“ว่ายังไงนะ…”เฝิงเจิ้นเดินโซเซ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังแต่เขาและภรรยาต่างมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง เขาจึงปฏิเสธที่จะยอมแพ้จนถึงวินาทีสุดท้าย เขายังคงอ้อนวอนต่อไปว่า “คุณฉี ถือว่าผมขอร้อง คุณลองคิดหาทางดูอีกที ขอแค่ช่วยภรรยาของผมได้ ไม่ว่าเท่าไรผมก็ยอมจ่าย”“คุณเฝิง ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ แต่ทักษะทางการแพทย์ของผมก็มีขีดจำกัด ผมทำอะไรไม่ได้จริง ๆ …”ขณะที่คุณฉีกำลังพูด จู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเขา ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และหล่อเหลาก็ปรากฏขึ้น เขาจึงได้สติขึ้นมาทันทีพลางพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ผมหาวิธีได้แล้ว!”เฝิงเจิ้นดีใจมาก “วิธีไหนครับ?”"มีคนในเมืองเจียงเฉิงที่มีทักษะทางการแพทย์ดีกว่าผม!”“หากคุณขอให้เขาช่วยได้ บางทีเขาอาจจะสามารถช่วยคุณผู้หญิงได้!”คุณฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม“จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย!”“คนคนนั้นคือใคร? เขาอาศัยอยู่ที่ไหน?”“ผมจะส่งคนไปเชิญเขาเดี๋ยวนี้!”เฝิงเจิ้นตื่นเต้นมาก เขาหมดหวังแล้ว แต่แววตาแห่งความหวังกลับจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง!เขารู้ดีว่าคุณฉีได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในแวดวงการแพทย์ในเจียงเฉิง แม้เขาไม่คิดว่าจะมีใครเ
แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาให้รู้สึกสบายใจ ประโยคถัดไปของคุณฉีทำให้อารมณ์ของเขาดิ่งฮวบเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งทันที!“คุณเฝิง ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งฉินหมิงเคยไปรักษาคุณหญิงใหญ่สวีแห่งตระกูลสวี คุณลองไปสอบถามทางนั้นดู พวกเขาน่าจะรู้ที่อยู่ของฉินหมิง”คุณฉีกล่าวเสริม“เอ่อ…”เฝิงเจิ้นรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขายืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้นคุณฉีทำให้รู้อย่างชัดแจ้งว่าแม้ตัวเขาจะใช้เท้าคิดก็เดาได้ว่าฉินหมิงที่คุณฉีกำลังพูดถึงนั้นต้องเป็นฉินหมิงที่เขาเพิ่งไล่ออกไปอย่างแน่นอน!ขณะนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ไม่แปลกใจที่ฉินหมิงกล้าพูดว่าตัวเองรักษาภรรยาของเขาได้ นี่ไม่ใช่การคุยโว เพราะสิ่งที่ฉินหมิงพูดนั้นคือเรื่องจริง!เขาโง่เขลาเกินบรรยาย อีกทั้งยังตำหนิฉินหมิงอย่างผิด ๆ !“คุณเฝิง ทำไมคุณไม่พูดล่ะ?”เมื่อเห็นเฝิงเจิ้นที่อยู่ปลายสายตกอยู่ในความเงียบ คุณฉีก็ถามขึ้น“ขอบคุณคุณฉีมาก…”“ผมรู้แล้วว่าฉินหมิงที่คุณพูดถึงคือใครผมจะรีบไปเชิญเขามารักษาภรรยาของผมทันที!”สีหน้าของเฝิงเจิ้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ลืมขอบคุณคุณฉีก่อนจะวางสายเมื่อเห็นสีหน้าของพ่อเธอดูแย่มาก เฝิงรั่วซวงก็ระงั
ฉินหมิงไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเฝิงหลุน เขายืนรอที่เดิมอยู่ครู่หนึ่ง ในไม่ช้าก็เห็นเฝิงหลุนขับรถสปอร์ตเปิดประทุนระดับไฮเอนด์สีขาวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา“คุณชายฉิน ขึ้นรถมาเลยครับ”เฝิงหลุนยิ้มทักทายฉินหมิงเปิดประตูข้างคนขับและกำลังจะขึ้นรถ“เดี๋ยว!”"คุณฉินอย่าเพิ่งไป!"ขณะนั้นก็มีเสียงร้องอย่างวิตกกังวลดังออกมา เฝิงเจิ้นใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อกระตุ้นพลังปราณที่แท้จริงไล่ตามมาจากด้านหลังราวกับสายฟ้าเขาเร็วมากราวกับทิ้งภาพติดตาไว้ เขาก้าวไปไม่กี่ก้าวจนมาปรากฏตัวต่อหน้าฉินหมิงในพริบตา“คุณเฝิง ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอ?”ฉินหมิงขมวดคิ้วพลางพูดเสียงเย็นชาแม้เขาจะไม่ได้อยากจะโต้เถียงกับเฝิงเจิ้น แต่ทัศนคติของอีกฝ่ายในตอนนี้แย่มาก และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองฝ่ายนั้นในแง่ดี“ผม…”เฝิงเจิ้นอ้าปากค้าง ดูเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อครู่เขาเข้าใจฉินหมิงผิด แถมยังไล่ฉินหมิงออกมาเป็นการตอบแทนเสียอย่างนั้นเขารู้ว่าตัวเองผิดจึงอยากจะขอโทษฉินหมิง แต่ด้วยความที่เขาเป็นถึงราชาแดนใต้และเคยชินกับการทำตัวสูงส่งการที่จะให้เขาก้มหัวขอโทษคนที่อาวุโสน้อยกว่าอย่างฉินหมิง นั่นคงจะทำให้เขารู้ส
เฝิงเจิ้นมีสีหน้าตกตะลึงและสับสน เขาเดาไม่ถูกว่าที่ฉินหมิงอยากจะทำการรักษาให้เป็นเพราะความขุ่นเคืองหรือเพราะว่าทำไม่ได้จริง ๆ !“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้!”“พูดตามตรง หากให้ผมรักษาคุณผู้หญิงตั้งแต่แรก ผมคงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะรักษาเธอได้”“แต่ตอนนี้ ยานั่นได้กระตุ้นพลังงานทางกายภาพของเธอและทำให้อาการแย่ลง ความหนาวเย็นที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายได้ลามไปยังหัวใจแล้ว จนแม้แต่สิบเปอร์เซนต์ผมก็ยังไม่มั่นใจ…”ฉินหมิงส่ายหัวด้วยความเสียใจ“เป็นอย่างนี้ได้ยังไง…”“ความผิดของผมเอง ผมดึงดันจนทำให้หลานจือต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เป็นผมเองที่ทำร้ายเธอ!”ใบหน้าของเฝิงเจิ้นซีดลง อยากจะตีตัวเองสักหลาย ๆ ที และเขารู้สึกเสียใจเกินจะบรรยายน่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มียาแก้เสียใจขาย ไม่ว่าเขาจะเสียใจกี่ครั้ง มันก็ไม่ช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้!“คุณชายฉิน คุณบอกแค่ว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังไม่มั่นใจ แต่คุณไม่ได้บอกว่าไม่มีทางรักษานี่”“พอมีวิธีไหนที่จะรักษาแม่ของผมได้บ้าง?”เฝิงหลุนถามอย่างร้อนใจ“ก็พอมีอยู่ทางหนึ่ง แต่โอกาสสำเร็จยังต่ำเกินไป…”ฉินหมิงกำลังจะพูดแต่ก็หยุดชะงั
“คุณฉิน สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ล้วนมาจากความผิดพลาดของผม ผมรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้คุณไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น”“แต่ตอนนี้นอกจากคุณก็ไม่มีใครสามารถช่วยภรรยาของผมได้แล้ว”“ถือว่าผมขอร้อง โปรดเมตตาลองเสี่ยงดู…”เฝิงเจิ้นคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อภรรยาแล้ว เขาถึงกับละทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นราชาแดนใต้คุกเข่าขอร้องใครสักคน นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารักภรรยามากแค่ไหน!“คุณเฝิง คุณลุกขึ้นเถอะ เมื่อครู่ผมก็พูดไปแล้วว่าโอกาสสำเร็จมีน้อยเกินไป”“ต่อให้คุณขอร้องมากแค่ไหน ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้...”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“ไม่ว่าโอกาสสำเร็จจะน้อยแค่ไหน ผมแค่หวังว่าคุณจะพยายามทำให้ดีที่สุด”“ไม่ต้องกังวล หากรากฐานวรยุทธ์ของคุณเสียหายจริง ๆ แม้ตระกูลเฝิงของเราจะต้องทุ่มทรัพย์สมบัติทั้งหมด เราก็จะหายาอายุวัฒนะมาช่วยฟื้นฟูรากฐานที่เสียหายของคุณอย่างแน่นอน”เฝิงเจิ้นกล่าวอย่างจริงใจเขารู้ว่าฉินหมิงไม่อยากเสี่ยงเพราะกังวลว่าตัวเองจะเดือดร้อนไปด้วย หากเขาสามารถแก้ปัญหาความกังวลใจของฉินหมิงในเรื่องรากฐานวรยุทธ์ที่อาจถูกทำลายได้ บางทีฉินหมิงอาจจะยอมลองเสี่ยงดู“เอ่อ…”ฉินหมิงตกอยู่ในความเงียบเฝิงเจิ้นพูด
จากนั้นก็มีพลังงานพุ่งพล่านในอกของเขา เขาก้มตัวลงพ่นเลือดออกมาเต็มคำ“คุณนี่มันหมอไร้ฝีมือ!”“เมื่อครู่ผมเพิ่งโทรไปปรึกษาคุณฉีปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีน เขาบอกว่าการฉีดยากระตุ้นให้ตื่นมีผลข้างเคียง และไม่สามารถใช้กับคนไข้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้!”“ทั้งหมดเป็นเพราะคุณฉีดยาให้ภรรยาผมแบบมั่ว ๆ จนเธอตกอยู่ในสภาพนี้!”“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอในวันนี้ ผมจะทำให้คุณต้องตายแบบไม่มีที่ให้ฝังศพอย่างแน่นอน!”เฝิงเจิ้นจ้องมองอย่างโกรธแค้นด้วยท่าทางอาฆาตอยากจะฆ่าหมอชุยให้ตายคามือหากเมื่อครู่หมอชุยไม่กังขาในทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงและเอาแต่มุ่งเป้าไปที่ฉินหมิง เขาคงไม่หลงเชื่อคำกล่าวหาของหมอชุยจนไล่ฉินหมิงไป อีกทั้งชีวิตของภรรยาของเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย!สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่ส่วนที่ต้องรับผิดชอบของหมอชุยนั้นมีมากกว่า!การที่เขาไม่เล่นงานหมอชุยให้ถึงตายก็ถือว่ามีเมตตามากแล้ว!หมอชุยตกใจมากจนกลิ้งมาหมอบที่พื้นพลางอ้อนวอนขอความเมตตา “คุณเฝิง โปรดเมตตาผมด้วย!”“ความตั้งใจจริง ๆ ของผมก็เพื่อช่วยคุณผู้หญิง ไม่คิดว่าการใช้ยากระตุ้นให้ตื่นจะมีผลข้างเ
แต่ฉินหมิงนั้นไม่ยินดีเลยความเยือกเย็นที่ลามไปยังหัวใจนั้นเป็นงานยากและมีอันตรายถึงชีวิต การนำความเยือกเย็นออกมาทั้งหมดนั้นยากกว่าเป็นสิบเท่า!ฉินหมิงรู้ดีว่าเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อย การรักษาที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนใบหน้าของฉินหมิงซีดเซียว พลังวิญญาณในร่างกายของเขาเกือบจะหมดลงแล้ว แต่ความเยือกเย็นที่อยู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิงหายไปได้เพียงไม่ถึงหนึ่งในสามที่แย่กว่านั้นคือเขาเหนื่อยล้ามากแล้ว ความเยือกเย็นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะระงับมัน และมันเริ่มส่งผลย้อนกลับไปยังร่างกายของเขาอึ่ก!ฉินหมิงไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของความเยือกเย็นได้อีกต่อไป จนสุดท้ายก็มีเลือดพุ่งออกมาเต็มปากอย่างที่เขาเดาไว้ก่อนหน้านี้ อาการของคุณผู้หญิงเฝิงนั้นร้ายแรงเกินไป เขาไม่สามารถรักษาเธอได้ผลของการดันทุรังช่วยเหลือก็คือเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย!“คุณฉิน คะ...คุณเป็นอะไรไป…”เมื่อเห็นฉินหมิงอาเจียนเป็นเลือด เฝิงเจิ้นและลูก ๆ ของเขาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาพากันมองมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลแต่ด้วยความที่ฉินหมิงกำลังรักษาคุณผู้หญิ
“ไม่ครับ ความช่วยเหลือของคุณมาได้ทันเวลาอย่างมาก!”“ขอแค่คุณยังส่งพลังปราณที่แท้จริงต่อไปเรื่อย ๆ ผมมั่นใจอย่างน้อยเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถรักษาคุณผู้หญิงได้!”ฉินหมิงรู้สึกโล่งใจจนในที่สุดก็เผยรอยยิ้มออกมาขอบเขตพลังยุทธ์ของเฝิงเจิ้นนั้นสูงกว่าเขามาก ด้วยพลังปราณที่แท้จริงของเฝิงเจิ้น มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะปัดเป่าความเยือกเย็นที่ลามเข้าสู่หัวใจของคุณผู้หญิงเฝิง อีกทั้งเขาก็ไม่ต้องกังวลกับการกัดกร่อนของความเยือกเย็นด้วย!“จริงเหรอ?”“ดีจริง ๆ !”เฝิงเจิ้นกับลูก ๆ ของเขาปลื้มปิติ และทุกคนก็ตื่นเต้นกันมากโดยเฉพาะเฝิงเจิ้น ก่อนหน้านี้ฉินหมิงพูดว่าแม้แต่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่แน่ใจ ถึงจะพยายามแค่ไหนก็มีเพียงความอันริบหรี่ อีกทั้งยังไม่กล้าที่จะให้ความหวังแต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกผันครั้งใหญ่ ฉินหมิงมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าสามารถรักษาภรรยาของเขาได้เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้จินตนาการออกถึงความสุขในใจของเขา!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรด้วยความช่วยเหลือจากพลังปราณที่แท้จริงอันแข็งแกร่งของเฝิงเจิ้น ในที่สุดฉินหมิง ก็ขจัดความเยือกเย็นใน