หลินหว่านชิงภายในใจดิ่งวูบ เมื่อรู่ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาที่ไม่ดี เธอจึงรีบคว้าแขนของฉินหมิงแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาทันทีผลลัพธ์เป็นเพราะเธอร้อนใจมากเกินไป เท้าของเธอจึงลื่นลงไป เธอเดินโซเซ จากนั้นจึงล้มลงไปที่บันไดหิน“หว่านชิง ระวัง! ”ฉินหมิงตกใจมาก โชคดีที่เขาตาไวและมือเร็ว เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าเอวเพรียวบางและอ่อนนุ่มของหลินหว่านชิงเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นหนา“เจ็บมาก…”หลินหว่านชิงร้องด้วยความเจ็บปวด การลื่นล้มในครั้งนี้ทำให้ข้อเท้าของเธอพลิก ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ข้อเท้ามากจนเธอแทบจะหลั่งน้ำตาออกมาในทันที“หว่านชิง คุณเป็นอะไร คุณล้มตรงที่ไหน? ”สีหน้าของฉินหมิงเปลี่ยนไป เขารีบนำหลินหว่านชิงออกจากอ้อมแขนของเขา มองสถานการณ์ของหลินหว่านชิงด้วยสีหน้าประหม่าและกังวล“เท้าของฉันดูเหมือนจะพลิกน่ะ…”ใบหน้าแสนสวยของหลินหว่านชิงซีดลง เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวด“บัดซบ! ”ฉินหมิงโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ สายตาอันดุร้ายจ้องมองไปที่ชายสวมต่างหูทั้งสี่คนถ้าหากไม่เจอกับชายสวมต่างหูทั้งสี่คนจนตกใจ หลินหว่านชิงก็คงไม่มีทางเท้าพลิกได้!ด้วยเหตุผลนี้เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอีกฝ่
หลินหว่านชิงก้มหน้าลงและมองไปที่โทรศัพท์ของเธอ บนหน้าจอแสดงให้เห็นว่าไม่มีสัญญาณจริง ๆ ตอนนี้ดวงตาเธอเบิกกว้างตกตะลึงราวกับคนโง่เดิมทีเธอหวังจะพึ่งตำรวจมาข่มขู่อีกฝ่าย แต่สิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนก็คือที่นี่ไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือสัญญานโทรศัพท์เลย แล้วเธอจะเอาอะไรไปแจ้งตำรวจกัน!“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไรกันแน่? ”“ถ้าพวกนายอยากได้เงินล่ะก็ ฉันสามารถให้เงินพวกนายได้ ขอเพียงพวกนายบอกจำนวนที่ต้องการมา ฉันจะเอามาให้แน่นอน”หลินหว่านชิงหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด“เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งจะไปมีเงินอะไรได้! ”“พวกพี่ไม่ได้ต้องการเลย! ”ชายสวมต่างหูยิ้มอย่างเหยียดหยาม เขาเห็นหลินหว่านชิงนั่งมอเตอร์ไซค์โทรม ๆ ของฉินหมิงด้วยตาของเขาเอง ทั้งสองคนยากจนมากไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้อรถยนต์ด้วยซ้ำ คาดว่ามีทรัพย์สินหลายหมื่นบาทก็ดีมากแล้ว เงินแค่นี้จะมาอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไรกัน!“แต่ว่าถ้าเธออยากปกป้องไอ้หนุ่มนี่ไว้จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลย! ”“ขอแค่เธอรับปากเงื่อนไขพวกเราหนึ่งข้อ พวกพี่รับรองว่าจะไม่แตะต้องมัน! ”ชายสวมต่างหูพูดอย่างมีเล
“ช่วยหยุดโง่เขลาแบบนี้สักทีได้ไหม! ”หลินหว่านชิงจ้องมองฉินหมิงด้วยความโกรธ กระซิบอย่างเบาเสียง “นายใช้สมองคิดให้รอบคอบ ขอแค่นายสามารถหลบหนีได้ แล้วแจ้งตำรวจหรือแจ้งให้คนในตระกูลหลินรู้ในทันที พวกเขาไม่กล้าทำอะไรกับฉันแน่นอน! ”ท้ายที่สุดแล้วหลินหว่านชิงก็เป็นคนที่เคยเห็นลมและคลื่นลูกใหญ่ แม้ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ จิตใจของเธอก็ยังคงสงบและความคิดของเธอก็มีความชัดเจนอย่างมากเธอรู้ว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ไม่เอื้ออำนวยต่อเธอกับฉินหมิง ตราบใดที่ฉินหมิงสามารถหลบหนีได้อย่างราบรื่น อีกฝ่ายก็จะไม่กล้าแตะต้องเขาอย่างแน่นอน เว้นแต่ว่าคนเหล่านี้จะไม่ต้องการชีวิตจริง ๆ !“ตกลง ผมเชื่อฟังคุณ คุณปล่อยผมก่อน…”ถูกหลินหว่านชิงต่อว่าให้ขนาดนี้ ฉินหมิงก็ค่อยค่อยใจเย็นลงมาความสงบของเขาไม่ใช่คิดว่าจะหลบหนีไปอย่างไร แต่เป็นการหวังว่าหลินหว่านชิงจะปล่อยพันธนาการของเธอที่มีต่อเขาได้อย่างรวดเร็วหลินหว่านชิงเชื่อว่าเป็นความจริง เธอหลบไปจับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งปล่อยแขนของฉินหมิงตอนนี้เท้าข้างหนึ่งของเธอแพลง มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะหลบหนี เธอทำได้เพียงฝากควา
กระดูกทั่วร่างกายดูเหมือนจะแตกสลายและมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซี่โครงที่หน้าอกหักอย่างน้อยห้าหรือหกซี่นี่ถือว่าโชคดีที่ฉินหมิงไม่เอาถึงตาย ไม่อย่างนั้นกลัวว่าพวกเขาทั้งสี่คนคงไม่มีชีวิตรอดแน่!“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…”พอได้เห็นฉากนี้ หลินหว่านชิงถึงกับตกตะลึง เธอขยี้ตาอย่างแรงไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงเดิมทีเธอคิดว่าครั้งนี้ตัวเองและฉินหมิงจะต้องตายแน่นอน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าฉินหมิงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็เอาชนะพวกอันธพาลที่มีอาวุธทั้งสี่คนได้!นี่มันทำให้เธอตกใจมาก!ในที่สุดเธอก็ได้เข้าใจ เมื่อกี้ฉินหมิงไม่ได้ขี้โม้ เป็นเธอที่ดูถูกพละกำลังของเขา!“ฉินหมิง นาย…นายยอดเยี่ยมสุด ๆ เลย!”“วิชาต่อสู้ของนายเปลี่ยนไปดีเยี่ยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร! ”หลินหว่านชิงตกใจมาก เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ อีกครั้ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในเวลาเดียวกันในใจเธอก็สงสัยเป็นอย่างมาก ในเมื่อทักษะของฉินหมิงดีขนาดนี้ ตอนแรกเขาเกือบตายด้วยน้ำมือของโจรลักพาตัวสองคน อีกทั้งยังถูกบอดี้การ์ดทั้งสองของซุนกวนฉงเล่นงานอีกนี่มันแปลกเกินไปแล้ว!“ที่จริงผมก็เก่งมาตลอดอยู่แล้วนะครับ…”
เมื่อเห็นท่าทีที่นิ่งเฉยของฉินหมิง ชายใส่ต่างหูทั้งสี่คนก็หมดหวังทันที พวกเขามองไปที่หลินหว่านชิงที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นพวกเขาหมอบและคลานไปข้างหน้าหลินหว่านชิงฉินหมิงตกใจ เขาเป็นกังวลว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำร้ายหลินหว่านชิง เขารีบปกป้องหลินหว่านชิงที่อยู่ข้างหลัง เขามองชายสี่คนที่ใส่ต่างหูเย็นชายิ่งขึ้น!“คุณผู้หญิงครับไว้ชีวิตด้วยเถอะ เมื่อกี้พวกผมทำไม่ดีกับคุณไว้ พวกผมขอโทษจริง ๆ …”“ได้โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถอะครับ ปล่อยพวกเราให้มีชีวิตเถอะนะครับ… ”ชายใส่ต่างหูทั้งสี่คนรีบอ้อนวอนขอชีวิตกับหลินหว่านชิงหลินหว่านชิงก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนร้ายก็ตาม แต่เธอยังคงรู้สึกเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย“ฉินหมิงช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ครั้งนี้นายก็ไว้ชีวิตพวกเขาละกันนะ”หลินหว่านชิงพูดโน้มน้าว“หว่านชิง เราจะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ!“”คนพวกนี้มันเป็นขยะสังคม ถ้าครั้งนี้เราปล่อยพวกเขาไป ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ทำสิ่งเลวร้ายอีกต่อไปในอนาคต! ”“พอถึงตอนนั้นมันจะไม่ใช่ว่าพวกเราช่วยพวกเขาทำร้ายคนอื่นเหรอ!”ฉินหมิงกล่าวหนักแน่นจริง ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้
เพราะความกังวลสับสน เมื่อกี้เขากังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของหลินหว่านชิงมากเกินไป จนลืมวิชาทักษะการแพทย์ของตัวเองไปเสียสนิทหลังจากนั้นฉินหมิงมองไปรอบ ๆ สองสามครั้งและเห็นหินขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ไม่ไกล เขาประคองหลินหว่านชิงไปนั่งที่หินนั้น“หว่านชิง คุณถอดรองเท้าก่อน เดี๋ยวผมจะดูอาการให้คุณ ”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านชิงพยักหน้า เธอถอดรองเท้าบูทหนังเล็ก ๆ ออก เผยให้เห็นเท้าขาวและนุ่มนวลที่ห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีเนื้อมันช่างงามเหลือเกิน!ใจฉินหมิงเต้นตึกตัก มองจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้วเท้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงนั้นเรียวเล็กและเต็มไปด้วยความงาม นิ้วเท้าทั้งห้าที่พันด้วยถุงน่องนั้นดูขี้เล่นและน่าดึงดูดซึ่งสมบูรณ์แบบฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนในหัวใจและแรงกระตุ้นที่อธิบายไม่ได้ เขาต้องการจับเท้าราวหยกอันละเอียดอ่อนนี้ไว้ในมือแล้วเล่นกับมัน“ฉินหมิง นายจะตรวจให้ฉันไม่ใช่หรือไง?”“แล้วนายตะลึงอะไรกัน!”หลินหว่านชิงถามอย่างสงสัย“อ้อ ผมก็กำลังตรวจให้คุณอยู่นี่ไง…”ฉินหมิงกลับมามีสติอีกครั้ง ใบหน้ายิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย จากนั้นเขาก
“หว่านชิง ตอนนี้คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหมครับ? ”ฉินหมิงถามด้วยความเป็นห่วงหลินหว่านชิงขยับเท้า แววตาประหลาดใจบนใบหน้าสวยของเธอ “เหมือนว่า…ไม่ปวดแล้วนะ”“งั้นก็ดีแล้วครับ ”“ข้อต่อถูกจัดให้ดีแล้ว คุณพักผ่อนไม่กี่วันก็หายจากอาการบาดเจ็บแล้วล่ะครับ”ฉินหมิงกล่าว“ยังต้องพักผ่อนอีกหลายวันเชียวเหรอ!”“ทำไมล่ะ หรือว่าเท้าของฉันยังรักษาไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์เหรอ? ” หลินหว่านชิงสวมรองเท้าไปก็สงสัยไป“รักษาเรียบร้อยแล้วครับ เพียงแต่คุณไม่สามารถรับน้ำหนักมากเกินไปได้ในระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกด ”“อย่างน้อยภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ คุณอย่าเดินไปไหนจะดีที่สุด…”ฉินหมิงกล่าวอธิบายอย่างง่าย ๆ “หา?”“อย่างนั้นฉันจะลงเขาอย่างไรล่ะ? ” หลินหว่านชิงถึงกับตกใจ ไม่มีทางที่เธอจะอยู่บนภูเขาได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกใช่ไหม?นี่มันไม่จริงใช่ไหมเนี่ย“ง่ายมาก ผมก็แค่แบกคุณลงจากเขา”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างเบาสบาย แต่ในใจกลับกระโดดโลดเต้น ถึงกระทั่งขอบคุณสวรรค์ที่มอบโอกาสดี ๆ อย่างนี้ให้กับเขา“แต่ว่า…”ใบหน้าสวยของหลินหว่านชิงเป
เขาไม่อยากให้หลินหว่านชิงตกอยู่ในอันตราย แต่ใจก็ทนเห็นหลินหว่านชิงผิดหวังไม่ได้“ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็มาแล้ว อย่ายอมแพ้กลางคันอย่างนี้สิครับ!”“ไปครับ! วันนี้ผมต้องพาคุณไปดูทิวทัศน์ที่ยอดเขาให้ได้!”ฉินหมิงกัดฟัด ไม่นานก็ได้ตัดใจออกมาการฝึกฝนของเขาได้มาถึงขั้นกลางของการบ่มเพาะพลังชี่ ทั้งความแข็งแกร่งและความว่องไวของเขานั้นดีกว่าคนทั่วไปมากอีกทั้งภูเขาอวิ๋นไม่ใช่ยอดเขาอันตรายที่มีหน้าผาสูงชัน ขอแค่เขาระมัดระวัง ก็ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย“แต่ว่า…”หลินหว่านชิงยังคงกังวลอยู่“วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ผมไม่มีทางให้คุณเจอเรื่องอันตรายแน่นอน!”ฉินหมิงพูดอย่างแน่วแน่ เสียงที่หนักแน่นและทรงพลังของเขาทำให้หลินหว่านชิงรู้สึกปลอดภัยอย่างอธิบายไม่ได้“อืม ฉันเชื่อนาย ”หลินหว่านชิงพยักหน้าอย่างเชื่องช้าหลังจากนั้น ฉินหมิงวางหลินหว่านชิงลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาราวกับเจ้าหญิงด้วยวิธีนี้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายจึงสามารถเอียงไปข้างหน้าได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปีนเขาและปัญหาด้านความปลอดภัยในภายหลังอีกทางด้านหนึ่งเนื่องจากไม่มีบันได ทางข้างหน้ายิ่งเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ลำบากมากยิ่งข