“ถ้าเป็นไปได้ ผมคิดว่าจะผมซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป!”ฉินหมิงพูดอย่างละล้าละลังแม้ว่าเขาจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจหลินหว่านชิง แต่เขาก็ยังคงเป็นห่วงเธออยู่ในเมื่อหลินหว่านชิงไม่ต้องการพบเขา เช่นนั้นเขาจึงทำได้เพียงหาทางซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป และพยายามให้ความช่วยเหลือหลินหว่านชิงอย่างลับ ๆนี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้เพื่อผู้หญิงที่เขารักในตอนนี้!ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลินหว่านชิงและตระกูลหลินจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ทำอะไรที่ไม่ละอายแก่ใจตนเองก็เพียงพอแล้ว!“อะไรนะ? คุณล้อเล่นเหรอ!”“มูลค่ากลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปในตลาดอยู่ที่ประมาณสี่หรือห้าพันล้าน คุณจะมีเงินซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้อย่างไร?”หานซีตกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง“เรื่องนี้...ผมให้คำตอบที่ชัดเจนกับคุณยังไม่ได้ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด!”ฉินหมิงแสดงท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อยปัจจุบันมูลค่าของธุรกิจหมิงเหยากรุ๊ปอยู่ที่ประมาณห้าหรือหกพันล้าน และนี่คือทรัพย์สินร่วมกันของเขากับซูซินเหยา แม้ว่าเขาจะขายหุ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่สามารถซื้อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปได้!เขาวา
เริ่มจากเจอกับไอ้บ้านนอกที่นอกร้านกาแฟและเกือบจะชนรถหรูของเธอ ตอนนี้ยังมีนังแพศยาคนนี้เอากาแฟมาราดใส่เธออีก!“ฉัน...ฉันไม่มีเงิน…”ใบหน้าที่สวยงามของพนักงานเสิร์ฟเปลี่ยนเป็นซีดขาว เธอดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย“เธอไม่มีเงิน นั่นเป็นปัญหาของเธอ!”“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะใช้วิธีการไหน ชดเชยค่าเสียหายของฉันในวันนี้มาทั้งหมดซะ แม้แต่สตางค์เดียวก็ขาดไปไม่ได้!”หญิงสาวผู้หยิ่งผยองกล่าวด้วยสีหน้าเอาแต่ใจ“แต่ว่า...เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้นี้เป็นคุณที่ขยับมาชนกาแฟจนหกเอง คุณจะมาโทษฉันคนเดียวทั้งหมดไม่ได้…”พนักงานเสิร์ฟกังวลมากจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว“ยังกล้ามาเล่นลิ้นอีก?”“แกรนหาที่ตายจริง ๆ!”หญิงสาวผู้หยิ่งผยองโกรธจัดและตบหน้าเธออีกครั้งไม่ไกลจากด้านหน้า ฉินหมิงกำลังมองเหตุการณ์นั้นอย่างงุนงง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนองอะไร ร่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ขยับ หานซีลุกขึ้นและก้าวพรวดขึ้นไปเนื่องจากฉินหมิงนั่งหันหลังให้กับพวกเธอตลอด เขาจึงไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสักครู่นี้ จึงไม่รู้ว่าเป็นความผิดของใครกันแน่อย่างไรก็ตาม หานซีที่นั่งหันหน้าไปยังทิศทางของหญิงสาวทั้งสองนั้นมองเห็นเหตุการณ
นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับฉินหมิง ทั้งสองก็ผ่านเรื่องราวด้วยกันมามาก เธอรู้ว่าฉินหมิงมีวิชากังฟูที่ดีเลิศ เขาเป็นคนประเภทที่แข็งแกร่งที่เธอชอบที่สุดเมื่อมีฉินหมิงมายืนอยู่ข้าง ๆ เธอ เธอก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้“ไอ้หนู แกเป็นใคร?”“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”คังเหวยจ้องไปที่ฉินหมิงด้วยความตกใจปนโกรธ จากนั้นเขาก็ดึงแขนของตัวเองกลับจากการจับของฉินหมิงอย่างแรงอย่างไรก็ตาม ฝ่ามือของฉินหมิงนั้นแข็งแกร่งมาก ราวกับว่าจะบดขยี้แขนของเขาให้ได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของฉินหมิงได้เลย!“ไอ้บ้านนอก เป็นแกนี่เอง!”หญิงสาวผู้หยิ่งผยองลุกขึ้นจากพื้นด้วยความลำบาก เธอจำฉินหมิงได้ในทันที“เถาเหมย เธอรู้จักไอ้หนูนี่ด้วยหรอ เขาเป็นใคร?”คังเหวยรู้สึกประหลาดใจมาก เขามองไปที่ฉินหมิงแล้วมองไปที่หญิงสาวผู้หยิ่งผยองคนนั้น สีหน้าดูไม่ค่อยมั่นใจ“ไม่รู้จัก!”“ก็แค่ไอ้บ้านนอกที่ขับรถมอเตอร์ไซค์พัง ๆ คันหนึ่ง เมื่อกี้นี้ตอนที่อยู่นอกร้านกาแฟเขาเกือบจะชนฉันแล้ว...”เถาเหมยพูดอย่างดูถูก“ที่แท้ก็เป็นแค่ไอ้บ้านนอกคนหนึ่ง!”คังเหวยเยาะเย้ยในสังคมยุคใหม่นี้ รถยนต์ห
“เสื้อผ้าของฉันเปื้อนขนาดนี้ ยังมีอะไรต้องพูดกันอีก!”เถาเหมยพูดพร้อมกับเยาะเย้ย“นั่นก็ไม่แน่เสมอไป!”“ลองไปเปิดกล้องวงจรปิดดูสิ แล้วจะรู้เองว่าใครที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้!”ฉินหมิงชี้ไปที่กล้องวงจรปิดด้านบน เขาไม่พอใจกับการลงโทษที่ไม่ยุติธรรมของเถ้าแก่เกามาก เถาเหม่ยลมหายใจสะดุด สีหน้าของเธอดูไม่น่ามองเล็กน้อยเมื่อเถ้าแก่เกาเห็นสิ่งนี้ เขาก็เดาได้ไม่ยากว่าจะต้องเป็นเถาเหมยที่หมุนตัวกลับมาแล้วเผอิญชนเข้ากับหลิวเสวี่ยแน่ ๆอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจำได้ว่าตัวตนและภูมิหลังของคังเหวยและเถาเหมยนั้นไม่ใช่อะไรที่คนตัวเล็ก ๆ อย่างเขาจะทำให้ขุ่นเคืองใจได้ เขาจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว!“กล้องวงจรปิดเสีย ดูภาพไม่ได้หรอก!”เถ้าแก่เกาโบกมือแล้วพูดอย่างไม่อดทน“งั้นเหรอ เสียได้เหมาะเจาะพอดีจริง ๆ นะ!”หานซีโกรธจัดจนหลุดหัวเราะออกมา“ไม่ต้องพูดมากอีกแล้ว!”“รปภ. อยู่ที่ไหน จับตัวทั้งสามคนไว้!”“ทั้งสามคนเป็นพวกเดียวกัน แถมนังผู้หญิงสารเลวคนนี้เมื่อกี้นี้ยังตบหน้าฉันด้วย พวกคุณรีบสั่งสอนบทเรียนให้ทั้งสามคนแทนฉันซะ ตีจนกว่าฉันจะพอใจ!”เถาเหมยสั่งด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเถ้าแก่เกาลังเล
“ไอ้หนู แกรู้หรือเปล่าว่านายน้อยคังคือใคร? เขาคือคุณชายใหญ่ของบริษัทคังกรุ๊ป!”“แกที่เป็นแค่ไอ้ขยะ ถึงกับกล้ามาต่อกรกับนายน้อยคัง ช่างรนหาที่ตายโดยแท้!”เถ้าแก่เกาตอบสนองรวดเร็วมาก เขามองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาดูถูกโอ้!ทันทีที่ประโยคนี้ถูกพูดออกมา ก็เกิดความโกลาหลในหมู่ลูกค้าโดยรอบ“ที่แท้นายน้อยคังคนนี้ก็คือคุณชายใหญ่ของบริษัทคังกรุ๊ป!”“บริษัทคังกรุ๊ปเป็นขุมอำนาจชั้นนำในบรรดาตระกูลอันดับสองของเมืองเจียงเฉิงของเรา ทรัพย์สินโดยรวมของพวกเขามีมากถึงหมื่นล้าน ทั้งรวยและก็มีอำนาจ นี่ไม่ใช่ตัวตนที่คนธรรมดา ๆ จะสามารถยั่วยุได้!”“นั่นสิ เจ้าเด็กนั่นทำให้ใครขุ่นเคืองใจไม่ทำ ดันไปยั่วยุคุณชายใหญ่คัง คราวนี้เขาต้องตายแน่ ๆ…”……ทุกคนสูดลมหายใจเข้าและกระซิบกระซาบ หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองฉินหมิงด้วยความเห็นอกเห็นใจและสงสารหลายคนแอบดีใจที่พวกเขาไม่ได้บังคับตัวเองให้ออกหน้าช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นถ้าไปทำให้คังเหวยขุ่นเคืองใจ พวกเขาคงได้จบไม่สวยอย่างแน่นอน!“บริษัทคังกรุ๊ป?”ฉินหมิงชะงัก เขารู้สึกอย่างคลุมเครือว่าชื่อนี้คุ้นหู จากนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ จดจำได้อย่างรวดเร็วหลี่เจียฮุ่ยและหยางจ
พูดจบ คังเหวยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาใครสักคน“แย่ล่ะ…”เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของหานซีก็เปลี่ยนไปบริษัทคังกรุ๊ปเป็นที่รู้จักกันดีในโลกธุรกิจ เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับบริษัทคังกรุ๊ปมาก่อนจึงรู้ว่าบริษัทนี้ไม่ใช่อะไรที่จะไปล้อเล่นด้วยได้ถึงแม้ตระกูลหานของพวกเธอจะถือได้ว่าเป็นตระกูลนักวิชาการ และทรัพย์สินของตระกูลก็มีมากถึงหลายร้อยล้าน แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าของบริษัทคังกรุ๊ปที่สูงถึงหมื่นล้านแล้ว ตระกูลหานยังตามหลังอยู่มากโข!สำหรับฉินหมิง เธอรู้ว่าฉินหมิงรู้กังฟูอยู่บ้าง แต่เธอก็รู้ด้วยเช่นกันว่าฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้ภูมิหลังและไม่มีอำนาจอะไรทั้งเธอและฉินหมิงล้วนไม่สามารถเผชิญหน้ากับขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทคังกรุ๊ปตรง ๆ ได้!“ฉินหมิง พวกเราไปกันเถอะ!”หานซีดึงแขนของฉินหมิงอย่างรวดเร็ว โดยหวังว่าจะออกไปก่อนที่คนของคังเหวยจะมาถึง แบบนี้เธอและฉินหมิงอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงการแก้แค้นของอีกฝ่ายได้“จะไปทำไม?”ฉินหมิงแปลกใจช่วยคนก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ส่งพระก็ต้องส่งไปให้ถึงแดนสุขาวดีตอนนี้เรื่องของพนักงานเสิร์ฟหลิวเสวี่ยยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ เขาไม่
“ฉิน...ฉินหมิง!”หัวหน้าเฝิงเงยหน้าขึ้นและมองตามนิ้วที่คังเหวยชี้ไป จากนั้นเขาก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ประธานคังและฉินหมิงเกิดความขัดแย้งกันนั้น เขาเองก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสองบอดี้การ์ดที่ประธานคังพาไปด้วยในวันนั้นตอนนั้นเขาได้ลงมือและต่อสู้กับฉินหมิง ด้วยระดับการบ่มเพาะขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างของเขา เขาถูกฉินหมิงซัดกระเด็นออกไปอย่างง่ายดายด้วยกระบวนท่าเดียวแต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดต่อมาคนตระกูลโอวได้ส่งยอดฝีมือขั้นกลางระดับปรมาจารย์คนหนึ่งออกไป แต่ผลลัพธ์ก็คือเขารับแม้แต่กระบวนท่าเดียวของฉินหมิงยังไม่ได้ด้วยซ้ำ สุดท้ายคุณชายรองโอวคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่าย แถมยังหักแขนของตัวเองข้างหนึ่ง ถึงโชคดีพอเก็บชีวิตน้อย ๆ กลับไปได้เขาเห็นทั้งหมดทั้งมวลนี้ด้วยตาของตัวเอง จึงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาว่าฉินหมิงนั้นทรงพลังและน่ากลัวเพียงใด!ตอนนี้คังเหวยยั่วยุใครไม่ยั่วยุ ดันไปยั่วยุฉินหมิงบุคคลยิ่งใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวคนนี้ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความหวาดกลัวในใจของเขาได้!“หัวหน้าเฝิง มัวยืนบื้อทำอะไรอยู่อีก?”“พวกคุณลงมื
“เหวยเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้พ่อเคยพบกับฉินหมิงมาครั้งหนึ่ง เขาไม่ใช่คนที่โหดเหี้ยม แกรีบคุกเข่าลงและขอโทษเขาซะ!”“ตราบเท่าที่การแสดงออกของแกจริงใจมากพอ บุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างเขาก็จะไม่ถือสาหาความกับแก…”ประธานคังแสร้งทำเป็นสงบ แต่ในใจเขานั้นยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย“ได้ครับ”หลังจากที่คังเหวยวางสายโทรศัพท์แล้ว ขาของเขาก็สั่น เขาไม่หลงเหลือความจองหองและเย่อหยิ่งเช่นเมื่อสักครู่นี้อีกต่อไปเมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนรอบตัวก็สับสน“แปลกจริง ทำไมคุณชายใหญ่คังถึงไม่สั่งให้คนลงมือสักที?”“ใครจะรู้ คงไม่ใช่ว่าเขากำลังโทรหาคนสำคัญในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากที่จะทำให้เด็กคนนั้นพิการโดยสมบูรณ์ก็เป็นได้!”“อืม ก็เป็นไปได้!”…….ทุกคนดูประหลาดใจและสงสัย พวกเขาทั้งหมดคาดเดาว่าคังเหวยอาจโทรหาตำรวจหรือหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็นหลังจากเล่นงานฉินหมิงจนพิการโดยถาวรคังเหวยไม่ได้มองโลกในแง่ดีอย่างที่ใคร ๆ คิด ใบหน้าของเขาซีดเผือด เขาเดินเข้าไปหาฉินหมิงทีละก้าว ๆจากนั้นท่ามกลางสายตาที่ตกใจและไม่เชื่อของทุกคน เขาก็งอขาและคุกเข่าลงต่อหน้าฉินหมิงดังปึก“
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ