โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาทง เมื่อนึกถึงคำสอนของเขาที่กล่าวกับซาผิงก่อนหน้านี้ เขาก็ตระหนักได้ว่าเขานั้นน่าขันและโง่เขลาแค่ไหน พวกเขาเกือบจะพลาดทักษะระดับปฐพีขั้นกลางชั้นยอดนี้แล้ว!“ทำไม พวกคุณสองคนรู้ความผิดแล้วเหรอ?”ซูซินเหยาแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา ยังคงติดใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้“ประธานซู ขอบคุณมากจริง ๆ ครับสำหรับคำชี้แนะของคุณ”“ถ้าคุณไม่พูดปลุกสติเราทั้งคู่ เกรงว่าพวกเราสองพี่น้องคงจะพลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตนี้”ซาทงและซาผิงประสานมือคำนับซูซินเหยาและแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ“ต้องแบบนี้สิ”การแสดงออกของซูซินเหยาอ่อนลงเล็กน้อย“เอาล่ะ พวกคุณทั้งสองคนลุกขึ้นมาเถอะ!”ฉินหมิงพูด“ครับ ประธานฉิน”ซาทงและซาผิงขานรับแล้วลุกขึ้นยืน“ซาทง ผมมีเรื่องหนึ่งที่จะกำชับพวกคุณสองคน”“เกี่ยวกับเรื่องของทักษะระดับปฐพี เรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่ อย่าให้มันรั่วไหลออกไปเด็ดขาด!”“ผมจะพูดคำที่ไม่น่าฟังไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่า ถ้าทั้งสองคนกล้าพูดเรื่องนี้ออกไป ผมจะไม่มีวันปล่อยทั้งคู่ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน!”ฉินหมิงสั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแม้ว่าทักษะระดับปฐพีจะไม่น่าตกใจเท่ากับทักษ
ซูซินเหยาเม้มริมฝีปากของเธอและรู้สึกไม่พอใจฉินหมิงทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องพูด "ซาทง พวกคุณสองพี่น้องเข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ปในครั้งนี้อย่างกะทันหันเกินไปหน่อย ผมเดาว่าคุณสองคนยังไม่พร้อม"“เอาแบบนี้เป็นไง? ผมให้เวลาพวกคุณสามวัน พวกคุณกลับบ้านไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นค่อยกลับมารายงานตัวในอีกสามวันให้หลัง”“ขอบคุณนายน้อยฉินสำหรับความเข้าใจ พวกเราสองพี่น้องมีธุระส่วนตัวให้ต้องไปจัดการจริง ๆ”“ถ้าคุณไม่มีคำสั่งอื่นแล้ว พวกเราสองคนก็ขอตัวกลับไปก่อน”พวกซาทงทั้งสองคนโค้งคำนับด้วยความเคารพ จากนั้นกล่าวลา หมุนตัวแล้วเดินออกไปมองดูแผ่นหลังของพวกซาทงที่ค่อย ๆ หายลับไป ฉินหมิงก็ไม่สามารถระงับความสุขในใจได้อีกต่อไป เผยรอยยิ้มกว้างขึ้นบนใบหน้าของเขาเมื่อสักครู่นี้ ก่อนหน้าที่จะได้พบกับซาทงสองพี่น้อง เขาคิดว่ามันคงจะดีมากถ้าเขาสามารถชักชวนยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานสองคนให้มาเข้าร่วมด้วยได้แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าพระเจ้าจะใจดีขนาดนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับผลจื่อหยาง เขายังได้ตัวยอดฝีมือขั้นกลางระดับปรมาจารย์มาอีกสองคน!ไม่สิ พูดให้ถูกต้
“หนูในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลหลิน ไม่อาจทำให้รากฐานอันยิ่งใหญ่ของตระกูลหลินสั่นคลอนเพราะเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ส่วนตัวได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างจริงจังผู้ที่เล่นเกมอยู่ดูไม่ออก แต่ผู้ชมเกมกลับอ่านเกมได้ทะลุจนถึงตอนนี้เธอก็ยังดันทุรังและยึดติดกับความคิดของตัวเอง เข้าใจไปเองว่าที่ฉินหมิงคบหากับเธอในเวลานั้นก็เป็นเพราะเขามีเจตนาไม่ดีต่อธุรกิจของตระกูลหลิน!“นี่…”นายท่านหลินรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก เขาลังเลเล็กน้อยแล้วพูดออกไป “หว่านชิงเอ๋ย เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ความเป็นไปได้ที่ฉินหมิงต้องการวางแผนครอบงำธุรกิจของตระกูลหลินนั้นมีน้อยมาก..."“คุณปู่ ปู่หมายถึงอะไร”หลินหว่านชิงสะดุ้งในตอนนั้น ปู่และพ่อของเธอยืนกรานหนักแน่นว่าฉินหมิงคบหากับเธอก็เพื่อต้องการใช้เธอเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและความมั่งคั่งของตระกูลหลินแต่ตอนนี้ปู่ของเธอกลับบอกว่าความเป็นไปได้นี้มีน้อยมาก เรื่องก่อนและหลังขัดแย้งกันมากทำเอาเธอสับสนหมดแล้ว“หว่านชิง ปู่บอกหลานตรง ๆ ก็แล้วกัน”“ในงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ป ปู่ได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินห้าพันล้านเพื่อช่วยเขาก่อตั้งบริษัทใหม่ แต่เขาปฏิเสธ
แต่ตอนนี้ นายท่านหลินกลับบอกเธอว่าจริง ๆ แล้วฉินหมิงถูกใส่ร้ายแล้วเธอจะยอมรับความจริงที่โหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร!“พี่คะ พี่ได้ยินแล้วใช่ไหม?”“ฉันบอกพี่ไปตั้งนานแล้วว่าฉินหมิงถูกใส่ร้าย แต่พี่ก็ปฏิเสธที่จะเชื่อ!”“ตอนนี้เป็นยังไง พี่คงเชื่อได้แล้วมั้ง?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกระโดดออกมาอย่างถูกจังหวะ และพูดด้วยสีหน้าโกรธทว่าคำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจนี้ของเธอกลับกรีดลงบนบาดแผลของหลินหว่านชิงซ้ำอีกรอบอย่างเลวร้าย หลินหว่านชิงทรุดตัวลงกับพื้นทันที“ทำไม…”“ทำไมเรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้...”หลินหว่านชิงดูสิ้นหวัง น้ำตาแห่งความโศกเศร้าหลั่งไหลออกมาราวกับน้ำพุเธอฟุบตัวลงกับโต๊ะแล้วร้องไห้เสียงดังในช่วงที่เธอเลิกกับฉินหมิง เธอเจ็บปวด ภาพของฉินหมิงมักจะปรากฏเข้ามาในหัวใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าเดิมทีเธอคิดว่าฉินหมิงเป็นตัวร้ายที่น่ารังเกียจ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตระกูลเธอ เธอต้องอดทนกับมันอย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตามแต่สุดท้ายทุกอย่างกลับกลายเป็นเรื่องเท็จ เธอทำผิดต่อฉินหมิง!ความไม่รู้ของเธอไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเองอย่างสุดซึ้ง แต่ยังทำร้ายฉินหมิงอย่างสุดซึ้งอีกด้วย!ในขณะนี้
"ถูกต้อง!"“หว่านชิง หลานลองคิดย้อนกลับไปให้ดี ๆ ในงานเปิดตัวขาย ตระกูลเหลิ่ง ตระกูลเค่อ และกองกำลังอื่น ๆ ได้เสนอเงื่อนไขเพื่อที่จะเอาชนะใจฉินหมิง แต่เขากลับปฏิเสธพวกเขาโดยไม่ลังเล”“แต่ต่อมาเมื่อฉันเสนอเงื่อนไข เขากลับลังเล!”“หลานน่าจะยังจำสิ่งนี้ได้ใช่ไหม?”นายท่านหลินพูดด้วยรอยยิ้ม“อื้้ม หนูจำได้ค่ะ ตอนนั้นเขาลังเลอยู่พักหนึ่งจริง ๆ”หลินหว่านชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด“แบบนี้ก็ถูกต้องแล้ว!”“ฉันคิดว่าสาเหตุที่เขาลังเลก็เพราะเขายังคงชอบหลานอยู่”“เพียงแต่ว่าเขาไม่ต้องการเป็นคนต่ำช้าที่ทรยศ ดังนั้นในที่สุดเขาจึงเลือกที่จะร่วมมือกับตระกูลซูต่อไป!”นายท่านหลินพูด“อาจจะเป็นแบบนั้น”หลินหว่านชิงรู้สึกดีขึ้นมากตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคนที่ฉินหมิงชอบก็คือเธอ แทนที่จะเลือกซู่ซินเหยา ในที่สุดหัวใจของเธอก็เปิดออก“หว่านชิง เรื่องกลับไปคืนดีกันยิ่งลงมือเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น หลานจะต้องรีบกลับไปคืนดีกับฉินหมิงให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นยิ่งปล่อยเนิ่นนานก็ยิ่งบานปลาย!”นายท่านหลินไม่ลืมที่จะเตือนเธอการที่เขารีบร้อนเร่งให้หลินหว่านชิงและฉินหมิงกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ในด้านหนึ่
“นอกจากนี้ ในตอนนั้นหนูเองก็ไม่ไว้ใจและเชื่อใจฉินหมิงมากพอ เรื่องนี้หนูเองก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน”หลินหว่านชิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเธอดูเหมือนจะตัดสินใจได้แล้วจึงพูดว่า "นี่ก็ดึกมากแล้ว หนูจะไปหาฉินหมิงพรุ่งนี้เช้าและขอให้เขากลับมาคืนดีกัน..."“แบบนั้นก็ดี”นายท่านหลินและหลินเถิงฮุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก“หว่านชิง เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตระกูลหลินของเราต้องขอโทษฉินหมิงมากจริง ๆ”“รอหลานกับฉินหมิงกลับมาคืนดีกันแล้ว หลานช่วยขอโทษเขาแทนปู่และพ่อของหลานด้วย หวังว่าเขาจะยกโทษให้เราทั้งคู่สำหรับความผิดพลาดของเรา”นายท่านหลินพูดด้วยสีหน้าเป็นทุกข์เรื่องเมื่อครั้งก่อนที่เขาและหลินเถิงฮุ่ยตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นและขับไล่ฉินหมิงออกไปอย่างโหดร้าย นี่ถือว่าทำเกินไปหน่อยเดิมที เขาควรจะไปขอโทษฉินหมิงด้วยตนเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขายังคงเป็นผู้นำตระกูลหลินและสถานะของเขาก็สูงส่งอย่างยิ่ง เขาทนไม่ได้จริง ๆ ที่จะไปก้มหัวขอโทษฉินหมิงซึ่งเป็นผู้เยาว์ที่อายุน้อยกว่าฉะนั้นจึงทำได้เพียงให้หลินหว่านชิงออกหน้าแทนแล้ว“หนูรู้แล้วค่ะ…”หลินหว่านชิงขานรับหนึ่งคำ จากนั้นเธอกับเซี่ยเสี่ย
แม้ว่าเธอจะไม่ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ป แต่เธอก็รู้ถึงความสำคัญของศาสตร์การหลอมยาที่มีต่อเหล่าตระกูลหลักของเมืองเจียงเฉิงนอกจากนี้ ด้วยอายุของฉินหมิง ระดับการบ่มเพาะของเขากลับไปถึงขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว นี่เขาจะต้องเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกวรยุทธที่หาได้ยากในรอบร้อยปีในหมู่คนรุ่นเยาว์ของเมืองเจียงเฉิงอย่างแน่นอน!เธออดไม่ได้ที่จะลอบยินดีในใจ ต้องขอบคุณตัวเองที่ในครั้งที่แล้วเธอเข้าไปแทรกกลางเรื่องนี้และทำให้นายท่านหลินบังคับแยกหลินหว่านชิงและฉินหมิงออกจากกันมิฉะนั้น เมื่อฉินหมิงกลายมาเป็นลูกเขยของตระกูลหลิน ด้วยความสามารถที่โดดเด่นของฉินหมิง มันจะเป็นภัยคุกคามต่อลูกชายของเธอในการขึ้นสืบทอดกิจการทั้งหมดของตระกูลหลินในอนาคตอย่างแน่นอน!“เหตุผลที่หว่านชิงเลิกกับฉินหมิง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นความรับผิดชอบของเราทั้งคู่”“อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่นี้พ่อเพิ่งจะโน้มน้าวให้หว่านชิงกลับไปคืนดีกับฉินหมิงอีกครั้งและเธอจะไปหาเขาในวันพรุ่งนี้”“ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะผ่านไปด้วยดี ไม่อย่างนั้นเราทั้งคู่จะซวยอย่างแน่นอน…”หลินเถิงฮุ่ยถอนหายใจ“คืนดีกันเหรอ?”“ทำไมต้องกลับไปคืนดีกันด
แสงเย็นในดวงตาของไป่จิ้งวาบผ่านไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็รีบปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว……เช้าวันรุ่งขึ้นหลินหว่านชิงขับรถไปทางหมิงเหยากรุ๊ปเพียงลำพังเดิมทีเธอต้องการโทรหาฉินหมิงและขอให้ฉินหมิงออกมาพบ แต่เมื่อพิจารณาว่าเธอทำร้ายฉินหมิงอย่างลึกซึ้งเพียงใด เธอก็รู้สึกว่ามันจะเป็นการจริงใจมากกว่าหากเธอไปหาฉินหมิงด้วยตัวเองมาถึงด้านนอกตึกหมิงเหยากรุ๊ปหลินหว่านชิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะตัดสินใจเลือกกลับมาคืนดีกับฉินหมิงเมื่อวานนี้ แต่เมื่อเธอกำลังจะได้พบกับเขา ในใจของเธอก็กังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็อาย กลัวว่าฉินหมิงจะปฏิเสธเธอด้วยหลังจากเดินกลับไปกลับมา ลังเลอยู่สักพักในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าและเดินไปหายามที่เฝ้าประตูตึกหมิงเหยากรุ๊ปอยู่ในห้องทำงานของประธานก๊อกก๊อกก๊อก!มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และเมื่อได้รับอนุญาตจากซูซินเหยา เลขาหลี่ก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปเมื่อเห็นว่าฉินหมิงไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน และด้านหลังโต๊ะทำงานมีเพียงซูซินเหยานั่งอยู่เท่านั้น เลขาหลี่ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก "ประธานซูคะ ประธานฉินไม่อยู่เหรอคะ?"“อ้อ ฉินหมิงติดธุระเช้านี