หมอชุยกล่าวอย่างใจเย็น โดยพยายามปัดความรับผิดชอบ“ส่งไปโรงพยาบาลเหรอ พูดง่ายจังนะ!”“ตอนนี้แม่ของฉันอยู่ในสภาพนี้ แล้วจะทนกับแรงกระแทกจากเคลื่อนย้ายได้ยังไง!”“กว่าจะพาไปถึงโรงพยาบาล แม่คงตายก่อน!”เฝิงรั่วซวงต่อว่าอย่างโกรธเกรี้ยว ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความวิตกกังวล“เอ่อ…”หมอชุยพูดไม่ออกเขารู้ว่าเฝิงรั่วซวงพูดถูก ด้วยสภาพร่างกายของคุณผู้หญิงเฝิงในตอนนี้ หากเธอถูกส่งไปโรงพยาบาลก็อาจจะตายระหว่างทาง!“รั่วซวง ไม่ต้องกังวล ฉันจะคิดหาทางได้แน่นอน ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดและจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของแก!”เฝิงเจิ้นพูดปลอบ แต่เขารู้สึกหนักอึ้งมากจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร“พ่อคิดวิธีอะไรออกบ้างไหมล่ะ?”“สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นความผิดของพ่อทั้งหมด ฉินหมิงอุตส่าห์เตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าฉีดยาให้แม่สุ่มสี่สุ่มห้า แต่พ่อก็ไม่ยอมฟังแถมยังไล่เขาไปอีก!”“จนทำให้แม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้!”“ถ้าแม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากเรื่องนี้จริง ๆ หนูจะเกลียดพ่อไปตลอดชีวิตแน่!”เฝิงรั่วซวงคำรามด้วยความโกรธขณะที่เธอพูด เธอก็ทนความเศร้าในใจไม่ไหวอีกต่อไป สุดท้ายน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาราวก
คุณฉีสัมผัสได้ถึงความกังวลและความจริงใจในน้ำเสียงของเฝิงเจิ้น เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบรับคำขอของเฝิงเจิ้น “ชีวิตมนุษย์ตกอยู่ในความเสี่ยง การช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องที่ผมทำไม่ได้”“แต่คุณก็ทราบดีว่าผมเคยวินิจฉัยและรักษาคุณผู้หญิงมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งอาการของเธอนั้นแปลกมาก สิ่งที่ผมทำได้มากที่สุดคือสั่งยาบำรุงสองสามอย่างเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายของเธอเท่านั้น”“ส่วนอื่น ๆ ผมไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว”เมื่อก่อนตอนที่เฝิงเจิ้นพาภรรยาไปพบแพทย์ชื่อดัง ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยได้รับรักษาจากคุณฉี คุณฉีทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น ไม่สามารถรักษาได้ตรงจุด“ผมรู้ แต่เมื่อครู่ภรรยาของผมเพิ่งได้รับการฉีดยากระตุ้นให้ตื่น จู่ ๆ เธอก็อาเจียนเป็นเลือด และสลบไปจนโคม่า อาการของเธอตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤติมาก ๆ ”“ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณรักษาเธอให้หายขาด แค่ขอให้คุณทำให้เธอฟื้นได้ก็พอ”เฝิงเจิ้นถอนหายใจและอธิบายสถานการณ์คร่าว ๆ“อะไรนะ?”“ฉีดยากระตุ้นให้ตื่น?”คุณฉีรู้สึกตกใจ“ใช่ มีปัญหาอะไรเหรอครับ?”เฝิงเจิ้นถือโอกาสถามหลังจากที่ภรรยาของเขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด เขาก็เดาไปแล้วว่าอาจเป็นเพ
“ว่ายังไงนะ…”เฝิงเจิ้นเดินโซเซ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังแต่เขาและภรรยาต่างมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง เขาจึงปฏิเสธที่จะยอมแพ้จนถึงวินาทีสุดท้าย เขายังคงอ้อนวอนต่อไปว่า “คุณฉี ถือว่าผมขอร้อง คุณลองคิดหาทางดูอีกที ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ไม่ว่าเท่าไรผมก็ยอมจ่าย”“คุณเฝิง ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ แต่ทักษะทางการแพทย์ของผมก็มีขีดจำกัด ผมทำอะไรไม่ได้จริง ๆ …”ขณะที่คุณฉีกำลังพูด จู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเขา ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และหล่อเหลาก็ปรากฏขึ้น เขาจึงได้สติขึ้นมาทันทีพลางพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ผมหาวิธีได้แล้ว!”เฝิงเจิ้นดีใจมาก “วิธีไหนครับ?”"มีคนในเมืองเจียงเฉิงที่มีทักษะทางการแพทย์ดีกว่าผม!”“หากคุณขอให้เขาช่วยได้ บางทีเขาอาจจะสามารถช่วยคุณผู้หญิงได้!”คุณฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม“จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย!”“คนคนนั้นคือใคร? เขาอาศัยอยู่ที่ไหน?”“ผมจะส่งคนไปเชิญเขาเดี๋ยวนี้!”เฝิงเจิ้นตื่นเต้นมาก เขาหมดหวังแล้ว แต่แววตาแห่งความหวังกลับจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง!เขารู้ดีว่าคุณฉีได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในแวดวงการแพทย์ในเจียงเฉิง แม้เขาไม่คิดว่าจะมีใครเ
แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาให้รู้สึกสบายใจ ประโยคถัดไปของคุณฉีทำให้อารมณ์ของเขาดิ่งฮวบเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งทันที!“คุณเฝิง ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งฉินหมิงเคยไปรักษาคุณหญิงใหญ่สวีแห่งตระกูลสวี คุณลองไปสอบถามทางนั้นดู พวกเขาน่าจะรู้ที่อยู่ของฉินหมิง”คุณฉีกล่าวเสริม“เอ่อ…”เฝิงเจิ้นรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขายืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้นคุณฉีทำให้รู้อย่างชัดแจ้งว่าแม้ตัวเขาจะใช้เท้าคิดก็เดาได้ว่าฉินหมิงที่คุณฉีกำลังพูดถึงนั้นต้องเป็นฉินหมิงที่เขาเพิ่งไล่ออกไปอย่างแน่นอน!ขณะนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ไม่แปลกใจที่ฉินหมิงกล้าพูดว่าตัวเองรักษาภรรยาของเขาได้ นี่ไม่ใช่การคุยโว เพราะสิ่งที่ฉินหมิงพูดนั้นคือเรื่องจริง!เขาโง่เขลาเกินบรรยาย อีกทั้งยังตำหนิฉินหมิงอย่างผิด ๆ !“คุณเฝิง ทำไมคุณไม่พูดล่ะ?”เมื่อเห็นเฝิงเจิ้นที่อยู่ปลายสายตกอยู่ในความเงียบ คุณฉีก็ถามขึ้น“ขอบคุณคุณฉีมาก…”“ผมรู้แล้วว่าฉินหมิงที่คุณพูดถึงคือใครผมจะรีบไปเชิญเขามารักษาภรรยาของผมทันที!”สีหน้าของเฝิงเจิ้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ลืมขอบคุณคุณฉีก่อนจะวางสายเมื่อเห็นสีหน้าของพ่อเธอดูแย่มาก เฝิงรั่วซวงก็ระงั
ฉินหมิงไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเฝิงหลุน เขายืนรอที่เดิมอยู่ครู่หนึ่ง ในไม่ช้าก็เห็นเฝิงหลุนขับรถสปอร์ตเปิดประทุนระดับไฮเอนด์สีขาวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา“คุณชายฉิน ขึ้นรถมาเลยครับ”เฝิงหลุนยิ้มทักทายฉินหมิงเปิดประตูข้างคนขับและกำลังจะขึ้นรถ“เดี๋ยว!”"คุณฉินอย่าเพิ่งไป!"ขณะนั้นก็มีเสียงร้องอย่างวิตกกังวลดังออกมา เฝิงเจิ้นใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อกระตุ้นพลังปราณที่แท้จริงไล่ตามมาจากด้านหลังราวกับสายฟ้าเขาเร็วมากราวกับทิ้งภาพติดตาไว้ เขาก้าวไปไม่กี่ก้าวจนมาปรากฏตัวต่อหน้าฉินหมิงในพริบตา“คุณเฝิง ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอ?”ฉินหมิงขมวดคิ้วพลางพูดเสียงเย็นชาแม้เขาจะไม่ได้อยากจะโต้เถียงกับเฝิงเจิ้น แต่ทัศนคติของอีกฝ่ายในตอนนี้แย่มาก และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองฝ่ายนั้นในแง่ดี“ผม…”เฝิงเจิ้นอ้าปากค้าง ดูเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อครู่เขาเข้าใจฉินหมิงผิด แถมยังไล่ฉินหมิงออกมาเป็นการตอบแทนเสียอย่างนั้นเขารู้ว่าตัวเองผิดจึงอยากจะขอโทษฉินหมิง แต่ด้วยความที่เขาเป็นถึงราชาแดนใต้และเคยชินกับการทำตัวสูงส่งการที่จะให้เขาก้มหัวขอโทษคนที่อาวุโสน้อยกว่าอย่างฉินหมิง นั่นคงจะทำให้เขารู้ส
เฝิงเจิ้นมีสีหน้าตกตะลึงและสับสน เขาเดาไม่ถูกว่าที่ฉินหมิงอยากจะทำการรักษาให้เป็นเพราะความขุ่นเคืองหรือเพราะว่าทำไม่ได้จริง ๆ !“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้!”“พูดตามตรง หากให้ผมรักษาคุณผู้หญิงตั้งแต่แรก ผมคงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะรักษาเธอได้”“แต่ตอนนี้ ยานั่นได้กระตุ้นพลังงานทางกายภาพของเธอและทำให้อาการแย่ลง ความหนาวเย็นที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายได้ลามไปยังหัวใจแล้ว จนแม้แต่สิบเปอร์เซนต์ผมก็ยังไม่มั่นใจ…”ฉินหมิงส่ายหัวด้วยความเสียใจ“เป็นอย่างนี้ได้ยังไง…”“ความผิดของผมเอง ผมดึงดันจนทำให้หลานจือต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เป็นผมเองที่ทำร้ายเธอ!”ใบหน้าของเฝิงเจิ้นซีดลง อยากจะตีตัวเองสักหลาย ๆ ที และเขารู้สึกเสียใจเกินจะบรรยายน่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มียาแก้เสียใจขาย ไม่ว่าเขาจะเสียใจกี่ครั้ง มันก็ไม่ช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้!“คุณชายฉิน คุณบอกแค่ว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังไม่มั่นใจ แต่คุณไม่ได้บอกว่าไม่มีทางรักษานี่”“พอมีวิธีไหนที่จะรักษาแม่ของผมได้บ้าง?”เฝิงหลุนถามอย่างร้อนใจ“ก็พอมีอยู่ทางหนึ่ง แต่โอกาสสำเร็จยังต่ำเกินไป…”ฉินหมิงกำลังจะพูดแต่ก็หยุดชะงั
“คุณฉิน สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ล้วนมาจากความผิดพลาดของผม ผมรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้คุณไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น”“แต่ตอนนี้นอกจากคุณก็ไม่มีใครสามารถช่วยภรรยาของผมได้แล้ว”“ถือว่าผมขอร้อง โปรดเมตตาลองเสี่ยงดู…”เฝิงเจิ้นคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อภรรยาแล้ว เขาถึงกับละทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นราชาแดนใต้คุกเข่าขอร้องใครสักคน นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารักภรรยามากแค่ไหน!“คุณเฝิง คุณลุกขึ้นเถอะ เมื่อครู่ผมก็พูดไปแล้วว่าโอกาสสำเร็จมีน้อยเกินไป”“ต่อให้คุณขอร้องมากแค่ไหน ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้...”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“ไม่ว่าโอกาสสำเร็จจะน้อยแค่ไหน ผมแค่หวังว่าคุณจะพยายามทำให้ดีที่สุด”“ไม่ต้องกังวล หากรากฐานวรยุทธ์ของคุณเสียหายจริง ๆ แม้ตระกูลเฝิงของเราจะต้องทุ่มทรัพย์สมบัติทั้งหมด เราก็จะหายาอายุวัฒนะมาช่วยฟื้นฟูรากฐานที่เสียหายของคุณอย่างแน่นอน”เฝิงเจิ้นกล่าวอย่างจริงใจเขารู้ว่าฉินหมิงไม่อยากเสี่ยงเพราะกังวลว่าตัวเองจะเดือดร้อนไปด้วย หากเขาสามารถแก้ปัญหาความกังวลใจของฉินหมิงในเรื่องรากฐานวรยุทธ์ที่อาจถูกทำลายได้ บางทีฉินหมิงอาจจะยอมลองเสี่ยงดู“เอ่อ…”ฉินหมิงตกอยู่ในความเงียบเฝิงเจิ้นพูด
จากนั้นก็มีพลังงานพุ่งพล่านในอกของเขา เขาก้มตัวลงพ่นเลือดออกมาเต็มคำ“คุณนี่มันหมอไร้ฝีมือ!”“เมื่อครู่ผมเพิ่งโทรไปปรึกษาคุณฉีปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีน เขาบอกว่าการฉีดยากระตุ้นให้ตื่นมีผลข้างเคียง และไม่สามารถใช้กับคนไข้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้!”“ทั้งหมดเป็นเพราะคุณฉีดยาให้ภรรยาผมแบบมั่ว ๆ จนเธอตกอยู่ในสภาพนี้!”“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอในวันนี้ ผมจะทำให้คุณต้องตายแบบไม่มีที่ให้ฝังศพอย่างแน่นอน!”เฝิงเจิ้นจ้องมองอย่างโกรธแค้นด้วยท่าทางอาฆาตอยากจะฆ่าหมอชุยให้ตายคามือหากเมื่อครู่หมอชุยไม่กังขาในทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงและเอาแต่มุ่งเป้าไปที่ฉินหมิง เขาคงไม่หลงเชื่อคำกล่าวหาของหมอชุยจนไล่ฉินหมิงไป อีกทั้งชีวิตของภรรยาของเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย!สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่ส่วนที่ต้องรับผิดชอบของหมอชุยนั้นมีมากกว่า!การที่เขาไม่เล่นงานหมอชุยให้ถึงตายก็ถือว่ามีเมตตามากแล้ว!หมอชุยตกใจมากจนกลิ้งมาหมอบที่พื้นพลางอ้อนวอนขอความเมตตา “คุณเฝิง โปรดเมตตาผมด้วย!”“ความตั้งใจจริง ๆ ของผมก็เพื่อช่วยคุณผู้หญิง ไม่คิดว่าการใช้ยากระตุ้นให้ตื่นจะมีผลข้างเ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ