ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!เขาใช้ประโยชน์จากการเบี่ยงเบนความสนใจของคู่ต่อสู้ ฉินหมิงทำการโจมตีหลายครั้งติดต่อกัน ต่อยศัตรูคนแรกออกไป หันหลังกลับและเตะศัตรูอีกคนออกไป ทำลายการปิดล้อมของคู่ต่อสู้ทันทีคนที่เหลืออีกสองคนรู้ว่าท่าไม่ดีเลยถอยกลับไปสองสามก้าว เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของฉินหมิงในเวลานี้ชายผู้นำที่ได้รับการบาดเจ็บอย่างหนักก็ลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าสถานการณ์สิ้นสุดลง เขารู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้กับฉินหมิงอีกต่อไปด้วยความแข็งแกร่งของฉินหมิงที่เกินกว่าระดับต้นของพลังพรสวรรค์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งสี่ของเขาจะเอาชนะฉินหมิงได้“ฝากไว้ก่อนเถอะแก ฉันจะเอาคืนแกเป็นสิบเท่าของวันนี้เลย!”“ไปพวกเรา!”ชายที่เป็นผู้นำจ้องมองไปที่ฉินหมิงอย่างกินเลือดกินเนื้อและออกคำสั่งให้ถอยกำลังหลังจากนั้น สองในสี่ชายที่เก่งกาจในวิชากังฟู ก็ทำการประคองผู้นำที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกสองคนที่เหลือต้องรับผิดชอบในการเปิดทางด้านหลังจากนั้นพวกเขาก็หนีไปที่ทางถนนผ่านพุ่มหญ้าพวกเขาวิ่งจุกตูดกันเป็นแถว ๆ เดิมที่ฉินหมิงอยากจะตามพวกนั้นไป แต่พอมาคิดอีกทีตัวเองไร้กองกำลังเสริมถ้าใจร้อนไปหาอีกฝ่ายมันก็ไร้ประ
“เพื่อนเหรอ?”“ใช่ นายพูดถูก พวกเราคือเพื่อนกัน!”ซูซินเหยาชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นรอยยิ้มเธอก็ผุดขึ้นมา รอยยิ้มของเธอมีเสน่ห์ราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานเพราะยิ่งอยู่สูงก็ยิ่งหนาวเหน็บเนื่องจากตระกูลซูมีเงินมีอำนาจบารมี และซูซินเหยาก็เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลซู แรวมถึงรูปลักษณ์ของเธอก็สวยจนน่าทึ่งทำให้มีคนคอยจีบเธออยู่ไม่ขาดสาย แต่กลับเพื่อนที่จริงใจมีไม่กี่คน แม้ว่าจะมีแต่ส่วนใหญ่ก็มาอำนาจของตระกูลซูแต่ไม่ใช่กับฉินหมิง ฉินหมิงมีทักษะการแพทย์ที่เก่งกาจมาก ช่วยรักษาย่าของเธอให้หายจากอาการป่วยได้แต่กลับไม่เรียกร้องอะไรสักนิดไม่เพียงแต่เท่านั้นเมื่อกี้ฉินหมิงช่วยชีวิตเธอไม่หนีไปและไม่ปล่อยให้เธออยู่เพียงตามลำพังคนเดียว คน ๆ นี้นิสัยดีในทุก ๆ ด้านเธอรับฉินหมิงเป็นเพื่อนทันที!จากนั้นปู่ของซูซินเหยาก็ได้โทรมา เธอจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ปู่ของเธอฟังพอได้ทราบเรื่องจากปากหลานสาว นายท่านซูก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ส่งซูห่าวและชายที่เก่งกาจอีกหลายคนมาทันทีในด้านหนึ่งเขาต้องการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อดูว่าเขาสามารถหาเบาะแสเกี่ยวกับศัตรูได้หรือไม่และเขายังต้องการปกป้องซูซินเห
กว่านโม๋และคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความกลัวและรีบเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น“ไอ้คนนั้นมันเป็นใคร?”“หรือว่าเป็นคนคุ้มครองของตระกูลซู!”ชายหนุ่มพูดเย็นชา ท่าทางของเขาดุร้ายมาก สลัดคราบจากรูปลักษณ์ผู้ชายเพลย์บอยเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง“เรื่องนี้…ผมเองก็ไม่ทราบครับ…”กว่านโม๋พูดด้วยท่าทางกังวล“อย่างนั้นพลังของมันถึงระดับไหน?”“ระดับกลางหรือระดับสูง?”“ความแข็งแกร่งแบบนี้ไม่ควรไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนรุ่นใหม่!”ชายหนุ่มถามออกไปเขารู้ว่าพลังพรสวรรค์ของกว่านโม๋นั้นอยู่ในระดับกลาง อีกทั้งกว่านโม๋ยังพาชายที่มีฝีมือเก่งกาจตั้งสี่คนถ้าหากฝ่ายตรงข้ามพลังไม่สูงจริง คงสู้พวกกว่านโม๋ไม่อย่างแน่นอน“ไม่ใช่ครับ”“พลังมันแค่ระดับต้นเท่านั้น ห่างจากระดับกลางเพียงนิดเดียวเท่านั้น”กว่านโม๋ตอบตามความจริง“อะไรนะ?”“แค่ระดับต้นอย่างนั้นเหรอ?”ชายหนุ่มโกรธมาก ยกแขนขึ้นแล้วเหวี่ยงฝ่ามือไปที่กว่านโม๋ตูม!กว่านโม๋เหมือนถูกระเบิดลง เขาล้มกลิ้งตลบฝุ่นบนพื้นหลายครั้งและในที่สุดก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก“แกนี่มันไม่ได้เรื่อง!“แกมีพลังเยอะกว่ามันแต่กลับสู้มันไม่ได้ แล้วแกจะทำอะไรกิน!”ชายหนุ่มตวาดด้วยค
ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเขารู้สึกว่าไม่มีพลังงานทางจิตวิญญาณเหลืออยู่บนยอดเขาโชคดีที่โดยปกติเขาไม่จำเป็นต้องฝึกฝนบนภูเขาอวิ๋นอู้ และไม่สำคัญแม้ว่าพลังงานทางจิตวิญญาณจะถูกดูดซับก็ตามยิ่งไปกว่านั้นพลังงานเป็นสิ่งที่ยั่งยืน และใช้เวลาน้อยกว่าสองหรือสามเดือนกว่าพลังงานบนยอดเขาอวิ๋นอู้จะฟื้นตัวสู้ไม่เอาซะดีกว่า!หลังจากรวบรวมน้ำค้างยามเช้าบนยอดเขาแล้ว ฉินหมิงก็เดินลงจากภูเขาและจากไปขณะนี้การจัดซื้อวัตถุดิบยาจีนและน้ำค้างยามเช้าเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ปัญหาในการผลิตเวชสำอางเองก็ได้รับการแก้ไขแล้วนอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดในบรรดาเวชสำอางเหล่านี้คือน้ำค้างยามเช้าฉินหมิงวางแผนที่จะตั้งชื่อน้ำค้างยามเช้าว่าหลิงลู่ จากนี้ไปหลิงลู่จะเป็นสูตรเฉพาะของเขาเอง เช่นเดียวกับอาหารและอย่างอื่น ๆ อีกมากมายที่มีสูตรพิเศษเพราะอย่างนี้ ขอแค่เขาถือหลิงลู่ไว้ในมือ บริษัทเครื่องสำอางแบรนด์อื่น ๆ จะไม่สามารถเลียนแบบได้ สิ่งนี้สามารถรับประกันสิทธิ์ในแบรนด์ของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาในอนาคตของบริษัทเชื่อว่าอีกไม่นานบริษัทจะสามารถพึ่งพาเวชสำอางพิเศษเฉพาะเหล
ตอนนี้ถ้าเอ้าเฟิงรู้ว่าเขาก้าวล้ำอำนาจของตนและแทรกแซงในเรื่องการจัดซื้อ เขาคงจะโกรธมากเลยทีเดียว!“นายจะพูดอะไรกันแน่?”“มัวอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่ได้!”หลินหว่านชิงมองฉินหมิงด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าฉินหมิงต้องการจะสื่อถึงอะไร“จริง ๆ แล้วสิ่งที่ผมจะพูดก็คือ ซูกรุ๊ปเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบยารายใหญ่ที่สุดของในเมืองเจียงเฉิง หากบริษัทของเราต้องการซื้อวัสดุยาจีนเราสามารถร่วมมือกับพวกเขาได้ "“ไม่จำเป็นจะต้องขอความร่วมมือจากจี้เฉิงถังเลยครับ มากความเปล่า ๆ… ”ฉินหมิงพูดอย่างกล้าหาญแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยลงรอยกับเอ้าเฟิงเท่าไรนัก แต่สองสามครั้งมานี้เขาค่อนข้างรู้สึกไม่ดีเมื่อเขาล้ำเส้นอำนาจของอีกฝ่ายและยังแทรกแซงหน้าที่ของเขาอีกด้วยถ้าเอ้าเฟิงยินยอมที่จะร่วมมือกับซูกรุ๊ป สิ่งที่แย่ที่สุดที่เขาทำได้คือส่งมอบสัญญาที่เขาเซ็นสัญญาเมื่อคืนนี้ให้กับเอ้าเฟิง ส่วนเรื่องเครดิตก็ให้เป็นชื่อของเอ้าเฟิงก็ยังได้ถ้าทำวิธีนี้ เขาก็ไม่ได้ล่วงเกินอำนาจของเอ้าเฟิงและเขายังสามารถให้คำอธิบายแก่ซูซินเหยาได้ด้วย“สิ่งที่คุณพูดมามันง่ายเกินไปหรือเปล่าครับ!”“แม้ว่าการร่วมมือกับซูกรุ๊ปจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“ผมจะให้คุณดูสัญญาก็ได้!”“แต่พวกเราต้องมาเดิมพันกันก่อน!”ฉินหมิงพูดถึงการเดิมพันอย่างใจเย็น“เดิมพันอะไรของคุณ?”เอ้าเฟิงเอ่ยถาม“ไม่ใช่ว่าคุณไม่เชื่อผมเหรอครับ ว่าผมและซูกรุ๊ปได้ทำการร่วมมือกันแล้ว?”“ถ้าผมหยิบสัญญาขึ้นมา อย่ามาแว้งกัดผมละกันนะครับ!”ฉินหมิงรู้ว่าเขาก้าวล้ำอำนาจของเอ้าเฟิง ดังนั้นเขาจึงฉีดวัคซีนกันเอ้าเฟิงล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เอ้าเฟิงบ้าโกรธและกัดเขา“ผมไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องกัดคุณนี่ครับ!”“ประสาทซะจริง!”สีหน้าของเอ้าเฟิงดูไม่สู้ดี เขากำลังคิดว่าฉืนหมิงกำลังด่าเขาทางอ้อม“ดีครับ นี่คุณพูดเองนะครับ อย่าผิดสัญญาก็แล้วกัน!”ใบหน้าฉินหมิงเต็มไปด้วยความสุขที่เอ้าเฟิงกำลังจะตกหลุมพลางที่เขาขุดไว้แค่รอให้เอ้าเฟิงกระโดดเข้าไปในหลุมก็เท่านั้นเองเอ้าเฟิงโบกมือพูดกับฉินหมิงโดยไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา “ถ้าไม่มีสัญญาอะไรนั่น คุณจะทำอย่างไรล่ะ?”“ผมยอมให้คุณทำอะไรก็ได้เลยครับ!”ฉินหมิงพูดอย่างหนักแน่น“ดีครับ รักษาคำพูดด้วยละกันนะครับ!”เอ้าเฟิงมีความสุขมาก ราวกับว่าเขาชนะแล้วอย่างไรอย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เกือบจะบานเหมือนดอกไม้“ฉินหมิง ตกลงว
แต่ว่าตอนนี้เธอรู้ความเป็นมาเป็นไรของเรื่องนี้แล้ว เธอมั่นใจว่าจี้สร้อยดาวเหมันต์สมุทรเป็นของจริงแน่นอน!สิ่งที่สำคัญก็คือแม้จี้สร้อยคอดาวเหมันต์สมุทรนี้ไม่มีค่า และฉินหมิงไม่ใช่คนที่ร่ำรวยหรือมีอำนาจ แต่เขายินดีที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอแม้ว่าเธอจะสงบ แต่ก็มึคลื่นสะพัดเป็นระลอก ๆ อยู่ในใจของเธอ“ก็แค่คนโชคดีน่ะครับ ไม่เห็นจะมีอะไรสักหน่อย!”สีหน้าของเอ้าเฟิงดูแย่อย่างมากตอนนี้เขาคิดว่าฉินหมิงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับตระกูลซูจริง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉินหมิงก็แค่โชคดีและได้พบกับนายท่านซูโดยบังเอิญฉินหมิงไม่ได้สนใจเอ้าเฟิง แล้วพูดต่อว่า “ก็เพราะว่าเรื่องนี้แหละครับ ผมและนายท่านซูเลยมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน”“เมื่อวานผมได้โทรบอกท่านว่าพวกเรากำลังจัดการซื้อวัตถุดิบยา ท่านก็ยินยอมตกลงทันทีเลยครับ…”“เป็นอย่างนี้นี้เอง!“นายทำได้ไม่เลวเลยนะ!”“ดูเหมือนว่าคิดถูกจริง ๆ ที่ฉันตกลงให้นายเข้าร่วมบริษัท!”ใบหน้าสวยยิ้มขึ้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมฉินหมิงไม่ขาดปากเมื่อเธอจัดให้ฉินหมิงเข้าร่วมบริษัทเป็นครั้งแรก เธอก็กังวลเล็กน้อยว่าฉินหมิงจะใช้ชื่อของเธอเพื่อวางอำนาจบาตรใหญ่ที่บริษัท
“ประธานหลินครับ ถ้าหากไม่มีคำสั่งเรื่องอื่นแล้ว อย่างนั้นผมขอตัวไปโรงงานก่อนนะครับ”ฉินหมิงขอตัวลาแล้วเดินออกจากห้องสำนักงานเมื่อเห็นเงาของฉินหมิงลับตาไปแล้ว เอ้าเฟิงก็กำหมัดขึ้นมาทันที ใบหน้าเขาใครได้เห็นก็คงกลัวเป็นอย่างมากเมื่อไม่กี่วันก่อนฉินหมิงเพิ่งจะแย่งอำนาจของเขาจากการผลิตไป และตอนนี้เขายังจะกล้าทำมันอีกครั้ง เขาจะกลืนความขมขื่นนี้ได้อย่างไร?“รองประธานเอ้า คุณเองก็กลับไปทำงานให้ดี ๆ เถอะค่ะ!”หลินหว่านชิงพูดเสียงเรียบเนื่องจากตู้เซียวคอยจ้องแต่จะใส่ร้ายให้ฉินหมิง แต่เธอก็คิดอยู่เสมอว่าเธอไล่เอ้าเฟิงไม่ได้ ดังนั้นทุกวันนี้เธอจึงไม่ให้ความสำคัญกับเอ้าเฟิงมากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป “ประธานหลินผมมีอะไรที่อยากบอกคุณ แต่ไม่รู้ว่าควรพูดดีไหมน่ะครับ…”เอ้าเฟิงลังเลที่จะพูดเล็กน้อยแล้วอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ“มีอะไรเหรอ คุณพูดมาเลยค่ะฉันฟังอยู่”หลินหว่านชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เดาไม่ออกว่าเอ้าเฟิงจะมาไม้ไหนอีก“ประธานหลิน ผมรู้ว่าใจคุณอยากจะส่งเสริมเลขาฉิน…”“แต่ว่าเขาทะเยอทะยานเกินไป อาจไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคุณที่จะส่งเสริมเขาแบบนี้!”เอ้าเฟิงพูดอย่างใจเย็น“ทะเยอทะยานเกินไปเหรอ?
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ