“ถ้าคุณทั้งสองคนต้องการพึ่งพายาปราณแท้เพื่อทะลวงระดับไปสู่ขั้นสูงระดับปรมาจารย์ นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย!”ฉินหมิงส่ายหัวแล้วพูด“พวกเรารู้ครับ”“แต่พวกเราสองคนก็ยังอยากจะลองดู บางทีหนึ่งในเราสองคนอาจจะมีโชคและทะลวงผ่านไปได้ ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงดีมาก ๆ”“แต่ถ้าเราสองคนล้วนไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ทำได้เพียงโทษพวกเราเองที่โชคร้าย”ซาทงถอนหายใจอันที่จริง เขาและซาผิงแทบจะไม่ได้ฝากความหวังใด ๆ ไว้กับยาปราณแท้เลยอย่างไรก็ตาม ยาปราณแท้นอกจากจะเพิ่มความน่าจะเป็นในการช่่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์จะทะลวงผ่านคอขวดแล้ว มันยังช่วยเพิ่มระดับการบ่มเพาะได้อย่างมากอีกด้วยแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ด้วยการพึ่งพายาปราณแท้ แต่ก็สามารถปรับปรุงการบ่มเพาะของตัวเองได้แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว!ฉินหมิงครุ่นคิดอย่างหนัก หลังจากผ่านไปสักพักเขาจึงพูดว่า “ผมมีวิธีช่วยให้พวกคุณทั้งสองคนทะลวงไปสู่ขั้นสูงระดับปรมาจารย์นะ!"“อะไรนะ?”“จริงหรือหลอกกัน?”ซาทงและซาผิงตกใจมาก“จริงแท้แน่นอนที่สุดครับ!”“ตราบเท่าที่คุณสองคนยินดีที่จะเข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ป ผมรับประกันว่าจะช่วยให้พวกคุณสองคนทะลวงเ
“ในเมื่อคุณสองคนไม่เชื่อผม ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปซะเถอะ”“เพียงแต่ผมมีคำถามสุดท้าย ไม่ทราบว่าทั้งสองคนสนใจทักษะระดับปฐพีหรือเปล่า?”ฉินหมิงกัดฟันและหงายไพ่ใบสุดท้ายของเขา“ทักษะระดับปฐพี?”“ทำไม อย่าบอกนะว่าคุณมีทักษะระดับปฐพี?”ซาทงและซาผิงตกใจอย่างมาก สีหน้าของทั้งคู่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง“ผม…”ฉินหมิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นความรู้สึกเจ็บก็แล่นมาจากที่เท้า เขาก้มมองดู ที่แท้ก็เป็นซูซินเหยาที่กำลังเตะเท้าของเขาที่อยู่ใต้โต๊ะอย่างเงียบๆ“ฉินหมิง ออกมากับฉันหน่อย!”ซูซินเหยารีบส่งสายตาและดึงฉินหมิงออกจากห้องรับแขกอย่างรวดเร็วหามุมที่เงียบสงบด้านนอก“ซินเหยา เป็นอะไรไป?”ฉินหมิงถามอย่างประหลาดใจ“ฉินหมิง คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”“คุณวางแผนที่จะสอนทักษะระดับปฐพีให้กับพวกเขาทั้งสองคนจริง ๆ?”ซูซินเหยาดุเขาด้วยความกังวลมากมาวันนี้เธอถึงเพิ่งรู้ว่าฉินหมิงครอบครองทักษะระดับสวรรค์อย่างวิชาเทพียุทธ์เอาไว้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถหยิบทักษะระดับปฐพีออกมาได้“อืม ผมวางแผนไว้แบบนั้น”ฉินหมิงพยักหน้าหากไม่เข้าถ้ำเสือก็ย่อมไม่ได้ลูกเสือแม้ว่าทักษะระดับปฐพีจะล้ำค่า แต่ป
“ตอนนี้ฉันจะพาคนไปตรวจสอบรายละเอียดของทั้งสองคนนี้ด้วยตัวเอง ก่อนที่ฉันจะรู้แน่ชัด คุณห้ามใช้อารมณ์ในการตัดสินใจอีกเด็ดขาด!”ซูซินเหยาแค่นเสียงเหอะ ตอนนี้ถึงได้โล่งใจขึ้นมาก“อืม เข้าใจแล้ว ผมไม่บุ่มบ่ามขนาดนั้นหรอก”ฉินหมิงขานรับหลังจากนั้นซูซินเหยาก็ออกไป ฉินหมิงเดินกลับเข้าไปในห้องรับแขกอีกครั้งเมื่อเห็นฉินหมิงกลับมา ทั้งซาทงและซาผิงก็ดูตื่นเต้นเล็กน้อย "ประธานฉินสิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้นี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? คุณมีทักษะระดับปฐพีจริง ๆ?"“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผมแค่อยากรู้ว่าถ้าผมถ่ายทอดทักษะระดับปฐพีให้กับคุณสองคนแล้ว คุณสองคนจะยินดีเข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ปหรือไม่?”ฉินหมิงถาม ไม่ปฏิเสธหรือยอมรับเรื่องของทักษะระดับปฐพีนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ซูซินเหยาได้นำคนไปตรวจสอบรายละเอียดของสองพี่น้องซาทงแล้ว ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนที่ซูซินเหยาจะกลับมา เขาไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนกับสองพี่น้องซาทงได้“นี้…”ซาทงและซาผิงมองหน้ากัน ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบเสน่ห์ของทักษะระดับปฐพีนั้นสูงกว่าการทะลวงผ่านคอขวดหลายสิบเท่า ทั้งคู่ย่อมรู้สึกหวั่นไหวถ้าฉินหมิงถ่ายท
“ถ้าเราเข้าร่วมกับประธานฉิน ขอแค่เขาถ่ายทอดทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำให้กับเราสองคน นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง?”ซาผิงดูตื่นเต้น ตรงข้ามกับซาทงที่ดูเฉยเมยโดยสิ้นเชิง“นายคิดมากเกินไปแล้ว!”“เราสองคนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับประธานฉิน แม้ว่าเขาจะมีทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำจริง ๆ นายคิดว่าเขาจะถ่ายทอดมันให้กับเราสองคนจริง ๆ เหรอ?”ซาทงถามกลับ“นี่…”ซาผิงพูดไม่ออก ราวกับถูกน้ำเย็นหนึ่งถังราดลงบนหัว เขาได้สติกลับมาในทันใดเขารู้ดีว่าพี่ใหญ่พูดได้ถูกต้องมาก ทักษะระดับปฐพีขึ้นต่ำล้ำค่าและหาได้ยากยิ่ง มันมีค่ามากกว่า ทักษะที่บรรพบุรุษของสี่ตระกูลหลักสืบทอดกันมาเสียอีก!นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสองได้พบกับฉินหมิง แม้ว่าฉินหมิงจะมีทักษะระดับต่ำจริง ๆ ทำไมเขาต้องถ่ายทอดทักษะอันล้ำค่านี้ให้แก่พวกเขาโดยเปล่าประโยชน์ด้วย?นี่มันไม่สมจริงเลย!“ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ?”“บางทีประธานฉินอาจจะเป็นสุภาพบุรุษที่ใจกว้าง หรือบางทีเขาอาจต้องการเอาชนะใจเราสองคนอย่างจริงใจ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้ค่าตอบแทนที่มหาศาลแบบนี้!”“ในความคิดของผม นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต เราสองคนสามารถตกลงที่จะเข้าร่วมกับเขาแล
“พวกคุณยินดีที่จะเข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ปของเราหรือเปล่า?”ฉินหมิงถามพร้อมกับยิ้ม“ประธานฉิน ขอบคุณมากจริง ๆ ครับสำหรับความมีน้ำใจ แต่พวกเราสองพี่น้องได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ปในตอนนี้”ซาทงปฏิเสธอย่างสุภาพ"ว่ายังไงนะ?"“คุณสองคนยังไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ปอีกเหรอ?”รอยยิ้มบนริมฝีปากของฉินหมิงแข็งค้าง ตัวเขารู้สึกสับสนเล็กน้อยเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าตัวเองอุตส่าห์นำทักษะระดับปฐพีอันล้ำค่าออกมาแล้ว แต่พวกซาทงทั้งสองคนก็ยังไม่หวั่นไหว!นี่เกินความคาดหมายของเขามาก และในขณะนี้เองเขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะจัดการกับมันอย่างไร“เฮ้ คุณสองคนบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”“ทักษะระดับปฐพีหาได้ยากมาก ไม่รู้ว่ามีผู้ที่แข็งแกร่งมากแค่ไหนที่ต้องการครอบครองมัน ขนาดยอดฝีมือระดับราชาสงครามเองคิดหาก็หาไม่เจอสักทักษะ!”“โอกาสที่ดีขนาดนี้ แต่คุณสองกลับปฏิเสธจริง ๆ?”“สมองของคุณสองคนมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”ซูซินเหยาเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน เธอกระทั่งอยากจะเปิดหัวของซาทงและน้องชายของเขาดูว่าในหัวของเขากลายเป็นน้ำซอสเหลว ๆ ไปแล้วใช่ไหม!"ประธานซู เราสองคนรู้ดีว่าทักษะระดับปฐพีน
แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่เขาทำได้เพียงยอมแพ้"ขอบคุณมากครับประธานฉิน"ซาทงสองพี่น้องรู้สึกโล่งใจ ทั้งคู่กล่าวขอบคุณจากนั้นก็หันหลังกลับเตรียมจะจากไป"เดี๋ยวก่อน!"ตอนนี้เอง จู่ ๆ ซูซินเหยาก็ตะโกนเรียกหยุดพวกซาทงเอาไว้“ประธานซู ไม่ทราบว่าคุณยังมีคำชี้แนะอะไรอีกหรือเปล่า?”ซาทงหันกลับมาและถาม รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและกังวลว่าซูซินเหยาจะเปลี่ยนใจถึงตอนนั้นด้วยความแข็งแกร่งและรากฐานอันมั่นคงของตระกูลซู ถ้าต้องการบังคับให้พวกเขาพี่น้องอยู่ต่อ ทั้งสองคนจะต้านทานได้อย่างไร!"คุณซา พวกคุณสองคนต้องคิดให้รอบคอบนะ!"“ทักษะระดับปฐพีนั้นหายากมาก ถ้าพวกคุณพลาดโอกาสในครั้งนี้ จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว!”ซูซินเหยาแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาเธอโกรธเล็กน้อยที่พวกซาทงไม่รู้จักดีชั่ว ถ้าเธอไม่รู้ว่าฉินหมิงต้องการเอาชนะใจพวกเขา เธอยังคร้านที่จะมาเปลืองน้ำลายกับพวกเขาด้วยซ้ำ!"ประธานซู พวกเราพี่น้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว..."แต่ไม่ทันรอซาทงพูดจนจบประโยค ซูซินเหยาก็ขัดจังหวะเขากลางคัน“อย่าเพิ่งรีบตอบสิ!”“ถ้าฉันจำไม่ผิด ทักษะที่คุณทั้งสองคนบ่มเพาะน่าจะอยู่แค่ระดับเหนือมนุษย์ขั้
พวกเขาสองพี่น้องทุ่มเทให้กับการฝึกวรยุทธอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินและอำนาจมากนัก แต่ก็ไม่สามารถถือว่าเงิน อำนาจ ชื่อเสียง และความมั่งคั่งเป็นเหมือนกับขยะได้!เช่นเดียวกับที่ซูซินเหยาพูด ถ้าทั้งสองคนปฏิเสธการชักชวนของฉินหมิง พวกเขาจะสามารถรักษาชีวิตที่เป็นอิสระได้อย่างแน่นอน แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็จะพลาดโอกาสก้าวขึ้นไปสู่จุดที่สูงกว่าและทำเรื่องที่ใหญ่กว่าในอนาคตในทางตรงกันข้าม ถ้าทั้งสองคนตกลงที่จะเข้าร่วมกับฉินหมิง พวกเขาอาจจะได้รับทักษะยุทธระดับปฐพี จากนั้นทะลวงคอขวดขึ้นไปกลายเป็นยอดฝีมือระดับราชาสงครามที่แข็งแกร่ง ซึ่งนั่นจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกเขาไปโดยสมบูรณ์!โลกวรยุทธ์ แต่ไหนแต่ไรมาก็ให้ความสำคัญกับผู้ที่แข็งแกร่ง ยอดฝีมือระดับราชาสงครามในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้นับได้ว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่จะได้รับความเคารพนับถือ กระทั่งสามารถเรียกลมเรียกฝนได้!ถ้าทั้งสองคนสามารถทะลวงไปสู่ระดับราชาสงครามได้จริง ๆ พวกเขาก็จะเท่ากับทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในคราวเดียว จากคนตัวเล็ก ๆ สองคนที่ไม่เป็นที่รู้จัก กลายไปเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ชั้นนำของเมืองเจียงเฉิง!ถึงตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็
อย่างน้อย ๆ จนกว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงพอ เขาไม่สามารถสอนทักษะระดับสวรรค์ให้กับผู้อื่นส่งเดชได้!ทักษะระดับปฐพีนั้นค่อนข้างดีกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำ นี่เป็นทักษะที่อยู่เหนือกว่าระดับที่เหล่าสมาชิกของสี่ตระกูลหลักของเมืองเจียงเฉิงบ่มเพาะเพียงระดับเดียว แม้ว่าจะรั่วไหลออกไป เขาก็ไม่ถึงขั้นถูกตามเก็บ!น่าเสียดายที่ในมรดกของบรรพบุรุษตระกูลฉินไม่มีทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำ ระดับที่ต่ำที่สุดก็คือระดับปฐพีขั้นกลาง ฉะนั้นเขาจึงต้องสอนทักษะระดับปฐพีขั้นกลางให้กับซาทงและซาผิงอย่างช่วยไม่ได้“อะไรนะ?”“ทักษะระดับปฐพีขั้นกลาง?”ทั้งซาทงและซาผิงตกใจมาก หัวใจของพวกเขาเต้นกระหน่ำ ร่างทั้งร่างเย็นวาบไปครึ่งหนึ่งทักษะระดับปฐพีขั้นกลางล้ำค่ามากกว่าทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำมากเมื่อสักครู่นี้สองพี่น้องเพิ่งจะพูดคุยกัน พวกเขาต่างคิดว่าฉินหมิงอาจจะมีทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำ แต่ไม่มีทางมีทักษะระดับปฐพีขั้นกลางและระดับที่เหนือขึ้นไปอย่างแน่นอน!แม้แต่ตัวฉินหมิงเองยังไม่มีความสามารถในการบ่มเพาะทักษะระดับปฐพีขั้นกลาง แต่ตอนนี้เขากลับต้องการสอนทักษะระดับปฐพีขั้นกลางให้กับพวกเขา นี่ไม่ใช่กำลังห
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ