เพราะความกังวลสับสน เมื่อกี้เขากังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของหลินหว่านชิงมากเกินไป จนลืมวิชาทักษะการแพทย์ของตัวเองไปเสียสนิทหลังจากนั้นฉินหมิงมองไปรอบ ๆ สองสามครั้งและเห็นหินขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ไม่ไกล เขาประคองหลินหว่านชิงไปนั่งที่หินนั้น“หว่านชิง คุณถอดรองเท้าก่อน เดี๋ยวผมจะดูอาการให้คุณ ”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านชิงพยักหน้า เธอถอดรองเท้าบูทหนังเล็ก ๆ ออก เผยให้เห็นเท้าขาวและนุ่มนวลที่ห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีเนื้อมันช่างงามเหลือเกิน!ใจฉินหมิงเต้นตึกตัก มองจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้วเท้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงนั้นเรียวเล็กและเต็มไปด้วยความงาม นิ้วเท้าทั้งห้าที่พันด้วยถุงน่องนั้นดูขี้เล่นและน่าดึงดูดซึ่งสมบูรณ์แบบฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนในหัวใจและแรงกระตุ้นที่อธิบายไม่ได้ เขาต้องการจับเท้าราวหยกอันละเอียดอ่อนนี้ไว้ในมือแล้วเล่นกับมัน“ฉินหมิง นายจะตรวจให้ฉันไม่ใช่หรือไง?”“แล้วนายตะลึงอะไรกัน!”หลินหว่านชิงถามอย่างสงสัย“อ้อ ผมก็กำลังตรวจให้คุณอยู่นี่ไง…”ฉินหมิงกลับมามีสติอีกครั้ง ใบหน้ายิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย จากนั้นเขาก
“หว่านชิง ตอนนี้คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหมครับ? ”ฉินหมิงถามด้วยความเป็นห่วงหลินหว่านชิงขยับเท้า แววตาประหลาดใจบนใบหน้าสวยของเธอ “เหมือนว่า…ไม่ปวดแล้วนะ”“งั้นก็ดีแล้วครับ ”“ข้อต่อถูกจัดให้ดีแล้ว คุณพักผ่อนไม่กี่วันก็หายจากอาการบาดเจ็บแล้วล่ะครับ”ฉินหมิงกล่าว“ยังต้องพักผ่อนอีกหลายวันเชียวเหรอ!”“ทำไมล่ะ หรือว่าเท้าของฉันยังรักษาไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์เหรอ? ” หลินหว่านชิงสวมรองเท้าไปก็สงสัยไป“รักษาเรียบร้อยแล้วครับ เพียงแต่คุณไม่สามารถรับน้ำหนักมากเกินไปได้ในระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกด ”“อย่างน้อยภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ คุณอย่าเดินไปไหนจะดีที่สุด…”ฉินหมิงกล่าวอธิบายอย่างง่าย ๆ “หา?”“อย่างนั้นฉันจะลงเขาอย่างไรล่ะ? ” หลินหว่านชิงถึงกับตกใจ ไม่มีทางที่เธอจะอยู่บนภูเขาได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกใช่ไหม?นี่มันไม่จริงใช่ไหมเนี่ย“ง่ายมาก ผมก็แค่แบกคุณลงจากเขา”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างเบาสบาย แต่ในใจกลับกระโดดโลดเต้น ถึงกระทั่งขอบคุณสวรรค์ที่มอบโอกาสดี ๆ อย่างนี้ให้กับเขา“แต่ว่า…”ใบหน้าสวยของหลินหว่านชิงเป
เขาไม่อยากให้หลินหว่านชิงตกอยู่ในอันตราย แต่ใจก็ทนเห็นหลินหว่านชิงผิดหวังไม่ได้“ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็มาแล้ว อย่ายอมแพ้กลางคันอย่างนี้สิครับ!”“ไปครับ! วันนี้ผมต้องพาคุณไปดูทิวทัศน์ที่ยอดเขาให้ได้!”ฉินหมิงกัดฟัด ไม่นานก็ได้ตัดใจออกมาการฝึกฝนของเขาได้มาถึงขั้นกลางของการบ่มเพาะพลังชี่ ทั้งความแข็งแกร่งและความว่องไวของเขานั้นดีกว่าคนทั่วไปมากอีกทั้งภูเขาอวิ๋นไม่ใช่ยอดเขาอันตรายที่มีหน้าผาสูงชัน ขอแค่เขาระมัดระวัง ก็ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย“แต่ว่า…”หลินหว่านชิงยังคงกังวลอยู่“วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ผมไม่มีทางให้คุณเจอเรื่องอันตรายแน่นอน!”ฉินหมิงพูดอย่างแน่วแน่ เสียงที่หนักแน่นและทรงพลังของเขาทำให้หลินหว่านชิงรู้สึกปลอดภัยอย่างอธิบายไม่ได้“อืม ฉันเชื่อนาย ”หลินหว่านชิงพยักหน้าอย่างเชื่องช้าหลังจากนั้น ฉินหมิงวางหลินหว่านชิงลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาราวกับเจ้าหญิงด้วยวิธีนี้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายจึงสามารถเอียงไปข้างหน้าได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปีนเขาและปัญหาด้านความปลอดภัยในภายหลังอีกทางด้านหนึ่งเนื่องจากไม่มีบันได ทางข้างหน้ายิ่งเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ลำบากมากยิ่งข
หลังจากนั้น ทั้งสองเดินไปรอบ ๆ บนยอดเขาและหาพื้นที่สะอาด ๆ นั่งลงผ่านไปไม่นานดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ตกทางทิศตะวันตก เมฆและหมอกก็เปรียบเสมือนยอดเขาและภูเขา แสงสีทองส่องผ่านเมฆและหมอกและตกลงมาสู่โลกภายใต้แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลังตก เมฆและหมอกยังคงส่องแสงหลากสีสัน ท้องฟ้าอันหลากหลายและคาดเดาไม่ได้เต็มไปด้วยลำแสงที่ส่องสว่างไปครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งสองคนก็ได้ตื่นจากอาการเคลิบเคลิ้ม“ฉินหมิง มืดแล้วพวกเรากลับกันเถอะ”หลินหว่านชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มแม้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องไม่ดีสักเท่าไร แต่เมื่อมีฉินหมิงอยู่ด้วยเธอมีช่วงเวลาที่ดี และเธอก็รู้สึกพึงพอใจอย่างสุดจะพรรณนาฉินหมิงพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็แบกหลินหว่านชิงต่อ ทั้งสองคนลงจากเขาลงเขาง่ายกว่าปีนเขามากฉินหมิงเดินเร็วราวกับบิน โดยอุ้มหลินหว่านชิงไปที่ตีนเขาและเดินออกไปบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยงามในเวลานี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ออกไปแล้วและมีเพียงไม่กี่คนที่กระจัดกระจายไปตามถนนเดินออกไปข้างนอกทีละคนหนึ่งในนั้นคือคนดังทางอินเตอร์เน็ตซินเอ๋อร์และแฟนหนุ่มของเธอไม่นานพวกเขาทั้งสองก็เจอฉินหมิงและหลินหว่านชิงไม่ไก
ในเวลานี้ ฉินหมิงได้แบกหลินหว่านชิงและเดินออกจากบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยงาม พูดคุยและหัวเราะกัน ทั้งสองคนเดินเข้าไปหาชายหนุ่มสามสิบหรือสี่สิบคนที่ขวางประตูอย่างอุกอาจ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเล็กน้อยและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “บอสครับ หมอนี่แหละครับที่ทำร้ายพวกผม! ”“ต้องเอาคืนให้พวกผมนะครับ!”เมื่อเห็นฉินหมิงปรากฏตัว ชายที่ใส่ต่างหูก็เงยหน้าขึ้น จากนั้นชี้ไปทางของฉินหมิงด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง“พวกงั่ง!”“จับไว้ อย่าให้มันหนีไปได้!”ผู้นำตะคอกอย่างเย็นชา เขาสูดจมูกและโยนก้นบุหรี่ในมือทิ้งไปตามคำสั่งของเขา ชายหนุ่มสามสิบสี่สิบคนดึงอาวุธออกมา เช่น มีดพร้าและไม้ ต่างรุมไปข้างหน้าและล้อมรอบฉินหมิงและหลินหว่านชิงไว้ส่วนทางด้านหลัง แฟนของซินเอ๋อร์ที่กำลังจะเตรียมสั่งสอนฉินหมิง ทันใดนั้นก็เห็นชายสามสิบสี่สิบคนที่มีท่าทางดุร้ายรายล้อมฉินหมิงภาพอันตระการตาเช่นนี้ทำให้เขาหวาดผวา จึงรีบหยุดและถอยหนีออกไปไกล ๆ เกรงว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย“ที่รักมันเกิดเรื่องอะไรกัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?ซินเอ๋อร์ที่วิ่งเหยาะแหยะเข้ามา ถึงกับกับตกใจ“ฉันก็ไม่รู้! ”“บางทีหมอ
แต่น่าเสียดาย กว่าจะคิดได้มันก็สายเกินไปเสียแล้วผู้เป็นหัวหน้าเดินมาอย่างสง่าผ่าเผย มองตรงไปที่ฉินหมิง "นี่พ่อหนุ่ม นายมาจากที่ไหนกัน? กล้าทำร้ายคนของฉันในเขตของฉัน กล้ามากนะ!"ฉืนหมิงวางหลินหว่านชิงลง มองหน้าเขาตรง ๆ ไม่เกรงกลัว “นายเป็นใคร?”“ช่างประสบการ์ณน้อยซะจริง! ”“นี่ ฉันจะบอกแกให้นะ นี่คือพี่เสือดาว หัวหน้าของเขตของเราใกล้กับภูเขาอวิ๋นอู้!ชายใส่ต่างหูพูดอย่างเย่อหยิ่งในเวลานี้ความเคลื่อนไหวที่นี่ได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาแล้ว พวกขี้กลัวบางคนรีบจากไป ในขณะที่ผู้กล้าบางคนยังเฝ้าดูกเหตุการณ์จากระยะไกล ๆ หลังจากฟังที่ชายใส่ต่างหูพูดชื่อเสียงของผู้นำชายคนนั้นเสร็จ ผู้คนที่ดูอยู่ต่างตกใจ เกิดความโกลาหลขึ้นทันที“พี่เป้างั้นเหรอ?เป็นเขานี่เอง!”“มีข่าวลือว่าเฉียนเป้าถือมีดใหญ่อยู่บนถนนเมื่อกว่าสิบปีก่อน เขาฟันศัตรูสิบเจ็ดสิบแปดคนตัวคนเดียวและไล่ตามพวกเขาไปตามถนนสามสาย!”“จากนั้นมาเขาก็มีชื่อเสียงในด้านต่อสู้ และค่อย ๆ เข้าควบคุมกองกำลังใต้ดินในพื้นที่ใกล้ภูเขาอวิ๋นอู้ เขากลายเป็นราชาและมีอำนาจ ผู้คนบนท้องถนนต่างเรียกเขาด้วยความเคารพว่าพี่เป้า!“หมอ
หากฉินหมิงโดนโจมตีหลบไม่ได้สักสองสามครั้ง ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ!อีกอย่างเงินห้าสิบล้านสำหรับเธอก็ถือว่าไม่ได้มากมาย ถ้าเงินนี้ซื้อความปลอดภัยของเธอและเขาได้ เธอก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าแก่การที่จะเสีย“นี่เธอพูดจริงเหรอ?”เฉียนเป้าตกใจมากจนอ้าปากค้างเขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่าหลินหว่านชิงจะตอบรับข้อเสนอของเขา!เงินจำนวนห้าสิบล้านมันไม่ใช่เงินน้อย ๆ เป็นเงินที่ครึ่งชีวิตกว่าเขาจะหามาได้ ใจเขาถึงกับเต้นรัวถ้าหลินหว่านชิงยอมจ่ายค่าหมอห้าสิบล้านล่ะก็ ความคับข้องใจระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ถูกขจัดออกไปแล้ว ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย“พี่เฉียน พี่อย่าฟังเธอพูดนะ!”“ตอนที่เธอกับหมอนั่นมาก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ซอมซ่อมา ไม่ต้องพูดถึงห้าสิบล้าน แค่ห้าแสนก็ไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า! ”ชายใส่ต่างหูหัวเราะอย่างเย็นชา“ให้ตายเถอะ นี่เธอหลอกฉันเหรอ!”เฉียนเป้าโมโหจัด“ฉันไม่ได้หลอกนาย ฉันพูดเรื่องจริง ”“ถ้านายไม่เชื่อล่ะก็ ตอนนี้ฉันเขียนเช็กให้นายก็ได้”หลินหว่านชิงดูสงบและหยิบเช็กออกจากกระเป๋าของเธอ“เช็กจะมีประโยชน์อะไร ใครจะไปรู้ที่เธอออกมามันจะไม่ใช่เช็กเปล่า!”“ฉันต้องการเงินส
“ขอแค่ให้นายออกไปจากตรงนี้ก่อน จากนั้นก็รีบติดต่อพวกเขาซะ ถึงตอนนั้นพวกเขาลงมือฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ… ”นับตั้งแต่หลินหว่านชิงถูกพวกอันธพาลลักพาตัวครั้งที่แล้ว นายท่านหลินก็ได้ส่งกำลังคนพิเศษเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเธออย่างลับ ๆ แต่ว่าโดยปกติแล้วเธอไม่ค่อยอยากให้ใครมารบกวนชีวิตเธอ กำลังคนพิเศษเลยอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เธอจนมากเกินไปสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้กะทันหันมากจนเธอสามารถคาดเดาได้โดยไม่ต้องคิดว่ากำลังคนพิเศษที่รับผิดชอบในการปกป้องเธออาจอยู่ไกลเกินไปและไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติในทันทีขอแค่ฉินหมิงหลบหนีและรีบไปรายงานข่าว ปัญหาทั้งหมดก็สามารถแก้ไขได้!“หว่านชิง ผมไม่สนว่ามันจะเป็นแผนการชั่วคราวหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมรู้คือผมไม่มีทางปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายคนเดียวได้ แม้แต่เฉียดอันตรายก็ไม่ได้! ”ฉินหมิงกล่าวอย่างหนักแน่นในความเป็นจริง เขายังเข้าใจด้วยว่าวิธีการของหลินหว่านชิงนั้นปลอดภัยกว่า แต่การทิ้งหลินหว่านชิงไว้ตามลำพังที่นี่นั้นอันตรายเกินไป และเขาก็ทำไม่ได้!“นี่นาย…อยากให้ฉันโกรธนายหรือไง…”หลินหว่านชิงโกรธมากจนเธอต้องการเปิดกระโหลกของเขา เพื่อดูว่าในหัวสมองเข
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ