หลินหว่านชิงที่กำลังพิจารณาว่าจะนำความคิดเห็นของทุกคนไปใช้ดีหรือไม่ จู่ ๆ ฉินหมิงและหานซีก็กลับมา และพวกเขาก็ผลักประตูห้องประชุมแล้วเดินเข้ามา“โถ เลขาฉินกลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องที่ไปเจรจากับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปจะมีความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง?”“ดูจากสีหน้าของคุณแล้ว ก็คงไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรสินะ อายมากจนไม่มีหน้าเจอใครเลยสิท่า! ”ตู้เซียวหัวเราะเยาะเย้ย“ก็อาจจะเป็นไปได้…”มีผู้บริหารชั้นสูงไม่น้อยหัวเราะตามเขายังไม่ทันที่ฉินหมิงจะตอบ ผู้บริหารของบริษัทหลายคนที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับเขารู้ได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ "เอ๋ บนตัวเขามีกลิ่นแอลกอฮอล์นี่!"ทันทีที่คำพูดนี้ออกมาก็เหมือนระเบิดที่เกือบจะระเบิดทุกคนในห้องประชุม“อะไรนะ?”“หรือว่าที่หน้าแดงไม่ได้อายที่จะมาเจอคน แต่เป็นเพราะว่าดื่มเหล้ามาอย่างนั้นเหรอ!”ทุกคนต่างพูดไม่ออก ต่างคนต่างมองกันและกัน ไม่นานก็ได้สติกลับมา“ดีนี่ จริง ๆ แล้วเขาออกไปดื่มเป็นการส่วนตัวแล้วอ้างการพูดคุยเรื่องความร่วมมือ! "“น่าเสียดายจริง ๆ !”“นั่นน่ะสิ! อีกทั้งยังใช้เวลาทำงานไปดื่มเหล้า ช่างกล้ามากนะ!”…ทุกคนโกรธกันมาก สถานการณ
ในเมื่อฉินหมิงรนหาที่ตายเอง เขาก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยฉินหมิง!“ไม่ผิด! ”“พฤติกรรมครั้งนี้ถือว่าเลวร้ายมาก เราจำเป็นที่ต้องไล่เขาออก! ”“ไม่เช่นนั้นในอนาคตพนักงานบริษัทก็จะเอาอย่างเขา แล้วอย่างนี้บริษัทของเราจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไร! ”...ผู้บริหารระดับสูงทุกคนโกรธมากและทุกคนเองก็เห็นด้วยกับมุมมองของตู้เซียวสีหน้าของหลินหว่านชิงเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดง ฉินหมิงคือผู้ช่วยชีวิตของเธอ แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการไล่ฉินหมิงออกไปด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้แต่ความโกรธที่มากมายของทุกคนที่ยากจะสงบลง ถ้าเธอยังคงปกป้องฉินหมิงต่อไป แล้วเธอจะอธิบายกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้อย่างไร!“ทุกคนเงียบ! ”“ใครบอกพวกคุณว่าฉินหมิงไม่ได้รับสิทธิ์ที่จะร่วมมือกับโจวกรุ๊ป? ”“คิดกันไปเองทั้งนั้น! ”หานซีพูดตำหนิด้วยความโกรธ เธอลุกขึ้นมาออกโรงต่อสู้แทนฉินหมิงในทันที“ว่ายังไงนะ? ”“หรือว่าพวกคุณทำสัญญาความร่วมมือกับโจวกรุ๊ปสำเร็จแล้วเหรอ? ”ทุกคนตื่นตกใจเล็กน้อย มองหน้ากันไปมาด้วยความสับสนห้องประชุมที่เดิมยังคงอึกทึกครึกโครม ตอนนี้ก็เงียบลงอย่างแปลกประหลาด“ถูกต้อง ผมกับผู้ช่วยหานเราได้คุยเรื่องค
หลินหว่านชิงแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง“เป็นเรื่องจริงทุกอย่าง! ”หานซีพยักหน้าตอบในตอนนั้นที่นายท่านโจวเสนอให้กำไรสิบเปอร์เซนต์และขยายระยะเวลาสัญญาให้ เธอเองก็ตกใจเช่นกัน เธอสามารถเข้าใจอารมณ์ของหลินหว่านชิงตอนนี้ได้!“ดี ดีมาก มันดีมาก! ”“ซีซี เธอเก่งกาจมาก เธอได้รับสัญญาความร่วมมือกับโจวกรุ๊ปมาได้จริง ๆ ! ”“เธอ…เธอสร้างความมหัศจรรย์จริง ๆ ! ! ”หลินหว่านชิงที่เงียบสงบและใจเย็นมาโดยตลอด กระโดดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นและโผเข้ากอดหานซีต่อหน้าทุกคนเธอรู้ดีว่าฉินหมิงไม่มีความสามารถทางธุรกิจ เขาเองก็ไม่ใช่นักธุรกิจโดยเฉพาะ เธอจึงไม่คิดว่าสัญญาฉบับนี้จะเป็นฉินหมิงที่ไปเจรจามา!เธอคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นหานซีที่เป็นคนดำเนินการจนสำเร็จ! “อะไรกัน? ”“หรือว่า…นี่เป็นสัญญาจริง ๆ ! ”ตู้เซียวฉายแววตาโง่เขลาผู้บริหารระดับสูงบางส่วนเองก็เผยแววตาโง่เขลาเช่นกัน“นี่มันเป็นไปไม่ได้! ”“ประธานหลิน คุณไม่ใช่ว่าดูผิดไปหรือเปล่าครับ! ”ตู้เซียวใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขารีบหยิบสัญญาขึ้นมาดูสองสามรอบเมื่อเขาเห็นลายเซ็นของนายท่านโจวและตราประทับอย่างเป็นทางการของบริษัทโจวกรุ๊ปอย่างชั
ภายในใจพวกเขารู้ดีว่า หากเป็นความร่วมมือที่หานซีเจรจาไว้ ในสัญญาจะมีแค่ลายเซ็นของฉินหมิงคนเดียวไม่ได้!เพียงแต่พวกเขาเองก็ยังยากที่จะเชื่ออยู่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉินหมิงเลขานุการเล็ก ๆ คนหนึ่ง ความสามารถทางธุรกิจก็ไม่มี สุดท้ายแล้วก็ประสบความสำเร็จในการทำความร่วมมือกับโจวกรุ๊ปได้อย่างราบรื่นและยังสามารถทำให้โจวกรุ๊ปยินดีที่จะให้สิทธิพิเศษมากมายขนาดนี้! นี่มันยากที่จะเชื่อจริง ๆ !“ตอนนี้คงไม่มีใครสงสัยผมกับสัญญาฉบับนี้แล้วใช่ไหมครับ? ”ฉินหมิงกล่าวอย่างเรียบง่าย สายตากวาดผ่านทีละคนในการประชุมช่วงบ่ายเขาพูดจาไม่มีมูลไปและเคยถูกทุกคนเยาะเย้ยถากถางเป็นเสียงเดียวกันตอนนี้เขาได้ใช้ข้อเท็จจริงมาพิสูจน์ตัวเอง นำสัญญามาเปิดเผยต่อหน้าทุกคน ภายในใจก็รู้สึกภาคภูมิไม่น้อยเลย!“เลขาฉินพูดเล่นแล้ว ความถูกต้องของสัญญาไม่มีข้อสงสัยอย่างแน่นอน…”ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกลุ่มหนึ่งทำตัวไม่ถูก รู้สึกราวกับว่าถูกตบต่อหน้าที่สาธารณะจนใบหน้าปวดแสบปวดร้อน ไม่มีใครกล้าที่จะสบตาฉินหมิงเลย“ฉินหมิง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะมีความสามารถขนาดนี้! ”“ดูท่าเป็นฉันที่มองคุณผิดไปแล้ว! ”หลินหว่านชิงยิ้มแก้มปร
ภายใจในของเขาสามารถจินตนาการได้ว่ารู้สึกอย่างไร!“ผู้อำนวยการตู้ การเดิมพันในครั้งนี้คุณแพ้แล้ว! ”“ตามการเดิมพันที่แพ้ คุณมีอะไรที่อยากจะพูดไหม! ”ฉินหมิงส่งสายตาเยาะเย้ยไปที่ตู้เซียว“ผม…”สีหน้าของตู้เซียวเหมือนกับก้นหม้อ ความรู้สึกของเขาจมดิ่งสูjก้นบึ้งเรื่องราวมาถึงขึ้นนี้แล้ว แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออก ครั้งนี้เขาไม่เพียงแต่แพ้ แต่เขายังแพ้อย่างน่าสังเวชอีกด้วย!ตามการเดิมพันคนที่แพ้จะต้องลาออกจากบริษัท ซึ่งสิ่งนี้เขาไม่อาจรับได้ในที่สุดเขาก็ปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของบริษัทแล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าต้องลำบากและพยายามอย่างมากแค่ไหน จะให้เขาจากไปอย่างกระอักกระอ่วนแบบนี้ แล้วเขาจะทำใจได้อย่างไร!“ประธานหลิน ครั้งนี้เป็นเลขาฉินที่ชนะอย่างแท้จริง”“แต่ว่าการเดิมพันเป็นเพียงแค่เรื่องมุกตลกขบขันเท่านั้นเอง และนี่ไม่ควรจะจริงจังจะให้ผู้อำนวยการตู้ต้องออกจากบริษัทเพียงเพราะแค่เรื่องตลกขบขันเรื่องเดียวไม่ได้หรอกใช่ไหม? ”“ใช่ หลายปีมานี้ผู้อำนวยการตู้ก็ทำเพื่อบริษัทไปไม่น้อย แม้ไม่มีบุญแต่ก็ยังทำงานหนัก ผมคิดว่าเรื่องการเดิมพันก็ถือว่าแล้วแล้วกันไปเถอะ…”...มีผู้บริหารระดั
“ผู้ช่วยหาน คุณเป็นตัวแทนฉันไปจัดการประชุม และพยายามกำหนดทิศทางการพัฒนาของการวางแผนงานโดยเร็วที่สุด”พูดถึงตรงนี้หลินหว่านชิงใช้น้ำเสียงที่เคร่งขัด มองฉินหมิงอย่างลึกซึ้ง “เลขาฉิน คุณตามฉันไปที่ออฟฟิศที ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”“เอ่อ ผมทราบแล้วครับ”ฉินหมิงตอบกลับอย่างอ่อนแรง จากนั้นเขาก็ติดตามหลินหว่านชิงไปที่ห้องทำงานของท่านประธานตามลำพัง...ในห้องทำงานหลินหว่านชิงทำท่าให้ฉินหมิงนั่งลงที่โซฟา เห็นท่าทีของฉินหมิงที่ยังคงดูไม่มีชีวิตชีวา เธอก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า “ทำไม นายยังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม? ” “ผมเปล่า…”ฉินหมิงหันหน้าหนี ปากบอกว่าไม่มีอะไร แต่ใครมาเห็นก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ค่อยมีความสุขเลย“ฉันรู้ว่านายโกรธฉันที่เข้าข้างตู้เซียว”“แต่ว่าฉันเป็นประธานบริษัท ฉันมีแนวทางในการพิจารณาของตัวเอง”หลินหว่านชิงระบายยิ้มอ่อน นั่งลงข้าง ๆ ฉินหมิง “ตอนที่นายกับตู้เซียวเดิมพันกันก่อนหน้านี้ ก็อยากให้ฉันเป็นพยานให้กับพวกนายสองคน ตอนแรกฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรไป รู้ไหมว่าเพราะอะไร? ”“เพราะอะไร? ”ฉินหมิงประหลาดใจอย่างมาก จากนั้นเขาจึงนึกได้ว่าหลินหว่านชิงไม่เคยยอมร
ฉินหมิงรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมา หัวใจของเขาจู่ ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาความปรารถนาสูงสุดของเขาในวันนี้ก็คือการขับมอเตอร์ไซค์คันเล็กที่เขารักและพาหลินหว่านชิงออกไปขับด้วยกันตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว เขาจะพลาดได้อย่างไรกัน!“ง่ายขนาดนี้เลยหรอ? ”หลินหว่านชิงทำหน้าผิดคาดเล็กน้อยฉินหมิงเพิกเฉยต่อรางวัลตอบแทน เขาเพียงแค่สนใจตัวเธอเท่านั้น เขาไม่ต้องการให้เธอต้องลำบากและเหนื่อยล้า ภายในใจของเธอก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาแล้วแม้เพียงชั่วครู่ เธอก็รู้สึกดีที่มีคนใส่ใจแบบนี้แน่นอนเธอไม่ได้รับรู้ทั้งหมด ในด้านหนึ่งฉินหมิงเป็นห่วงเธอจริง ๆ แต่อีกด้านหนึ่ง ฉินหมิงเองก็มีแผนเล็ก ๆ อยู่ในใจหากเธอรู้ความคิด ‘สกปรก’ ของฉินหมิงในตอนนี้ เกรงว่าเธอคงจะไม่มีความสุขแน่ ๆ ! “หว่านชิง คุณทำได้ไหม? ”ฉินหมิงถามด้วยสีหน้าคาดหวังและกังวลว่าหลินหล่านชิงเองจะปฎิเสธ“อืม ฉันรับปากนาย! ”หลินหว่านชิงยิ้มพร้อมพยักหน้าอย่างไรก็ตามความร่วมมือก็เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่เสียหายอะไรสำหรับเธอที่จะให้ตัวเองได้พักผ่อนสองวันส่วนแผนงานนั้นเธอได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว สุดสัปดาห์นี้คนในแผนกวางแผนจะทำงานล่ว
ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นเพียงผู้ชายที่หย่าร้างมาแล้ว ไม่มีความสามารถอะไรเลย เขาไม่คู่ควรกับเทพธิดาที่สวยงามและสูงส่งอย่างหลินหว่านชิงเลย!ตราบใดที่เขาสามารถอยู่ข้าง ๆ หลินหว่านชิงอย่างเงียบ ๆ ทุกวัน และมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหลินหว่านชิงมากขึ้น แค่นี้เขาก็พอใจแล้วอย่างอื่นเขาไม่กล้าที่จะหวังเลย!“ฉินหมิงไฟเขียวแล้ว คุณรีบขับไปได้แล้ว เหม่อลอยอะไรอยู่? ”เลียงใส ๆ ไพเราะของหลินหว่านชิงดังก้องอยู่ในหูของฉินหมิงฉินหมิงกลับมาได้สติ จากนั้นก็บิดคันเร่งออกไปในตอนแรกหลินหว่านชิงไม่สนใจอะไร แต่เมื่อจำนวนการหยุดที่มากขึ้น ไม่ช้าเธอก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง และใบหน้าที่สวยงามของเธอก็แดงก่ำในทันที“ฉินหมิง นาย…นายไม่ได้จงใจใช่ไหม! ”หลินหว่านชิงพูดด้วยความโกรธ“ผม…ผมเปล่านะ…”ฉินหมิงใบหน้าแดงก่ำ ในใจของเขาว่างเปล่ากับเฉินถิงถิงครั้งนั้น เขาไม่ได้เจตนาจริง ๆ แต่กับหลินหว่านชิงครั้งนี้มันยากที่จะพูด ในใจเขาไม่ได้ตั้งใจแต่มือเท้ากลับไม่ฟังเสียงเรียกร้อง มันมักจะอยากเบรกเป็นครั้งคราว เขาควบคุมยังไงก็ไม่ได้“ไม่แปลกใจที่นายยืนกรานที่จะขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านมา ที่แท้ก็ไม่ได้มีเจตนา
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ