“ฉันเดาว่าโรคเก่าของคุณนายอาจจะกำเริบอีกแล้ว…”พี่เลี้ยงอู๋ตอบตามความเป็นจริง“บางทีอาจจะเป็นแบบนั้น”เฝิงเจินถอนหายใจ สีหน้าของเขาดูเศร้าเล็กน้อย ภรรยาของเขามีร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่ยังเด็ก ในปีนั้นตอนที่เขาบุกโลกใต้ดินภรรยาของเขาก็มักจะขึ้นเหนือล่องใต้ไปกับเขาด้วยทุกที่ บางครั้งนอนกลางดินกินกลางทราย นี่ถึงทำให้ทิ้งต้นตอของโรคเอาไว้ต่อมาหลังจากที่ภรรยาของเขาให้กำเนิดลูกสาวและลูกชายอย่างละคน ร่างกายของเธอก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ เธอล้มป่วยบ่อย ๆ และต้องพักรักษาตัวบนเตียงอย่างต่ำก็ครึ่งปีด้วยเหตุนี้ เขาจึงเชิญหมอที่มีชื่อเสียงนับไม่ถ้วนมาตรวจดูอาการ สูญเสียเงินและพลังกับเรื่องนี้ไปนับไม่ถ้วน แต่อาการป่วยของภรรยาเขาก็ไม่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ สุขภาพของภรรยาเขาย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด เธอมักจะหมดสติอย่างกะทันหันเป็นครั้งคราวนี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย!เขามองภาพทุกอย่างในดวงตา รู้สึกร้อนใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้“พี่ซวง เฝิงหลุน ทั้งสองคนไม่ต้องกังวลไปหรอก คุณป้าเพียงแค่ถูกไอเย็นแทรกเข้าสู่ร่างกายก็เลยหมดสติไป”“ยังไม่มีอะไรร้ายแรงชั่วคราว”ฉินหมิงปลอบใจพวกเขาก
“อ้อ เขาคือคุณฉิน เป็นเพื่อนของหลุนเอ๋อร์น่ะ…” เฝิงเจิ้นอธิบายสั้น ๆ “เขาเป็นหมอเหรอ?”หมอชุยขมวดคิ้วเมื่อก่อนทุกครั้งที่ภรรยาของเฝิงเจิ้นป่วย ตราบเท่าที่เขารักษาเธอให้หายเฝิงเจิ้นก็จะมอบเงินให้กับเขาจำนวนมากเพื่อเป็นรางวัลถ้าฉินหมิงเองก็เป็นหมอเหมือนกันและเข้ามาแทรกแซงการรักษาของเขากลางคัน นี่ไม่เท่ากับกำลังปล้นงานของเขาหรอกเหรอ!“นี่...”เฝิงเจิ้นไม่รู้ว่าฉินหมิงเป็นหมอไหม ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ฉินหมิงด้วยความสงสัยโดยไม่รู้ตัว“ผมไม่ใช่หมอหรอกครับ”ฉินหมิงส่ายหัวแล้วพูด“ไม่ใช่หมอ?”เฝิงเจิ้นสามพ่อลูกตะลึงงันในทันที โดยเฉพาะเฝิงเจิ้น เมื่อสักครู่นี้เขาเดาว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงมีขอบเขตที่จำกัด ตอนนี้เมื่อรู้ว่าฉินหมิงไม่ใช่หมอด้วยซ้ำ เขาก็เริ่มสงสัยในทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงมากยิ่งขึ้น!หมอชุยโกรธจนหลุดหัวเราะออกมา “คุณเฝิง คนคนนี้ไม่ใช่แม้แต่หมอด้วยซ้ำ กล้าดียังไงถึงมารักษาคนไข้แบบสุ่ม ๆ แบบนี้?”“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบผลที่ตามมา”“ผม…”ใบหน้าของเฝิงเจิ้นมืดลงเมื่อสักครู่นี้เขาร้อนใจเกินไป คว้าอะไรได้ก็อยากให้ลองไปหมด ตอนนี้เมื่
“ผมคิดว่าให้เขารักษาคงจะเหมาะกว่า!”เฝิงเจิ้นกล่าวอย่างเรียบเฉยแม้ว่าเขาจะไม่เชื่อในทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิง แต่เมื่อพิจารณาว่าฉินหมิงเป็นแขกของพวกเขาและมีความตั้งใจดี เขาจึงปฏิเสธอย่างอ้อม ๆ“แต่…”ฉินหมิงยังคงลังเล“ไม่ต้องแต่แล้ว!”“เอาเป็นว่าคุณควรถอยไปก่อน อย่าทำให้การรักษาของหมอชุยเสียเวลา!”เฝิงเจิ้นโบกมือ น้ำเสียงเขาดูเหลืออดขึ้นมาแล้ว“ก็…ได้ครับ”ฉินหมิงถอนหายใจพลางถอยออกมา จากนั้นหมอชุยก็ก้าวไปข้างหน้าหยิบเครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ ออกมา และเริ่มทำการตรวจคุณผู้หญิงเฝิงตามปกติ“ในเมื่อวันนี้ลุงเฝิงมีเรื่องต้องทำ ผมคงไม่อยู่รบกวนแล้ว”“ผมขอตัวกลับก่อน”ฉินหมิงยกมือคำนับกล่าวคำอำลาถึงอย่างไรเฝิงเจิ้นก็ไม่เชื่อในทักษะทางการแพทย์ของเขา ดังนั้นจึงดูเหมือนไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องอยู่ต่อ“เดี๋ยว!”“ฉินหมิง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณที่จะมาที่บ้านของเราสักครั้ง หากคุณจากไปแบบนี้โดยยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน ก็จะดูเหมือนว่าพวกเราละเลยคุณมากเกินไป”เฝิงรั่วซวงรีบห้ามอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้ฉินหมิงช่วยให้เธอได้รับความยุติธรรมด้วยตัวเอง เธอจดจำความเมตตานี้ไว้ในใจเสมอ แต่
“เอ๋ เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง?...”หมอชุยรู้สึกประหลาดใจเขายังคงใช้หลาย ๆ วิธีต่อไป แต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากคุณผู้หญิงเฝิง“หมอชุย เกิดอะไรขึ้น? ทำไมภรรยาผมยังไม่ตื่น?”เฝิงเจิ้นถามอย่างกังวล“อาการของคุณผู้หญิงในครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าแต่ก่อน…”ท่าทางของหมอชุยเคร่งขรึมขึ้นมาอีกเล็กน้อยเมื่อก่อนเวลาที่คุณผู้หญิงเฝิงเป็นลม เขามักจะสามารถทำให้เธอฟื้นได้อย่างรวดเร็วโดยใช้วิธีการรักษาทางการแพทย์ไม่กี่วิธีตอนนี้เขาเกือบจะใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองจากคุณผู้หญิงเฝิงถึงจะใช้เท้าคิดก็เห็นได้ชัดว่าอาการของคุณผู้หญิงเฝิงในครั้งนี้ร้ายแรงกว่าเมื่อก่อนมาก!เมื่อได้ยินสิ่งที่หมอชุยพูด เฝิงเจิ้นก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก “หมอชุย ถ้างั้นตอนนี้ควรทำยังไง?”“คุณเฝิงไม่ต้องกังวล ผมมีวิธีอื่นที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งก็คือการฉีดยากระตุ้นให้ตื่น…”หมอชุยลังเลที่จะพูดการฉีดยากระตุ้นให้ตื่นได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรักษาผู้ป่วยอาการโคม่า แต่บางครั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลโดยทั่วไปแพทย์จะไ
หมอชุยยิ้มอย่างเย็นชา“ลุงเฝิง ผมไม่ค่อยรู้เรื่องยาตะวันตกมากนักเลยไม่รู้จะอธิบายยังไงดี”“เอาเป็นว่าคุณได้โปรดเชื่อผมเถอะ ด้วยสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้ไม่สามารถฉีดยากระตุ้นให้ตื่นได้อย่างแน่นอน!”ฉินหมิงหันความสนใจไปที่เฝิงเจิ้นและแนะนำอย่างหนักแน่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขาได้รักษาโรคที่ยากและซับซ้อนเป็นจำนวนมาก จนสั่งสมประสบการณ์ทางการแพทย์มาจำนวนหนึ่งประสบการณ์และสัญชาตญาณเหล่านี้บอกเขาว่าทันทีที่คุณผู้หญิงเฝิงได้รับการฉีดยากระตุ้นให้ตื่น มีแนวโน้มว่าอาการจะแย่ลงและถึงขั้นเสียชีวิตทันที!“คุณ…”“คุณเฝิง เด็กคนนี้ตั้งใจก่อปัญหาอย่างเห็นได้ชัด โปรดไล่เขาออกไปและอย่าทำให้การรักษาของผมต้องล่าช้าไปมากกว่านี้!”หมอชุยตะโกนด้วยความโกรธ“คุณฉินกรุณาหลีกทางด้วย!”“เพราะเห็นคุณเป็นแขกผมเลยยอมให้ หวังว่าคุณจะไม่ล้ำเส้นอีก!”เฝิงเจิ้นโกรธที่ฉินหมิงเข้ามาขัดขวางซ้ำแล้วซ้ำอีกหากฉินหมิงบอกเหตุผลเขาก็อาจจะเชื่อทว่าฉินหมิงก็เอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดอะไร อีกทั้งเขาก็ไม่ใช่หมอจริง ๆ ด้วยซ้ำ แล้วเขาจะเชื่อฉินหมิงได้อย่างไร?หากเปรียบเทียบทั้งสองคนแล้ว เขาเชื่อหมอชุยที่เป็นมืออาชีพมากก
“พ่อ…”พี่น้องเฝิงรั่วซวงและเฝิงหลุนไม่พอใจอย่างมากฉินหมิงก็เป็นแขกของพวกเขาเช่นกัน เฝิงเจิ้นไม่เพียงใช้กำลังกับฉินหมิงเท่านั้น แต่ยังเอ่ยปากไล่เขาออกไปด้วย นี่มันมากเกินไปแล้ว!“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ส่งแขก!”ดวงตาที่เฉียบคมของเฝิงเจิ้นมองไปทางเฝิงรั่วซวงและเฝิงหลุนทางเฝิงรั่วซวงไม่กลัว แต่เฝิงหลุนนั้นกลัวอำนาจของพ่อมาตั้งแต่เด็ก เขาตัวสั่นและไม่กล้าโต้แย้งพ่อของเขาอีกมีเจตนาดีแต่กลับถูกเข้าใจผิด!ไม่ว่าฉินหมิงจะอารมณ์ดีแค่ไหนเขาก็โกรธมากหากเขาไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ เขาคงจะออกไปนานแล้ว คงไม่อยู่ที่นี่เพื่อทำให้ตัวเองลำบากใจ!แต่เมื่อทุกอย่างมาถึงจุดนี้ เขาก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เฝิงเจิ้นปฏิเสธที่จะฟังคำห้ามของเขา เขาก็คงทำอะไรไม่ได้“ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอตัว!”ฉินหมิงตะคอกอย่างเย็นชา หันหลังสะบัดแขนเสื้อจากไป“คุณชายฉิน เดี๋ยวผมไปส่ง…”เฝิงหลุนถอนหายใจพลางรีบไล่ตามเขาไป“เอาล่ะหมอชุย ตอนนี้เงียบแล้ว”“คุณรีบช่วยภรรยาของผมเร็ว ๆ เถอะ!”เฝิงเจิ้นเร่งเร้าโดยมองไปยังภรรยาของเขาที่อยู่บนเตียง ดวงตาที่เฉียบคมเดิมของเขาก็อ่อนโยนขึ้นมาก“ครับ”
หมอชุยกล่าวอย่างใจเย็น โดยพยายามปัดความรับผิดชอบ“ส่งไปโรงพยาบาลเหรอ พูดง่ายจังนะ!”“ตอนนี้แม่ของฉันอยู่ในสภาพนี้ แล้วจะทนกับแรงกระแทกจากเคลื่อนย้ายได้ยังไง!”“กว่าจะพาไปถึงโรงพยาบาล แม่คงตายก่อน!”เฝิงรั่วซวงต่อว่าอย่างโกรธเกรี้ยว ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความวิตกกังวล“เอ่อ…”หมอชุยพูดไม่ออกเขารู้ว่าเฝิงรั่วซวงพูดถูก ด้วยสภาพร่างกายของคุณผู้หญิงเฝิงในตอนนี้ หากเธอถูกส่งไปโรงพยาบาลก็อาจจะตายระหว่างทาง!“รั่วซวง ไม่ต้องกังวล ฉันจะคิดหาทางได้แน่นอน ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดและจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของแก!”เฝิงเจิ้นพูดปลอบ แต่เขารู้สึกหนักอึ้งมากจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร“พ่อคิดวิธีอะไรออกบ้างไหมล่ะ?”“สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นความผิดของพ่อทั้งหมด ฉินหมิงอุตส่าห์เตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าฉีดยาให้แม่สุ่มสี่สุ่มห้า แต่พ่อก็ไม่ยอมฟังแถมยังไล่เขาไปอีก!”“จนทำให้แม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้!”“ถ้าแม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากเรื่องนี้จริง ๆ หนูจะเกลียดพ่อไปตลอดชีวิตแน่!”เฝิงรั่วซวงคำรามด้วยความโกรธขณะที่เธอพูด เธอก็ทนความเศร้าในใจไม่ไหวอีกต่อไป สุดท้ายน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาราวก
คุณฉีสัมผัสได้ถึงความกังวลและความจริงใจในน้ำเสียงของเฝิงเจิ้น เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบรับคำขอของเฝิงเจิ้น “ชีวิตมนุษย์ตกอยู่ในความเสี่ยง การช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องที่ผมทำไม่ได้”“แต่คุณก็ทราบดีว่าผมเคยวินิจฉัยและรักษาคุณผู้หญิงมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งอาการของเธอนั้นแปลกมาก สิ่งที่ผมทำได้มากที่สุดคือสั่งยาบำรุงสองสามอย่างเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายของเธอเท่านั้น”“ส่วนอื่น ๆ ผมไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว”เมื่อก่อนตอนที่เฝิงเจิ้นพาภรรยาไปพบแพทย์ชื่อดัง ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยได้รับรักษาจากคุณฉี คุณฉีทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น ไม่สามารถรักษาได้ตรงจุด“ผมรู้ แต่เมื่อครู่ภรรยาของผมเพิ่งได้รับการฉีดยากระตุ้นให้ตื่น จู่ ๆ เธอก็อาเจียนเป็นเลือด และสลบไปจนโคม่า อาการของเธอตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤติมาก ๆ ”“ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณรักษาเธอให้หายขาด แค่ขอให้คุณทำให้เธอฟื้นได้ก็พอ”เฝิงเจิ้นถอนหายใจและอธิบายสถานการณ์คร่าว ๆ“อะไรนะ?”“ฉีดยากระตุ้นให้ตื่น?”คุณฉีรู้สึกตกใจ“ใช่ มีปัญหาอะไรเหรอครับ?”เฝิงเจิ้นถือโอกาสถามหลังจากที่ภรรยาของเขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด เขาก็เดาไปแล้วว่าอาจเป็นเพ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ