เพื่อนผู้ชายของซินเออร์รีบพูดด้วยรอยยิ้ม“ใช่ ๆ เราไม่ได้จะทำอะไรเธอเลย คุณจะดุไปทำไมกัน! ”ซินเออร์ตะคอกใส่อย่างเย็นชา ไม่มีความรู้สึกกลัวเลยแม้ว่าฉินหมิงจะรูปร่างสูงกว่าแฟนของเธอเล็กน้อย แต่ก็ดูผอมไม่แข็งแรงเหมือนกับแฟนของเธอหากฉินหมิงต้องการสู้จริง ๆ เขาก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแฟนเธออย่างแน่นอนถ้าอย่างนั้นเธอจะกลัวไปทำไม!“ผมไม่สนว่าพวกคุณจะมีหรือไม่มีจุดประสงค์อะไร สรุปแล้วพวกคุณรีบหลบไปจะดีกว่า! ”“ถ้าหากพวกคุณยังกล้ามารังควานหว่านชิงอีก ก็อย่ามาโทษที่ผมไม่เกรงใจพวกคุณก็แล้วกัน! ”ฉินหมิงน้ำเสียงโมโห และยังมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีให้กับอีกฝ่าย“ฉินหมิงพอเถอะ พวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร พวกเราไปกันเถอะ”หลินหว่านชิงพูดพร้อมดึงแขนของฉินหมิงออกมาในขณะที่ฉินหมิงก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องเธอ เขาดูหล่อเหลาและเป็นลูกผู้ชายมาก เธอรู้สึกถึงความรู้สึกหอมหวานที่อธิบายไม่ได้ในใจของเธอฉินหมิงพยักหน้า เหลือบมองอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเตือน จากนั้นจึงหันหลังกลับและจากไปพร้อมกับหลินหล่านชิง“น่ารังเกียจ! ”“ตอนนี้ของขวัญทั้งหมดสูญเปล่าหมดแล้ว! ”เมื่อเห็นฉินหมิงและหลินหว่านชิงค่อย ๆ หาย
แต่ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากที่ได้พบกับฉินหมิงแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆบางทีอาจเป็นเพราะมีฉินหมิงเป็นคู่หู ทำให้ช่วยบรรเทาความเหงาในใจของเธอได้หรือบางทีเธออาจจะมองฉินหมิงเป็นเพื่อนสนิทเหมือนหานซี ต่อหน้าฉินหมิงเธอถอดหน้ากากจอมปลอมออกทั้งหมด และใช้ชีวิตอย่างสบายตามความเป็นจริง!การปีนเขาเป็นเรื่องที่ใช้พลังงานมากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมารวมตัวกันตามบริเวณเชิงเขาอย่างคึกคัก ซึ่งความเป็นจริงไม่ค่อยมีคนเต็มใจที่จะไปปีนเขามากนักมีเพียงคู่รักหนุ่มสาวหรือกลุ่มวัยรุ่นสามถึงห้ากลุ่มกระจัดกระจายอยู่บนบันได ดูเปลี่ยวกว่าที่เชิงเขามากฉินหมิงและหลินหว่านชิงทั้งสองคนกำลังพูดคุยและหัวเราะไปตลอดทางขึ้นไปบนเขา โดยไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีเงาลับ ๆ ล่อ ๆ สี่คนด้านหลังตามมาอย่างเงียบ ๆครึ่งทางขึ้นเขามีพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ มีศาลาหลายหลังที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษในบริเวณจุดชมวิว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ที่นี่คือจุดแบ่งของการปีนเขา ภูเขาที่อยู่ไกลออกไปมีความชันมาก ซึ่งไม่เอื้อต่อนักท่องเที่ยวทั่วไปนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะหยุดพักที่นี่ และนั่งในศาลาที่
หลินหว่านชิงภายในใจดิ่งวูบ เมื่อรู่ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาที่ไม่ดี เธอจึงรีบคว้าแขนของฉินหมิงแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาทันทีผลลัพธ์เป็นเพราะเธอร้อนใจมากเกินไป เท้าของเธอจึงลื่นลงไป เธอเดินโซเซ จากนั้นจึงล้มลงไปที่บันไดหิน“หว่านชิง ระวัง! ”ฉินหมิงตกใจมาก โชคดีที่เขาตาไวและมือเร็ว เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าเอวเพรียวบางและอ่อนนุ่มของหลินหว่านชิงเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นหนา“เจ็บมาก…”หลินหว่านชิงร้องด้วยความเจ็บปวด การลื่นล้มในครั้งนี้ทำให้ข้อเท้าของเธอพลิก ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ข้อเท้ามากจนเธอแทบจะหลั่งน้ำตาออกมาในทันที“หว่านชิง คุณเป็นอะไร คุณล้มตรงที่ไหน? ”สีหน้าของฉินหมิงเปลี่ยนไป เขารีบนำหลินหว่านชิงออกจากอ้อมแขนของเขา มองสถานการณ์ของหลินหว่านชิงด้วยสีหน้าประหม่าและกังวล“เท้าของฉันดูเหมือนจะพลิกน่ะ…”ใบหน้าแสนสวยของหลินหว่านชิงซีดลง เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวด“บัดซบ! ”ฉินหมิงโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ สายตาอันดุร้ายจ้องมองไปที่ชายสวมต่างหูทั้งสี่คนถ้าหากไม่เจอกับชายสวมต่างหูทั้งสี่คนจนตกใจ หลินหว่านชิงก็คงไม่มีทางเท้าพลิกได้!ด้วยเหตุผลนี้เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอีกฝ่
หลินหว่านชิงก้มหน้าลงและมองไปที่โทรศัพท์ของเธอ บนหน้าจอแสดงให้เห็นว่าไม่มีสัญญาณจริง ๆ ตอนนี้ดวงตาเธอเบิกกว้างตกตะลึงราวกับคนโง่เดิมทีเธอหวังจะพึ่งตำรวจมาข่มขู่อีกฝ่าย แต่สิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนก็คือที่นี่ไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือสัญญานโทรศัพท์เลย แล้วเธอจะเอาอะไรไปแจ้งตำรวจกัน!“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไรกันแน่? ”“ถ้าพวกนายอยากได้เงินล่ะก็ ฉันสามารถให้เงินพวกนายได้ ขอเพียงพวกนายบอกจำนวนที่ต้องการมา ฉันจะเอามาให้แน่นอน”หลินหว่านชิงหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด“เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งจะไปมีเงินอะไรได้! ”“พวกพี่ไม่ได้ต้องการเลย! ”ชายสวมต่างหูยิ้มอย่างเหยียดหยาม เขาเห็นหลินหว่านชิงนั่งมอเตอร์ไซค์โทรม ๆ ของฉินหมิงด้วยตาของเขาเอง ทั้งสองคนยากจนมากไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้อรถยนต์ด้วยซ้ำ คาดว่ามีทรัพย์สินหลายหมื่นบาทก็ดีมากแล้ว เงินแค่นี้จะมาอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไรกัน!“แต่ว่าถ้าเธออยากปกป้องไอ้หนุ่มนี่ไว้จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลย! ”“ขอแค่เธอรับปากเงื่อนไขพวกเราหนึ่งข้อ พวกพี่รับรองว่าจะไม่แตะต้องมัน! ”ชายสวมต่างหูพูดอย่างมีเล
“ช่วยหยุดโง่เขลาแบบนี้สักทีได้ไหม! ”หลินหว่านชิงจ้องมองฉินหมิงด้วยความโกรธ กระซิบอย่างเบาเสียง “นายใช้สมองคิดให้รอบคอบ ขอแค่นายสามารถหลบหนีได้ แล้วแจ้งตำรวจหรือแจ้งให้คนในตระกูลหลินรู้ในทันที พวกเขาไม่กล้าทำอะไรกับฉันแน่นอน! ”ท้ายที่สุดแล้วหลินหว่านชิงก็เป็นคนที่เคยเห็นลมและคลื่นลูกใหญ่ แม้ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ จิตใจของเธอก็ยังคงสงบและความคิดของเธอก็มีความชัดเจนอย่างมากเธอรู้ว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ไม่เอื้ออำนวยต่อเธอกับฉินหมิง ตราบใดที่ฉินหมิงสามารถหลบหนีได้อย่างราบรื่น อีกฝ่ายก็จะไม่กล้าแตะต้องเขาอย่างแน่นอน เว้นแต่ว่าคนเหล่านี้จะไม่ต้องการชีวิตจริง ๆ !“ตกลง ผมเชื่อฟังคุณ คุณปล่อยผมก่อน…”ถูกหลินหว่านชิงต่อว่าให้ขนาดนี้ ฉินหมิงก็ค่อยค่อยใจเย็นลงมาความสงบของเขาไม่ใช่คิดว่าจะหลบหนีไปอย่างไร แต่เป็นการหวังว่าหลินหว่านชิงจะปล่อยพันธนาการของเธอที่มีต่อเขาได้อย่างรวดเร็วหลินหว่านชิงเชื่อว่าเป็นความจริง เธอหลบไปจับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งปล่อยแขนของฉินหมิงตอนนี้เท้าข้างหนึ่งของเธอแพลง มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะหลบหนี เธอทำได้เพียงฝากควา
กระดูกทั่วร่างกายดูเหมือนจะแตกสลายและมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซี่โครงที่หน้าอกหักอย่างน้อยห้าหรือหกซี่นี่ถือว่าโชคดีที่ฉินหมิงไม่เอาถึงตาย ไม่อย่างนั้นกลัวว่าพวกเขาทั้งสี่คนคงไม่มีชีวิตรอดแน่!“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…”พอได้เห็นฉากนี้ หลินหว่านชิงถึงกับตกตะลึง เธอขยี้ตาอย่างแรงไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงเดิมทีเธอคิดว่าครั้งนี้ตัวเองและฉินหมิงจะต้องตายแน่นอน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าฉินหมิงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็เอาชนะพวกอันธพาลที่มีอาวุธทั้งสี่คนได้!นี่มันทำให้เธอตกใจมาก!ในที่สุดเธอก็ได้เข้าใจ เมื่อกี้ฉินหมิงไม่ได้ขี้โม้ เป็นเธอที่ดูถูกพละกำลังของเขา!“ฉินหมิง นาย…นายยอดเยี่ยมสุด ๆ เลย!”“วิชาต่อสู้ของนายเปลี่ยนไปดีเยี่ยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร! ”หลินหว่านชิงตกใจมาก เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ อีกครั้ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในเวลาเดียวกันในใจเธอก็สงสัยเป็นอย่างมาก ในเมื่อทักษะของฉินหมิงดีขนาดนี้ ตอนแรกเขาเกือบตายด้วยน้ำมือของโจรลักพาตัวสองคน อีกทั้งยังถูกบอดี้การ์ดทั้งสองของซุนกวนฉงเล่นงานอีกนี่มันแปลกเกินไปแล้ว!“ที่จริงผมก็เก่งมาตลอดอยู่แล้วนะครับ…”
เมื่อเห็นท่าทีที่นิ่งเฉยของฉินหมิง ชายใส่ต่างหูทั้งสี่คนก็หมดหวังทันที พวกเขามองไปที่หลินหว่านชิงที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นพวกเขาหมอบและคลานไปข้างหน้าหลินหว่านชิงฉินหมิงตกใจ เขาเป็นกังวลว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำร้ายหลินหว่านชิง เขารีบปกป้องหลินหว่านชิงที่อยู่ข้างหลัง เขามองชายสี่คนที่ใส่ต่างหูเย็นชายิ่งขึ้น!“คุณผู้หญิงครับไว้ชีวิตด้วยเถอะ เมื่อกี้พวกผมทำไม่ดีกับคุณไว้ พวกผมขอโทษจริง ๆ …”“ได้โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถอะครับ ปล่อยพวกเราให้มีชีวิตเถอะนะครับ… ”ชายใส่ต่างหูทั้งสี่คนรีบอ้อนวอนขอชีวิตกับหลินหว่านชิงหลินหว่านชิงก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนร้ายก็ตาม แต่เธอยังคงรู้สึกเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย“ฉินหมิงช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ครั้งนี้นายก็ไว้ชีวิตพวกเขาละกันนะ”หลินหว่านชิงพูดโน้มน้าว“หว่านชิง เราจะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ!“”คนพวกนี้มันเป็นขยะสังคม ถ้าครั้งนี้เราปล่อยพวกเขาไป ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ทำสิ่งเลวร้ายอีกต่อไปในอนาคต! ”“พอถึงตอนนั้นมันจะไม่ใช่ว่าพวกเราช่วยพวกเขาทำร้ายคนอื่นเหรอ!”ฉินหมิงกล่าวหนักแน่นจริง ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้
เพราะความกังวลสับสน เมื่อกี้เขากังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของหลินหว่านชิงมากเกินไป จนลืมวิชาทักษะการแพทย์ของตัวเองไปเสียสนิทหลังจากนั้นฉินหมิงมองไปรอบ ๆ สองสามครั้งและเห็นหินขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ไม่ไกล เขาประคองหลินหว่านชิงไปนั่งที่หินนั้น“หว่านชิง คุณถอดรองเท้าก่อน เดี๋ยวผมจะดูอาการให้คุณ ”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านชิงพยักหน้า เธอถอดรองเท้าบูทหนังเล็ก ๆ ออก เผยให้เห็นเท้าขาวและนุ่มนวลที่ห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีเนื้อมันช่างงามเหลือเกิน!ใจฉินหมิงเต้นตึกตัก มองจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้วเท้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงนั้นเรียวเล็กและเต็มไปด้วยความงาม นิ้วเท้าทั้งห้าที่พันด้วยถุงน่องนั้นดูขี้เล่นและน่าดึงดูดซึ่งสมบูรณ์แบบฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนในหัวใจและแรงกระตุ้นที่อธิบายไม่ได้ เขาต้องการจับเท้าราวหยกอันละเอียดอ่อนนี้ไว้ในมือแล้วเล่นกับมัน“ฉินหมิง นายจะตรวจให้ฉันไม่ใช่หรือไง?”“แล้วนายตะลึงอะไรกัน!”หลินหว่านชิงถามอย่างสงสัย“อ้อ ผมก็กำลังตรวจให้คุณอยู่นี่ไง…”ฉินหมิงกลับมามีสติอีกครั้ง ใบหน้ายิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย จากนั้นเขาก