ภายใจในของเขาสามารถจินตนาการได้ว่ารู้สึกอย่างไร!“ผู้อำนวยการตู้ การเดิมพันในครั้งนี้คุณแพ้แล้ว! ”“ตามการเดิมพันที่แพ้ คุณมีอะไรที่อยากจะพูดไหม! ”ฉินหมิงส่งสายตาเยาะเย้ยไปที่ตู้เซียว“ผม…”สีหน้าของตู้เซียวเหมือนกับก้นหม้อ ความรู้สึกของเขาจมดิ่งสูjก้นบึ้งเรื่องราวมาถึงขึ้นนี้แล้ว แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออก ครั้งนี้เขาไม่เพียงแต่แพ้ แต่เขายังแพ้อย่างน่าสังเวชอีกด้วย!ตามการเดิมพันคนที่แพ้จะต้องลาออกจากบริษัท ซึ่งสิ่งนี้เขาไม่อาจรับได้ในที่สุดเขาก็ปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของบริษัทแล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าต้องลำบากและพยายามอย่างมากแค่ไหน จะให้เขาจากไปอย่างกระอักกระอ่วนแบบนี้ แล้วเขาจะทำใจได้อย่างไร!“ประธานหลิน ครั้งนี้เป็นเลขาฉินที่ชนะอย่างแท้จริง”“แต่ว่าการเดิมพันเป็นเพียงแค่เรื่องมุกตลกขบขันเท่านั้นเอง และนี่ไม่ควรจะจริงจังจะให้ผู้อำนวยการตู้ต้องออกจากบริษัทเพียงเพราะแค่เรื่องตลกขบขันเรื่องเดียวไม่ได้หรอกใช่ไหม? ”“ใช่ หลายปีมานี้ผู้อำนวยการตู้ก็ทำเพื่อบริษัทไปไม่น้อย แม้ไม่มีบุญแต่ก็ยังทำงานหนัก ผมคิดว่าเรื่องการเดิมพันก็ถือว่าแล้วแล้วกันไปเถอะ…”...มีผู้บริหารระดั
“ผู้ช่วยหาน คุณเป็นตัวแทนฉันไปจัดการประชุม และพยายามกำหนดทิศทางการพัฒนาของการวางแผนงานโดยเร็วที่สุด”พูดถึงตรงนี้หลินหว่านชิงใช้น้ำเสียงที่เคร่งขัด มองฉินหมิงอย่างลึกซึ้ง “เลขาฉิน คุณตามฉันไปที่ออฟฟิศที ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”“เอ่อ ผมทราบแล้วครับ”ฉินหมิงตอบกลับอย่างอ่อนแรง จากนั้นเขาก็ติดตามหลินหว่านชิงไปที่ห้องทำงานของท่านประธานตามลำพัง...ในห้องทำงานหลินหว่านชิงทำท่าให้ฉินหมิงนั่งลงที่โซฟา เห็นท่าทีของฉินหมิงที่ยังคงดูไม่มีชีวิตชีวา เธอก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า “ทำไม นายยังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม? ” “ผมเปล่า…”ฉินหมิงหันหน้าหนี ปากบอกว่าไม่มีอะไร แต่ใครมาเห็นก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ค่อยมีความสุขเลย“ฉันรู้ว่านายโกรธฉันที่เข้าข้างตู้เซียว”“แต่ว่าฉันเป็นประธานบริษัท ฉันมีแนวทางในการพิจารณาของตัวเอง”หลินหว่านชิงระบายยิ้มอ่อน นั่งลงข้าง ๆ ฉินหมิง “ตอนที่นายกับตู้เซียวเดิมพันกันก่อนหน้านี้ ก็อยากให้ฉันเป็นพยานให้กับพวกนายสองคน ตอนแรกฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรไป รู้ไหมว่าเพราะอะไร? ”“เพราะอะไร? ”ฉินหมิงประหลาดใจอย่างมาก จากนั้นเขาจึงนึกได้ว่าหลินหว่านชิงไม่เคยยอมร
ฉินหมิงรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมา หัวใจของเขาจู่ ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาความปรารถนาสูงสุดของเขาในวันนี้ก็คือการขับมอเตอร์ไซค์คันเล็กที่เขารักและพาหลินหว่านชิงออกไปขับด้วยกันตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว เขาจะพลาดได้อย่างไรกัน!“ง่ายขนาดนี้เลยหรอ? ”หลินหว่านชิงทำหน้าผิดคาดเล็กน้อยฉินหมิงเพิกเฉยต่อรางวัลตอบแทน เขาเพียงแค่สนใจตัวเธอเท่านั้น เขาไม่ต้องการให้เธอต้องลำบากและเหนื่อยล้า ภายในใจของเธอก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาแล้วแม้เพียงชั่วครู่ เธอก็รู้สึกดีที่มีคนใส่ใจแบบนี้แน่นอนเธอไม่ได้รับรู้ทั้งหมด ในด้านหนึ่งฉินหมิงเป็นห่วงเธอจริง ๆ แต่อีกด้านหนึ่ง ฉินหมิงเองก็มีแผนเล็ก ๆ อยู่ในใจหากเธอรู้ความคิด ‘สกปรก’ ของฉินหมิงในตอนนี้ เกรงว่าเธอคงจะไม่มีความสุขแน่ ๆ ! “หว่านชิง คุณทำได้ไหม? ”ฉินหมิงถามด้วยสีหน้าคาดหวังและกังวลว่าหลินหล่านชิงเองจะปฎิเสธ“อืม ฉันรับปากนาย! ”หลินหว่านชิงยิ้มพร้อมพยักหน้าอย่างไรก็ตามความร่วมมือก็เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่เสียหายอะไรสำหรับเธอที่จะให้ตัวเองได้พักผ่อนสองวันส่วนแผนงานนั้นเธอได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว สุดสัปดาห์นี้คนในแผนกวางแผนจะทำงานล่ว
ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นเพียงผู้ชายที่หย่าร้างมาแล้ว ไม่มีความสามารถอะไรเลย เขาไม่คู่ควรกับเทพธิดาที่สวยงามและสูงส่งอย่างหลินหว่านชิงเลย!ตราบใดที่เขาสามารถอยู่ข้าง ๆ หลินหว่านชิงอย่างเงียบ ๆ ทุกวัน และมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหลินหว่านชิงมากขึ้น แค่นี้เขาก็พอใจแล้วอย่างอื่นเขาไม่กล้าที่จะหวังเลย!“ฉินหมิงไฟเขียวแล้ว คุณรีบขับไปได้แล้ว เหม่อลอยอะไรอยู่? ”เลียงใส ๆ ไพเราะของหลินหว่านชิงดังก้องอยู่ในหูของฉินหมิงฉินหมิงกลับมาได้สติ จากนั้นก็บิดคันเร่งออกไปในตอนแรกหลินหว่านชิงไม่สนใจอะไร แต่เมื่อจำนวนการหยุดที่มากขึ้น ไม่ช้าเธอก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง และใบหน้าที่สวยงามของเธอก็แดงก่ำในทันที“ฉินหมิง นาย…นายไม่ได้จงใจใช่ไหม! ”หลินหว่านชิงพูดด้วยความโกรธ“ผม…ผมเปล่านะ…”ฉินหมิงใบหน้าแดงก่ำ ในใจของเขาว่างเปล่ากับเฉินถิงถิงครั้งนั้น เขาไม่ได้เจตนาจริง ๆ แต่กับหลินหว่านชิงครั้งนี้มันยากที่จะพูด ในใจเขาไม่ได้ตั้งใจแต่มือเท้ากลับไม่ฟังเสียงเรียกร้อง มันมักจะอยากเบรกเป็นครั้งคราว เขาควบคุมยังไงก็ไม่ได้“ไม่แปลกใจที่นายยืนกรานที่จะขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านมา ที่แท้ก็ไม่ได้มีเจตนา
หลินหว่านชิงเป็นเหมือนเกล็ดย้อนของเขา ตอนนี้อีกฝ่ายพูดจาลวนลามหลินหว่านชิงอยู่ ใคร ๆ ก็จินตนาการถึงความโกรธในใจของเขาได้!เขายับยั้งชั่งใจอย่างมากที่จะไม่ให้โกรธจัด!“ให้ตายเถอะ นายกล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับฉัน! ”“เจ้าหนุ่ม นายอยากตายใช่ไหม! ”“ไหนนายลองพูดอีกรอบสิ! ”ชายหนุ่มสวมต่างหูโมโหขึ้นเมื่อเสียงของเขาเงียบลง หน้าต่างด้านหลังก็ลดลงมา ชายหนุ่มสองคนในชุดซอมซ่อก็โผล่หัวออกมาไปที่หน้าต่างด้วยเมื่อรวมกับชายที่สวมต่างหูซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าและชายในที่นั่งผู้โดยสาร พวกเขามีทั้งหมดสี่คน ทุกคนล้วนมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาที่ดุร้าย “พูดอีกรอบแล้วยังไง ฉันบอกให้พวกนายไสหัวไป…”ฉินหมิงไม่เกรงกลัว พูดยังไม่ทันจบ หลินหว่านชิงก็ดึงแขนเขาและขัดคำพูดของเขาไว้“ฉินหมิง ช่างมันเถอะอย่าไปใส่ใจพวกเขา อย่าปล่อยให้มันมาทำลายอารมณ์ที่ดี ๆ ของเราสองคนเลย”หลินหว่านชิงส่ายหัวและกล่าวขึ้นเนื่องจากเธอสวยมากไป ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามเสมอ เธอเองก็ชินไปแล้วและยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายมีตั้งสี่คน คนจำนวนมากกว่า ฉินหมิงมีเพียงคนเดียว หากทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกันขึ้นมา เรื่องนี
“เอาล่ะ ๆ ฉันยอมรับความเก่งกาจของนาย แบบนี้ได้หรือยัง? ”หลินหว่านชิงทำหน้าเหมือนยิ้มแต่ว่าไม่ยิ้มเธอเคยเห็นฝีมือของฉินหมิงมาก่อนครั้งแรกที่ฉินหมิงพยายามช่วยเธอที่ริมแม่น้ำ เขาเกือบจะถูกฆ่าโดยพวกอันธพาลครั้งที่สองฉินหมิงถูกบอดี้การ์ดสองคนของซุนกวนฉงทุบตีอย่างแรงและถูกผลักลงกับพื้น ต้องขอบคุณที่เธอปรากฏตัวทันเวลาเพื่อช่วยฉินหมิงหลังจากเหตุการณ์ทั้งสองครั้งนี้ เธอรู้ว่าฉินหมิงนอกจากจะมีความกล้าหาญและดุร้ายแล้ว จริง ๆ แล้วฉินหมิงก็เป็นผู้ชายที่ธรรมดามาก ๆ เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเอาสองมือต่อสู้กับสี่คน นี่เขาจะเอาชนะผู้ชายสวมต่างหูสี่คนได้อย่างไรอย่างไรก็ตามผู้ชายต่างก็รักษาหน้า แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อแต่ก็ไม่สามารถที่จะฉีกหน้าของฉินหมิงได้“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไปเถอะพวกเราไปปีนเขากัน! ”ฉินหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อปรับอารมณ์ของเขา จากนั้นก็เดินไปตามถนนไปที่เชิงเขากับหลินหว่านชิงเชิงเขาเป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุดของจุดชมวิวและยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่นที่สุด ที่นี่มีของอร่อยและความสนุกสนานทุกรูปแบบถนนเต็มไปด้วยอาหารและของว่างแสนอร่อยมากมาย ร่วมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้าน
รอยยิ้มบนใบหน้าของซินเออร์เกือบจะเบ่งบานด้วยความดีใจ เธอรีบเดินไปทางด้านหน้าหลินหว่านชิง และกล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซินเออร์ เป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว คุณสวยมาก ๆ เลย ฉันขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหมคะ? ”“นี่…”หลินหว่านชิงไม่ค่อยชอบการติดต่อกับคนแปลกหน้า แต่ท่าทางของอีกฝ่ายมีความกระตือรือร้นมากและดูเหมือนจะไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจขณะที่ทั้งสองถ่ายรูปร่วมกัน กล้องก็ถูกดึงมาข้างหน้า เหล่าแฟนคลับจับตาดูอย่างใกล้ชิด หลินหว่านชิงนั้นยิ่งดูก็ยิ่งสวย“ว้าว เธอสวยจริง ๆ รูปร่างและหน้าตาดูสมบูรณ์แบบ ช่างงามราวกับเทพเซียนบนสวรรค์! ”“นั่นสิ ฉันเดาว่าสี่สาวงามในสมัยโบราณก็คงไม่เป็นแบบนี้แน่ ๆ ! ”“ซินเออร์ ฉันส่งจรวดสองอันให้คุณก่อน คุณรีบถามชื่อสาวสวยคนนี้เร็ว และขอรายละเอียดช่องทางการติดต่อเช่นไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือด้วย จากนั้นฉันจะส่งจรวดอีกสองสามอันให้คุณ! ”“ฉันก็เหมือนกัน ถ้าหากได้ช่องทางการติดต่อมา ฉันก็จะส่งจรวดให้คุณสองอัน! ”...เหล่าแฟนคลับในพื้นที่แสดงความคิดเห็นต่างก็ตื่นเต้นมากขึ้นมากขึ้นเรื่อย
เพื่อนผู้ชายของซินเออร์รีบพูดด้วยรอยยิ้ม“ใช่ ๆ เราไม่ได้จะทำอะไรเธอเลย คุณจะดุไปทำไมกัน! ”ซินเออร์ตะคอกใส่อย่างเย็นชา ไม่มีความรู้สึกกลัวเลยแม้ว่าฉินหมิงจะรูปร่างสูงกว่าแฟนของเธอเล็กน้อย แต่ก็ดูผอมไม่แข็งแรงเหมือนกับแฟนของเธอหากฉินหมิงต้องการสู้จริง ๆ เขาก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแฟนเธออย่างแน่นอนถ้าอย่างนั้นเธอจะกลัวไปทำไม!“ผมไม่สนว่าพวกคุณจะมีหรือไม่มีจุดประสงค์อะไร สรุปแล้วพวกคุณรีบหลบไปจะดีกว่า! ”“ถ้าหากพวกคุณยังกล้ามารังควานหว่านชิงอีก ก็อย่ามาโทษที่ผมไม่เกรงใจพวกคุณก็แล้วกัน! ”ฉินหมิงน้ำเสียงโมโห และยังมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีให้กับอีกฝ่าย“ฉินหมิงพอเถอะ พวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร พวกเราไปกันเถอะ”หลินหว่านชิงพูดพร้อมดึงแขนของฉินหมิงออกมาในขณะที่ฉินหมิงก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องเธอ เขาดูหล่อเหลาและเป็นลูกผู้ชายมาก เธอรู้สึกถึงความรู้สึกหอมหวานที่อธิบายไม่ได้ในใจของเธอฉินหมิงพยักหน้า เหลือบมองอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเตือน จากนั้นจึงหันหลังกลับและจากไปพร้อมกับหลินหล่านชิง“น่ารังเกียจ! ”“ตอนนี้ของขวัญทั้งหมดสูญเปล่าหมดแล้ว! ”เมื่อเห็นฉินหมิงและหลินหว่านชิงค่อย ๆ หาย