แต่ฉินหมิงนั้นไม่ยินดีเลยความเยือกเย็นที่ลามไปยังหัวใจนั้นเป็นงานยากและมีอันตรายถึงชีวิต การนำความเยือกเย็นออกมาทั้งหมดนั้นยากกว่าเป็นสิบเท่า!ฉินหมิงรู้ดีว่าเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อย การรักษาที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนใบหน้าของฉินหมิงซีดเซียว พลังวิญญาณในร่างกายของเขาเกือบจะหมดลงแล้ว แต่ความเยือกเย็นที่อยู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิงหายไปได้เพียงไม่ถึงหนึ่งในสามที่แย่กว่านั้นคือเขาเหนื่อยล้ามากแล้ว ความเยือกเย็นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะระงับมัน และมันเริ่มส่งผลย้อนกลับไปยังร่างกายของเขาอึ่ก!ฉินหมิงไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของความเยือกเย็นได้อีกต่อไป จนสุดท้ายก็มีเลือดพุ่งออกมาเต็มปากอย่างที่เขาเดาไว้ก่อนหน้านี้ อาการของคุณผู้หญิงเฝิงนั้นร้ายแรงเกินไป เขาไม่สามารถรักษาเธอได้ผลของการดันทุรังช่วยเหลือก็คือเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย!“คุณฉิน คะ...คุณเป็นอะไรไป…”เมื่อเห็นฉินหมิงอาเจียนเป็นเลือด เฝิงเจิ้นและลูก ๆ ของเขาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาพากันมองมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลแต่ด้วยความที่ฉินหมิงกำลังรักษาคุณผู้หญิ
“ไม่ครับ ความช่วยเหลือของคุณมาได้ทันเวลาอย่างมาก!”“ขอแค่คุณยังส่งพลังปราณที่แท้จริงต่อไปเรื่อย ๆ ผมมั่นใจอย่างน้อยเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถรักษาคุณผู้หญิงได้!”ฉินหมิงรู้สึกโล่งใจจนในที่สุดก็เผยรอยยิ้มออกมาขอบเขตพลังยุทธ์ของเฝิงเจิ้นนั้นสูงกว่าเขามาก ด้วยพลังปราณที่แท้จริงของเฝิงเจิ้น มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะปัดเป่าความเยือกเย็นที่ลามเข้าสู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิง อีกทั้งเขาก็ไม่ต้องกังวลกับการกัดกร่อนของความเยือกเย็นด้วย!“จริงเหรอ?”“ดีจริง ๆ !”เฝิงเจิ้นกับลูก ๆ ของเขาปลื้มปิติ และทุกคนก็ตื่นเต้นกันมากโดยเฉพาะเฝิงเจิ้น ก่อนหน้านี้ฉินหมิงพูดว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่แน่ใจ ถึงจะพยายามแค่ไหนก็มีเพียงความอันริบหรี่ อีกทั้งยังไม่กล้าที่จะให้ความหวังแต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกผันครั้งใหญ่ ฉินหมิงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าสามารถรักษาภรรยาของเขาได้เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้จินตนาการออกถึงความสุขในใจของเขา!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรด้วยความช่วยเหลือจากพลังปราณที่แท้จริงอันแข็งแกร่งของเฝิงเจิ้น ในที่สุดฉินหมิง ก็ขจัดความเยือกเย็นใน
เฝิงหลุนกล่าวอย่างตื่นเต้น“คุณชายฉินคือใครกัน?”คุณผู้หญิงเฝิงดูสับสนก่อนหน้านี้หมอชุยเป็นคนที่คอยรักษาเธอตอนที่เธอล้มป่วยหรือเป็นลม คราวนี้เธอคิดว่าเป็นฝีมือของหมอชุยและเธอไม่รู้ว่าฉินหมิงคือใคร“คือเรื่องเป็นอย่างนี้…”เฝิงหลุนเล่าสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ฉินหมิงกระอักเลือดออกมาเต็มปากเพื่อช่วยคุณผู้หญิงเฝิงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมฉินหมิงถึงอาเจียนเป็นเลือด แต่ถึงใช้เท้าคิดเขาก็เดาได้ว่าสถานการณ์นั้นต้องอันตรายมาก“อย่างนี้นี่เอง!”“คุณฉินอยู่ที่ไหน เขาอยู่ที่ไหน พวกเราควรขอบคุณเขาอย่างเหมาะสม”เมื่อรู้ว่าฉินหมิงยอมเสี่ยงขนาดนี้ คุณผู้หญิงเฝิงก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เธอพยายามลุกจากเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนแอ และอยากจะขอบคุณฉินหมิงด้วยตนเอง“แม่คะ ตอนนี้ฉินหมิงถูกความเยือกเย็นเล่นงาน เขากำลังใช้กำลังภายในขจัดมันออกไปอยู่”เฝิงรั่วซวงอธิบาย ครอบครัวของพวกเขารู้สึกซาบซึ้งพลางเบนสายตาไปยังฉินหมิงในขณะนี้ ฉินหมิงกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญของการใช้กำลังภายในระดับพลังยุทธ์ของเขาอยู่เพียงปลายแถวเท่านั้น ซึ่งตามหลังเฝิงเจิ้นผู้เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอยู่มากใน
อันที่จริงทั้งสามคนพ่อลูกต่างก็เข้าใจผิดกันหมดพวกเขาและฉินหมิงไม่ได้ฝึกอยู่ในเส้นทางเดียวกันมาตั้งแต่แรกก่อนหน้านี้ที่ฉินหมิงกล่าวว่าเขาสามารถรักษาโรคของคุณผู้หญิงเฝิงได้ ซึ่งหมายถึงการรักษาที่ต้นเหตุแต่พวกเขาคิดว่าฉินหมิงเป็นเหมือนกับหมอชุยที่เพียงแค่ทำให้คุณผู้หญิงเฝิงฟื้นและรักษาตามอาการคุณผู้หญิงเฝิงเคยไปหาแพทย์ชื่อดังมาหลายคนแล้วแต่ไม่มีใครสามารถรักษาเธอได้ แม้แต่คุณฉีปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนก็ยังทำอะไรไม่ได้ดังนั้นสามคนพ่อลูกต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ฉินหมิงสามารถชุบชีวิตคุณผู้หญิงเฝิงที่กำลังจะตายในครั้งนี้ได้ พวกเขาไม่กล้าคาดหวังว่าฉินหมิงจะสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของคุณผู้หญิงเฝิงได้อย่างสมบูรณ์!“คุณผู้หญิง คุณกังวลมากเกินไปแล้ว!”"อาการของคุณได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว ในอนาคตคุณจะไม่เป็นลมหรือป่วยอีก!”ตอนนั้นก็มีเสียงของฉินหมิงดังขึ้น เขาหยุดสิ่งที่กำลังทำและเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าหลังจากใช้กำลังภายในรักษาบาดแผล ไม่เพียงแต่ความเยือกเย็นในร่างกายของเขาจะหายไปเท่านั้น แต่การฝึกวรยุทธ์ยังได้ผ่านพ้นขีดกำจัดและบรรลุไปจนถึงสภาวะข
โดยเฉพาะเฝิงเจิ้นเนื่องจากฉินหมิงจงใจปกปิดที่มาและอาจารย์ของเขา เขาจึงค่อนข้างรังเกียจฉินหมิง และล้มเลิกความคิดที่จะให้ลูกสาวของเขากับฉินหมิงคบกันแต่ตอนนี้ ฉินหมิงได้เสี่ยงชีวิตช่วยภรรยาของเขา ในขณะที่เขารู้สึกขอบคุณ ความคิดที่จะให้ลูกสาวของเขาคบกับฉินหมิงก็กลับมาอีกครั้งเช่นเดียวกับที่เฝิงหลุนลูกชายของเขาพูด เฝิงรั่วซวงและฉินหมิงเป็นคู่กิ่งทองใบหยกที่เหมาะสมกันมาก!“คือ...หนูก็แค่ดีใจมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้นิดหน่อย…”ในที่สุดเฝิงรั่วซวงก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอรีบผละออกมาจากอ้อมแขนของฉินหมิง จากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นนิ่งเฉยพลางสะบัดผมพยายามซ่อนความเขินอายของตัวเองแต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ดูเหมือนยิ่งอยากปิดบังยิ่งกลายเป็นว่าเปิดเผยให้โลกรู้“คุณชายเฝิง คุณมีกระดาษกับปากกาไหม? ผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณผู้หญิง”ฉินหมิงยังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างเงียบ ๆ“ครับ ผมจะไปเอามาให้”หลังจากที่เฝิงหลุนกลับมามีสติ เขาก็รีบหากระดาษกับปากกามายื่นให้ฉินหมิงฉินหมิงจรดปลายปากกาเขียนใบสั่งยาให้เฝิงเจิ้น และถามรายละเอียดบางอย่างกับเข
“คุณเฝิง โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!”“ผมแค่อยากจะช่วยคุณผู้หญิง ผมไม่ได้ตั้งใจ...”หมอชุยรู้สึกหวาดกลัวพลางคุกเข่าร้องขอความเมตตาในตอนนั้นเขามีจุดประสงค์ที่เห็นแก่ตัวที่ยืนกรานจะฉีดยากระตุ้นให้ตื่นให้คุณผู้หญิงเฝิง ประการแรกเขาคิดว่าผลข้างเคียงของยาจะมีน้อยมากและคงไม่เกิดเรื่องใหญ่อะไรประการที่สอง เขากระตือรือร้นที่จะช่วยคุณผู้หญิงเพราะอยากได้สิ่งตอบแทนจำนวนมหาศาลจากเฝิงเจิ้นแน่นอนว่าเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ แม้เขาจะถูกทุบตีจนตาย เขาก็จะไม่เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาไม่อย่างนั้นเฝิงเจิ้นอาจฆ่าเขาตายในพริบตาด้วยฝ่ามือเดียว!ด้วยสถานะอันสูงส่งของเฝิงเจิ้นในฐานะประมุข มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าคนอย่างเขา!“คุณเฝิง ช่างมันเถอะ”“ทุกครั้งที่ฉันป่วยในช่วงสองปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณการรักษาที่ทันท่วงทีของคุณหมอชุย ในเมื่อเขาไม่ได้ตั้งใจ ครั้งนี้ก็ได้โปรดไว้ชีวิตเขาเถอะ”คุณผู้หญิงเฝิงโน้มน้าว“ไม่ได้!”“หมอต้มตุ๋นคนนี้ไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์เอาซะเลย เขาเกือบจะฆ่าคุณแล้วนะ ผมจะไม่มีวันปล่อยเขาไปง่าย ๆ !”เฝิงเจิ้นพูดอย่างเย็นชาด้วยท่าทีอาฆาต“ไม่นะครับ ผมสำนึกผิดแล้ว ขอคุณเฝิง
......หลังงานเลี้ยงมื้อกลางวันเฝิงหลุนขับรถพาฉินหมิงกลับไปส่งที่หมิงเหยากรุ้ปในห้องทำงานของประธานเมื่อเห็นฉินหมิงกลับมา ซูซินเหยาก็ลุกขึ้นและเดินไปทักทายเขาว่า “ฉินหมิง คุณกลับมาทันเวลาพอดี ฉันมีเรื่องสำคัญจะถามคุณ”“มีอะไรเหรอ?”ฉินหมิงลูบหน้าผากของเขาพลางถามอย่างสงสัยในงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่ตระกูลเฝิงเมื่อครู่ เฝิงเจิ้นรินเหล้าให้เขาเยอะ ตอนนี้เขายังคงเวียนหัวเล็กน้อย“พี่ชายฉันเพิ่งโทรมาบอกว่ามีข่าวเกี่ยวกับตัวยาหลักอายุห้าร้อยปี…”ซูซินเหยายิ้มหวาน แต่ก็ถูกฉินหมิงขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดจบ“อะไรนะ?”“จริงเหรอ? เยี่ยมมาก!”ฉินหมิงดีใจมากและมีสติขึ้นมาทันทีปัจจุบันการฝึกวรยุทธ์ของเขามาถึงขีดจำกัด หากเขามีตัวยาหลักอายุห้าร้อยปี เขาก็สามารถผสมยาสร้างรากฐานเพื่อช่วยให้เขาฝ่าฟันขีดจำกัดของการฝึกวรยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ เขาได้บอกซูห่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าให้หาตัวยาหลักอายุห้าร้อยปีสวรรค์ย่อมเมตตาผู้ที่มีความแน่วแน่ในที่สุดก็มีข่าวดีออกมา มันดีมากเกินจะจินตนาการถึงความสุขในใจของเขา!เมื่อได้กลิ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ มาจากตัวฉินหมิงในระยะใกล้ ซูซินเหยาก็ขมวด
ฉินหมิงเป็นผู้ชายธรรมดาและยังโสด เขาจะต้านทานความอ่อนโยนและเสน่ห์อันเหลือล้นของซูซินเหยาได้อย่างไร!รูปลักษณ์ที่ขี้เล่นและมีเสน่ห์ของซูซินเหยาเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว ทิ้งร่องรอยไว้จนลบไม่ออกความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มร้อนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ใช่แฟน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ละเอียดอ่อนมากและเกินขอบเขตของความเป็นเพื่อนขอแค่ฉินหมิงยอมพยักหน้าตกลง ทั้งสองก็สามารถคบหากันได้เลยทันทีแต่ฉินหมิงรู้ดีว่าคนที่เขารักมากที่สุดในใจยังคงเป็นหลินหว่านชิง ส่วนซูซินเหยาถือได้ว่าเป็นเพียงคนสนิทของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคในใจเพื่อให้ยอมรับความรักของซูซินเหยาได้ถึงกระนั้น ซูซินเหยาก็มีความสุขมากเธอรู้ว่าฉินหมิงยังไม่ออกมาจากเงาความรักที่แตกสลาย และเรื่องแบบนี้ก็ไม่สามารถเร่งรีบได้แต่เธอมีเวลาและความอดทนมากมาย เธอสามารถรอจนกว่าฉินหมิงจะค่อย ๆ ลืมหลินหว่านชิง จากนั้นเธอก็สามารถแทนที่ตำแหน่งของหลินหว่านชิงในหัวใจของฉินหมิงได้สำเร็จ!……วันก่อนการประมูลซูซินเหยาขับรถพาฉินหมิงไปถึงเมืองหลัวไห่ที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นทั้งสองค
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ