“ผมจะให้คุณดูสัญญาก็ได้!”“แต่พวกเราต้องมาเดิมพันกันก่อน!”ฉินหมิงพูดถึงการเดิมพันอย่างใจเย็น“เดิมพันอะไรของคุณ?”เอ้าเฟิงเอ่ยถาม“ไม่ใช่ว่าคุณไม่เชื่อผมเหรอครับ ว่าผมและซูกรุ๊ปได้ทำการร่วมมือกันแล้ว?”“ถ้าผมหยิบสัญญาขึ้นมา อย่ามาแว้งกัดผมละกันนะครับ!”ฉินหมิงรู้ว่าเขาก้าวล้ำอำนาจของเอ้าเฟิง ดังนั้นเขาจึงฉีดวัคซีนกันเอ้าเฟิงล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เอ้าเฟิงบ้าโกรธและกัดเขา“ผมไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องกัดคุณนี่ครับ!”“ประสาทซะจริง!”สีหน้าของเอ้าเฟิงดูไม่สู้ดี เขากำลังคิดว่าฉืนหมิงกำลังด่าเขาทางอ้อม“ดีครับ นี่คุณพูดเองนะครับ อย่าผิดสัญญาก็แล้วกัน!”ใบหน้าฉินหมิงเต็มไปด้วยความสุขที่เอ้าเฟิงกำลังจะตกหลุมพลางที่เขาขุดไว้แค่รอให้เอ้าเฟิงกระโดดเข้าไปในหลุมก็เท่านั้นเองเอ้าเฟิงโบกมือพูดกับฉินหมิงโดยไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา “ถ้าไม่มีสัญญาอะไรนั่น คุณจะทำอย่างไรล่ะ?”“ผมยอมให้คุณทำอะไรก็ได้เลยครับ!”ฉินหมิงพูดอย่างหนักแน่น“ดีครับ รักษาคำพูดด้วยละกันนะครับ!”เอ้าเฟิงมีความสุขมาก ราวกับว่าเขาชนะแล้วอย่างไรอย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เกือบจะบานเหมือนดอกไม้“ฉินหมิง ตกลงว
แต่ว่าตอนนี้เธอรู้ความเป็นมาเป็นไรของเรื่องนี้แล้ว เธอมั่นใจว่าจี้สร้อยดาวเหมันต์สมุทรเป็นของจริงแน่นอน!สิ่งที่สำคัญก็คือแม้จี้สร้อยคอดาวเหมันต์สมุทรนี้ไม่มีค่า และฉินหมิงไม่ใช่คนที่ร่ำรวยหรือมีอำนาจ แต่เขายินดีที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอแม้ว่าเธอจะสงบ แต่ก็มึคลื่นสะพัดเป็นระลอก ๆ อยู่ในใจของเธอ“ก็แค่คนโชคดีน่ะครับ ไม่เห็นจะมีอะไรสักหน่อย!”สีหน้าของเอ้าเฟิงดูแย่อย่างมากตอนนี้เขาคิดว่าฉินหมิงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับตระกูลซูจริง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉินหมิงก็แค่โชคดีและได้พบกับนายท่านซูโดยบังเอิญฉินหมิงไม่ได้สนใจเอ้าเฟิง แล้วพูดต่อว่า “ก็เพราะว่าเรื่องนี้แหละครับ ผมและนายท่านซูเลยมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน”“เมื่อวานผมได้โทรบอกท่านว่าพวกเรากำลังจัดการซื้อวัตถุดิบยา ท่านก็ยินยอมตกลงทันทีเลยครับ…”“เป็นอย่างนี้นี้เอง!“นายทำได้ไม่เลวเลยนะ!”“ดูเหมือนว่าคิดถูกจริง ๆ ที่ฉันตกลงให้นายเข้าร่วมบริษัท!”ใบหน้าสวยยิ้มขึ้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมฉินหมิงไม่ขาดปากเมื่อเธอจัดให้ฉินหมิงเข้าร่วมบริษัทเป็นครั้งแรก เธอก็กังวลเล็กน้อยว่าฉินหมิงจะใช้ชื่อของเธอเพื่อวางอำนาจบาตรใหญ่ที่บริษัท
“ประธานหลินครับ ถ้าหากไม่มีคำสั่งเรื่องอื่นแล้ว อย่างนั้นผมขอตัวไปโรงงานก่อนนะครับ”ฉินหมิงขอตัวลาแล้วเดินออกจากห้องสำนักงานเมื่อเห็นเงาของฉินหมิงลับตาไปแล้ว เอ้าเฟิงก็กำหมัดขึ้นมาทันที ใบหน้าเขาใครได้เห็นก็คงกลัวเป็นอย่างมากเมื่อไม่กี่วันก่อนฉินหมิงเพิ่งจะแย่งอำนาจของเขาจากการผลิตไป และตอนนี้เขายังจะกล้าทำมันอีกครั้ง เขาจะกลืนความขมขื่นนี้ได้อย่างไร?“รองประธานเอ้า คุณเองก็กลับไปทำงานให้ดี ๆ เถอะค่ะ!”หลินหว่านชิงพูดเสียงเรียบเนื่องจากตู้เซียวคอยจ้องแต่จะใส่ร้ายให้ฉินหมิง แต่เธอก็คิดอยู่เสมอว่าเธอไล่เอ้าเฟิงไม่ได้ ดังนั้นทุกวันนี้เธอจึงไม่ให้ความสำคัญกับเอ้าเฟิงมากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป “ประธานหลินผมมีอะไรที่อยากบอกคุณ แต่ไม่รู้ว่าควรพูดดีไหมน่ะครับ…”เอ้าเฟิงลังเลที่จะพูดเล็กน้อยแล้วอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ“มีอะไรเหรอ คุณพูดมาเลยค่ะฉันฟังอยู่”หลินหว่านชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เดาไม่ออกว่าเอ้าเฟิงจะมาไม้ไหนอีก“ประธานหลิน ผมรู้ว่าใจคุณอยากจะส่งเสริมเลขาฉิน…”“แต่ว่าเขาทะเยอทะยานเกินไป อาจไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคุณที่จะส่งเสริมเขาแบบนี้!”เอ้าเฟิงพูดอย่างใจเย็น“ทะเยอทะยานเกินไปเหรอ?
"เป็นไปไม่ได้!"“ฉินหมิงจะไม่ทรยศฉันอย่างแน่นอน เขาไม่ใช่คนแบบนั้นแน่!”หลินหว่านชิงตะคอกอย่างเย็นชาและระงับความสงสัยในใจของตัวเองอย่างรวดเร็วขณะนี้บริษัทสามารถสร้างแนวโน้มการพัฒนาได้ดั่งที่คาดหมายไว้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมีผลมาจากฉินหมิง ฉินหมิงทุ่มเทให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก เธอจะสงสัยในตัวฉินหมิงได้อย่างไร!นอกจากนี้ฉินหมิงยังเคยช่วยชีวิตเธอและเป็นคนที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ถ้าไม่ไว้ใจฉินหมิงแล้วจะให้เธอไว้ใจใครได้อีก?“คุณหลิน อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน!”“ตอนนี้ฉินหมิงมีแต่ตัว เขาจึงทำได้เพียงแค่พึ่งพาคุณเท่านั้น แต่พอวันหนึ่งเขาประสบความสำเร็จจากการที่คุณมอบอำนาจให้ เขาอาจจะหักหลังคุณทันที…”เอ้าเฟิงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ แต่หลินหว่านชิงก็ตัดบทเขาก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ"เลิกพูดได้แล้ว!"“เอ้าเฟิง เห็นแก่ที่คุณมีส่วนช่วยบริษัทมามากมายในช่วงสองปีนี้ การที่คุณใส่ร้ายฉินหมิงในครั้งนี้ ฉันจะทำเป็นแกล้งไม่ได้ยิน แต่จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว!"“เอาล่ะ คุณกลับไปทำงานเถอะ!”ใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงเย็นชา เธอต่อว่าเขาด้วยความโกรธที่ผ่านมาในโลกธุรกิจ เธอเป็นที่รู้จักดีว่ามีทั้งความ
เมื่อมีความงดงามแห่งวัยเยาว์อยู่กับตัว เธอจึงดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายรอบตัวเธอได้อย่างรวดเร็วภายใต้สายตาที่จ้องมองมาของทุกคนฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยเดินตามบริกรเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัวและนั่งหันหน้าเข้าหากันหลังจากสั่งอาหารแล้ว ทั้งสองก็ตกอยู่ในความเงียบทันทีที่บริกรออกไปอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้เจอกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนจะมีความห่างเหินระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่น้อย และนั่นทำให้ทั้งคู่ดูไม่เป็นธรรมชาติเวลาผ่านไปครู่ใหญ่“ฉินหมิง ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้นายเป็นยังไงบ้าง?”“เจียฮุ่ย เธอเป็นยังไงบ้าง?”ฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยพยายามทำลายความเงียบและถามขึ้นพร้อมกันหลังจากถามออกไปแล้ว ทั้งคู่ก็ตกตะลึง ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะคิดเหมือนกันได้ขนาดนี้ฮิฮิ!ในที่สุดหลี่เจียฮุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ รอยยิ้มอันแสนหวานของเธอทั้งสวยและมีเสน่ห์“ทำไมนายต้องพูดตามฉันด้วย”หลี่เจียฮุ่ยกลอกตามองฉินหมิงและพูด"ฉัน......"ฉินหมิงเกาหัวด้วยความลำบากใจ "ตั้งแต่ที่เราเจอกันล่าสุดนี้คงจะนานไม่ใช่เล่น ฉันถึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี"“ฉันก็เหมือนกัน อันที่จริงฉันมีเรื่องจะถามนายเยอะเลย แต่พอได้เจอนา
หลี่เจียฮุ่ยตระหนักได้ทันทีว่าเธอคิดมากเกินไปเพราะไม่ว่าอย่างไร ฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้า เขาไม่ได้มีความสามารถและครอบครัวก็ไม่มีภูมิหลังที่ใหญ่โตอะไร แถมซูซินเหยาก็เป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลซู ไม่เพียงแต่เธอจะงดงามน่าทึ่งเท่านั้น แต่เธอยังต้องการทั้งเงินและอำนาจด้วย มีบรรดาเศรษฐีมากมายที่ต้องการจะเกี่ยวดองกับเธอ เธอจะชอบฉินหมิงแสนธรรมดาคนนี้ได้อย่างไร?!“เจียฮุ่ย ตอนนี้เธอทำงานอะไรอยู่เหรอ?”ฉินหมิงถามโดยอยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของหลี่เจียฮุ่ย“โอ้ ฉันเข้าบริษัทใหญ่ได้หลังเรียนจบ”“ฉันโชคดีมากที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการแผนกของบริษัท มีเงินเดือนประมาณห้าหมื่นห้าพันบาท”หลี่เจียฮุ่ยรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็คิดถึงสถานการณ์ของฉินหมิงและคิดว่า "ฉินหมิงฉันจำได้ว่าครั้งก่อนนายบอกว่านายทำงานเป็นเลขานุการของประธานบริษัทเครื่องสำอาง"“ถึงตำแหน่งนี้จะไม่แย่อะไร แต่เลขานุการก็เป็นแค่ผู้ช่วยตัวเล็ก ๆ แถมนี้เป็นตำแหน่งงานที่ผู้หญิงมักจะทำกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีทั้งอำนาจหรืออนาคตที่ยืนยาว และนี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่จะลงหลักปักฐานได้นานด้วย”เมื่อพู
“ชำระด้วยบัตรเครดิต!”ฉินหมิงไม่สนใจ เขาหยิบบัตรธนาคารออกมาแล้วส่งให้บริกรเงินในบัตรมีอยู่ประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบล้าน ซึ่งมากกว่าสามพันไปหลายเท่า นั่นไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วงเมื่อมองดูบัตรธนาคารในมือของเธอ บริกรก็ตกใจคนที่สามารถมายังร้านอาหารระดับไฮเอนด์โดยพื้นฐานก็มักจะเป็นคนรวยไม่ก็เป็นคนที่มีเกียรติ และหลายคนเป็นทายาทตระกูลเศรษฐีซึ่งใช้บัตรจากธนาคารเจียงตูแม้ว่าบริกรจะจำไม่ได้ว่านี่คือบัตรสุพรีมการ์ดของธนาคารเจียงตู แต่เธอก็จำรูปลักษณ์ของบัตรธนาคารนี้ได้ และรู้ถึงน้ำหนักของบัตรธนาคารเจียงตูใบนี้ดี!เธอตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกยินดี โชคดีที่กริยาท่าทางของเธอตอนนี้ค่อนข้างดีและเธอก็ไม่ได้พูดอะไรไม่ดีออกมาไม่เช่นนั้น หากเธอทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง เธอคงไม่อาจทำงานที่นี่ต่อไปได้!“ฉินหมิง สถานการณ์ทางการเงินของนายไม่ค่อยดีนัก นายยังมีเรื่องที่ต้องใช้เงินอีกมากในอนาคต” “ฉันจะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้เอง!”หลี่เจียฮุ่ยรีบขอบัตรธนาคารคืนจากบริกรแล้วส่งคืนให้ฉินหมิง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและส่งสัญญาณจ่ายพนักงานด้วยการโอนเงิน“ไม่ คราวนี้ฉันเป็นคนขอเลี้ยงอ
“เจียฮุ่ย การจราจรในเมืองนี้ค่อนข้างติดขัดและหาที่จอดรถได้ไม่สะดวกนัก ขี่มอเตอร์ไซค์มันสะดวกกว่า”“เธอจอดรถไว้ที่นี่ก่อนแล้วค่อยกลับมาเอาหลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้วแล้วกัน”ฉินหมิงรู้ว่าหลี่เจียฮุ่ยมาด้วยรถยนต์ ซึ่งไม่สะดวกเท่ากับการขี่มอเตอร์ไซค์"อืม...โอเค"หลี่เจียฮุ่ยพยักหน้า จากนั้นฉินหมิงก็พาเธอออกไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของเขา……ฟูหลงมอลล์ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดกับร้านอาหารหลังจากที่ฉินหมิงจอดรถแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าพร้อมกับหลี่เจียฮุ่ยทั้งสองคนก็เดินไปรอบ ๆเมื่อเห็นร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ หลี่เจียฮุ่ยก็ดึงฉินหมิงให้เดินเข้าไปด้วยกันแม้ว่าร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้จะไม่ใช่แบรนด์ต่างประเทศ แต่ก็เป็นแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ในระดับกลางถึงระดับสูงพื้นที่ภายในกว้างมาก ในร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โซนเสื้อผ้าบุรุษที่อยู่ทางด้านซ้าย และโซนเสื้อผ้าสตรีทางด้านขวาหลี่เจียฮุ่ยดึงฉินหมิงเข้าไปในบริเวณเสื้อผ้าผู้ชาย“เจียฮุ่ย เธออยากซื้อเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ?”“เราหน้าจะไปที่โซนเสื้อผ้าสตรี แล้วพาฉันไปโซนเสื้อผ้าบุรุษทำไม?”ฉินหมิงป
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ