เฝิงเจิ้นมีสีหน้าตกตะลึงและสับสน เขาเดาไม่ถูกว่าที่ฉินหมิงอยากจะทำการรักษาให้เป็นเพราะความขุ่นเคืองหรือเพราะว่าทำไม่ได้จริง ๆ !“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้!”“พูดตามตรง หากให้ผมรักษาคุณผู้หญิงตั้งแต่แรก ผมคงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะรักษาเธอได้”“แต่ตอนนี้ ยานั่นได้กระตุ้นพลังงานทางกายภาพของเธอและทำให้อาการแย่ลง ความหนาวเย็นที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายได้ลามไปยังหัวใจแล้ว จนแม้แต่สิบเปอร์เซนต์ผมก็ยังไม่มั่นใจ…”ฉินหมิงส่ายหัวด้วยความเสียใจ“เป็นอย่างนี้ได้ยังไง…”“ความผิดของผมเอง ผมดึงดันจนทำให้หลานจือต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เป็นผมเองที่ทำร้ายเธอ!”ใบหน้าของเฝิงเจิ้นซีดลง อยากจะตีตัวเองสักหลาย ๆ ที และเขารู้สึกเสียใจเกินจะบรรยายน่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มียาแก้เสียใจขาย ไม่ว่าเขาจะเสียใจกี่ครั้ง มันก็ไม่ช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้!“คุณชายฉิน คุณบอกแค่ว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังไม่มั่นใจ แต่คุณไม่ได้บอกว่าไม่มีทางรักษานี่”“พอมีวิธีไหนที่จะรักษาแม่ของผมได้บ้าง?”เฝิงหลุนถามอย่างร้อนใจ“ก็พอมีอยู่ทางหนึ่ง แต่โอกาสสำเร็จยังต่ำเกินไป…”ฉินหมิงกำลังจะพูดแต่ก็หยุดชะงั
“คุณฉิน สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ล้วนมาจากความผิดพลาดของผม ผมรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้คุณไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น”“แต่ตอนนี้นอกจากคุณก็ไม่มีใครสามารถช่วยภรรยาของผมได้แล้ว”“ถือว่าผมขอร้อง โปรดเมตตาลองเสี่ยงดู…”เฝิงเจิ้นคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อภรรยาแล้ว เขาถึงกับละทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นราชาแดนใต้คุกเข่าขอร้องใครสักคน นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารักภรรยามากแค่ไหน!“คุณเฝิง คุณลุกขึ้นเถอะ เมื่อครู่ผมก็พูดไปแล้วว่าโอกาสสำเร็จมีน้อยเกินไป”“ต่อให้คุณขอร้องมากแค่ไหน ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้...”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“ไม่ว่าโอกาสสำเร็จจะน้อยแค่ไหน ผมแค่หวังว่าคุณจะพยายามทำให้ดีที่สุด”“ไม่ต้องกังวล หากรากฐานวรยุทธ์ของคุณเสียหายจริง ๆ แม้ตระกูลเฝิงของเราจะต้องทุ่มทรัพย์สมบัติทั้งหมด เราก็จะหายาอายุวัฒนะมาช่วยฟื้นฟูรากฐานที่เสียหายของคุณอย่างแน่นอน”เฝิงเจิ้นกล่าวอย่างจริงใจเขารู้ว่าฉินหมิงไม่อยากเสี่ยงเพราะกังวลว่าตัวเองจะเดือดร้อนไปด้วย หากเขาสามารถแก้ปัญหาความกังวลใจของฉินหมิงในเรื่องรากฐานวรยุทธ์ที่อาจถูกทำลายได้ บางทีฉินหมิงอาจจะยอมลองเสี่ยงดู“เอ่อ…”ฉินหมิงตกอยู่ในความเงียบเฝิงเจิ้นพูด
จากนั้นก็มีพลังงานพุ่งพล่านในอกของเขา เขาก้มตัวลงพ่นเลือดออกมาเต็มคำ“คุณนี่มันหมอไร้ฝีมือ!”“เมื่อครู่ผมเพิ่งโทรไปปรึกษาคุณฉีปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีน เขาบอกว่าการฉีดยากระตุ้นให้ตื่นมีผลข้างเคียง และไม่สามารถใช้กับคนไข้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้!”“ทั้งหมดเป็นเพราะคุณฉีดยาให้ภรรยาผมแบบมั่ว ๆ จนเธอตกอยู่ในสภาพนี้!”“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอในวันนี้ ผมจะทำให้คุณต้องตายแบบไม่มีที่ให้ฝังศพอย่างแน่นอน!”เฝิงเจิ้นจ้องมองอย่างโกรธแค้นด้วยท่าทางอาฆาตอยากจะฆ่าหมอชุยให้ตายคามือหากเมื่อครู่หมอชุยไม่กังขาในทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงและเอาแต่มุ่งเป้าไปที่ฉินหมิง เขาคงไม่หลงเชื่อคำกล่าวหาของหมอชุยจนไล่ฉินหมิงไป อีกทั้งชีวิตของภรรยาของเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย!สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่ส่วนที่ต้องรับผิดชอบของหมอชุยนั้นมีมากกว่า!การที่เขาไม่เล่นงานหมอชุยให้ถึงตายก็ถือว่ามีเมตตามากแล้ว!หมอชุยตกใจมากจนกลิ้งมาหมอบที่พื้นพลางอ้อนวอนขอความเมตตา “คุณเฝิง โปรดเมตตาผมด้วย!”“ความตั้งใจจริง ๆ ของผมก็เพื่อช่วยคุณผู้หญิง ไม่คิดว่าการใช้ยากระตุ้นให้ตื่นจะมีผลข้างเ
แต่ฉินหมิงนั้นไม่ยินดีเลยความเยือกเย็นที่ลามไปยังหัวใจนั้นเป็นงานยากและมีอันตรายถึงชีวิต การนำความเยือกเย็นออกมาทั้งหมดนั้นยากกว่าเป็นสิบเท่า!ฉินหมิงรู้ดีว่าเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อย การรักษาที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนใบหน้าของฉินหมิงซีดเซียว พลังวิญญาณในร่างกายของเขาเกือบจะหมดลงแล้ว แต่ความเยือกเย็นที่อยู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิงหายไปได้เพียงไม่ถึงหนึ่งในสามที่แย่กว่านั้นคือเขาเหนื่อยล้ามากแล้ว ความเยือกเย็นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะระงับมัน และมันเริ่มส่งผลย้อนกลับไปยังร่างกายของเขาอึ่ก!ฉินหมิงไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของความเยือกเย็นได้อีกต่อไป จนสุดท้ายก็มีเลือดพุ่งออกมาเต็มปากอย่างที่เขาเดาไว้ก่อนหน้านี้ อาการของคุณผู้หญิงเฝิงนั้นร้ายแรงเกินไป เขาไม่สามารถรักษาเธอได้ผลของการดันทุรังช่วยเหลือก็คือเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย!“คุณฉิน คะ...คุณเป็นอะไรไป…”เมื่อเห็นฉินหมิงอาเจียนเป็นเลือด เฝิงเจิ้นและลูก ๆ ของเขาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาพากันมองมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลแต่ด้วยความที่ฉินหมิงกำลังรักษาคุณผู้หญิ
“ไม่ครับ ความช่วยเหลือของคุณมาได้ทันเวลาอย่างมาก!”“ขอแค่คุณยังส่งพลังปราณที่แท้จริงต่อไปเรื่อย ๆ ผมมั่นใจอย่างน้อยเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถรักษาคุณผู้หญิงได้!”ฉินหมิงรู้สึกโล่งใจจนในที่สุดก็เผยรอยยิ้มออกมาขอบเขตพลังยุทธ์ของเฝิงเจิ้นนั้นสูงกว่าเขามาก ด้วยพลังปราณที่แท้จริงของเฝิงเจิ้น มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะปัดเป่าความเยือกเย็นที่ลามเข้าสู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิง อีกทั้งเขาก็ไม่ต้องกังวลกับการกัดกร่อนของความเยือกเย็นด้วย!“จริงเหรอ?”“ดีจริง ๆ !”เฝิงเจิ้นกับลูก ๆ ของเขาปลื้มปิติ และทุกคนก็ตื่นเต้นกันมากโดยเฉพาะเฝิงเจิ้น ก่อนหน้านี้ฉินหมิงพูดว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่แน่ใจ ถึงจะพยายามแค่ไหนก็มีเพียงความอันริบหรี่ อีกทั้งยังไม่กล้าที่จะให้ความหวังแต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกผันครั้งใหญ่ ฉินหมิงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าสามารถรักษาภรรยาของเขาได้เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้จินตนาการออกถึงความสุขในใจของเขา!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรด้วยความช่วยเหลือจากพลังปราณที่แท้จริงอันแข็งแกร่งของเฝิงเจิ้น ในที่สุดฉินหมิง ก็ขจัดความเยือกเย็นใน
เฝิงหลุนกล่าวอย่างตื่นเต้น“คุณชายฉินคือใครกัน?”คุณผู้หญิงเฝิงดูสับสนก่อนหน้านี้หมอชุยเป็นคนที่คอยรักษาเธอตอนที่เธอล้มป่วยหรือเป็นลม คราวนี้เธอคิดว่าเป็นฝีมือของหมอชุยและเธอไม่รู้ว่าฉินหมิงคือใคร“คือเรื่องเป็นอย่างนี้…”เฝิงหลุนเล่าสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ฉินหมิงกระอักเลือดออกมาเต็มปากเพื่อช่วยคุณผู้หญิงเฝิงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมฉินหมิงถึงอาเจียนเป็นเลือด แต่ถึงใช้เท้าคิดเขาก็เดาได้ว่าสถานการณ์นั้นต้องอันตรายมาก“อย่างนี้นี่เอง!”“คุณฉินอยู่ที่ไหน เขาอยู่ที่ไหน พวกเราควรขอบคุณเขาอย่างเหมาะสม”เมื่อรู้ว่าฉินหมิงยอมเสี่ยงขนาดนี้ คุณผู้หญิงเฝิงก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เธอพยายามลุกจากเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนแอ และอยากจะขอบคุณฉินหมิงด้วยตนเอง“แม่คะ ตอนนี้ฉินหมิงถูกความเยือกเย็นเล่นงาน เขากำลังใช้กำลังภายในขจัดมันออกไปอยู่”เฝิงรั่วซวงอธิบาย ครอบครัวของพวกเขารู้สึกซาบซึ้งพลางเบนสายตาไปยังฉินหมิงในขณะนี้ ฉินหมิงกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญของการใช้กำลังภายในระดับพลังยุทธ์ของเขาอยู่เพียงปลายแถวเท่านั้น ซึ่งตามหลังเฝิงเจิ้นผู้เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอยู่มากใน
อันที่จริงทั้งสามคนพ่อลูกต่างก็เข้าใจผิดกันหมดพวกเขาและฉินหมิงไม่ได้ฝึกอยู่ในเส้นทางเดียวกันมาตั้งแต่แรกก่อนหน้านี้ที่ฉินหมิงกล่าวว่าเขาสามารถรักษาโรคของคุณผู้หญิงเฝิงได้ ซึ่งหมายถึงการรักษาที่ต้นเหตุแต่พวกเขาคิดว่าฉินหมิงเป็นเหมือนกับหมอชุยที่เพียงแค่ทำให้คุณผู้หญิงเฝิงฟื้นและรักษาตามอาการคุณผู้หญิงเฝิงเคยไปหาแพทย์ชื่อดังมาหลายคนแล้วแต่ไม่มีใครสามารถรักษาเธอได้ แม้แต่คุณฉีปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนก็ยังทำอะไรไม่ได้ดังนั้นสามคนพ่อลูกต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ฉินหมิงสามารถชุบชีวิตคุณผู้หญิงเฝิงที่กำลังจะตายในครั้งนี้ได้ พวกเขาไม่กล้าคาดหวังว่าฉินหมิงจะสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของคุณผู้หญิงเฝิงได้อย่างสมบูรณ์!“คุณผู้หญิง คุณกังวลมากเกินไปแล้ว!”"อาการของคุณได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว ในอนาคตคุณจะไม่เป็นลมหรือป่วยอีก!”ตอนนั้นก็มีเสียงของฉินหมิงดังขึ้น เขาหยุดสิ่งที่กำลังทำและเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าหลังจากใช้กำลังภายในรักษาบาดแผล ไม่เพียงแต่ความเยือกเย็นในร่างกายของเขาจะหายไปเท่านั้น แต่การฝึกวรยุทธ์ยังได้ผ่านพ้นขีดกำจัดและบรรลุไปจนถึงสภาวะข
โดยเฉพาะเฝิงเจิ้นเนื่องจากฉินหมิงจงใจปกปิดที่มาและอาจารย์ของเขา เขาจึงค่อนข้างรังเกียจฉินหมิง และล้มเลิกความคิดที่จะให้ลูกสาวของเขากับฉินหมิงคบกันแต่ตอนนี้ ฉินหมิงได้เสี่ยงชีวิตช่วยภรรยาของเขา ในขณะที่เขารู้สึกขอบคุณ ความคิดที่จะให้ลูกสาวของเขาคบกับฉินหมิงก็กลับมาอีกครั้งเช่นเดียวกับที่เฝิงหลุนลูกชายของเขาพูด เฝิงรั่วซวงและฉินหมิงเป็นคู่กิ่งทองใบหยกที่เหมาะสมกันมาก!“คือ...หนูก็แค่ดีใจมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้นิดหน่อย…”ในที่สุดเฝิงรั่วซวงก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอรีบผละออกมาจากอ้อมแขนของฉินหมิง จากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นนิ่งเฉยพลางสะบัดผมพยายามซ่อนความเขินอายของตัวเองแต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ดูเหมือนยิ่งอยากปิดบังยิ่งกลายเป็นว่าเปิดเผยให้โลกรู้“คุณชายเฝิง คุณมีกระดาษกับปากกาไหม? ผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณผู้หญิง”ฉินหมิงยังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างเงียบ ๆ“ครับ ผมจะไปเอามาให้”หลังจากที่เฝิงหลุนกลับมามีสติ เขาก็รีบหากระดาษกับปากกามายื่นให้ฉินหมิงฉินหมิงจรดปลายปากกาเขียนใบสั่งยาให้เฝิงเจิ้น และถามรายละเอียดบางอย่างกับเข