กระดูกทั่วร่างกายดูเหมือนจะแตกสลายและมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซี่โครงที่หน้าอกหักอย่างน้อยห้าหรือหกซี่นี่ถือว่าโชคดีที่ฉินหมิงไม่เอาถึงตาย ไม่อย่างนั้นกลัวว่าพวกเขาทั้งสี่คนคงไม่มีชีวิตรอดแน่!“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…”พอได้เห็นฉากนี้ หลินหว่านชิงถึงกับตกตะลึง เธอขยี้ตาอย่างแรงไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงเดิมทีเธอคิดว่าครั้งนี้ตัวเองและฉินหมิงจะต้องตายแน่นอน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าฉินหมิงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็เอาชนะพวกอันธพาลที่มีอาวุธทั้งสี่คนได้!นี่มันทำให้เธอตกใจมาก!ในที่สุดเธอก็ได้เข้าใจ เมื่อกี้ฉินหมิงไม่ได้ขี้โม้ เป็นเธอที่ดูถูกพละกำลังของเขา!“ฉินหมิง นาย…นายยอดเยี่ยมสุด ๆ เลย!”“วิชาต่อสู้ของนายเปลี่ยนไปดีเยี่ยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร! ”หลินหว่านชิงตกใจมาก เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ อีกครั้ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในเวลาเดียวกันในใจเธอก็สงสัยเป็นอย่างมาก ในเมื่อทักษะของฉินหมิงดีขนาดนี้ ตอนแรกเขาเกือบตายด้วยน้ำมือของโจรลักพาตัวสองคน อีกทั้งยังถูกบอดี้การ์ดทั้งสองของซุนกวนฉงเล่นงานอีกนี่มันแปลกเกินไปแล้ว!“ที่จริงผมก็เก่งมาตลอดอยู่แล้วนะครับ…”
เมื่อเห็นท่าทีที่นิ่งเฉยของฉินหมิง ชายใส่ต่างหูทั้งสี่คนก็หมดหวังทันที พวกเขามองไปที่หลินหว่านชิงที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นพวกเขาหมอบและคลานไปข้างหน้าหลินหว่านชิงฉินหมิงตกใจ เขาเป็นกังวลว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำร้ายหลินหว่านชิง เขารีบปกป้องหลินหว่านชิงที่อยู่ข้างหลัง เขามองชายสี่คนที่ใส่ต่างหูเย็นชายิ่งขึ้น!“คุณผู้หญิงครับไว้ชีวิตด้วยเถอะ เมื่อกี้พวกผมทำไม่ดีกับคุณไว้ พวกผมขอโทษจริง ๆ …”“ได้โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถอะครับ ปล่อยพวกเราให้มีชีวิตเถอะนะครับ… ”ชายใส่ต่างหูทั้งสี่คนรีบอ้อนวอนขอชีวิตกับหลินหว่านชิงหลินหว่านชิงก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนร้ายก็ตาม แต่เธอยังคงรู้สึกเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย“ฉินหมิงช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ครั้งนี้นายก็ไว้ชีวิตพวกเขาละกันนะ”หลินหว่านชิงพูดโน้มน้าว“หว่านชิง เราจะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ!“”คนพวกนี้มันเป็นขยะสังคม ถ้าครั้งนี้เราปล่อยพวกเขาไป ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ทำสิ่งเลวร้ายอีกต่อไปในอนาคต! ”“พอถึงตอนนั้นมันจะไม่ใช่ว่าพวกเราช่วยพวกเขาทำร้ายคนอื่นเหรอ!”ฉินหมิงกล่าวหนักแน่นจริง ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้
เพราะความกังวลสับสน เมื่อกี้เขากังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของหลินหว่านชิงมากเกินไป จนลืมวิชาทักษะการแพทย์ของตัวเองไปเสียสนิทหลังจากนั้นฉินหมิงมองไปรอบ ๆ สองสามครั้งและเห็นหินขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ไม่ไกล เขาประคองหลินหว่านชิงไปนั่งที่หินนั้น“หว่านชิง คุณถอดรองเท้าก่อน เดี๋ยวผมจะดูอาการให้คุณ ”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านชิงพยักหน้า เธอถอดรองเท้าบูทหนังเล็ก ๆ ออก เผยให้เห็นเท้าขาวและนุ่มนวลที่ห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีเนื้อมันช่างงามเหลือเกิน!ใจฉินหมิงเต้นตึกตัก มองจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้วเท้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงนั้นเรียวเล็กและเต็มไปด้วยความงาม นิ้วเท้าทั้งห้าที่พันด้วยถุงน่องนั้นดูขี้เล่นและน่าดึงดูดซึ่งสมบูรณ์แบบฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนในหัวใจและแรงกระตุ้นที่อธิบายไม่ได้ เขาต้องการจับเท้าราวหยกอันละเอียดอ่อนนี้ไว้ในมือแล้วเล่นกับมัน“ฉินหมิง นายจะตรวจให้ฉันไม่ใช่หรือไง?”“แล้วนายตะลึงอะไรกัน!”หลินหว่านชิงถามอย่างสงสัย“อ้อ ผมก็กำลังตรวจให้คุณอยู่นี่ไง…”ฉินหมิงกลับมามีสติอีกครั้ง ใบหน้ายิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย จากนั้นเขาก
“หว่านชิง ตอนนี้คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหมครับ? ”ฉินหมิงถามด้วยความเป็นห่วงหลินหว่านชิงขยับเท้า แววตาประหลาดใจบนใบหน้าสวยของเธอ “เหมือนว่า…ไม่ปวดแล้วนะ”“งั้นก็ดีแล้วครับ ”“ข้อต่อถูกจัดให้ดีแล้ว คุณพักผ่อนไม่กี่วันก็หายจากอาการบาดเจ็บแล้วล่ะครับ”ฉินหมิงกล่าว“ยังต้องพักผ่อนอีกหลายวันเชียวเหรอ!”“ทำไมล่ะ หรือว่าเท้าของฉันยังรักษาไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์เหรอ? ” หลินหว่านชิงสวมรองเท้าไปก็สงสัยไป“รักษาเรียบร้อยแล้วครับ เพียงแต่คุณไม่สามารถรับน้ำหนักมากเกินไปได้ในระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกด ”“อย่างน้อยภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ คุณอย่าเดินไปไหนจะดีที่สุด…”ฉินหมิงกล่าวอธิบายอย่างง่าย ๆ “หา?”“อย่างนั้นฉันจะลงเขาอย่างไรล่ะ? ” หลินหว่านชิงถึงกับตกใจ ไม่มีทางที่เธอจะอยู่บนภูเขาได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกใช่ไหม?นี่มันไม่จริงใช่ไหมเนี่ย“ง่ายมาก ผมก็แค่แบกคุณลงจากเขา”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างเบาสบาย แต่ในใจกลับกระโดดโลดเต้น ถึงกระทั่งขอบคุณสวรรค์ที่มอบโอกาสดี ๆ อย่างนี้ให้กับเขา“แต่ว่า…”ใบหน้าสวยของหลินหว่านชิงเป
เขาไม่อยากให้หลินหว่านชิงตกอยู่ในอันตราย แต่ใจก็ทนเห็นหลินหว่านชิงผิดหวังไม่ได้“ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็มาแล้ว อย่ายอมแพ้กลางคันอย่างนี้สิครับ!”“ไปครับ! วันนี้ผมต้องพาคุณไปดูทิวทัศน์ที่ยอดเขาให้ได้!”ฉินหมิงกัดฟัด ไม่นานก็ได้ตัดใจออกมาการฝึกฝนของเขาได้มาถึงขั้นกลางของการบ่มเพาะพลังชี่ ทั้งความแข็งแกร่งและความว่องไวของเขานั้นดีกว่าคนทั่วไปมากอีกทั้งภูเขาอวิ๋นไม่ใช่ยอดเขาอันตรายที่มีหน้าผาสูงชัน ขอแค่เขาระมัดระวัง ก็ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย“แต่ว่า…”หลินหว่านชิงยังคงกังวลอยู่“วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ผมไม่มีทางให้คุณเจอเรื่องอันตรายแน่นอน!”ฉินหมิงพูดอย่างแน่วแน่ เสียงที่หนักแน่นและทรงพลังของเขาทำให้หลินหว่านชิงรู้สึกปลอดภัยอย่างอธิบายไม่ได้“อืม ฉันเชื่อนาย ”หลินหว่านชิงพยักหน้าอย่างเชื่องช้าหลังจากนั้น ฉินหมิงวางหลินหว่านชิงลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาราวกับเจ้าหญิงด้วยวิธีนี้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายจึงสามารถเอียงไปข้างหน้าได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปีนเขาและปัญหาด้านความปลอดภัยในภายหลังอีกทางด้านหนึ่งเนื่องจากไม่มีบันได ทางข้างหน้ายิ่งเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ลำบากมากยิ่งข
หลังจากนั้น ทั้งสองเดินไปรอบ ๆ บนยอดเขาและหาพื้นที่สะอาด ๆ นั่งลงผ่านไปไม่นานดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ตกทางทิศตะวันตก เมฆและหมอกก็เปรียบเสมือนยอดเขาและภูเขา แสงสีทองส่องผ่านเมฆและหมอกและตกลงมาสู่โลกภายใต้แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลังตก เมฆและหมอกยังคงส่องแสงหลากสีสัน ท้องฟ้าอันหลากหลายและคาดเดาไม่ได้เต็มไปด้วยลำแสงที่ส่องสว่างไปครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งสองคนก็ได้ตื่นจากอาการเคลิบเคลิ้ม“ฉินหมิง มืดแล้วพวกเรากลับกันเถอะ”หลินหว่านชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มแม้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องไม่ดีสักเท่าไร แต่เมื่อมีฉินหมิงอยู่ด้วยเธอมีช่วงเวลาที่ดี และเธอก็รู้สึกพึงพอใจอย่างสุดจะพรรณนาฉินหมิงพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็แบกหลินหว่านชิงต่อ ทั้งสองคนลงจากเขาลงเขาง่ายกว่าปีนเขามากฉินหมิงเดินเร็วราวกับบิน โดยอุ้มหลินหว่านชิงไปที่ตีนเขาและเดินออกไปบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยงามในเวลานี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ออกไปแล้วและมีเพียงไม่กี่คนที่กระจัดกระจายไปตามถนนเดินออกไปข้างนอกทีละคนหนึ่งในนั้นคือคนดังทางอินเตอร์เน็ตซินเอ๋อร์และแฟนหนุ่มของเธอไม่นานพวกเขาทั้งสองก็เจอฉินหมิงและหลินหว่านชิงไม่ไก
ในเวลานี้ ฉินหมิงได้แบกหลินหว่านชิงและเดินออกจากบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยงาม พูดคุยและหัวเราะกัน ทั้งสองคนเดินเข้าไปหาชายหนุ่มสามสิบหรือสี่สิบคนที่ขวางประตูอย่างอุกอาจ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเล็กน้อยและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “บอสครับ หมอนี่แหละครับที่ทำร้ายพวกผม! ”“ต้องเอาคืนให้พวกผมนะครับ!”เมื่อเห็นฉินหมิงปรากฏตัว ชายที่ใส่ต่างหูก็เงยหน้าขึ้น จากนั้นชี้ไปทางของฉินหมิงด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง“พวกงั่ง!”“จับไว้ อย่าให้มันหนีไปได้!”ผู้นำตะคอกอย่างเย็นชา เขาสูดจมูกและโยนก้นบุหรี่ในมือทิ้งไปตามคำสั่งของเขา ชายหนุ่มสามสิบสี่สิบคนดึงอาวุธออกมา เช่น มีดพร้าและไม้ ต่างรุมไปข้างหน้าและล้อมรอบฉินหมิงและหลินหว่านชิงไว้ส่วนทางด้านหลัง แฟนของซินเอ๋อร์ที่กำลังจะเตรียมสั่งสอนฉินหมิง ทันใดนั้นก็เห็นชายสามสิบสี่สิบคนที่มีท่าทางดุร้ายรายล้อมฉินหมิงภาพอันตระการตาเช่นนี้ทำให้เขาหวาดผวา จึงรีบหยุดและถอยหนีออกไปไกล ๆ เกรงว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย“ที่รักมันเกิดเรื่องอะไรกัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?ซินเอ๋อร์ที่วิ่งเหยาะแหยะเข้ามา ถึงกับกับตกใจ“ฉันก็ไม่รู้! ”“บางทีหมอ
แต่น่าเสียดาย กว่าจะคิดได้มันก็สายเกินไปเสียแล้วผู้เป็นหัวหน้าเดินมาอย่างสง่าผ่าเผย มองตรงไปที่ฉินหมิง "นี่พ่อหนุ่ม นายมาจากที่ไหนกัน? กล้าทำร้ายคนของฉันในเขตของฉัน กล้ามากนะ!"ฉืนหมิงวางหลินหว่านชิงลง มองหน้าเขาตรง ๆ ไม่เกรงกลัว “นายเป็นใคร?”“ช่างประสบการ์ณน้อยซะจริง! ”“นี่ ฉันจะบอกแกให้นะ นี่คือพี่เสือดาว หัวหน้าของเขตของเราใกล้กับภูเขาอวิ๋นอู้!ชายใส่ต่างหูพูดอย่างเย่อหยิ่งในเวลานี้ความเคลื่อนไหวที่นี่ได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาแล้ว พวกขี้กลัวบางคนรีบจากไป ในขณะที่ผู้กล้าบางคนยังเฝ้าดูกเหตุการณ์จากระยะไกล ๆ หลังจากฟังที่ชายใส่ต่างหูพูดชื่อเสียงของผู้นำชายคนนั้นเสร็จ ผู้คนที่ดูอยู่ต่างตกใจ เกิดความโกลาหลขึ้นทันที“พี่เป้างั้นเหรอ?เป็นเขานี่เอง!”“มีข่าวลือว่าเฉียนเป้าถือมีดใหญ่อยู่บนถนนเมื่อกว่าสิบปีก่อน เขาฟันศัตรูสิบเจ็ดสิบแปดคนตัวคนเดียวและไล่ตามพวกเขาไปตามถนนสามสาย!”“จากนั้นมาเขาก็มีชื่อเสียงในด้านต่อสู้ และค่อย ๆ เข้าควบคุมกองกำลังใต้ดินในพื้นที่ใกล้ภูเขาอวิ๋นอู้ เขากลายเป็นราชาและมีอำนาจ ผู้คนบนท้องถนนต่างเรียกเขาด้วยความเคารพว่าพี่เป้า!“หมอ