าทางถนนจุดที่ชนก็หน้าร้านพอดี รถคันนั้นขับมาด้วยความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนรถของนุชตรีญาขับย้อนศรมาไม่เร็วมาก แล้วก็นะคุณตำรวจฝ่ายคู่กรณีไม่ได้เป็นอะไรมากแต่คุณนุชตรีญาถูกชนจนศีรษะไปกระแทกกับอะไรบางอย่างจนหัวแตก เลือกออกทางจมูกความน่าจะเป็นมันเป็นได้มากกว่าว่ารถของคุณนุชตรีญาถูกชนกระแทกอย่างแรงนะครับ หรือถ้าคุณตำรวจไม่เชื่อที่ผมพูดตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้านได้นะผมจำได้ว่าตอนเข้าไปผมเห็นอยู่” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแก่นายตำรวจหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบและเยือกเย็นหลังจากนายตำรวจหนุ่มพูดเป็นนัยๆ ว่าตนพูดเข้าข้างภรรยาของเพื่อนสนิท

นายตำรวจหนุ่มได้แต่นิ่งไปก่อนที่ลูกน้องจะโทรศัพท์เข้ามาบอกสิ่งที่เห็นในกล้องวงจรปิดของทางร้านซึ่งตรงกับที่ศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยบอกจนต้องกล่าวขอโทษขอโพย

“ผมต้องขอโทษจริง ๆ นะครับที่พูดเหมือนกับว่าคุณหมอปกป้องเพื่อนเพราะคู่กรณีเป็นลูกชายคนใหญ่คนโตทำให้ผมเชื่อว่าฝั่งคุณผิดไปก่อนจะเห็นหลักฐาน”

“งั้นก็สรุปว่าผิดทั้งคู่แต่ผิดคนละอย่างใช่มั้ยครับ” พิชัยพลเอ่ยถาม

“ใช่ครับผิดทั้งคู่แต่ผิดคนละกระทง คงต้องเรียกมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาและเสียค่าปรับและดำเนินการตามความผิดครับ คงต้องรอให้คุณนุชตรีญาหายดีแล้วค่อยเข้าพบเจ้าพนักงานนะครับ”

“ขอบคุณครับ ขอบใจนายด้วยว่ะเสือถ้าไม่ได้นายแล้วก็อีกสองคนช่วยฉันคงเสียนุชกับน้องน้ำไป” พิชัยพลเอ่ยขอบคุณนายตำรวจหนุ่มก่อนหันมาขอบคุณเพื่อนที่เข้าไปช่วยไว้ทัน

“เปลี่ยนคำขอบใจเป็นเลี้ยงข้าวได้ป่ะไอ้เสือมันยังไม่ได้กินอะไรเลยคำแรกกำลังจะเข้าปากดังโครมซะก่อนดีนะก่อนมาเนี่ยฉันแวะพาน้องน้ำกับหมอฟ้าทานข้าวก่อนไม่งั้นละก็แย่แน่” ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นเพราะจำได้ว่าเพื่อนรักยังไม่ได้ทานอะไร

“งั้นฉันเลี้ยงข้าวนายแล้วกันไอ้เสือแล้วก็เลี้ยงกาแฟนายกับคุณหมอคนนี้ด้วยไอ้ปัญจ์ ตอบแทนที่ช่วยดูแลน้องน้ำให้ ไปกัน” พิชัยพลเอ่ยบอกและชวนทั้งสามไปทานข้าวที่ร้านของผู้เป็นพี่สาวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล

“คราวนี้อย่าให้มีเหตุแบบเมื่อกี้อีกแล้วกัน สัญชาตญาณของหมอจะได้ไม่ต้องทำลายการทำงานของกระเพาะอาหารโรคกระเพาะจะได้ไม่ถามหา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยอย่างขำขันทว่าใบหน้าเฉยชาก่อนเดินตามเพื่อนสนิทไปติดๆ ตามด้วยสองหนุ่มสาวที่เดินตามหลังไป

อีกฟากหนึ่ง

ร่างบางที่คล่องแคล้วกระฉับกระเฉงปลายสายตามองเวลาที่ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ ด้วยความนิ่งสงบ เธอไม่ขยับตัวไปไหนเลยราวกับว่าได้กลายเป็นรูปปั้นไปแล้วท่าทีของเธอทำให้บรรดาคนรับใช้ที่พากันยืนเรียงอยู่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแขกของเจ้านายถึงกับพูดไม่ออก

คงไม่มีใครที่ไหนนั่งนิ่งได้เท่าเธอคนนี้หลังจากที่รอมากว่า3ชั่วโมง...เธอคนนี้ทำได้ยังไงกัน?

“เอ่อ...คุณรับเครื่องดื่มอะไรเพิ่มมั้ยคะ?” มาลี หญิงชราวัยหกสิบเศษผู้เป็นหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยถามขณะที่สายตายังคงจ้องมองร่างบางด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือความรู้สึกทึ่งที่อีกฝ่ายสามารถนั่งนิ่งได้ขนาดนี้ทั้งที่เจ้านายของพวกเธอให้รอนานกว่า3ชั่วโมง...จะหลุดด่าออกมาสักคำก็ไม่มี น่าทึ่งจริง ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่น้ำเปล่าแก้วนี้ก็พอแล้ว” แพรวารินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพไร้ซึ่งความถือตัวก่อนจะนิ่งเงียบคล้ายจมอยู่กับตัวเองอีกครั้ง แม้ท่าทีที่แสดงออกจะไม่ต่างอะไรกับรูปปั้นหินทว่าภายในใจของหญิงสาวนั้นเดือดดาลอยู่ไม่น้อย เธอไม่มีปัญหากับการต้องรอลูกค้า แต่การที่ลูกค้าปล่อยให้รอทั้งที่เป็นคนนัดเวลาเองแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการกลั่นแกล้งและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกค้าคนนี้กลั่นแกล้งเธอ

เป็นครั้งที่3แล้วที่เธอต้องมาที่นี่เพราะลูกค้าคนพิเศษของบริษัทอยากจะปรับแก้แบบร่างที่เธอนำเสนอ ครั้งแรกเขาพอใจ แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ ครั้งที่สองเขาบอกว่าไม่พอใจ แต่จะไม่เอาแบบแรก ให้เธอแก้อีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็บอกว่าอยากลองดูแบบแรกดูอีกครั้ง...ช่างเป็นลูกค้าที่เรื่องมากจนไม่อยากจะเสวนาพาที

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกค้าที่มองอย่างไรเธอก็ปลื้มไม่ลงเธอก็ไม่อาจจะแสดงท่าทีอะไรออกไปได้ แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็เป็นคนที่เก็บอารมณ์ความรู้สึกได้ดีอยู่แล้วหญิงสาวจึงรู้ดีว่าไม่ควรแสดงออกท่าทีไม่พอใจ และถึงแม้จะอยากแสดงออกสักเพียงใดก็คงทำไม่ได้

ทำไมน่ะเหรอ?...ก็ลูกค้าพิเศษคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับบอสของเธออย่างไรล่ะ

เพราะเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องเรื่องมากของบอสใหญ่เธอจึงทำให้ทุกอย่างพังไม่ได้ ทำได้เพียงแค่อดทนเท่านั้น เพราะถ้าขืนเธอทำมันพังคนที่ต้องเข้ามาดูแลแทนก็คือพิมพ์พิชชาเพื่อนสนิทของเธอ คนที่ทั้งบริษัทยกให้เป็นยัยตัวแสบประจำบริษัท

เธอจะไม่ยอมให้ยัยตัวแสบมาที่นี่แน่ ๆ ล่ะ...ดังนั้นเธอจึงต้องอดทนและแสดงออกให้มากที่สุดว่าไม่สะทกสะท้าน คนขี้แกล้งจะได้หยุดแกล้งสักที

กริ๊ง ๆ

ตาคู่หวานมองไปยังหน้าจอสมาร์ทโฟนที่เธอวางไว้บนโต๊ะก่อนจะหยิบขึ้นมารับสายทันทีที่รู้ว่าปลายสายคือใคร

“ค่ะแม่พราว แพรยังอยู่บ้านลูกค้าเลยค่ะ”

“อ้าว!!! ยังไม่เสร็จงานเหรอลูก ไหนว่าบ่ายนี้มีแค่นัดพบลูกค้าคนเดียวไง” ปลายสายอย่างคุณหญิงพราวกะรัตซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่สามีของคู่สายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอื้อเอ็นดูและแปลกใจ แพรวารินทร์ลอบถอนใจก่อนจะตอบไป

“ลูกค้าติดธุระด่วนน่ะค่ะ ก็เลยต้องรอ แม่พราวไปก่อนก็ได้นะคะ เสร็จงานแล้วแพรจะรีบตามไปค่ะ”

“ไม่ต้องรีบก็ได้ลูก ไว้หนูเสร็จงานแล้วกลับบ้านเปลี่ยนชุดเรียบร้อยเราค่อยไปพร้อมกันก็ได้ งานนี้แม่บอกแล้วไงว่าแม่จะควงหนูไป จะให้แม่ไปก่อนได้ยังล่ะ” ปลายสายตอบกลับมาอย่างไม่ยินยอมกับสิ่งที่แพรวารินทร์เสนอ หญิงสาวหลุดยิ้มเมื่อนึกขึ้นมาได้ งานที่แม่สามีพูดถึงก็คืองานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนสนิทของคุณหญิงพราวกะรัตที่โทรศัพท์มารบเร้าให้คุณหญิงพราวกะรัตพาเธอไปด้วยให้ได้เพราะว่าลูกสาวของอีกฝ่ายนั้นอยากจะปรึกษาเธอเรื่องการรีโนเวทบ้าน เมื่อเพื่อนรบเร้ามาคุณหญิงพราวกะรัตจึงตอบตกลงไปและยังบอกอีกว่าจะควงเธอไปโชว์ให้ทุกคนได้เห็นเป็นบุญตาเสียอีกด้วย...ถ้าไม่ควงเธอไปจริง ๆ ก็คงจะขายหน้าแย่ จะทำให้แม่สามีที่รักเธอเหมือนลูกสาวแท้ ๆ เสียหน้าได้ยังไงกันล่ะ

“งั้นแม่พราวรอแพสักแป๊บนะคะ แพรจะรีบกลับไปให้ทันค่ะ”

“ได้จ้ะ แม่จะรอนะ” ปลายสายตอบกลับเพียงเท่านั้นการสนทนาก็ยุติ แพรวารินทร์เก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าก่อนจะมองดูเวลาอีกครั้งและหันไปยังแม่บ้านวัยชรา “รบกวนคุณแม่บ้านช่วยโทรศัพท์ถามคุณทอมให้หน่อยได้มั้ยคะว่าเขาสะดวกคุยงานกับดิฉันรึเปล่า ถ้าวันนี้ไม่สะดวกจะได้นัดเวลากันใหม่”

“เอ่อ... สักครู่นะคะคุณ” มาลีรับคำก่อนจะหายไปโทรศัพท์หาคนเป็นเจ้านาย เพียงไม่นานก็กลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

“เขาว่ายังไงคะคุณแม่บ้าน?”

“คือ...คือว่า เอ่อ คุณทอมเธอกำลังจะขึ้นเครื่องไปตรวจโครงการที่ฮ่องกงน่ะค่ะ เธอบอกให้คุณมัณฑนากรกลับไปก่อนได้เลย เธอกลับมาจะนัดคุยอีกทีค่ะ”

หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่งกับคำตอบที่ได้รับทว่าไม่มีท่าทีไม่พอใจแสดงออกมาให้ใครได้เห็น แพรวารินทร์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ราวกับไม่ได้เพิ่งพบเจอกับเรื่องชวนโมโห “อย่างนั้นเหรอคะ โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” 

แพรวารินทร์เดินออกไปลับตาแล้วทว่ามาลียังคงมองตามอย่างนึกชื่นชมในความอดทนของอีกฝ่าย “น่าทึ่งจริง ๆ”

“นั่นน่ะสิป้า นอกจากคุณปรียาก็มีคุณมัณฑนาการคนนี้ล่ะที่ทนต่อการกลั่นแกล้งของคุณทอมได้” มารินีหลานสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากมาลีเอ่ยแสดงความคิดเห็นก่อนจะหันกลับไปเก็บแก้วน้ำ มาลีฟังคำของหลานแล้วก็ขบคิด น่าทึ่งที่มัณฑนากรสาวไม่แสดงกิริยาไม่พอใจออกมาเลยแต่ก็ใช่ว่าจะมีเพียงหญิงสาวที่พบเจอการกลั่นแกล้งของเจ้านายบ้านนี้แล้วยังทนได้ ยังมีอีกคนที่ทนได้และน่าแปลกที่ทั้งคู่ดูคล้ายกันมาก แม้จะไม่เหมือนกันซะทีเดียวก็ตาม...หวังว่าเธอคนนี้คงไม่ถูกดึงเข้ามาเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งอีกคนนึงของเจ้านายบ้านนี้นะ

“ตายแล้วป้า คุณมัณฑนากรเธอลืมของไว้”

“อะไรล่ะ?”

“เหมือนจะเป็นสมุดโน๊ตนะป้า ทำยังไงดีป้า เธอกลับไปแล้วด้วยสิ” มารินีถามอย่างกังวลใจ มองดูก็พอจะรู้ได้ว่าสมุดโน๊ตนี้เป็นของสำคัญสำหรับมัณฑนากรสาว เธอและคนเป็นป้าก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวเป็นใครมาจากไหนจะส่งของคืนคนก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปคืนที่ไหน

“เอามาให้ป้า เดี๋ยวคุณทอมมาป้าจะเอาให้คุณทอม ให้คุณทอมเอาไปฝากคุณพีร์คืนให้”

“แต่เมื่อกี้ป้าว่า...”

“คุณทอมเธอให้ป้าบอกคุณมัณฑนากรไปแบบนั้น กำหนดไปฮ่องกงน่ะพรุ่งนี้”

“อ้าวป้า ทำไมคุณทอมทำแบบนี้ล่ะ” คนเพิ่งรู้ความจริงรู้สึกทั้งตกใจทั้งนึกไม่พอใจแทนคนโดนแกล้งเอ่ยพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ “ทำไมคุณทอมถึงได้กลายเป็นคนใจร้ายแบบนี้ คุณมัณฑนากรเธอรอตั้งนาน น่าสงสารเธอจริง ๆ”

“เงียบไว้เถอะนา ถึงแกจะโตมาพร้อมคุณทอม และคุณทอมเห็นแกเป็นเพื่อนแต่อย่าลืมว่าคุณทอมเธอเป็นเจ้านาย แล้วก็พ่อแม่ของเธอมีบุญคุณส่งเสียเลี้ยงดูแกให้แกได้เรียน ได้มีความรู้ติดตัว จะว่าอะไรเธอก็คิดถึงข้อนี้บ้าง”

“ไม่รู้ด้วยแล้ว แต่ถ้าครั้งหน้าคุณมัณฑนากรโดนแกล้งอีกรินีจะฟ้องคุณปรียา คุณทอมรักคุณปรียา คุณปรียาต้องช่วยคุณมัณฑนากรได้แน่ ๆ”

“ฉันก็หวังว่าคุณทอมเธอจะไม่เอาคุณมัณฑนากรมาประชดลองใจคุณปรียาจนผู้หญิงสองคนต้องผิดใจกันนะ” มาลีเอ่ยก่อนจะหยิบสมุดโน๊ตมาจากมือหลานสาวและเดินจากออกไปทิ้งความงุนงงไว้ให้หลานสาววัยสามสิบเศษที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่คนเป็นป้าคิด แต่ถึงจะไม่เข้าใจแต่มารินีก็รู้สึกชื่นชอบมัณฑนากรสาวเป็นอย่างมาก หมายมาดว่าถ้ามัณฑนากรสาวโดนแกล้งครั้งต่อไปเธอจะต้องช่วยให้ได้

หลายคนหลายความคิด มารินีและมาลีมีความคิดของตัวเอง แพรวารินทร์เองก็มีความคิดเป็นของตัวเอง หญิงสาวไม่ได้มุ่งตรงกลับบ้านในทันทีที่ออกมาจากบ้านลูกค้าระดับvipทว่าเธอขับรถมาจอดยังสวนสาธารณะของหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของบ้านสัตยบดินทร์...ที่ตรงนี้เป็นสถานที่ที่เธอมาเสมอเมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ หรือไม่พอใจ

เธอปล่อยทุกอารมณ์ความรู้สึกทิ้งไว้ที่นี่และกลับไปที่บ้านสัตยบดินทร์ด้วยรอยยิ้มเสมอไม่ว่าจะเจอะเจออะไรข้างนอกก็ตาม...ไม่ว่าจะไม่สมอารมณ์แค่ไหนก็จะไม่แสดงกิริยาอาการให้คนที่รักเธอเหมือนลูกไม่สบายใจเป็นอันขาด

ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าครั้งนี้โดนกลั่นแกล้งแต่เธอก็ไม่คิดที่จะโวยวายอะไรเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นแล้วเรื่องนี้ถือว่าจิ๊บจ๊อยไปเลยเธอถึงไม่คิดถือสาอะไร...เทียบกับการได้ยินคนนินทาระยะเผาคนเรื่องพงศ์พยัคฆ์แล้วมันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเลยล่ะ

ร่างบางนั่งลงบนชิงช้าที่ว่างอยู่แกว่งไปมาพร้อมกับเหม่อมองไปยังท้องฟ้าที่มีนกฝูงใหญ่กำลังบินกลับรังกันอย่างไร้อุปสรรค “เป็นนกนี่ดีจังเนาะ อยากไปไหนทำอะไรก็ได้มีอิสระเป็นของตัวเอง ดูมีความสุขซะจริง”

ทันทีที่พูดจบร่างบางก็ขยับลุกขึ้นและเดินกลับไปที่รถในทันทีโดยไม่ได้มองเลยว่าชิงช้าตัวข้าง ๆ ที่มีคนนั่งหันไปฝั่งตรงข้ามกับเธออยู่ก่อนหน้าที่เธอจะนั่งนั้นเป็นใคร...แพรวารินทร์ไปแล้วทว่าชายหนุ่มที่ได้ยินคำรำพึงรำพันของหญิงสาวนั้นยังอยู่

เขาไม่ใช่ใครที่ไหน นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์นั้นเอง ในทุก ๆ วันก่อนกลับบ้านเขามานั่งคิดอะไรที่นี่เสมอแต่วันนี้เขาได้กลับบ้านเร็วกว่าทุกวันอันเนื่องมาจากไม่มีธุระที่ไหนต่อชายหนุ่มจึงได้ยินถ้อยคำที่ฟังแล้วรู้สึกสะเทือนไปทั้งใจ แม้จะไม่ได้หันไปมองแต่แค่เสียงเขาก็จำได้ดีว่าใคร...ภรรยาตามกฎหมายของเขาอย่างไรล่ะ

พงศ์พยัคฆ์นิ่งคิดด้วยความรู้สึกที่หลากหลายไม่เคลื่อนไหวไปไหน กว่าจะสลัดความคิดสับสนได้และคิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้เขาสัญญากับคนเป็นแม่ไว้ว่าจะรีบกลับและไปงานกับท่านฟ้าก็มืดเสียแล้ว...คุณหญิงพราวกะรัตควงแขนลูกสะใภ้ไปงานกันแค่สองคนโดยไม่รอเขาเสียแล้ว

พงศ์พยัคฆ์อาจจะยังคิดไม่ตกทว่าเรื่องของโชคชะตานั้นคนบนฟ้าได้กำหนดเอาไว้แล้วและเรื่องราวบทสรุปของเขาและภรรยาในนามที่ไม่รู้ว่าควรจะดำเนินไปในทิศทางไหนก็กำลังจะดำเนินไปตามที่คนบนฟ้าได้กำหนดเอาไว้แล้วโดยที่เขาและเธอไม่ทันรู้ตัว...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่3 เหตุไม่คาดคิด

    วันต่อมา...บริษัทตกแต่งภายในเกตรัตนากรณ์ภายในห้องประชุมที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามละลานตาการประชุมอันเคร่งเครียดกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นก่อนที่จะหยุดลงเมื่อใบหน้าของบุคคลที่นั่งอยู่หัวโต๊ะดูเคร่งเครียดผิดปกติ“เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้” รณพีร์ เกตรัตนากรณ์หรือบอสพีร์ประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังแห่งนี้เอ่ยปิดการประชุมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ“พิมพ์พิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน?” รณพีร์เอ่ยด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่คนอื่น ๆ ในห้องประชุมออกไปแล้วเหลือเพียงคนที่เขาถามไถ่และเพื่อนสนิทของเธอ ชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้วจนอดเป็นห่วงไม่ได้“นั่นสิทราย แกเป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ” แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือพิมพ์พิชชาเพื่อนรักผู้พ่วงตำแหน่งน้องสาวสามีที่ยกมือนวดคลึงขมับอยู่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี“ไม่เป็นไรหรอก แค่ปวดหัวนิดหน่อยเอง” พิมพ์พิชชาเอ่ยพร้อมยิ้มส่งให้เพื่อนรักทั้งที่อาการปวดหัวอย่างหนักกำลังเล่นงานเธออยู่ “เลิกประชุมแล้ว งั้นเราไปหาลูกค้ากันเถอะแ

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่4 เงื่อนไข

    ร่างของพิมพ์พิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง คุณหญิงพราวกะรัตและคุณสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวไปกลับก่อนเพราะมีนัดกับลูกค้า พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้“บ่ายโมงกว่าแล้ว แม่ทานข้าวรึยังครับ” ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง“เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่แพรโทรมาซะก่อน อะ แล้วแพรทานข้าวรึยังลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมาเท่านั้น“ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณหญิง อย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว” คุณสิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจไม่น้อยเลย เพราะนอกจากคุณตาแล้วพิมพ์พิชชานี่ล่ะคือคนสำคัญของแพรวารินทร์“ผมว่าแม่กับพ่อไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์”“ก็ดี ไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี” คุณสิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของคุณหญิงพราวกะรัตกลับเดินไปห

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่5 เขาคนนั้นกับความเข้าใจที่คาดเคลื่อน

    เช้าวันแรกของการนอนโรงพยาบาลของพิมพ์พิชชาไม่ได้สดใสนัก...ออกจะอึมครึมพิกลเสียด้วย“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าน้องทรายจะเป็นหนักได้ขนาดนี้...แสดงว่าพี่ชายไม่เก่งจริงนี่น่า” น้ำเสียงที่แสดงออกต้องการแขวะพี่ชายของคนไข้ของชายหนุ่มในชุดลายพรางพาให้พิมพ์พิชชาพาลหายใจไม่ออกขึ้นมากะทันหันมือบางสะกิดให้แพรวารินทร์ช่วยทำอะไรสักอย่างแต่เพื่อนสาวกลับไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย...แพรวารินทร์มัวแต่ปอกผลไม้อยู่ไม่ได้มองอะไรเลย“เก่งไม่เก่งถึงเวลาคุณต้องผ่าตัดแล้วผมเป็นหมอเจ้าของไข้คุณจะรู้เอง...อยากลองมั้ยล่ะ” พี่เสือของหญิงสาวก็ไม่ได้ปล่อยให้มีใครมาแขวะอยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน...นี่ล่ะที่ทำให้หายใจไม่ออกไม่รู้ไปเกาเหลากันเมื่อไร่นะคู่นี้...เฮ้อ หนักใจ“พี่เมฆกับพี่เสือนี่ตลกดีเนาะ ฮะฮะ เอ่อ แล้วนี่พี่เมฆรู้ได้ยังไงคะว่าทรายอยู่โรงพยาบาล” พิมพ์พิชชาทำลายบรรยากาศมาคุด้วยการสอบถามชายในชุดลายพรางพงศ์พยัคฆ์เบือนหน้าหนีทันทีราวกับไม่อยากจะมองหน้าคนอุตส่าห์มีน้ำใจมาเยี่ยมน้องสาวของเขา เขารู้จักผู้ชายคนนี้ดี เขาคนนี้ไงล่ะคนที่อยู่ในดวงใจของแพรวารินทร์ ผู้ชายแสนดีที่ชื่อ...เมฆา“พี่โทรหาน้องแพรว่าจะ

    Last Updated : 2025-03-02
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่6 ใช้หัวใจแก้ไข

    ร่างสูงที่ควรจะเฝ้าน้องหรือไม่ก็ทำงานกลับมานั่งซึมอยู่ในห้องของเพื่อนสนิทที่นั่งนิ่งไม่ทักท้วงอะไร พงศ์พยัคฆ์นั่งนิ่งอยู่นานทว่าเพื่อนหนุ่มก็ไม่ถามอะไรสักทีในที่สุดชายหนุ่มก็ต้องสอบถามออกไป“จะไม่ถามหน่อยเหรอ?”“หึ...ไม่ล่ะ เดี๋ยวอยากบอกนายก็บอกพูดเองแหละ ฉันรู้” ปัญจวัตรเอ่ยบอกพร้อมกับยักไหล่ ไอ้หมอนี่คิดว่าเขาเป็นเพื่อนมากี่ปีนะถึงได้คิดว่าเขาไม่รู้จักมันดี เขารู้จักพงศ์พยัคฆ์ดีถ้าอยากพูดชายหนุ่มจะพูดเอง แต่ถ้าไม่อยากจะพูดถามให้ตายก็ไม่พูด...นี่คือสิ่งที่เขารู้หลักจากคบกันมาจวนเจียนจะเข้าปีที่30“ฉัน...” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยหลังจากที่นั่งนิ่งมาสักพัก “เข้าใจมาตลอดว่าหนูแพรรักนายเมฆ”“อันนี้ฉันรู้”“แต่ความจริงแล้วฉันเข้าใจผิดว่ะ...หนูแพรปฏิเสธนายเมฆไปแล้ว ฉันเข้าใจผิดมาตลอด”“อันนี้ฉันก็เคยบอกนาย แต่นายไม่เชื่อ นายบอกว่านายได้ยินมากับหู” ปัญจวัตรเอ่ยแล้วก็ร้องเหอะออกมา...เขาเคยพูดแล้วว่าเข้าใจผิด ไงล่ะ ไม่เชื่อเขาดีนัก“9ปี...ไม่ใช่เวลาน้อย ๆ เลย ฉัน...โคตรเลวเลยว่ะ”“เออ...เลว” ปัญจวัตรไม่ใช่เพื่อนประเภทที่ดีแต่ปลอบใจ ชายหนุ่มพูดอย่างตรงไปตรงมาก่อนจะเดินมานั่งข้าง ๆ “แต่โจรยังกลับใจได้ นั

    Last Updated : 2025-03-04
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่7 แบบนี้เรียกจีบหรือเปล่า?

    ภาพคุณหมอหนุ่มที่คุ้นหน้าเดินจับมือหญิงสาวแสนสวยออกจากห้องทำงานเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับบุคลากรในโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะไม่มีใครเคยเห็นคุณหมอหนุ่มทำแบบนี้มาก่อนถึงได้รู้สึกแปลกตาและแปลกใจเป็นอย่างมากและหนึ่งในนั้นก็คือฟ้ารดาที่กำลังจะกลับบ้าน ภาพที่เห็นนอกจากสร้างความแปลกใจให้เธอแล้วยังสร้างความเสียใจให้เธออีกด้วย กุมารแพทย์สาวทอดสายตามองคนที่เธอรู้สึกพิเศษจนลับตาพลางขบคิดว่าเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกัน...คนรู้จักกันธรรมดาไม่จับมือถือแขนกันอย่างนั้นเป็นแน่“มองไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะหมอฟ้า หมอเสือเขากำลังนอกใจเธอชัดๆ” เสียงพยาบาลสาวขี้อิจฉาเอ่ยขึ้น นางพยาบาลสาวไม่ชอบฟ้ารดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเยาะเย้ยและเสี้ยมกุมารแพทย์สาวในทางที่ผิด ฟ้ารดาหันหน้ามามองพยาบาลสาวก่อนจะเดินหนีอย่างไม่สนใจสร้างความโมโหให้พยาบาลสาวอย่างมากจนเผลอคิดในใจอย่างโกรธแค้น‘ฉันจะทำให้เธออับอายให้ได้ฟ้ารดา หมอเสือเขากำลังนอกใจเธอแบบนี้คงเจ็บไม่น้อยฉันจะทำให้เรื่องนี้รู้ไปทั่วโรงพยาบาลเลย’ด้านคนถูกมองว่านอกใจทั้งที่ไม่เคยคบยังคงจับมือมัณฑนากรสาวไม่ยอมปล่อยทั้งที่สาวเจ้าสะบัดก็แล้วจนในที่สุดแพรวารินทร์ก็หยุด

    Last Updated : 2025-03-10
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่8 ปลอบหรือซ้ำเติม

    ลานจดรถโรงพยาบาลรักษ์บดินทร์ร่างสูงเท่ห์เดินมาถึงลานจอดรถก่อนจะหันไปเห็นรถของกุมารแพทย์สาวยังจอดอยู่ทั้งที่เลยเวลาเลิกงานของเธอมาสักพักแล้วปัญจวัตรมองด้วยใบหน้าฉงนก่อนที่ร่างสูงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้แล้วเคาะประตูรถร่างบางในรถลดกระจกลงก่อนจะหันมามอง“ยังไม่กลับเหรอหมอฟ้า”“ฉันจะกลับไม่กลับก็เรื่องของฉัน” กุมารแพทย์สาวเอ่ยบอกพลางเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม“หมอฟ้า คุณร้องไห้ทำไมใครทำอะไรคุณ” ศัลยแพทย์หัวใจหนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูรถแล้วดึงร่างบางออกมาจากรถ“ปล่อยนะหมอปัญจ์คุณทำบ้าอะไร” กุมารแพทย์สาวเอ่ยถามก่อนจะถูกพามาที่รถของปัญจวัตร ศัลยแพทย์ทรวงอกหนุ่มเปิดประตูข้างคนขับก่อนจะยัดร่างของกุมารแพทย์สาวเข้าไปแล้วรีบอ้อมไปเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง“หมอฟ้าคุณร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรคุณรึว่าเพราะข่าวลือของไอ้เสือ” หมอหนุ่มพูดก่อนจะสังเกตุเห็นหยดน้ำตาที่ไหลลงเมื่อเอ่ยถึงข่าวลือ“ฉันจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ ปลดล็อกฉันจะกลับ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกแต่แทนที่หมอหนุ่มจะฟังกลับสตาร์ทเครื่องก่อนรถหรูจะพุ่งทะยายไปตามทาง บ้านเกตทิวรากุลรถหรูจอดเทียบท่าหน้าบ้านหลังใหญ่

    Last Updated : 2025-03-16
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่9 ห้องนอน

    เรือนแสนรักรถหรูแล่นเข้ามาจอดในโรงจอดรถของเรือนแสนรักสร้างความแปลกใจให้แก่แม่อุ่นและบรรดาคนรับใช้ในเรือนแสนรักเป็นอย่างมากก่อนที่จะเรียกรอยยิ้มให้พวกเขาเมื่อชายหนุ่มเจ้าของรถก้าวลงมาก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูให้หญิงสาวที่คุ้นเคยของบรรดาคนรับใช้“คุณเสือ คุณแพร” แม่อุ่นแม่นมคนสนิทเอ่ยอย่างยินดีที่ได้เห็นคู่สามีภรรยาที่วัน ๆ แทบไม่ได้เจอหน้ากันเดินมาหาตนพร้อมกัน“นมยังไม่นอนเหรอครับ นี่ดึกแล้วนะเดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามแม่นมคนสนิท“โธ่พ่อคุณทูนหัวของนม นมก็ว่าจะนอนแล้วค่ะแต่คุณหนูทรายเธอโทรมาบอกให้จัดการเรื่องให้ก็เลยต้องมาสั่งคนนี่ล่ะค่ะ นมว่าเราเข้าบ้านกันดีกว่านะคะ” แม่อุ่นเอ่ยบอกก่อนที่พงศ์พยัคฆ์จะโอบเอวแม่อุ่นเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่ลืมที่จะใช้มืออีกข้างไปกุมมือบางของแพรวารินทร์แล้วเดินไปพร้อม ๆกัน“แล้วนี่คุณหนูทรายเป็นอย่างไรบ้างค่ะ นมลืมถามเธอตอนที่เธอโทรศัพท์มา” แม่อุ่นเอ่ยถามเมื่อทั้งสามนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น“อาทิตย์หน้าก็จะผ่าตัดแล้วครับปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้ จริง ๆผมอยากจะเฝ้าน้องนะครับแต่พ่อกับแม่บอกว่าจะเฝ้าเองให้ผมกับหนูแพรกลับมานอนที่บ้าน”“ดีแล้วค่ะ คุณแ

    Last Updated : 2025-03-17
  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่10 มื้อเช้า

    “ทำอะไรอยู่ครับนมหอมจัง” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามทันทีที่เข้ามาถึงห้องครัวของเรือนแสนรัก แม่อุ่นที่กำลังวุ่นอยู่กับข้าวต้มกุ้งตรงหน้าหันมองหน้าเจ้านายหนุ่มที่ตนอุ้มชูมาก่อนจะเอ่ยตอบ“ก็ข้าวต้มกุ้งของโปรดคุณเสือไงค่ะ รออีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”“จริงเหรอครับดีจังเสือคิดถึงข้าวต้มกุ้งฝีมือนมที่สุดเลย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมทั้งออดอ้อนแม่นมเล็กๆ“แหม่ถ้าจริงอย่างคุณเสือว่าทูนหัวคงอยู่ทานทุกมื้อแล้วค่ะ ไม่รีบร้อนออกไปปล่อยให้อาหารนมกินแห้วแบบนี้ตั้ง9ปีหรอกค่ะ” แม่อุ่นเอ่ยบอกอย่างแง่งอน“นมครับต่อไปเสือจะทานอาหารนมทุกวันเลยหายงอนนะครับดีกันนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมยกนิ้วก้อยขึ้นมา แม่อุ่นหัวเราะร่าก่อนจะยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเจ้านายหนุ่ม“คุณนมขาข้าวต้มกุ้งจะไหม้แล้วค่ะ” แต้วเอ่ยแซวผู้อาวุโสกว่าที่เธอรักดั่งบุพการี แม่อุ่นหันมาตีแขนแต๋วก่อนจะหันมาบอกนายหนุ่ม“คุณเสือไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะทูนหัวเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”“ครับนม ผมจะรอที่ศาลาริมน้ำนะครับ” พงศ์พ

    Last Updated : 2025-04-01

Latest chapter

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่36 แพรจะไม่ทน

    “จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่35 หนุ่มแกล้งงอนกับสาวมุกเสี่ยว

    พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่34 ง้อ

    เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่33 คนน้อยใจ

    ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่32 คู่แข่ง

    รุ่งอรุณแห่งวันเริ่มต้นการทำงานได้เริ่มขึ้นอย่างอึมครึมแต่ที่อึมครึมหาใช่สภาพอากาศไม่แต่หากเป็นความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์หลังจากกลับจากไร่พยัคฆาเมื่อเช้าวานซืนรณพีร์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าทัศนะต้องการจะดูแบบและคุยรายละเอียดกับแพรวารินทร์เพียงแค่หมอหนุ่มทราบเท่านั้นแหละถึงกับหน้าบึ้งตึงไปเฉยๆ“ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ หนูแพร” คือถ้อยคำที่พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านมาหากแต่แพรวารินทร์กลับบอกว่าเมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำจะปฏิเสธไม่ได้เพราะเคยรับปากรณพีร์ไว้แล้วแค่เพียงได้ยินเช่นนั้นหมอหนุ่มที่เคยยิ้มแย้มเอาอกเอาใจก็เงียบลงทันตาแถมพูดถามคำตอบคำจนแพรวารินทร์ได้แต่สงสัยพอเอ่ยถามหมอหนุ่มกลับบอกว่าไม่เป็นไรแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับจางหายไปตลอดหนึ่งวันมานี้ยิ่งรุ่งเช้าที่ผ่านมาหมอหนุ่มก็รีบออกไปทำงานแต่เช้าตรู่“พี่เสือหึงแกอยู่น่ะสิยัยแพร”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกขณะที่เดินมาส่งแพรวารินทร์ที่รถเพื่อไปทำงานเนื่องจากรณพีร์เกรงว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกชายหนุ่มจึงให้พักอีกหนึ่งอาทิตย์พิมพ์พิชชาจึงได้พักยาวๆจนถึงสิ้นเดือนนี้“พูดไปนั่นยัยทร

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่31 ละครฉากใหญ่

    เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสวันนี้คือวันสุดท้ายที่พวกของพงศ์พยัคฆ์จะอยู่ที่ไร่พยัคฆารุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ทั้งหมดยกเว้นท่านสัตยะจะเดินทางกลับกรุงเทพฯความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์กับแพรวารินทร์และปัญจวัตรกับฟ้ารดาดีขึ้นมากพอสมควรส่วนรณพีร์และพิมพ์พิชชาก็ถือว่าดีแต่เมื่อใกล้จะกลับพิมพ์พิชชายิ่งต้องหาวิธีบอกว่าความจำเธอกลับมาแล้ว พิมพ์พิชชายืนมองคนอื่น ๆอย่างคิดหนักโอกาสเล่นละครว่าความทรงจำเพิ่งกลับมามีแค่วันนี้เท่านั้นแล้วเธอจะทำอย่างไรดี‘เอาไงดีเนี่ย บอกไปตรง ๆไม่มีใครเชื่อแน่ บอกว่าจำได้ตั้งแต่สองวันแรกที่มาอีตาคุณพีร์คงโกรธแน่ เอาไงดีล่ะ ใช่แล้ว…ยัยแพร’ พิมพ์พิชชาครุ่นคิดในใจก่อนจะคิดอะไรได้หญิงสาวรีบเดินไปหาแพรวารินทร์“แพรมาทางนี้กับทรายหน่อยสิ”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักไปในมุมลับตาคน“มีอะไรจ๊ะยัยคนความจำเสื่อม” แพรวารินทร์เอ่ยแกล้งเพื่อนรักที่ทำเป็นจำอะไรไม่ได้“แกรู้?” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างตกใจไม่คิดว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอแกล้งจำอะไรไม่ได้

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่30 วันครบรอบ  

    ในวันที่9ของการมาเยือนไร่พยัคฆ์ของพงศ์พยัคฆ์และครอบครัวเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสพระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจรัส โปรมแกรมการฟื้นฟูความทรงจำของพิมพ์พิชชาที่แพรวารินทร์วางไว้คือการไปปิ๊กนิคที่ทุ่งหญ้าพักใจแต่เมื่อถึงถึงวันจริงพงศ์พยัคฆ์กลับมีอาการตัวร้อนแพรวารินทร์จึงอยู่คอยดูแล มีเพียงปัญจวัตร ฟ้ารดา รณพีร์ และพิมพ์พิชชาเท่านั้นที่ไปตามโปรแกรมส่วนปรียาภัทรนั้นต้องอยู่เคลียร์งานเพื่อส่งให้เจ้านายที่โทรศัพท์มาทวงงานจึงไม่ได้ไป“หนูแพรครับ พี่เสืออยากไปนั่งชิงช้าริมน้ำจังไปด้วยกันหน่อยนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์กลับจากเรือนใหญ่เพราะผู้เป็นพ่อแม่สามีเรียกให้ไปพบด้วยสาเหตุบางอย่าง“แต่ไข้ยังไม่ลดเลยนะคะ” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“ไม่มีไข้แล้วครับ แตะดูสิตัวไม่ร้อนแล้วเห็นไหม”หมอหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะจับมือขวาของหญิงสาวขึ้นสัมผัสหน้าผาก“จริงด้วย ก่อนแพรจะไปเรือนใหญ่ยังตัวร้อนจี๋อยู่เลย”แพรวารินทร์เอ่ยอย่างสงสัยหากแต่หมอหนุ่มไม่ยอมให้หญิงสาวได้สงสัยนานไม่หมอหนุ่มลดมือหญิงสาวลงก่อนจ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่29 วันหวาน

    “หมอปัญจ์ ฉันอยากได้ดอกไม้ตรงนั้นเอาให้หน่อย” ฟ้ารดาเอ่ยบอกขณะเดินตามทางเพื่อกลับไปที่จุดรวมพลพร้อมชี้ไม้ชี้มือไปที่ดอกของไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่เกาะอยู่บนต้นไม้ ปัญจวัตรมองดอกไม้ที่อยู่สูงพอสมควรก่อนจะเอ่ยขึ้น“จัดไปตามคำขอครับ คุณผู้หญิง” เมื่อจบหมอหนุ่มก็ถอดรองเท้าก่อนจะปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้“ระวังนะหมอปัญจ์”“รับทราบครับผม” ปัญจวัตรเอ่ยบอกและในที่สุดหมอหนุ่มก็มาถึงจุดที่มีดอกไม้ที่ฟ้ารดาต้องการหมอหนุ่มเด็ดมันก่อนจะหันไปเห็นดอกไม้อีกชนิดที่สวยงามไม่แพ้กัน หมอหนุ่มดึงมาทั้งเถาก่อนจะทำเป็นมงกุฏดอกไม้ป่าพร้อมยิ้มสายตาพลันเหลือบไปเห็นน้องสาวที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านล่างหมอหนุ่มจับตามองก่อนจะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ...คงไม่ได้คุยกับไอ้บอสดี้นั่นอีกนะ“ได้รึยังหมอปัญจ์”เสียงของฟ้ารดาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นหมอหนุ่มเงียบไปนาน ปัญจวัตรละสายตาจากน้องสาวกลับมาสนใจดอกไม้ในมือก่อนจะปีนป่ายหาทางลงไป“นี่ครับดอกไม้ของคุณ ส่

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่28 คนลืม(?)

    เพราะความขบเมื่อยตรงบริเวณต้นคอปลุกให้คนแกล้งลืมต้องรู้สึกตัวขึ้นบรรยากาศรอบข้างไม่ได้น่ามองกว่าเจ้านายปากเสียของเธอเลยเพราะไหล่ขวาถูกเธอครอบครองไว้ทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเอาศีรษะพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆแทนเพื่อไม่ให้รบกวนเธอแม้จะหลับอยู่ชายตรงหน้าก็มีเสน่ห์อยู่มาก ปากนิดจมูกหน่อยน่ารักเวลายิ้มก็น่ารัก‘อีตาคุณพีร์ขี้เก๊ะหลงให้เข้าใจว่าชอบยัยแพรอยู่ได้ตั้งหลายปี หึถ้าอธิบายแต่แรกฉันคงรักคุณหัวปักหัวปำไปแล้วอีตาคนซื่อบื้อ’ พิมพ์พิชชาได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นอย่างเบาๆก่อนจะย่องลงไปในน้ำอย่างระวังไม่ทำให้เจ้านายขี้เซาตื่น หญิงสาวมองคนหลับอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะวิดน้ำใสใส่เต็มแรงความเย็นจากของเหลวบางอย่างทำให้รณพีร์สะดุ้งตื่นพร้อมหาที่มาของสิ่งนั้น พลันสายตาปะทะเข้ากับร่างบางที่กำลังสะบัดน้ำใส่เขาอย่างสนุกสนาน“คุณพีร์คะมาเล่นน้ำกัน”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกแน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีทางสงสัยได้แน่นอนจากการพูดที่แสนจะสุภาพ“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ”รณพีร์เอ่ยถามอยากรู้ว่าพิมพ์พิชชาเวอร์ชั่นเสียความทรงจำจะทำอย่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status