แต่ฉินหมิงนั้นไม่ยินดีเลยความเยือกเย็นที่ลามไปยังหัวใจนั้นเป็นงานยากและมีอันตรายถึงชีวิต การนำความเยือกเย็นออกมาทั้งหมดนั้นยากกว่าเป็นสิบเท่า!ฉินหมิงรู้ดีว่าเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อย การรักษาที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนใบหน้าของฉินหมิงซีดเซียว พลังวิญญาณในร่างกายของเขาเกือบจะหมดลงแล้ว แต่ความเยือกเย็นที่อยู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิงหายไปได้เพียงไม่ถึงหนึ่งในสามที่แย่กว่านั้นคือเขาเหนื่อยล้ามากแล้ว ความเยือกเย็นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะระงับมัน และมันเริ่มส่งผลย้อนกลับไปยังร่างกายของเขาอึ่ก!ฉินหมิงไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของความเยือกเย็นได้อีกต่อไป จนสุดท้ายก็มีเลือดพุ่งออกมาเต็มปากอย่างที่เขาเดาไว้ก่อนหน้านี้ อาการของคุณผู้หญิงเฝิงนั้นร้ายแรงเกินไป เขาไม่สามารถรักษาเธอได้ผลของการดันทุรังช่วยเหลือก็คือเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย!“คุณฉิน คะ...คุณเป็นอะไรไป…”เมื่อเห็นฉินหมิงอาเจียนเป็นเลือด เฝิงเจิ้นและลูก ๆ ของเขาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาพากันมองมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลแต่ด้วยความที่ฉินหมิงกำลังรักษาคุณผู้หญิ
“ไม่ครับ ความช่วยเหลือของคุณมาได้ทันเวลาอย่างมาก!”“ขอแค่คุณยังส่งพลังปราณที่แท้จริงต่อไปเรื่อย ๆ ผมมั่นใจอย่างน้อยเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถรักษาคุณผู้หญิงได้!”ฉินหมิงรู้สึกโล่งใจจนในที่สุดก็เผยรอยยิ้มออกมาขอบเขตพลังยุทธ์ของเฝิงเจิ้นนั้นสูงกว่าเขามาก ด้วยพลังปราณที่แท้จริงของเฝิงเจิ้น มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะปัดเป่าความเยือกเย็นที่ลามเข้าสู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิง อีกทั้งเขาก็ไม่ต้องกังวลกับการกัดกร่อนของความเยือกเย็นด้วย!“จริงเหรอ?”“ดีจริง ๆ !”เฝิงเจิ้นกับลูก ๆ ของเขาปลื้มปิติ และทุกคนก็ตื่นเต้นกันมากโดยเฉพาะเฝิงเจิ้น ก่อนหน้านี้ฉินหมิงพูดว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่แน่ใจ ถึงจะพยายามแค่ไหนก็มีเพียงความอันริบหรี่ อีกทั้งยังไม่กล้าที่จะให้ความหวังแต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกผันครั้งใหญ่ ฉินหมิงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าสามารถรักษาภรรยาของเขาได้เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้จินตนาการออกถึงความสุขในใจของเขา!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรด้วยความช่วยเหลือจากพลังปราณที่แท้จริงอันแข็งแกร่งของเฝิงเจิ้น ในที่สุดฉินหมิง ก็ขจัดความเยือกเย็นใน
เฝิงหลุนกล่าวอย่างตื่นเต้น“คุณชายฉินคือใครกัน?”คุณผู้หญิงเฝิงดูสับสนก่อนหน้านี้หมอชุยเป็นคนที่คอยรักษาเธอตอนที่เธอล้มป่วยหรือเป็นลม คราวนี้เธอคิดว่าเป็นฝีมือของหมอชุยและเธอไม่รู้ว่าฉินหมิงคือใคร“คือเรื่องเป็นอย่างนี้…”เฝิงหลุนเล่าสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ฉินหมิงกระอักเลือดออกมาเต็มปากเพื่อช่วยคุณผู้หญิงเฝิงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมฉินหมิงถึงอาเจียนเป็นเลือด แต่ถึงใช้เท้าคิดเขาก็เดาได้ว่าสถานการณ์นั้นต้องอันตรายมาก“อย่างนี้นี่เอง!”“คุณฉินอยู่ที่ไหน เขาอยู่ที่ไหน พวกเราควรขอบคุณเขาอย่างเหมาะสม”เมื่อรู้ว่าฉินหมิงยอมเสี่ยงขนาดนี้ คุณผู้หญิงเฝิงก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เธอพยายามลุกจากเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนแอ และอยากจะขอบคุณฉินหมิงด้วยตนเอง“แม่คะ ตอนนี้ฉินหมิงถูกความเยือกเย็นเล่นงาน เขากำลังใช้กำลังภายในขจัดมันออกไปอยู่”เฝิงรั่วซวงอธิบาย ครอบครัวของพวกเขารู้สึกซาบซึ้งพลางเบนสายตาไปยังฉินหมิงในขณะนี้ ฉินหมิงกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญของการใช้กำลังภายในระดับพลังยุทธ์ของเขาอยู่เพียงปลายแถวเท่านั้น ซึ่งตามหลังเฝิงเจิ้นผู้เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอยู่มากใน
อันที่จริงทั้งสามคนพ่อลูกต่างก็เข้าใจผิดกันหมดพวกเขาและฉินหมิงไม่ได้ฝึกอยู่ในเส้นทางเดียวกันมาตั้งแต่แรกก่อนหน้านี้ที่ฉินหมิงกล่าวว่าเขาสามารถรักษาโรคของคุณผู้หญิงเฝิงได้ ซึ่งหมายถึงการรักษาที่ต้นเหตุแต่พวกเขาคิดว่าฉินหมิงเป็นเหมือนกับหมอชุยที่เพียงแค่ทำให้คุณผู้หญิงเฝิงฟื้นและรักษาตามอาการคุณผู้หญิงเฝิงเคยไปหาแพทย์ชื่อดังมาหลายคนแล้วแต่ไม่มีใครสามารถรักษาเธอได้ แม้แต่คุณฉีปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนก็ยังทำอะไรไม่ได้ดังนั้นสามคนพ่อลูกต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ฉินหมิงสามารถชุบชีวิตคุณผู้หญิงเฝิงที่กำลังจะตายในครั้งนี้ได้ พวกเขาไม่กล้าคาดหวังว่าฉินหมิงจะสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของคุณผู้หญิงเฝิงได้อย่างสมบูรณ์!“คุณผู้หญิง คุณกังวลมากเกินไปแล้ว!”"อาการของคุณได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว ในอนาคตคุณจะไม่เป็นลมหรือป่วยอีก!”ตอนนั้นก็มีเสียงของฉินหมิงดังขึ้น เขาหยุดสิ่งที่กำลังทำและเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าหลังจากใช้กำลังภายในรักษาบาดแผล ไม่เพียงแต่ความเยือกเย็นในร่างกายของเขาจะหายไปเท่านั้น แต่การฝึกวรยุทธ์ยังได้ผ่านพ้นขีดกำจัดและบรรลุไปจนถึงสภาวะข
โดยเฉพาะเฝิงเจิ้นเนื่องจากฉินหมิงจงใจปกปิดที่มาและอาจารย์ของเขา เขาจึงค่อนข้างรังเกียจฉินหมิง และล้มเลิกความคิดที่จะให้ลูกสาวของเขากับฉินหมิงคบกันแต่ตอนนี้ ฉินหมิงได้เสี่ยงชีวิตช่วยภรรยาของเขา ในขณะที่เขารู้สึกขอบคุณ ความคิดที่จะให้ลูกสาวของเขาคบกับฉินหมิงก็กลับมาอีกครั้งเช่นเดียวกับที่เฝิงหลุนลูกชายของเขาพูด เฝิงรั่วซวงและฉินหมิงเป็นคู่กิ่งทองใบหยกที่เหมาะสมกันมาก!“คือ...หนูก็แค่ดีใจมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้นิดหน่อย…”ในที่สุดเฝิงรั่วซวงก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอรีบผละออกมาจากอ้อมแขนของฉินหมิง จากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นนิ่งเฉยพลางสะบัดผมพยายามซ่อนความเขินอายของตัวเองแต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ดูเหมือนยิ่งอยากปิดบังยิ่งกลายเป็นว่าเปิดเผยให้โลกรู้“คุณชายเฝิง คุณมีกระดาษกับปากกาไหม? ผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณผู้หญิง”ฉินหมิงยังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างเงียบ ๆ“ครับ ผมจะไปเอามาให้”หลังจากที่เฝิงหลุนกลับมามีสติ เขาก็รีบหากระดาษกับปากกามายื่นให้ฉินหมิงฉินหมิงจรดปลายปากกาเขียนใบสั่งยาให้เฝิงเจิ้น และถามรายละเอียดบางอย่างกับเข
“คุณเฝิง โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!”“ผมแค่อยากจะช่วยคุณผู้หญิง ผมไม่ได้ตั้งใจ...”หมอชุยรู้สึกหวาดกลัวพลางคุกเข่าร้องขอความเมตตาในตอนนั้นเขามีจุดประสงค์ที่เห็นแก่ตัวที่ยืนกรานจะฉีดยากระตุ้นให้ตื่นให้คุณผู้หญิงเฝิง ประการแรกเขาคิดว่าผลข้างเคียงของยาจะมีน้อยมากและคงไม่เกิดเรื่องใหญ่อะไรประการที่สอง เขากระตือรือร้นที่จะช่วยคุณผู้หญิงเพราะอยากได้สิ่งตอบแทนจำนวนมหาศาลจากเฝิงเจิ้นแน่นอนว่าเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ แม้เขาจะถูกทุบตีจนตาย เขาก็จะไม่เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาไม่อย่างนั้นเฝิงเจิ้นอาจฆ่าเขาตายในพริบตาด้วยฝ่ามือเดียว!ด้วยสถานะอันสูงส่งของเฝิงเจิ้นในฐานะประมุข มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าคนอย่างเขา!“คุณเฝิง ช่างมันเถอะ”“ทุกครั้งที่ฉันป่วยในช่วงสองปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณการรักษาที่ทันท่วงทีของคุณหมอชุย ในเมื่อเขาไม่ได้ตั้งใจ ครั้งนี้ก็ได้โปรดไว้ชีวิตเขาเถอะ”คุณผู้หญิงเฝิงโน้มน้าว“ไม่ได้!”“หมอต้มตุ๋นคนนี้ไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์เอาซะเลย เขาเกือบจะฆ่าคุณแล้วนะ ผมจะไม่มีวันปล่อยเขาไปง่าย ๆ !”เฝิงเจิ้นพูดอย่างเย็นชาด้วยท่าทีอาฆาต“ไม่นะครับ ผมสำนึกผิดแล้ว ขอคุณเฝิง
......หลังงานเลี้ยงมื้อกลางวันเฝิงหลุนขับรถพาฉินหมิงกลับไปส่งที่หมิงเหยากรุ้ปในห้องทำงานของประธานเมื่อเห็นฉินหมิงกลับมา ซูซินเหยาก็ลุกขึ้นและเดินไปทักทายเขาว่า “ฉินหมิง คุณกลับมาทันเวลาพอดี ฉันมีเรื่องสำคัญจะถามคุณ”“มีอะไรเหรอ?”ฉินหมิงลูบหน้าผากของเขาพลางถามอย่างสงสัยในงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่ตระกูลเฝิงเมื่อครู่ เฝิงเจิ้นรินเหล้าให้เขาเยอะ ตอนนี้เขายังคงเวียนหัวเล็กน้อย“พี่ชายฉันเพิ่งโทรมาบอกว่ามีข่าวเกี่ยวกับตัวยาหลักอายุห้าร้อยปี…”ซูซินเหยายิ้มหวาน แต่ก็ถูกฉินหมิงขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดจบ“อะไรนะ?”“จริงเหรอ? เยี่ยมมาก!”ฉินหมิงดีใจมากและมีสติขึ้นมาทันทีปัจจุบันการฝึกวรยุทธ์ของเขามาถึงขีดจำกัด หากเขามีตัวยาหลักอายุห้าร้อยปี เขาก็สามารถผสมยาสร้างรากฐานเพื่อช่วยให้เขาฝ่าฟันขีดจำกัดของการฝึกวรยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ เขาได้บอกซูห่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าให้หาตัวยาหลักอายุห้าร้อยปีสวรรค์ย่อมเมตตาผู้ที่มีความแน่วแน่ในที่สุดก็มีข่าวดีออกมา มันดีมากเกินจะจินตนาการถึงความสุขในใจของเขา!เมื่อได้กลิ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ มาจากตัวฉินหมิงในระยะใกล้ ซูซินเหยาก็ขมวด
ฉินหมิงเป็นผู้ชายธรรมดาและยังโสด เขาจะต้านทานความอ่อนโยนและเสน่ห์อันเหลือล้นของซูซินเหยาได้อย่างไร!รูปลักษณ์ที่ขี้เล่นและมีเสน่ห์ของซูซินเหยาเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว ทิ้งร่องรอยไว้จนลบไม่ออกความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มร้อนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ใช่แฟน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ละเอียดอ่อนมากและเกินขอบเขตของความเป็นเพื่อนขอแค่ฉินหมิงยอมพยักหน้าตกลง ทั้งสองก็สามารถคบหากันได้เลยทันทีแต่ฉินหมิงรู้ดีว่าคนที่เขารักมากที่สุดในใจยังคงเป็นหลินหว่านชิง ส่วนซูซินเหยาถือได้ว่าเป็นเพียงคนสนิทของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคในใจเพื่อให้ยอมรับความรักของซูซินเหยาได้ถึงกระนั้น ซูซินเหยาก็มีความสุขมากเธอรู้ว่าฉินหมิงยังไม่ออกมาจากเงาความรักที่แตกสลาย และเรื่องแบบนี้ก็ไม่สามารถเร่งรีบได้แต่เธอมีเวลาและความอดทนมากมาย เธอสามารถรอจนกว่าฉินหมิงจะค่อย ๆ ลืมหลินหว่านชิง จากนั้นเธอก็สามารถแทนที่ตำแหน่งของหลินหว่านชิงในหัวใจของฉินหมิงได้สำเร็จ!……วันก่อนการประมูลซูซินเหยาขับรถพาฉินหมิงไปถึงเมืองหลัวไห่ที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นทั้งสองค